เพื่อนร่วมทาง

9 เส้นทางเดินป่า ใกล้ชิดธรรมชาติ

หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง หาที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติสักหน่อยไหม วันนี้บัดดี้มีเส้นทางเดินป่าสุดปังมาแนะนำถึง 9 เส้นทาง รับรองว่าสายรักธรรมชาติต้องถูกใจแน่นอน! 1. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park จังหวัดกาญจนบุรีผจญภัยไปในถ้ำลึกลับแบบครบรส ได้เดินป่า ปีนป่าย ล่องแก่ง สัมผัสความงดงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์ โดยเฉพาะถ้ำเสาหินและถ้ำนกนางแอ่น👉🏻 ลงทะเบียน 3-7 กุมภาพันธ์ 2568 ในระบบของอุทยานฯ👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนมีนาคม-เมษายน📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/VjZcW6oJu2tDDFk46 2. ถ้ำน้ำบ่อผี จังหวัดแม่ฮ่องสอนสัมผัสประสบการณ์ที่ท้าทายความกล้า ด้วยการโรยตัวลงไปในหลุมยุบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลึก 185 เมตร👉🏻 จองผ่านผู้ประกอบการชุมชน👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์– คุณจันทรา (มินนี่) ผู้นำชุมชนด้านการท่องเที่ยวของหมู่บ้านลุกข้าวหลาม โทร. 09 7929 1372– คุณพนา นามดีเจริญทรัพย์ (จ่ายี) โทร. 08-2582-9338📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/KnCnx3EcqZnfwQM27 3. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park จังหวัดเลยหนึ่งในขุนเขาที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย ด้วยเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินป่าทั้งมือใหม่และมืออาชีพ👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนตุลาคม-พฤษภาคม📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/ocmRSWG4GzmebFDAA 4. อุทยานแห่งชาติดอยหลวง Doi-Luang National Park จังหวัดพะเยาเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก เป็นเส้นทางที่ท้าทายและวิวทิวทัศน์อันตระการตา ทำให้การเดินป่าดอยหนอกเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย แต่เป็นการพิชิตใจตัวเอง👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/z91Z7VotBXBiViQL8 5. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ราชินีแห่งขุนเขาในภาคเหนือ ด้วยความสูงตระหง่านและความหลากหลายของระบบนิเวศ ทำให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลสากล ที่นี่เป็นเป้าหมายของนักเดินป่าทั่วประเทศ การพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวจึงเปรียบเสมือนการเดินทางสู่สวรรค์บนดิน👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ กรอกคำขออนุญาตเข้าไปเพื่อการศึกษาธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/vWYpjfYS5B6Quio8A 6. อุทยานแห่งชาติเขาหลวง – Khao Luang National Park จังหวัดนครศรีธรรมราชยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย การเดินป่าเขาหลวงจึงเปรียบเสมือนการพิชิตขีดจำกัดของตัวเอง และสัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนมกราคม-กันยายน📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/xtFVHffSvrm31Q1a8 7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park จังหวัดนครราชสีมาดินแดนแห่งความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เส้นทางเดินป่าหลายระดับความยากง่าย👉🏻 จองผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง ตลอดปี (บางเส้นทาง)📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/1KzUSARKdvKsRvUS9 8. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล – Doi Khun Tan National Park จังหวัดลำปางการเดินป่าที่นี่เปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่โลกแห่งความเงียบสงบและความสวยงามของธรรมชาติ👉🏻 จองสิทธิ์ผ่านอุทยานฯ👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง เดือนพฤษภาคม-กุมภาพันธ์📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/5qSouAHwoH5CMFDk8 9. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า-Phu Chi Fa National Park จังหวัดเชียงรายชมทะเลหมอกยามเช้าพร้อมวิว 360 องศา บนยอดภูชี้ฟ้า โดดเด่นด้ววธรรมชาติที่สวยงาม ถือว่าเป็นสวรรค์ของช่างภาพเลยทีเดียว👉🏻 ไม่ต้องจองสิทธิ์👉🏻 ช่วงเวลาเดินทาง ตลอดปี📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/eFcwTrVTthVdVxpa7

9 เส้นทางเดินป่า ใกล้ชิดธรรมชาติ อ่านเพิ่มเติม

เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน แนะนำเส้นทางขับรถท่องเที่ยวเดินทางได้เอง

บัดดี้แชร์ไอเดียเที่ยว “เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน” อยากหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนที่เชียงใหม่ เราจะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์เมืองเหนือแบบจัดเต็ม ทั้งวัดวาอารามเก่าแก่ ธรรมชาติสวย ๆ และอาหารอร่อย ๆ คอนเฟิร์มว่าคุ้มค่าแน่นอน! Day 1– อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย– วัดผาลาด (สกิทาคามี)– วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร– ข้าวซอยลุงประกิจกาดก้อม (Michelin Guide)– วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน (วัดบ้านเด่น)– ไร่ชาลุงเดช– ชุมชนบ้านเหล่าพัฒนา Day 2– จุดชมวิวยอดดอยม่อนเงาะ– กาดชุมชนท่องเที่ยวห้วยน้ำเย็น– สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (Thailand Tourism Awards)– สวนสนแม่แตง (สวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ)– พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ (Thailand Tourism Awards)– อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร (Thailand Tourism Awards) Day 3– พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์– หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่– พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา– เอกฉันท์ (Michelin Guide)– วัดเจดีย์หลวง– วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน แนะนำเส้นทางขับรถท่องเที่ยวเดินทางได้เอง อ่านเพิ่มเติม

ชมดอย ปั้นดิน มองเมืองโบราณ @ เชียงราย

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยว ณ ดินแดนเหนือสุดในสยาม นครหลวงก่อนการกำเนิดอาณาจักรล้านนา มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งด้านศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ บัดดี้ขอเริ่มต้นทริปนี้ด้วยจุดชมวิวสวยบริเวณชายแดน ที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาของเทือกเขาฝั่งเมียนมาสีเขียวหลายเฉดสลับซ้อนกัน พร้อมก้อนเมฆและท้องฟ้าที่มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ความพิเศษของจุดชมวิวนี้ คือการตั้งอยู่ในบริเวณฐานปฏิบัติการทางทหาร หน่วยกองกำลังป้องกันแนวชายแดน ซึ่งตั้งอยู่บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา มีอากาศเย็นสบายแทบทั้งปี ที่สำคัญมีร้านกาแฟให้บริการนักท่องเที่ยวสำหรับคนที่ต้องการนั่งพักหรือปล่อยอารมณ์ให้ลอยไปกับสายลมและวิวธรรมชาติเบื้องหน้า ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/HUeMYRLc5YLasyUT9 หมู่บ้านผาฮี้ หลังจากชมวิวเสร็จ บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ขับรถประมาณ 2.5 กิโลเมตร มาที่หมู่บ้านผาฮี้ เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว ตอนขับต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ในอดีต ที่นี่เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยมาก่อน จนในปี พ.ศ. 2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น ทำให้ปัจจุบันหมู่บ้านผาฮี้กลายเป็นแหล่งปลูกและผลิตกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันหมู่บ้านผาฮี้มีการขยายตัวของหมู่บ้านออกไปอย่างมาก อย่างประตูผีแห่งนี้ที่เคยอยู่หน้าหมู่บ้าน ปัจจุบันกลับกลายเป็นตั้งอยู่กลางหมู่บ้านจากความเจริญที่งอกเงยมากขึ้น แต่ประเพณี ความเชื่อและวิถีชีวิตก็ยังคงอยู่จากการร่วมกันรักษาไว้ของคนทุกวัยในหมู่บ้าน หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมที่จะลองดื่มกาแฟหอม ๆ สักแก้ว หากถูกใจอย่าลืมซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือเป็นของขวัญให้ผู้ที่หลงใหลในเมล็ดคาเฟอีนคั่วดู รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายhttps://maps.app.goo.gl/VwyJb3Cm8JCut2ka6 บ้านดอยดินแดง นอกจากเชียงรายจะเป็นแหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อของประเทศไทยแล้ว เชียงรายยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานศิลปะ หนึ่งในแขนงงานศิลปะที่สวยงามและสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาชมวันนี้คือ “บ้านดอยดินแดง” บ้าน สตูดิโอและโรงงาน ของศิลปินนักปั้นดินมือเก๋า อ.สมลักษณ์ ปันติบุญ ผู้ผสานการปั้นดินในท้องที่เข้ากับศิลปะวิถีเซนของญี่ปุ่น ภายในบ้านดอยดินแดง มีเครื่องปั้นดินเผาให้ดูหลายสีหลายแบบ เพื่อน ๆ สามารถเดินชมความสวยงามที่กลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้างได้อย่างเพลินตาเพลินใจ ทั้งในและนอกตัวอาคาร หลายชิ้นที่บัดดี้สังเกตเห็นรอยตำหนิที่ช่วยทำให้ชิ้นงานสวยงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัวจนทำให้หยุดมองได้ยาก รู้ตัวอีกทีก็ใช้เวลาในการมองไปหลายนาทีแล้ว หากเพื่อน ๆ สนใจในงานเซรามิก เครื่องปั้นดินเผา ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยล่ะ เพราะมีทั้งชิ้นงานสวย ๆ ให้ดู มีสินค้าอย่างจาน ชามที่สามารถใช้งานได้จริงและยังเป็นของตกแต่งบ้านไปในตัวได้ด้วย แต่หากเพื่อน ๆ อยากทำเวิร์คชอป ต้องโทรติดต่อล่วงหน้า เพราะไม่ได้มีให้ทำทุกช่วง 49 หมู่ 6 บ้านป่าอ้อ ถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงรายเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)https://maps.app.goo.gl/J1j6cci2Pb5ipSLDA วัดพระธาตุผาเงา สถานที่ต่อไปคือวัดเก่าแก่และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มาอย่างยาวนาน โดยชื่อ “พระธาตุผาเงา” มาจากเงาของหินก้อนใหญ่ทรงคล้ายเจดีย์ เวลาพระอาทิตย์ส่องผ่านก้อนหินทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่นั่นเอง ภายในวัด มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และโบราณวัตถุ ที่มีการค้นพบมากมาย แถมปัจจุบันยังมีการสร้างสกายวอล์คที่เกิดจากความร่วมมือของทางวัด บริษัทเอกชน และชุมชน ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทย สปป.ลาว ประเทศเมียนมา และสามเหลี่ยมทองคำ โดยไม่มีอะไรมาบังอีกด้วย สำหรับขึ้นชมสกายวอล์ค เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถรับส่งของทางวัดได้ โดยมีค่าบริการคนละ 30 บาท หรือเพื่อน ๆ สามารถเลือกเส้นทางเดินเท้า ขึ้นทางบันไดนาค ข้างวิหารหลวงพ่อผาเงาได้ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ระยะทางประมาณ 600-700 เมตร โดยเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา หากเพื่อน ๆ ต้องการเข้าไปเดินบนสกายวอล์ค ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 40 บาท และสวมถุงเท้าที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้เพื่อรักษาสภาพของกระจกทางเดิน โดยจะจำกัดจำนวนคนให้เข้าไปได้ครั้งละไม่เกิน 100 คน สามารถเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 07.30-18.00 น. – เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. และผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป (แสดงบัตรประชาชน) เข้าชมฟรี– พระภิกษุสามเณร เข้าชมฟรี– ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปบนสกายวอล์ค สามารถนำฝากไว้ด้านนอกได้– ไม่อนุญาตให้นำวิลล์แชร์เข้าไปบนสกายวอล์ค เพราะล้อเหล็กของวิลล์แชร์อาจจะทำให้กระจกเสียหายแต่สามารถมาชมบริเวณรอบ ๆ ด้านนอกได้ 391 หมู่ที่ 5 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงรายเปิดทุกวันเวลา 06.00-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/63A6TMUuSFhHr1UR9 เมืองโบราณเชียงแสน สถานที่สุดท้ายสำหรับเส้นทางท่องเที่ยวนี้คือ เมืองโบราณเชียงแสน สถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของเวียงหิรัญนครเงินยาง ศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาในยุคแรก ๆ มีกำแพงเมืองและคูน้ำล้อมรอบตัวเมือง รวมถึงปัจจุบัน ยังมีการขุดค้นพบโบราณสถานมากมายทั้งในและนอกตัวเมืองกว่า 160 แห่ง ซึ่งบัดดี้ติดต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองเชียงแสนเพื่อขอจองรถรางและไกด์นำชม วัดแรกที่บัดดี้ไปก็คือ “วัดเจดีย์หลวง” วัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองเชียงแสน ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมือง แผนผังของเจดีย์เป็นรูปแปดเหลี่ยม ฐานกว้างด้านละ 9.50 เมตร สูงประมาณ 35.50 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า สร้างโดยพญาแสนพู ผู้ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพญามังราย ที่เสด็จจากเมืองเงินยางมาสร้างเมืองเชียงรายและยึดเมืองหริภุญชัยราวปี พ.ศ. 1836 จากนั้นไกด์นำชมขับรถรางพาบัดดี้ไปที่ “วัดป่าสัก” ตั้งอยู่ด้านนอกกำแพงเมืองเชียงแสนทางด้านทิศตะวันตก สันนิษฐานสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1875 หลังจากที่พญาแสนภูสร้างกำแพงเมืองเชียงแสนเสร็จสิ้นแล้ว 4 ปี มีต้นสักล้อมรอบวัดกว่า 300 ต้น เจดีย์ประธาน มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอด ผสมผสานศิลปะสุโขทัย พุกาม และหริภุญไชยเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลังจากนั้น การเที่ยวของบัดดี้จะเป็นการนั่งรถรางชมตัวเมืองเชียงแสน ที่มีโบราณสถานอยู่แทรกกับบ้านเรือนของชาวบ้าน มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าตื่นเต้นมากมายให้เรียนรู้ อย่างเช่นมีการนำอิฐของกำแพงเมืองเชียงแสนไปหาค่าอายุด้วยวิธีเทอร์โมลูมิเนสเซนส์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วพบว่าค่าอายุดินและอิฐของกำแพงเมืองเชียงแสนสมัยที่นำไปตรวจสอบมี 1,400-1,600 ปีมาแล้ว ปิดท้ายด้วยการชมวิวแม่น้ำโขง ณ ด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง สันนิษฐานว่าในอดีตมีกำแพงเมืองอยู่ แต่ปัจจุบันพังทลายไปจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงแล้ว แต่ปัจจุบันทางเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและชาวบ้านในพื้นที่ ได้พยายามรักษาสภาพเมืองเก่าเอาไว้ เพื่ออนุรักษ์เมืองล้านนาโบราณแห่งนี้เอาไว้ไม่ให้พังทลายไปมากกว่านี้ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย0 5377 7287 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอำเภอเชียงแสน)https://maps.app.goo.gl/3oX2x8M1NU3i5fFL6

ชมดอย ปั้นดิน มองเมืองโบราณ @ เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน

ปัตตานี หนึ่งในจังหวัดสามชายแดนใต้ เมืองพหุวัฒนธรรม ที่รวมความศรัทธาของทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน สะท้อนผ่านความเชื่อ ศาสนสถาน และอาหาร ที่มีความหลากหลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปัตตานีที่ไม่ว่าใครจะมาเยือน ก็จะได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาได้เป็นอย่างดี วันนี้บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ล่องใต้ ไปเที่ยวจังหวัดปัตตานี ไปชิมเมนู Must Taste ชมสถานที่ Must Seek และเที่ยวชุมชน Must Try แบบจัดเต็ม 3 วัน 2 คืน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามบัดดี้มาเลย วันที่ 1 📌 เริ่มต้นมื้อเช้า ณ ร้านโรตีบังหนูด ลิ้มรสโรตี ชาชัก เมนู Must Taste แบบฉบับชาวปัตตานี⏰ เปิดวันจันทร์-วันอาทิตย์ (ปิดวันศุกร์) เวลา 06.30-19.00 น.☎️ 09 8980 4843 📌 สักการะ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.☎️ 07 333 2851 📌 เดินเล่น ถ่ายภาพสวย ๆ ชมเมืองเก่าปัตตานี ณ ย่านกือดาจีนอ (Must Seek) 📌 ทานมื้อเที่ยง ณ ร้าน มิตรไมตรี Dining Cafe’ ร้านอาหารฮาลาลระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยเมนูสเต็กเนื้อ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.☎️ 06 6109 5110 📌 ชม มัสยิดกรือเซะ (Must Seek) มัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 450 ปี 📌 เยี่ยมชม หลุมฝังศพของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตั้งอยู่ติดกับมัสยิดกรือเซะ มื้อเย็น ล่องเรือกอและพร้อมชิมเมนูพื้นบ้าน นาสิอีแดกำปง และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ อ่าวปัตตานี☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม 09 3580 2702 วันที่ 2 📌 มื้อเช้า ณ ร้าน Roti de Forest ที่มีเมนูอาหารทั้งคาวหวานให้เลือกทาน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-23.00 น.☎️ 09 5462 2792 📌 เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านการเยี่ยมชม วังยะหริ่ง (Must Seek)⏰ เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-16.30 น.☎️ 06 1234 9537 📌 อร่อยมื้อเที่ยง ณ สะเต๊ะศรีเมือง ร้านสะเต๊ะเก่าแก่ในปัตตานี เปิดมานานกว่า 50 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.☎️ 08 7277 0182 📌 เดินทางเข้าชม เมืองโบราณยะรัง (Must Seek) ชุมชนสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น. 📌 ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามของ มัสยิดกลางปัตตานี ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิม⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น. 📌 ลิ้มรสเมนู Must Taste นาสิกาบู (ข้าวยำ) และตูปะตูซง ณ ร้านกะมา ข้าวยำราชา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 15.00-22.00 น.☎️ 08 1543 7501 วันที่ 3 📌 ชมเที่ยวตลาดเช้า พร้อมรับประทานอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ แบบฉบับคนโลคัล ณ ตลาดเทศวิวัฒน์ 📌 นั่งรถจี๊บโบราณสำรวจ ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว (Must Try) ชุมชนสองวัฒนธรรมไทย-มุสลิม☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว 08 9737 9553 📌 นมัสการ หลวงปู่ทวด วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้)  (Must Seek) วัดเก่าแก่กว่า 300 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราช เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นและมีความหลากหลายทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและอาหาร บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ย้อนไปรู้จักกับโคราชตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบัน กับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว แบบ 2 วัน 1 คืน ที่เที่ยวตามแล้วบอกเลยว่าจะรู้จักกับโคราชมากขึ้นแน่นอน 1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ บ้านโกรกเดือนห้า ตั้งอยู่บ้านโกรกเดือนห้า ถนนมิตรภาพ-หนองปลิง ตำบลสุรนารี เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศไทยและหนึ่งในเจ็ดแห่งของโลก ที่แสดงพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ อายุประมาณ 800,000–320 ล้านปี เป็นแหล่งเรียนรู้ของการเริ่มต้น Korat UNESCO Global Geopark ซึ่งคณะกรรมการบริหารยูเนสโก ประชุมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีวาระการพิจารณาเรื่องการรับรองจีโอพาร์คทั้ง 18 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งโคราชจีโอพาร์ค เป็นจีโอพาร์คโลกยูเนสโก หรือ UNESCO Global Geopark ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับการกำเนิดโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และไม้กลายเป็นหิน และยังมีพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ 8 สกุล จาก 42 สกุล ที่พบทั่วโลก ทั้งช้างสี่งา ช้างงาจอบ ช้างงาเสียม (อายุประมาณ 16-5 ล้านปีก่อน) รวมทั้งฟอสซิลสัตว์นานาชนิด เช่น เต่ายักษ์ ตะโขง เอป (ลิงไม่มีหางที่มีสายวิวัฒนาการใกล้เคียงกับมนุษย์) นอกจากนี้ยังมีสวนไม้กลายเป็นหินด้านนอกอาคารให้เดินชมอีกด้วย 📌 184 หมู่ 7 ถนนมิตรภาพ – หนองปลิง บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา: https://maps.app.goo.gl/fetPko99CWrbpDm67⏰ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 15.30 น.☎️ 0 4437 0739-40💸 อัตราค่าบริการในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์– นักเรียนอนุบาล-ปวช. 20 บาท– นักศึกษา ปวส.-ปริญญาตรี 30 บาท– ผู้ใหญ่ 50 บาท– เด็กต่างชาติ (Youth) 50 บาท– ชาวต่างชาติ (Foreigner) 120 บาท 2. อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวีรกรรมอันกล้าหาญของ “ย่าโม” อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนฐานสูง เหนือขึ้นไปเป็นประติมากรรมย่าโมในท่ายืน แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน มือขวาถือดาบ ปลายจรดลงพื้น หล่อด้วยทองแดงรมดำ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช และกวาดต้อนผู้คนรวมถึงคุณหญิงโมไปด้วย คุณหญิงโมได้คิดอุบายหาทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยถ่วงเวลารอให้กำลังมาสมทบ จากนั้นจึงได้ช่วยกันต่อสู้จนกองทัพแตกพ่ายและเลิกทัพกลับเวียงจันทน์ในที่สุด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเป็นที่ตั้งของประตูชุมพล ซึ่งเป็นประตูเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก มีลักษณะเป็นประตูทรงไทย ศิลปะอยุธยา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา เดิมประตูเมืองมีทั้งหมด 4 ประตู แต่ปัจจุบันเหลือประตูชุมพลเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ชาวโคราชเชื่อว่า หากลอดประตูชุมพลแล้วจะโชคดี ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/R56U4K1DhG9fgZFo7 3. วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2370 โดยท้าวสุรนารีและพระยาสุริยเดช ปลัดเมืองนครราชสีมา สามีของท่าน ชื่อวัดศาลาลอยนั้นมีที่มา หลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ที่ทุ่งสัมฤทธิ์แล้ว ท้าวสุรนารีก็ยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ระหว่างที่แวะพักบริเวณท่าตะโก ท่านได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาลอยไปตามลำตะคองเพื่อเสี่ยงทาย โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าแพรูปศาลานี้ลอยไปติดที่ไหน ก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ที่นั่น ปรากฎว่าแพลอยไปติด ณ ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยในปัจจุบัน ภายในวัดมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น อุโบสถหลังเก่า อุโบสถหลังใหม่ และเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม อุโบสถหลังเก่า เป็นอุโบสถขนาดเล็ก ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง และมีประตูเข้า-ออกทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว หรือที่เรียกว่า ‘โบสถ์มหาอุด’ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง ที่ท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรบชนะเจ้าอนุวงศ์ อุโบสถหลังใหม่สร้างใน พ.ศ. 2510 ผลงานการออกแบบของ รศ. ดร.วิโรฒ ศรีสุโร เป็นศิลปะไทยประยุกต์ ที่ออกแบบเป็นรูปสำเภา และใช้กระเบื้องดินเผา ของดีจากตำบลด่านเกวียนมาประดับตกแต่ง อุโบสถหลังนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2516 บริเวณหน้าอุโบสถหลังเก่ามีเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม และอนุสาวรีย์ย่าโมที่จำลองมาจากของจริงที่บริเวณลานย่าโมด้วย ซอยท้าวสุระ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/2vWtVW6P2Mp8wKbK6 4. ปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในส่วนที่ตั้งปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่บนเนินดินสูงกว่าบริเวณโดยรอบ สร้างขึ้นเนื่องในลัทธิความเชื่อศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระอิศวร (ศิวะ) เป็นเทพสูงสุด ปราสาทประธาน ก่อสร้างด้วยหินทราย ศิลาแลงและอิฐ เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน หันด้านหน้าไปด้านทิศตะวันออก ปราสาทพนมวันและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมร มีลำดับอายุสมัยในการก่อสร้างตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-17 นอกจากนี้ยังพบหลักฐานการอยู่อาศัย ของชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยสำริด (3,400-2,500 ปีมาแล้ว) และสมัยเหล็ก (2,500-1,500 ปีมาแล้ว) อยู่ในพื้นที่ก่อนที่จะมีการก่อสร้างปราสาทพนมวันอีกด้วย ปัจจุบันภายในปราสาทประธาน มีการประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก้ไขดัดแปลงในสมัยอยุธยา แสดงให้เห็นว่าปราสาทพนมวันยังคงเป็นศาสนสถานที่ชุมชนในท้องถิ่นให้ความเคารพความศรัทธาสืบเนื่องมา 📌 บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา:

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน อ่านเพิ่มเติม

ภูหลวง … สวนสวรรค์แดนอีสาน

บัดดี้พาไปเดินป่าที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน “ภูหลวง” อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย “ภูหลวง” มีความหมายว่า “ภูเขาที่สูงใหญ่” มีพื้นที่ประมาณ 530,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูหลวง อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ และอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงชัน มีความสูง 400 -1,571 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกเขาด้านตะวันออกมีที่ราบบนสันเขา (หลังแป) ส่วนด้านตะวันตกเป็นภูเขาสูงซันสลับซับซ้อนเป็นลูกคลื่น ส่วนภูเขาทางทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันลาดลงสู่ทิศตะวันตก เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเลยและแม่น้ำป่าสัก ทริปนี้เป็นการเดินป่าระยะสั้นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ระยะทางเดิน 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินแบบไม่รีบร้อนประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและค้างแรม ความสวยงามของธรรมชาติบนเส้นทางนี้ ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสวรรค์ ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบสูง จึงมีอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 24 องศาเซลเชียส ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย 4-6 องศาเซลเซียส ฤดูกาลที่เหมาะกับการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติชมพรรณไม้บนภูหลวง คือ เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม โดยช่วงปลายธันวาคม-กลางมกราคม จะได้ชมใบเมเปิ้ลสีแดง ช่วงมกราคม-มีนาคม เป็นช่วงที่กุหลาบแดงและกุหลาบขาวบานสะพรั่ง รวมทั้งกล้วยไม้ป่านานาชนิด ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตั้งอยู่ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลยพิกัด: https://maps.app.goo.gl/z7G7LiUJeb5ZHdBr7 จุดท่องเที่ยวหลักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือ “หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา” ซึ่งตั้งอยู่กลางป่า ห่างจากที่ทำการเขตฯ ประมาณ 14 กิโลเมตรพิกัด: https://maps.app.goo.gl/3cZdZvS7YLaooMVF7 ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้ที่Facebook: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย06 4024 0743 การเดินทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 203 (ภูเรือ-เลย) ใช้เส้นทางฝั่งมุ่งหน้าไปตัวเมืองเลย ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงสามแยกโรงเรียนบ้านสานตม ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยด้านข้างโรงเรียน คือ ทางหลวงชนบท ลย. 2023 ตรงไปประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ณ ด่านตรวจบริเวณหน้าที่ทำการเขตฯอัตราค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงชาวไทย: ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท รถยนต์สี่ล้อ 60 บาทรถยนต์หกล้อ 100 บาทจักรยานยนต์ 30 บาท ด่านจะเปิดให้รถขึ้นไปบนภูหลวงได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และด่านจะปิดไม่ให้รถขึ้นลงภูหลวงในเวลา 16.00 น. ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากอันตรายของสัตว์ป่าที่ออกหากินในช่วงเวลาเย็นจนถึงรุ่งเช้า จากด่านหน้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ขับรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของภูหลวง ตั้งแต่ปากทางถนนสายหลักจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ลักษณะถนนเป็นถนนลาดยางรถสวนกันสองเลน ช่วงจากด่านไปจนถึงโคกนกกระบาเป็นทางขึ้นเขา มีโค้งบ้าง แต่ไม่ค่อยชัน รถยนต์ทุกชนิดสามารถเดินทางได้ แนะนำไม่ควรขับรถเร็ว เพราะอาจมีสัตว์ป่าข้ามถนนได้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เมื่อเดินทางมาถึง แนะนำให้มาติดต่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ก่อน ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นกลุ่ม ๆ ละไม่เกิน 10 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ไม่เสียค่าใช้จ่าย บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา มีร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นอาหารตามสั่งแบบจานเดียว และมีเครื่องดื่มกับขนมขบเคี้ยวจำหน่าย ส่วนบริเวณลานจอดรถ กว้างขวาง และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมกุหลาบแดงบานอีกจุดหนึ่งด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มีบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยวสำหรับค้างแรมอยู่หลายหลัง ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา แต่ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์พักแรม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจากสัตว์ป่าในยามค่ำคืน ในกรณีต้องการค้างแรม ต้องสำรองบ้านพักล่วงหน้าในช่องทาง Message ของ Facebook page เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย รวมทั้งในกรณีที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวเดินป่าศึกษาธรรมชาติในเขตหน่วยพิทักษ์ป่าหน่วยอื่น ๆ แบบระยะไกล ก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะส่งรายละเอียดขั้นตอนการขออนุญาตต่าง ๆ ให้ในช่องทาง Message ของ Facebook page หรือ โทร. 06 4024 0743 ส่วนการเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า สามารถ walk in มาลงทะเบียนเที่ยวชมที่หน่วยพิทักษ์โคกนกกระบาได้เลย ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ได้แก่1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 1 กิโลเมตร2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเสด็จ ระยะทาง 11.8 กิโลเมตร พวกเราเลือกเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใจดีพาเดินชม แนะนำพืชพรรณต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบเกือบตลอดทาง เดินผ่านป่าโปร่งที่มีต้นไม้ไม่สูงและทึบจนเกินไป แต่ไปเดินป่าช่วงฤดูหนาว แม้จะเจอแดดแต่อากาศก็เย็นสบาย อุปกรณ์ที่ควรมีเมื่อเดินป่า ได้แก่– หมวกกันแดด– เสื้อแขน กางเกงขายาว เพื่อป้องกันโดนกิ่งไม้ขีดข่วน– รองเท้าที่ดอกยางลึกกันลื่น กระชับข้อเท้า และใส่แล้วรู้สึกเดินสบาย– น้ำดื่ม– ยารักษาโรคประจำตัว– อุปกรณ์ถ่ายภาพ

ภูหลวง … สวนสวรรค์แดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม

แปะพิกัดที่เที่ยวที่กิน จ.กาญจนบุรี

วันนี้บัดดี้มาแจกพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาด ร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี ๆ และคาเฟสุดชิค ในจังหวัดกาญจนบุรีให้เพื่อน ๆ ได้มาตามรอยกัน อยากรู้ว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง ตามมาดูกันเลย สะพานข้ามแม่น้ำแคว📌 https://maps.app.goo.gl/T7cRNX11uLneJs3ZA สกายวอล์ก กาญจนบุรี📌 https://maps.app.goo.gl/meLLA6qCbHbc6VbQ8⏰ เปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.⏰ วันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-19.00 น.💸 ค่าเข้าชม คนละ 60 บาท☎️ 09 8952 0628 มีนา Cafe📌 https://maps.app.goo.gl/rubgkfWbLp4cz3Q47⏰ เปิดทุกวันพฤหัสบดี-วันอังคาร เวลา 08.30-19.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)☎️ 08 5681 8187 ต้องกาญ Cafe📌 https://maps.app.goo.gl/AgFizcwaZSaGFVqg7⏰ เปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-22.00 น.⏰ วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-23.30 น.☎️ 08 9888 8015 วัดถ้ำเสือ📌 https://maps.app.goo.gl/wJpkbwrvK1kpTKkZ7⏰ เปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 07.30-16.30 น.⏰ วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.00-17.30 น. ต้นจามจุรียักษ์ และศาลเจ้าแม่จามจุรี📌 https://maps.app.goo.gl/LgzRNJAk2LvxmL8eA⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.☎️ 0 3467 1840 วัดถ้ำพุหว้า📌 https://maps.app.goo.gl/2wmg42H1pGBtKVE8A⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.☎️ 08 7166 1819 THE CURVE📌 https://maps.app.goo.gl/HaDQ4fgmQfjd7HWQ7⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.☎️ 09 5198 9646 H2 Rivercafe📌 https://maps.app.goo.gl/gZJVDkPztm77b4hX8⏰ เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.☎️ 06 2538 1804 วัดหินแท่นลำภาชี📌 https://maps.app.goo.gl/xSxu49wtgkD4iZfC9⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.☎️ 09 2625 6394, 09 4519 9633 ศูนย์ประวัติศาสตร์ช่องเขาขาด📌 https://maps.app.goo.gl/VTxHq7HHM8imzLzi8⏰ 09.00-16.00 น.☎️ 0 3491 9605, 08 1733 0328 เตี๋ยว เตี๋ยว📌 https://maps.app.goo.gl/DZbXY6bokZBhhxqf8⏰ เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น.☎️ 09 8974 5994 โรงงานวุ้นเส้นท่าเรือพระแท่น📌 https://maps.app.goo.gl/Gx3xZH1wDsNqSovr8⏰ เปิดบริการทุกวัน 07.00-18.00 น.☎️ 06 4296 9929

แปะพิกัดที่เที่ยวที่กิน จ.กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

9 วัดมหาธาตุ เสริมสิริมงคล

เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า วัดที่มีคำว่า “มหาธาตุ” อยู่ท้ายชื่อวัด เป็นวัดที่มีพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนที่ได้ให้ความเคารพ ความศรัทธา และต้อนรับให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมศาสนสถานของประเทศไทย วัดที่มีคำว่ามหาธาตุ มีมากมายในประเทศไทย แต่วันนี้บัดดี้ขอแนะนำ 9 วัดมหาธาตุ ทั่วประเทศ สามารถเดินทางไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ 1. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร วัดเก่าแก่มีมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ ณ ภายในพระมณฑป และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 07.30-18.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/jsno8HoTAoVQG7BC9 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: สตรีทฟู้ดเยาวราชMust Try: สนามมวยราชดำเนินMust Buy: กางเกงช้างMust Seek: ย่านทรงวาด ตลาดน้อยMust See: การแสดงทางวัฒนธรรม 2. วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม เมื่อปี พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ พบของโบราณหลายชิ้นที่สําคัญคือผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุได้รับการนําไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในภาพคือเศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ปกคลุมเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุม มีความงดงามและเป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญของที่นี่ เปิดทุกวัน (มีค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/iSm3ferrATqXweyk8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: โรตีสายไหมMust Try: อยุธยามาราธอนMust Buy: เครื่องหอมเก้ากลิ่นอยุธยาMust Seek: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาMust See: เทศกาลโขนกรุงศรีฯ 3. วัดมหาธาตุวรวิหาร หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดหน้าพระธาตุ) จังหวัดราชบุรี ที่นี่คือโบราณสถานที่พาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทวาวรดีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการสันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้น ราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 ไล่เลี่ยกับการสร้างเมืองราชบุรีเก่า สิ่งที่น่าชมภายในวัด ได้แก่ วิหารหลวง อันเป็นที่ประดิษฐานพระมงคลบุรี พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น องค์พระปรางค์มีความสูง 24 เมตร ผนังส่วนบนเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้าในซุ้มเรือนแก้วเป็นแถวเรียงต่อกัน ตอนล่างเป็นพุทธประวัติ เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/haTuDRzVuvVmfjjC7 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ไก่ย่างบางตาลMust Try: พายซัพบอร์ดแม่น้ำแม่กลองMust Buy: เซรามิก กระถาง โอ่งมังกรMust Seek: ตลาดน้ำดำเนินสะดวก-ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั้กMust See: ตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย 4. วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นวัดสำคัญของกรุงสุโขทัยและเป็นศูนย์รวมทั้งงานด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุเป็นเจดีย์ประธาน ลักษณะทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ รายรอบด้วยปรางค์ศิลาแลง 8 องค์ เปิดทุกวัน (มีค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่)เวลา 06.30-19.30 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/AQjrAqj7iRqVChoW8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยMust Try: ปั่นจักรยานชมอุทยานประวัติศาสตร์ในสุโขทัยMust Buy: เครื่องสังคโลกMust Seek: อุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดสุโขทัยMust See: งานสงกรานต์และงานลอยกระทง 5. วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ เป็นวัดเก่าแก่มีตำนานเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า มีพระประธานนาม “หลวงพ่อประธานเฒ่า” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ เรื่อง พระสังข์ทอง ด้านหลังวิหารมีพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นแบบลังกา เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/gumDQmDo3dJnAf1s8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: หมี่พันMust Try: พิชิตยอดภูสอยดาว 2,102 Mls.Must Buy: ทุเรียนหลง-หลิน ลับแลMust Seek: บ่อเหล็กน้ำพี้Must See: งานมหกรรมทุเรียนหลง-หลิน ลับแล 6. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก เป็นโบราณสถานและพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อ พ.ศ. 1900 มีพระประธานองค์ใหญ่ประดิษฐานในวิหารคือ “พระพุทธชินราช” ซึ่งชาวเมืองพิษณุโลกนิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” มีความสำคัญ คือ พระมหากษัตริย์ของไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ เสด็จมาสักการะบูชา ถือเป็นธรรมเนียมในการมาเยือนเมืองพิษณุโลก เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 06.00-20.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/TwjCoaubeDhDnVnB7 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ผัดไทยวังทองMust Try: ล่องแก่งลำน้ำเข็กMust Buy: กล้วยเบรคแตกMust Seek: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีMust See: งานนมัสการพระพุทธชินราช 7. วัดมหาธาตุ (พระธาตุนคร) จังหวัดนครพนม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 1150 โดยสร้างขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม เป็นวัดประจำเมือง มีพระธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ พระธาตุนครเป็นพระธาตุประจำวันเกิดสำหรับผู้ที่เกิดในวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการพระธาตุนคร จะได้รับอานิสงส์ มีความสุขสวัสดิ์ มีความมั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง เสริมบารมี อำนาจวาสนา ด้านหน้าวัดมหาธาตุ สามารถเดินลัดเลาะพร้อมชมบรรยากาศแนวเขื่อนเลียบริมน้ำโขง เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 07.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/W9pAUbrYB2B1yHv77 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: จิ้มจุ่ม ปลาเผาMust Try: วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วนMust Buy: สัปปะรดท่าอุเทนMust Seek:

9 วัดมหาธาตุ เสริมสิริมงคล อ่านเพิ่มเติม

5 Rooftop Restaurant & Bar ใจกลางกรุงเทพฯ

วันนี้บัดดี้เอาใจเพื่อน ๆ สายชิลล์ และสายปาร์ตี้ ที่กำลังมองหาร้านดินเนอร์ บรรยากาศดี วิวสวย เครื่องดื่มจึ้ง ด้วยการพาไปแนะนำ Rooftop Restaurant & Bar ใจกลางกรุงเทพฯ ให้เพื่อน ๆ ที่ตั้งใจมาดื่มมาดริ้ง ลองไปชิลล์กัน 🍸 ฤดูกาล (Le Du Kaan) เป็นร้านอาหารไทยนำโดย เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เจ้าของร้านไทย Le Du และ Nusara โดยร้านฤดูกาล ตั้งอยู่บนชั้น 56 ของตึก EA Rooftop at The Empire ใจกลางสาทร บอกเลยว่าบัดดี้รู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ขึ้นลิฟต์ไปยังร้าน เพราะที่นี่ตกแต่งได้สวยงาม หรูหรา สไตล์ไทยโมเดิร์น มีเป็นเอกลักษณ์มาก ร้านฤดูกาลแบ่งเป็น Indoor Dining Room พื้นที่ดินเนอร์ภายในร้าน ตกแต่งไว้อย่างหรูหราดูทันสมัย มีครัวเปิดให้แขกได้ชมเชฟผู้มือฉมังทำอาหารจานเลิศในขณะรับประทานอาหาร สามารถชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของกรุงเทพฯ เพิ่มอรรถรสที่น่าประทับใจให้กับการรับประทานอาหาร และ Sky Bar สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากจะรับลมเย็นยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มรสชาติเอกลักษณ์และชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ รวมถึงแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลาที่พระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว สำหรับอาหาร Le Du Kaan เสิร์ฟอาหารในรูปแบบอะลาคาร์ต ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่จากเกษตรกรและชาวประมงจากแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ เมนูแนะนำคือ กะเพราเนื้อ ที่ไม่เหมือนใคร เป็นเมนูที่ออกแบบมาจากความชอบของเชฟต้น เสิร์ฟมาในหม้อร้อนและมีชาบูเนื้อมาพร้อมกันในชุด โดยในหม้อเป็นข้าวผัดซอสกะเพรา และมี Bone Marrow ซอสกะเพรา มาให้คลุกเคล้ากับข้าว ส้มตำปูนิ่ม, แกงส้มชะอมกุ้ง และสลัดปลาเค็ม Le Du Kaan📍 ชั้น 56 ตึก EA Rooftop at The Empire⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. และ 17.00 – 22.30 น. (บาร์เปิดเวลา 17.00 – 01.00 น.)📞 0 2407 1654🌐 https://maps.app.goo.gl/NcVWfDV6FKbu62ja6👗 Dress Code: Smart Casual💸 Budget: 1,500 – 3,000 บาท 🍸 Nobu Bangkok ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นชื่อดังจาก New York ตั้งอยู่ที่ตึก EA Rooftop at The Empire หากเพื่อน ๆ ดินเนอร์เสร็จแล้วอยากไปชิลล์ต่อ ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลขึ้นมาที่ชั้น 60 ของตึกนี้ได้เลย ตัวร้านตั้งอยู่บนสามชั้นสุดท้ายที่สูงที่สุดของตึก เพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินไปกับสไตล์อาหารญี่ปุ่นของเชฟโนบุ พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ 360 องศาที่งดงาม บอกเลยว่าสายปาร์ตี้ สายดริ้งห้ามพลาดกับบรรยากาศทั้งก่อนพระอาทิตย์ตกและบรรยากาศยามค่ำคืน คะแนนเต็ม 10 บัดดี้ให้ 100 Nobu Bangkok📍 ชั้น 60 ตึก EA Rooftop at The Empire⏰ เปิดทุกวัน เวลา 17.00-00.00 น.📞 0 2407 1654🌐 https://maps.app.goo.gl/4SD4RzRH97buVHH47👗 Dress Code: Smart Casual💸 Budget: 1,000 – 2,000 บาท 🍸 Akara Sky Hanuman Bangkok บาร์เปิดใหม่ไวป์ดีใจกลางเมือง ย่านเพลินจิต เห็นวิวชมพระอาทิตย์ตกได้แบบ 360 องศา  สำหรับที่นี่เป็นอีกหนึ่งร้านในลิสต์ที่พลาดไม่ได้ เพราะการตกแต่งของร้านสวยสะกดมาก จากการนำวัสดุแบบไทย ๆ โทนสีไทย ๆ มาตกแต่งผสมกับวัสดุแบบโมเดิร์น ทำให้ดูร่วมสมัยและเป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นสุดจึ้งของที่นี่ คือประติมากรรมโครงสร้างที่รูปหนุมานอ้าปาก พร้อมจัดเต็มกับเพลงมันส์ ๆ จากดีเจ อาหารอร่อยโดยเมนูที่ต้องลองข้าวแกงเขียวหวานไก่, Spicy Avocado salad, Spicy Salmon Salad และ Salmon Roll และห้ามพลาดกับเมนู Signatures Cocktail ที่ไม่ซ้ำกับใคร อย่าง Thai Massage และ Muay Thai รวมทั้งโชว์สุดอลังการต่าง ๆ ที่สลับสับเปลี่ยนมาให้ชมทุกวัน สายปาร์ตี้ต้องไป Akara Sky Hanuman Bangkok📍 ชั้น 61, One City Centre⏰ เปิดทุกวัน อาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 17.00 – 01.00 น., ศุกร์ – เสาร์ เวลา 17.00 – 02.00 น.📞 09

5 Rooftop Restaurant & Bar ใจกลางกรุงเทพฯ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวอุทัย สบายอุรา แบบ 2 วัน 1 คืน

อุทัยธานี…เมืองเล็ก ๆ เงียบสงบและอยู่ระหว่างเส้นทางผ่านขึ้นไปยังภาคเหนือของประเทศไทย เมืองที่หลาย ๆ คนอาจยังไม่เคยแวะไปเยือน วันนี้! บัดดี้จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักและสัมผัสกับประสบการณ์การเที่ยวแบบสบาย ๆ ตามสไตล์ “เที่ยวอุทัย สบายอุรา” แบบ 2 วัน 1 คืน ตามมากันเลย! Day 1: เที่ยวบ้านไร่ ไปไหนดี? เริ่มต้นกันที่ อ.บ้านไร่ ซึ่งเป็นรอยต่อจะหว่างจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดสุพรรณบุรี บรรยากาศที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติและวิถีชุมชนน่ารัก ๆ ที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของสยามเมืองยิ้มอยู่เสมอ สถานที่แรกของทริปนี้คือ “วัดถ้ำเขาวง” วัดที่ซ่อนตัวท่ามกลางธรรมชาติและมีภูเขาล้อมรอบ โดดเด่นด้วยอาคารไม้เรือนไทย 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สักและไม้มะค่า และมีสะพานไม้ทอดยาวข้ามสระน้ำขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า และยังมี “พระพุทธอุทัยธรรมพินิต” พระพุทธไสยาสน์ปางโปรดอสุรินทราหูที่มีพุทธลักษณะงดงามแบบศิลปะร่วมสมัยสุโขทัยให้เราได้กราบไหว้ขอพร ระหว่างทางก็แวะชม “ต้นไม้ยักษ์” ที่มีอายุกว่า 400 ปี ตั้งตระหง่านท่ามกลางป่าหมาก ระหว่างทางเดินไปยังที่ตั้งของต้นไม้ยักษ์จะมีตลาดเล็ก ๆ ของชุมชน ซึ่งวางขายอาหารและสินค้าชุมชนให้เราเลือกอุดหนุน ตลาดที่นี่จะเปิดแค่ช่วงวัดหยุดวันเสาร์ – วันอาทิตย์เท่านั้น 📌 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี🌐 https://maps.app.goo.gl/3FWYytn4osgoBxVb9 จากนั้นมาชอปปิงกันต่อที่ “ตลาดซาวไฮ่” ตลาดที่ตกแต่งบรรยากาศได้น่ารักและดูอบอุ่นมาก ๆ เป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มาก มีทั้งผักผลไม้ สมุนไพร อาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งสินค้าแฮนด์เมดให้เลือกซื้อเลือกหากลับไปเป็นของฝากมากมาย และที่นี่ยังมีดนตรีมาขับกล่อมสร้างบรรยากาศการเดินจับจ่ายใช้สอยให้ฟังกันเพลิน ๆ อีกด้วย บัดดี้เดินเล่นไปเดินมาใช้เวลาอยู่เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว 📌 92 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี⏰ เปิดทุกวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น.🌐 https://maps.app.goo.gl/xEKKmJ7ywikjdRm79 แวะนมัสการ “หลวงพ่อโต” ณ วัดผาทั่ง พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่มีความสูงถึง 52 เมตร เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งภายในอาคารใต้ฐานองค์พระยังมีรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข ให้พุทธศาสนิกชนมากราบไหว้สักการะอีกด้วย 📌 81 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี🌐 https://maps.app.goo.gl/KuBN7FxCS6RgvPpRA ปิดท้ายยามเย็นด้วยการไปถ่ายรูปสวย ๆ กันที่ “ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของจังหวัดอุทัยธานี ที่นี่เป็นฝายน้ำล้นที่ตกลงมาเป็นม่านน้ำที่สวยงามมาก ๆ ซึ่งช่วงที่บัดดี้ไปถึง นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก เลยไม่ต้องต่อคิวถ่ายรูปนาน ช่วงที่ควรไปก็คือ ช่วงฤดูฝนและช่วงหลังฝนตกหนัก 2-3 วัน ซึ่งจะได้ม่านน้ำที่สวยมาก ๆ 📌 หมู่ 11 ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี🌐 https://maps.app.goo.gl/45vAfogNZunJXHmQ8 Day 2: สำรวจป่าดึกดำบรรพ์ ชิมอาหารขึ้นชื่อ ไหว้พระเสริมความเป็นสิริมงคล ตื่นเช้ามาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ดื่มดำกับธรรมชาติรอบ ๆ กาย แล้วก็ไปกันต่อที่ “หุบป่าตาด” ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ที่นี่นับเป็นสถานที่ไฮไลต์ของการมาเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งที่มาของชื่อก็ได้มาจากการพบต้นตาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ซึ่งเราสามารถเดินชมด้านในได้เอง โดยสามารถยืมไฟฉายบริเวณจุดชำระค่าธรรมเนียมหรือจะใช้แฟลชจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อเดินผ่านตัวถ้ำที่มืดสนิทระยะทางประมาณ 50 เมตร ตลอดเส้นทางก็เป็นทางเดินขึ้น-ลงบันได สลับกับทางราบระยะทางเดินไป-กลับก็ประมาณ 700 เมตร เดินชมธรรมชาติเรื่อย ๆ ไม่เหนื่อยมาก เมื่อเดินเข้าไปจนถึงตัวถ้ำ ก็จะเจอกับมุมถ่ายรูปยอดฮิตที่คนรอต่อแถวเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ช่วงที่บัดดี้ไปถือว่าโชคดีมาก ได้เจอกับเจ้า “กิ้งกือมังกรสีชมพู” สัตว์สายพันธุ์หายากที่พบได้แค่ที่นี่ที่เดียวในโลกเท่านั้น ซึ่งน้อง ๆ จะมาอวดโฉมเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน ซึ่งขึ้นอยู่กับความชุ่มชื้นของผืนป่า 📌 ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี💸 อัตราค่าบริการเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ 200 บาท เด็ก 100 บาท📞 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน โทร. 0 5698 9127🌐 https://maps.app.goo.gl/UvQor9jnc3U2rVAu7 มาเติมพลังกันต่อที่ “สวนอาหารนกน้อย” ร้านอาหารบรรยากาศดี อาหารอร่อย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งเป็นร้านชื่อดังของจังหวัดอุทัยธานี มาลิ้มลองอาหารขึ้นชื่ออย่างปลาแรดทอดกระเทียม ปลาคังลวกจิ้ม และน้ำส้มซ่า ซึ่งเป็นเมนูต้องห้ามพลาดของเมืองอุทัยธานี (Must Taste) พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูแนะนำอย่างฮ่อยจ๊อปูและยำผักหวาน 📌 146/2-3 ถนนศรีอุทัย ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี🌐 https://maps.app.goo.gl/A3cyAsYsaE6iwu5r7 ช่วงบ่ายก็เยี่ยมชม “วัดอุโปสถาราม” ริมแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองอุทัยธานีมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และเคยเป็นสถานที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือในปี พ.ศ. 2449 ชมความงดงามของจิตรกรรมฝาผนังของวิหาร มณฑปแปดเหลี่ยม เจดีย์สามสมัย และแพโบสถ์น้ำ 📌 ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี🌐 https://maps.app.goo.gl/dFFfDA6rveX4uptc7 ปิดท้ายทริปนี้กันที่ “วัดท่าซุง” กราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชมความอลังการของวิหารแก้ว ซึ่งประดับด้วยโมเสกสีขาวระยิบระยับงดงามตระการตา เปิดเวลา 09.00-11.30 น. และ 14.00-16.00 น. ก่อนเดินทางกลับด้วยความอิ่มเอมใจ 📌 60 หมู่ 1 ถนนอุทัยธานี-มโนรมย์ น้ำซึม เมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี📞 0 5650

เที่ยวอุทัย สบายอุรา แบบ 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top