วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ หนีความร้อนมาชมความงามของโลกใต้น้ำ โดยการพาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในหลาย ๆ ที่ในไทย หากวันหยุดนี้ใครว่างและกำลังหาที่เที่ยวแบบหลบแดดแล้ว ยังได้ความรู้และความเพลิดเพลิน ลองตามมาอ่านดูว่าใกล้ที่ไหนแล้วลองตามรอยบัดดี้ดู เชื่อได้เลยว่าต้องชอบใจแน่ ๆ
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต
เป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในจังหวัดภูเก็ตมากว่า 30 ปี ภายในมีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์นํ้าที่สวยงาม หลากหลาย บางชนิดหาดูยากมาก
ภายในแบ่งเป็น 5 โซนใหญ่ ที่มีทั้งโซนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด น้ำเค็ม เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมวิวทะเลแหลมพันวา โรงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อเลี้ยงเต่าทะเลฝั่งอันดามันและเรือจักทอง เรือสำรวจทะเลลึกที่สามารถจุคนได้ถึง 100 คน
– ชาวไทย
ผู้ใหญ่ 80 บาท
เด็ก 40 บาท
– ชาวต่างชาติ
ผู้ใหญ่ 300 บาท
เด็ก 150 บาท
Chiang Mai Zoo Aquarium
สถานที่รวบรวมปลาน้ำจืดแห่งลุ่มแม่น้ำโขงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล มีอุโมงค์ใต้น้ำขนาดใหญ่ ยาว 133 เมตร ที่แบ่งเป็นอุโมงค์ทะเลและอุโมงค์น้ำจืดอย่างละครึ่งภายใต้ความลึก 5 เมตร
ภายในแบ่งจัดแสดงเป็น 6 โซน
โซน 1 สำรวจลุ่มน้ำในป่าลึก
สำรวจป่านานาพรรณพร้อมศึกษาระบบนิเวศริมน้ำและสำรวจสัตว์น้ำจืดตามแหล่งกำเนิด
โซน 2 สัตว์ประหลาดนักล่า
ร่วมผจญภัยในถ้ำ ไม่เพียงแต่ชมการจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลานในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ยังมีแมงมุมทารันทูรา กบต้นไม้ตาแดง ตะกอง กบชะง่อนผาเขียว สัตว์สายพันธุ์ที่พบแค่พื้นที่บริเวณดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพและพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น
โซน 3 สำรวจห้วงสมุทร
ชมระบบนิเวศชายฝั่งและเรื่องราวของม้าน้ำ ปลาไหลชนิดต่าง ๆ ปลาฉลามกบพร้อมไข่ของมัน ที่ปัจจุบันที่แดนเหนือแห่งนี้มีลูกฉลามกบกว่า 100 ตัวแล้ว
โซน 4 ความลึกลับใต้ลุ่มน้ำ
อุโมงค์น้ำจืดที่จำลองชีวิตลุ่มน้ำโขง พร้อมปลาน้ำจืดหายากจากทั่วโลก
โซนที่ 5 แปลกประหลาดอย่างน่าอัศจรรย์
บ้านของปลามีพิษ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวและข้อมูลสุดมหัศจรรย์ของแต่ละตัว แถมยังมีปลาไหลมอเรย์และส่วนจัดแสดงพิพิธภัณฑ์กระดูกปลาจำลองอีกด้วย
โซนที่ 6 โลกสีครามใต้ท้องทะเล
บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตใต้ทะเล ที่มีการจำลองระบบนิเวศใต้ทะเลที่หลากหลาย ทั้งโซนปลาเศรษฐกิจของไทย โซนปลานักล่าและโซนปลาสวยงามตามแนวปะการัง
ผู้ใหญ่ 250 บาท
เด็กอายุ 3-12 ปี 80 บาท
อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ อุโมงค์ปลาบึงบอระเพ็ด
อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นอาคารรูปทรงเรือกระแชงขนาดใหญ่ ภายในมีอุโมงค์ปลาน้ำจืดที่ยาวถึง 24 เมตร มีตู้ปลาที่จัดแสดงปลาน้ำเค็ม ปลาจากต่างประเทศที่หาดูยากมากกว่า 33 ตู้
นอกจากการชมปลาในตู้แล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงจระเข้ กิจกรรมล่องเรือรอบบึงบอระเพ็ดเพื่อดูนกนานาชนิด มีจุดส่องนกรอบเรือ ชมปลากระเบนราหูยักษ์ ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่พบในบึงบอระเพ็ดและปลาเสือตอลายใหญ่ สัตว์น้ำจืดที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทยที่ปัจจุบันคาดว่าได้สูญพันธุ์ไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติประเทศไทยแล้ว
ผู้ใหญ่ 49 บาท
เด็ก 19 บาท
การแสดงจระเข้
ผู้ใหญ่ 30 บาท
เด็ก 20 บาท
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ทางทะเลชื่อดังแห่งนี้ ตั้งอยู่ในโซนอ่าวคลองวาฬ มีการจัดวางและแบ่งโซนการจัดแสดงภายในได้ดีและสวยงามมาก สามารถเรียนรู้ระบบนิเวศใต้ทะเล น้ำกร่อย น้ำจืดและทำความรู้จักสิ่งมีชีวิตหลากชนิดได้อย่างเพลิดเพลิน
ภายในแบ่งเป็น 6 โซนด้วยกันคือโซนอัศจรรย์โลกสีคราม โซนจากขุนเขาสู่สายน้ำ โซนสีสันแห่งท้องทะเล โซนเปิดโลกใต้ทะเล โซนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและโซนกิจกรรมปฏิบัติการ แถมยังมีกิจกรรมนั่งรถรางนำชมทัศนียภาพรอบพิพิธภัณฑ์อีกด้วย
ผู้ใหญ่ 50 บาท
เด็กที่มีความสูง 90-135 เซนติเมตร 30 บาท
เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร พระภิกษุ สามเณร ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ต่างๆ เข้าชมฟรี
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
สถานที่จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับปลาและสัตว์น้ำจืดชนิดต่าง ๆ ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง หลังแรกเป็นทั้งสำนักงาน ห้องโถง ห้องบรรยาย และห้องนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับปลา สัตว์น้ำจืดและอุปกรณ์จับปลา
อาคารหลังที่ 2 แบ่งเป็น 2 ส่วน ชั้นล่างจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภายในมีการจัดแสดงสัตว์สตัฟฟ์ มีตู้ปลาขนาดเล็กรอบอาคาร 24 ตู้ และเป็นอุโมงค์แก้วให้เดินชมปลาใต้น้ำได้ ชั้นบนจะเป็นบ่อพักน้ำและแหล่งสำรองพันธุ์สัตว์น้ำ โดยปลาทั้งหมดที่นำมาจัดแสดง จะเป็นปลาจากแม่น้ำโขง แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ที่นี่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าชม หากใครอยากช่วยเหลือจะเป็นการให้บริจาคค่าอาหารสัตว์น้ำแทนที่ตู้บริจาคแทน
ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองศรีสะเกษ
เป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) เป็นอาคารจัดแสดงพันธุ์ปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาสวยงามและปลาหายากมากมาย
ภายในแบ่งออกเป็น 7 โซน เรียงต่อกันเป็นรูปตัวยู (U) ดังนี้
โซนที่ 1 โซนแนวปะการัง
จัดแสดงปลาสวยงามขนาดเล็กถึงปานกลางอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง
โซนที่ 2 โซนห้วงมหาสมุทร มหัศจรรย์ผู้ล่า
จัดแสดงระบบนิเวศใต้ทะเลและพันธุ์ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาฉลาม ปลาเก๋า ปลากระเบน หมึก
โซนที่ 3 โซนปลาสวยงามนิยมเลี้ยง
จัดแสดงปลาสวยงามที่เป็นที่นิยมเลี้ยง ตัวอย่างเช่น ปลาการ์ตูน ปลาสิงโต
โซนที่ 4 โซนความลึกลับใต้ลุ่มน้ำ
มีอุโมงค์แก้วให้เดินลอดใต้น้ำ มีการจำลองระบบนิเวศใต้แม่น้ำโขงไว้ มีปลาน้ำจืดหายากอยู่รวมกันหลายชนิด ทั้ง ปลาบึก ปลากระโห้ ปลาสวายเผือก ปลากระเบนราหู ปลาเทพา
โซนที่ 5 โซนป่าดิบชื้น
จัดแสดงระบบนิเวศของแต่ละลุ่มน้ำไว้ มีปลาที่หลายคนรู้จักอย่า ปลาเสือพ่นน้ำ ปลาม้า ปลาชะโด ฯลฯ จัดแสดงอยู่ด้วย
โซนที่ 6 โซนระบบนิเวศแหล่งน้ำใหญ่
จัดแสดงระบบนิเวศของแหล่งน้ำไหลเช่นแม่น้ำ ลำคลอง ลำธารตามธรรมชาติ ที่จะสามารถพบปลาที่อยู่รวมกันเป็นฝูงได้ เช่น ปลาตะเพียนทอง ปลาเนื้ออ่อน ปลาคู้ ฯลฯ
โซนที่ 7 สปาปลาและร้านจำหน่ายของที่ระลึก
ตั้งอยู่บริเวณทางออก มีสปาปลาที่เท้าและร้านขายของที่ระลึกให้เลือกอุดหนุนหรือซื้อเป็นของฝากติดตัวกลับบ้านได้
ผู้ใหญ่ 30 บาท
เด็ก 20 บาท
เด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร พระภิกษุ-สามเณร (ในวันพระ) ผู้สูงอายุและผู้พิการ เข้าชมฟรี
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา
หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “บางแสนอควาเรียม” อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมายในช่วงที่ผ่านมา ตั้งอยู่ด้านหน้าของมหาวิทยาลัยบูรพา ภายในสามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลินแถมได้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และชีววิทยาทางทะเล ไปจนถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ ในน่านน้ำทะเลไทยได้เป็นอย่างดี
ภายในประกอบด้วย 2 อาคารเชื่อมต่อกันโดยอาคารแรกจัดแสดงทั้งปลาสวยงาม สัตว์ทะเลมีพิษ แมงกะพรุนเรืองแสง ตู้ปลาขนาดใหญ่ มีส่วนให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตน่านน้ำของไทย
ส่วนอีกอาคารพึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ได้ไม่นาน ภายในมีตู้แสดงพันธุ์สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ จำนวนถึง 3 ตู้ มีตู้ทรงกระบอกที่จัดแสดงพันุธ์ปลาที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงและอุโมงค์ใต้น้ำขนาดใหญ่ให้เดินดูปลาทะเลได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
เด็ก 40 บาท
ผู้ใหญ่ 80 บาท
เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร ผู้มีอายุเกิน 60 ปี พระภิกษุ และผู้มีความผิดปกติทางร่างกาย(แสดงบัตร) เข้าชมฟรี
