สถานที่ท่องเที่ยว

ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย

ช่วงเดือนสุดท้ายของปี หากหลายคนกำลังมองหาที่เที่ยวในภาคเหนือ บัดดี้ขอแนะนำ ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถชมหมอก ชมดาว พระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้จากบนยอดเขา ลองตามมาอ่านรายละเอียดกันดู ว่าแต่ละที่มีรายละเอียดอะไรบ้าง ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) เป็นหน้าผาสูงตั้งอยู่บนแนวเขาดอยผาหม่น ทอดยาวไปตามชายแดนไทย-ลาว ที่ปลายยอดเขาเป็นแหลมลักษณะคล้ายนิ้วมือชี้ขึ้นไปบนฟ้า 45 องศา จึงเป็นที่มาของชื่อว่า ภูชี้ฟ้า หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้าในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม จะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบริเวณทางขึ้นเขา แต่หากมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะมีเห็นดอกเสี้ยวสีขาวบานบริเวณเชิงเขา ยิ่งในช่วงฤดูหนาว หากเพื่อน ๆ ขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณยอดเขา จะพบกับทะเลหมอกสุดสวย ที่ลอยโอบรอบยอดเขา สวยจนลืมไม่ลงเลยล่ะ เพื่อน ๆ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวกันได้จาก 2 เส้นทางคือ1. จากวนอุทยานภูชี้ฟ้า ห่างจากยอดภูชี้ฟ้าประมาณ 760 เมตร2. จากหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ห่างจากยอดภูชี้ฟ้า ประมาณ 400 เมตร ใกล้กันกับบริเวณภูชี้ฟ้ามีลานกางเต็นท์ค้างคืนได้ เดินทางมาได้ทั้งจากรถยนต์ส่วนตัวโดยใช้ Google Map และบริการขนส่งสาธารณะจากตัวเมืองเชียงราย สายเชียงราย-เทิง-เชียงของ ไปลงที่ อ.เทิง (รถออกทุก ๆ 30 นาที ค่ารถโดยสารประมาณ 33 บาท). วนอุทยานภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย 0 5379 5345 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ว่าการอำเภอเทิง เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 04.30-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/KdCro1stcfFmxUvH8 ภูชี้ดาว อีกหนึ่งภูสวย ที่ตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่ในความดูแลของ อบต.ตำบลปอ อ.เวียงแก่น เป็นภูที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา โดยไม่มีอะไรมาบดบังวิว สามารถมองเห็นยอดดอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแบบไกล ๆ วิวของแม่น้ำโขงและเส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ ในการเดินทางไปจุดชมวิวควรใช้รถโฟร์วีล เนื่องจากทางค่อนข้างชัน แคบและต้องลุยพอสมควร หากใครไม่มีรถหรือไม่สะดวกขับสามารถจ้างรถของชาวบ้านให้ขึ้นไปส่งได้ ค่าบริการไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ถึงจุดจอดรถ เดินต่ออีกไม่เกิน 300 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิว ด้านบนไม่มีที่พักและร้านอาหาร บัดดี้แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มและยาดมไปด้วย นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมคือ สเปรย์หรือถุงเท้ากันทาก เพราะทางค่อนข้างชื้น อาจเจอตัวทากได้. ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 0 5360 2742 องค์การบริหารส่วนตำบลปอ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 05.00-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/BfE1QSZhUSnaBiFT7 ภูชี้เดือน ตั้งอยู่บนเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นภูที่สามารถชมวิวทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและตกได้แบบ 360 องศา การขึ้นไปชมวิวที่ยอดภูชี้เดือน ต้องนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านขึ้นไปประมาณ 15 นาที แล้วเดินเท้าขึ้นไปตามสันเขาประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้ว เพื่อน ๆ สามารถเหมารถได้คันละ 500 บาท นั่งได้ 5 คน แต่หากมีคนเพิ่มคิดราคาเพิ่มคนละ 100 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน ด้านบนของภูชี้เดือนมีลักษณะเป็นยอดดอยยื่นออกมาจากตัวภูเขา เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ทางขวามือและยังมองเห็นผาตั้งที่อยู่ทางซ้ายมือได้จากยอดเขา. บ้านร่มฟ้าหลวง หมู่ 12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 0 5360 2742 องค์การบริหารส่วนตำบลปอ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 05.00-21.00 น.https://maps.app.goo.gl/unb8jnE3LhJyo6qZ9

ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

พลับพลึงธาร…ราชินีแห่งสายน้ำ ✨

พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของโลกพบได้ที่ระนองและพังงาเท่านั้น “พลับพลึงธาร” เป็นพืชน้ำอยู่ในวงศ์พลับพลึง Amaryllidaceae ชื่อสามัญคือ Water Onion, Water lily, Thai Water Onion, Onion Plant, Yellowish leaves lily. และมีชื่อที่เรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน เช่น ช้องนางคลี่ หอมน้ำ เป็นต้น เป็นพืชเฉพาะถิ่น (endemic species) ที่พบได้ในจังหวัดระนองและจังหวัดพังงาของประเทศไทยเท่านั้น โดยที่จังหวัดระนองพบมีการกระจายพันธุ์อยู่ในพื้นที่อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ ส่วนจังหวัดพังงาพบที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง ฤดูกาลออกดอกของพลับพลึงธาร ตั้งแต่เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม ของทุกปี ตามมาทำความรู้จักและชมความสวยงามของพลับพลึงธาร … ราชินีแห่งสายน้ำ ด้วยกันในรีวิวค่ะ พลับพลึงธารได้รับฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งสายน้ำ” เนื่องจากเป็นไม้น้ำที่มีดอกชูช่อสวยงาม มีสีขาวเนียนคล้ายดอกพลับพลึง แต่อยู่ในน้ำเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของโลกพบได้ที่ระนองและพังงาเท่านั้น ได้ขึ้นเป็นบัญชีพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก (IUCN Redlist) เมื่อปี พ.ศ. 2554 พลึบพลึงธารพบมีการขึ้นกระจายพันธุ์อยู่ในระบบนิเวศเฉพาะ คือ บริเวณลำธารที่มีน้ำสะอาดไหลตลอดเวลา มีพื้นท้องน้ำที่ไม่ลาดชันมาก และพบว่าไม่มีการกระจายพันธุ์บริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึง ลักษณะลำต้นเป็นลำต้นใต้ดิน ความสูงเตี้ยของลำต้นขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของน้ำ ใบมีสีเขียวอ่อน มีลักษณะแถบยาวปลายใบเรียวแหลมลอยพริ้วตามสายน้ำ ดอกเป็นประเภทดอกสมบูรณ์เพศที่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน ช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยประมาณ 7-9 ดอก กลีบดอกมีสีขาวลักษณะรูปหอก มีเกสรสีแดง อับเรณูสีเหลืองอ่อน ตามวัฏจักรของพลับพลึงธาร หลังจากงอกเป็นลำต้น จะใช้ระยะเวลาเติบโตราว 3 ปี จึงเริ่มออกดอก เมื่อดอกบานจะส่งกลิ่นหอมเย็นอบอวล การขยายพันธุ์ของพลับพลึงธาร ตามธรรมชาติพลับพลึงธารจะขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ดสีเขียวอ่อนที่อยู่ในผลซึ่งมีลักษณะคล้ายหัวหอมแดง (ตามภาพ) เมื่อผลแก่จะแตกออกมาเองและเมล็ดสีเขียวอ่อนภายในผลจะไหลไปตามลำคลอง ยึดเกาะตามพื้นดินใต้น้ำหรือกองหินใต้น้ำ จากนั้นงอกเป็นต้นพลับพลึงธารต่อไป พลับพลึงธารจะออกดอกทุกปี คือระหว่างเดือนกันยายน-เดือนธันวาคม ช่วงเวลาที่พบว่าดอกพลับพลึงธารบานพร้อมกันเต็มที่ คือ ราวต้นเดือนพฤศจิกายน จุดชมพลับพลึงธารจุดแรกที่จะพาไปชม คือ บ้านไร่ใน ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง พิกัด : https://maps.app.goo.gl/J66S3ntAbegH9R9e9  การเดินทาง : จากตัวเมืองระนอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา) จนถึงสามแยกตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ (กิโลเมตรที่ 677 ของถนนเพชรเกษม) ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไป 8 กิโลเมตร ถึงศูนย์อนุรักษ์พลับพลึงธาร บ้านไร่ใน แนะนำให้โทรไปสอบถามช่วงเวลาการบานของพลับพลึงธารและการเดินทางไปชม ได้ที่  โทร. 08 2808 7548 (คุณอัมรินทร์ ผู้ประสานงานศูนย์อนุรักษ์และเรียนรู้พลับพลึงธารบ้านไร่ใน) หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร (ดูแลพื้นที่จังหวัดชุมพรและระนอง) โทร. 0 7750 2775-6, 0 7750 1831 โดยที่ศูนย์อนุรักษ์พลับพลึงธาร บ้านไร่ใน จะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในชุมชนพาเที่ยวชมพลับพลึงธารที่ขึ้นกระจายอยู่ตามลำธารในหมู่บ้าน ที่บ้านไร่ในมีการเตรียมกิจกรรม “จิบกาแฟ แลพลับพลึงธาร” ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมพลับพลึงธารในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านไร่ในมีการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นของหมู่บ้าน จึงมีการต่อยอดโดยการเปิดเป็นร้านกาแฟวิสาหกิจชุมชนบ้านไร่ใน ให้นักท่องเที่ยวได้มาจิบกาแฟคั่วหอมอร่อยท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น และจากนั้นจะพาไปชมพลับพลึงธารตามจุดต่าง ๆ นอกจากนี้ที่บ้านไร่ใน ยังมีกิจกรรม “พายคายัก คลองนาคา” รองรับนักท่องเที่ยว เป็นการพายคายักระยะ 2 – 4 กิโลเมตร ภายในคลองนาคา ซึ่งเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านในหมู่บ้าน บรรยากาศสองฝั่งของลำคลองแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นพื้นที่ป่าชุมชนสลับกับสวนปาล์มของชาวบ้าน สอบถามข้อมูลกิจกรรม “จิบกาแฟ แลพลับพลึงธาร” และกิจกรรม “พายคายัก คลองนาคา” ได้ที่  โทร. 08 2808 7548 (คุณอัมรินทร์ ผู้ประสานงานศูนย์อนุรักษ์และเรียนรู้พลับพลึงธารบ้านไร่ใน) จุดที่สองในการแนะนำ คือ คลองตาเลื่อน เลขที่ 117 หมู่ที่ 1 บ้านบางซอย ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QpiocV6ckxVNL2vp7  การเดินทาง : จากตัวเมืองพังงา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม (พังงา-ระนอง) จนถึงสามแยกอำเภอคุระบุรี ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสายรองข้างโรงเรียนคุระบุรี ตรงเข้าไปประมาณ 5.5 กิโลเมตร ถึงจุดชมพลับพลึงธารคลองตาเลื่อน คุณตาเลื่อน มีแสง อายุ 87 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2566) ได้รับฉายาว่าเป็น “องครักษ์ผู้พิทักษ์พลับพลึงธาร” สืบเนื่องจากในลำคลองเล็ก ๆ ช่วงที่ไหลผ่านพื้นที่บ้านและสวนของคุณตาเลื่อน มีต้นพลับพลึงธารขึ้นกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก จากคำบอกเล่าอย่างภาคภูมิใจของคุณตาเลื่อน ทำให้ทราบว่าพลับพลึงธารที่ขึ้นอยู่ในลำคลองข้างบ้านมีให้เห็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ของคุณตาแล้ว และคุณตาได้ดูแลอนุรักษ์พลับพลึงธารเหล่านี้ด้วยความรักและผูกพันเสมอมา เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคุณตาเลื่อน จะพบคุณตานั่งรอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณหน้าบ้านเป็นประจำ คุณตาจะพาเดินชมพลับพลึงธารในลำคลองเล็ก ๆ ข้างบ้าน พร้อมบอกเล่าความเป็นมาของพลับพลึงธารที่ตนดูแลด้วยสีหน้าที่มีความสุข การมาเที่ยวชมพลับพลึงธารคลองตาเลื่อน ไม่เสียค่าเข้าชม แต่จะมีกล่องรับบริจาคเพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์พลับพลึงธารตั้งอยู่บริเวณส่วนรับแขกหน้าบ้าน ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคได้แทนค่าเข้าชม แนะนำให้โทรไปสอบถามช่วงเวลาการบานของพลับพลึงธารและการเดินทางไปชมได้ที่ บ้านคุณตาเลื่อน  โทร. 06 1180 8438 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา โทร. 0 7641 3400-2 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันอนุรักษ์พลับพลึงธาร” ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมขึ้น ณ คลองตาเลื่อน โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การเปิดให้ชมดอกพลับพลึงธารที่กำลังชูช่อดอกบานสะพรั่งในลำคลอง ร่วมเรียนรู้การเพาะปลูกพลับพลึงธาร การหว่านเมล็ดปลูกพลับพลึงธาร การเสวนาเรื่องการร่วมอนุรักษ์พลับพลึงธาร ชมนิทรรศการจากองค์กรภาคีเครือข่าย การมอบรางวัลการประกวดวาดภาพดอกพลับพลึงธาร การวาดภาพระบายสีบนกระเป๋าผ้า ร่วมชิมอาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป และดนตรีโฟล์คซอง  ข้อแนะนำที่ควรให้ความสำคัญในการเที่ยวชมดอกพลับพลึงธาร ได้แก่– ไม่ควรเดินเหยียบย่ำทุกส่วนของต้นพลับพลึงธาร– ไม่ควรเด็ดหรือสัมผัสดอกพลับพลึงธารแรง ๆ– ไม่ควรทิ้งขยะหรือทำความสกปรกให้กับลำคลองที่มีต้นพลับพลึงธารขึ้นอยู่– ควรเคารพกฎ กติกาที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้กำหนดไว้ ในการท่องเที่ยวและชมพลับพลึงธาร

พลับพลึงธาร…ราชินีแห่งสายน้ำ ✨ อ่านเพิ่มเติม

🕯️สุโขไทม์ สุโขทัย🕯️

ช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา บัดดี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวสุโขทัย เมืองเก่าที่รวมทั้งประวัติศาสตร์ โบราณสถานและวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้ วันนี้เลยถือโอกาสมานำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเมืองเก่าซะเลย หากใครสนใจ ลองตามมาอ่านดูได้เลย 1. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเริ่มต้นทริปด้วยสถานที่แรก #อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขาริมแม่น้ำยมทางฝั่งตะวันตก ผังเมืองเป็นรูปหลายเหลี่ยมที่โค้งตามลำน้ำ มีกำแพงเมืองและคูเมืองล้อมรอบ ภายในอุทยาน มีวัดสวยและสถาปัตยกรรมงามหลายแห่ง แต่วันนี้บัดดี้จะยกพอเป็นน้ำจิ้มให้เพื่อน ๆ ดู 3 แห่ง โดยวัดแรกที่บัดดี้จะพามาชมก็คือ #วัดช้างล้อม อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพญาลิไท มีเจดีย์ประธานทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นประดับอยู่โดยรอบทั้งหมด 39 เชือก ยืนเต็มตัวแยกออกจากผนัง ช้างที่มุมเจดีย์จะมีขนาดใหญ่กว่าช้างที่ประดับโดยรอบ #วัดเจดีย์เจ็ดแถว อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยตั้งอยู่ด้านหน้าวัดช้างล้อม มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลศิลปะเด่น ๆ จาก ลังกาและพุกาม เจดีย์ประธานเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีเจดีย์ภายในวัดเรียงรายกันถึง 33 องค์ บริเวณเรือนธาตุทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกสีขาวสวยงามมาก #วัดนางพญา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเป็นวัดที่ยังคงมีผนังของวิหารยังเหลืออยู่แม้จะมีเพียงด้านเดียวก็ตาม แต่ก็ยังสามารถมองเห็นความสวยงามของลวดลายปูนปั้นได้ ทั้ง รูปกึ่งมนุษย์ รูปเทพนม รูปกึ่งวานร และรูปลายพรรณพฤกษาต่าง ๆ จากฝีมือช่างชั้นครูในสมัยอยุธยา  อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท นั่งรถรางคนละ 30 บาท อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 0 5595 0714 เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/15UJNusmPsw8hu8c6 2. ศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์เตาเผาสังคโลก (เตาทุเรียง)สถานที่ต่อมาคือ #ศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์เตาเผาสังคโลก #เตาทุเรียง เป็นชื่อเรียกเตาเผาถ้วยชามสังคโลก ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ถึง 22 ซึ่งมักจะพบอยู่ในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ โดยคำว่า “ทุเรียง” เป็นคำในภาษามอญโบราณ (ဒုင်လေင်) แปลว่า จาน ส่วน “สังคโลก” มาจากคำว่า “สังคลก” หรือ “สังโกก” ในภาษามอญโบราณที่แปลว่า เตาเผา โดยเตาทุเรียงที่มีการสำรวจพบมีอยู่ 3 บริเวณด้วยกัน คือ เตาทุเรียงบริเวณเมืองเก่าสุโขทัย เตาทุเรียงป่ายางและเตาทุเรียงเกาะน้อย หากใครอยากเห็นต้นกำเนิดภูมิปัญญาเครื่องสังคโลก สถานที่นี้เป็นที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่นี่เป็นนิคมอุตสาหกรรมโบราณของเมืองศรีสัชนาลัยที่มีการขุดพบเตาเผาเครื่องถ้วยสังคโลกกว่า 500 เตาในระยะทางยาวถึง 1 กิโลเมตร มีการค้นพบเครื่องสังคโลกทั้งในสภาพสมบูรณ์และแตกหักจำนวนมากลักษณะเตาเผาเป็นรูปยาวรีคล้ายประทุนเรือจ้าง มีความยาวประมาณ 7 – 8 เมตร โดยมีอาคารศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์เตาเผาสังคโลกสร้างครอบเตาเผาเอาไว้อีกที ศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์เตาสังคโลก(เตาทุเรียง) บ้านเกาะน้อย ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท 0 5561 6228-9 เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00-16.00 น.https://maps.app.goo.gl/WNDqFB4Yz7bFMnvB7 3. สุนทรีผ้าไทยสถานที่ต่อมาคือ #สุนทรีผ้าไทย ร้านผ้าทอ ที่เริ่มต้นจากการรวมตัวของแม่บ้าน ต.หาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย เพื่อผลิตผ้าซิ่นตีนจก ภูมิปัญญาของชาวไทยพวนหาดเสี้ยว ซึ่งผลจากการทำงานและรวมตัวในครั้งนั้น ทำให้ผ้าทอหาดเสี้ยวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในจังหวัดเดียวกัน จังหวัดใกล้เคียงและที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสุนทรีผ้าไทย เปิดเป็นร้านค้ากึ่งศูนย์การเรียนรู้ ที่มีทั้งการสอนและสาธิตการทอผ้าซิ่นตีนจก ผ้าจกขนเม่น ผลิตภัณฑ์ที่นำผ้ามาประยุกต์เป็นกระเป๋า เดรส รองเท้า ไปจนถึงผลิตภัณฑ์จากเศษผ้าที่เหลือใช้ ที่มีการนำมาทำใหม่เพื่อเป็นการลดเศษขยะ ภายในบริเวณสุนทรีผ้าไทย มีเรือนไทยพวนโบราณไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ ภายในจำลองทั้งห้องครัว ห้องนอน ยุ้งฉางเก็บข้าวสารแบบโบราณไว้ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์และการทอผ้าที่บัดดี้แนะนำให้มามากเลยล่ะ  329 หมู่ที่ 9 ต.หนองอ้อ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 08 9858 8576, 0 5567 1321 เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/HqtJ2tyoyaFkWWeC9 4. วัดพิพัฒน์มงคลสถานที่ต่อมาคือ #วัดพิพัฒน์มงคล วัดเก่าอายุกว่า 700 ปี แต่เดิมเป็นวัดร้างกลางทุ่งนา ไม่มีหลักฐานการสร้างในทางประวัติศาสตร์ พบเพียงรากฐานอุโบสถ และมีการค้นพบเจดีย์โบราณจมอยู่ใต้พื้นดินลงไปประมาณ 1.50 เมตร ปัจจุบันวัดนี้ เป็นที่ที่หลายคนรู้จักและต่างแวะมาหากได้มาสุโขทัย ที่สำคัญยังเป็นสถานศึกษาเชิงพุทธศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ โดยมีโบสถ์เรือนแก้ว วิหารล้านนา ลานศึกษาพระปริยัติธรรม รวมไปถึง พระพุทธรูปทองคำ ที่ประดิษฐานและสร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับวัด  ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย 0 5565 9164 เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/MVx9iUCs258LSPzb9 5. วัดทุ่งเสลี่ยมสถานที่ต่อมาคือ #วัดทุ่งเสลี่ยม หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า #วัดหลวงพ่อศิลา สถานที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปหินทรายปางนาคปรกที่ชาวสุโขทัย และจังหวัดใกล้เคียงต่างศรัทธา ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่ามีอายุมานานนับพันปีแล้ว หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปหินทรายขาว ศิลปะแบบเขมร เมืองพระนคร ที่มีอิทธิพลทางศิลปะครอบคลุมนครวัด-ลพบุรี สามารถขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและโชคลาภได้ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า หากเกิดอุบัติเหตุแล้วอธิษฐานหรือระลึกถึงหลวงพ่อศิลา มักจะแคล้วคลาดปลอดภัย  ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/phqT2ndCmN1iqdGHA 6. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยสถานที่สุดท้ายคือ #อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ในตัวเมืองสุโขทัย ทั้งภายนอกและภายในผังเมืองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีโบราณสถานกระจายตัวมากกว่า 200 แห่งอยู่ภายใน ซึ่งสถานที่บัดดี้จะมาแนะนำก็คือ #วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง เป็นวัดขนาดใหญ่ เจดีย์องค์ประธานคือเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์รายล้อมไปด้วยเจดีย์อีก 8 องค์ ข้าง ๆ เจดีย์ประธานเป็นวิหารหลวงเคยเป็นที่ประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี” ที่ปัจจุบันได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร สถานที่ต่อมาคือ #วัดตระพังทอง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นหนึ่งในสี่ศาสนสถานกลางน้ำแห่งเมืองสุโขทัย ที่มีสระน้ำ หรือ “ตระพัง” ล้อมอยู่ ปัจจุบันเหลือเพียงวัดตระพังทองเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่วัด มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และมีพระสงฆ์จำพรรษา ส่วนวัดอื่น ๆ ล้วนกลายเป็นโบราณสถานไปหมดแล้ว กิจกรรมขึ้นชื่อของวัดตระพังทองก็คือ “กิจกรรมตักบาตรวิถีไทย รับรุ่งอรุณแห่งความสุข” ที่จะจัดขึ้นเวลาประมาณ 06.00 น. ในตอนเช้าของทุกวันบริเวณสะพานบุญวัดตระพังทอง ทั้งคนพื้นถิ่นและนักท่องเที่ยวสามารถร่วมกันทำบุญในยามเช้า เพื่อความเป็นสิริมงคลได้ ปิดท้ายทริปกันที่ #วัดศรีชุม โบราณสถานที่สำคัญและโดดเด่นในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย :ซึ่งคำว่า “ศรี” หมายถึง ต้นโพธิ์ ดังนั้นชื่อ “ศรีชุม” จึงหมายถึง ดงของต้นโพธิ์

🕯️สุโขไทม์ สุโขทัย🕯️ อ่านเพิ่มเติม

🌷หอฝัน ถนนพาดสาย เยาวราช✨

Hor Fun (หอฝัน) ร้านอาหารจีนสไตล์ Home Cook Fusion ภายในร้านมีการตกแต่งในสไตล์ Chinese Modern สวยงาม คำว่า “Hor Fun” มาจากภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า เส้นใหญ่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่อยู่ในเมนู ก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่เป็นเมนู Signature ของทางร้าน เป็นสูตรดั้งเดิมของตระกูลที่ถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่น เป็นระยะเวลากว่า 60 ปี โดยได้นำมาดัดแปลงให้มีความ Modern แต่ยังคงความอร่อยแบบรสชาติต้นตำรับ ตามไปอ่านกันต่อได้ที่ภาพในโพสต์ 📍ร้านตั้งอยู่บนถนนพาดสาย เยาวราช (มีลานจอดรถ เลยร้านไป 20 เมตร)⏰ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น.🌐https://goo.gl/maps/rQ1z4taZjjMny53n7🚗การเดินทางโดยรถสาธารณะ : MRT สถานีวัดมังกร แล้วเดินต่อไปอีก 400 เมตร เมนูที่อยากแนะนำให้ได้ลองกันเริ่มต้นจานแรกด้วยเมนู Appitizer ชื่อว่า “Caprese Ganachai” เมนูนี้มีทั้งชีส มะเขือเทศ น้ำมันมะกอก และยังใช้วัตถุดิบขึ้นชื่อในย่านเยาวราช นั่นก็คือ กานาฉ่าย เป็นเมนูที่ไม่เคยกินมาก่อน รู้สึกแปลกดี ลองครั้งแรกคือชอบมาก ให้ความรู้สึกสดชื่นนิด ๆ ต่อด้วยจานหลัก “ก๋วยเตี๋ยวหลอด” ซึ่งมีหลายหน้าให้เลือก เช่น หมู กุ้ง แซลมอน เส้นใหญ่มีความนุ่มนวล ปรุงรสด้วยการบีบมะนาวลงไป เติมน้ำตาลและพริกลงไปนิดหน่อย อร่อยมากกก อีกหนึ่งเมนูที่เป็นไฮไลต์ คือ Hor Fun Pizza พิซซ่าเส้นใหญ่กรอบหน้าเป็ดรมควัน เสิร์ฟคู่กับผักดองรสชาติจัดจ้าน เป็นพิซซ่าที่ทำจากเส้นใหญ่นำไปทอดให้กรอบ มีความกรอบนอกนุ่มใน หอมอร่อย ต้องลองและยังมีเมนู Why not Fried ติ่มซำทอด ทานคู่กับซอสกำเจือง เป็นซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ที่พลาดไม่ได้เลย ขอแนะนำ French Fried Mala เฟรนช์ฟรายส์หมาล่าโรยด้วยกุนเชียงทอด เสิร์ฟให้ทานคู่กับทรัฟเฟิลมาโยหากใครมาเดินเที่ยวย่านนี้บอกเลยว่าห้ามพลาด

🌷หอฝัน ถนนพาดสาย เยาวราช✨ อ่านเพิ่มเติม

🌥🌬เส้นทางดอกไม้ ปากช่อง – วังน้ำเขียว✨

ลมหนาวหวนกลับมาอีกครั้ง ชวนให้นึกถึงบรยากาศทุ่งดอกไม้หลากสีที่บานสะพรั่งรับลมเย็น ๆ และมักจะเป็นสถานที่ยอดฮิตของสาว ๆ ผู้ชื่นชอบดอกไม้ เพื่อน ๆ จะนึกถึงที่ไหนกันบ้าง หากใครยังไม่มีเวลามากพอที่จะเก็บกระเป๋าเดินทางไกลไปชมดอกไม้เมืองหนาว บัดดี้ก็มีสถานที่ที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน บนเส้นทางปากช่อง-วังน้ำเขียว นครราชสีมา แหล่งที่ได้ชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บรรยากาศดี และมีทุ่งดอกไม้ให้เพื่อน ๆ ได้เช็กอินกันหลายแห่ง จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน สวน Klang Pana Roses Garden & Cafe Khao Yai🌹 ชมสวนกุหลาบที่โอบล้อมไปด้วยวิวเขาบนถนนผ่านศึก-กุดคล้า ที่ Klang Pana Roses Garden & Cafe Khao Yai หรือ สวนกุหลาบกลางพนา ภายในมีกุหลาบหลายสายพันธุ์ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ มีคาเฟ่หลังเล็ก ๆ ให้บริการเบเกอรีและเครื่องดื่ม เพื่อน ๆ จะนั่งในร้านหรือนั่งด้านนอกก็ได้ มีที่นั่งมากมายริมสวนให้เราได้ใกล้ชิดและเพลิดเพลินกับดอกกุหลาบนานาพันธุ์ เดินเล่นถ่ายรูปได้หลายมุมไม่มีเบื่อเลย แถมที่นี่ก็ยังมีกุหลาบจำหน่ายด้วยนะ 📍 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.💵 ค่าเข้า 50 บาท ใช้เป็นคูปองส่วนลดเครื่องดื่มได้📞 08 1811 8299📱 Facebook : สวน Klang Pana Roses Garden & Cafe Khao Yai🌐 https://maps.app.goo.gl/sgcf1BrzZUceRVrU7 สวน Klang Pana Roses Garden & Cafe Khao Yai Hokkaido Flower Park Khaoyai 🪻 เช็กอินสวนดอกไม้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่มีดอกไม้หลากสี หลายสายพันธุ์ปลูกเรียงกัน ดอกไม้บานสวยงามตั้งเช้าจรดเย็นไม่มีแผ่ว ตรงกลางสวนมีบ้านเล็ก ๆ สไตล์หมู่บ้านชิราคาวาโกะ แถมมีชุดยูกาตะให้เช่าอีกด้วย ด้านหน้ามีคาเฟ่หลังเล็ก ๆ ให้บริการอีกด้วยนะ บัดดี้มาที่นี่ช่วงเย็น ๆ แสงสวยมาก ทางสวนจะเปิดไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2567 และก็จะปิดปรับปรุงสวนเพื่อเตรียมปลูกดอกไม้ใหม่ 📍 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น.💵 ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 6-12 ปี 50 บาท ต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าชมฟรี สามารถใช้เป็นคูปองส่วนลดค่าเครื่องดื่มและของหวานได้ตามกำหนดของทางร้าน📞 09 7926 8662📱 Facebook : Hokkaido Flower Park Khaoyai🌐 https://maps.app.goo.gl/Qw8irJxyzmCKCDrn6 Hokkaido Flower Park Khaoyai ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่ 🌻 ที่เขาใหญ่ มีทุ่งดอกทานตะวันที่ใหญ่มากท่ามกลางวิวเขาที่สวยงาม ช่วงนี้ดอกทานตะวันกำลังบานสะพรั่งเต็มทุ่ง เดินเที่ยวชม ถ่ายรูปคู่กับดอกทานตะวันน่ารัก ๆ กันอย่างเพลิดเพลิน ใครชอบกินเมล็ดทานตะวันก็มาอุดหนุนร้านรวงของพ่อค้าแม่ค้าในสวนกันได้ ไม่ได้อร่อยแค่กับคนนะ ที่นี่ยังเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศของนกแขกเต้าฝูงใหญ่ บินมากินเมล็ดทานตะวันกันตั้งแต่เช้าตรู่เลยล่ะ ใครมีแพลนจะมาที่นี่ มาได้จนถึงเดือนมกราคม 2567 เลยนะ 📍 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.💵 ค่าเข้าชมชาวไทย 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท📞 08 4430 9191, 09 8301 9051📱 Facebook : ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่🌐 https://maps.app.goo.gl/Qw8irJxyzmCKCDrn6 ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่ Farm Chokchai 🌼 ที่นี่ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เป็นฟาร์มที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือกิจกรรม #ขับรถตะลอนฟาร์มโชคชัย มีดอกไม้หลากชนิดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในแปลงดอกไม้ของฟาร์มโชคชัยอย่างสวยงาม 💵 ค่าเข้าขับรถตะลอนชมฟาร์มด้านในผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 70 บาท (สูง 90-140 cm.)*รถทุกประเภทสามารถเข้าได้ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดความสูงรถไม่เกิน 2.6 เมตรจุดจำหน่ายบัตร 3 จุด ได้แก่ 🚜 ส่วนใครที่อยากนั่งรถบริการของฟาร์ม ก็มีรถรางแทร็กเตอร์ชมฟาร์มให้บริการด้วยนะค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 140 บาท เด็ก 100 บาท (สูง 90-140 cm.)ให้บริการวันละ 4 รอบ เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์เวลา 11.00 / 12.00 / 13.00 / 14.00 📍 169 หมู่ที่ 2 ถนนมิตรภาพ ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.30-16.30 น.📞 09 8719 4464,

🌥🌬เส้นทางดอกไม้ ปากช่อง – วังน้ำเขียว✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ 7 พิกัด เที่ยวชมงานวิจิตรเจ้าพระยา ✨

เปิดตัวงาน Vijit Chao Phraya 2023 อย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 วันนี้บัดดี้จึงนำภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อน ๆ ภาพแสง สี สุดอลังการในกรุงเทพมหานคร ยังมีให้ชมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยมีไฮไลต์ 7 พื้นที่ ดังนี้ ​ 1. สะพานพระราม 8 พบกับการแสดงเลเซอร์ 3D ประกอบ Light & Soundวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ เวลา 19.00-21.35 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/7ZGjprvbYaF7YLuo6  2. สวนสันติชัยปราการ พบกับการแสดงทางวัฒนธรรม ชุด ‘มหัศจรรย์เมืองไทย’วันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 วันละ 4 รอบ เวลา 19.30-21.00 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/P64Q2WWo3j2MooVz8  3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พบกับการแสดง Light & Sound พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามฯวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566​ วันละ 6 รอบ เวลา 19.00-21.35 น. การแสดงทางวัฒนธรรม ชุด ‘เล่าขานตำนานยักษ์วัดแจ้ง เทพสถิต วิจิตรคู่สองฝั่งเจ้าพระยา’วันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 วันละ 3 รอบ เวลา 19.20-20.20 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/CxARdN4JgRPdYtPV8  4. ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พบกับการแสดง Projection Mapping 3D และม่านน้ำ ประกอบ Light & Soundวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ เวลา 19.15 – 21.50 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/BmqcE5j2VoczaUoo8  5. สะพานพระพุทธยอดฟ้าการแสดง Illumination ประกอบ Light & Soundวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ เวลา 19.00-21.35 น.  จุดพลุประกอบการแสดงวันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 วันละ 1 รอบ เวลา 20.45 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/72wcY9b7JJM5FbAD6  6. ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก พบกับการแสดง Projection Mapping ประกอบ Light & Soundวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ เวลา 19.00 – 21.50 น. พิกัด https://maps.app.goo.gl/7q56xhXYhSKuP1nG6  7. ไอคอนสยาม พบการแสดง Light & Soundวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 4 รอบรอบที่ 1: 18.30-18.40 น.รอบที่ 2: 20.00-20.10 น.รอบที่ 3: 21.00-21.10 น.รอบที่ 4: 21.30-21.40 น. (เพิ่มรอบการแสดง) พิกัด https://maps.app.goo.gl/xeSM1y8dGTCNBsM48 สามารถติดต่อกองอำนวยการได้ที่บริเวณสวนสันติชัยปราการจัดงานโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

✨ 7 พิกัด เที่ยวชมงานวิจิตรเจ้าพระยา ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดพระพุทธบาทภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ ✨

สวัสดีเพื่อน ๆ วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยววัดสวยแสนสงบที่มีธรรมชาติล้อมรอบ สร้างจากแรงกายแรงศรัทธาของคนในชุมชน ทั้งยังเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมของผู้คนหลายเพศหลากวัยจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวสายธรรมจากต่างแดน วัดพระพุทธบาทภูแฝด อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 23 กิโลเมตร เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ที่มีรอยพระพุทธบาทในก้อนหินบนภูเขา ภายในวัดมีต้นไม้ร่มรื่น สถาปัตยกรรมสีสันสวยงามและมีความสงบที่หากใครกำลังอยากหนีความวุ่นวายอยู่ รับรองมาที่นี่ไม่ผิดหวัง หากใครสนใจอยากเที่ยววัดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ สวยงาม และสามารถปฏิบัติธรรมได้ บัดดี้ขอฝากวัดนี้ให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำในแถบภาคอีสาน ที่หากมีโอกาสอยากให้ลองมากันดู 📍 ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ⏱ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.📞 0 4421 3666 (ททท.สำนักงานนครราชสีมา), 06 2782 5308 (ตาหนู มัคนายกวัด)🌐 https://maps.app.goo.gl/Xm32grVRKUCJYyoa8

✨ วัดพระพุทธบาทภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌥🌬ลมหนาวเริ่มมาเยือน เลยอยากจะชวนทุกคนเดินทางขึ้นเหนือ แล้วแวะมาจิบชาให้ร่างกายอบอุ่นกัน ที่ “Sawanbondin Tea House & Experience”✨

ร้านชาชื่อเก๋แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ตัวร้านสีขาวขนาดกะทัดรัด ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นแถมยังได้กลิ่นหอมของชาทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ชาที่นี่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้งชามะลิ ตะไคร้ เก๊กฮวย ชาเขียว หรือจะเป็นชาชื่อแปลก ๆ อย่าง ชานมัสการ ชาภาวนา และ “ชาขนมไทย” ที่เราเลือกชิมในครั้งนี้ สิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือความหอมของชา และเมื่อได้ลิ้มรส ก็รู้สึกเหมือนกับกำลังรับประทานขนมไทย ที่ประกอบด้วยกะทิ ใบเตย และกลิ่นอบควันเทียน แต่ส่วนประกอบที่จริงนั้นมีแค่ใบชาอู่หลง ชาเขียว และข้าวคั่ว เท่านั้น เป็นการเบลนด์ชาที่ได้รสชาติแปลกใหม่ ที่อร่อยมากจริง ๆ ไม่เพียงแค่เมนูชาร้อนเท่านั้นยังมีไอศกรีมหลายรสให้ได้เพิ่มความสดชื่น โดยเฉพาะ อัญชันแมคคาเดเมีย ที่เราการันตีว่าอร่อยสุด ๆ ตบท้ายด้วยชาเขียวลาเต้ รสชาตินุ่ม ๆ สักแก้ว ถือเป็นการปิดจบการดื่มชาที่มีความสุขมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกมากมาย หากใครตัดสินใจไม่ได้ เพราะน่ารับประทานไปทุกเมนู สามารถขอคำแนะนำจากพนักงานที่ร้านได้เลย ที่นี่ยังมีน้องแมว ที่รอต้อนรับทุกคนที่มาด้วยนะ เป็นหนึ่งในร้านชาของเชียงรายที่ห้ามพลาดถ้าได้มาเยือน

🌥🌬ลมหนาวเริ่มมาเยือน เลยอยากจะชวนทุกคนเดินทางขึ้นเหนือ แล้วแวะมาจิบชาให้ร่างกายอบอุ่นกัน ที่ “Sawanbondin Tea House & Experience”✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวชัยภูมิ ดูชุมชน ชมประวัติศาสตร์ 3 วัน 2 คืน ✨

สวัสดีเพื่อน ๆ จากคราวก่อนที่บัดดี้นำเสนอคอนเทนต์ “หม่ำ…ของฝากชัยภูมิ” ไป วันนี้บัดดี้จะมานำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว จ.ชัยภูมิ ที่บัดดี้มีโอกาสไปเที่ยวมา จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย 1. บ๊วยโภชนาเขาว่ากันว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะฉะนั้นบัดดี้เลยขอเริ่มทริปที่ร้าน “บ๊วยโภชนา” ร้านอาหารที่เปิดมานานกว่า 45 ปี ตัวร้านเป็นอาคารพานิชย์ 2 ชั้นเล็ก ๆ ที่สร้างจากไม้ ดูสวยคลาสสิกเคล้ากลิ่นอายความเก่าแบบเก๋า ๆ บ่งบอกถึงความเป็นร้านเด็ดประจำชัยภูมิได้เป็นอย่างดี ร้านนี้จะขายข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ดและติ่มซำ ซึ่งทุกจานทุกเมนูรสชาติอร่อยทานง่าย ไม่แปลกใจเลยที่จะมีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสายทั้งคนวัยทำงาน ข้าราชการ เด็กนักเรียนไปจนถึงคนเก่าคนแก่ที่น่าจะแวะเวียนมาอุดหนุนร้านนี้อยู่เป็นประจำ แม้แต่ละจานหน้าตาอาจดูไม่ได้หวือหวามากนัก แต่รสชาติอร่อยจริง ๆ นะ เพื่อน ๆ คนไหนอยากลิ้มชิมรสร้านเก่าแก่อีกร้านหนึ่งของชัยภูมิ ก็มาลองกันได้  ถ.หฤทัย ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 09 5618 0360https://maps.app.goo.gl/iYZZALbjMaA44ymF8 2. พระปรางค์กู่สถานที่ถัดมาคือ “พระปรางค์กู่” เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองชัยภูมิ ห่างจากร้านบ๊วยโภชนาประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น พระปรางค์กู่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1724–1761 หรือ พุทธศตวรรษที่ 18 โดย “พระไภษชัยคุรุไวฑูรย์ประภา” สมัยอาณาจักรขอม ในรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โบราณสถานแห่งนี้มีฐานสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง วางซ้อนกันจากฐานถึงยอด มีกำแพงรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบ เชื่อกันว่าที่นี่เป็นอโรคยาศาล (โรงพยาบาล) ในอดีต ภายในพระปรางค์กู่ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ ทับหลังที่กรอบประตูสลักเป็นรูปไตรรัตนมหายาน มีความหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงมีความรู้การแพทย์ ทำให้ประชาชนมีความสุขและไม่มีโรค นอกจากนี้ พระปรางค์กู่ยังมีบ่อน้ำ บรรณาลัย หน้าบันแกะสลัก ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์มาก ๆ ให้ได้ชม แถมบริเวณสนามหญ้าโดยรอบยังเป็นสวนสาธารณะ มีร่มเงาไม้ได้หลบแดด รับลมได้ทั้งวัน เป็นอีกที่ที่เที่ยวได้ง่าย ๆ เลยล่ะ  ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/RJFZKvkSLKXV24AF 3. หอศิลป์คลังจัตุรัสสถานที่ต่อมา บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาหาแรงบันดาลใจจากภาพวาดที่ “หอศิลป์คลังจตุรัส” หอศิลป์ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของ อ.สมาน คลังจัตุรัส ศิลปินชาวชัยภูมิ ที่ได้สร้างหอศิลป์คลังจัตุรัสขึ้น จากสำนึกรักบ้านเกิด และมุ่งหวังให้คนรุ่นหลังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบสานงานศิลป์ให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งบัดดี้ใช้เวลาอยู่ที่ตลอดช่วงบ่ายเลย บัดดี้นัดกับพี่นุช ทายาทของ อ.สมาน และผู้จัดการของหอศิลป์คลังจตุรัสไว้ ซึ่งพี่นุชได้พาบัดดี้เยี่ยมชมหลายส่วนของหอศิลป์แห่งนี้ เริ่มจากหอศิลป์เป็นที่แรก ซึ่งภายในมีภาพวาดที่ อ.สมาน วาดอยู่หลายภาพ ที่สำคัญมีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชินีบนธนบัตรเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดธนบัตรจากประเทศเยอรมันตอนปี พ.ศ.2547 ด้วยนะ ถัดมาคืออาคารห้องสมุดที่ตั้งอยู่ติดกันกับอาคารหอศิลป์ ซึ่งเปิดให้ทั้งคนที่มาเยี่ยมชมหรือเด็ก ๆ ที่มาวาดภาพเข้ามาอ่านหนังสือได้เลยฟรี ๆ อาคารนี้มีชื่อว่าเรือนยอดมณี มีภาพวาดดอกไม้ของ อ.สมาน สมัยไปต่างประเทศ มีห้องวาดภาพของเด็ก ๆ ที่มาที่นี่ ชั้น 2 ของอาคารจัดแสดงงานหลากหลายประเภทจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อีกอาคารเด่นของที่นี่คือ หอศิลป์คลังจตุรัสใหญ่ ที่มีภาพวาดขนาดใหญ่ที่สุดของ อ.สมาน เท่าที่เคยวาดมาอยู่บนชั้น 2 รวมไปถึงภาพพระเกจิอาจารย์อีกหลายภาพ เพื่อน ๆ สามารถแวะมาดูได้ ส่วนกิจกรรมที่บัดดี้เลือกทำ คือการระบายสีกระเป๋าดอกกระเจียว ค่ากิจกรรมจะอยู่ที่ 100 บาท บัดดี้มานั่งวาดที่ลานกลางหอศิลป์คลังจตุรัส ใกล้ ๆ กันมีร้านกาแฟ Ozone coffee ให้เพื่อน ๆ นั่งพักสบาย ๆ ซึ่งที่ลานแห่งนี้มีทั้งดอกแก้ว ดอกโมก ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลาที่วาด หากใครกลัวการระบายสีว่าจะออกมาไม่ดีก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะพี่นุชบอกบัดดี้ว่า งานศิลปะไม่มีถูกผิด มีแต่สวยและสวยมากเท่านั้น แถมยังคอยสอนและช่วยอธิบายการระบายสีแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ด้วย ใครมาอย่าพลาดล่ะ  38 บ้านคลองเรียง ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. 08 1772 2250https://maps.app.goo.gl/JSp6GjSsxVWpX6569 4. เราเอมโอชเริ่มต้นเช้าวันใหม่ บัดดี้มาที่ร้าน “เราเอมโอช” ร้านอาหารเช้ากลางเมือง ตัวร้านเป็นตึกแถวห้องเดียว เป็นร้านที่มีทั้งคนในท้องที่และนักท่องเที่ยวแวะมาไม่ขาดสาย เมนูเด่นคือไข่กระทะ อเมริกัน เบรคฟาสและขนมปังเวียดนาม แถมมีกาแฟสดด้วย ใครอยากกินมื้อเช้าสบาย ๆ ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่บัดดี้อยากแนะนำ  357/1 สามแยกวัดชัยประสิทธิ์ ถ.บูรพา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-13.30 น. 0 4483 0075, 08 1999 8680https://maps.app.goo.gl/wnGdaKVfD1jfWMnf7 5. เฮือนคำมุหลังจากอาหารเช้า บัดดี้มาที่ “เฮือนคำมุ” ที่ที่เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าไทยโบราณและร้านกาแฟรสชาติดีที่มีเบเกอรีรสอร่อย คอยต้อนรับแขกที่มีเยี่ยมเยียน เฮือนคำมุ จำลองบรรยากาศบ้านคหบดีล้านช้างในอดีต ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ยุ้งข้าวและมีการจำลองวัดเชียงทองจากหลวงพระบางมาใช้ในบางส่วนของตัวอาคาร ก่อนมาที่นี่ บัดดี้ได้ติดต่อ พี่เอ๋-อาจารย์คมกฤช ฤทธิ์ขจร ศิลปินร่วมสมัยแห่งชาติสายเลือดพระยาแล ผู้ก่อตั้งเฮือนคำมุแห่งนี้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชัยภูมิ โดยจุดแรกที่บัดดี้ได้ชมก็คืออาคาร “พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” ที่ภายในจะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเฮือนคำมุ เรื่องราวของผ้าทอโบราณ ไปจนถึงเรื่องราวและข้าวของเครื่องใช้ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งที่เสด็จมา จ.ชัยภูมิ หลังจากเดินดูภายในพร้อมกับฟังพี่เอ๋บรรยายเรื่องราวของหลายเรื่องไปด้วย ทั้งที่มาและประวัติศาสตร์ของชัยภูมิ เรื่องราวของผ้าลายต่าง ๆ

✨ เที่ยวชัยภูมิ ดูชุมชน ชมประวัติศาสตร์ 3 วัน 2 คืน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ หม่ำ ของฝากชัยภูมิ ✨

ช่วงที่ผ่านมา บัดดี้มีโอกาสได้ไปเที่ยว จ.ชัยภูมิ ซึ่งหนึ่งสิ่งที่หลายคนบอกห้ามพลาดหากมาจังหวัดนี้คือการลองชิม “หม่ำ” อาหารพื้นเมืองของชาวชัยภูมิ “หม่ำชัยภูมิ” ที่ได้ชื่อว่ามาจากตำนานรัก โดยมีตำนานเล่าว่า มีพรานป่าออกไปล่าสัตว์บนภูเขียว-ภูคิ้ง ซึ่งต้องใช้เวลานานในการเดินทางไป-กลับกว่า 1-3 เดือน หลังจากล่าสัตว์ได้ เขาก็คิดหาวิธีถนอมอาหารให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าเสีย เพื่อจะนำกลับมาฝากลูก-เมีย ที่บ้าน โดยการสับเนื้อ ผสมตับ คลุกข้าวเหนียวและเกลือที่พกติดตัวไป แล้วนำมายัดใส่ในกระเพาะและลำไส้ของสัตว์ที่ล่าได้ พอกลับถึงบ้านนำมาชิม ปรากฏว่ามีรสชาติอร่อยถูกใจภรรยา กลายเป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมกินสืบมาจนถึงปัจจุบัน หม่ำ จะทำจากเนื้อสัตว์ 2 ชนิดด้วยกัน คือ หม่ำเนื้อ (เนื้อวัว) และหม่ำหมู (เนื้อหมู) โดยการนำเนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่ไร้มันมาบดและสับ ก่อนนำมาผสมกับตับ ข้าวเหนียว กระเทียม เกลือ และนำมายัดใส่ในกระเพาะสัตว์ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่เป็นลูกกลม ๆ เกิดจากการยัดใส่กระเพาะอาหารหรือกระเพาะปัสสาวะของวัวแทนไส้ และแบบเป็นแท่งยาว ๆ คล้ายไส้กรอกอีสาน โดยการยัดใส่ลำไส้ ก่อนนำมาผึ่งลมสัก 1 วันก็สามารถนำไปกินได้แล้ว หม่ำที่ผึ่งลมไว้ภายในบริเวณร้าน ร้านที่บัดดี้มีโอกาสแวะไป ชื่อร้าน หม่ำแม่คำตัน ที่เปิดกิจการมานานกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากที่นี่จะมีหม่ำทั้ง 2 แบบที่บัดดี้แนะนำไปแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ อย่างเช่น หมูยอ กุนเชียง ไส้กรอกอีสาน รวมไปถึงสินค้า OTOP จากร้านค้าและชุมชนใกล้เคียงขายอีกด้วย การกินหม่ำ “พี่เชษฐ์” ผู้ดูแลกิจการร้านหม่ำแม่คำตันได้บอกบัดดี้ว่า สามารถกินได้ทั้งแบบดิบ ๆ หรือนำไปทำให้สุกโดยการย่าง อบ ทอด ได้เลย แต่อย่านานเกินไปล่ะ เพราะเนื้อจะแห้งเกิน หากชอบรสเปรี้ยว สามารถรออีก 2-3 วัน ก่อนนำมากิน ก็ได้รสเปรี้ยวเพิ่มขึ้นแล้ว หากเพื่อน ๆ อยากลิ้มรสหม่ำแบบดั้งเดิม บัดดี้แนะนำว่าให้เลือกแบบที่เป็นลูกกลม ๆ เพราะเนื้อสัมผัสจะเหนียวนุ่มกว่าแบบลำไส้ ซึ่งปัจจุบัน บัดดี้เห็นร้านอาหารหลายร้าน นำหม่ำไปประกอบอาหารอื่น ๆ อีกหลายเมนูเลย ทั้งผัดกะเพรา ผัดพริกแกง ไข่เจียว หรือแม้แต่นำไปใส่แกงก็มีนะ และแล้วก็ถึงเวลากิน บัดดี้เลือกทั้งหม่ำหมูและหม่ำเนื้อมาลอง โดยรสชาติหม่ำจะเปรี้ยวนำเค็มตาม เนื้อสัมผัสเหมือนไส้กรอกลีน ๆ ไร้ความมัน มีเนื้อให้เคี้ยวสนุกปาก กินคู่กับพริก กระเทียม ขิงดอง อร่อยเข้ากันมาก หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถแวะมาลองกินแบบบัดดี้ หรือสั่งออนไลน์ที่เพจของทางร้านได้เลย  283 หมู่ที่ 2 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. 0 4486 2353, 08 9426 1395https://maps.app.goo.gl/GGthSnLRM4ZkcKnFAhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100063922455643

✨ หม่ำ ของฝากชัยภูมิ ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top