หยุดยาวคราวนี้ คนที่วางแผนไว้ว่าจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ในภาคเหนือ แต่ยังนึกไม่ออกว่าหลังจากเล่นน้ำแล้วจะไปเที่ยวไหนต่อ วันนี้แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวคลายร้อนในจังหวัดเชียงราย เผื่อเป็นไอเดียให้คนที่กำลังวางแผนการเดินทางอยู่ ไปดูกันว่า ที่ไหนบ้างที่ยังคงมีบรรยากาศเย็นสบาย แม้ในช่วงหน้าร้อน
- 1. วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน – สถานที่ประวัติศาสตร์ใน“ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่” ที่โลกต้องจารึก
- 2. อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) – แหล่งรวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ ศิลปวัตถุของล้านนา
- 3. น้ำตกขุนกรณ์ – เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติที่ร่มรื่นเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน
วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 คงแทบไม่มีใครไม่รู้จักถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่ 13 ชีวิต ปฏิบัติการนี้ไม่เพียงได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก แต่ยังทำให้ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน
วันนี้แอดจะพาไปเที่ยวชม วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ที่ขณะนี้ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่หลายลูกทอดตัวต่อกันในแนวเหนือ-ใต้ โดยลาดชันมาทางทิศตะวันออก มีลักษณะคล้ายกับผู้หญิงนอน จึงเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ดอยนางนอน” ในส่วนของถ้ำหลวงมีความยาวถึง 10.3 กิโลเมตร
ก่อนหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ฯ นี้ ถ้ำหลวงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนท้องถิ่นนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันอยู่แล้ว เพราะภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงาม
บริเวณด้านหน้าถ้ำหลวง เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตทหารประจำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หนึ่งในทีมค้นหา- กู้ภัย นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอคาเดมี่ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
บริเวณปากถ้ำ มีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติการจริงช่วงสถานการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่า รวมไปจนถึงของใช้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า รถจักรยาน ที่ทีมหมูป่าทิ้งไว้หน้าถ้ำก่อนเข้าไปในถ้ำ
เดินเข้าถ้ำไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นโถงที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงส่วนเดียวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ มีความยาว เกือบ 200 เมตร ใช้เป็นศูนย์บัญชาการของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในการค้นหา-กู้ภัยทีมหมูป่าอคาเดมี่ มีการติดตั้งไฟนำทางเดินตั้งแต่ปากโถง ไปจนถึงส่วนท้ายของโถง
ภายในโถงที่ 1 นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของหินงอกหินย้อย ที่ปรากฏอยู่ทั่วโถง มีการจัดไฟส่องให้เห็นความงามกันชัด ๆ หินงอกหินย้อยภายในถ้ำหลวงเป็นหินปูนที่จะมีน้ำไหลหยดตลอดเวลาในช่วงฤดูฝน
ทางเดินตั้งแต่ปากโถงที่ 1 ไปจนถึงส่วนปลายโถง บางจุดจะแคบและชัน จึงมีการสร้างราวจับ รวมถึงจัดไฟส่องนำทางให้ เนื่องจากแนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ โดยเฉพาะในส่วนโถงถ้ำที่ลึกเข้าไป จะยิ่งเข้าถึงได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนท้ายสุดของโถงที่ 1 จัดแสดงโต๊ะเก้าอี้ของทีมแพทย์และทีมบัญชาการกู้ภัย จุดนี้มีการจัดแสดงแผนที่ส่วนต่างๆภายในถ้ำหลวงพร้อมภาพประกอบ ตั้งแต่โถง 1 ไปจนถึงเนินนมสาว จุดที่พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ซึ่งอยู่ห่างจากปากถ้ำราว 2.3 กิโลเมตร
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวถ้ำหลวงคือระหว่าง เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมถ้ำหลวงได้ถึงบริเวณโถงที่ 1
โดยจะปิดถ้ำห้ามเข้าชมในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี เนื่องจากมักมีน้ำหลากเข้าไปในตัวถ้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ไม่เก็บค่าเข้าชม เพราะอยู่ระหว่างการเตรียมการ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
- ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
- เปิดทุกวันเวลา 8.30 – 16.30 น.
- 09 4603 3511
- https://goo.gl/maps/i1k12N1Wx8hnkxfE6
อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง)
ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ จุดประสงค์เมื่อแรกก่อตั้งไร่แม่ฟ้าหลวง คือ เพื่อเป็นที่พักสำหรับเยาวชนชาวเขาในพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับทุนพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีให้มาศึกษาต่อในเมือง ต่อมาได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
เป็นสถานที่ที่รวบรวมสถาปัตยกรรม งานพุทธศิลป์ และศิลปวัตถุของล้านนาหลากหลายสมัย มีพรรณไม้พื้นถิ่นปลูกไว้หลายชนิด ทั้งยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Award 2006 ประเภท รางวัลดีเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม
ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นปลูกไว้ทั่วทั้งบริเวณ
ภายในอุทยานฯประดิษฐาน พระรูปปั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สร้างจากสัมฤทธิ์ ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์ ผลงานของคุณมีเซียม ยิปอินซอย
หอคำ
สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง รูปทรงอาคารสอบเข้าตามลักษณะเรือนล้านนาโบราณ สไตล์การก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจจากวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ไม้นานาชนิดที่ใช้ก่อสร้างมาจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ รวมกับไม้จากบ้านเก่าจำนวน 32 หลัง ชาวเชียงรายร่วมใจสร้างหอคำนี้เป็นเครื่องไหว้สาแม่ฟ้าหลวง ในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษาเมื่อปี พ.ศ. 2527
ภายในหอคำเป็นที่ประดิษฐานพระพร้าโต้ พระไม้โบราณของล้านนา รวมไปถึงจัดแสดงสัตภัณฑ์หรือเชิงเทียนบูชาไม้แกะสลักโบราณ ศิลปวัตถุและงานพุทธศิลป์ เช่น พระพุทธรูปแบบล้านนา พม่า ตุงกระด้าง และขันดอก
หอแก้ว
เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับไม้สัก และนิทรรศการหมุนเวียนอื่น ๆ
ศิลปวัตถุไม้สัก ที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ งานไม้ในสถาปัตยกรรมไทยต่างๆ เช่น ไม้แกะสลัก ไปจนถึงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวล้านนา อันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่แนบแน่นของชาวเหนือที่มีต่อไม้สักในหลายมิติ
บางชิ้นเป็นศิลปกรรมของสะสมที่มีผู้มอบให้ไว้เพื่อเก็บรักษา
ศาลาแก้ว
เป็นศาลาริมน้ำทรงล้านนาที่มีเอกลักษณ์งดงาม ใช้เป็นอาคารเอนกประสงค์สำหรับกิจกรรมต่างๆ
ปัจจุบันอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง อยู่ภายใต้การบริหารงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
- ชาวไทย 100 บ. ชาวต่างชาติ 200 บ.
- 133 หมู่ 7 บ้านป่างิ้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
- เปิดให้เข้าชม วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
- 0 5371 6605-7
- www.maefahluang.org
- https://goo.gl/maps/tMxzYidsvZ72Xcwd8
น้ำตกขุนกรณ์
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก มีความสูงราว 70 เมตร ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดเชียงราย และเป็นน้ำตกที่ชาวเชียงรายนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว เพราะน้ำในลำธารใสสะอาด และมีน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาทางด้านธรรมชาติ เพราะสภาพป่าบริเวณน้ำตกขุนกรณ์มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เราต้องเดินเท้าระยะทางอีก 1.4 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่ตัวน้ำตก สองข้างทางเดินเป็นป่าร่มรื่น มีที่พักเหนื่อยเป็นระยะ แต่เนื่องจากเป็นทางเดินธรรมชาติและค่อนข้างชันในบางส่วน จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากไม่ให้ลื่นหกล้ม
เมื่อเดินทางมาถึงจุดชมวิวและถ่ายรูปหน้าตัวน้ำตก เราจะได้สัมผัสกับละอองฝอยของน้ำตกที่มากระทบผิว ในฤดูที่มีน้ำมากนี่ถึงกับตัวเปียกกันเลยทีเดียว แนะนำให้นำถุงมาใส่กล้องและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อกันความชื้นจากละอองน้ำ
น้ำตกขุนกรณ์จะปิดให้บริการประมาณกรกฎาคม – ตุลาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกหนัก ทางเดินเข้าน้ำตกจะลื่นและเป็นโคลน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศของพื้นที่ไปด้วยในคราวเดียวกัน
ผู้สนใจมากางเต็นท์พักแรมสามารถมาได้ในฤดูท่องเที่ยว ไม่มีค่าธรรมเนียม ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวจะบริจาคเป็นค่าบำรุงรักษา อุทยานฯมีอุปกรณ์กางเต็นท์ให้เช่าโดยนักท่องเที่ยวต้องติดต่ออุทยานล่วงหน้า บริเวณจุดกางเต็นท์มีห้องน้ำ แต่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านค้าให้บริการ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอาหารไปเอง
- อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
- เปิดทุกวันเวลา 8.30 – 16.30 น.
- 08 3764 6475
- https://goo.gl/maps/fpVvuj6Bce4ZZ7fv5
การเดินทางภายในจังหวัด : วีธีที่สะดวกที่สุดคือการเช่ารถจากสนามบินเชียงราย หรือจากบริษัทให้เช่ารถต่างๆในตัวเมือง