เที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน สัมผัสความสมบูรณ์ของธรรมชาติ

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า เขาใหญ่คือ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก มีเนื้อที่ประมาณ 2,168.75 ตารางกิโลเมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2548 จาก UNESCO ภายใต้ชื่อ “พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่” และยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยม Thailand Tourism Gold Awards ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย มากไปกว่านั้นที่นี่ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์ พันธุ์พืชที่หายากหรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตรายใกล้สูญพันธุ์ แต่ยังคงสามารถดํารงชีวิตอยู่ได้รวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืช และสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจอีกด้วย

วันนี้บัดดี้จะพามาทัวร์จุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กัน

บัดดี้เริ่มต้นจุดแรกกันที่น้ำตกเหวนรก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตจังหวัดนครนายก มีความสูงอยู่ที่ 150 เมตร ใช้ระยะเวลาการเดินไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางบัดดี้แนะนำให้พกน้ำ และยาดมไปด้วย

น้ำตกเหวนรกจะสวยมากในช่วงฤดูฝน เพราะมีน้ำเยอะ แต่อย่างไรก็ตาม ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยความอันตราย เพราะกระแสน้ำที่แรงจึงทำให้ช้างป่าหลายตัวพลัดตกลงไปขณะที่กำลังข้ามลำธารในชั้นบนของน้ำตก จึงทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น “สุสานของช้างป่า”

เพื่อความปลอดภัยบัดดี้ไม่แนะนำให้นำอาหารเข้าไปรับประทาน เพราะระหว่างทางเพื่อน ๆ อาจจะเจอลิงเข้ามาแย่งอาหารได้ และบริเวณน้ำตกเหวนรกไม่มีจุดทิ้งขยะ ทางอุทยานจึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวนำขยะกลับบ้าน หรือนำลงไปทิ้งข้างล่าง

เมื่อชมบรรยากาศของน้ำตกเหวนรกเสร็จแล้ว บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปต่อกันที่ ผาเดียวดาย ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของธรรมชาติได้อย่างกว้างขวาง ใช้เวลาเดินจากที่จอดรถไปยังหน้าผา ประมาณ 5 นาที หากโชคดี เราก็จะได้เจอนกต่าง ๆ อย่างเช่นวันที่บัดดี้ไป บัดดี้ได้เจอกับ ไก่ฟ้าหลังขาวมาเดินอวดโฉมให้ได้ชมอีกด้วย

มาต่อกันที่ ผาตรอมใจ ห่างจากผาเดียวดายประมาณ 600 เมตร ผาตรอมใจเป็นจุดสูงสุดของภาคกลาง บัดดี้แนะนำ หากเพื่อน ๆ มีเวลา อย่าลืมอุดหนุนข้าวไข่เจียวจากทางพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อุทยาน สามารถนั่งรับประทานพร้อมชมวิวที่น่าหลงใหลกับสายลมที่อ่อนโยนได้

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ภายในตัวอาคารเป็นศูนย์การเรียนรู้ เช่น ความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สัตว์ป่า พืชพันธุ์นานาชนิดที่สามารถเจอได้ภายในอุทยาน จะมีร้านกาแฟอยู่ทางด้านหลัง ติดกับลำธาร บรรยากาศร่มรื่นและสงบ

ช่วงบ่าย บัดดี้ได้ตัดสินใจเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติเส้นทางที่ 3 (กม.ที่ 33 – จุดส่องสัตว์หนองผักชี)

ซึ่งเส้นทางศึกษาธรรมชาติอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีทั้งหมด 7 เส้นทาง ได้แก่
📌 เส้นทางที่ 1: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-น้ำตกกรองแก้ว
📌 เส้นทางที่ 2: น้ำตกผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต (160 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-เยอรมัน)
📌 เส้นทางที่ 3: กม. 33 – หนองผักชี (90 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-สวิตเซอร์แลนด์)
📌 เส้นทางที่ 4: ดงติ้ว – อ่างเก็บน้ำสายศร
📌 เส้นทางที่ 5: ดงติ้ว – หนองผักชี
📌 เส้นทางที่: 6 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว – น้ำตกเหวสุวัต ( ใช้เวลาเดิน 6 ชั่วโมง ต้องเริ่มเดินก่อน 10.00 น.)
📌 เส้นทางที่ 7: 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา

หากเพื่อน ๆ สนใจที่จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติเส้นทางที่ 3-4-5-6 ซึ่งเป็นเส้นทางที่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทาง สามารถ walk in ติดต่อเจ้าหน้าที่ ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีค่าใช้จ่าย 500 บาท/กลุ่ม

หมายเหตุ: เส้นทางที่ 1-5 และ 7 สามารถเริ่มเดินได้ตั้งแต่ 08.00-14.00 น.
เส้นทางที่ 6 จำเป็นต้องเริ่มเดินก่อน 10.00 น. และต้องเตรียมอาหารไปเผื่อด้วย เพราะใช้เวลาเดินถึง 6 ชั่วโมง

ระหว่างการเดินสำรวจป่าเส้นทางที่ 3 เจ้าหน้าที่อุทยานแนะนำสิ่งต่าง ๆ ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นของเส้นทางนี้และข้อควรปฏิบัติในขณะเดินป่า แม้กระทั่งการสังเกตที่อยู่อาศัยของสัตว์ เช่น หากเราเจอโพรงไม้ หรือรู อาจจะเป็นที่อยู่ของสัคว์มีพิษ เช่น แมงป่อง งู ได้ และเส้นทางนี้เป็นเส้นทางการหากินของช้างและกระทิง

ในระหว่างเดิน จะมีแนวเขตกั้น ไม่ให้เราเดินออกนอกเส้นทาง เพราะหากเราเดินออกจากเส้นทาง เราจะรบกวนสัตว์ป่าที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เช่น นกเงือก ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

และนี่เป็นอีก 1 จุดที่ยอดฮิต เพราะนักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกับต้นไทรอายุมาก ที่มีรากไม้ที่สวยงามตามธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการตกแต่งใด ๆ จากมนุษย์ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลมาว่า ต้นไทรต้นนี้มีความใหญ่อยู่ที่ประมาณ 40 คนโอบเลยทีเดียว

วันที่บัดดี้ไป บัดดี้ได้เจอรอยเท้าของสัตว์ป่าด้วย เพื่อน ๆ ทายกันได้ไหมเอ่ย ว่านี่คือรอยของสัตว์ชนิดใด เฉลย รอยเท้าของกระทิง นั่นเอง และนี่เป็นหลักฐานว่าเส้นทางนี้มีกระทิงผ่านมาจริง ๆ

และเมื่อเดินไปเรื่อย ๆ เราจะเจอกับโป่ง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ ตรงจุดหนองผักชี มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาตลอดเส้นทาง เช่น ไทร หว้า ที่ดึงดูดนกและสัตว์ป่านานาชนิดเข้ามากินลูกไม้ จนได้รับสมญานามว่า “ภัตตาคารของสัตว์ป่า” และมีต้นกะเพรายักษ์เป็นไม้ที่มีเฉพาะป่าดงพญาเย็นเท่านั้น

จุดชมวิวกม.ที่ 30 แลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่า เขาใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2548 และจุดชมวิวกม.ที่ 30 มีร้านกาแฟให้พักผ่อนเพื่อเก็บบรรยากาศของป่าอีกด้วย

เมื่อบัดดี้เดินสำรวจธรรมชาติเสร็จ บัดดี้ก็มารอชมพระอาทิตย์ตกกันที่่ อ่างเก็บน้ำสายศร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมากนัก ยามเย็นที่อ่างเก็บน้ำสายศร ผู้คนมากมายมักจะชอบมานั่งชิล ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นกันที่นี่

ละเราก็ได้เดินทางมาถึงกิจกรรมสุดท้ายที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือ การส่องสัตว์ป่าในยามค่ำคืน บัดดี้ได้เจอกับ กวาง จิ้งจอก และ เม่นใหญ่ หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถ walk in เพื่อจองรถส่องสัตว์ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 600 บาท / คัน / 10 คน

จากนั้นเราลงมาเข้าที่พักนอกเขตอุทยานฯ เนื่องจากที่พักเต็ม น่าเสียดายมาก ๆ หากใครต้องการพักบนอุทยานฯ ควรจองเนิ่น ๆ นะคะ

Day 2 แสงแดดยามเช้า พร้อมกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงาม ณ เขาใหญ่

The Birder’s Lodge แหล่งรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากชาวบ้าน เช่น ผัก ผลไม้ เครื่องดื่มรวมไปถึงเครื่องหอม ด้านหน้ามีคาเฟและร้านไอศกรีมโฮมเมด

ร้านไทรสุก ร้านไอศกรีมโฮมเมดที่มีแรงบันดาลใจมาจากสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่พบเจอในเขาใหญ่ เรียกว่าเป็นงานอาร์ตที่สวยงามเลยทีเดียว ด้านในคาเฟมีแกลเลอรีรูปสัตว์ป่าที่สวยงาม และมีกิจกรรม workshop ศึกษาชีวิตสัตว์ป่าให้ร่วมสนุก ที่สำคัญร้านไทรสุกยังเป็น Pet friendly อีกด้วย มีไอศกรีมนมแพะสำหรับน้อง ๆ ด้วยล่ะ

ต่อมาบัดดี้พาไปแวะกันต่อที่น้ำผุดธรรมชาติบ้านท่าช้าง บรรยากาศสงบ เย็นสบาย ร่มรื่น พร้อมน้ำเย็น ๆ สีฟ้าใส ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคด้วย ชั่วโมงละ 170 บาท

ต่อมาเราแวะทานข้าวกันที่ ครัวกำปั่น ร้านอาหารรสเด็ด ราคาย่อมเยาว์ ได้รับ Michalin Guide ถึง 2 ปีซ้อน (2023-2024)

ไปกันต่อที่ พุทธอุทยานอาณาจักรหลวงพ่อทวด สักการะหลวงพ่อทวดเขาใหญ่ องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสริมความสิริมงคล นอกจากนี้พุทธอุทยานหลวงพ่อทวดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชา ถึง 9 จุด และสามารถถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้ นั่งจิบกาแฟกันได้ที่สวนสันป่ายะ

ก่อนบัดดี้จะกลับกรุงเทพ บัดดี้ได้แวะที่ Bucolic เป็นคาเฟที่สวย สงบ สามารถมองทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีโซนสวนสัตว์เล็ก ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้เล่นและใกล้ชิดกับน้องสัตว์ต่าง ๆ ด้วย เช่น กระต่าย แกะ ไก่ เป็ด เต่า เพลินแกนและฟลามิงโก้ เป็นต้น

Scroll to Top