สถานที่ท่องเที่ยว

✨ 9 ที่เที่ยว จังหวัดนราธิวาส ✨

นราทัศน์…รู้จักเสน่ห์ดั้งเดิมของนราธิวาส ผ่านแหล่งวัฒนธรรมและธรรมชาติ ตั้งแต่ในเมือง ถึงผืนป่าและทะเ] นราธิวาส … ดินแดนพหุวัฒนธรรมบนคาบสมุทรมลายู ด้วยประวัติศาตร์อันยาวนาน เชื่อมวิถีชีวิตผู้คนต่างศาสนาและความเชื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว และมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์หลากหลาย TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud ขอนำเสนอคอลัมน์ Take Me Out เที่ยวบ้านเพื่อนคราวนี้ ชวนมาสัมผัสแหล่งเรียนรู้และมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ไปกับ 9 สถานที่จากในเมือง สู่ผืนป่าและผืนน้ำ รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะหลงเสน่ห์ดั้งเดิมของนราธิวาสเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ตรวจสอบมาตรการการเดินทางเข้าพื้นที่ได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส : https://www.facebook.com/NaraPublicHealth นราธิวาส ตั้งอยู่ในพื้นที่ปลายแหลมบนคาบสมุทรมลายู (Malay Peninsula) หนึ่งในสามจังหวัดปลายด้ามขวาน มีพรมแดนติดประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมีทรัพยากรธรรมชาติสวยงามหลากหลายเป็นเอกลักษณ์ ทั้งแม่น้ำ ทะเล ป่าไม้ ภูเขา สายธารทางประวัติศาสตร์ยังเชื่อมร้อยเรื่องราวจากทั่วทุกสารทิศมาบรรจบกัน ผ่านเส้นทางการค้าที่ถูกเรียกขานว่า ‘เส้นทางสายไหมทางทะเล’ จากแผ่นดินไร้พรมแดน สู่ส่วนหนึ่งของอาณาจักรลังกาสุกะ ปาตานีดารุสสลาม กระทั่งร่วมสมัยรัตนโกสินทร์ จากชนพื้นเมืองดั้งเดิมชาติพันธุ์เนกริโต (เซมัง-โอรังอัสลี) ชาวมลายู ชาวฮินดู-พราหมณ์ ชาวจีน ชาวสยาม หรือชาวยุโรป และจากความเชื่อในการนับถือผีสางนางไม้ สิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติ สู่ศรัทธาความเชื่อใหม่จำหลักมั่น ทั้งพุทธ ฮินดู-พราหมณ์ คริสต์ และอิสลาม บนแผ่นดินเดียวกัน โชคชะตาเดียวกัน วิถีชีวิตผู้คนจึงได้อยู่อาศัยร่วมกันมาอย่างผูกพันกลมเกลียว เที่ยวบ้านเพื่อนคราวนี้ ชวนมาสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม เรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ที่ ‘นราธิวาส’ กับ 9 สถานที่ทรงคุณค่า เรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวในสังคมพหุวัฒนธรรม ตั้งแต่ชมสถาปัตยกรรมโบราณกว่า 400 ปี ชิมขนมพื้นบ้าน ดูวัฒนธรรมผ้าบาติก จนถึงนั่งรับลมชมความสวยงามของธรรมชาติ ในพื้นที่ที่มีความหมายว่า ที่อยู่ของคนดี-นราธิวาส 1 มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ หนึ่งในสถาปัตยกรรมมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในแหลมมลายู ผู้สร้างมัสยิดที่ว่ากันว่าเก่าแก่ที่สุดในแหลมมลายูแห่งนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2167 นับเนื่องถึงปีปัจจุบัน 2564 มีอายุรวม 397 ปี คือ วันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี แรกสร้างมีลักษณะเป็นเพียงหลังคามุงใบลานแบบเรียบง่าย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา  หลักฐานสำคัญที่น่าสนใจคือ ครั้งหนึ่งบริเวณชุมชนข้างเคียงเคยเป็นแหล่งผลิตคัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ มีชื่อเสียงขจรกระจายไกล และสิ่งโดดเด่นประการหนึ่งที่มักถูกหยิบยกมากล่าวถึงกันเสมอของมัสยิดแห่งนี้ คือลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากมัสยิดทั่วไป ด้วยเป็นอาคาร 2 หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีนและมลายู ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว เหนือหลังคามีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง กลายเป็นส่วนเด่นสุดของอาคาร หออาซานหรือที่ใช้สำหรับประกาศเรียกคนมาละหมาด มีลักษณะเป็นเก๋งจีนตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ช่องลมแกะเป็นลวดลายใบไม้ ดอกไม้ สลับลวดลายจีนอย่างกลมกลืนเป็นเอกลักษณ์  ปัจจุบัน ชาวบ้านตะโละมาเนาะ ยังคงใช้มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจอยู่เป็นประจำ โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น หากต้องการเข้าชมภายใน ต้องได้รับอนุญาตจากอิหม่ามประจำหมู่บ้าน  บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลูโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส https://goo.gl/maps/25hsfSAHSVW2MCbY9  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.  0 7352 2411  2 ขนมอาเก๊าะ – เจ้ายะกัง บาโง มรดกขนมพื้นบ้านมลายู จากบรรพบุรุษสู่ทายาทรุ่นใหม่ “ครอบครัวของเราทำขนมอาเก๊าะมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แม้จะมีกระบวนการขั้นตอนที่ยุ่งยากแต่เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้ครอบครัว จึงตั้งใจสานต่อสืบทอดมาถึงคนรุ่นใหม่ คือรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน” เมาะจิ สเปีย ผู้อาวุโสจากร้านอาเกาะ ฮัจญะห์ ยามีล๊ะ ยะกัง เจ้าเก่า บอกเล่าเรื่องการสืบทอดวิชาทำขนมโบราณในพื้นที่ชายแดนใต้ ขึ้นชื่อในลิสต์ลำดับต้น ๆ ของขนมช่วงเดือนรอมฎอน (เดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม) จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ลูกค้าโทรศัพท์สั่งจองกันข้ามวัน ใครไม่จองก่อน รับรองอดแน่นอน  อาเก๊าะ คือขนมโบราณชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมกันมากในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สันนิษฐานว่าชื่อนี้อาจเพี้ยนมาจากคำภาษามลายูว่า อาเก๊ะ ที่แปลว่า ยกขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะสะท้อนถึงกรรมวิธีการผลิตที่ต้องยกไฟที่วางอังไว้ข้างบนออกทุกครั้งเมื่อขนมสุก ด้วยการผิงไฟบนล่างด้วยเชื้อไฟจากกาบมะพร้าวให้ความร้อนทั่วถึง เห็นควันลอยโขมงอยู่รอบบริเวณ และถึงแม้เวลาจะผ่านไป บรรดาแม่ค้าที่ทำขนมอาเก๊าะก็ยังคงใช้วิธีแบบดั้งเดิม เพราะเป็นที่มาของกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้ลอง  อาเก๊าะที่สุกได้ที่แล้วจะมีลักษณะเหมือนคัสตาร์ดหรือขนมหม้อแกงเนื้อแน่น กลิ่นหอม รูปทรงรีและแบน แต่ละร้านมีสูตรการทำแตกต่างกันไป เพื่อทำให้ขนมอาเก๊าะมีเนื้อและรสแตกต่างกันไป กระทั่งทุกวันนี้ขนมอาเก๊าะ ยะกัง เป็นที่รู้จักและมีออเดอร์จำนวนมาก ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฎอน มียอดสั่งถึงวันละ 2,000 – 3,000 ลูก ถึงขั้นต้องเร่งการผลิต ผลัดเวรทำทั้งวันทั้งคืน  บ้านบาโง ชุมชนยะกัง 1 ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส https://bit.ly/3rELv7l  เปิดทุกวัน ประมาณ 09.00 – 17.00 น.  08 1599 2010  3 ภัตตาคารมังกรทอง ร้านอาหารเก่าแก่สะท้อนจีนวิถี แต่มีเมนูสมานฉันท์ ไทย จีน และปักษ์ใต้ ร้านอาหารไทย-จีนชื่อเสียงในระดับต้น ๆ อยู่คู่เมืองนรามายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2518 จากบ้านอยู่อาศัยปรับปรุงกลายเป็นร้านอาหารชื่อดังสไตล์จีนร่วมสมัย ให้บริการแบบอบอุ่นเป็นกันเอง ที่นี่คือร้านอาหารจีนที่ได้รับการยอมรับว่ารสชาติดีที่สุดในนราธิวาส เน้นหนักอาหารประเภทปลา กุ้ง เมนูเด็ด เช่น ขนมจีนแกงไตปลาปักษ์ใต้ มีไข่ต้มทานประกอบ แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว แกงไตปลา เป็ดกรอบ สลัดกุ้งทอด ปลาสำลีทอด ไก่สับเบตง ยำผักกูด ผัดสะตอกุ้งสด หรือปลากุเลาตากใบ และปลาหมอหยองแดดเดียวทอด  ป้ามะลิ หรือ คุณมะลิวัลย์ คือผู้ริเริ่มสร้างภัตตาคารมังกรทอง

✨ 9 ที่เที่ยว จังหวัดนราธิวาส ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿 6 ข้อการเที่ยว รักษ์ โลก 🌿

ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็หันมาให้ความสนใจเรื่องภาวะโลกร้อน ปัญหา Climate Change (การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ) หลายภาคส่วนมีความพยายามช่วยกันหาวิธีรับมือเพื่อโลกของเรา การท่องเที่ยวก็เช่นกัน เราเองก็สามารถมีส่วนช่วยโลกได้นะคะ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักคำว่า Low carbon กับ Zero waste กันก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้ว่าเราจะมีส่วนช่วยได้อย่างไร 👉 Low carbon คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนนั่นเอง ในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำธุรกิจ กิจกรรมโรงงาน กิจกรรมเกษตร การเดินทาง ฯลฯ ทุกกิจกรรมล้วนก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนทั้งนั้น ฉะนั้น ในแวดวงการท่องเที่ยวจึงเกิดแนวคิด Low carbon tourism คือ เที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ ที่พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ฉะนั้น เมื่อเราออกเดินทางแต่ละครั้งเราก็สามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยพลังงานที่น้อยที่สุด การเลือกที่พักสีเขียว การรับประทานอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น การทำกิจกรรมท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรมปลูกป่า ปลูกปะการัง การเก็บขยะ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่าการท่องเที่ยวแบบทั่วไปที่เร่งรีบนั่นเอง 👉 Zero waste คือการทำให้ขยะเหลือศูนย์ ปัจจุบัน ปัญหาขยะเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่บริโภคสินค้าแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นอย่างมาก เราสามารถนำแนวทางของ zero waste มาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเรา เพื่อช่วยกันลดขยะได้ ก็คือ Reduce ลดการใช้สินค้าแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง Reuse การนำกลับมาใช้ซ้ำ และ Recycle การเลือกใช้สินค้าที่สามารถนำกลับไปแปรรูปมาใช้ใหม่ได้ ทุกคนสามารถเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีและรักษ์โลกได้ในทุกที่ เริ่มต้นกันได้ง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น 1. การเดินทาง ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวของเราอยู่ไม่ไกลกันมาก ลองเปลี่ยนจากรถยนต์มาเป็นรถขนส่งสาธารณะ รถจักรยาน หรือสองขาของเราแทน 2. ตระหนักถึงความเป็นอยู่ของธรรมชาติอยู่เสมอ ไม่ทำร้ายหรือทำลาย 3. พกขวดน้ำดื่มส่วนตัว รวมทั้งช้อนส้อม และหลอด เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง 4. ช่วยประหยัดน้ำและไฟเมื่อออกจากที่พัก หรือไม่เปลี่ยนผ้าขนหนูโดยไม่จำเป็น 5. ใช้บริการโรงแรม ที่พัก และทัวร์ ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม 6. พกอุปกรณ์อาบน้ำแบบรีฟีล เมื่อเข้าใช้บริการโรงแรมที่พัก เพื่อลดการเกิดขยะจากอุปกรณ์อาบน้ำใช้แล้วทิ้งของทางโรงแรมที่พัก

🌿 6 ข้อการเที่ยว รักษ์ โลก 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ย้อนรอยอดีต ชมเสน่ห์เมืองเก่าตะกั่วป่า จังหวัดพังงา✨

ตะกั่วป่า หรือตะโกลา เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ยาวนานนับพันปี มีความสำคัญมาแทบทุกยุคสมัย ด้วยภูมิศาสตร์ของเมืองทำให้ยุคหนึ่งตะกั่วป่าเคยเป็นเมืองท่าสำคัญของฝั่งอันดามันในการค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและยุโรป และรุ่งเรืองมั่งคั่งอย่างที่สุดเมื่อเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองแร่ดีบุกของประเทศไทย ปัจจุบันแม้เมืองตะกั่วป่าจะไม่ได้ทำเหมืองแร่แล้ว แต่ร่องรอยความเจริญในอดีตยังคงเหลือให้เราได้เห็น ทุกวันนี้ตะกั่วป่าก้าวขึ้นมาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของพังงา โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่ดูคลาสสิคและมีมนต์เสน่ห์ เหมือนได้ย้อนไปในอดีต แม้ช่วงนี้เราจะต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ก็ยังไม่เปิดให้บริการ แต่เพื่อน ๆ เก็บข้อมูลเส้นทางเหล่านี้ไว้ก่อนได้ รอให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กลับมาเปิดต้อนรับเราอีกครั้ง 🙂 สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปมีตามนี้เลยค่ะ 1. สะพานเหล็กบุญสูง2. โรงเรียนเต้าหมิง3. ตึกขุนอินทร์4. Seen Cafe @ Takua-pa5. Street Art ถนนศรีตะกั่วป่า6. ร้านขนมเต้าส้อ ในการเที่ยวเมืองตะกั่วป่า ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถโพถ้องนำเที่ยวสุดคลาสสิกได้ (รถสองแถวไม้ ซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นของภาคใต้) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เพจ TAT : Phang-nga การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา หรือ โทร. 0 7641 3 400-2 สะพานเหล็กบุญสูง จุดแรกคือสะพานเหล็กบุญสูง หรือสะพานโคกขนุน ซึ่งอยู่ห่างจากย่านเมืองเก่าประมาณ 3.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 โดยบริษัทเรือขุดแร่บุญสูง สะพานนี้ยาว 200 เมตร ใช้เหล็กจากเรือขุดแร่ลำที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาสร้าง เพื่อให้คนงานเหมืองแร่และชาวบ้านใช้ข้ามแม่น้ำตะกั่วป่าได้สะดวกขึ้น จากเดิมที่ต้องพายเรือข้ามแม่น้ำไปมา ปัจจุบัน สะพานนี้ก็ยังใช้งานอยู่  ถนนราษฎร์บำรุง ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาhttps://goo.gl/maps/ddQE2udtYmUDHdLV8 โรงเรียนเต้าหมิง จุดต่อไปคือ โรงเรียนเต้าหมิง เนื่องจากในอดีตมีชาวจีนฮกเกี้ยนเข้ามาอาศัยอยู่เยอะ จึงมีการก่อตั้งโรงเรียนเต้าหมิงซึ่งเป็นโรงเรียนจีนแห่งแรกและแห่งเดียวของอำเภอตะกั่วป่าเพื่อให้บุตรหลานได้ร่ำเรียน ถึงปัจจุบันโรงเรียนจะเลิกกิจการไปแล้วแต่เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปชมและถ่ายรูปได้ค่ะ  ถนนมนตรี 2 ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาhttps://goo.gl/maps/Nnj4MQADpnMk3Yjj8 บ้านขุนอินทร์ ไม่ไกลจากโรงเรียนเต้าหมิง เป็นที่ตั้งของบ้านขุนอินทร์ อาคารเก่าอายุกว่าร้อยปี มีสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสประยุกต์ อดีตเป็นบ้านพักของ ร.อ.ท.ขุนอินทรคีรี (ช้อย ณ นคร) อดีตนายอำเภอตะกั่วป่า ซึ่งเป็นหลานของพระยาเสนานุชิต (นุช ณ นคร) อดีตผู้สำเร็จราชการเมืองตะกั่วป่า ปัจจุบันอาคารหลังนี้อยู่ในความดูแลของตระกูล ณ นคร และไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม  ถนนมนตรี 2 ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาhttps://goo.gl/maps/DNMaaTj6tJtq8u8a6 Seen Café@takua-pa พักเบรคการชมเมืองมาจิบชากาแฟและขนมอร่อย ๆ กันค่ะ ร้าน Seen Café@takua-pa เป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อกลางปี 2564 นี้เอง ตัวร้านเป็นบ้านเก่าครึ่งไม้ครึ่งปูนที่เจ้าของร้านยังรักษาดีไซน์คลาสสิคด้านนอกไว้ โดยรีโนเวทด้านในใหม่ให้เป็นร้านกาแฟบรรยากาศโปร่งนั่งสบาย  ขอบคุณรูปภาพจาก ร้าน Seen Café @takua-pa ที่นี่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารคาวครบครัน จุดเด่นคือ เครื่องดื่ม Signature ของร้าน เช่น Seen Winter Mint กาแฟผสมกลิ่นมินท์ที่เย็นชุ่มคอเหมือนอยู่ในฤดูหนาว Seen Peachy Lemon Honey Tea ชาหอมน้ำผึ้งกับกลิ่นพีชที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ฯลฯ แค่ได้ยินชื่อก็อยากลองสั่งมาทุกเมนูทีเดียว จิบคู่กับขนมเค้กโฮมเมดของทางร้านก็ไม่เลวเลยค่ะ  ถนนอุดมธารา ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เปิดวันศุกร์-พุธ (หยุดวันพฤหัสบดี) เวลา 10.30-19.00 น. 09 1716 9365https://goo.gl/maps/JyQTmz8LYBBgCu7X7  ขอบคุณรูปภาพจาก ร้าน Seen Café @takua-pa ถนนศรีตะกั่วป่า หลังจากจิบกาแฟแล้ว เราจะไปเดินเที่ยวกันต่อที่ถนนศรีตะกั่วป่า ถนนสายหลักของเมืองที่มีอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีสสวย ๆ มากมาย มีทั้งเก่ามาก เก่ากลาง ไม่เก่าเท่าไหร่ แค่เดินดูเมืองก็เพลินจนลืมเหนื่อยแล้ว ในอดีต ประเทศไทยเป็นแหล่งดีบุกสำคัญติดอันดับท็อปของโลก ซึ่งศูนย์กลางการทำเหมืองดีบุกก็คือที่ตะกั่วป่านี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ครั้งหนึ่ง เมืองเล็ก ๆ อย่างตะกั่วป่าจะเป็นเมืองที่มั่งคั่ง มีความคึกคักทั่วทุกถนน โดยเฉพาะบนถนนศรีตะกั่วป่าที่เรียงรายไปด้วยโรงแรม บริษัทเหมืองแร่ ธนาคาร และร้านรวงมากมาย ก่อนที่ทุกอย่างจะซบเซาลงและทะยอยปิดเหมืองไปในที่สุด ปัจจุบันอาคารบางส่วนที่เคยเป็นร้านค้าถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังมีร้านขายของชำ ร้านอาหาร ร้านตัดผม เปิดให้บริการ สถานที่สำคัญที่เหมือนเป็นแหล่งรวบรวมความทรงจำของเมืองเก่าแห่งนี้ คือ ร้านไทยวัฒนา ที่นี่เคยเป็นร้านจำหน่ายเครื่องเขียน หนังสือเรียน สินค้าเบ็ดเตล็ด และเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ปัจจุบัน เลิกกิจการแล้ว แต่ยังนำสินค้าและเครื่องใช้ไม้สอยเก่า ๆ มาจัดแสดง โดยไม่คิดค่าเข้าชม แต่ไม่มีเวลาเปิดแน่นอน ส่วนใหญ่จะเปิดช่วงที่มีถนนคนเดิน  ขอบคุณรูปภาพจาก วรสารเมืองโบราณ ทางเดินเท้าภายใต้หลังคาคลุม หรือที่ภาษาจีน “ฮกเกี้ยน” เรียกว่า “หง่อคาขี่” มีความหมายว่า “ทางเดินห้าฟุต” เป็นลักษณะเด่นของตึกแถวแบบชิโนโปรตุกีส ทำให้สามารถเดินถึงกันได้สะดวกและกันแดดกันฝนได้ อย่างที่แอดบอกว่าบนถนนศรีตะกั่วป่ามีร้านรวงเก่าแก่หลายร้าน หนึ่งในนั้นก็คือ ร้านเย็นตาโฟป้าเปรมจิตที่เปิดมานานกว่า 60 ปี เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำซอสเย็นตาโฟสูตรโบราณที่ทำจากเต้าหู้ยี้ ปรุงรสมาให้แบบกลมกล่อม ส่วนเครื่องและเส้นก๋วยเตี๋ยวก็สดใหม่ กินพร้อมน้ำซุปกระดูกหมูที่ให้มาคู่กัน เรียกได้ว่าลงตัวมาก ๆ  เปิดทุกวัน เวลา 10.30 – 17.00 น. (หยุดทุกวันพระ)https://goo.gl/maps/tbs3LC1tGYTRrYAZA ศาลเจ้าพ่อกวนอู (ซิ่นใช่ตึ๋ง) ศาลเจ้าที่มีการประกอบพิธีโก้ยเฉ่งอิ๋วในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน ถือเป็นพิธีกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้ https://goo.gl/maps/MohZYhkZcEQ76NfZ7 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม ทุกวันอาทิตย์จะมีถนนคนเดินจัดขึ้นที่ถนนศรีตะกั่วป่า มีร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายเต็มสองฝั่งถนน ดังนั้นในช่วงหน้าฝนแบบนี้ถนนศรีตะกั่วป่าอาจจะไม่คึกคักมากนัก แต่ก็สามารถเดินถ่ายรูปกับตึกสุดคลาสสิกได้  ขอบคุณรูปภาพจาก ททท. สำนักงานพังงา นอกจากนี้ ยังมีสตรีทอาร์ตที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ เช่น ภาพจำลองการทำเหมืองแร่

✨ย้อนรอยอดีต ชมเสน่ห์เมืองเก่าตะกั่วป่า จังหวัดพังงา✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ สระแก้วดิเนเวีย ✨

📌 สระแก้ว…เมืองรองเล็ก ๆ ในภาคตะวันออก ภาพจำของหลายคนมองสระแก้วเป็นเมืองชายแดนแห่งหนึ่งที่เงียบสงบ เป็นที่ซื้อสินค้าที่ตลาดโรงเกลือ แต่จริง ๆ แล้วสระแก้วประกอบไปด้วยหลากหลายองค์ประกอบของการท่องเที่ยวที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud ขอนำเสนอคอลัมน์ Take Me Out เที่ยวบ้านเพื่อนรอบนี้ ชวนเก็บกระเป๋าตามไปที่ ‘สระแก้ว’ จังหวัดดินแดนตะวันออกที่รวบรวมความหลากหลายเอาไว้ในที่เดียว แล้วแวะเที่ยว ชิม ช้อป ย่านอรัญประเทศและอำเภอเมือง ไปกับ 10 ทั้งสถานที่ ผู้คน กิจการเก่าและใหม่ที่เราอยากชวนคุณไปรู้จัก สระแก้วมีป่าไม้ น้ำตก ภูเขา สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติปางสีดาที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับผืนป่าเขาใหญ่ มีพื้นที่เกษตรกรรมมากมาย ทุ่งนา พืชไร่ แปลงผัก ทุ่งดอกไม้ มีความอุดมสมบูรณ์ของสวนผลไม้นานาชนิด ตลอดจนมีพื้นที่แปลงปลูกสมุนไพรขนาดใหญ่ และผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกัน นอกจากภาพกว้าง ๆ ตามที่เล่ามา เมืองแห่งนี้ยังมีสถานที่ ผู้คน กิจการเก่าและใหม่ที่เราอยากชวนคุณไปรู้จัก บางแห่งอาจเคยพอได้ยินอยู่บ้าง แต่ไม่รู้เบื้องหลังหรือเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นช่วงปีที่ผ่านมา บางแห่งเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน แต่ล้วนมีเสน่ห์น่าค้นหา ถ้าพร้อมแล้ว ขอชวนมาทำความรู้จัก เปลี่ยนภาพจำของสระแก้ว โดยเฉพาะย่านอรัญประเทศและอำเภอเมืองสระแก้ว และออกเดินทางไปด้วยกันเลย 1 ร้านยายต๊ามอาหารเวียดนาม ตำนานอาหารเวียดนามเมืองอรัญฯ สืบทอดฝีมือสู่ทายาทรุ่นสาม นับตั้งแต่เหตุการณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา ช่วง พ.ศ. 2489 – 2490 ชาวเวียดนามมีการอพยพจากเวียดนามทางตอนใต้ จังหวัดไซ่ง่อน ลงมาอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และต่อมามีการอพยพเข้ามายังประเทศไทย พากันมาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมถนนเจ้าพระเจ้าบดินทร์ อำเภออรัญประเทศ (จังหวัดปราจีนบุรีในสมัยนั้น) จนปัจจุบันนี้เรียกว่า ชุมชนบ้านญวน เป็นพื้นที่ที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์น่าสนใจมากมาย เช่น วัดญวน สมาคมชาวเวียดนาม ร้านค้าจำหน่ายสินค้าจากเวียดนามแท้ ๆ และร้านอาหารเวียดนามมากมายเรียงรายกันไปจนสุดซอย ความเจ๋งของร้านอาหารเวียดนามที่นี่แตกต่างจากจังหวัดอื่น คือเป็นอาหารเวียดนามสไตล์ชาวเวียดนามใต้ เมนูแนะนำที่จัดจ้านของย่านนี้ คือ แหนมเนือง เส้นหมี่หน้าหมู ปอเปี๊ยะสด ปอเปี๊ยะทอด ขนมเบื้องเวียดนาม ปากหม้อเวียดนาม ทอดมันเวียดนาม แต่ละร้านเป็นทายาทของแม่ครัวชาวเวียดนามแท้ ๆ สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมีชื่อเสียงมาถึงปัจจุบัน ร้านยายต๊าม เป็นตำนานร้านอาหารเวียดนามเจ้าแรกของอรัญประเทศที่ถูกปาก ถูกใจ คนในพื้นที่ มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยคุณทวด เป็นผู้บุกเบิกในการทำอาหารเวียดนาม โดยเริ่มจากเดินหาบขายตามบ้าน ส่งต่อไปยังรุ่นคุณยายต๊าม และปัจจุบันเป็นรุ่นของทายาทรุ่นสาม ซิน ศีลภิญโญ ผู้มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ผ่านอาหารและบรรยากาศอันอบอุ่นของร้าน มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมเมนูให้หลากหลาย บรรยากาศของร้านผสมผสานความคลาสสิกของยุคบุกเบิกเข้ากับความทันสมัย ถูกใจทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งสายกิน สายเที่ยว สายเช็กอิน และปัจจุบัน ทางร้านเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ พร้อมส่งความอร่อยถึงบ้านด้วย ที่ตั้ง : 87/1 ถนนมิตรสัมพันธ์ ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พิกัด : https://goo.gl/maps/S3SmwsKMc1Yqqdp48 วันเวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 19.00 น. (ติดต่อสอบถามล่วงหน้าเพื่อความสะดวก) โทรศัพท์ : 08 1559 8664 Facebook : ยายต๊ามอาหารเวียดนาม เจ้าแรกในอรัญ 2 La Lune croissant ร้านครัวซองต์พรีเมียม ฝีมือของสาววัย 19 ที่อบวันต่อวันแบบมืออาชีพ ในยุคที่วงการคาเฟ่และเบเกอรีเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ครัวซองต์เป็นหนึ่งในไอเท็มสุดฮิตที่ยังไม่ตกกระแส แต่จังหวัดสระแก้วก็ยังไม่อาจหาเบเกอรีแบบพรีเมียมทานง่ายตามตรอกซอยทั่วไปเหมือนเมืองอื่น ๆ เมื่อหาทานยาก La Lune croissant จึงได้เริ่มต้นขึ้น เริ่มจาก ป่าน-ธนพร ไท้เชียง เรียนจบมัธยมปลายในช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์โควิด-19 ทางครอบครัวจึงตัดสินใจให้พักเรื่องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยไว้ก่อน ระหว่างรอทุกอย่างคลี่คลาย ป่านได้ใช้เวลาเรียนรู้เรื่องการทำเบเกอรีจากคุณแม่ ที่ครัวของโรงแรมลาวิลล่า บูทิค โฮเทล ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว โดยเน้นฝึกทำครัวซองต์ เพราะเป็นขนมที่คุณแม่ชอบมากเป็นพิเศษ หลังลองผิดลองถูกอยู่นานหลายเดือน ครัวซองต์ก็ยังออกมาไม่ถูกใจคุณแม่สักที ป่านจึงตัดสินใจไปลงคอร์สเบเกอรีที่สถาบันเลอกอร์ดองเบลอ เพื่อเรียนรู้อย่างจริงจังแบบมืออาชีพ กลับมาฝึกฝนต่อเนื่อง พัฒนาฝีมือทำครัวซองต์ได้หลากหลายรูปแบบ จนได้รสชาติที่คุณแม่ถูกใจ และตัดสินใจเปิดร้านครัวซองต์เป็นของตัวเองในที่สุด จุดเด่นของลาลูนครัวซองต์ที่ป่านภาคภูมิใจ คือความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนแบบมืออาชีพ ความพรีเมียมของวัตถุดิบทุกชนิด ไม่ใช้สารเสริมใด ๆ ทั้งสิ้น เน้นทำสดใหม่จากเตา อบวันต่อวันหอมฟุ้งไปทั่วทั้งซอย มีความหลากหลายของรสชาติ และเพิ่มเติมเมนูใหม่ ๆ ปรับเปลี่ยน หมุนเวียนอยู่ตลอด เป็นที่ถูกใจของลูกค้ามากมายจนโด่งดัง ส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาแล้ว จากที่เคยฝากหอบหิ้วครัวซองต์ของร้านดัง ร้านฮิตจากที่อื่น ตอนนี้ชาวสระแก้วมีครัวซองต์ฝีมือสาววัย 19 ปีที่แวะมาทานและซื้อกลับไปฝากคนอื่นได้แล้วนะ ที่ตั้ง : ลาวิลลา บูทิค โฮเทล 11/1 ถนนบ้านโคก ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พิกัด : https://goo.gl/maps/BaeDdEMXvjwjN3FH7 วันเวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น. โทรศัพท์ : 08 9832 8088 Facebook : La Lune Croissant 3 ชมวิวคาเฟ่ คาเฟ่ขนมหวานผสานวัฒนธรรมและอาหารจีนของคู่ซี้แม่ลูก สาวกสายหวานอย่าง วิว-อรจิราพัชย์ บูรณนันทการ ชื่นชอบขนมปังทุกรูปแบบ รักในการทำขนม และชอบเข้าครัวกับคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก ใช้ตำราครูพักลักจำ ฝึกฝนด้วยตัวเองมานาน จนเริ่มไปลงเรียนคอร์สทำขนมหลากหลายหลักสูตรอย่างจริงจัง ทั้งเบเกอรีและขนมไทย แล้วส่งให้เพื่อน

✨ สระแก้วดิเนเวีย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ หาดสวยภูเก็ต ✨

ช่วงที่ผ่านมา มีการโปรโมท Phuket Sandbox กันจนแอดเองก็อยากเก็บกระเป๋าไปเที่ยวบ้างแล้ว วันนี้เลยขอถือโอกาสแนะนำชายหาดสวย ๆ ของ จ.ภูเก็ตมาให้เพื่อน ๆ ได้เก็บไว้ในลิสต์กัน สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกเดินทาง สามารถอ่านได้จาก eBook จังหวัดภูเก็ตได้ที่Link : https://www.amazingthailandebook.com/issue/197 หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ AndroidLink : https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect 1.หาดป่าตอง เป็นชายหาดที่มีลักษณะโค้งเว้าคล้ายกับรูปพระจันทร์ ทรายขาวละเอียด มีความยาวถึง 9 กิโลเมตร บริเวณต้นหาดและท้ายหาดมีภูเขาตั้งอยู่ ทำให้คลื่นลมแรงไม่แรงมากนัก ที่อยู่ : ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/NTXEXK6gq72dw7xA9เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน 2. หาดกะรน เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในภูเก็ต มีคลื่นลมแรง จุดเด่นของที่นี่คือ บรรยากาศที่เงียบสงบ สบาย ๆ จะนอนอาบแดดหรือเดินเล่นรับลมก็ดี ที่อยู่ : ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/doTNFY2643fgUv7r5เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน 3. หาดยะนุ้ย เป็นหาดเล็ก ๆ อยู่ใกล้กับจุดชมวิวกังหันลมและแหลมพรหมเทพ จากหาดนี้ จะได้เห็นภาพเรือลอยอยู่ในทะเล ให้บรรยากาศที่สวยสงบ และมีความเป็นส่วนตัว สามารถมาเล่นน้ำ นั่งชิลล์และนอนอาบแดดได้เลย ที่อยู่ : ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/E2my7YNCTxmzfNmZAเปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน 4. หาดกมลา เป็นหาดสวยน้ำใส ที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง เป็นอีกหนึ่งหาดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพัก เพราะมีอพาร์ทเมนต์ เกสต์เฮ้าส์ และโรงแรมมากมาย ที่อยู่ : ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/Y4DVAk24GzkneKTKAเปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน 5. หาดราไวย์ เป็นหาดที่ชาวเล-ชาวประมงอาศัยอยู่ มีที่พักแบบบังกะโลและมีร้านอาหารทะเลสด ๆ ให้บริการหลายร้านในราคาน่ารัก หากเพื่อน ๆ ไปที่ “ตลาดซีฟู้ดราไวย์” จะพบกับแผงขายอาหารทะเลสด ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ เมื่อซื้อแล้วก็นำไปให้ร้านฝั่งตรงข้ามปรุงสุกให้ได้เลย ที่อยู่ : ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/tBpKkAGQzCkGRUQi8เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน 6. หาดไม้ขาว อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของภูเก็ต มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถเดินเล่นได้เต็มที่เลย ไฮไลท์ของหาดนี้คือการชมเครื่องบินที่กำลังแลนดิ้งลงมาผ่านบริเวณหาดไม้ขาวนั่นเอง ที่อยู่ : หาดไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตพิกัด : https://goo.gl/maps/Q5oPEzJ58CQQiUqa7เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

✨ หาดสวยภูเก็ต ✨ อ่านเพิ่มเติม

5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว : ประจวบคีรีขันธ์

🌈 เหตุที่เรียกว่าเมืองสามอ่าว เนื่องจากพื้นที่บริเวณตัวเมืองประจวบประกอบไปด้วย อ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาว ตั้งเรียงต่อกันในแนวทิศเหนือ-ทิศใต้ มีพื้นที่ริมอ่าวประจวบเป็นศูนย์กลางความเจริญ เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ สถานีขนส่งรถประจำทาง สถานีรถไฟ ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 🌈 TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ขอนำเสนอ 5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว ได้แก่ เขาช่องกระจก สะพานสราญวิถี เขาตาม่องล่าย วัดอ่าวน้อย และอ่าวมะนาว ซึ่งหากใครมีโอกาสแวะเวียนไปเที่ยวตัวเมืองประจวบ แล้วไม่ได้ไปเช็กอินสถานที่เหล่านี้ ถือว่าพลาดอย่างมาก❗️ 🌈 ตามมาเก็บข้อมูลเตรียมวางแผนเที่ยวด้วยกันในรีวิวนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ค่อยออกเดินทางท่องเที่ยวกันนะคะ 😉 การเดินทาง (กรุงเทพฯ-ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์) รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามสอง) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม จนถึงทางต่างระดับวังมะนาว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี เข้าสู่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวมจากกรุงเทพฯ ประมาณ 293 กิโลเมตร รถโดยสารประจำทาง : มีให้บริการทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 หรือ www.transport.co.th รถตู้โดยสารประจำทาง : มีให้บริการทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-4.30 ชั่วโมง ท่ารถตู้สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 – ตัวเมืองประจวบ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โทร. 089-2547496, 089-2547495, 081-9428938 ท่ารถตู้สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ – ตัวเมืองประจวบ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โทร. 086-3111426, 092-8941454 *แนะนำให้ตรวจสอบรอบเวลารถก่อนเดินทาง* รถไฟ : ขบวนรถไฟสายใต้ทุกขบวนที่ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ จะผ่านสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th การเดินทางด้วยรถไฟมายังตัวเมืองประจวบ นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองประจวบ ห่างจากถนนเลียบอ่าวประจวบเพียง 500 เมตร เรียกได้ว่าพอลงจากรถไฟ สามารถเดินหาที่พักหรือเช็กอินเข้าที่พักซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบได้เลย จุดที่ 1 เขาช่องกระจก หากอยากมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองประจวบและอ่าวประจวบแบบ 360 องศา แนะนำให้ขึ้นไปบนยอดเขาช่องกระจก เขาช่องกระจก มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 245 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของวัดธรรมิการามวรวิหาร (วัดเขาช่องกระจก) จากเชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด มีบันไดปูนเดินขึ้นไปสู่ยอดเขา ยอดเขาช่องกระจกเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและองค์พระเจดีย์ซึ่งภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะกราบไหว้ ตำแหน่งที่ตั้งของเขาช่องกระจกอยู่จุดกึ่งกลางของโค้งอ่าวประจวบ โดยแบ่งอ่าวประจวบออกเป็น 2 ฝั่ง อ่าวประจวบทางเหนือ เริ่มจากปากคลองบางนางรมอยู่บริเวณเชิงเขาช่องกระจก มีหาดทรายขาวยาวต่อเนื่องไปทางเหนืออีก 4 กิโลเมตร จนถึงเขาตาม่องล่าย อ่าวประจวบทางใต้ จะเป็นศูนย์ราชการ ตลาด ชุมชน เรื่อยไปจนถึงเขาล้อมหมวกและอ่าวมะนาว จุดชมวิวบนยอดเขาช่องกระจก สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันออกของปากอ่าวในช่วงเช้า เรื่อยไปจนถึงแสงทไวไลท์ในยามเย็น อีกฟากฝั่งของจุดชมวิวยอดเขาช่องกระจก ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกลับหลังเทือกเขาตะนาวศรี และแสงไฟยามค่ำคืนของย่านชุมชนในตัวเมืองได้ด้วย จุดที่ 2 สะพานสราญวิถี ถือเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของตัวเมืองประจวบ เป็นสะพานปูนสีแดงโดดเด่นยื่นจากถนนริมอ่าวประจวบออกไปในทะเล  สะพานสราญวิถี แต่เดิมคือ สะพานปลาอ่าวประจวบ ต่อมาทางหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันบูรณะพัฒนาให้มีความสวยงามขึ้น ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สะพานสราญวิถี” ตามที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน โดยคำว่า “สราญวิถี” หมายถึง ความสุขสำราญ และยังได้พระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ มาประทับที่ป้ายชื่อของสะพานอีกด้วย  ในช่วงเวลาเช้าและเย็น ยามแดดร่มลมตก ชาวเมืองประจวบและนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูปกันที่นี่  จุดที่ 3 เขาตาม่องล่าย เขาตาม่องล่าย ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของโค้งอ่าวประจวบ ห่างจากเขาช่องกระจกประมาณ 4 กิโลเมตร ตลอดแนวหาดจะเป็นชุมชนบ้านเรือนสลับกับที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว และหมู่บ้านชาวประมงซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เชิงเขา แอบกระซิบว่า ใครต้องการซื้อหาอาหารทะเลสด ๆ ให้มาดักรอเรือของชาวประมงท้องถิ่นแถวชุมชนตาม่องล่าย ซึ่งเรือมักจะกลับเข้าฝั่งพร้อมกับอาหารทะเลสด ๆ ในช่วงเช้า  บริเวณเชิงเขาตาม่องล่ายเป็นที่ตั้งของ “วนอุทยานเขาตาม่องล่าย” ที่นี่มีจุดกางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย จากวนอุทยานฯ สามารถมองเห็นตัวเมืองประจวบซึ่งอยู่อีกฟากของโค้งอ่าวได้อย่างชัดเจน  หากเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติภายในวนอุทยานฯ จะพบจุดชมวิวเขาตาม่องล่าย ซึ่งมองเห็นเขาตาม่องล่ายและโค้งอ่าวประจวบได้ตลอดแนว รวมทั้งเขาล้อมหมวกด้วย  จุดที่ 4 วัดอ่าวน้อย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอ่าวน้อย เอกลักษณ์โดดเด่นของวัดคือ พระอุโบสถไม้สักทองสลักลวดลายไทยทั้งหลัง และมีรูปปั้นพญานาคคู่เลื้อยโอบล้อมกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถไว้  ในบริเวณวัดมีภูเขาหินตั้งอยู่ติดริมทะเล มีทางเดินขึ้นไปบนเขา บนเขาจะพบโถงถ้ำ ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ  ระหว่างทางเดินขึ้น-ลงเขา สามารถมองเห็นโค้งอ่าวซึ่งเชื่อมต่อกับชายหาดในเขตอำเภอกุยบุรี  จุดที่ 5 อ่าวมะนาว ชายหาดที่ตั้งอยู่ทางใต้ของอ่าวประจวบ มีเขาล้อมหมวกเป็นจุดแบ่งระหว่างอ่าวประจวบและอ่าวมะนาว  อ่าวมะนาวอยู่ในพื้นที่และความดูแลของกองบิน 5 กองทัพอากาศ แต่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปเที่ยวได้ การเข้าไปเที่ยวจะต้องผ่านจุดตรวจความปลอดภัยบริเวณทางเข้ากองบิน 5 เสียก่อน  ด้วยสภาพชายหาดที่มีความลาดชันน้อย สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย รวมถึงอยู่ในเขตทหาร มีการรักษาความสะอาดตลอดเวลา อ่าวมะนาวจึงเป็นชายหาดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่มักพาบุตรหลายมาพักผ่อนเล่นน้ำ  เมื่อโอกาสเหมาะและมีความพร้อมในการเดินทาง หากกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่แออัดจนเกินไป มีทั้งจุดชมวิวสวย ๆ วิถีชีวิตชาวเลเรียบง่าย อาหารทะเลสดอร่อยและไม่แพง

5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว : ประจวบคีรีขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

✨ ปักหมุดเที่ยวหน้าฝน @ กระบี่ ✨

พอถึงฤดูฝน น้อยคนจะนึกถึงการเที่ยวทะเล แต่ความคิดนี้ใช้ไม่ได้กับทะเลกระบี่ค่ะ เพราะจะฤดูไหน กระบี่ก็สวยงามพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ แถมการเที่ยวนอกฤดู ยังมีข้อดีอีกด้วยว่า นักท่องเที่ยวน้อย บรรยากาศไม่พลุกพล่าน ที่พักก็ราคาถูกลง หากวางแผนก่อนเดินทาง ตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า ทริปของเพื่อน ๆ ก็จะง่ายขึ้น 😊.ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่เคยไปเที่ยวกระบี่ในฤดูฝน ลองสักครั้งไหมคะ ลองไปดูกันว่า แอดจะพาไปเที่ยวกระบี่ในมุมไหนบ้าง แม้ช่วงนี้เราจะต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ก็ยังไม่เปิดให้บริการ แต่เพื่อน ๆ เก็บข้อมูลเส้นทางเหล่านี้ไว้ได้นะคะ รอให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กลับมาเปิดต้อนรับเราอีกครั้ง 🙂  วันที่ 11 ท่าปอมคลองสองน้ำ2 โรงคั่วกาแฟ 23 Roasters Krabi Cafe3 อ่าวนาง4 ทะเลแหวก5 อ่าวไร่เลย์  วันที่ 26 เขาขนาบน้ำ7 คาราเมล เดอะ เทสต์ ออฟ ไลฟ์8 ดาหลาบาติก  วันที่ 1 ท่าปอมคลองสองน้ำ  จุดแรกที่แอดจะพาไปเที่ยวคือ ท่าปอมคลองสองน้ำ หรือ “ป่าพรุท่าปอม” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีความพิเศษมาก ท่าปอมเป็นคลองสายสั้น ๆ มีต้นน้ำเป็นน้ำผุด ส่วนปลายคลองไหลลงทะเลอันดามัน พื้นที่ท่าปอมจึงมีทั้งส่วนป่าพรุ ป่าดิบชื้น และป่าชายเลน ทำให้พืชพันธุ์และสัตว์น้ำในบริเวณนี้มีความหลากหลายน่าสนใจ เพื่อเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำทำลายธรรมชาติโดยไม่ตั้งใจ จึงมีการจัดทำทางเดินสะพานไม้ระยะทางประมาณ 700 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชื่นชมและศึกษาธรรมชาติได้โดยสะดวก ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของท่าปอมก็คือ น้ำในคลองจะเปลี่ยนสีไปตามระดับการขึ้นลงของน้ำทะเล เมื่อน้ำทะเลหนุนสูงและไหลเข้ามาในคลอง น้ำในคลองจะเป็นสีฟ้าขุ่น มีปลาทะเลเข้ามาหาอาหารในคลอง และว่ายกลับไปเมื่อน้ำลง ตอนที่น้ำทะเลลด น้ำในคลองจะกลับใสแจ๋ว เป็นสีเขียวอมฟ้า จากปรากฏการณ์นี้ ท่าปอมจึงเป็นทั้งคลองน้ำจืดและคลองน้ำเค็ม และนี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ “คลองสองน้ำ”  นอกจากนี้ เพื่อน ๆ จะได้เห็นทิวทัศน์ต้นไม้ที่สวยแปลกตา มีเสน่ห์น่าพิศวงไม่เหมือนที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบชื้น หรือปุ่มปมรากไม้ที่โผล่พ้นน้ำกลางป่าพรุที่มีน้ำท่วมขัง คุ้มค่ากับการมาชม เพื่อน ๆ ที่อยากเล่นน้ำ สามารถเล่นได้ตรงบริเวณที่มีการอนุญาตให้เล่น มีอุปกรณ์เล่นน้ำให้เช่า แต่ห้ามใช้สบู่ แชมพูขณะเล่นน้ำ ส่วนบริเวณอื่นไม่อนุญาตให้ลงเล่นค่ะ ขอให้เพื่อนๆ ช่วยกันทำตามข้อปฏิบัติต่าง ๆ ในการเที่ยวชมด้วยค่ะ  ค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท (ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท)  หมู่ 2 บ้านหนองจิก ตำบลเขาคราม อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 075 694 198, 075 694 165 (อบต.เขาคราม) 075 622 163 (ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จ.กระบี่)เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/T2NZn48WZ4B5GqnV6 โรงคั่วกาแฟ 23 Roasters Krabi Cafe  สำหรับเหล่าคอกาแฟ แอดขอแนะนำให้มาที่นี่นะคะ เดินเข้ามาก็ได้กลิ่นกาแฟยั่วยวนจนอดใจไม่ไหวที่จะสั่งเลยล่ะ คาเฟ่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากอ่าวนาง หากเพื่อน ๆ มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวอ่าวนางหรืออ่าวไร่เลย์ สามารถมาแวะพักดื่มเครื่องดื่มได้ที่นี่ โดยเฉพาะเมนูกาแฟที่เขาใช้กาแฟจากเมล็ดที่คั่วสดใหม่ ที่สำคัญ คาเฟ่แห่งนี้ได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก โรงคั่วกาแฟ23 Roasters Krabi Cafe คอนเซ็ปต์ร้านนี้น่าสนใจมากนะคะ เจ้าของร้านเล่าว่าเขาใช้ชื่อ “โรงคั่วกาแฟ 23 Roasters Krabi Cafe” เพราะร้านตั้งอยู่ในละติจูดที่ 23 ซึ่งถือว่าอยู่เขต Bean Belt อันเป็นชื่อที่ใช้เรียกภูมิภาคที่เหมาะกับการปลูกกาแฟของโลก โดยร้านได้คัดสรรเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรไทย และใส่ใจรายละเอียด ควบคุมการคั่วกาแฟเองอย่างพิถีพิถันให้มีคุณภาพ คนรักกาแฟไม่ผิดหวังแน่นอน  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก โรงคั่วกาแฟ23 Roasters Krabi Cafe นอกจากเครื่องดื่มกาแฟแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ให้เลือกสั่ง รวมทั้งขนมเค้ก ขนมอบอื่น ๆ ให้เลือกกินคู่กับเครื่องดื่มได้ชนิดเข้ากันดี๊ดีอีกด้วย ส่วนใครที่ติดใจรสชาติกาแฟที่นี่ สามารถสั่งเมล็ดกาแฟคั่วสดกลับไปชงดื่มเองได้ด้วยค่ะ   แยกช่องพลี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) เวลา 09.00-18.00 น. 063 786 6419https://goo.gl/maps/9n65GCdsXShcRF3a9 ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก โรงคั่วกาแฟ23 Roasters Krabi Cafe อ่าวนาง  จาก “โรงคั่วกาแฟ 23 Roasters Krabi Cafe” เดินทางต่อมาอีก 10 นาทีก็จะพบกับชายหาดทะเลสีครามที่ “อ่าวนาง” อ่าวนาง อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีชายหาดที่สวยงาม วิวที่เป็นเอกลักษณ์คือภูเขาหินปูนที่ตั้งเด่นอยู่ไม่ไกลจากชายหาด อ่าวนางไม่เพียงเป็นชายหาดยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเที่ยวทะเลของกระบี่ด้วย เพราะเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ จุดเช่าเรือไปเกาะต่าง ๆ ฯลฯ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมาแถวนี้ก่อน  เพลิดเพลินกับบรรยากาศบนชายหาดให้ชื่นใจก่อนนะคะ เพราะอีกเดี๋ยวแอดจะพาเพื่อน ๆ ไปยืนบนหาดกลางทะเล  ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่https://goo.gl/maps/Jxy7Z4XrkZCd6H527 ทะเลแหวก  เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน สันทรายใต้ทะเลจะปรากฏขึ้น กลายเป็นหาดทรายสีขาวสะอาดตาที่เชื่อมเกาะทัพ เกาะหม้อ และเกาะไก่ สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ ดูแล้วเหมือนเราเดินเล่นอยู่กลางทะเลเลยใช่ไหมคะ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าประทับใจ ใครไม่เคยเห็น ควรลองไปดูสักครั้ง  ปรากฏการณ์ทะเลแหวกเกิดขึ้นตอนไหน–

✨ ปักหมุดเที่ยวหน้าฝน @ กระบี่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

3 เส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไป-กลับ ด้วยรถโดยสารประจำทาง

📌 ชวนมาเก็บข้อมูลให้แน่น เตรียมตัวให้พร้อม สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ค่อยแบกเป้ไปเที่ยวกัน ✨เชียงใหม่✨ จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ในใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน ด้วยประเพณีและวัฒนธรรมอันโดดเด่น ทั้งอาหารการกิน ภาษาพูด ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีทั้งความเป็นคนเมืองและคนใกล้ธรรมชาติ รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้หล่อหลอมกันจนเกิดเป็น “เชียงใหม่ สไตล์” ที่เชื้อเชิญและดึงใจให้ทั้งไทยและเทศ อยากมาลองสัมผัสและใช้ชีวิตเป็นชาวเชียงใหม่ดูบ้าง ปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวในเชียงใหม่นับได้ว่ามีความสะดวกสบายพอสมควร ทั้งถนนหนทาง รถเช่า รถโดยสาร มีพร้อมรองรับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในจังหวัดอย่างเต็มที่ รีวิวชุดนี้ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ขอนำเสนอ 3 เส้นทางท่องเที่ยว @ เชียงใหม่ที่เดินทางไปได้ด้วยรถโดยสารประจำทาง อ่านจบรับรองว่าสามารถสวมบทบาทเป็น Backpacker นั่งรถเมล์ตะลอนแอ่ว กลมกลืนไปกับคนท้องถิ่นได้แนบเนียนราวกับเป็นจาวเจียงใหม่แต้ ๆ  เส้นทางที่ 1 บ้านแม่กำปอง  หมู่บ้านบนดอยสูงที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาราวกับบ้านเล็กในป่าใหญ่ มีลำธารไหลผ่านในหมู่บ้าน อากาศเย็นสดชื่นตลอดทั้งปี ปัจจุบันบ้านแม่กำปองมีที่พักแนวโฮมสเตย์ ร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการหลายแห่ง เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกปักหมุดเมื่อเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ การเดินทาง รถยนต์ : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 118 ผ่าน อำเภอดอยสะเก็ด จนเข้าเขตอำเภอแม่ออน ให้เลี้ยวขวาใช้ทางหลวงชนบท ชม. 3005 จนถึงสามแยกตำบลห้วยแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไปเรื่อย ๆ จะผ่านโครงการหลวงตีนตกจนถึงบ้านแม่กำปอง รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ตั้งแต่สามแยกห้วยแก้ว เริ่มเป็นทางขึ้นเขา ถนนลาดยางสวนกันสองเลน แต่มีไหล่ทางแคบ จึงไม่แนะนำสำหรับรถบัสคันใหญ่ แต่รถยนต์ขนาดเล็กสามารถสัญจรได้ปกติ รถโดยสารประจำทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ มีรถตู้โดยสารประจำทาง สายเชียงใหม่-แม่ออน-น้ำพุร้อนสันกำแพง-แม่กำปอง ให้บริการ ท่ารถอยู่ริมถนนเลียบแม่น้ำปิง หน้าตลาดวโรรส (กาดหลวง) ส่วนท่ารถที่หมู่บ้านแม่กำปอง อยู่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดแม่กำปอง ตลาดวโรรส-แม่กำปอง มีรถออกเวลา 07.40 น. / 09.30 น. / 11.40 น. / 14.30 น.แม่กำปอง-ตลาดวโรรส มีรถออกเวลา 09.20 น. / 11.20 น. / 13.20 น. / 16.00 น. ค่าโดยสารที่นั่งละ 150 บ. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง (หากขึ้นจากต้นสายไปลงแค่น้ำพุร้อนสันกำแพง ค่าโดยสาร 40 บ.) ช่องทางการจองที่นั่งรถตู้โดยสารAdd friend ใน Facebook Page : รถตู้น้ำพุร้อนสันกำแพง Van transpot to San Kamphaeng Hot Springs และจองที่นั่งใน Inbox โดยแจ้งชื่อ เบอร์โทร วันเวลาที่จะขึ้นรถ จำนวนที่นั่ง เจ้าหน้าที่คิวรถจะทำการจองให้ สอบถามข้อมูลโทร. 083-3254965, 084-2223478 แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้า เพราะส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะเต็มตลอด *แนะนำให้ตรวจสอบรอบเวลารถก่อนเดินทาง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ*  เส้นทางที่ 2 เมืองคอง  เป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและอำเภอเวียงแหง เมืองคอง ณ วันนี้ อารมณ์คล้าย ๆ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อสมัยแรกเริ่ม เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ราบเล็ก ๆ กลางหุบเขา มีสายน้ำไหลผ่านหลายสาย เช่น แม่น้ำคอง แม่น้ำแม่แตง ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม ทั้งปลูกข้าว พืชไร่ ผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย หมู ฯลฯ และมีกิจกรรมซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว คือ การล่องแพไม้ไผ่หรือล่องห่วงยาง ทำให้ปัจจุบันมีที่พักแบบโฮมสเตย์และรีสอร์ทเปิดให้บริการอยู่หลายแห่ง  สามารถมาเที่ยวเมืองคองได้ทุกฤดูกาล เพราะที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว มีโอกาสพบเจอทะเลหมอกได้ทุกวัน รวมทั้งนาข้าวเหลืองทองอร่ามเต็มท้องทุ่ง  การล่องแพไม้ไผ่ สามารถให้ทางที่พักติดต่อกิจกรรมล่องแพให้ และจะมีรถกระบะมารับ-ส่งผู้ที่จะไปล่องแพถึงที่พัก สายน้ำที่ใช้ล่องแพ คือ แม่น้ำแม่แตง เป็นช่วงต้นน้ำ ระดับน้ำไม่ลึกโดยเฉลี่ยสูงแค่เข่าถึงเอว มีบริการล่องแพตลอดทั้งปี บนแพจะมีเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ จัดให้นั่งบนแพไม้ไผ่อีกที ค่าล่องแพไม้ไผ่ แพละ 700 บ. เป็นราคามาตรฐานที่ทางชุมชนกำหนดไว้ นั่งได้ไม่เกิน 5 คน/แพ แนะนำว่าควรล่องช่วง 3-4 โมงเย็น แสงกำลังสวย แดดร่มลมตก ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง กว่าจะล่องเสร็จก็ราว 5-6 โมงเย็น จะได้กลับถึงที่พักก่อนค่ำ  จุดชมวิวเด่นทีวี … อลังการทะเลหมอกเมืองคอง สมัยก่อนเมืองคองไม่มีสัญญาณโทรคมนาคมต่าง ๆ การจะดูทีวีรายการสำคัญ เช่น ชกมวยชิงแชมป์โลก ชาวบ้านที่นี่จึงต้องหาจุดซึ่งสามารถรับสัญญาณทีวีได้ จนมาพบที่นี่ และได้ขนทีวีขึ้นมานั่งชมนั่งเชียร์รวมกันทั้งบ้าน จึงเป็นที่มาของชื่อจุดชมวิวนี้ และยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็น “ดอยหลวงเชียงดาว” ในมุมมองที่สวยมากด้วย การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวเด่นทีวี ซึ่งอยู่บนภูเขาห่างจากเขตชุมชนของเมืองคองประมาณ 8 กิโลเมตร ต้องใช้รถโฟร์วีลหรือจักรยานยนต์เพราะเส้นทางวิบากขรุขระมาก สามารถติดต่อที่พักต่าง ๆ ในเมืองคองเพื่อช่วยจองรถโฟร์วีลรับ-ส่งไปยังจุดชมวิวได้ ราคามาตรฐานคนละ 150 บ. รถโฟร์วีลจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวตามที่พักต่าง ๆ ระหว่างเวลา 05.00-05.30 น. นั่งได้ 7-10 คน/คัน และขับขึ้นไปบนเขาประมาณ

3 เส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไป-กลับ ด้วยรถโดยสารประจำทาง อ่านเพิ่มเติม

🌳สะวันนาแดนใต้ เกาะพระทอง จังหวัดพังงา🌳

เวลาคิดถึงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา แทบทุกคนน่าจะมุ่งหน้าไปเที่ยวทะเลและชายหาดกัน แต่แอดมีแหล่งท่องเที่ยวม้ามืดมาฝาก นั่นคือทุ่งหญ้าสะวันน่าแดนใต้ ที่เกาะพระทอง เกาะพระทอง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในพังงาและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย มีทุ่งหญ้าสีเหลืองทองที่นับว่าเป็น unseen ต้องไปเห็นกับตา ก่อนไปเที่ยว มาเก็บเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แอดรวบรวมมาฝากกันก่อนได้นะ ทุ่งหญ้าสีทอง หรือที่เรียกฉายาว่า ทุ่งสะวันนา เป็นทุ่งหญ้าที่มีสีเหลืองทุกเฉดเลย สวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างกับอยู่ซาฟารี บรรยากาศดูเหมือนกับต่างประเทศมาก ๆ ขาดแต่ยีราฟ สิงโต  ทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนสีตามฤดู ช่วงที่สวยที่สุดคือ เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ทุ่งหญ้าจะเป็นสีเหลืองทองสวย และช่วงเวลาที่เหมาะสมจะไปชมคือ ยามเช้าตรู่ หรือช่วงบ่ายแก่ ๆ ซึ่งถ้าโชคดีก็อาจจะได้เจอเหยี่ยวขาวและนกแก๊กซึ่งเป็นนกเงือกพันธุ์เล็กที่สุดในประเทศไทยด้วยนะ ทุ่งสะวันนาบนเกาะพระทองเต็มไปด้วย “ต้นเสม็ดขาว” ขึ้นกระจายเป็นหย่อม ๆ เสม็ดขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เนื้อไม้เสม็ดขาวสามารถทนความชื้นและน้ำเค็มได้ดี จึงมีการนำมาใช้ทำเสาเข็ม สร้างบ้าน ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำรั้ว ฯลฯ ส่วนเปลือกใช้ทำฝาบ้าน มุงหลังคา อุดรูรั่วของเรือ ย้อมแหอวน ฯลฯ เปลือกใกล้ ๆ บนต้นร่อนออกเป็นแผ่น ๆ แบบนี้เลย นอกจากทุ่งหญ้าสะวันนาแล้ว ที่เกาะพระทองยังมีพืชเฉพาะถิ่นที่หายากด้วย ไม่ว่าจะเป็นดอกศรนารายณ์ ซึ่งเป็นกล้วยไม้หายาก หยาดน้ำค้าง และหยดน้ำค้าง พืชกินแมลงมีทั้งสีเขียวและสีแดง รวมทั้งดอกกระดุมเงิน ดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ ที่บานอยู่เต็มทุ่งไปหมด  บนเกาะพระทอง มีโฮมสเตย์อยู่ 3-4 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นที่พักแบบ Eco ไม่มีไฟฟ้า ใช้พลังงานสะอาด (Solar Cells) สไตล์เรียบง่าย อาหารอร่อย น่าใช้เวลามานอนเล่นมาก ที่สำคัญ ผู้คนน่ารัก อัธยาศัยดี และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสามารถติดต่อกับที่พักได้โดยตรง การเดินทางไปเกาะพระทอง ขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือคุระบุรี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือท่าเรือทุ่งละออง ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที แนะนำให้ติดต่อจองที่พักล่วงหน้าเพื่อความสะดวกของการเดินทางเข้าที่พักค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าเรือ 08 9867 6829 คุณดำ (ผู้จัดการเรือเกาะพระทอง) เกาะพระทองเปิดตลอดทั้งปี แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะปิดในช่วงฤดูมรสุม คือ พฤษภาคม-กันยายนช่วงแนะนำ คือ ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม ข้อควรระวัง ขึ้นชื่อว่าเกาะ ยังไงเราก็คงอดแวะไปเที่ยวเล่นชายหาดไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่รีสอร์ทแจ้งว่า บริเวณชายหาดบนเกาะพระทองจะมีริ้นทะเลอยู่เยอะ ลักษณะคือคล้ายกับแมลงหวี่ หากใครแพ้อาจทำให้คันและเจ็บ ว่ากันว่าริ้นทะเลชอบเข้าหาสีขาว ฉะนั้น พยายามเลี่ยงเสื้อผ้าสีขาว และทายากันแมลงไว้ก่อนได้เลย 

🌳สะวันนาแดนใต้ เกาะพระทอง จังหวัดพังงา🌳 อ่านเพิ่มเติม

สายโต้คลื่นต้องดู Phuket SURF สนุก เท่ ท้าทาย และง่ายกว่าที่คิด!

ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่โตเกียวครั้งนี้ มีกีฬาชนิดใหม่ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันเป็นครั้งแรกอยู่ 5 รายการด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ Surfing หรือกีฬากระดานโต้คลื่นนั่นเอง ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่ากีฬาชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในทั่วทุกมุมโลก.ในเมืองไทยก็เช่นกัน กีฬากระดานโต้คลื่นนั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ปริมาณนักโต้คลื่นทั้งหน้าใหม่และมือเก๋านั้นเพิ่มขึ้นมากมายตามชายฝั่งทั่วประเทศทั้งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ด้วยสภาพคลื่นลมที่เหมาะสมกับผู้เล่นทุกระดับ ทำให้การลองโต้คลื่นในเมืองไทยนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์.และ ภูเก็ต นั้นถือว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าผู้เล่นกระดานโต้คลื่นอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยก็ว่าได้ โดยเฉพาะที่ #หาดกะตะ ซึ่งมีทุกอย่างที่นักโต้คลื่นต้องการ ทั้งบริการสอนโต้คลื่นแบบตัวต่อตัวจากครูฝึกมืออาชีพ บริการให้เช่ากระดานโต่คลื่น รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศที่เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับกิจกรรมประเภทนี้สุด ๆ .เราลองมาดูกันว่าการออกไปเจอกับเกลียวคลื่น สายลมและแสงแดดที่หาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต ของเหล่านักเล่นกระดานโต้คลื่นทั้งมือใหม่และมือโปรว่าจะน่าสนุกแค่ไหน . คลิกที่ลิงก์เพื่อชมวีดีโอได้เลย! Link : https://web.facebook.com/watch/?v=260075138960439

สายโต้คลื่นต้องดู Phuket SURF สนุก เท่ ท้าทาย และง่ายกว่าที่คิด! อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top