เส้นทางตะลุยเมืองเก่าพระร่วง สุโขทัย-กำแพงเพชร

สุโขทัย เป็นหนึ่งในนครรัฐที่เจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินสยามประเทศ ก่อตั้งเมื่อ 700 กว่าปีมาแล้ว ชื่อนครรัฐนี้มาจากคำสองคำ คือ “สุข” กับ “อุทัย” หมายความว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข” รอยอดีตแห่งความรุ่งเรืองเห็นได้จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงได้รับได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นมรดกโลก เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534

📌 อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มีหน้าที่รับผิดชอบการบูรณะขุดแต่งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายในสำนักงานฯ มีแผนผังอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ซึ่งสามารถทำให้เข้าใจการแบ่งส่วนพื้นที่โบราณสถานได้อย่างชัดเจน

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
💸 อัตราค่าเข้าชม
– เขตกำแพงเมือง: ชาวไทย ราคา 20 บาท ชาวต่างชาติ ราคา 100 บาท
– เขตอรัญญิก: ชาวไทย ราคา 20 บาท ชาวต่างชาติ ราคา 100 บาท
– บัตรรวม (เข้าชมได้ 2 เขต): ชาวไทย ราคา 30 บาท ชาวต่างชาติ ราคา 150 บาท และค่ารถยนต์ ราคา 50 บาท

สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ได้แก่
วัดพระแก้ว – ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกำแพงเพชร เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณสถานมรดกโลกในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ภายในบริเวณวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานมีฐานสิงห์ล้อมรอบเจดีย์ทรงกลมที่ฐานมีช้างรอบวิหาร มณฑป อุโบสถและเจดีย์ราย ทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง

กำแพงเมืองกำแพงเพชร – เป็นกำแพงชั้นเดียวสร้างเป็นเชิงเทิน มี 2 ตอน ตอนล่างเป็นมูลดินสูงขึ้นไป 3-4 เมตร ตอนบนก่อด้วยศิลาแลงเป็นเชิงเทินมีใบเสมาและเจาะตรงใบเสมาไว้สำหรับมองข้าศึก

วัดพระนอน – มีกำแพงศิลาแลงปักล้อมรอบวัดไว้ทั้ง 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยม มีห้องอาบน้ำและศาลาน้ำ ฐานและเสาเป็นศิลาแลง นอกจากนี้ยังมีทางเท้าปูด้วยศิลาแลง มีโบสถ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า

ด้านหลังเป็นวิหารพระนอนสร้างด้วยเสาศิลาแลงขนาดใหญ่ หลักฐานทางประติมากรรมที่พบ คือ ใบเสมารูปเทพพนม พาลีกับทรพี สันนิษฐานว่าสลักขึ้นในสมัยอยุธยา

วัดพระสี่อิริยาบถ หรือวัดพระยืน – วัดนี้มีบ่อน้ำและที่อาบน้ำอยู่หน้าวัดเช่นเดียวกับวัดพระนอน กำแพงเป็นศิลาแลงปักล้อม 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีวิหารขนาดใหญ่ยกฐานสูง 2 เมตร มีเสาลูกกรงเป็นศิลาแลงเหลี่ยมและมีทับหลังบนมุขหน้าวิหาร

วัดช้างรอบ – เป็นวัดที่สร้างบนยอดเนิน มีพระเจดีย์ทรงลังกา ซึ่งยอดหักพังหมดแล้ว มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน ที่ชั้นฐานลานประทักษิณประดับด้วยช้างทรงเครื่องครึ่งตัว จำนวน 68 เชือก ระหว่างช้างแต่ละเชือกมีภาพปั้นรูปลายพรรณพฤกษาในพระพุทธศาสนา เช่น ต้นโพธิ์ ต้นสาละ เป็นต้น

วัดอาวาสใหญ่ – มีเจดีย์แปดเหลี่ยมเป็นประธาน ด้านหน้าเป็นวิหารฐานสูงมีทางขึ้น 3 ด้าน มีเจดีย์รายรอบ

บ่อสามแสน – บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่เคยแห้ง ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสุดนอกเขตกำแพงแก้ว

📌 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (เมืองเก่าสุโขทัย)

ตั้งอยู่ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลเมืองเก่า อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นมรดกโลก เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-19.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร เวลา 18.00 น.)
💸 อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
☎️ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โทร. 0 5569 7527, 0 5569 7241, 0 5569 7310

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช – สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ เป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ ขนาดสองเท่าขององค์จริง ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ด้านข้าง ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย

วัดมหาธาตุ – เป็นวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุเป็นเจดีย์ประธาน ลักษณะทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ รายรอบด้วยปรางค์ศิลาแลง 8 องค์บนฐานเดียวกัน ตั้งอยู่ทั้งสี่ทิศ และเจดีย์ทรงปราสาทก่อด้วยอิฐที่ได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา จากการสำรวจพบว่าบริเวณวัดมหาธาตุมีเจดีย์แบบต่าง ๆ มากถึง 200 องค์ วิหาร 10 แห่ง ซุ้มพระ (มณฑป) 8 ซุ้ม พระอุโบสถ 1 แห่ง ตระพัง 4 แห่ง ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ที่ด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้ม คือ พระอัฏฐารส

วัดตระพังเงิน – ตั้งอยู่ในบริเวณขอบตระพังเงินด้านทิศตะวันตกของวัดมหาธาตุ ห่างจากวัดมหาธาตุ 300 เมตร คำว่า “ตระพัง” หมายถึง สระน้ำหรือหนองน้ำ โบราณสถานนี้ไม่มีกำแพงแก้ว ประกอบด้วยเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือทรงดอกบัวตูม เป็นประธาน เรือนธาตุทั้งสี่ด้านประดิษฐานพระพุทธรูปยืนและพระพุทธรูปปางลีลา มีวิหารประกอบอยู่ด้านหน้า และทางด้านตะวันออกของเจดีย์เป็นเกาะ มีโบสถ์ตั้งอยู่กลางน้ำ

วัดสระศรี – ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดมหาธาตุ อยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ชื่อว่า “ตระพังตระกวน” ภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงลังกา ด้านหน้าวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเจดีย์ขนาดเล็ก ศิลปะศรีวิชัยผสมลังกา มีซุ้มพระพุทธรูปสี่ทิศ ด้านหน้าเกาะกลางน้ำขนาดย่อมเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม

วัดศรีสวาย – ตั้งอยู่ห่างจากวัดมหาธาตุทางทิศใต้ประมาณ 350 เมตร มีโบราณสถานสำคัญอยู่ในกำแพงแก้ว ประกอบด้วยปรางค์ศิลปะลพบุรี 3 องค์ ลักษณะของปรางค์ค่อนข้างเพรียว อยู่บนฐานเตี้ย ๆ ลวดลายปูนปั้นบางส่วนเหมือนลายบนเครื่องถ้วยจีน สมัยราชวงศ์หยวน เดิมพบทับหลังสลักเป็นรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ ชิ้นส่วนของเทวรูป และศิวลึงค์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเคยเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูมาก่อน แล้วแปลงเป็นวัดในพุทธศาสนาโดยต่อเติมวิหารขึ้นที่ด้านหน้า

วัดพระพายหลวง – เป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ มีความสำคัญรองจากวัดมหาธาตุ ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคูน้ำล้อมรอบสามชั้น คูชั้นนอกเรียกว่า “คูแม่โจน” วัดพระพายหลวงเป็นศูนย์กลางของชุมชน มีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระปรางค์สามองค์ เป็นปรางค์ประธาน ก่อด้วยศิลาแลง ศิลปะเขมรแบบบายน สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ด้านหน้าของวัดเป็นอาคารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นสี่อิริยาบถ คือ นั่ง นอน ยืนและเดิน

วัดศรีชุม – ตั้งอยู่ห่างจากวัดพระพายหลวงไปทางทิศตะวันตก 800 เมตร เป็นวัดที่ประดิษฐานพระอจนะ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ลักษณะของวิหารสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายมณฑป แต่หลังคาพังทลายลงมาหมดแล้ว เหลือเพียงผนังทั้งสี่ด้าน ผนังทางด้านใต้มีช่องให้คนเข้าไปภายในและเดินขึ้นไปตามทางบันไดแคบ ๆ ถึงผนังด้านข้างขององค์พระอจนะ หรือสามารถขึ้นไปถึงสันผนังด้านบนได้ ภายในช่องกำแพงตามฝาผนังมีภาพเขียนเก่าแก่ แต่เลอะเลือนเกือบหมด ภาพเขียนนี้มีอายุเกือบ 700 ปี

นอกจากนี้ยังมีตำนานที่เล่าขานต่อกันมาเรื่องพระอจนะพูดได้ ซึ่งเกิดจากพระปรีชาสามารถในด้านการปลุกปลอบใจทหารหาญของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วง เนื่องจากผนังด้านข้างขององค์พระมีช่องขนาดเล็ก ถ้าใครแอบเข้าไปทางอุโมงค์แล้วไปโผล่ที่ช่องนี้ และพูดออกเสียงดัง ๆ ผู้ที่อยู่ภายในวิหารจะต้องนึกว่าพระอจนะพูดได้ และเสียงพูดนั้นจะกังวานน่าเกรงขาม เพราะวิหารนี้ไม่มีหน้าต่าง แต่เดิมคงมีหลังคาเป็นรูปโค้งคล้ายโดม

นอกจากนี้ บริเวณทางเข้าอุทยานฯ ยังมีบริการให้เช่ารถจักรยานสำหรับปั่นเที่ยวชมโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

📌 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง

ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี แบ่งส่วนการแสดงไว้เป็น 3 ส่วน คือ

1. อาคารลายสือไท 700 ปี เป็นที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาการก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ข้อมูลจังหวัดสุโขทัย ผังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และห้องประชุมลายสือไท

2. อาคารพิพิธภัณฑ์ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ได้แก่
ชั้นบน – จัดแสดงพระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ พระเครื่อง พระธาตุที่ได้จากการขุดแต่งโบราณสถาน เครื่องอาวุธ สังคโลก และระบบชลประทานในสมัยสุโขทัย
ชั้นล่าง – จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่ได้จากการสำรวจ ขุดค้น ขุดแต่ง และบูรณะแหล่งโบราณคดีสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียง เช่น พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ศิลาจารึกหลักที่ 1 (จำลอง) เทวรูป และปูนปั้น

3. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง อยู่ด้านนอกโดยรอบอาคารใหญ่ เป็นที่จัดแสดงศิลปวัตถุต่าง ๆ เช่น แผ่นจำหลัก รูปทรงอาคารไทย เตาทุเรียงจำลอง และเสมาธรรมจักรศิลา เป็นต้น

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.
💸 อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
☎️ สอบถามข้อมูล โทร. 0 5569 7367, 0 5563 3025

📌 วัดตระพังทอง

ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในบริเวณวัด เรียกว่า “สระตระพังทอง” เป็นสระน้ำที่เก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคมา แต่โบราณ บริเวณเกาะกลางสระน้ำเป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญของวัดตระพังทอง

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมใส่บาตรสะพานบุญรับอรุณสุโขทัยบริเวณสะพานไม้หน้าวัดตระพังทอง ซึ่งสามารถร่วมตักบาตรได้ทุกวัน เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป

📌 อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

ตั้งอยู่ตำบลศรีสัชนาลัย เดิมชื่อว่า “เมืองเชลียง” ต่อมาในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วงขึ้นครองกรุงสุโขทัย มีการสร้างเมืองขึ้นใหม่เป็นศูนย์กลางการปกครองแทนเมืองเชลียง จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีสัชนาลัย”

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
💸 อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
☎️ สอบถามข้อมูล โทร. 0 5595 0714

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง และเรียกอีกชื่อว่า “วัดพระปรางค์” ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเก่าศรีสัชนาลัย ลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ และเป็นพระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร ปรางค์ประธาน ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน เป็นสถาปัตยกรรมที่จัดอยู่ในสมัยอยุธยา บริเวณเรือนธาตุด้านหน้ามีบันไดขึ้นองค์ปรางค์สู่ซุ้มโถง ผนังภายในองค์ปรางค์พบว่ามีร่องรอยจิตรกรรมฝาผนัง แต่ลบเลือนไปมาก ด้านหน้าองค์ปรางค์มีวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย และทางด้านขวามีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลา

วัดช้างล้อม – อยู่ภายในกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย โบราณสถานสำคัญคือเจดีย์ประธานทรงลังกา ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในกำแพงแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นยืนหันหลังชนผนังเจดีย์อยู่โดยรอบ จำนวน 39 เชือก และช้างที่อยู่ตามมุมเจดีย์ทั้งสี่ทิศ

วัดเจดีย์เจ็ดแถว – ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดช้างล้อม นับว่ามีความสวยงามมากกว่าวัดอื่นในเมืองศรีสัชนาลัย เพราะมีเจดีย์แบบต่างกันที่เป็นศิลปะสุโขทัยแท้ และเป็นศิลปะศรีวิชัยผสมสุโขทัย โบราณสถานสำคัญคือเจดีย์ประธานรูปดอกบัวตูม อยู่ด้านหลังพระวิหาร และมีเจดีย์รายรวมทั้งอาคารขนาดเล็กแบบต่าง ๆ จำนวน 33 องค์ เจดีย์รายที่วัดนี้ได้รับอิทธิพลศิลปะจากหลายแห่ง เช่น ลังกาและพุกาม ด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายที่มีลักษณะเด่น คือ ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยอดเป็นทรงกลม ภายในเจดีย์มีซุ้มโถงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปูนปั้น มีภาพจิตรกรรมเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้าและเหล่าเทวดากษัตริย์ ส่วนซุ้มจระนำด้านหลังของเรือนธาตุทำเป็นพระพุทธรูปนาคปรก

สาเหตุที่เรียกว่า “วัดเจดีย์เจ็ดแถว” เนื่องจากได้พบเจดีย์จำนวนมากหลายแถวภายในวัด และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์สุโขทัย

วัดนางพญา – ตั้งอยู่ในแนวเดียวกับวัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ มีลวดลายปูนปั้นอยู่บนซากผนังวิหารด้านตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นวิหารขนาดเจ็ดห้อง เสาวิหารทุกด้านมีเทพนม และลวดลายต่าง ๆ ทำด้วยสังคโลกไม่เคลือบ เจดีย์ประธานของวัดเป็นเจดีย์ทรงกลม ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ ซุ้มด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นจนถึงโถงเจดีย์ ตรงกลางโถงมีแกนเจดีย์ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น วิหารก่อด้วยศิลาแลง มีมุขหน้าและมุขหลัง ผนังวิหารเจาะช่องแสง ผนังด้านใต้มีลวดลายปูนปั้นทำเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งวานรกำลังวิ่ง แต่ถูกทำลายไปบางส่วน นอกจากนั้นยังทำเป็นลวดลายพรรณพฤกษาและรูปเทพนม เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น

📌 Street Art สวรรคโลก

ตั้งอยู่ตำบลในเมือง ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำศิลปินชั้นนำจากอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา และไทย มาวาดภาพบนฝาผนังบ้านเรือนในย่านชุมชนเก่าภายในซอยถนนพิศาลสุนทรกิจ (กลางเมือง) ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าของสวรรคโลก โดยเป็นภาพแสดงถึงวิถีชีวิตของชาวอำเภอสวรรคโลก

Scroll to Top