หากเพื่อน ๆ อยู่ในสภาวะเบื่อ ๆ หมดไอเดีย ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน และอยากหากิจกรรมอะไรใหม่ ๆ ลองทำ แวะมาทางนี้ แอดมีไอเดียเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯที่จะพาไปชิมอะไรใหม่ ๆ เดินทางง่าย ๆ ชิลล์ ๆ แถวพระโขนง-เอกมัย ลองอ่านดู เผื่อเป็นไอเดียเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ได้เลย
โปรแกรมเที่ยว - 1. เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารพม่า ที่ร้านโมนา
- 2. อร่อยกับไอศกรีมหลากรส ที่ Rintaro
- 3. เพิ่มความรู้ทางดาราศาสตร์ ที่ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย
- 4. จิบกาแฟในร้านเครื่องเขียน Ve/la café
1. อาหารเมียนมา ร้านโมนา
มาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กันที่มื้อเช้าแบบเมียนมากัน ร้านโมนาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 71/1 เดินทางได้โดยนั่ง BTS มาลงที่สถานีพระโขนง ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร
ร้านนี้เป็นร้านอาหารเมียนมาร้านแรกในย่านนี้ เปิดขายอยู่ในตลาดพระโขนงมาเกือบ 20 ปีแล้ว บรรยากาศรอบ ๆ ร้านมีทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชำ กลิ่นกำยานและเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารเมียนมา ผสมผสานกับเสียงพูดคุยเฮฮาในภาษาเพื่อนบ้าน ทำให้แอดรู้สึกแปลกใหม่เหมือนอยู่ต่างแดนมากทีเดียว
อาหารเมียนมา ส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบเป็นพืชผักชนิดต่าง ๆ เช่น หอมแดง มันฝรั่ง มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ ถั่วนานาชนิด ใบเมี่ยง ใบชา ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊ว และกะปิเป็นหลัก
เมนูแรกที่สั่งคือ “หม่อฮิงคา” (MO HIN GA) เป็นขนมจีนน้ำยาปลาใส่หยวกกล้วย ที่เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเป็นอาหารเช้าที่ชาวเมียนมานิยมกิน น้ำซุปอุ่น ๆ รสเค็มหวานอ่อน ๆ หอมกลิ่นปลาแห้ง ขิง ตะไคร้ ซดกับขนมจีนเส้นเล็ก ๆ คล่องคอดีเลย แอดลองบีบมะนาวลงไปก็อร่อยสดชื่นไปอีกแบบ หรือถ้าอยากให้รสจัดขึ้น แนะนำให้กินคู่กับผักดองรสเปรี้ยวเผ็ดของทางร้าน
จานนี้คือ ถั่วพูอุ่น (TUA PU EUN) เป็นซุปข้นถั่วลูกไก่ ราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า โรยด้วยถั่วป่น รสชาติหวาน ๆ มัน ๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ เป็นอีกเมนูที่นิยมกินเป็นอาหารเช้าเช่นกัน
อาหารว่างที่ขึ้นชื่ออีกเมนูก็คือ “ละเพะโตะ” (LA PAE TOH) หรือยำใบชา ส่วนผสมหลักคือ ใบชาหมัก คลุกเคล้ากับงาขาวคั่ว กุ้งแห้งทอด กระเทียมสด กระเทียมเจียว ขิงดอง มะพร้าวคั่ว พริกขี้หนู และมะเขือเทศ รสชาติเปรี้ยวนำคล้ายกับยำแหนมข้าวทอดบ้านเรา แต่จะเจือรสเฝื่อนนิด ๆ ของใบชา อร่อยไปอีกแบบ
นอกจากเมนูอาหารเช้าแล้ว แอดยังได้ลองของทอดแบบพม่าด้วย ร้านอยู่ทางด้านซ้ายของร้านโมนา ชิ้นกลม ๆ คล้ายขนมไข่หงส์นั้น เป็นแป้งทอดชิ้นหนาเคี้ยวหนึบ ไส้ด้านในรสคล้ายขนมต้ม
ส่วนอีก 2 ชิ้นคือ หอมแดงชุบแป้งทอด และใบบัวบกชุบแป้งทอด กรอบอร่อย กินเพลิน จิ้มกับน้ำจิ้มกะปิ อร่อยมาก
อีกหนึ่งความพีคของแอดคือ การลองกินหมากครั้งแรก ซึ่งหมากพม่าจะใช้ใบพลูทาปูนขาวแทนปูนแดง โรยผงเครื่องเทศกลิ่นหอมของพม่าและน้ำผึ้งเป็นอันเสร็จ รสชาติจะออกหวานหอม เย็นนิด ๆ แต่พ่อค้าเตือนว่าหากไม่เคยกินหมาก ระวังจะเมาหมาก ให้แอดคายออกมาหลังจากลองเคี้ยวไปไม่กี่คำ สนนราคากล่องละ 20 บาท (คำละ 2 บาท)
- MO.NA อาหารพม่า
: สุขุมวิท 10/32 ซอยสุขุมวิท 71/1 แขวง พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
: 07.00 – 20.00 น.
: 06 2709 0665, 08 2329 5206
2. ร้านไอศกรีม Rintaro
จากร้านโมนา เดินย้อนกลับมาทาง BTS สถานีพระโขนง แอดจะพาไปกินไอศกรีม ร้าน Rintaro อยู่ในโครงการ W District เป็นร้านไอศกรีมเจลาโตเล็ก ๆ มีเก้าอี้ให้นั่งทานอยู่หน้าร้าน
Rintaro เป็นร้านไอศกรีมจากจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายต้องการสนับสนุนให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลไม้ได้มากขึ้น ดังนั้น ทางร้านจึงเลือกใช้ผลไม้ตามฤดูกาลในพื้นที่มาเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งปัจจุบัน ผลิตเจลาโต้ออกมาแล้วกว่า 300 รสชาติ โดยจะหมุนเวียนนำมาขายตามฤดูกาล
ในร้านมีตู้ไอศกรีมเจลาโตหน้าตาน่ากินให้เลือกเยอะไปหมด จนแอดต้องตั้งสติว่าจะเอารสไหนดี โดยทางร้านจะมีรสเบสิก 7 รสที่เหมือนกันทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น คือ ชาเขียว นมสด ชีส Camembert กับถั่ว กาแฟลาเต้ชีสเค้กอบ คุโรมิทสึผงถั่วคินาโกะ เบอร์รีโยเกิร์ต และโกโก้
แอดเลือกสั่งมา 4 รส ถูกใจทุกรส แม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ขอบอกว่า ทุกคำที่ได้กินเข้าไป รสชาติดีมากจริง ๆ เพราะทางร้านใช้วัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ ไม่ใช้ผลไม้แช่แข็ง ไม่ใช้สารเคมีในการทำไอศกรีม ความหวานที่ได้จะมาจากวัตถุดิบและน้ำผึ้งเท่านั้น แถมส่วนผสมในเนื้อไอศกรีมบางรสอย่างโมจิ ถั่วแดง รวมถึงแป้งต่าง ๆ ทางร้านก็ทำเองอีกด้วย แอดถือว่าคุ้มราคากับคุณภาพ รสชาติ และความปลอดภัย
- ร้านไอศกรีม Rintaro
- : 1595/521 ถนนสุขุมวิท, โครงการ W District, B04-01 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- : 11.00 – 22.00 น. (หยุดวันจันทร์)
- : 06 2353 5971
3. ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย
อิ่มอร่อยกันไปแล้ว ก็ไปหากิจกรรมสนุกๆ ทำกันบ้าง เราจะไปกันที่ท้องฟ้าจำลอง แอดเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 2 แล้วเดินผ่านขนส่งเอกมัย ระยะทางประมาณ 700 เมตร
เคาน์เตอร์ขายตั๋วจะอยู่ด้านหน้าเลย การเข้าชมจะจัดเป็นรอบ ห่างกันรอบละ 1 ชั่วโมง และสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าชมท้องฟ้าจำลองที่เดียว หรือชมนิทรรศการวิทยาศาสตร์ ที่ตึก 4 ด้วย
ในห้องฉายดาว จะมีที่นั่งนุ่ม ๆ แอร์เย็น ๆ ล้อมรอบเครื่องฉายดาวขนาดใหญ่ เหมาะกับการหลบแดดช่วงบ่ายมาก เมื่อได้เวลา จะมีเจ้าหน้าที่บรรยาย สอนทั้งดูดาว ดูกลุ่มดาวต่าง ๆ ทางช้างเผือก กระจุกดาว ดาวหาง ดาวตก ไปจนถึงการฉายแสงออโรราอีกด้วย
หลังจากชมดาวและแสงออโรราไปแล้ว ด้านนอกจะมีนิทรรศการการกำเนิดของจักรวาล การเดินในอวกาศ ประวัติท้องฟ้าจำลอง เผลอแป๊บเดียวผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว เวลาผ่านไปไวสุด ๆ
- รอบการเข้าชม
- วันอังคาร 10.00 น.(EN) / 11.00 น. / 15.00 น.
- วันพุธ-ศุกร์ 11.00 น. / 15.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00 น. / 11.00 น. / 13.00 น. / 14.00 น. / 15.00 น.
- สถาบันการศึกษา (ต้องจองที่ 0-2391-0544, 0-2392-1773)
- วันอังคาร 10.00 น.(EN) / 13.00 น. / 14.00 น.
- วันพุธ-ศุกร์ 10.00 น. / 13.00 น. / 14.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรี
*รอบภาษาอังกฤษ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
จากนั้นแอดเดินมาตึกตรงข้าม เพื่อไปชมนิทรรศการวิทยาศาสตร์กันต่อที่ “อาคารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตึก 4” ตึกนี้มี 7 ชั้น แต่เปิดไม่ครบ เพราะบางชั้นอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุง
ชั้นแรกเป็นนิทรรศการ Coding ทักษะเพื่อชีวิต (Coding Skill for life) ที่จะมีเกมทดสอบตรรกะต่าง ๆ มาให้ลองเล่น สนุกเชียวล่ะ
ส่วนใครสนใจโลกไดโนเสาร์ ห้ามพลาดชั้นที่ 2 เพราะมีเรื่องราวสนุก ๆ ของไดโนเสาร์มาแสดง โดยเฉพาะเรื่องของไดโนเสาร์ในประเทศไทยที่มีอยู่ 12 ชนิด
ถ้าอยากเรียนรู้โลกของแมลง สิ่งมีชีวิตที่มีจำนวนและชนิดมากที่สุดในโลก ต้องแวะที่ชั้น 5 แต่ถ้ามีเวลาเยอะ แอดแนะนำให้เดินชมให้ครบนะ ทั้งสนุกทั้งได้ความรู้จริง ๆ
- ท้องฟ้าจำลองเอกมัย
- : 928 ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- : 09.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันหยุด
- นักขัตฤกษ์)
- : 0 2391 0544
4. Ve/la café
ปิดท้ายวันกันที่ร้าน Mediums ร้านสำหรับคนรักเครื่องเขียนและอุปกรณ์ศิลปะ อยู่ในซอยสุขุมวิท 42 ใกล้กับ Gateway เอกมัย เดินเข้าซอยมาประมาณ 5 นาที เพื่อน ๆ จะเจอร้านนี้อยู่ในอาคารสีขาว
สะอาดตา โดยมี Ve/la Café อยู่บนชั้น 2
ภายในร้าน มีอุปกรณ์ศิลปะมากมายให้เลือกดูเลือกซื้อ ส่วนใน Ve/la Café ก็จะมีบาริสต้า คอยให้คำแนะนำเรื่องเครื่องดื่ม อย่างกาแฟ ทางร้านมีกาแฟที่เบลนด์ขึ้นมาให้เหมาะกับบรรยากาศตามช่วงเวลาของวัน ทั้งช่วงเช้า ช่วงบ่าย และยามค่ำคืนให้เลือก หรือถ้าใครไม่อยากดื่มกาแฟ ทางร้านก็มีเครื่องดื่มผลไม้โซดาต่าง ๆ ให้เลือกดื่ม
ด้วยความที่เป็นร้านขายอุปกรณ์ศิลปะ ทางร้านจึงมีชีสเค้กไวท์ช็อกโกแลตแบบพิเศษไว้บริการ นั่นคือ จะเสิร์ฟพร้อมครีมแต่งหน้าหลายสีให้เพื่อน ๆ สามารถวาดหน้าเค้กได้ตามจินตนาการ หรือหากอยากได้แค่เครื่องดื่ม ทางร้านก็มีสีให้ระบายบนกระดาษจับกันลื่นของแก้วกาแฟให้เพื่อน ๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการเช่นกัน
แต่ละมุมของร้าน จะจัดแสดงงานศิลปะจากทาง
ร้านไว้ เพื่อน ๆ สามารถเดินชมและถ่ายภาพได้ตามสะดวก ส่วนวันนี้แอดขอลาเพื่อน ๆ ไปเดินชมก่อนนะ บ๊ายบาย
- Ve/la café
- : 10/1 สุขุมวิท 42 พระโขนง, เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- : 07.00 – 22.00 น.
- : 09 7958 9734
