ปักหมุด 50 จุดชมวิวฤดูหนาว

50 จุดชมวิวฤดูหนาว ที่เหมาะกับการชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และมวลหมู่ดาวในยามค่ำคืน จะมีที่ไหนบ้างตามมาชมกัน

1. ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า มีความสูง 1,628 เมตร จากระดับทะเล บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นสันเขาและทุ่งหญ้า มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งลาว สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา มองเห็นทิวเขาอันสลับซับซ้อนได้ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ตกก็สวยงามไม่แพ้กัน

บริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้ามีที่พักและร้านอาหารให้บริการหลายแห่ง และมีบริการรถกระบะรับส่งจากที่พักไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นยอดภู ระยะทางเดินเท้าประมาณ 700 เมตร หากต้องการขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้เผื่อเวลามาถึงจุดเริ่มเดินขึ้นภูชี้ฟ้าอย่างช้าไม่เกิน 05.30 น.

พิกัดจุดจอดรถยนต์ส่วนตัวและจุดให้บริการรถกระบะขึ้นภูชี้ฟ้า (กรณีไม่ได้พักค้างคืนที่พักบริเวณนี้) : https://maps.app.goo.gl/tnyf1mqvQSBqzbu97
ข้อแนะนำ คือ ควรใส่รองเท้าที่รัดกุมและกันลื่นได้ดี พกไฟฉายเพื่อใช้ส่องสว่างในการเดินขึ้นยอดภูตอนเช้ามืดหรือเดินลงช่วงหัวค่ำ
ตั้งอยู่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/6r7e9UbxGPbKXUY57

2. ภูชี้ดาว
ภูชี้ดาวตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางจากภูชี้ฟ้าไปผาตั้ง โดยอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 12 กิโลเมตร การขึ้นไปยอดภูชี้ดาว ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าเหมาจากที่พักบริเวณใกล้เคียง เช่น ภูชี้ฟ้าหรือผาตั้ง นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ยังลานจอดรถตรงทางขึ้นภูชี้ดาว (ริมถนนทางหลวงหมายเลข 1093) จากนั้นใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นเพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นยอดภูชี้ดาว ระยะทาง 3 กิโลเมตร บริเวณจุดเริ่มเดินเท้ามีร้านค้าและมีห้องน้ำบริการ จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาระยะทาง 350 เมตร ถึงยอดภูชี้ดาว ลักษณะทางเดินขึ้นยอดภู ทางเดินชัดเจน แต่ค่อนข้างชัน

พิกัดจุดจอดรถยนต์ส่วนตัวและจุดให้บริการรถกระบะขึ้นภูชี้ดาว : https://maps.app.goo.gl/iuj2WartBpNCGRLx8
ยอดภูชี้ดาวมีความสูงประมาณ 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลักษณะเป็นสันเขาทอดตัวแนวยาวจากเหนือไปใต้ มีระเบียงไม้กั้นตลอดแนวทางเดินเพื่อป้องกันการพลัดตกลงไปหุบเขาด้านล่าง บริเวณจุดสูงสุดมีหลักกิโลเขตแดนไทยตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา เห็นทิวทัศน์ของทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
ข้อแนะนำ คือ ควรใส่รองเท้าที่รัดกุมและกันลื่นได้ดี พกไฟฉายเพื่อใช้ส่องสว่างในการเดินขึ้นยอดภูตอนเช้ามืดหรือเดินลงช่วงหัวค่ำ
ตั้งอยู่ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/MWzA6gCpiXeotmxM6

3. ภูชี้เดือน
ตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ดาวเพียง 1 กิโลเมตร มีความสูง 1,743 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนภูชี้เดือนสามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอก เห็นทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว

จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 1093 บริเวณทางแยกขึ้นภูชี้เดือน นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ไปถึงจุดเริ่มเดินเท้า จากนั้นก็ต้องเดินเท้าต่อไปอีก 5-10 นาที ถึงยอด ภูชี้เดือน สามารถจัดโปรแกรมเที่ยวภูชี้เดือนและภูชี้ดาวได้ภายในครึ่งวันเช้า เพราะทางขึ้นทั้งสองภูนั้นอยู่ใกล้ ๆ กัน

พิกัดจุดขึ้นรถกระบะขึ้นภูชี้เดือน : https://maps.app.goo.gl/AYTfuMsXuDmtXaxj8
ตั้งอยู่บ้านร่มฟ้าหลวง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/coWaEgZAu6e6nWvf8

4. จุดชมวิวดอยผาหม่น
ดอยผาหม่นเป็นเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว บริเวณจุดชมวิวดอยผาหม่นสามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา ทิศตะวันออกเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวเขาฝั่งลาว และยังมองเห็นแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวไปตามร่องเขาเบื้องล่าง ส่วนทิศตะวันตกเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทิวเขาฝั่งไทย ทางด้านทิศเหนือสามารถมองเห็นยอดดอยผาหม่นตั้งเด่นตระหง่านโดยมีปลายยอดเฉียงชี้ขึ้นฟ้า ส่วนทางด้านทิศใต้มองเห็นสันเขาเป็นแนวยาว ซึ่งตามแนวสันเขานี้มีจุดชมทิวทัศน์ตลอดแนว ได้แก่ ภูชี้เดือน ภูชี้ดาว และภูชี้ฟ้า

บริเวณจุดชมวิวดอยผาหม่น ไม่มีที่พักและไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้เนื่องจากลมแรงมาก แต่มีจุดกางเต็นท์ของชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการ

จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 1093 (ผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า) ไปยังจุดชมวิวเป็นทางวิบาก ระยะทาง 3 กิโลเมตร ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปยังจุดชมวิว ทางชุมชนไม่อนุญาตให้รถยนต์ภายนอกพื้นที่ขับขึ้นไปเอง

จุดขึ้นรถโฟร์วีลจุดหลักอยู่บ้านร่มฟ้าผาหม่น ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1093 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 83 (เส้นทางผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า) เมื่อนั่งรถโฟร์วีลไปถึงลานจอดรถบนดอย ต้องเดินเท้าขึ้นเนินเขาระยะทาง 50 เมตร ถึงจุดชมวิวดอยผาหม่น หากจะไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ควรขึ้นรถโฟร์วีลก่อน 05.30 น.

พิกัดจุดขึ้นรถโฟร์วีลขึ้นดอยผาหม่น
https://goo.gl/maps/Jb7CR8Bb7Jp1LPM87
ตั้งอยู่บ้านร่มฟ้าผาหม่น ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย (ห่างจากบ้านผาตั้ง 6 กิโลเมตร)พิกัด : https://goo.gl/maps/GwEhyoCrq98eLPZb6

5. ดอยผาตั้ง
อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 25 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1093 ดอยนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ปัจจุบันชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ แอปเปิล และชา

ดอยผาตั้งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็นทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว มีจุดชมวิวที่ชื่อว่า “ช่องผาบ่อง” ลักษณะเป็นช่องหินขนาดใหญ่ จุดนี้มองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว หากเดินเท้าต่อไปอีก 1 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิวเนิน 103 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอก

ตั้งอยู่บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/QdjiG8uAVMvE86BGA

6. เนิน 104 ดอยผาตั้ง
ลักษณะเป็นสันเขาโล่ง ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าสลับก้อนหินขนาดใหญ่ สามารถชมทัศนียภาพได้รอบทิศ 360 องศา ทางทิศตะวันออกมองเห็นทิวเขาฝั่งลาวและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ทางฝั่งทิศตะวันตกมองเห็นทิวเขาฝั่งไทยและบ้านผาตั้ง และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่ง หากไปช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม มีโอกาสพบทะเลหมอกในยามเช้า

บริเวณเนิน 104 ดอยผาตั้ง ไม่มีที่พักและไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ ที่พักใกล้เคียงจะอยู่ในหมู่บ้านผาตั้ง จากบ้านผาตั้ง ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อไปยังเนิน 104 เพราะเป็นถนนขรุขระ ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าตามสันเขาซึ่งเป็นทางราบและทุ่งหญ้าประมาณ 350 เมตร ต่อด้วยปีนป่ายก้อนหินอีกประมาณ 50 เมตร ถึงจุดชมวิวเนิน 104

นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ ณ โรงเรียนบรรพตวิทยา และนัดหมายรถขับเคลื่อนสี่ล้อให้มารับ หรือจะให้รถไปรับ-ส่งยังที่พักในหมู่บ้านผาตั้งก็ได้ สามารถติดต่อที่พักบ้านผาตั้งให้ช่วยประสานรถขับเคลื่อนสี่ล้อให้ หากจะไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ควรขึ้นรถและออกเดินทางก่อน 05.30 น.

ตั้งอยู่บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/EYQQAMedB2Ds35h19

7. ดอยช้าง
มีความสูง 1,485 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นเยี่ยม ตามเส้นทางถนนขึ้นดอยช้าง (ทางหลวงชนบท ชร. 5047) มีแหล่งท่องเที่ยว จุดชมทิวทัศน์ ที่พัก ร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการตลอดเส้นทาง

บนดอยช้างเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย มีจุดกางเต็นท์ให้บริการ และเป็นจุดชมนางพญาเสือโคร่งที่จะผลิบานในฤดูหนาวช่วงปลายปีถึงเดือนมกราคม

ตามเส้นทางก่อนถึงยอดดอยเป็นที่ตั้ง “พุทธอุทยานดอยช้าง” มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ และรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณให้สักการะ ถัดจากพุทธอุทยานดอยช้างตามถนนขึ้นสู่ยอดดอยประมาณ 2 กิโลเมตร คือ “จุดชมวิวยอดดอยช้าง” มีศาลาชมทิวทัศน์และป้ายบอกระดับความสูง 1,485 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกและทัศนียภาพของบ้านดอยช้าง รวมทั้งทิวเขาสลับซับซ้อน ในวันที่ทัศนวิสัยปลอดโปร่ง สามารถมองเห็นได้ไกลถึงยอดดอยหลวงเชียงดาวในจังหวัดเชียงใหม่

ตั้งอยู่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/R7QSdtGoJNeXz8ZH9

8. สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง
เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว ตั้งอยู่ใกล้กับพระตำหนักดอยตุง บนความสูง 950 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภายในสวนได้รับการออกแบบตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด มีการจัดสวนหมุนเวียนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ไม้ดอกไม้ประดับในสวนแห่งนี้จะดูสวยงามมากที่สุด

จุดแลนด์มาร์กของสวนแม่ฟ้าหลวง คือ งานประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อว่า “ความต่อเนื่อง” ภายในพื้นที่สวนมีร้านกาแฟและห้องน้ำให้บริการ

ตั้งอยู่บนดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iuSwFzmrH1Q5bjQX9
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.30-18.00 น.
เว็บไซต์ : www.doitung.org

9. ฐานปฏิบัติการทหารดอยช้างมูบ
ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ เป็นหน่วยกำลังป้องกันชายแดนไทย-เมียนมา ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1149 ซึ่งเป็นถนนที่ชิดแนวเขตชายแดนระหว่างสองประเทศ มีความสูงประมาณ 1,485 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางจากดอยตุงไปบ้านผาฮี้ ได้มีการปรับพื้นที่บางส่วนเป็นจุดชมทิวทัศน์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนียภาพของภูเขาและหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ชายแดนในเขตเมียนมา ช่วงเวลาเช้าอาจมีโอกาสพบเจอทะเลหมอก บริเวณจุดชมทิวทัศน์มีร้านกาแฟและห้องน้ำให้บริการ

ตั้งอยู่ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
พิกัด : https://goo.gl/maps/4jCyKFwiUZDYWZRP7

10. บ้านผาฮี้
หมู่บ้านชาวอาข่า ตั้งอยู่บนดอยสูง ระหว่างทางจากดอยช้างมูบลงมาสู่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยปลูกฝิ่น แต่ภายหลังราวปี พ.ศ. 2524 ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้ปลูกกาแฟ มีโครงการพัฒนาดอยตุงเข้ามาเปิดแปลงทดลองวิจัยกาแฟเมื่อปี พ.ศ. 2531 ทำให้ชาวบ้านผาฮี้หันมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก

ไฮไลต์ของบ้านผาฮี้ คือ ทิวทัศน์ของภูเขาที่มีช่องระหว่างเขาสองลูก มองเห็นทิวทัศน์อำเภอแม่สาย เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และมีทะเลหมอกให้ได้ชมในช่วงฤดูหนาวและช่วงหลังฝนตก ปัจจุบันในหมู่บ้านมีที่พัก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ให้บริการหลายแห่ง

ตั้งอยู่ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GrVdM41zTRS4W4CC7

11. ดอยแม่สลอง
ในอดีตเป็นชุมชนทหารจีนกองพล 93 ที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐาน ในเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศหนาว จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งตลอดทางขึ้นดอยแม่สลอง บนดอยแม่สลองยังเป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญของประเทศไทย นักท่องเที่ยวเข้าชมไร่ชาและเลือกซื้อชา รวมถึงอุปกรณ์ชงชาแบบต่าง ๆ

สถานที่สำคัญซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของดอยแม่สลอง คือ “พระธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี” ตั้งอยู่บนยอดดอยแม่สลอง มีความสูงประมาณ 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

ตั้งอยู่บ้านสันติคิรี ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายพิ
กัด : https://maps.app.goo.gl/DAhvCzkoYv1vNukv5

12. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์มีความสูง 2,565 เมตรจากระดับทะเล เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เช่น ยอดดอยอินทนนท์ (จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์) เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางศีกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่ยะ ฯลฯ

ตั้งอยู่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Qs46GGZUE7eoNL4f7

13. ดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางมียอดดอยสูง 1,928 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นสบายตลอดปีและหนาวจัดในช่วงฤดูหนาว บนดอยอ่างขางเป็นที่ตั้งของ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” เป็นแหล่งทดลองและส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชเมืองหนาวเป็นอาชีพ และมีแปลงปลูกต้นซากุระสายพันธุ์จากญี่ปุ่น ซึ่งจะผลิบานให้ได้ชมในช่วงต้นปี พร้อมกับสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวนานาชนิด

นอกจากนี้ยังมี “จุดชมวิวกิ่วลม” ที่สามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขา พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ รวมถึงทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว และที่ “ไร่ชา 2000” เป็นจุดที่สามารถชมนางพญาเสือโคร่งทั้งสีขาวและสีชมพูผลิบานในช่วงต้นปี รวมทั้งสามารถเดินชมไร่ชาและแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รีในพื้นที่ใกล้เคียงได้ด้วย

ตั้งอยู่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QfyMAHqQiR1ytioZ7

14. ป่าสนบ้านวัดจันทร์
ป่าสนบ้านวัดจันทร์ เป็นป่าสนธรรมชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ในพื้นที่ที่ทำการป่าสนบ้านวัดจันทร์ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้บริการ

บริเวณใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีอ่างเก็บน้ำที่โอบล้อมด้วยป่าสน ในยามเช้าจะพบสายหมอกลอยเหนือผืนน้ำและทิวสน งดงามราวกับอยู่ในความฝัน

นักท่องเที่ยวสามารถจองบ้านพักล่วงหน้าได้ที่
https://facebook.com/PasonWatchan

สำหรับการเดินทาง มีรถโดยสารประจำทางไปถึง คือ รถสองแถว (สีเหลือง) สายเชียงใหม่-กัลยาณิวัฒนา (บ้านวัดจันทร์) จุดขึ้นรถอยู่ที่สถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ รถออกวันละ 2 รอบ คือ เวลา 09.00 น. และ 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ตั้งอยู่ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fCdKmzGBeP51j4SD7

15. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
จุดชมวิวหลักของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง คือ “จุดชมวิวดอยกิ่วลม” มีความสูง 1,615 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกยามในยามเช้า มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวเด่นสง่ากลางทะเลหมอก และในยามค่ำคืนสามารถชมดาวและทางช้างเผือกได้อย่างสวยงาม

บริเวณจุดชมวิวมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึกไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

ตั้งอยู่ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/34ESxTgTcY47G9F58

16. ห้วยกุ๊บกั๊บ
เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอที่ตั้งอยู่บนดอยสูงและยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย บริเวณหมู่บ้านเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาสลับซับซ้อน ทะเลหมอกในยามเช้า และแสงไฟบ้านเรือนจากตัวอำเภอแม่แตง

ในหมู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บมีที่พักแบบเรียบง่ายให้บริการนักท่องเที่ยวหลายแห่ง และมีบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อรับส่งจากตีนดอยขึ้นไปยังหมู่บ้าน เพราะเส้นทางเป็นดินโคลนขรุขระและค่อนข้างชัน

หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม อากาศจะชุ่มชื่น มีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้มากกว่าฤดูอื่น ส่วนในฤดูหนาวก็มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกเช่นกัน แต่สีของท้องฟ้าทั้งยามเช้าและยามเย็นจะสวยงามกว่า

ตั้งอยู่ตำบลแก่งกี๊ด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DtJUF9pnwtoM4j1A9

17. สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน
สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ อยู่ในความดูแลของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลที่พักได้ที่ คณะเกษตรศาสตร์ มช. โทร. 0 5394 8403 (ในวันและเวลาราชการเท่านั้น)

จุดเด่นของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ คือ สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว ยอดเขาที่สูงอันดับ 3 ของประเทศ ในมุมมองที่สวยงาม และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า กับแสงไฟจากตัวอำเภอเชียงดาวในยามค่ำคืน

ห่างจากสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะประมาณ 500 เมตร เป็นที่ตั้งของ “หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน” มีบ้านพักให้บริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 06 5879 1228 (เฉพาะในเวลาราชการ)

จุดเด่นของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน คือ การชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ทั้งสามารถมองเห็นแสงไฟยามค่ำคืนของบ้านเรือนในเขตตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว และหากโชคดีอาจพบเจอทะเลหมอกในยามเช้า

การเดินทางไปยังสันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น และเปิดเส้นทางให้ขึ้นไปท่องเที่ยวได้ในช่วงฤดูหนาว ติดตามข่าวสาร สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน ข้อมูลที่พักและบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ได้ที่

สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน หรือโทร. 08 5620 3612

ตั้งอยู่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qP8qo18v1HVQRVQT6

18. เมืองคอง
เมืองคองเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเชียงดาว ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบเล็ก ๆ โอบล้อมด้วยภูเขาสูง บริเวณพื้นที่ราบชาวบ้านจะปลูกข้าว ส่วนพื้นที่เชิงเขาจะปลูกข้าวโพด มีลำคลองไหลผ่านในพื้นที่และมีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง

มีจุดชมทะเลหมอกที่ถือเป็นไฮไลต์ของเมืองคอง คือ “จุดชมวิวเด่นทีวี” สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า และสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้ด้วย การขึ้นมายังจุดชมวิวเด่นทีวีต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เป็นเส้นทางขรุขระและค่อนข้างชัน สามารถติดต่อที่พักในตำบลเมืองคองเพื่อช่วยจัดการจองรถขับเคลื่อนสี่ล้อพาไปยังจุดชมวิว

การเดินทางมายังเมืองคอง นอกจากใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังมีรถสองแถวประจำทางให้บริการจากตัวอำเภอเชียงดาววันละ 1 รอบ รถออกเวลา 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลรถสองแถวได้ที่ โทร. 09 8783 7217 (ป้าสมบุญ)

ตั้งอยู่ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PZ7368vHKqRSy2VNA

19. ฮาดู่บิ
“ฮาดู่บิ” คือ จุดชมวิวที่มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวท่ามกลางทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ในยามเช้า อีกทั้งยังเป็นจุดชมดาวและทางช้างเผือกในยามค่ำคืนที่สวยงามอีกแห่ง เพราะบริเวณจุดชมวิวตั้งอยู่บนเนินเขาและเป็นพื้นที่เปิดโล่ง

ในหมู่บ้านเลาวูซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซู มีที่พักให้บริการนักท่องเที่ยวหลายแห่ง และมีรถรับส่งจากที่พักในหมู่บ้านไปยังจุดชมวิวฮาดู่บิด้วย

จากสถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ มีรถตู้โดยสารสายเชียงใหม่-เวียงแหง วิ่งผ่านหน้าหมู่บ้านเลาวู สามารถลงที่หน้าหมู่บ้านและนัดหมายให้ที่พักบริเวณนั้นมารับได้ ส่วนขากลับสามารถติดต่อคิวรถตู้โดยสารให้แวะรับที่หน้าหมู่บ้านได้ด้วย เบอร์ติดต่อรถตู้โดยสาร โทร. 06 4198 6395

ตั้งอยู่บ้านเลาวู อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rEfnyLWqG5USrDSJ6

20. ดอยแม่โถ
ลักษณะภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างบนยอดดอย ชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า ในวันที่ทัศนวิสัยเปิดโล่ง สามารถมองเห็นดอยอินทนนท์ได้ด้วย ในเวลากลางคืนสามารถชมดาวและทางช้างเผือกได้สวยงามไม่แพ้ที่อื่น เพราะบริเวณนี้ห่างไกลชุมชน ไม่ค่อยมีแสงไฟจากบ้านเรือนรบกวน จึงทำให้เห็นดาวชัดเจน

บนยอดดอยสามารถกางเต็นท์ได้ มีห้องน้ำให้บริการ สอบถามพื้นที่กางเต็นท์บนยอดดอยแม่โถ ได้ที่ 08 4371 0640, 09 6670 7053

ตั้งอยู่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WkSm5iLprpuAttvY6

21. บ้านขุนแปะ
บ้านขุนแปะเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บนดอยสูง มีศูนย์กลางชุมชนที่มักเป็นจุดเช็กอินสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เพราะตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านและอยู่ริมถนนสายหลัก มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น นาขั้นบันได (ในช่วงฤดูฝน) ยอดดอยบ่ะโจ๊ะโข่ว ที่สามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา และสวนไฮเดรนเยีย เหมาะกับการมาท่องเที่ยวทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว

บ้านขุนแปะมีที่พักให้บริการนักท่องเที่ยวหลายแห่ง และที่พักทุกแห่งจะมีบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อพาไปท่องเที่ยวจุดที่น่าสนใจรอบหมู่บ้าน เช่น นาขั้นบันได ยอดดอยบ่ะโจ๊ะโข่ว และสวนไฮเดรนเยีย

ตั้งอยู่ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XMBwFuNM65W7AfWt7

22. ดอยกองมู
บนยอดดอยกองมูเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุดอยกองมู มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยพระเจดีย์สีขาว 2 องค์ ตั้งอยู่คู่กัน เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่และพม่า บริเวณวัดยังมีลานชมทิวทัศน์ที่มองเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกในยามเช้า และชมพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางทิวเขาอันสลับซับซ้อนที่สวยงาม

บริเวณลานชมทิวทัศน์มีร้านกาแฟและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้บริการ สามารถนำรถยนต์ขึ้นมาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังวัดได้

ตั้งอยู่ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dgmArpvKunrr5iRu6

23. ปางอุ๋ง
โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) เป็นอ่างเก็บน้ำบนดอยสูง โอบล้อมด้วยป่าสนธรรมชาติ มีทัศนียภาพสวยงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ท่ามกลางสายหมอกที่ลอยปกคลุมเหนือผืนน้ำและป่าสน มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และร้านอาหารให้บริการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ชมบรรยากาศในอ่างเก็บน้ำด้วย

สอบถามข้อมูลบ้านพักริมอ่างเก็บน้ำปางอุ๋งได้ที่ โทร. 0 5361 1244 นอกจากนี้ยังมีบ้านพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านรวมไทย บริเวณทางเข้าปางอุ๋งให้บริการอีกหลายแห่ง

มีรถสองแถว (สีเหลือง) สายแม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง คิวรถจอดอยู่หน้าตลาดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) ให้บริการวันละ 2 รอบเวลา ดังนี้

แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง เวลา 09.15 น. / 15.30 น.
ปางอุ๋ง-แม่ฮ่องสอน เวลา 05.30 น. / 11.30 น.
โทร. 08 1288 0841, 08 7176 7892, 09 4358 9549

ตั้งอยู่บ้านรวมไทย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/i5PRo5FG397ajhvm6

24. บ้านรักไทย
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านส่วนใหญ่อพยพมาจากทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง กลางหมู่บ้านมีอ่างเก็บน้ำ ที่ในยามเช้ามักปรากฎสายหมอกลอยเหนือผืนน้ำให้ได้ชม

บ้านเรือนของชาวบ้านที่นี่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่เป็นบ้านดิน มีสถาปัตยกรรมแบบจีน อาหารพื้นเมืองเป็นตำรับจีนตอนใต้แถบมณฑลยูนนาน และมีชาสายพันธุ์ดีให้ได้ชิมและซื้อเป็นของฝากด้วย

ในหมู่บ้านรักไทยมีที่พัก ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้บริการหลายแห่ง

ตั้งอยู่ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nquwh16UgS3jH4Gq8

25. บ้านจ่าโบ่
เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ บ้านเรือนสร้างด้วยไม้ และยังคงใช้ภาษารวมทั้งเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม บริเวณโดยรอบหมู่บ้านเป็นภูเขาหินปูน มีจุดชมวิวทะเลหมอกหลายจุด

จุดที่เป็นไฮไลต์คือ “จุดชมวิวภูผาหมอก” เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านจ่าโบ่ การขึ้นไปบนจุดชมวิวนี้ต้องอาศัยการปีนป่ายเล็กน้อย บนยอดเขาสามารถชมทัศนียภาพได้รอบทิศ 360 องศา และมองเห็นบ้านจ่าโบ่ในมุมสูง

ในหมู่บ้านจ่าโบ่มีที่พักแบบโฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกหลายแห่ง

ตั้งอยู่ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/64wKPrf7824gr4so9

26. จุดชมวิวกิกอคอ
บ้านห้วยเฮี๊ยะเป็นชุมชนชาวลาหู่ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและรายล้อมธรรมชาติอันสมบูรณ์ ห่างจากบ้านจ่าโบ่ประมาณ 11 กิโลเมตร ชาวบ้านมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยมากอีกแห่ง ในหมู่บ้านมีที่พักแบบโฮมสเตย์และสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว

ติดตามและสอบถามข้อมูลจุดชมวิวกิกอคอ ได้ที่ จุดชมวิวกิกอคอบ้านห้วยเฮี๊ยะ

ตั้งอยู่บ้านห้วยเฮี๊ยะ ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FoB87cTS2MpAHxTx5

27. จุดชมวิวหยุนไหล
เป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดในอำเภอปาย นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลหมอกที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่และทัศนียภาพของตัวเมืองปายจากระเบียงชมวิว

นักท่องเที่ยวต้องจอดรถยนต์ไว้ที่ลานจอดรถหมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน และใช้บริการรถกระบะรับส่งไปยังจุดชมวิวที่อยู่บนเขา ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร

บริเวณจุดชมวิวมีที่พัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟให้บริการ

ตั้งอยู่หมุ่บ้านสันติชล อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/o1Ph1kiFKFuWDEBc7

28. ดอยพุ่ยโค
ดอยพุ่ยโคเป็นยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า ได้รับการขนานนามว่าดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง บนยอดดอยสามารถเป็นจุดชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก พระอาทิตย์ตก เหมาะกับการชมดาวและทางช้างเผือกในยามค่ำคืน

จากตัวอำเภอสบเมยไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นดอยพุ่ยโค มีระยะทาง 14 กิโลเมตร ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเส้นทางค่อนข้างขรุขระ จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดดอย ระยะทาง 850 เมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ช่วงเวลาเหมาะสมในการท่องเที่ยวเพื่อชมบรรยากาศของทุ่งหญ้าสีทอง คือ เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์

บนยอดดอยสามารถกางเต็นท์ค้างแรมได้ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณ์กางเต็นท์และอุปกรณ์ประกอบอาหารมาเอง มีห้องน้ำให้บริการ หากไม่อยากค้างแรมบนยอดดอยก็สามารถเดินขึ้นไปชมวิวในตอนเช้ามืดได้ โดยควรนั่งรถมาถึงจุดเริ่มเดินเท้าก่อนเวลา 05.30 น. เพื่อขึ้นไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดดอย

สอบถามข้อมูลการกางเต็นท์ บริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อ และลูกหาบช่วยแบกสัมภาระ ได้ที่ โทร. 097-0472260 (ชาติชาย)

ตั้งอยู่บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MVLC2MjQR9DgWrVo9

29. จุดชมวิวทะเลหมอกกลอเซโล
กลอเซโลเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่เงียบสงบในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

จุดชมวิวทะเลหมอกกลอเซโลโอบล้อมไปด้วยขุนเขา ฝั่งตรงข้ามเป็นเมียนมา จึงเป็นที่มาของชื่อ “ทะเลหมอกสองแผ่นดิน” ในหมู่บ้านมีลานกางเต็นท์ให้บริการหลายจุด นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์พักแรมเพื่อรอชมความสวยงามของ พระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า และพระอาทิตย์ตกยามเย็น และที่นี่ยังเหมาะแก่การนอนดูดาวยามค่ำคืนอีกด้วย

ตั้งอยู่บ้านกลอเซโล ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JJAcVnzXf6ZDXLvz9

30. ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม ของทุกปี บนดอยแม่อูคอจะเต็มไปด้วยดอกบัวตองสีเหลืองสดบานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล บริเวณใกล้เคียงมีที่พัก จุดกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกให้บริการ

ตั้งอยู่ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pYxKi9edb913tJH38

31. ดอยเสมอดาว
มีพื้นที่เป็นลานหญ้ากว้างบนสันเขา ชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า เบื้องล่างมองเห็นแม่น้ำน่านไหลลัดเลาะไปตามแนวเขา จุดชมวิวอีกฝั่งสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ และบริเวณลานกางเต็นท์ซึ่งเป็นลานหญ้าโล่งกว้างใกล้หน้าผา เหมาะกับการนอนดูดาวยามค่ำคืน

บริเวณดอยเสมอดาวสามารถกางเต็นท์ค้างแรมได้ สำหรับบ้านพักอุทยานฯ มีให้บริการที่ “ผาชู้” ซึ่งอยู่ห่างจากดอยเสมอดาวประมาณ 2 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีที่พักเอกชนให้บริการบริเวณนอกเขตอุทยานฯ ใกล้กับดอยเสมอดาวอีกด้วย

สอบถามข้อมูลได้ที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน โทร. 09 8685 3293, 09 3242 2914

ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AUpLbWA2RQWTxAq36

32. บ้านห้วยโทน
บ้านห้วยโทน เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนดอยสูง ใกล้กับหมู่บ้านสะปันซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันดีของจังหวัดน่าน ด้วยความที่ตั้งอยู่บนดอยสูง จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีและหนาวจัดในช่วงฤดูหนาว สามารถชมทัศนียภาพของขุนเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้าหลายจุด ในหมู่บ้านมีที่พักและจุดกางเต็นท์ให้บริการหลายแห่ง

การเดินทางมายังบ้านห้วยโทนต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เพราะเส้นทางจากหมู่บ้านสะปันซึ่งอยู่ตีนดอยมาถึงบ้านห้วยโทน เป็นเส้นทางขรุขระ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถติดต่อใช้บริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อได้จากที่พักในหมู่บ้านห้วยโทน

ตั้งอยู่ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oH3rsHo1crrF7w5D7

33. บ้านเปียงซ้อ
บ้านเปียงซ้อ ตั้งอยู่บนดอยสูง ใกล้กับเขตแดนไทย-ลาว ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม เช่น ปลูกข้าวโพด และกาแฟอาราบิก้า ไฮไลต์เด่นของบ้านเปียงซ้อคือทัศนียภาพของเทือกเขาสูงชันที่โอบล้อมและอากาศที่หนาวเย็น

การไปเที่ยวบ้านเปียงซ้อ สามารถไปเที่ยวได้ทั้งแบบค้างคืนกับที่พักในหมู่บ้านซึ่งมีให้บริการหลายแห่ง และที่พักทุกแห่งในหมู่บ้านจะมีบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อรับส่งนักท่องเที่ยวจากปากทางขึ้นดอยไปยังที่พักและพาเที่ยวชมทิวทัศน์จุดต่าง ๆ ในพื้นที่ เนื่องจากถนนทางขึ้นดอยมีความสูงชันและเป็นทางขรุขระ

ตั้งอยู่ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Xv9SqRZcRKn17wTJA

34. ผาช้างน้อย
เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของจังหวัดพะเยา “ผาช้างน้อย” ลักษณะเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางทุ่งโล่งกว้าง โอบล้อมไปด้วยภูเขาคล้ายกับแอ่งกระทะ ในยามเช้ามักปรากฏสายหมอกลอยปกคลุมผาช้างน้อยและพื้นที่โดยรอบ พร้อมกับแสงสีทองยามพระอาทิตย์ขึ้น เป็นทัศนียภาพที่สวยงาม

จุดที่สามารถชมผาช้างน้อยในมุมมองที่สวยงาม คือ ริมทางหลวงหมายเลข 1148 (สายเชียงคำ-น่าน) ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 69-70 ซึ่งจุดนี้จะอยู่บนภูเขา บริเวณนั้นมีที่พักทั้งแบบบ้านพักและลานกางเต็นท์ ร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการนักท่องเที่ยว

ตั้งอยู่ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Bkad1wqoiZUsaeye9

35. วัดพระพุทธบาทผาหนาม
วัดนี้ได้รับการบูรณะโดยครูบาอภิชัย (ขาวปี) สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด เช่น “รูปปั้นครูบาอภิชัยขาวปี” ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยผาหนาม “หอปราสาทครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี” เป็นที่ตั้งสังขารของพระครูบาอภิชัยขาวปีบรรจุภายในโลงแก้ว “พระนอนตาหวาน” เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ มีพระพักตร์ได้รูป ขนตางอนยาว เปลือกตาสีฟ้า พระโอษฐ์แดง “พระธาตุเจดีย์ทอง-พระธาตุเจดีย์เงิน” ตั้งอยู่บนบนดอยผาหนาม มีทางเดินเชื่อมต่อกันด้วยสะพานบุญจารึก ภายในประดิษฐานพระสารีริกธาตุ

ด้านบนของวัดซึ่งตั้งอยู่บนเขา ยังเป็นจุดชมวิวเมืองลี้และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น รวมถึงสามารถชมทะเลหมอกยามเช้าในช่วงฤดูหนาว

ตั้งอยู่ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iivCnNZfNqjCXE2Z6

36. วัดพระธาตุดอยพระฌาน
วัดตั้งอยู่บนยอดดอยพระฌาน มีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด เช่น “วิหารพระพุทธเจ้าองค์ปฐม” ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานในซุ้มเรือนแก้วสีทอง บานประตูวิหารแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตร “พระธาตุดอยพระฌาน” เป็นเจดีย์สีขาวมีปลียอดและฉัตรสีทอง เป็นองค์พระธาตุที่มีมาแต่ดั้งเดิม “พระไดบุทสึ” พระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิ ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนเนินเขา มีลักษณะคล้ายกับพระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังนิยมขึ้นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น รวมทั้งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามและชมทะเลหมอกได้ในช่วงฤดูหนาว

ตั้งอยู่ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LNUSN5CiBuiCNL8x9

37. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ในพื้นที่อุทยานฯ มีจุดชมวิวที่น่าสนใจ เช่น “ลานหินปุ่ม” ลักษณะเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่ม ๆ อยู่เป็นบริเวณกว้าง ดูแปลกตา เนื่องจากอยู่บนหน้าผา จึงมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน

“ผาชูธง” อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500 เมตร เป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 1,614 เมตร จากระดับทะเล ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลโดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตก

“ภูแผงม้า” เป็นจุดชมวิวสูงสุดที่อยู่ในเขตอุทยานฯ มีความสูง 1,775 เมตรจากระดับทะเล เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก สามารถชมวิวไร่กะหล่ำปลีจากภูทับเบิก วิวทะเลหมอกจากบริเวณอำเภอหล่มเก่า-หล่มสัก และวิวทะเลภูเขาสลับซับซ้อนจากอำเภอเขาค้อได้

อุทยานฯ มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 08 1596 5977 เว็บไซต์ www.dnp.go.th

ตั้งอยู่รอยต่อของสามจังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/gwbkhbSuddtFdBs3A

38. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
มีจุดที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ เช่น “ทุ่งแสลงหลวง” ตั้งอยู่ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) สภาพพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งใหญ่แบบสะวันนา มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมปั่นจักรยานเสือภูเขา ตามเส้นทางจะตัดผ่านป่าเบญจพรรณ มีโอกาสพบสัตว์ป่าออกมาหากินตามข้างทาง และดอกไม้ป่านานาชนิด

“ทุ่งนางพญาเมืองเลน” ตั้งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) ประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่แวดล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง เหมาะสำหรับการชมวิวทิวทัศน์ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งปกคลุมไปทั่วบริเวณ นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์ขึ้นไปได้แต่ต้องติดต่อขออนุญาตเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก่อน หรือหากต้องการที่จะปั่นจักรยานขึ้นไปจะต้องเป็นจักรยานเสือภูเขา เนื่องจากเส้นทางขรุขระค่อนข้างที่จะลำบาก บริเวณทุ่งนางพญาฯ ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์พักแรม

“ทุ่งโนนสน” เป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนเขาที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตามบริเวณลานหินจะเต็มไปด้วยดอกไม้เล็ก ๆ เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน ฯลฯ รวมทั้งกล้วยไม้ดินนานาชนิด เช่น เอื้องม้าวิ่ง ยี่โถปีนัง ฯลฯ จึงนับเป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทุ่งโนนโสนเปิดให้ท่องเที่ยวเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ของทุกปี

อุทยานฯ มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล โทร. 0 5526 8019, 08 8756 4940

ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DT2QnuGuhZswNB5z9

39. ภูทับเบิก และเขาค้อ
เนื่องจากภูทับเบิกและเขาค้อ ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 60 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจัดทริปไปท่องเที่ยวในเส้นทางเดียวกัน ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวภูทับเบิกและเขาค้อ คือ ช่วงฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว เพราะมีโอกาสพบเจอทะเลหมอกได้บ่อยครั้ง

ทั้งภูทับเบิกและเขาค้อมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พัก จุดกางเต็นท์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และมีจุดชมทิวทัศน์ให้เลือกชมด้วยกันหลายจุด

ภูทับเบิก ตั้งอยู่อำเภอหล่มเก่า และเขาค้อ ตั้งอยู่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

พิกัดภูทับเบิก : https://maps.app.goo.gl/2a7odpQGD2cvLoCJ9
พิกัดเขาค้อ : https://maps.app.goo.gl/LJazwAnJbfU4t9oF8

40. เขาตะเคียนโง๊ะ
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2258 เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา และเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ

นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็น “เขาปู่ เขาย่า” ซึ่งมีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิ และ “เขาค้อ” ในยามเช้าจะเห็นความงดงามของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านเขาย่าได้

ตั้งอยู่ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/V5wdgTthEQ52UUAJ7

41. ภูบ่อบิด
เป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 500-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณแล้งและป่าไผ่ บนยอดภูบ่อบิดมีจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถชมทัศนียภาพตัวเมืองเลยและทิวเขาที่รายล้อมได้ 360 องศา

จากลานจอดรถนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าผ่านบันไดเหล็กแบบมีราวจับระยะทาง 800 เมตร ไปยังจุดชมวิวด้านบน ระหว่างทางจะมีระเบียงให้แวะพักอยู่เป็นระยะ หากขึ้นมาชมทิวทัศน์ในช่วงเช้าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและหากโชคดีอาจเจอทะเลหมอก หากขึ้นมาชมทิวทัศน์ในช่วงเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ตกและแสงไฟยามค่ำคืนจากบ้านเรือนในตัวเมืองเลย

ที่นี่จึงนับเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นที่นิยมอีกแห่งของทั้งชาวเมืองเลยและนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น เปิดให้ท่องเที่ยวทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

ตั้งอยู่ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QKtmrGVUafrKybvo7

42. ภูป่าเปาะ
ยอดภูป่าเปาะมีความสูง 910 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็น “ภูหอ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนภูเขาไฟฟูจิของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน เป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจนถึงฤดูหนาวมีโอกาสพบเจอทะเลหมอก

การขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์ภูป่าเปาะ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้ ณ ลานจอดรถที่ทางหน่วยงานในพื้นที่จัดไว้ให้ จากนั้นใช้บริการรถอีแต๊กรับส่งของชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่ขึ้นไปยังภูป่าเปาะ

ตั้งอยู่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย
พิกัดลานจอดรถและจุดให้บริการรถอีแต๊กขึ้นภูป่าเปาะ : https://goo.gl/maps/3MLKkaMCDVxsUcGd7

43. อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน ส่วนหนึ่งของภูเรือมีลักษณะเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูเรือ”

ด้วยความที่อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี และเป็นอุทยานที่มีสถิติสะสมว่ามีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะลดลงและหนาวเย็นมาก

จุดชมวิวหลักของอุทยานแห่งชาติภูเรือ คือ “ยอดภูเรือ” ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 5 กิโลเมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานฯ มีความสูง 1,365 เมตร จากระดับน้ำทะเล บริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้ากับป่าสนสองใบ จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวได้ด้วย

อุทยานฯ มีบริการบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่พักล่วงหน้า โทร. 0 4281 0965, 08 8509 5299

ตั้งอยู่ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
พิกัดศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานฯ : https://goo.gl/maps/yFPPFF7JWdhppYGr6
พิกัดยอดภูเรือ : https://goo.gl/maps/a3qhBrM6vRK7qsrV7

44. ภูค้อ
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งของจังหวัดเลย มีความสูงประมาณ 900 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนภูค้อมีที่พักแบบโฮมสเตย์และจุดกางเต็นท์ของชาวบ้านให้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ภูค้อ จุดที่ 1 : ไร่ลุงนำ (ทัศนีย์ รีสอร์ท) โทร. 09 8241 9664, 08 0180 3535 มีจุดกางเต็นท์และรถอีแต๊กรับส่ง
ภูค้อ จุดที่ 2 : วิสาหกิจชุมชนกลุ่มท่องเที่ยวและโฮมสเตย์บ้านบุ่ง (คือจุดที่ไปสำรวจตามรูปแนบ) ผู้ใหญ่ไพรัตน์ เชื้อบุญมี โทร. 09 5626 2547, 06 2429 9716 มีทั้งบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และรถอีแต๊กรับส่ง
ภูค้อ จุดที่ 3 : ป้าโจ (ไร่ภูค้อ) โทร. 09 8594 2322 เป็นจุดที่อยู่สูงสุดของภู มีจุดกางเต็นท์และรถอีแต๊กรับส่ง

เนื่องจากเส้นทางช่วงขึ้นภูค้อ สภาพถนนค่อนข้างแคบและเป็นทางวิบาก แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือ ใช้บริการรถอีแต๊กของที่พักซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่

ตั้งอยู่บ้านบุ่ง ตำบลนาแห้ว อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/dAoiizaTQDq5L3Hu5

45. ภูซำทอง (ภูลำดวน)
เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้าที่สวยงาม นักท่องเที่ยวต้องจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่จุดจอดรถขึ้นภูซำทอง จากนั้นใช้บริการรถอีแต๊กของชาวบ้าน ประมาณ​ 15 นาที ถึงจุดชมวิวบนเขา บริเวณจุดชมวิวทำเป็นสะพานไม้ทางเดินและระเบียงชมวิว ทัศนียภาพเบื้องล่างคือแม่น้ำโขง และภูเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว

นักท่องเที่ยวอาจเลือกพักค้างแคมที่ตัวอำเภอปากชม ซึ่งมีที่พักให้บริการหลายแห่ง และสะดวกในการเดินทางมาขึ้นภูซำทอง

ตั้งอยู่ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oUWZ57Fy7G1NB3NB7

46. ภูทอก
จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดในอำเภอเชียงคาน ตั้งอยู่บนภูเขาสูงและใกล้กับแม่น้ำโขง บนยอดเขายังเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน สามารถชมทิวทัศน์ของตัวอำเภอเชียงคาน แม่น้ำโขง และทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว

การขึ้นไปบนภูทอก ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไป นักท่องเที่ยวต้องจอดรถยนต์ไว้ที่ลานจอดรถ และใช้บริการรถกระบะรับส่งของชาวบ้านในพื้นที่ขึ้นไปยังจุดชมวิว

ตั้งอยู่ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dmiJ8GSHhHUgow6j6

47. ภูห้วยอีสัน
เป็นจุดชมทิวทัศน์บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่สามารถมองเห็นบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอสังคมและเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวมีโอกาสจะได้เห็นทะเลหมอกลอยปกคลุมเหนือแม่น้ำโขง

การชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกบนภูห้วยอีสัน สามารถขึ้นไปชมได้เฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม ของทุกปี หากเป็นช่วงฤดูฝนไม่แนะนำ เนื่องจากสภาพถนนทางขึ้น-ลงภูห้วยอีสันค่อนข้างสูงชันเป็นดินโคลน ขรุขระ อาจเกิดอันตรายได้

นอกจากนี้ การขึ้นภูห้วยอีสัน ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ ต้องใช้บริการรถอีแต็กของชาวบ้าน ซึ่งมีจุดบริการรถอีแต็กรับ-ส่งตลอดฤดูท่องเที่ยว ณ บริเวณที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง และควรเดินทางมาถึงยังจุดขึ้นรถอีแต๊กก่อนเวลา 05.00 น. เพื่อให้ทันเดินทางขึ้นไปชมแสงแรกของวันบนยอดภูห้วยอีสัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

ตั้งอยู่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8p5Fhu7frNqysSHk8

48. วัดผาตากเสื้อ
เป็นวัดที่มีพระอุโบสถและบันไดพญานาคที่งดงามยิ่ง จากบริเวณสกายวอล์กจุดชมวิวของวัด สามารถชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและบ้านเรือนในอำเภอสังคม รวมทั้งมองเห็นแม่น้ำฝั่งประเทศลาวที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงด้วย

จุดชมทิวทัศน์ของวัดผาตากเสื้อ สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกในยามเช้า และแสงเย็นยามพระอาทิตย์ตกก็สวยไม่แพ้กัน

ตั้งอยู่ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vVeJdgx972nZrLcw6

49. ภูสิงห์
ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ภูสิงห์เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกในลักษณะต่าง ๆ เกิดการเรียงตัวของก้อนหิน เกิดหน้าผา ถ้ำ ลานหิน และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่โดยทั่ว สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนภูเดียวกัน

สถานที่น่าสนใจของภูสิงห์ ได้แก่ “หินสามวาฬ” หินทรายขนาดใหญ่ ติดหน้าผาสูง แยกเป็นสามก้อน มองไกล ๆ หรือมองจากภาพถ่ายทางอากาศ มีรูปร่างคล้ายวาฬพ่อแม่ลูก จึงเรียกว่า “หินสามวาฬ” สามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า

บริเวณทางขึ้นภูสิงห์มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและห้องน้ำ แต่ไม่มีบ้านพักและร้านค้าให้บริการ สอบถามข้อมูล โทร. 08 8536 2717, 08 8563 8852

ตั้งอยู่ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XnNuLnWHZ77EQhxw7

50. ผาชะนะได
ถือเป็นหน้าผาที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม อีกทั้งกรมอุทกศาสตร์ใช้เป็นจุดที่บอกเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างเป็นทางการในแต่ละวัน บริเวณผาชะนะไดสามารถชมทัศนียภาพแม่น้ำโขงที่ทอดยาวจากเหนือลงใต้แล้ว ยังได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา

การเดินทางต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ขับขึ้นเขาและผ่านทางวิบากไปยังเขตป่าดงนาทาม อันเป็นที่ตั้งของผาชะนะได ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้มประมาณ 57 กิโลเมตร สามารถกางเต็นท์พักแรมได้แต่ต้องเตรียมไปอาหารและน้ำดื่มไปเอง

สอบถามข้อมูลจุดกางเต็นท์และรถขับเคลื่อนสี่ล้อได้ที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม โทร. 0 4525 2581

ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าดงนาทาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iSLg6gpixvHbLL8h9

Scroll to Top