เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยม่อนจอง ระยะทางเดินเท้า 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเฉลี่ยประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่ละคน เป็นเส้นทางเดินป่าระดับง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นหัดเดินป่า เพราะเส้นทางเดินเท้าค่อนข้างชัดเจน ทางเดินจะชันมากในช่วงเนินแรกและเนินสุดท้ายก่อนถึงทุ่งหญ้าโล่งบนสันเขา
ดอยม่อนจองต้องพักค้างแรมที่จุดกางเต็นท์ยอดดอย 1 คืน นักท่องเที่ยวต้องนำอุปกรณ์กางเต็นท์และค้างแรมมาเอง รวมทั้งเสบียงอาหาร สามารถประกอบอาหารบริเวณจุดกางเต็นท์ได้ มีลูกหาบเป็นชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการช่วยขนสัมภาระและดูแลตลอดการเดินทางไปกลับ บริเวณจุดลงทะเบียนยืนยันตัวตน จุดเริ่มต้นเดินเท้า จุดกางเต็นท์บนดอย และจุดสูงสุดยอดดอยที่ผาหัวสิงห์ มีเจ้าหน้าเขตฯ คอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเช่นกัน
วิธีเดินทางไปยังยอดดอยม่อนจอง
1. ลงทะเบียนขออนุญาตและจองสิทธิ์เดินป่าล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 วัน
2. ยืนยันตัวตนในวันเดินป่า ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)
3. นั่งรถโฟร์วีลไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ประมาณ 45 นาที
4. เดินเท้าไปจุดกางเต็นท์บนสันดอย ประมาณ 4 กิโลเมตร
5. เดินเท้าจากจุดกางเต็นท์ไปยอดดอยบริเวณผาหัวสิงห์ ประมาณ 1 กิโลเมตร
ที่ตั้ง: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wThQ4JDtoWFKdbop8
ช่วงฤดูกาลเปิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ: เดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี
ดอยม่อนจอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 240 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง) ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพื่อทำเรื่องรายงานตัวตอน 08.00 น. เป็นต้นไป ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรแวะพักค้างคืนยังที่พักเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียง หรือออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจากไหนก็ตาม เพื่อกะเวลามาให้ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ในช่วงเช้าตรู่ เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ติดตามและอัปเดตข้อมูลการเดินขึ้นม่อนจองได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ป่าตึง) Facebook page: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย – Omkoi Wildlife Sanctuary
สอบถามข้อมูลเรื่องการอนุญาตและการจองสิทธิ์ได้ตามช่องทางดังนี้
โทร. 08 3482 1983
Line id: omk1983
การเดินทางไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง):
จากถนนสายหลัก ทางหลวงหมายเลข 108 (ฮอด-แม่สะเรียง) วิ่งมาจนถึงตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด เลี้ยวซ้ายเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 1099 ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)
พิกัดที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)
https://maps.app.goo.gl/1gknr3GgG1P3dMCU8
เมื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้ว จากนั้นขนสัมภาระเปลี่ยนไปนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านที่จองไว้ พร้อมลูกหาบ เข้าป่าไปอีกประมาณ 45 นาที ไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องไปถึงจุดเริ่มต้นเดินเท้าก่อน 12.00 น. ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อาจไม่ให้ขึ้นดอย เพราะเกรงว่าจะมืดค่ำระหว่างทาง
สอบถามและติดต่อเรื่องรถโฟร์วีลและลูกหาบได้ที่
Facebook page: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง – บ้านมูเซอ
โทร. 09 3731 0626
เมื่อถึงจุดเริ่มเดินเท้า แต่ละคนต้องแยกสัมภาระที่จะต้องแบกด้วยตัวเอง เช่น ของมีค่าส่วนตัว น้ำดื่ม ยารักษาโรคประจำตัว เสบียงอาหารหรือขนมเติมพลังระหว่างทาง เป็นต้น และสัมภาระส่วนกลางที่จะให้ลูกหาบแบกให้ เช่น อุปกรณ์เต็นท์และเครื่องนอน อุปกรณ์ประกอบอาหาร น้ำดื่มแบบขวด เป็นต้น
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็เริ่มออกเดินเท้าขึ้นยอดดอยม่อนจอง
เส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จากจุดเริ่มเดินเท้า-จุดกางเต็นท์บนสันดอย ลักษณะเส้นทางเดิน
ช่วงที่ 1 เปรียบเหมือนช่วงวัดใจ เดินข้ามเขาลูกแรก มีความชันค่อนข้างมาก อาจรู้สึกเหนื่อยหอบได้ง่าย เพราะร่างกายอาจยังปรับสภาพไม่ทัน แต่ระยะทางช่วงไม่ไกล มีเส้นทางเดินชัดเจน ผ่านป่าสนลมเย็นสบาย มีจุดให้แวะนั่งพักระหว่างทาง
ช่วงที่ 2 เริ่มเดินเข้าป่าทึบ มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มและมีไม้ล้มลุกขึ้นตามพื้นดิน เป็นทางค่อนข้างราบ ไม่ค่อยมีทางชัน
ช่วงที่ 3 เริ่มเดินขึ้นสันเขาอีกลูก ทางโล่งมีลมพัดเย็น แต่แสงแดดก็แรงเช่นกัน เห็นทิวทัศน์สันเขาตลอดทาง มีจุดไฮไลต์ คือ ลานหินช่อ ลักษณะเป็นก้อนหินสูงซ้อนกัน สามารถปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ เมื่อเดินมาถึงจุดนี้แสดงว่าเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว และบริเวณใกล้กับลานหินช่อ มีแนวร่มไม้ใหญ่บนสันเขาให้นั่งพักผ่อน เป็นจุดที่นักเดินป่าและลูกหาบนิยมแวะพักทานมื้อเที่ยงกัน
ช่วงที่ 4 เริ่มเดินเข้าป่าทึบอีกครั้ง สลับเดินขึ้นลงเนินอีกเล็กน้อย ไม่ชันมาก และระยะทางไม่ไกล เดินจนพ้นชายป่า จะพบทางเดินขึ้นสันเขาโล่งกว้าง จุดนี้เรียกว่า ดอยหมาหอบ ลักษณะเป็นทางเดินขึ้นสันเขาที่มีความชันมากที่สุดในเส้นทางเดินขึ้นม่อนจอง ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 200 เมตร เท่านั้น แต่อากาศร้อนมาก เพราะเป็นทุ่งหญ้าโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย นักเดินป่าส่วนใหญ่จะต้องได้นั่งพักหอบแฮกกลางทุ่งหญ้าระหว่างทาง อย่างน้อยคนละ 1 ครั้ง ก่อนจะฝืนใจดันตัวเองเดินขึ้นสู่สันเขา
เมื่อเดินขึ้นมาถึงสันเขา และมองกลับไปยังทางที่ขึ้นมาของดอยหมาหอบ
หลังผ่านดอยหมาหอบ ก็จะเป็นทางเดินบนสันเขาและทุ่งหญ้า
ช่วงที่ 5 เป็นทางเดินไปตามสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้าโล่ง ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะพบทางเดินตัดลงไปในหุบเขาทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์บนดอยม่อนจอง เดินตัดจากทุ่งหญ้าสันเขาลงมาเพียง 100 เมตร ถึงจุดกางเต็นท์
บริเวณจุดกางเต็นท์จะอยู่ชายป่า มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา มีห้องน้ำให้บริการ และมีสำนักงานชั่วคราวของเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ คอยดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตลอดเวลา
ปกติหากเริ่มเดินเท้าจากจุดเริ่มเดินช่วงประมาณ 10.00 น. ส่วนมากจะเดินมาถึงจุดกางเต็นท์กันไม่เกิน 15.00 น.
เมื่อจัดการกางเต็นท์ เก็บสัมภาระ และพักผ่อนกันแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินไปชมทิวทัศน์และแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ตก ณ จุดสูงสุดยอดดอย ที่เรียกว่า “ผาหัวสิงห์” ซึ่งห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 1-1.5 กิโลเมตร
ไฮไลต์ของม่อนจองอยู่ที่บรรยากาศแสงยามเย็น เพราะแสงอาทิตย์ยามสาดสะท้อนภูเขาหญ้าสีทองนั้น ให้ความรู้สึกสวยสะกดสายตาอย่างมาก ฉะนั้นแนะนำให้พยายามทำเวลา เริ่มเดินขึ้นดอยอย่าสายจนเกินไป จะได้มาถึงจุดกางเต็นท์เร็ว ๆ และมีเวลาเดินเล่นเก็บบรรยากาศยามเย็น
ผาหัวสิงห์ จุดสูงสุดของดอยม่อนจอง มีความสูง 1,929 เมตร จากระดับน้ำทะเล
บนสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งใกล้กับจุดกางเต็นท์ มีชื่อเรียกว่า สนามกอล์ฟช้าง เพราะเป็นจุดที่ในบางช่วงเวลา เช่น ในฤดูฝนหรือฤดูแล้ง (ช่วงที่ปิดการเดินขึ้นม่อนจอง) มักมีช้างป่าเดินขึ้นมาจากหุบเขาด้านล่าง มาหากินและเดินเล่นบริเวณทุ่งหญ้าสันเขา
นอกจากนี้ เมื่อมองจากระหว่างทางจากจุดสูงสุดยอดดอยเดินกลับมายังจุดกางเต็นท์ จะเห็นลักษณะของสันเขามีรูปทรงคล้ายช้างมอบ และเหมือนกับว่าเรากำลังเดินอยู่บนหลังช้างตัวนั้น
บรรยากาศสายลมเย็น ทุ่งหญ้าสีทอง ท้องฟ้าสีพาสเทล และพระอาทิตย์กำลังตกดิน
แสงสุดท้ายของวันบนดอยม่อนจองนั้นสวยมาก
ในยามเช้า นักท่องเที่ยวมักจะตื่นนอนและเริ่มออกเดินเท้าไปชมทิวทัศน์บนยอดดอยกันตั้งแต่ 05.00-05.30 น. เพราะจากจุดกางเต็นท์ กว่าจะเดินไปถึงยอดดอยก็ใช้เวลาพอสมควร หากโชคดีก็จะได้พบทะเลหมอกในยามเช้าด้วย
ขาเดินกลับลงจากดอย จะใช้เวลาในการเดินน้อยกว่าตอนขาขึ้น ใช้เวลาเดินเฉลี่ยประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่ละคน อาจเป็นเพราะว่าร่างกายได้ผ่านการยืดเส้นยืดสายและปรับสภาพมาแล้วตอนขาขึ้นนั่นเอง จึงอาจรู้สึกเหนื่อยน้อยกว่า และเริ่มคุ้นชินเส้นทาง
คำแนะนำและข้อควรปฏิบัติในขณะการเดินป่า
– ไม่เดินออกนอกเส้นทาง อาจได้รับอันตรายและพลัดหลงได้
– ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และลูกหาบ
– ไม่เด็ด ถอน ขีดเขียน หรือทำลายต้นไม้พืชพรรณธรรมชาติ
– ไม่ทิ้งขยะตลอดเส้นทาง
– ไม่ส่งเสียงดังรบกวนธรรมชาติและเพื่อนนักเดินป่าร่วมเส้นทาง
– หากรู้สึกเหนื่อย หายใจหอบ หน้ามืด ให้หยุดพักร่างกาย จิบน้ำ จนรู้สึกดีขึ้นค่อยออกเดินต่อ