สถานที่ท่องเที่ยว

1 วันสุดชิล@ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ

1 วันชิลล์ ๆ นี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเดินเล่นย่านปากคลองตลาด-สะพานพุทธ ย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกย่านที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน ตึกยุคเก่าแนววินเทจที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวในอดีต เป็นย่านที่ถึงเวลาจะผ่านมาเท่าไหร่ก็ยังคงความคลาสสิกไม่มีเปลี่ยน . ใครที่อยากเที่ยวแต่ไม่อยากออกจากกรุงเทพฯ ก็แวะไปเที่ยวย่านปากคลองตลาด-สะพานพุทธกันได้ ไปอัพเดทความเปลี่ยนแปลง ร้านรวงใหม่ ๆ พื้นที่ใหม่ ๆ และสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยไป ลองไปกันค่ะ อาจจะได้พบสถานที่ใกล้ตัวที่เที่ยวสนุกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งก็ได้ ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ1 พิพิธภัณฑ์ใต้ดิน (Site Museum)2.มิวเซียมสยาม3 สำนักงานตำรวจนครบาลพระราชวัง4. Farm to Table, Hideout5.ปากคลองตลาด6.ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค7.สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา8 ไปรษณียาคาร9.สะพานพุทธยอดฟ้า พิพิธภัณฑ์ใต้ดิน (Site Museum).วันนี้แอดเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีสนามไชย ทางออก 1 แต่ก่อนจะออกจากสถานี แอดจะพาไปชมมิวเซียมใต้ดิน (Site Museum) พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ที่อยู่ในสถานีสนามไชยนี้กันค่ะ.เพราะบริเวณนี้เป็นเขตเมืองเก่า เมื่อมีการเปิดหน้าดินเพื่อทำการก่อสร้าง เราจึงได้พบทั้งโบราณวัตถุมากมาย รวมทั้งฐานรากของท้องพระโรง และอื่น ๆ จึงเกิดเป็นความร่วมมือกันจัดทำเป็นพื้นที่จำลองเพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์พื้นที่รอบบริเวณสถานีสนามไชยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในส่วนพิพิธภัณฑ์ นอกจากจะมีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบระหว่างการสร้างสถานีแล้ว ยังมีการใช้แอนิเมชั่นบอกเล่าประวัติศาสตร์ของพื้นที่อีกด้วย ซึ่งแอดว่าทำได้น่าสนใจและน่าสนุกมากเลย.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น.เข้าชมฟรี มิวเซียมสยาม.จากมิวเซียมใต้ดิน เราจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์อีกแห่งค่ะ นั่นคือ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) สำหรับแอดแล้ว มิวเซียมสยามเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สนุกมาก เหมาะกับทุกคนไม่ว่า Gen ไหนก็ตามที่อยากรู้เรื่องไทย ๆ ในทุกแง่มุมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ โดยจัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ จับต้องได้ ทำให้เข้าใจและเข้าถึงง่าย ในการเข้าชม เจ้าหน้าที่จะพาเราเดินชมไปทีละห้อง เราสามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเก็บความรู้ ความประทับใจได้ทุกห้อง นอกจากนี้ ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้ได้ช้อปปิ้ง ของน่ารักไม่แพ้ใครเลย หรือถ้าเหนื่อย ๆ ก็พักเติมพลังที่ร้านอาหารในมิวเซียมสยามก่อนออกไปเที่ยวที่อื่นต่อได้ เรียกว่าใช้เวลาอยู่ที่มิวเซียมสยาม ไม่เบื่อเลยค่ะ ได้เรียนรู้และสนุกกว่าที่คิด ค่าเข้าชมนักเรียน นักศึกษา (อายุ 15 ปีขึ้นไป) 50 บาทผู้ใหญ่ 100 บาท.ที่ตั้ง 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)โทร. 0 2225 2777 สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง.จากมิวเซียมสยาม เดินมาบนถนนมหาราช ไม่ไกลนักก็จะเห็น สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง หรือเรียกกันว่า สน.พระราชวัง อยู่บริเวณมุมถนนมหาราชบรรจบกับถนนราชินี เป็นตึกฝรั่งชั้นเดียว สีเหลืองโดดเด่น สวยวิจิตรตามแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลแบบบาโรค สวยจนแอดต้องขอเก็บภาพมาฝากทุกคน Farm to Table Hideout.ถัดจาก สน.พระราชวังก็คือย่านปากคลองตลาด ย่านนี้มีร้านอาหารออร์แกนิคยอดนิยมที่สายรักสุขภาพต้องมา นั่นก็คือ “Farm to Table Hideout” แม้จะซ่อนตัวอยู่ในซอยลึกลับ แต่ก็มีคนเดินทางมากินไม่ขาดสาย เพราะติดใจในรสชาติและคุณภาพอาหาร ทุกเมนูใช้วัตถุดิบออร์แกนิกจากไร่ของเจ้าของร้าน มีทั้งของคาว ของหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอศครีมของที่นี่ มีรสชาติไม่เหมือนใคร เช่น กระท้อน มะยงชิด รวมทั้งผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ชอบมะยงชิด แอดขอแนะนำ ซอร์เบท์มะยงชิด กินแล้วจะติดใจ แต่ต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะนี่ก็ปลายฤดูมะยงชิดแล้ว ที่ตั้ง 15 ซ.ท่ากลาง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ)โทร. 0 2004 8771 ปากคลองตลาด.ปากคลองตลาดเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี มีทั้งดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง มีขายทั้งปลีกและส่ง ราคาถูกที่สุดในกรุงเทพฯ ใครชอบดอกไม้ต้องถูกใจสุด ๆ ซื้อไปปักแจกันสักหลายดอก ฟินแน่นอน หรือถ้าใครอยากได้ดอกไม้สวย ๆ ในโอกาสพิเศษ ที่นี่ตอบโจทย์เลย.ปากคลองตลาดเป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อน ๆ สามารถมาช้อปได้ทั้งกลางวันกลางคืน บรรยากาศคึกคักมีสีสันไม่แพ้กัน แค่มาเดินเล่น เก็บภาพดอกไม้และผู้คนก็สนุกแล้ว แต่เชื่อเถอะ ส่วนใหญ่มักจะแพ้เสน่ห์ดอกไม้ ได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปแทบทั้งนั้น.ที่ตั้ง ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถ้าเดินเล่นจนเหนื่อย อยากเติมพลังเครื่องดื่มหรือขนมหวาน แอดขอแนะนำร้าน Floral Café at Napasorn คาเฟ่ดอกไม้ที่ตกแต่งได้สวยเก๋ไม่เหมือนใคร สมกับที่เจ้าของร้านเป็นนักจัดดอกไม้มือหนึ่ง ร้านอยู่บนชั้น 2 ของร้านดอกไม้นภสร ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค.เป็นคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โคโลเนียล ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ติดกับปากคลองคลองตลาดนี่เอง ภายในมอลล์ มีร้านค้าต่าง ๆ เหมาะสำหรับเดินชิลล์ เดินช้อป ที่สำคัญมีร้านอาหารริมแม่น้ำหลายร้านเลย บรรยากาศดี เหมาะกับการนั่งชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยามาก.ที่ตั้ง 392 ซอยเอ็มไพร์ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 11.30-23.00 น. ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Yodpiman River Walk  สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา.สวยลอยฟ้าเจ้าพระยา แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ต้องไปเช็คอิน แต่เดิมบริเวณนี้เคยเป็นโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าลาวาลินที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทางกรุงเทพมหานครเลยเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าที่อยู่ระหว่างสะพานพระปกเกล้า สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ถึง 360 องศา ถ้ามาจากฝั่งพระนครสามารถขึ้นทางสวนสมเด็จพระปกเกล้าฯ ฝั่งพระนคร หรือมาจากฝั่งธนบุรีสามารถขึ้นทางสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ.ที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนสวนสาธารณะมีทั้งทางเดิน เลนจักรยาน ปลูกต้นไม้ให้บรรยากาศร่มรื่น และมีโต๊ะนั่งพักผ่อน ชมวิว หรือมาออกกำลังกายเบา ๆ

1 วันสุดชิล@ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ อ่านเพิ่มเติม

Check in ปากคลองตลาด

ปากคลองตลาด เป็นตลาดมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งในหมู่คนไทยและต่างชาติ ซึ่งในแต่ละวัน ก็จะมีผู้คนมากมายเข้าไปเดินชมและเลือกซื้อสินค้าในปากคลองตลาด หลายคนอาจคิดว่าที่นี่น่าจะมีแต่ขายส่ง หรือขายแต่ปริมาณมาก ๆ แต่จริงๆ ขายปลีกเขาก็ขายนะ แถมราคาน่ารักมาก คุ้มสุด ๆ.ปากคลองตลาด เป็นตลาดที่ไม่มีวันหลับ เพราะว่ามีร้านรวงและแผงค้าสลับกันเปิด-ปิดไปตลอด 24 ชั่วโมง จะมาตอนไหนก็เลือกซื้อของที่ต้องการได้ และเท่าที่แอดสังเกต แต่ละร้านก็ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19 ด้วยดี มีเจลแอลกอฮอล์ และเครื่องวัดอุณหภูมิ ปากคลองตลาดมี “ดอกไม้”.ข้อนี้เพื่อน ๆ คงทราบกันอยู่แล้วว่าปากคลองเป็นตลาดขายดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีร้านค้าและแผงขายดอกไม้เยอะมาก หลัก ๆ ก็จะอยู่บริเวณริมถนนจักรเพชร โซนตลาดยอดพิมาน และโซนตลาดส่งเสริมการเกษตรไทย ดอกไม้ที่จำหน่ายในปากคลองตลาด มีทั้งที่มาจากภายในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ นอกจากดอกไม้มาตรฐานแล้ว ที่นี่ยังมีดอกไม้หายาก ดอกไม้แปลก ๆ ดอกไม้เฉพาะฤดูกาลขายด้วย มีทั้งขายปลีก ขายส่ง ราคาไม่แพงเลย เห็นแล้วอาจใจละลายอยากเหมากลับบ้านกันทีเดียว นอกจากนี้ ในปากคลองตลาดยังมีบริการจัดดอกไม้ด้วย ไม่ว่าจะจัดช่อ จัดแจกัน บายศรี พวงมาลัย พวงหรีด ฯลฯ .ถ้าเพื่อน ๆ เพิ่งเคยไปเดินปากคลองครั้งแรก รับรองว่าเดินสนุกแน่นอน เพราะที่นี่มีการจัดโซนให้เดินชมเดินชอปได้ไม่ยากเลย ถ้าสนใจจะซื้อดอกบัว ขอแนะนำให้ไปที่ซอยบัว บริเวณถนนเอ็มไพร์ พ่อค้าแม่ค้าวางดอกบัวเรียงรายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อละลานตาเลยทีเดียว นอกจากซอยบัวแล้วก็มีซอยกล้วยไม้ด้วย จะอยู่บริเวณถนนบ้านหม้อ(ตรงข้ามซอยบัว) มีกล้วยไม้สารพัดวางเรียงรายเต็มไปหมด  ปากคลองตลาดมี “ผัก-ผลไม้” .ที่ปากคลองตลาด มีขายผักและผลไม้ด้วยนะ ซึ่งผัก-ผลไม้ที่ขายในปากคลองตลาด มีทั้งขายปลีก ขายส่ง ขายเหมา ลูกค้าจึงมีทั้งลูกค้าครัวเรือน และลูกค้าที่ซื้อไปขายต่อ หรือซื้อไปทำอาหารขาย รวมทั้งถ้าเราอยากหาซื้อผลไม้เพื่อใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ที่นี่ก็มีผลไม้แบบคัดสรรให้บริการ เพราะเขาจะคัดแบบสวย ๆ ลูกโต ๆ มาแล้วทั้งนั้น  ปากคลองตลาดมี “ขนม” งานมงคล .ในงานพิธีกรรมต่าง ๆ นอกจากดอกไม้ และผลไม้แล้ว ก็ยังต้องมีขนมมงคลต่าง ๆ ปากคลองตลาดนับว่าเป็นวันสต็อปชอปปิงในเรื่องนี้ได้เลย เพราะมีร้านขายขนมมงคลทั้งขนมไทย ขนมแบบจีนมากมายให้เลือกซื้อ ปากคลองตลาดมี “อุปกรณ์งานประดิษฐ์” .ดอกไม้ก็มีแล้ว ถ้าจะร้อยมาลัย ทำบายศรีธูปเทียนแพร พานพุ่ม ฯลฯ ต้องการหาซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ทำงานประดิษฐ์เหล่านี้ ก็ไม่ต้องไปหาเพิ่มที่ไหน เพราะที่ปากคลองตลาดมีทุกสิ่งให้ชอป เรียกว่าซื้อครบจบได้ในที่เดียวเลย จะซื้อมาก ซื้อน้อย ระดับมืออาชีพ หรือนักเรียนก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ปากคลองตลาดมี “หลิ่มหย่วนพัด” .เกือบจะเดินผ่านไปแล้วเชียว แต่สายตาก็หันไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว.หลิ่มหย่วนพัด เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแคะที่เปิดมานานกว่า 60 ปี ตั้งอยู่ริมถนนจักรเพชร ถึงร้านจะมีขนาดเล็ก มีโต๊ะไม่กี่ตัว แต่พอเห็นวัตถุดิบที่อยู่ในตู้กระจกแล้ว แอดก็ตัดสินใจเดินเข้าร้านไปชิมทันที แอดสั่งบะหมี่แห้งค่ะ หน้าตาน่ากินมาก ๆ ขอกินเลยละกัน บะหมี่เหนียวนุ่ม เครื่องแน่น มีทั้งลูกชิ้นปลา หมู กุ้ง หมูแดงที่ใช้นั้นเป็นหมูแดงที่ย่างจากเตาถ่าน ตอนกินยังได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ อยู่เลย อาม่าก็บอกว่าใช้วิธีแบบย่างแบบโบราณเลยนะนั่น.นอกจากนี้ยังมีเครื่องอีก 2 อย่างที่แอดไม่ค่อยคุ้น นั่นก็คือ หนังปลากรอบ และลูกชิ้นเผือกทอด ซึ่งพอทานรวมกันแล้วอร่อย รสชาติกลมกล่อม  เปิดทุกวัน 10.00-17.00 น. (หรือจนกว่าของจะหมด)โทร. 02 221 5359ที่ตั้ง 103 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปากคลองตลาดมี “Floral Cafe” .Foral café at นภสร เป็นคาเฟ่ดอกไม้เล็ก ๆ สไตล์วินเทจ ให้บริการทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ตกแต่งสวยงาม จิบเครื่องดื่มท่ามกลางบรรยากาศดอกไม้แบบนี้หายเหนื่อยแน่นอน ร้านอยู่บนชั้นสองนะคะ โดยชั้นล่างของร้านเปิดเป็นร้านจัดดอกไม้.เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.โทร. 02 222 6895, 02 221 2039, 061852 8866ที่ตั้ง 67 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร การเดินทางไปปากคลองตลาด แนะนำให้เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีสนามไชย ใช้ทางออก 1-2 เพราะว่าสะดวก และไม่ต้องวนหาที่จอดรถไกล ๆ อีกด้วย

Check in ปากคลองตลาด อ่านเพิ่มเติม

ตามหาต้าวเข้ที่พิจิตร

วัดเก่าแก่ วัดโบราณ วัดสวย ต้องยกให้จังหวัดพิจิตร วันนี้แอดมินจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดว้าว อาหารดั้งเดิมซึ่งหาทานได้ยาก และจะพาไปตามหาต้าวจระเข้ด้วย อย่ารอช้ารีบตามแอดมินมากันเลย! 1. วัดห้วยเขน วัดเก่าแก่ของเมืองพิจิตร มีจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ โดยไม่มีการบูรณะเพิ่มเติม ถือว่ามีความสมบูรณ์และสวยงามมาก ๆ พิกัด : https://goo.gl/maps/huhPQRFyTwkrt1DZ6 2. วัดสุขุมาราม วัดที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ยาวเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย มีความยิ่งใหญ่และตระการตามาก อีกทั้งมีการก่อสร้างอาคารในรูปแบบศิลปะร่วมสมัยอีกด้วย พิกัด : https://goo.gl/maps/CaHH5nNWj9qrMLcU8 3. ตลาดบางมูลนาก ตลาดเก่าแก่อายุนับร้อยปี ที่มีร้านอาหารดั้งเดิมมากมาย ตามสองข้างทาง สำหรับอาหารที่เราจะแนะนำคือโกยซีหมี่ สูตรดั้งเดิม ที่มีรสชาติกลมกล่อม อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเลยทีเดียว พิกัด : https://goo.gl/maps/BDcdbArHTyPXJboH9 4. วัดบางคลาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านเก่า สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ทางวัดได้สะสมไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุที่มีผู้นำมาถวาย สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองพิจิตร พิกัด : https://goo.gl/maps/XfVDrhQrZhHD8rJW6 5. วัดยางคลี วัดเก่าแก่ของตำบลวังหว้า ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระสุพรรณรังษี” หรือ หลวงพ่อใหญ่ มีลักษณะสีดำทั้งองค์ ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ใครมาบนบานศาลกล่าวเรื่องเกณฑ์ทหาร คือได้ทุกคน ได้ใบแดงนะ อิอิ พิกัด : https://goo.gl/maps/o9Vyo2Dxge7hiy1GA 6. ชุมชนวังหว้า แหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น สบู่ สครับ เซรั่มบำรุงผิว โดยผลิตจากข้าวไรซ์เบอร์รี และพืชผลทางการเกษตรต่าง ๆ ของชุมชน อีกทั้งยังมีการอบรมทำยาดมสมุนไพรด้วย และที่วังหว้ายังมีราดผัดไทยเตาถ่านสูตรโบราณ รสชาติอร่อยมาก ๆ ใครมาวังหว้า ห้ามพลาดเด็ดขาด พิกัด :https://goo.gl/maps/Y2si6xXJoPDnTQ4b8 7. บ้านเก่าเสาปั้นจั่น แหล่งเรียนรู้ของอำเภอตะพานหิน มีลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่า ของสะสมมีค่า เช่น เครื่องเล่นแถบเสียงเก่าแก่ที่ยังใช้งานได้ ภาพวาดโบราณ เครื่องพิมพ์ดีด รวมถึงป้ายร้านค้าเก่า ๆ ที่ปิดตัวไปแล้ว สามารถมาเยี่ยมชม ถ่ายรูปเพลิน ๆ กับมุมสุดคลาสิกได้ที่นี่ พิกัด : https://goo.gl/maps/D3y2iCf2tz7Ekxju6 มุมชิค ๆ มีให้เลือกเยอะมาก แวะมาถ่ายรูปกันได้นะ 8. ร้านกาแฟโกยี ร้านกาแฟโบราณสูตรพิเศษที่มีความหอมละมุน กลิ่นคั่วกาแฟกรุ่น ๆ รสชาติกลมกล่อม หวานมัน บรรยากาศภายในร้านก็คลาสิกสุด ๆ จนใคร ๆ ก็ติดใจ แวะเวียนมีลิ้มรสชาติกาแฟแบบไม่ขาดสาย พิกัด : https://goo.gl/maps/LAdbGBuSWUrFWmAE6 9. วัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นพระอารามที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เพื่อระลึกถึงถิ่นประสูติของสมเด็จพระเจ้าเสือ มีความขลัง สวยงาม สมบูรณ์เป็นอย่างมาก ในช่วงเย็น ๆ เราจะได้เห็นธรรมชาติของนกแก้วโหม่ง ที่บินกลับรังเป็นจำนวนมาก พิกัด : https://goo.gl/maps/dbxiwXMnWHUo1tMa8 10. อุทยานเมืองเก่าพิจิตร เป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วย กำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯ ภายในมีวัดมหาธาตุตั้งอยู่กึ่งกลางของอุทยาน และยังมีถ้ำชาละวันอยู่ข้าง ๆ อีกด้วย ใครตามหานางตระเภาแก้ว นางตระเภาทองสามารถมาตามหาได้ที่นี่นะ พิกัด : https://goo.gl/maps/qCo8X9GV1xDoNZ1m6 11. บึงสีไฟ แหล่งท่องเที่ยวสุดไฮไลท์ สัญลักษณ์แห่งเมืองพิจิตร เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศไทย บริเวณรอบ ๆ มีเส้นทางเดินในสวนสาธารณะเพื่อชมประติมากรรมแสดงวิถีความเป็นไทยต่างๆ สามารถมาถ่ายรูปคู่ หรือจะมาออกกำลังกาย ปั่นเรือถีบเล่นในบึง พลาดไม่ได้คือถ่ายรูปกับหุ่นพญาชาละวันยักษ์ ปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกดินกับท้องฟ้า Vanilla Sky รับรองเลยว่าฟินมากๆ พิกัด : https://goo.gl/maps/c4EXUyqg7BaJEhgcA 12. วัดท่าหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง อายุนับร้อยปี เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนที่มีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งหล่อด้วยทองสำริด มีพุทธลักษณะงามล้ำเกินคำบรรยาย พิกัด : https://goo.gl/maps/PMrGC5jbANgMyAce7 13. วัดเขารูปช้าง มีเจดีย์แบบลังกาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้าง ด้านบนยอดเขา สามารถมองเห็นวิวเมืองพิจิตรได้แบบ 360 องศา และบริเวณรอบ ๆ วัดยังมีวิหารเก่า เจดีย์ทรงลังกา ทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง และมณฑปแบบจตุรมุขหลังเก่า อยู่ไม่ไกลกัน ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสำริดและภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วงให้ได้ชมกันอีกด้วย พิกัด : https://goo.gl/maps/m5CPm6NAjXxhNsak6 14. ย่านเก่าวังกรด ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ย้อนเวลาไปกับบ้านไม้ริมสองข้างทางสุดคลาสิก มีจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจ เช่น หอนาฬิกา สถานีรถไฟวังกรด ศาลเจ้าจีนริมแม่น้ำน่าน นอกจากนี้หากเดินไปตามตรอกต่าง ๆ จะได้เจอของกินอร่อย ๆ สูตรโบราณหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น สาคูไส้หมูป้าเฒ้า กาแฟโบราณโกอี๊ด ขนมผักกาด และน้ำมะนาวดอง และยังมีร้านอื่นๆอีกมากมายเลยจ้า พิกัด : https://goo.gl/maps/Xct7P5qDQH7WhsTK9 15. บ้านหลวงประเทืองคดี อาคาร 2 ชั้นหลังแรกของย่านเก่าวังกรด ชาวบ้านเชื่อกันว่า ประธานฯ โฮจิมินห์ ของเวียดนาม เคยมาพำนักอยู่ระยะเวลาหนึ่งระหว่างลี้ภัยจากการตามล่าของฝรั่งเศส ด้านในเปิดให้เข้าชมห้องหับ ห้องลับ และเครื่องใช้เก่าแก่ต่างๆ พิกัด : https://goo.gl/maps/2k1gdroasSuSCwBD9 16. ชุมชนสระยายชี ชุมชนลาวครั่งที่มีการรวมกลุ่มเพื่อการทอผ้าซิ่น ตีนจก แบบลาวครั่งดั้งเดิม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มีความหลากหลายในเรื่องลวดลายและวิธีการทอ เพราะมีทั้งฝ้ายและไหมที่เป็นองค์ประกอบของการทอ น่าซื้อกลับบ้านมาฝากคุณแม่มาก ๆ พิกัด : https://goo.gl/maps/YvANpJ5CyCp1ENDu5 17. พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์

ตามหาต้าวเข้ที่พิจิตร อ่านเพิ่มเติม

6 Item จำเป็นในการท่องเที่ยว

6 Item จำเป็นในการท่องเที่ยว.ช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ค่อย ๆ ดีขึ้น หลายคนเริ่มวางแผนออกไปเที่ยวกันแล้ว แอดก็เช่นกัน อยากไปเที่ยวใจจะขาด อย่างน้อยได้ไปเที่ยวใกล้ ๆ บ้านก็ยังดี ซึ่งการไปเที่ยวแต่ละครั้งนอกจากกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือที่ห้ามลืมแล้ว ก็ยังมีของจำเป็นอีกหลายชิ้นที่ต้องนำติดตัวไปด้วย เราจะได้ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจค่ะ.น้ำดื่มจำเป็นที่สุด เติมน้ำใส่กระบอกน้ำส่วนตัว แล้วพกติดกระเป๋าไว้ หิวน้ำขึ้นมาก็ไม่ต้องหาร้านค้าให้เสียเวลา แถมยังเป็นการช่วย “ลดโลกเลอะ” ได้อีกด้วย.หมวกแดดประเทศไทยร้อนเบอร์นี้ ต้องมีหมวกติดตัว เอาไว้กันแดดกันลม และขอแนะนำให้เลือกแบบหมวกให้เหมาะกับสถานที่ท่องเที่ยวของเรา.ร่มสภาพอากาศช่วงนี้ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก พกร่มติดตัวไว้ พร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศ.แว่นตากันแดดเวลาเดินทางท่องเที่ยว หนียังไงก็ไม่พ้นที่จะต้องเจอแดด เราจึงควรใส่แว่นกันแดดเพื่อปกป้องดวงตาของเรา ที่สำคัญแว่นกันแดดยังช่วยให้เรามองสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสบายตาขึ้น แถมยังเป็นพร็อพถ่ายรูปเก๋ ๆ ได้อีกด้วย.ครีมกันแดดแสงแดดนอกจากจะอันตรายต่อดวงตาแล้ว ยังอันตรายต่อผิวอีกด้วย ถ้าไม่อยากผิวไหม้เกรียม ควรมีครีมกันแดดติดตัวไว้ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ควรทาครีมก่อนออกแดด 30 นาที และเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง.แบตสำรองเวลาไปเที่ยว แอดเชื่อว่าทุกคนจะต้องถ่ายรูปเยอะมาก ไหนจะวิวทิวทัศน์ ไหนจะเพื่อน เซลฟี่ก็ต้องมี แถมยังต้องอัพลงโซเชียลอีก แบตกล้องและโทรศัพท์มือถือต้องหมดแน่นอน อย่าลืมพกแบตสำรองเอาไว้ จะได้ใช้งานกล้องและมือถือได้ตลอดทั้งวัน ควรเลือกแบตสำรองที่ขนาดพอเหมาะ พกพาได้สะดวก และสามารถเก็บไฟได้เพียงพอสำหรับการใช้งาน 1 วัน.รองเท้าคู่ใจไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน การมีรองเท้าดี ๆ สักคู่เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายและเหมาะกับกิจกรรมที่เราทำ สำหรับแอด รองเท้าผ้าใบคือที่สุดแห่งการเดินเที่ยวค่ะ

6 Item จำเป็นในการท่องเที่ยว อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวสามแพร่ง แหล่งอาหารอร่อย

ย่านสามแพร่ง เป็นชุมชนเก่าแก่ อดีตเป็นกลุ่มวังที่ประทับของเจ้านาย ได้แก่ วังกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ วังกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ และวังกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ.ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการตัดทางผ่านกลางพื้นที่กลุ่มวังนี้ เพื่อเชื่อมถนนอัษฎางค์กับถนนตะนาว จนเกิดเป็นทางสามแพร่ง และตั้งชื่อถนนในย่านนี้ตามพระนามเจ้าของวัง คือ ถนนแพร่งสรรพศาสตร์ ถนนแพร่งนรา และถนนแพร่งภูธร.ในสมัยนั้น ย่านสามแพร่ง นับว่าเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ มีห้างร้านมากมาย โดยเฉพาะร้านจำหน่ายอุปกรณ์สนามของข้าราชการทหาร-ตำรวจ รวมทั้งร้านทอง ร้านอาหาร ห้างฝรั่ง และโรงละครปรีดาลัย โรงแสดงละครร้องแห่งแรกของไทย ย่านสามแพร่งตั้งอยู่ที่แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ ในเขตพระนคร สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี.รถส่วนตัว : ตั้ง GPS มุ่งหน้ามายังเขตพระนคร จากนั้นเลี้ยวตัดเข้าถนนตะนาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย .MRT : สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 เดินมุ่งหน้ามาทางแยกสี่กั๊กพระยาศรี เดินเลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนครมาประมาณ 700 เมตรก็จะถึงย่านสามแพร่ง.MRT : สถานีสนามไชย ทางออกที่ 2 เดินไปทางสวนสราญรมย์ แล้วเข้าถนนอัษฎางค์.1 ศาลเจ้าพ่อเสือ2 ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์3 กุยช่ายคุณแม่4 โรงเรียนตะละภัฏศึกษา (วังวรวรรณ)5 ก๋วยเตี๋ยวนายมัก เจ้าเก่า แพร่งนรา6 ร้านขนมหวานลุงแดง แพร่งนรา7 ร้าน ก.พานิช ข้าวเหนียวมะม่วงและขนมไทย8 ชิกัจฉา กาแฟสด แพร่งภูธร9 1905 Heritage Corner & Café แพร่งภูธร10 ขนมปังปิ้ง “ภูธรบาร์” แพร่งภูธร ศาลเจ้าพ่อเสือ .มาถึงแขวงศาลเจ้าพ่อเสือ ก็ต้องเข้าไปสักการะกันสักหน่อย “ศาลเจ้าพ่อเสือ” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ตั่วเหล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานรูปเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้ รูปเจ้าพ่อเสือ รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิม ผู้คนต่างมากราบไหว้ขอพร เสริมดวงบารมี รวมถึงสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงต่าง ๆ.สำหรับผู้ที่เพิ่งเคยไปครั้งแรก หรือไม่คุ้นชินกับการไหว้ศาลเจ้าก็ไม่ต้องห่วงจ้า ด้านในมีเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าบอกขั้นตอนอย่างละเอียด.ด้านในห้ามถ่ายภาพนะ.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.ที่ตั้ง 468 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์.เดินออกจากศาลเจ้าพ่อเสือ ก็มาถึงแพร่งที่ 1 คือ “แพร่งสรรพศาสตร์” ตรงปากทางเข้าแพร่งจะมี “ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์” ตั้งอยู่ เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป หน้าบันเจาะเป็นวงกลม ในช่องนั้นมีประติมากรรมรูปผู้หญิงในท่ายืนถือคบไฟ ซุ้มประตูนี้เป็นส่วนหนึ่งของวังสรรพสาตรศุภกิจ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ.ต่อมาภายหลังได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เสียหายจนหมด เหลือเพียงซุ้มประตูวังเก่าที่ยังคงความสวยงามให้คนรุ่นหลังได้ชม และเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของย่านสามแพร่ง จากซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์ เดินเล่นดูร้านรวง คาเฟ่ สตูดิโอศิลปะแล้ว อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับภาพวาดรูปซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์ที่ฝาผนังด้านข้างโรงแรม Oyo Bright Minitel นะ .ที่ตั้ง ถนน แพร่งสรรพศาสตร์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กุ้ยช่ายคุณแม่ .เดินย้อนกลับมาที่ปากทางเพื่อจะเดินต่อไปที่แพร่งนรา สายตาก็เหลือบไปเจอของน่ากินเข้าซะแล้ว .“กุ้ยช่ายคุณแม่” จุดเด่นก็คือ แป้งบางใสมองเห็นไส้ น่ากินมาก เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มรสกลมกล่อม มีทั้งหมด 4 ไส้คือ กุ้ยช่าย เผือก มันแกว และหน่อไม้.ที่มาของกุ้ยช่ายคุณแม่ เกิดขึ้นจากที่คุณแม่ทำขนมกุ้ยช่ายให้ลูก ๆ กิน แล้วลูก ๆ บอกว่ารสชาติอร่อย เลยชวนแม่เปิดร้านขาย ซึ่งปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว มีลูกค้ารวมถึงเหล่าฟู้ดเดลิเวอร์รี่ทุกสีมารอคิวซื้อกันไม่ขาดสาย เปิดทุกวัน 05.00-17.00 น.โทร. 081 303 0022ที่ตั้ง 520 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา (วังวรวรรณ)  . กลางแพร่งนรา มีอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ยังคงความสวยงามโดดเด่นออกมาจากอาคารอื่น ๆ นั่นก็คือ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา บริเวณแพร่งนรานี้ ในอดีตคือวังวรวรรณ ที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ซึ่งทรงปรีชาสามารถมากในด้านการประพันธ์ ทรงเป็นผู้นิพนธ์บทละครร้อง และสร้างโรงละครปรีดาลัยซึ่งเป็นโรงละครร้องแห่งแรกของประเทศไทยขึ้นภายในวังของพระองค์ท่าน ลักษณะอาคารเป็นปูนผสมไม้ มีระเบียงไม้ฉลุสวยงาม ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นโรงเรียนตะละภัฏศึกษา และปิดทำการไปเมื่อปี พ.ศ. 2538 ปัจจุบันเราสามารถชมอาคารนี้ได้แค่ภายนอกเท่านั้น.ที่ตั้ง ถนนแพร่งนรา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บรรยากาศสองข้างทางของถนนแพร่งนรา เราจะได้เห็นอาคารตึกแถวที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมจีนเรียงยาว ก๋วยเตี๋ยวนายมัก เจ้าเก่า แพร่งนรา.เดินเล่นชมอาคารร้านรวงในแพร่งนราเพลิน ๆ ก็ได้กลิ่นหอมของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ชวนท้องร้อง เงยหน้าดูก็เห็นร้านนายมัก เจ้าเก่า เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและเย็นตาโฟที่เปิดขายมานานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีหลายสาขา จุดเด่นคือเกี๊ยวปลา เส้นปลาทำเอง และทำสดใหม่ทุกวัน ลูกค้าส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหนียว นุ่ม อร่อย และไม่คาว.ถึงจะเป็นร้านที่ไม่ได้มีเมนูเยอะแยะ แต่แอดได้ชิมแล้วบอกเลยว่าอร่อยมาก ๆ ไปลองกันได้ .เปิดทุกวัน 09.30-15.00 น.โทร. 02 222 0093, 086 616 5340ที่ตั้ง 62 ถนนแพร่งนรา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ร้านขนมหวานลุงแดง แพร่งนรา .กินคาวแล้วจะพลาดของหวานได้ยังไง ในซอยแพร่งนรานี้มีร้านขนมหวานขึ้นชื่อแห่งหนึ่งคือ “ร้านลุงแดง” มีเมนูหลากหลายไม่ต่ำกว่า 10 อย่าง รสชาติหวานกำลังดี.ถึงจะดูเป็นขนมหวานหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย เปิดขายมา 50 ปีแล้วจ้า มีทั้งขาประจำและขาจรอย่างแอดเดินเข้าร้านกันอย่างต่อเนื่อง มาดูเมนูที่แอดเลือกกัน น่ากินทั้งนั้นเลย แอดสั่งข้าวเหนียวดำเปียก ลำไยเปียก และสาคูเปียกข้าวโพดมาชิม รสหวานกำลังดี แถมหอมกลิ่นกะทิอ่อน ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีสังขยา ลูกชุบ ตะโก้ กล้วยเชื่อม เผือกกวน ฯลฯ ซื้อกลับบ้านไปฟินต่อกันได้.เปิดทุกวัน

เที่ยวสามแพร่ง แหล่งอาหารอร่อย อ่านเพิ่มเติม

ดื่มด่ำงานศิลป์ที่ Matdot Art Center

ถนนหลานหลวง ถือเป็นถนนที่มีความคลาสสิกอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีตึกเก่าสวย ๆ ให้เดินถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ หลายตึกเลย นอกจากนี้ แอดยังไปสะดุดตาเข้ากับแกลเลอรีแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ Matdot Art Center ซึ่งด้านในมีทั้งร้านกาแฟ และแกลเลอรีแสดงผลงานศิลปะหลายสไตล์ แอดบอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากสำหรับการมานั่งชิลล์จิบกาแฟ ขลุกตัวทำงาน และชมงานศิลป์.ช่วงนี้ที่ art center กำลังมีนิทรรศการ “The Revolving World” โดยงานจะจัดไปจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2564 เพื่อน ๆ ที่สนใจ สามารถไปชมนิทรรศการกันได้ค่ะ Matdot Art Center ก่อตั้งขึ้นโดย คุณธวัชชัย สมคง ศิลปินและบรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Fine Art ผู้รักในศิลปะ อยากให้ศิลปินมีพื้นที่แสดงความสามารถ และให้ผู้คนที่ชื่นชอบศิลปะได้เข้าถึงงานศิลปะได้มากยิ่งขึ้น ทุกพื้นของ art center จะมีศิลปะเข้าไปเป็นส่วนประกอบเพื่อนำเสนอว่า ศิลปะสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันและทุกกิจกรรมที่เราทำได้ เมื่อเข้าไปในแกลเลอรี จะพบกับร้านกาแฟเป็นห้องแรก ซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินจากทั่วโลกเอาไว้ บรรยากาศและผลงานศิลปะภายใน Matdot Cafe ร้านกาแฟแห่งนี้ให้บริการกาแฟและของหวานที่ทางร้านทำเอง เมนูที่ต้องลองชิมคือ กาแฟ cold brew และเค้กบราวนี่รสชาติเข้มข้น ถูกใจคนที่ชอบช็อกโกแลตอย่างแน่นอน อีกมุมหนึ่งของร้านกาแฟ เป็นโซนห้องสมุด เอาไว้สำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือ โดยจะมีงานศิลปะแทรกอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง มุมนั่งชิลอีกมุมหนึ่งของโซนร้านกาแฟ ที่นี่มีห้องแกลเลอรีทั้งหมด 2 ห้อง คือ Blacklist Gallery และ MatDot Gallery เป็นแกลเลอรีหลักสำหรับจัดแสดงนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนของศิลปินชาวไทยและต่างชาติ โซนสตูดิโอ มี 3 ห้อง เป็นโซนที่เปิดให้ศิลปินชาวต่างชาติมาพักและสร้างผลงาน โดยมีห้องพักและห้องทำงานให้บริการ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ถ้าเพื่อน ๆ โชคดีได้เจอตัวศิลปิน ก็สามารถขอเข้าไปดูผลงานและพูดคุยกับศิลปินได้ค่ะ ห้องพักสำหรับศิลปิน แบ่งออกเป็น 4 ห้องหลัก มีการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีผลงานศิลปะประดับอยู่ทั่วห้อง โซนห้องดำ เป็นห้องอเนกประสงค์ ใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น Workshop อีเวนท์เฉพาะกิจ หรืองานเสวนาที่จัดขึ้นร่วมกับศิลปินที่มาพำนักที่ art center เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางศิลปะแก่บุคคลภายนอก อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ห้องจัดแสดงภาพวาด อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งเป็นของสะสมของคุณธวัชชัย ภาพวาดและผลงานที่เกี่ยวกับ อ.ศิลป์เหล่านี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่เป็นศิลปินได้สร้างสรรค์ขึ้นและมอบให้คุณธวัชชัย แต่ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว หากต้องการเข้าชม แอดแนะนำให้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนนะคะ ขอบคุณรูปภาพจาก Matdot Art Center.ที่ตั้ง 47 ถนนหลานหลวง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครเปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) แกลเลอรีเปิด 10.00-19.00 น. ร้านกาแฟเปิด 09.30 – 18.30 น.โทร. 0 2163 4550พิกัด: https://g.page/MatDot?share

ดื่มด่ำงานศิลป์ที่ Matdot Art Center อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านบาตร

บ้านบาตรเป็นชุมชนตีบาตรที่มีชื่อเสียงมากในอดีต ใครต้องการซื้อหาบาตรถวายพระสงฆ์ หรือใช้ในงานบวชก็ต้องมาที่บ้านบาตร จนเมื่อการผลิตบาตรแบบปั๊มแพร่หลาย และมีราคาถูกกว่าบาตรแบบตีด้วยมือ จึงทำให้บาตรแบบตีด้วยมือขายได้น้อยลง ช่างตีบาตรในชุมชนจึงทะยอยเลิกตีบาตรกันไป เหลือเพียงไม่กี่ครอบครัว ก่อนจะกลับมาฟื้นฟูกันใหม่ ปัจจุบันมีช่างอยู่ประมาณ 30 คนแล้ว ชุมชนบ้านบาตรไม่เพียงสืบสานการตีบาตรด้วยมือ แต่ยังพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้อีกด้วย ทั้งในเรื่องความเป็นมา และขั้นตอนการผลิต นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ชุมชนที่น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่มีน้อยคนมากที่รู้จัก บาตรของชุมชนบ้านบาตร เป็นบาตรที่ตรงตามหลักพระธรรมวินัย คือ เป็นบาตรบุหรือบาตรที่ทำด้วยมือ และประกอบด้วยเหล็ก 8 ชิ้น ซึ่งเหตุที่ต้องเป็น 8 ก็เพราะบาตรเป็นหนึ่งในอัฐบริขาร 8 ของพระภิกษุ แต่เดิมนั้น พระวินัยบัญญัติว่าวัสดุที่นำมาทำบาตรมี 2 ชนิดเท่านั้น คือ ดินเผา และเหล็กรมดำ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงมีการอนุโลมให้ใช้สแตนเลสได้ เพราะดูแลทำความสะอาดง่าย แอดได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับช่างทำบาตร คุณลุงคุณป้าใจดีพร้อมให้ความรู้เรื่องบาตรแบบจัดเต็มเลยค่ะ หากใครมีโอกาส เข้าไปเที่ยวชมกันเยอะ ๆ นะคะ ขั้นตอนการทำบาตรมีทั้งหมด 8 ขั้นตอน คือ 1 การทำขอบบาตร 2 การประกอบกง หรือทำโครงของบาตร 3 การเชื่อมบาตร 4 การตีตะเข็บบาตร 5 การลายบาตร 6 การตีเม็ดให้เรียบ 7 การตะไบบาตร 8 การระบมบาตรหรือการสุม เพื่อไม่ให้บาตรเป็นสนิม ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญ เรียกว่ามากันหมดหมู่บ้านละค่ะ ทั้งช่างตีขอบ ช่างต่อบาตร ช่างเชื่อม ฯลฯ แอดบอกเลยว่ากว่าจะได้บาตรสักใบต้องใช้ความอดทน หัวใจ ความเชื่อและความศรัทธามาก ๆ และปัจจุบันนี้ นับได้ว่ามีที่นี่ที่เดียวที่ยังคงทำบาตรแฮนด์เมด ซึ่งเมื่อเทียบกับบาตรปั๊ม บาตรตีด้วยมือนั้นทนทานมากกว่า ใช้ได้นานหลายสิบปี และที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ ตอนเคาะจะมีเสียงกังวานใสกิ๊งเหมือนเสียงระฆังเลยค่ะ คุณลุงคุณป้าบอกแอดว่าที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาทั้งทีไปไหว้ขอพรกันสักหน่อย “ศาลพ่อปู่” เป็นที่เคารพและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านบาตร .การเดินทาง– MRT ลงสถานีสามยอด จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 800 เมตรก็จะถึงชุมชนบ้านบาตร– เรือ โดยสารเรือคลองแสนแสบลงที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 600 เมตร– รถประจำทาง สาย 37, 46, 508 ในบริเวณศาลพ่อปู่ เราจะพบสิ่งสักการะที่ไม่คุ้นตาอยู่ด้านข้าง เป็นไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่า “เตาสูบ” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเผาบาตรในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้เตาสูบแล้ว ชาวบ้านบาตรถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีครูบาอาจารย์ต้องให้ความสำคัญและเคารพ ใครชมการทำบาตรแล้วก็อย่าลืมเข้ามากราบไหว้กันนะคะ.กลุ่มอนุรักษ์บาตรไทยและภูมิปัญญา ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

ชุมชนบ้านบาตร อ่านเพิ่มเติม

สุขทุกวัน..จันทบุรี

สงกรานต์นี้ถ้ายังไม่มีโปรแกรมจะไปไหน แนะนำให้ลองมาสัมผัสเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แห่งภาคตะวันออก มาเล่นกับน้องโลมาแสนรู้สุดน่ารัก มาลองประสบการณ์พาย SUP Board ริมน้ำจันทบูร มาเที่ยวชมและชิมผลไม้แสนอร่อยจากสวน ปิดท้ายด้วยลองอาหารขึ้นชื่ออย่างก๋วยเตี๋ยวกั้งเนื้อแน่นๆ เดินทางก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะนั่งรถโดยสารสาธารณะหรือขับรถชิลๆ มาเที่ยวก็สะดวกมากๆ ถ้าอยากรู้ว่าฟินขนาดไหน ลองมาสุขทุกวันที่จันทบุรีเลยค่า OASIS SEA WORLD.โอเอซีส ซีเวิลด์ สถานที่เพาะพันธุ์โลมา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ที่นี่มีน้องโลมา 2 สายพันธุ์ คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี มีการจัดแสดงโชว์โลมา และกิจกรรมที่ห้ามพลาดสุดประทับใจ นั่นคือการได้ลงเล่นน้ำกับน้องโลมาแสนรู้ที่รับรองว่าต้องร้องว้าวววววววว ช่วงนี้มีโปรโมชั่น เพียง 999.- จากปกติ 2,500.- กิจกรรมพาย SUP Board ล่องแม่น้ำ ชมชุมชนริมน้ำจันทบูร สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก เปิดให้เข้าชมกันอย่างฟรีๆ โดยไม่เสียค่าเข้าชม ภายในมีปลาท้องถิ่น ปลาหายาก สัตว์น้ำ ทั้งหมด 36 ตู้ เดินลอดอุโมงค์ปลากันแบบเพลินๆ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน.สะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,600 เมตร ทอดผ่านป่าชายเลนที่มีพันธุ์ไม้หลายชนิด ปลายทางอยู่ที่ศาลาชมวิวซึ่งยื่นล้ำออกไปกลางอ่าว เป็นจุดที่มองเห็นทัศนียภาพของป่าชายเลนขนานไปกับท้องทะเลที่สวยงาม ผลไม้ จันทบุรี.จันทบุรีเมืองแห่งราชาผลไม้ (มังคุด) และราชินีผลไม้ (ทุเรียน) นอกจากนี้ยังมีเงาะ ลองกอง สละ สายพันธุ์ดีให้นักท่องเที่ยวชิมและติดไม้ติดมือเป็นของฝาก ช่วงที่น่าสนใจในคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี สวนผลไม้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนพร้อมทานผลไม้แบบบุฟเฟต์ในราคาที่ไม่แพงเลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!!! ก๋วยเตี๋ยวกั้ง.หนึ่งเมนูที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงจันทบุรี กั้งสดๆ เนื้อแน่นๆ น้ำซุปเด็ดๆ โอยยยยย หิวเลยทีเดียว

สุขทุกวัน..จันทบุรี อ่านเพิ่มเติม

นักท่องเที่ยวสายกรีน

นักท่องเที่ยวสายกรีน.เพราะปัจจุบันนี้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ ทุกแวดวงต่างพากันหาวิธีช่วยคนละไม้ละมือ รวมถึงเหล่านักท่องเที่ยวด้วย ทุกวันนี้ เราจึงมีนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ  วันนี้แอดมีอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ มาแนะนำเพื่อน ๆ ที่ต้องการเริ่มต้นเที่ยวแบบใส่ใจ จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน.ถุงผ้า ในแต่ละปีมีถุงพลาสติกถูกผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าห้าหมื่นล้านใบ โดยถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึง 450 ปีกว่าจะย่อยสลายหมด แต่เพื่อน ๆ สามารถช่วยโลกได้ด้วยการใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งนอกจากจะแข็งแรง ทนทาน ใส่ของได้เยอะแล้ว ปัจจุบันยังมีถุงผ้าสวย ๆ มากมายให้เราได้เลือกใช้ ออกไปเที่ยวคราวหน้า อย่าลืมพกถุงผ้าไปช้อปปิ้งกันนะ.กระบอกน้ำปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาเรื่องขยะพลาสติกมาก หนึ่งในนั้นก็คือ ขวดน้ำ และแก้วน้ำพลาสติก การพกกระบอกน้ำถือว่าเป็นการช่วยลดปัญหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะช่วยลดขยะพลาสติกได้หลายชิ้นแล้ว ยังช่วยเก็บอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็นเลย แถมบางร้านมีโปรโมชั่นลดราคาตอนซื้อบ่อย ๆ ด้วยนะ.หลอดส่วนตัว เมื่อมีกระบอกน้ำแล้ว อย่าลืมหลอดส่วนตัว แม้ว่าจะเป็นขยะชิ้นเล็ก ๆ แต่กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ในทะเลเลยล่ะ หากช่วยกันเปลี่ยนมาใช้หลอดจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ ตะไคร้ หลอดกระดาษ หรือหลอดสแตนเลสส่วนตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดขยะในทะเลแล้ว ยังปลอดภัยต่อตัวเราที่สัมผัสกับหลอดโดยตรงอีกด้วย เพราะของใช้ส่วนตัวของเรา เราดูแลเอง สะอาดแน่นอน .ตะเกียบ ช้อน ส้อมสำหรับเพื่อน ๆ สายสตรีทฟู้ดแบบแอด แอดขอแนะนำให้พกช้อนส้อมหรือตะเกียบส่วนตัวติดกระเป๋าไว้ ถ้าเจอร้านไหนใช้ช้อน ส้อมพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เราก็หยิบช้อนส้อมของเราออกมาใช้ ช่วยลดขยะชิ้นสองชิ้นก็ยังดี หรือถ้าบางร้านไม่ค่อยสะอาด การพกไปเองก็เป็นทางเลือกที่ดีใช่ไหมล่ะ.กล่องอาหาร การซื้ออาหารรับประทาน แม้จะสะดวกสบาย แต่ก็เป็นการสร้างขยะจากพลาสติกมากมายเช่นกัน ตอนนี้แอดเห็นเพื่อนสายกินหลายคนเลยที่พกกล่องใส่อาหารหรือปิ่นโตไปด้วย เวลาอยากสอยของอร่อยกลับบ้าน ก็ส่งกล่องให้แม่ค้า ช่วยลดพลาสติกได้เยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นถุงแกง กล่องโฟม กล่องพลาสติก หรือหนังยาง อ้อ ทริคอันหนึ่งที่อยากจะบอกคือ เราต้องเร็วกว่าผู้ค้านะ บอกให้ทันก่อนเขาจะใส่ถุงให้เรา

นักท่องเที่ยวสายกรีน อ่านเพิ่มเติม

Woodland เมืองไม้ นครปฐม

ก่อนจะถึงวันหยุดนี้ แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาแนะนำเพื่อน ๆ ให้ชมกันค่ะ . ที่ Woodland เมืองไม้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานประติมากรรมไม้แกะสลักตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มากกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งเป็นงานสะสมของอาจารย์ณรงค์ ทิวไผ่งาม ที่เริ่มสะสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สืบสานต่อกันมาจนถึงปัจจุบันรวม 150 ปีเลยทีเดียว ก่อนเราจะไปชมกัน แอดขอเล่าความเป็นมาของที่นี่ก่อนว่า ครอบครัวทิวไผ่งามนั้นชื่นชอบในงานไม้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีการสะสมงานไม้ต่าง ๆ จากรุ่นสู่รุ่นรวมถึง 4 รุ่น รวมแล้วราว ๆ 150 ปี!!.การสะสมในรุ่นแรก ๆ จะเป็นเสาไม้เก่า งานแกะสลักชิ้นเล็ก ๆ และด้วยความคิดที่ว่า “ถ้าไม่เก็บไว้ ต่อไปจะหาไม่ได้อีก” จึงทำให้เริ่มสะสมงานไม้แกะสลักอย่างจริงจัง น้อยคนนักที่จะได้เห็นของสะสมเหล่านี้ ต่อมาปี 2536 ก็ได้รับคำแนะนำว่าควรจะเปิดให้คนทั่วไปได้เห็นงานศิลปะอันงดงามเหล่านี้ อาจารย์ณรงค์และคุณอุษา (ภรรยา) จึงได้ริเริ่มโครงการ Woodland ขึ้นมา.จนมาถึงปี 2551 ดร.ณัฐกฤษฎ์ (บุตรชายของอาจารย์ณรงค์และคุณอุษา) ได้เข้ามาสานต่อโครงการนี้ให้สำเร็จ โดยจัดรูปแบบโครงการให้เข้าถึงผู้เข้าชมได้ทุกกลุ่ม ที่เมืองไม้แห่งนี้ถูกจัดออกเป็น 3 โซนหลัก ๆ ด้วยกัน มีการจัดและคัดหมวดหมู่งานสะสมออกมาถึง 10 หมวด ผูกเป็นเรื่องราวผจญภัยได้อย่างน่าสนใจ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่าจ้าาา โซนแรกไปชมที่ “นิทานเมืองไม้”.อาคารจัดแสดงหลักที่โชว์งานไม้สะสมมากกว่า 2,000 ชิ้น มาจัดแสดงโดยการนำงานไม้แกะสลักแต่ละชนิดมาผูกเป็นเรื่องราวได้น่าสนใจ ประกอบกับแสงสีเสียงตระการตาระหว่างรับชม โดยแต่ละห้องจะเล่าเป็นเรื่องราวความเป็นมาของโลกและสวรรค์ ประกอบไปด้วยงานไม้แกะสลักสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ความเชื่อเกี่ยวกับเทพและสัตว์ในตำนาน ศาสนาต่าง ๆ.บอกเลยว่างานไม้แกะสลักแต่ละชิ้น นอกจากจะหาดูได้ยากแล้ว บางชิ้นยังเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย ครัวเมืองไม้ .โซนถัดมาคือร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ติดริมน้ำ บรรยากาศดีมาก ถึงช่วงกลางวันแดดจะร้อนมาก ๆ แต่แอดมานั่งพักผ่อนจิบน้ำเย็น ๆ ที่นี่ก็คลายร้อนได้ดีเลยล่ะ ครัวเมืองไม้ให้บริหารอาหารจานหลัก อาหารทานเล่นและของหวานแบบไทยประยุกต์.สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มารับประทานอาหารที่ครัวเมืองไม้แห่งนี้ ได้สิทธิ์เข้าชมนิทานเมืองไม้ฟรี!! .ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ เครื่องดื่มก็มีหลายเมนูเลยนะ ครัวเมืองไม้ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น. เมืองไม้รีสอร์ต .โซนที่สาม เป็นพื้นที่ที่ให้บริการห้องพักสุดหรูสไตล์บูติกรีสอร์ต บรรยากาศร่มรื่น ติดริมแม่น้ำนครชัยศรี มีห้องพักทั้งหมด 20 ห้อง หากเพื่อน ๆ มีโอกาสก็ลองไปพักผ่อนกัน บรรยากาศดีสุด ๆ.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ ที่ woodland มีสวนหย่อมให้นั่งพักเหนื่อยหลายจุด จุดนี้ถือเป็นจุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบมานั่งพักและถ่ายรูปจุดหนึ่ง นอกจากนี้ในโซนนี้ยังมีต้นไม้ที่น่าสนใจมากชื่อต้นเบาบับ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา และมีอายุยืนยาวมากถึง 2,000 ปีเลยก็ว่าได้ นี่คือหน้าตาของต้นเบาบับ.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ Woodland เมืองไม้ นครปฐม.ค่าเข้าชม 50 บาท/คน (ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นที่จัดอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีกำหนดวันหมดเขต)เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.084 994 6369, 084 994 1971ที่ตั้ง ถ.ดอนแฝก-ห้วยพลู ตำบลดอนแฝก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

Woodland เมืองไม้ นครปฐม อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top