สถานที่ท่องเที่ยว

ทำความรู้จัก…ทุเรียนอีสานใต้

รู้หรือไม่ ภาคอีสานก็ปลูกทุเรียนเหมือนกันนะ เพื่อน ๆ อาจจะคุ้นเคยกับทุเรียนภูเขาไฟของจังหวัดศรีสะเกษ และอาจจะยังไม่รู้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ก็มีทุเรียนอร่อย ๆ ให้ชิม ได้แก่– บุรีรัมย์ – ทุเรียนน้ำแร่– สุรินทร์ – ทุเรียนเมืองช้าง– ศรีสะเกษ – ทุเรียนภูเขาไฟ ทุเรียนน้ำแร่ จังหวัดบุรีรัมย์.“ทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์” เป็นทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่ที่มีดินภูเขาไฟและมีน้ำแร่อยู่ใต้ดิน ทุเรียนจึงมีการเจริญเติบโตดี เนื้อนุ่ม รสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์ โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีการปลูกทุเรียนในพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอปะคำ และอำเภอบ้านกรวด.ใครอยากชิมทุเรียนน้ำแร่ของบุรีรัมย์ แอดมีรายชื่อสวนมาให้แล้ว สามารถโทรไปสอบถามและจับจองกันได้เลยค่ะ สวนปลวกทอง อำเภอโนนสุวรรณโทร. 095 614 1218.สมหมาย ฟาร์ม อำเภอโนนสุวรรณโทร. 062 389 5285Facebook : Sommai Farm.สวนลุงคำพันธุ์โทร. 082 148 8869Facebook : สวนเงาะ ทุเรียน ลุงคำพันธุ์ Buriram.สวนทุเรียนสามดอ อำเภอปะคำโทร. 084 900 8184 (แม่ผ่องศรี เด็ดดวงรัมย์).สวนทุเรียนบิ๊กเบนซ์ อำเภอปะคำโทร. 061 102 6616/ 09 3429 2535.สวนทุเรียนป๋าเบิ้ม อำนวย พาลัง อำเภอโนนสุวรรณโทร. 096 236 3744.สวนยายเฑียร ทุเรียนน้ำแร่ อำเภอโนนสุวรรณโทร. 081 790 9951.ไร่นายตะวัน อำเภอโนนสุวรรณโทร. 082 027 7413.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานบุรีรัมย์ โทร. 044 634 722-3.ขอบคุณรูปภาพจาก ททท.สำนักงานบุรีรัมย์ ทุเรียนเมืองช้าง จังหวัดสุรินทร์.เมืองสุรินทร์ไม่ได้มีแค่ช้าง แต่มีทุเรียนด้วยนะ ทุเรียนเมืองช้างมีความกรอบนอกนุ่มใน หอมหวานละมุนลิ้น กินแล้วจะต้องติดใจ พื้นที่ปลูกทุเรียนในจังหวัดสุรินทร์ มี 7 อำเภอ คือ อำเภอบัวเชด อำเภอกาบเชิง อำเภอศีขรภูมิ อำเภอพนมดงรัก อำเภอสังขะ และ อำเภอปราสาท.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานสุรินทร์ (ดูแลพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ)โทร. 044 514 447-8 . ขอบคุณรูปภาพจาก ททท. สำนักงานสุรินทร์ ทุเรียนภูเขาไฟ จังหวัดศรีสะเกษ.เป็นทุเรียนที่มีความกรอบนอก นุ่มใน ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุนมาก เพราะปลูกในพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟ ดินจึงมีแร่ธาตุอยู่มาก  โดยพื้นที่ที่ปลูกทุเรียนมากเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอศรีรัตนะ.ใครอยากลิ้มรสความอร่อยของทุเรียนภูเขาไฟ สามารถสั่งออนไลน์ได้ที่ www.lavadurian.comเว็บไซต์ซื้อขายทุเรียนภูเขาไฟออนไลน์ ที่มีร้านค้าให้เลือกกว่า 37 ร้าน กดสั่งไม่กี่คลิก ก็รอรับทุเรียนอร่อย ๆ มาส่งถึงบ้านได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานสุรินทร์ (ดูแลพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ)โทร. 044 514 447-8.ขอบคุณรูปภาพจาก ททท. สำนักงานสุรินทร์

ทำความรู้จัก…ทุเรียนอีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม

ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางเข้าภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 26 มิ.ย. 2564)

ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางเข้าภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 26 มิ.ย. 2564) อ่านเพิ่มเติม

คิดฮอด.. มากอดเชียงคาน

เริ่มเข้าหน้าฝน ก็ชวนให้คิดถึงบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองไทย วันนี้แอดเลยจะพาทุกคนไปเที่ยวทิพย์ที่ “เชียงคาน” เมืองเล็ก ๆ ริมฝั่งโขง เผื่อเรื่องราวน่ารักของเมืองนี้ จะชวนให้เพื่อนๆหายคิดถึงการเดินทางไปได้บ้าง . หรือหากใครทนความคิดถึงไม่ไหว แต่ไม่รู้ว่าจะไปได้มั้ย ก็ลองเช็คมาตรการการเข้าจังหวัดเลยสักนิด จะได้ไปแล้วไม่เสียเที่ยว โดยคลิกอ่านรายละเอียดตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.facebook.com/578794128918961/posts/2418340474964308/?d=n (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2564) . ส่วนใครที่ยังไปเที่ยวไม่ได้ก็อย่าน้อยใจ เปิดอ่าน eBook แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเลยไปพลางๆ https://www.amazingthailandebook.com/issue/59 หรือดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android App เดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect/ เชียงคาน เมืองงามริมฝั่งโขง ที่หลายคนคงจะคุ้นชื่อนี้ดี เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดเลย ที่มีเสน่ห์จนต้องมาเที่ยวซ้ำ.การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก จากตัวอำเภอเมืองเลย ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้ามาจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงโดยรถยนต์ หรือถ้าหากเพื่อนๆไม่มีรถยนต์ สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) สุดสายที่เชียงคานได้เลย ยามเช้าของที่นี่มีการตักบาตรข้าวเหนียว ที่เป็นประเพณีเก่าแก่ของเชียงคาน คือการหยิบข้าวเหนียวพอดีคำ ใส่บาตรของพระสงฆ์ที่จะเดินเรียงแถวบิณฑบาตทุก ๆ เช้า สำหรับชุดตักบาตรสามารถติดต่อสอบถามจากทางที่พักที่เราเข้าพักได้เลย.นอกจากนี้ ที่เชียงคานยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก ซึ่งสวยงามและถือเป็นไฮไลท์เช่นกัน แต่ ณ ตอนนี้ยังคงปิดให้บริการชั่วคราวอยู่นะ อิ่มบุญยามเช้าเสร็จแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ คือการปั่นจักรยานชมบรรยากาศของเชียงคาน ซึ่งรถจักรยานสามารถติดต่อสอบถามได้จากที่พัก หรือจะเช่าจากร้านเช่าจักรยานก็ได้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมปั่นจักรยานบนถนนชายโขง เพราะนอกจากจะได้กินลมชมบรรยากาศสุดวินเทจ ของอาคารไม้ที่ตั้งอยู่ทั้งสองฟากถนนแล้ว ยังมีจุดถ่ายรูป ร้านคาเฟ่ ขนมหวานให้ได้แวะพัก แวะชิมให้หายเหนื่อยอีกด้วย.**ภาพนี้ถ่ายก่อนสถานการณ์โควิด 19 ระบาด การชมพระอาทิตย์ตกริมโขง ก็เป็นอีกเสน่ห์นึงของเชียงคานที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวมาซ้ำ และจากจุดนี้เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นประเทศลาวจากอีกฝั่งของแม่น้ำโขงได้อีกด้วยนะ.แสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกสะท้อนบนแม่น้ำโขง เป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งชิล ๆ ที่สุด เป็นอีกจุดนึงที่แอดคิดว่าถ่ายรูปออกมามุมไหนก็สวยไปหมด ปั่นจักรยานจนเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาหาของอร่อยทานที่ถนนคนเดินเชียงคาน ที่นี่รวมร้านของฝากที่ระลึก และร้านอาหารทั้งคาวหวานไว้มากมาย ซึ่งจริง ๆ แล้วถนนแห่งนี้เปิดให้บริการกันตั้งแต่เช้า แต่ช่วงเย็นจะได้บรรยากาศที่คึกคักของร้านค้าต่าง ๆ ที่ออกมาตั้งขายกันมากกว่า จนอดไม่ได้ที่จะต้องซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันไปสักชิ้นสองชิ้นแน่นอน.มาเที่ยวเชียงคานนอกจากจะได้อิ่มบุญกับการตักบาตรข้าวเหนียว อิ่มท้องกับการหาของอร่อย ๆ ทาน ยังได้อิ่มใจกับการพักกายพักใจ พักผ่อนในเมืองน่ารัก ๆ แห่งนี้ ที่ริมฝั่งโขงอีกด้วย.**ภาพนี้ถ่ายก่อนสถานการณ์โควิด 19 ระบาด

คิดฮอด.. มากอดเชียงคาน อ่านเพิ่มเติม

เปิดคู่มือเดินช้อป “จตุจักร” ฉบับอัพเดตใหม่

จตุจักร เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งจากนักชอปชาวไทยและชาวต่างชาติ แม้วันนี้ตลาดจตุจักรจะไม่คึกคักเหมือนเดิม แต่เหล่าผู้ค้าก็ยังเดินหน้าต่อไป เพื่อฟื้นชีวิตชีวาของตลาดนัดจตุจักรคืนมา หลังการปิดตลาดนัดจตุจักรปิดเพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ไปชั่วขณะหนึ่ง ปัจจุบันได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้ว และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐ ทางจตุจักรจึงยังคงปิดในส่วนตลาดนัดกลางคืนอยู่ รวมทั้งมีการปรับ-เปลี่ยนเวลา และการดูแลความปลอดภัยในเรื่องสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น วันนี้แอดจะมาอัปเดตให้ว่า จตุจักรแบบ New Normal เป็นยังไงบ้าง การเข้าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร – ทางเข้าทุกจุดจะมีจุดคัดกรองและเครื่องวัดอุณหภูมิ ผู้ที่นำรถเข้าไป แนะนำให้ชะลอรถเพื่อวัดอุณหภูมิก่อน ที่สำคัญ ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะเดินช้อปปิ้งก็อย่าลืมเว้นระยะห่างกันด้วยนะคะ– ช่วงนี้ยังคงห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าตลาดนัดจตุจักร– สำหรับคนที่นัดรับของ ไม่ต้องเสียค่าจอด สามารถแจ้งได้เลยว่ามารับของ จอดได้ไม่เกิน 30 นาที  จตุจักร ปิดทำการในวันจันทร์เพียงวันเดียวเท่านั้น ส่วนวันอื่น ๆ มีส่วนไหนให้ช้อปปิ้งบ้าง ไปดูกัน  ตลาดนัดต้นไม้จตุจักร ตลาดนัดต้นไม้กลางกรุงที่มีต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้แปลก รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งสวนมากมาย ราคาตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ไม่สะดวกเดินทางไปถึงแหล่ง ที่นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะเปิดวันอังคาร เวลา 11.00-20.00 น.เปิดวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 05.00-18.00น.บางร้านที่เกี่ยวเนื่องในโครงการ อาจเปิดต่อเนื่อง 6 วัน สามารถเช็คที่เพจของร้าน หรือโทรสอบถามกับร้านโดยตรง ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งสินค้าเกือบทุกประเภท ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ของแต่งบ้าน งานแฮนด์เมด สินค้ามือสอง และอื่น ๆ อีกมากมาย มีทั้งขายส่ง ขายปลีก งานแมส งานดีไซน์ ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เปิดวันศุกร์ เวลา 05.00-18.00น.เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 05.00-20.00น. ตลาดปลาจตุจักร อยู่บริเวณด้านข้างศูนย์การค้า Mixt ซึ่งอยู่ถัดจากโซนตลาดนัดจตุจักรไป เป็นแหล่งจำหน่ายพันธุ์ปลาและอุปกรณ์การเลี้ยงปลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลา หรือเป็นมือใหม่อยากลองเลี้ยงก็สามารถไปชมไปช้อปกันได้เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00น.โซนลานเร่ เปิดขายเฉพาะวันพุธ เวลา 09.00-19.00 น. มาจตุจักรแล้วจอดรถที่ไหนได้บ้าง สำหรับเพื่อน ๆ ที่นำรถส่วนตัว สามารถนำรถเข้าไปจอดด้านในได้เลย (ประตูใหญ่เปิดปกติทั้ง 3 ประตู)อัตราค่าบริการ– รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน– รถยนต์ จอดฟรี 1 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงถัดไปมีค่าบริการตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป**วันอังคาร-ศุกร์ จอดได้ตลอดเวลาทำการ / เสาร์-อาทิตย์จอดได้ถึง 12.00 น. หรือไปจอดด้านนอกตลาดจตุจักรได้ตามจุดต่าง ๆ ดังนี้– ศูนย์การค้า มิกซ์ จตุจักร อยู่ติดกับตลาดนัดจตุจักร– จตุจักร พลาซ่า– ศูนย์การค้า เจเจ มอลล์– บางซื่อ จังชั่น (ตึกแดง)– อาคารจอดรถบีทีเอสหมอชิต– ลานจอดรถสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แนะนำการเดินทางโดยรถสาธารณะ – สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางได้หลายสายเนื่องจากอยู่ใกล้สถานีขนส่งหมอชิต– รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีหมอชิต ใช้ทางออก 1– รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานี จตุจักร ใช้ทางออก 1 หรือ สถานีกำแพงเพชร ใช้ทางออกหมายเลข 2

เปิดคู่มือเดินช้อป “จตุจักร” ฉบับอัพเดตใหม่ อ่านเพิ่มเติม

หม้อห้อมบ้านป้าเหงี่ยม จ.แพร่

บ้านป้าเหงี่ยม หรือศูนย์เรียนรู้หม้อห้อมป้าเหงี่ยม ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เป็นแหล่งเรียนรู้การทำผ้าหม้อห้อม ซึ่งเป็นการย้อมสีจากธรรมชาติ โดยสีที่ใช้ทำมาจากต้นห้อมและต้นคราม ที่บ้านป้าเหงี่ยมเราจะได้ทำความรู้จักกับพืชที่นำมาย้อมผ้า นั่นคือ ต้นห้อมและต้นคราม วิธีการปลูก วิธีการเตรียมน้ำหม้อห้อม ไปจนถึงขั้นตอนการย้อมผ้าให้เป็นลวดลายสวยงาม ใครชอบทำกิจกรรมสนุก ๆ แบบนี้ ทริปเที่ยวครั้งต่อไปหลังโควิด 19 ต้องแวะไปที่บ้านป้าเหงี่ยมให้ได้เลยค่ะ ส่วนตอนนี้ อาจจะยังไม่สะดวกเดินทาง แต่ก็สามารถสั่งสินค้าจากบ้านป้าเหงี่ยมมาใช้ได้ เขามีทั้ง เสื้อ กางเกง หมวก กระเป๋า พวกกุญแจ ผ้าพันคอ และผ้าคาดผมจำหน่าย จะเอามาใส่อยู่บ้านเก๋ ๆ หรือใส่อวดเพื่อนตอนประชุมออนไลน์ก็ไม่ว่ากัน ขอบคุณภาพจาก ศูนย์เรียนรู้หม้อห้อมป้าเหงี่ยม อุดหนุนสินค้าได้ที่Facebook : https://www.facebook.com/indigobypangiam/?ref=page_internalโทร. 089 851 3048

หม้อห้อมบ้านป้าเหงี่ยม จ.แพร่ อ่านเพิ่มเติม

อ่างทอง…การช่าง เมืองเล็ก ฝีมือไม่เล็ก

TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud ขอนำเสนอคอลัมน์ Take Me Out พาผู้อ่านไปทำความรู้จักเมืองอ่างทอง เมืองรองทางผ่านไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ผ่าน 9 สถานที่ของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ที่ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาผสานวัตถุดิบ ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มี จนออกมาเป็นเรื่องราวให้เราได้สัมผัสความเป็นอ่างทองแห่งนี้ รู้ไหมว่าจังหวัดเล็ก ๆ ในภาคกลางที่ใครหลายคนใช้เป็นทางผ่านอย่าง ‘อ่างทอง’ ไม่ได้เป็นแค่เมืองรอง แต่เป็นเมืองของการช่าง! ตั้งแต่ความช่างคิดประดิษฐ์คาเฟ่ตามสั่ง ช่างฝีมือด้านตี ตัด ดัด เคาะ ไปจนถึงช่างปลุกปั้นตุ๊กตามวยไทยขึ้นชื่อ ซึ่งเรารวบรวมมาฝากไว้แล้วทั้ง 9 แห่ง ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาน่าสนใจจากทั้งคนรุ่นเก่าและใหม่ ใครใคร่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อ่างทองก็มี ! ใครใคร่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อ่างทองก็มี ! ชวนเพื่อนเก็บกระเป๋า สตาร์ทรถ แล้วมาตะลุยอ่างทองฉบับสารพัดช่างกัน 1 อุตสาหกรรมดินเผา บปก ‘อุตสาหกรรมดินเผา บปก’ โรงอิฐเก่าแก่แห่งตำบลบางปลากด จังหวัดอ่างทอง ที่เริ่มจากอากงผู้นำทักษะจากเมืองจีนมาตั้งโรงงานผลิตอิฐโชว์แกร่งและกระเบื้องรายแรกของประเทศ บปก ที่ประทับอยู่บนอิฐย่อมาจากตำบลที่ตั้ง คือ บางปลากด ย้อนกลับไป พ.ศ. 2487 อากงผู้ก่อตั้งนำทักษะที่หอบจากเมืองจีนมาตั้งโรงงานเฮ้งมุ่ยหลี ผลิตอิฐโชว์แกร่งและกระเบื้องรายแรกของประเทศ ส่วนวัตถุดิบหลักในการทำอิฐก็มาจากผิวหน้าดิน ซึ่งอ่างทองเป็นแหล่งดินดี เนื้อดินละเอียดเนียนสวย มีสีแดงส้มตามแร่ธาตุที่ซ่อนอยู่ด้านใน ที่นี่มีผลิตภัณฑ์จากทั้งอิฐและกระเบื้อง โชว์พื้นผิวเรียบสุดคลาสสิก การันตีคุณภาพด้วยความวางใจของลูกค้าและคนในวงการสถาปัตย์ บอกเลยว่าผลิตภัณฑ์แกร่งและทนทานไม่แพ้ใคร สำหรับสถานที่ศึกษาและหน่วยงานที่สนใจเข้าชมเพื่อการเรียนรู้ ติดต่อนัดหมายล่วงหน้ากันก่อนนะ ที่ตั้ง 80/ก หมู่ 1 ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โทร. 08 1852 4209 เว็บไซต์ http://www.bpkbrick.co.th พิกัด https://goo.gl/maps/UnxJzUk5jbz2xCY4A 2 Photograph Slow Bar มาเยือนอ่างทองทั้งที ต้องมาที่ ‘Photograph Slow Bar’ คาเฟ่น้องใหม่ของ โปเต้-มนัญชัย แสงโพธิ์ทอง ช่างภาพแอคชันมือรางวัลของไทย ที่แปลงโฉมโรงจอดรถเก่าเป็นคาเฟ่เพื่อสุขภาพขนาดกะทัดรัด  นอกจากกาแฟ ที่นี่ยังตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สุขภาพ ด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็นหลากหลายสูตรให้ชิม แถมยังมีกิมมิกเป็น Photograph Slow Bar จะได้ภาพสวย ๆ ฝีมือช่างภาพติดมือกลับบ้านด้วย  ที่ตั้ง 11/2 ถนนบ้านรอ ซอย 3 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ทางร้านรับลูกค้าเพียง 4 รอบต่อวัน (รอบละ 6 คน) สอบถามและจองคิวได้ที่  โทร. 08 8884 7107 FB : Photograph Slow Bar พิกัด https://goo.gl/maps/ZCRCzGaZLaqw3jKr5  3 โรงมีดตามใจฝัน ถ้าคุณหลงใหลในเสน่ห์ของวัตถุมีคม ลองมาทำความรู้จัก ‘โรงมีดตามใจฝัน’ ของ ช่างโจ-บรรจง เหมทอง หนุ่มอ่างทองที่เป็นนักสะสมมีดจนผันตัวมาเป็นช่างมีดสมัยใหม่  ที่นี่มีทั้งมีดพื้นบ้านและมีดคัสตอมให้ได้ชม  ส่วนคนที่สนใจอยากมีมีดของตัวเองสักเล่ม ช่างโจก็เปิดคอร์สระยะสั้นสอนวิชาทำมีด ให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนอ่างทองไปพร้อมกันด้วย ที่ตั้ง 55 หมู่ 1 ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โทร 09 8265 5721 FB : โรงมีดตามใจฝัน-Jo knifemaker และ https://www.facebook.com/joknife พิกัด https://goo.gl/maps/JVUR2L3Lzk7g1k4h7  4 บ้านตุ๊กตามวยคาดเชือก เห็นร่างกำยำกำลังตั้งการ์ดวางท่าอยู่หน้าบ้าน แสดงว่ามาถึง ‘บ้านตุ๊กตามวยคาดเชือก’ ของ อาจารย์บัณฑิต โกศลสิทธิ์ แล้ว เขาเรียนรู้ภูมิปัญญาการปั้นตุ๊กตาชาววังมาจากคุณแม่ สู่ตุ๊กตามวยไทยคาดเชือก ไม่ทิ้งลวดลายทั้ง 82 ท่า จนพาไปโด่งดังถึงระดับประเทศ  ไม่ว่าจะพระรามเดินดง ปักษาแหวกรัง จระเข้ฟาดหาง หักงวงไอยรา มณโฑนั่งแท่น หนุมานถวายแหวน และอีกหลายสิบท่า นับรวมทั้งสิ้น 82 ท่า โดยช่างปั้นต้องศึกษาและปรึกษาครูมวยเพื่อปั้นท่าทางออกมาให้แม่นยำที่สุด ซึ่งชิ้นงานของบ้านตุ๊กตามวยคาดเชือกโด่งดังถึงระดับประเทศ ในไทยเองก็ชวนอาจารย์บัณฑิตปั้นตุ๊กตามวยเป็นถ้วยรางวัลอยู่บ่อยครั้ง และอนาคตนายช่างจะปั้นท่ามวยไทยให้ครบ 82 ท่า เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตในบ้านหลังนี้  เข้าชมชิ้นงานและเรียนรู้ขั้นตอนการปั้นตุ๊กตามวยไทยได้ที่บ้านของอาจารย์บัณฑิต พิพิธภัณฑ์มีชีวิตในบ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับเสมอ ที่ตั้ง 7 ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โทร. 08 7900 8081 พิกัด https://goo.gl/maps/GuPXmrXGj847nPfx6  5 Missyou Café นี่คือร้านกาแฟตามสั่งที่ แก้ม-พิชญนาถ ครองญาติ อดีตนักพิสูจน์อักษรภูมิใจนำเสนอ ‘Missyou Café’ คาเฟ่เล็ก ๆ ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวแห่งนี้นับเป็นความแปลกใหม่ของเมืองอ่างทอง  เพราะมีแต่เมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นมัทฉะช่อน้ำดอกมะพร้าว หรือชาผลไม้ท็อปปิ้งด้วยผลไม้สด จนทำให้ ‘คิดถึงเสมอ คาเฟ่’ กลายเป็นที่รักของชาวอ่างทองทุกเพศทุกวัย ถ้ามาเยือนจังหวัดนี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะไปนะ  ที่ตั้ง 11/1 หมู่ 6 ตำบลบ้านแห อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เวลา 08.30 – 15.00 น. โทร. 08 4775 9948 FB : https://www.facebook.com/missyoucafe.angthong พิกัด https://goo.gl/maps/4fRvKRKn3fkxFFMT8  6 กลุ่มบ้านทรงไทยจำลอง (ไม้สักทอง) เห็นคนอ่างทองใช้ไม้กันเป็นส่วนมาก ถ้าไม่พาไปดูอะไรเกี่ยวกับไม้

อ่างทอง…การช่าง เมืองเล็ก ฝีมือไม่เล็ก อ่านเพิ่มเติม

10 ของดีเล่าประวัติเมืองลำปาง

ลำปางเมืองรถม้า ที่หลายคนมองว่าเป็นเมืองทางผ่าน แท้จริงแล้วยังมีที่น่าสนใจนอกเหนือจากลิสต์ที่นักท่องเที่ยวหรือใครหลายคนเก็บไว้ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud ขอนำเสนอคอลัมน์ Take Me Out พาผู้อ่านออกไปสัมผัสประสบการณ์และมุมมองแปลกใหม่ที่ให้อารมณ์อิ่มใจเหมือนได้ไป “เที่ยวบ้านเพื่อน” โดยในตอนแรกนี้ขอนำเสนอเรื่องราว 10 สถานที่ตี้อยากจวนเปื้อน ปี้ น้องหมู่เฮาไปเยี่ยมเยียน ทั้งคาเฟ่น่ารักเคล้าประวัติศาสตร์อายุ 113 ปี พิพิธภัณฑ์สัญลักษณ์ชามตราไก่แห่งแรกในลำปาง เรียนวิชาการช่างจาวเหนือ ไปจนถึงพักผ่อนกลางไร่กาแฟบนดอย ท่องเที่ยวได้ให้ครบทุกด้านขนาดนี้ ต้องรีบไปดูแล้วว่าวิถีชีวิตคนลำปางจะงามแต๊งามว่าขนาดไหน ผ่านเมืองรถม้าแล้วอย่าเพิ่งผ่านไป เพราะจังหวัดลำปางยังมีสถานที่ท่องเที่ยวนอกลิสต์ที่น่าสนใจมากมายให้ได้ตามไปเช็กอิน  แอดขอหยิบยก 10 สถานที่และของดีในเมืองนับพันปีมาเป็นน้ำจิ้มชวนแอ่วกันก่อน ผ่านร้านอาหารตำรับรสเลิศในจวนผู้ว่า พิพิธภัณฑ์รวมที่มาของชามตราไก่ เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมแบบล้านนา แล้วขึ้นดอยไปจิบกาแฟอาราบิก้าพร้อมนอนพักให้ชุ่มชื่นใจ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน! 1 ธนบดีเซรามิค ว่ากันว่าถ้าไม่เจอชามตราไก่ เหมือนยังเดินทางไม่ถึงลำปาง  จากประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 55 ปีที่ ‘ธนบดีเซรามิค’ โรงงานทำชามตราไก่แห่งแรกในลำปางสั่งสมไว้ สู่การทำเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดเซรามิกชามไก่ขึ้นชื่อ ที่โรงงานแห่งนี้มีให้ชมตั้งแต่ชามตราไก่รุ่นแรก ชามตราไก่เล็กจิ๋วขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร ไปจนถึงเตาเผาเก่าแก่ที่สุดในเมืองลำปาง แถมยังเปิดให้ดูช่างปั้นและช่างวาด สาธิตการทำชามไก่ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนใครสนใจอยากเพนต์เซรามิกลวดลายของตัวเอง ก็ทำได้ด้วยนะ ที่ตั้ง 32 ถนนวัดจองคำ พระบาท ซอย 1 ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. โทร. 06 1273 3344 Facebook : มิวเซียมธนบดี พิกัด https://g.page/MuseumDhanabadee?share 2 บ้านม้าท่าน้ำ มาถึงถิ่นเมืองรถม้า ชื่อนี้มีที่มาจากพาหนะยอดฮิตกว่าร้อยปีของชาวลำปาง เลยขอชวนเที่ยวชม ‘บ้านม้าท่าน้ำ’ ที่ช่างตีเกือกม้าลากรถคนสุดท้ายของจังหวัดลำปาง เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตคนเลี้ยงม้า ศิลปะ พร้อมเวิร์กช็อปวิชาการตีเกือกม้า และสารพัดภูมิปัญญาโบราณโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถ้าอยากลองเปลี่ยนจากคนนั่งรถม้ามาเป็นสารถีบ้าง ก็แวะไปได้เลย ที่ตั้ง 210/1 ถนนป่าไม้ ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. โทร. 086 658 6198 Facebook : เที่ยวลำปาง นั่งรถม้า กับ บ้านม้าท่าน้ำ Lampang Travel By Barn Ma Tha Nam พิกัด https://goo.gl/maps/1nsJj5BuQBTtYjDdA 3 บ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดามมูเซอร์ เดินทางมาไกลจนท้องเริ่มหิว มาแวะชิมสารพัดเมนูอาหารไทยชาววังรสเลิศ ทั้งหมี่กะทิโบราณ ข้าวผัดน้ำพริกมะขามกุ้งย่าง แกงจืดลูกเงาะ และเครื่องดื่มเมนูเด็ด ‘หลงเปิ้น หลงตั๋ว’ กันที่บ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดามมูเซอร์ ร้านอาหารแห่งนี้ ในอดีตคือจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนแรก มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสไตล์โคโลเนียลแสนโก้ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสัมผัสบรรยากาศแบบฝาหรั่งยุคสัมปทานป่าไม้เลยทีเดียว บรรยากาศภายในร้านก็ดูอบอุ่น เรียบง่าย ที่ตั้ง 20 ถนนสุเรนทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดวันพุธ-วันจันทร์ เวลา 10.00-21.00 น. โทร. 089 111 4305 Facebook : Baan Phraya Suren by Madame Musur พิกัด https://goo.gl/maps/7NL2sc9RJyWu3yrN6 4 หม่องโง่ยซิ่น ทานของคาวอิ่มหนำ ต้องเพิ่มพลังด้วยของหวานที่ ‘หม่องโง่ยซิ่น’ ณ ถนนคนเดินริมแม่น้ำวัง อดีตย่านตลาดจีน ที่กลายเป็นคาเฟ่เรือนแถว 5 คูหา อาคารขนมปังขิงหลังคาทรงมะนิลาอายุ 113 ปี บ้านและสำนักงานของเฮดแมนคนแรกในไทยแห่งบริษัทสัมปทานป่าไม้รายใหญ่ของอังกฤษ นอกจากนี้ ภายในอาคารยังสามารถชมนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของประวัติศาสตร์เมืองลำปาง ผ่านลายฉลุไม้พลิ้วไหว โดยฝีมือช่างและสถาปนิกสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ตั้ง ถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น. โทร. 086 728 6362 Facebook : Moungngwezin พิกัด https://goo.gl/maps/qibbVL24HwmzNSTG8 5 Papacraft  เรื่องช้อปปิ้งขอให้ไว้ใจกัน เพราะเรามี ‘บุปผากำลัย’ เครื่องประดับจากแบรนด์ Papacraft มาฝากเพื่อน ๆ เครื่องหนังของแบรนด์นี้ได้หยิบเอาธรรมชาติจากพันธุ์พฤกษาและเทคนิคบาติก มาต่อยอดทำงานหนังสุดคราฟต์ที่ไม่เหมือนใคร จนได้ไปอวดโฉมไกลถึงต่างแดนมาแล้ว แถมยังมีที่ให้นั่งพักหลังจากสนับสนุนผลงานท้องถิ่นในแกลเลอรี่กึ่งคาเฟ่แสนอบอุ่นนี้ได้ด้วย ถ้าบอกว่าลำปางเป็นเมืองสารพัดช่าง ก็คงจะไม่เกินจริงแล้วล่ะ  ที่ตั้ง เลขที่ 268 ถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 52100 เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดเฉพาะวันพุธ) โทร. 065 507 3699, 084 049 3246 Facebook : Papacraft Instagram : papacraftfamily พิกัด https://g.page/papacraftfamily?share 6 Little lovely bookshop บนชั้นสองของคลินิกบ้านรักษาสัตว์ มีร้านหนังสืออิสระ ‘Little lovely bookshop’ ซ่อนตัวอยู่แห่งเดียวในจังหวัดลำปาง ภายในร้านมีทั้งหนังสือสร้างสรรค์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ

10 ของดีเล่าประวัติเมืองลำปาง อ่านเพิ่มเติม

ผ้าปาเต๊ะ…ผ้าลายเทียนเสน่ห์ปักษ์ใต้

ผ้าปาเต๊ะ…ผ้าลายเทียนเสน่ห์ปักษ์ใต้.“ผ้าปาเต๊ะ” เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกัน แต่ถ้าใครได้เห็นกลุ่มป้า ๆ ยาย ๆ ทั้งหลายในภาคใต้ของบ้านเราได้สวมใส่กัน นั่นคือ ผ้าปาเต๊ะ นั่นเอง ซึ่งกลุ่มแม่บ้านในหลาย ๆ ชุมชนของภาคใต้รวมกลุ่มกันทำผ้าปาเต๊ะเป็นอาชีพเสริม ช่วยสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ผ้าปาเต๊ะมีวิธีการทำโดยการร่างลวดลายลงบนผ้า จากนั้นใช้เทียนวาดตามลายที่ร่างไว้ เพื่อเป็นตัวกั้นและกักสีน้ำไม่ให้ไหลเกินขอบทีวาดไว้และนำไปย้อมสีนั่นเอง ลวดลายส่วนใหญ่จะเลียนแบบมาจากธรรมชาติ เช่น ลายดอกไม้ ใบไม้ โดยจะใช้สีที่ค่อนข้างสดใส ทำให้เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ ปัจจุบันสาว ๆ ไม่ได้นิยมกันแค่ป้า ๆ ยาย ๆ แล้วนะ เพราะวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ก็นำผ้าปาเต๊ะใส่กับอะไรก็สวย จะใส่แบบดั้งเดิมก็ได้ หรือจะประยุกต์ให้ทันสมัยก็ดี ผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะยังคงผลิตกันอยู่ในหลายชุมชนทางภาคใต้ แอดมีลิสต์ชุมชนมาฝาก หากสถานการณ์โควิด19 คลี่คลายลองแวะไปชม ไปช้อปกันได้เลยนะคะ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะโหลน-ราไวย์ โทร. 08 1272 6665  ชุมชนบ้านบางเทา-เชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โทร. 08 7266 5727 ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านเกาะปันหยี ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงาโทร. 08 4919 8352 คุณสวลี FB: www.facebook.com/panyeetr  กลุ่มผ้าปาเต๊ะเพ้นท์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง โทร. 08 6855 3289 

ผ้าปาเต๊ะ…ผ้าลายเทียนเสน่ห์ปักษ์ใต้ อ่านเพิ่มเติม

จินนาลักษณ์ : D.I.Y. กระดาษสา

โรงงานจินนาลักษณ์ตั้งอยู่ใน “ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ได้รับการยกระดับให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จินนาลักษณ์ เป็นโรงงานและฐานเรียนรู้การผลิตกระดาษสาทำมือ จุดเด่นของกระดาษสาที่ทำให้แตกต่างจากกระดาษสาทั่วไปคือ การใช้วัสดุธรรมชาติในชุมชน อย่างเช่น ต้นกล้วย เปลือกระเทียม หญ้าแฝก มาผลิตจนได้กระดาษสาที่มีลวดลายตามเส้นใยของพืช แต่งแต้มสีสัน เติมลวดลายน่ารัก ๆ ด้วยดอกไม้และใบไม้จากธรรมชาติ กระดาษสาของที่นี่ มีความเหนียวและทนทาน สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้หลายชนิด ที่สำคัญ ยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในไทยและระดับโลก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าของไทยที่มีคุณภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทางชุมชนได้ปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง แต่เพื่อน ๆ ยังสามารถสั่งชุด D.I.Y. กระดาษสามาลองทำดูที่บ้านได้เลย มีอุปกรณ์ให้ครบเซ็ต.สั่งซื้อผลิตภัณฑ์กระดาษสา และสินค้าอื่น ๆ ของชุมชนได้หลายช่องทางดังนี้โทร. 081 883 9062Line ID : jinna0818839062Facebook https://www.facebook.com/panghahomestay.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากจินนาลักษณ์

จินนาลักษณ์ : D.I.Y. กระดาษสา อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวสามอ่าว จังหวัดภูเก็ต

จุดชมวิวสามอ่าว จังหวัดภูเก็ต.เพื่อน ๆ คิดถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวและวิวสวย ๆ กันมั้ยคะ ถ้าคิดถึง วันนี้แอดมีวิวสวย ๆ ของจุดชมวิวสามอ่าวที่จังหวัดภูเก็ตมาฝากค่ะ.จุดชมวิวสามอ่าว หรือ จุดชมวิวกะรน (Karon View point) เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินเขา จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวหาดกะตะน้อย หาดกะตะ หาดกะรนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว และมองเห็นเกาะปูได้อีกด้วย  ถ้าใครจะไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในช่วงที่สถานการณ์โควิด 19 ดีขึ้นแล้ว อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่นี่กันนะคะ.จุดชมวิวสามอ่าวที่ตั้ง : ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/7KXRYsU2SRKVE2nr5

จุดชมวิวสามอ่าว จังหวัดภูเก็ต อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top