สถานที่ท่องเที่ยว

✨ กุ้งเดินขบวน ที่แก่งลำดวน ✨

ว่ากันว่า…ธรรมชาติมีความมหัศจรรย์อยู่เสมอ หลายครั้งที่ออกเดินทาง เราจึงได้พบเห็นสิ่งแปลกตาและน่าค้นหาจากธรรมชาติอยู่บ่อย ๆ วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มาชม “ขบวนกุ้ง” ปรากฎการณ์น่ารัก ๆ ทางธรรมชาติที่สามารถพบเห็นได้ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น 🌧 ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวนนี้อยู่ที่ “แก่งลำดวน” จังหวัดอุบลราชธานี ในฤดูฝน กระแสน้ำที่แก่งลำดวนจะไหลเชี่ยว จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เหล่ากุ้งตัวน้อยพากันเดินขึ้นมาตามแนวโขดหิน เพื่อหลบกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้นน้ำลำโดมใหญ่ ณ เทือกเขาพนมดงรักเพื่อวางไข่ขยายพันธุ์ ปรากฏการณ์นี้ เป็นสิ่งที่หาชมได้ยากและมีความละเอียดอ่อน ต้องชมด้วยความระมัดระวัง ขบวนกุ้งจะมีมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำและปัจจัยอื่น ๆ ทางธรรมชาติ ที่สำคัญ ต้องช่วยรณรงค์กันไม่ใช้สารเคมีอันตรายหรือทิ้งขยะปนเปื้อนลงในน้ำ เพราะจะส่งผลกระทบกับกุ้งเป็นอย่างมาก 🗓 สามารถชมได้ตลอดเดือนกันยายนของทุกปี (ปีนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19⏰ เวลาที่เปิดให้ชมคือช่วง 19.00-22.00 น. (มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ) 📌 ข้อควรปฏิบัติในการชมกุ้งเดินขบวน ไม่ออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ ชมอย่างระมัดระวัง ไม่เหยียบ หรือสัมผัสกุ้ง พื้นที่ชมขบวนกุ้งบางจุดอาจลื่นและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว แนะนำให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่นำอาหารและเครื่องดื่มไปรับประทานขณะชม ไม่ส่งเสียงดัง ระวังสัตว์มีพิษที่อาจพบในบริเวณนั้น ไม่ใช้ไฟฉายที่มีความสว่างมากเกินไป และไม่ส่องไปที่กุ้งเป็นเวลานาน เพราะจะเป็นการรบกวนกุ้ง ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ⭐ อุปกรณ์การชมกุ้งที่เพื่อน ๆ สามารถเตรียมไปเองได้ ไฟฉายสำหรับส่องชมกุ้ง ร่มหรือเสื้อกันฝน เพราะฝนอาจตกในระหว่างที่ชม ยากันยุง รองเท้า ควรเลือกพื้นยางและหุ้มเท้าอย่างมิดชิด ป้องกันสัตว์มีพิษ และป้องกันการลื่น 📞 ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี โทร. 045 410 040, 086 916 9634📍 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี🌐 https://goo.gl/maps/Rp8x6LUVHzL2dh9G9

✨ กุ้งเดินขบวน ที่แก่งลำดวน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 สถานที่กิน เที่ยว พัก เมืองลำปาง ✨

เมืองผ่านก็แค่ฉายา เพราะลำปางหนามีดีกว่านั้น … TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud นำเสนอคอลัมน์ Take Me Out เที่ยวบ้านเพื่อน พาทุกท่านไปซอกแซกลำปางในอีกมุมมองหนึ่ง ผ่าน 10 สถานที่กิน เที่ยว พัก ที่อยู่ในบ้านแต๊ ๆ ของเปื้อนปี้น้องจาวเมืองรถม้า ซึ่งสะท้อนความหลากหลายและเปี่ยมชีวิตชีวา ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ สุขภาพ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ในแบบฉบับอินไซต์ใกล้ชิดเจ้าบ้าน เพื่อพิสูจน์ว่าเมืองผ่านก็แค่ฉายา เพราะแท้จริงลำปางมีดีกว่าที่คิดและไม่ควรปล่อยผ่าน 👉 ตรวจสอบมาตรการการเดินทางเข้าพื้นที่ได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง : https://www.facebook.com/sasooklampang ลำปาง … จังหวัดเล็ก ๆ ที่มีของดีครบทั้งที่กิน เที่ยว พัก ตั้งแต่ซอกแซกชมประวัติศาสตร์ผ่านอารามริมแม่น้ำวัง นอนแช่น้ำแร่ดูแลสุขภาพ เรียนรู้วัฒนธรรมที่หอศิลปะการแสดงล้านนา ไปจนถึงนอนกลางป่าสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ใครอยากชาร์จแบตเตอรี่ฟื้นฟูกายและใจแบบอินไซต์ที่เมืองลำปาง ตามไปแอ่วแบบจาวลำปางแต๊ ๆ ได้เลยเจ้า 1 ถ้ำขุนตาน  อุโมงค์รถไฟกลางไพรที่เคยยาวสุดในแดนสยาม ถึงจะได้ชื่อว่าถ้ำ แต่ความจริงที่นี่เสกสรรขึ้นจากแรงงานมนุษย์ และยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีอายุอานามล่วงกว่า 103 ปีมาแล้ว ‘ถ้ำขุนตาน’ เป็นชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกแทน ‘อุโมงค์ขุนตาน’ อุโมงค์รถไฟอันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างทางรถไฟสายเหนือ จากกรุงเทพฯ จรดเชียงใหม่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กระนั้นจากการสำรวจพบว่า เส้นทางสายดังกล่าวจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่สามารถทอดรางตัดผ่านเทือกเขาที่กั้นขวางระหว่างอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง กับอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เหตุนี้ใน พ.ศ. 2450 เอมิล ไอเซนโฮเฟอร์ (Emil Eisenhofer) วิศวกรชาวเยอรมัน จึงเข้ามารับภารกิจควบคุมการก่อสร้าง และเริ่มต้นขุดเจาะอุโมงค์ลอดใต้ดอยขุนตาน ต่อเนื่องมาจนกระทั่งปีที่ 11 อุโมงค์รถไฟความยาว 1.3 กิโลเมตรก็เสร็จสมบูรณ์ ก่อนเปิดประตูสู่ภาคเหนืออย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2464 นับตั้งแต่นั้น ถ้ำขุนตานไม่เพียงนำความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมมาสู่ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ แต่ยังกลายเป็นอุโมงค์รถไฟไทยที่เลื่องลือด้านความ ‘สุด’ ทั้งสร้างบนทำเลสูงสุด ใช้เวลาก่อสร้างนานสุด รวมถึงเคยครองตำแหน่งแชมป์อุโมงค์รถไฟที่ยาวสุดในแดนสยาม ไม่นับความสวยคลาสสิกและบรรยากาศ ซึ่งจัดว่าสุดไม่แพ้กัน เพราะตั้งอยู่ในสถานีรถไฟขุนตาน สถานีเล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยแมกไม้เขียวครึ้ม เงียบสงบ ร่มรื่น เคียงอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลที่มีกิจกรรมนานาให้เพลินกายเพลินใจ อาทิ สำรวจเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ กางเต็นท์นอนท่ามกลางผืนป่าและหมู่ดาว หรือใครจะค้างบ้านพักของอุทยานสักคืน ตื่นเช้ามาสูดไอหมอกสดชื่น ผ่านอุโมงค์มาแล้วได้พบกับรถไฟสายเหนือ ทักทายเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา แบบนี้ก็เข้าท่าดีทีเดียว ที่ตั้ง : อำเภอห้างฉัตร อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พิกัด : https://goo.gl/maps/G4xmc25t7gEgyFCS8 เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 20.00 น. โทรศัพท์ : 0 5351 6335 2 บ่อน้ำร้อนบ้านโป่งร้อน  อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน พักผ่อนสไตล์เกาะคาออนเซ็น ย้อนกลับไปสมัยที่ แม่ระยอง จำปาวัน กรรมการศูนย์นวดแผนไทยบ้านโป่งร้อนยังเป็นเด็ก พื้นที่บริเวณ ‘บ่อน้ำร้อนบ้านโป่งร้อน’ เป็นเพียงทุ่งนาผืนกว้าง พอย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน แม่กับเพื่อน ๆ จะพากันมาขุดหลุมตักสายน้ำแร่ธรรมชาติอุ่น ๆ อาบ เช่นเดียวกับลุงป้าน้าอาในหมู่บ้านที่ต่างกลับไปพร้อมแกลลอนปริ่มน้ำ สำหรับให้พ่อแก่แม่เฒ่าอาบยามหนาว  จากต้นทุนท้องถิ่นคู่วิถี ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งต่อยอดสร้างงานและสร้างรายได้แก่ชุมชนได้ จึงสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน ก่อนเปิดต้อนรับคนต่างถิ่นให้เข้ามาใช้บริการอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน เพื่อสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา โดยปัจจุบัน บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ถือได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบสมฉายา ‘เกาะคาออนเซ็น’ ไม่ว่าจะเป็นห้องแช่น้ำแร่แบบเดี่ยว ห้องแช่น้ำแร่แบบคู่ ห้องอาบน้ำแร่สำหรับพระสงฆ์ สระน้ำแร่สำหรับเด็ก อ่างน้ำแร่แช่เท้า เรื่อยไปจนถึงอ่างอาบน้ำแร่กลางแจ้ง ให้นอนแช่ตัวฟิน ๆ ในอ่างไม้เคียงทัศนียภาพท้องทุ่งเขียวขจีผ่อนคลายสุดสายตา “น้ำแร่ที่นี่อุณหภูมิคงที่ เหมาะกับการแช่แบบไม่ต้องผสมน้ำเย็นเลย แช่แล้วช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี คลายกล้ามเนื้อ คนแก่บางคนปวดแข้งปวดขา พอมาแช่เขาก็หายนะ” แม่ระยองยิ้มรื่น พลางนำเสนอของดีประจำชุมชนอย่างตั้งอกตั้งใจต่อว่า “น้ำแร่ของเรากลิ่นกำมะถันไม่แรงและสะอาด เคยเอาไปตรวจสอบมา เขาว่าอุดมด้วยแร่ธาตุ เราเลยทำเป็นผลิตภัณฑ์น้ำดื่มจากน้ำแร่โป่งร้อนขาย คู่กับไข่ลวกน้ำแร่ที่ต้องใช้เวลาต้มนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เพราะอุณหภูมิน้ำนิ่ง แต่ก็ทำให้ได้ไข่ยางมะตูมสวย เนื้อเนียนนิ่ม ชิมแล้วจะติดใจ” นอกจากนี้ ยังมีบริการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า นวดประคบ หรืออบสมุนไพรจากพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่ปลูกโดยเกษตรกรท้องถิ่น มีร้านขายอาหารการกินเพียบพร้อม รวมถึงโฮมสเตย์ในหมู่บ้านไว้คอยให้บริการ สำหรับใครอยากที่ลองสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบลึกซึ้งถึงถิ่น ผ่านวิถีการกิน อยู่ และดูแลสุขภาพตามแบบฉบับของชาวบ้านโป่งร้อน ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลใหม่พัฒนา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 52130 พิกัด : https://goo.gl/maps/Potq6D6yUpUPdGWK8 เวลาเปิด – ปิด : 08.00-18.00 น. โทรศัพท์ : 08 2385 1367  3 บ้านบริบูรณ์  เรือนคหบดีอายุร่วมศตวรรษที่ปรับโฉมสู่หอศิลปะการแสดง ชุมชนกาดกองต้า เป็นอีกหนึ่งย่านที่รุ่มรวยด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของลำปาง โดยเฉพาะในยุคสัมปทานทำกิจการป่าไม้ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมือง ซึ่งร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองยังคงฉายให้เห็น ผ่านบรรดาอาคารบ้านเรือนโบราณหลังโตโอ่อ่า ที่ลำพังแค่สองฝากฝั่งถนนสายหลักก็มีให้ได้ชื่นชมกันอยู่มากหลัง อาทิ อาคารหม่องโง่ยซิ่น อาคารฟองหลี อาคารเยียนซีไท้ลีกี อาคารกาญจนวงศ์ บ้านแม่แดง หรือบ้านคมสัน  ส่วน ‘บ้านบริบูรณ์’ นั้น ต้องเดินเลาะเลี้ยวเข้าซอยเล็กน้อย ตำแหน่งแห่งที่อาจเร้นตา

✨ รวม 10 สถานที่กิน เที่ยว พัก เมืองลำปาง ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เกาะเต่า – เกาะนางยวน สวรรค์ของคนรักทะเล ✨

เกาะเต่า – เกาะนางยวน เป็นอีกเกาะที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางอ่าวไทย แต่กลับเป็นจุดมุ่งหมายยิ่งใหญ่ของคนรักทะเล เพราะไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาว ๆ น้ำทะเลใสแจ๋ว หรือแม้กระทั่งโลกใต้ทะเล ที่ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยก็ว่าได้ นอกจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมุ่งหวังให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนเกาะ ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดูแลสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ตั้งแต่บนพื้นดินจนไปถึงใต้ท้องทะเล วันนี้แอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาชมความสวยงามของเกาะเต่า – เกาะนางยวน พร้อมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นส่วนนึงในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ๆ ตามไปดูกันในโพสต์นี้เลย ก่อนเก็บกระเป๋าออกเดินทาง แอดอยากให้ลองเช็คมาตรการเข้าจังหวัดสักนิด โดยคลิกอ่านรายละเอียดตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.facebook.com/1494662884151960/posts/3064906403794259 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2564) https://www.facebook.com/107117091320800/posts/218051950227313 (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2564) สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกเดินทาง สามารถอ่านได้จาก eBook จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ที่ https://www.amazingthailandebook.com/issue/171 หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ที่ https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect ถ้าพูดถึงเกาะเต่า จะไม่พูดถึงเกาะนางยวนก็ไม่ได้ เรามักจะได้ยินชื่อของสองเกาะนี้อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ เพราะอยู่ใกล้กันเพียงแค่ 480 เมตรเท่านั้น เกาะนางยวนมีทั้งหมด 3 เกาะเล็ก เชื่อมกันระหว่างเกาะด้วยสันทรายสีขาว คล้าย ๆ ทะเลแหวก โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่ ก็คือจุดชมวิวเกาะนางยวน เพราะจะเห็นเกาะนางยวนในมุมสูงชัดเจน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังยอดฮิตอีกแห่งนึง จากเกาะเต่ามาเกาะนางยวนก็ง่ายดาย แค่เพื่อน ๆ ขึ้นเรือหางยาวมาจากท่าเรือแม่หาด หรือหาดทรายรี ใช้เวลาเดินทางแค่เพียง 20 นาทีก็จะถึงเกาะนางยวน หาดทรายรี เป็นอีกหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยความยาวหาดถึง 2 กิโลเมตร บวกกับความนุ่มละเอียดของเม็ดทราย ที่ทำให้เราเดินชมวิวได้เพลิน ๆ ถึงแม้จะไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำเพราะมีหินเยอะ แต่ที่นี่คือแหล่งรวมความสะดวกบนเกาะเต่า เพราะมีร้านอาหาร ร้านนั่งชิลต่าง ๆ รวมไปถึงที่พักมากมายตลอดริมหาด แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า เกาะเต่าไม่มีระบบน้ำประปา น้ำที่ใช้ได้มาจากน้ำฝนหรือน้ำบาดาลเท่านั้น น้ำที่นี่จึงมีค่ามาก หากเข้าพักที่เกาะเต่าก็ควรใช้น้ำเท่าที่จำเป็น แค่ประหยัดน้ำง่าย ๆ แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่อีกทางนึงนะ ส่วนใครที่ต้องการความสงบ เป็นส่วนตัว แอดขอแนะนำให้มาที่ “หาดทรายนวล” ที่นี่ถือเป็นหาดที่เงียบสงบ เพราะการเดินทางมายังหาดที่ยากกว่าหาดอื่น ๆ ที่ต้องเดินเท้าเลียบริมหาดไปเรื่อย ๆ ทำให้อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก แต่แอดรับรองเลยว่า ที่นี่เหมาะกับการหลบหนีความวุ่นวายอย่างแท้จริง เพื่อน ๆ สามารถใช้เวลานอนพักผ่อน ฟังเสียงคลื่น หยิบหนังสือสักเล่มมานอนอ่านริมหาดชิล ๆ หรือจะปิกนิกริมหาด เล่นน้ำ ดูปะการัง ก็ทำได้ตั้งแต่เช้าจนเย็น ปิกนิกเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บขยะที่เรานำมากลับไปทิ้งด้วยนะ หรือหากเพื่อน ๆ ลดใช้พลาสติกได้ก็จะดีมาก ๆ จะได้ไม่เป็นการเพิ่มขยะพลาสติก และช่วยกันรักษาธรรมชาติของเกาะเต่าไว้ได้นาน ๆ แอดขอพาเพื่อน ๆ มาชมวิวเกาะเต่ามุมสูงกันบ้างที่ “บลูเฮฟเว่น รีสอร์ท” หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะเต่า ที่นี่เป็นทั้งที่พักและร้านอาหาร ถึงแม้จะไม่ได้เข้าพักที่นี่ ก็สามารถขึ้นมาลิ้มรสอาหารใต้รสชาติอร่อย ๆ พร้อมชมวิวทะเลแบบ 180 องศา ที่แอดขอบอกเลยว่า ใครมาเกาะเต่าแล้วห้ามพลาดมุมนี้เด็ดขาด อิ่มท้องแล้วเรามาทำกิจกรรมทางน้ำกันบ้างที่ “อ่าวโตนด” อ่าวที่ล้อมไปด้วยกองหินและภูเขาเขียวขจี ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของคนที่รักกิจกรรมทางน้ำ เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพายคายัก ขี่เจ็ทสกี และยังเหมาะกับการดำน้ำตื้น เรียกได้ว่าเป็นอ่าวสวรรค์ของคนรักทะเลอีกอ่าวนึงเลยล่ะ รักทะเลแล้ว ก็อย่าลืม “รักษ์” ทะเลด้วยนะ หากการดำน้ำตื้นที่อ่าวโตนดยังไม่จุใจ แอดขอแนะนำ “อ่าวม่วง” อ่าวขนาดใหญ่ที่มีแนวปะการังสวยงามอยู่ทั้งสองฝั่งของอ่าว เป็นจุดมุ่งหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำตื้นชมปะการัง แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ยังอยากเห็นโลกใต้ทะเลมากกว่านี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนดำน้ำแบบ Scuba หลักสูตรเบื้องต้นอีกด้วย เพราะว่ามีคลื่นลมสงบ น้ำทะเลใส สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนที่สุด ซึ่งโรงเรียนสอนดำน้ำในเกาะเต่า ยังยึดแนวทางการดำน้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Fins) ในการสอน โดยเป็นการดำน้ำแบบที่ไม่รบกวนธรรมชาติ ไม่เกิดผลกระทบกับแนวปะการัง และสัตว์ทะเลอีกด้วย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะเที่ยวอย่างปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมสุด ๆ เพื่อน ๆ คนไหนที่เรียนดำน้ำลึกกันแล้ว แอดขอพามาที่ “อ่าวหินวง” หนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมของเกาะเต่า เพราะที่นี่เพื่อน ๆ จะได้ใกล้ชิดกับฝูงปลาข้างเหลืองได้อย่างง่ายดาย แถมยังมองเห็นได้ชัดเจนเพราะที่นี่น้ำใสแจ๋วเลยล่ะ แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ คนไหนดำน้ำลึกไม่เป็นล่ะก็ ไม่ต้องเสียใจ เพราะว่าฝูงปลาเหล่านี้ว่ายน้ำไม่ลึก อยู่ที่ประมาณ 3 – 5 เมตรเท่านั้น จึงทำให้สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ จากผิวน้ำ แต่ไม่ว่าจะดำน้ำแบบไหน ก็อย่าไปสร้างความตกใจให้กับฝูงปลานะ ว่ายน้ำกับน้อง ๆ อย่างเป็นมิตรก็พอ หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนอยากดำน้ำพร้อมกับช่วยสิ่งแวดล้อมไปด้วย ที่เกาะเต่ายังมีโรงเรียนดำน้ำหลายแห่งที่เปิดสอนดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์แนวปะการัง จนไปถึงการดำน้ำเพื่อกำจัดขยะใต้น้ำเลยทีเดียว  มาเที่ยวเกาะเต่าทั้งที จะพลาดการว่ายน้ำกับเต่าที่ “อ่าวฉลาม” ไม่ได้ ที่นี่เป็นทั้งที่อาศัยของเต่าและสถานอนุบาลน้ำตื้นของลูกฉลามครีบดำ ที่นี่ยังมีกิจกรรมปล่อยเต่ากลับคืนสู่ท้องทะเลทุก ๆ ปี เพื่อน ๆ จะมีโอกาสเจอเต่าทะเลได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องว่ายลงไปลึกเลยล่ะ เพราะเพียงแค่ลอยตัวอยู่ เพื่อน ๆ อาจจะเจอเต่าได้ง่าย ๆ ที่ความลึกเพียง 2 – 5 เมตรเท่านั้นเอง นอกจากนี้อ่าวฉลามยังมีความอุดสมบูรณ์ของปะการัง และสัตว์น้ำอื่น

✨ เกาะเต่า – เกาะนางยวน สวรรค์ของคนรักทะเล ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ที่นี่…เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา ✨

วันนี้เราจะไปเป็นชาวเกาะกันค่ะ เพื่อน ๆ เคยได้ยินชื่อเกาะยาว จังหวัดพังงากันบ้างไหม เกาะยาวนี้ประกอบด้วย 2 เกาะ คือเกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ อยู่กลาง ๆ ระหว่างจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เกาะที่แอดปักหมุดไว้จะชวนเพื่อน ๆ ไปเป็นชาวเกาะก็คือ เกาะยาวน้อย ซึ่งเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสมบูรณ์และสวยงามมาก นอกจากเราจะได้พักผ่อนแล้ว เรายังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม และการอนุรักษ์ธรรมชาติบนเกาะอีกด้วย แม้ช่วงนี้เราจะต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ก็ยังไม่เปิดให้บริการ แต่เพื่อน ๆ เก็บข้อมูลเส้นทางเหล่านี้ไว้ได้นะคะ รอให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กลับมาเปิดต้อนรับเราอีกครั้ง วันที่ 11.ชุมชนท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย2.หนำ นาทอน3.ลานริมเล เกาะยาวน้อย4.ร้านท่าต้นโดซีฟู้ด5.ชมหาดป่าทราย วันที่ 26.กระชังปลา กุ้งมังกร7.เที่ยวชมเกาะลาดิง เกาะผักเบี้ย แหลมหาด8.สันหลังมังกร9.Café Kantary วันที่ 1ชุมชนท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะยาวน้อย ถ้าไม่เช่ารถจักรยานยนต์ เราก็สามารถใช้รถสองแถวได้ค่ะ จุดแรกของเราคือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย หากมาเที่ยวเกาะยาวน้อยแต่ยังไม่มีแพลนที่ชัดเจน ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะที่นี่เป็นวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้บริการทัวร์บนเกาะ รวมทั้งที่พักโฮมสเตย์ ชุมชนท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เคยได้รับรางวัลรางวัลการท่องเที่ยวชุมชนที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและวัฒนธรรมจากหลายหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งรางวัล Tourism Awards จาก ททท ด้วย ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย : ) เพื่อน ๆ สามารถมาเที่ยวเกาะยาวน้อยได้ทั้งแบบ one day trip และแบบค้างคืน ซึ่งทางชมรมก็มีแพคเกจ 2 วัน 1 คืน คนละ 3,500 บาทไว้ให้บริการ แพคเกจนี้จะมีกิจกรรมนั่งรถชมวิถีชีวิตชุมชน ทำผ้าบาติก ชมฟาร์มเลี้ยงกุ้งมังกร นั่งเรือชมเกาะ เล่นน้ำดูปะการัง พักโฮมสเตย์ และอาหารครบทุกมื้อ ชาวบ้านบนเกาะยาวน้อยส่วนใหญ่ นับถือศาสนาอิสลาม ถ้ามาเที่ยวเกาะยาวน้อยช่วงเดือนรอมฎอน เราจะได้กินขนม และอาหารพื้นเมืองต่างๆ ซึ่งปกติไม่มีจำหน่ายด้วยค่ะ โฮมสเตย์ หลังละ 700 บาท พักได้ 2 คน บนเกาะจะมีกิจกรรมทำผ้าบาติก นักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับการวาดและระบายสีด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่อยากลงมือทำ ก็สามารถช้อปปิ้งกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ ผ้าบาติกฝีมือกลุ่มแม่บ้านมีลวดลายสวยงาม บ่งบอกความเป็นเกาะยาวน้อย เช่น ลายนกเงือก ลายวิวท้องทะเล ฯลฯ. ชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนเกาะยาวน้อย ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา โทร. 0 7659 7244, 08 1968 0877 (บังหมี ประธานชมรม) https://goo.gl/maps/bdkmY9KE19NNNkS36 ความพิเศษอีกอย่างของที่นี่ก็คือ เราจะสามารถพบเห็นนกเงือกได้อย่างง่ายดาย เหมือนเป็นสมาชิกในชุมชน ทั้งนี้เป็นเพราะที่เกาะยาวน้อยยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก มีอาหารเพียงพอสำหรับนกเงือก แต่ที่ขาดไปก็คือขาดโพรงรังสำหรับแพร่พันธุ์ ตามธรรมชาติแล้ว นกเงือกเจาะโพรงรังเองไม่เป็น แต่จะอาศัยโพรงต้นไม้ที่มีอยู่ในธรรมชาติวางไข่และเลี้ยงลูก ซึ่งโพรงขนาดใหญ่ที่เหมาะสมกับขนาดตัวของนกเงือกก็มีน้อยลง กลุ่มชุมชนคนรักนกเงือกเกาะยาวน้อย นักวิชาการ และชาวบ้านในพื้นที่จึงช่วยกันสร้างโพรงรังเทียมขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์นกเงือกในเกาะยาวน้อย โพรงรังเทียมที่ชาวเกาะยาวน้อยร่วมใจกันสร้างขึ้นให้เป็นบ้านที่อบอุ่นของนกเงือก ถัดมาเรานั่งรถสองแถวไป หนำ นาทอน ระหว่างทางเราจะได้เห็นบรรยากาศทุ่งนากว้างใหญ่กว่า 1,000 ไร่ มีวัวควายถึง 400-500 ตัวเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าบนเกาะจะทำนาได้ด้วย โดยจะเป็นการทำนาปี ช่วงทำนาคือเดือนสิงหาคม และเก็บเกี่ยวช่วงปลายปี ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป หนำ นาทอน เป็นทั้งร้านกาแฟและที่พัก โดยเป็นที่พักที่ใช้พลังงานสะอาด (Solar Cells) เนื่องจากที่หนำ นาทอนล้อมรอบด้วยทุ่งนาและภูเขา ทางร้านจึงไม่อยากให้มีเสาไฟฟ้าพาดผ่านทุ่งนา เรียกได้ว่ารักษ์ธรมชาตินั่นเอง ดีต่อใจมากเลยค่ะ หนำ นาทอน ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา โทร. 08 9497 7730 https://goo.gl/maps/msWqrX3Duatx3HDR7 ลานริมเล ณ เกาะยาวน้อย ร้านอาหารติดทะเล วิวดีสุด ๆ บรรยากาศสบายเหมือนอยู่บ้าน นั่งกินข้าวกันบนเสื่อ มีหมอนอิงพิงหลัง นั่ง ๆ นอน ๆ กันตามอัธยาศรัย อาหารอร่อย มีทั้งเมนูง่าย ๆ บ้าน ๆ และเมนูแบบฝรั่ง แต่ที่เด็ดสุดไม่อยากให้พลาดคืออาหารทะเลที่ทั้งสดทั้งอร่อย นอกจากบรรยากาศความชิลล์แล้ว ที่นี่ยังมีไฮไลต์สนุก ๆ อีกกิจกรรมหนึ่งด้วยค่ะ นั่นก็คือ แคะขนมครกริมเล ถ้าหากมากับแก๊งค์เพื่อน ๆ ต้องลองกันนะ ที่นี่จะมีชุดทำขนมครกไว้ให้เราได้หยอดเอง แคะเอง และกินเอง สนุกเหมือนได้เข้าครัวจริง ๆ เลย ลานริมเล ณ เกาะยาวน้อย ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เปิดทุกวัน เวลา 10.30-19.00 น. (ปิดวันพุธ-พฤหัสบดี) โทร. 08 1370 0633 https://goo.gl/maps/L6vYXFYXQErJuQ7G7 ท่าต้นโดซีฟู้ด เกาะยาวน้อยมีร้านอาหารพื้นเมืองหลายร้าน หนึ่งในร้านยอดฮิตก็คือร้านท่าต้นโดซีฟู้ดนี่ล่ะค่ะ เรื่องของรสชาติไม่พูดถึงไม่ได้!! จัดจ้าน กลมกล่อม ต้องไปลองกันเลยนะ การันตีความอร่อยจากรูปภาพของเหล่าคนดังที่ได้มาเยือน เมนูแนะนำ : น้ำพริกมะม่วงกะปิ หมึกต้มน้ำดำ แกงส้มปลาทราย ปลากระบอกทอดน้ำปลา ปลาฉิ้งฉ้างทอดกรอบ. 46/16 หมู่ 7 ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 08 0536 4997

✨ ที่นี่…เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี จังหวัดภูเก็ต ✨

จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะมีทะเลและเกาะสวย ๆ แล้ว ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สวยงามและชาวภูเก็ตให้ความเคารพนับถือ นั้นคือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ตค่ะ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ ประดิษฐานอยู่ที่พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด เห็นโดดเด่นแต่ไกล โดยชื่อ “พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี” เป็นชื่อที่ได้รับการถวายพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พระใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวภายนอกประดับด้วยหินหยกขาว “สุริยกันต”(สุริยกันตะ) จากประเทศพม่า บริเวณรอบองค์พระมีพระประจำวันเกิดและองค์พระเกจิชื่อดังหลายองค์ เช่น หลวงปู่สรวง หลวงปู่มั่น ให้ได้สักการะด้วย นอกจากนี้ ด้านบนยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวเมืองภูเก็ต รวมถึงชายหาดต่าง ๆ ได้แบบ 360 องศา ใครที่อยากไปไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมวิวเมืองภูเก็ตสวย ๆ ต้องห้ามพลาดแลนมาร์กแห่งนี้ค่ะ 📍 ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต⏰ เปิดทุกวัน เวลา 6.00-19.00 น.🌐 https://g.page/BigBuddhaPhuket?share

✨ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี จังหวัดภูเก็ต ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ New Narathiwat…รู้จักนราธิวาสมุมมองใหม่ ✨

รู้จักนราธิวาสมุมมองใหม่ ผ่านลายแทงท่องเที่ยว อุดหนุนกิจการคนนราธิวาสรุ่นใหม่ จังหวัดเล็ก ๆ ที่มีสายน้ำบางนราไหลซอกซอนจากผืนป่า เลาะเลียบผ่านใจกลางเมือง เรียงรายด้วยอาคารรูปทรงโบราณแปลกตา ‘นราธิวาส’ กลายเป็นชุมชนมากเสน่ห์ชวนใจให้ใครหลายคนหลงใหลอยากมาเยือน TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud นำเสนอคอลัมน์ Take Me Out เที่ยวบ้านเพื่อน ชวนล่องใต้ปลายด้ามขวานไป ‘นราธิวาส’ ชมดินแดนอุดมเสน่ห์ของผู้คน ตึกโบราณ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม กับ 7 สถานที่น่าสนใจผสมผสานความเก๋ไก๋ของเด็กรุ่นใหม่ ตั้งแต่เดินชมอาร์ตเสปซ จิบแตออริมแม่น้ำบางนรา จนถึงแคมปิงกลางหุบเขา ลองไปแลต่ะ รับรองว่าหรอยแรง! 👉 ตรวจสอบมาตรการการเดินทางเข้าพื้นที่ได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส : https://www.facebook.com/NaraPublicHealth “นราธิวาส” บางคนอาจชมชื่นศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่โดดเด่น ทั้งการเชิดสิงโตงานศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ การเล่นดิเกร์ฮูลู รำรองเง็ง ในเทศกาลสำคัญของพี่น้องมุสลิม สารทเดือนสิบชาวไทยพุทธ หรืองานบูชาพระพิฆเนศของชาวฮินดู บางคนหลงใหลความหลากหลายของวิถีผู้คน อันเป็นพลังสำคัญร่วมขับเคลื่อนเมือง คนไทยเชื้อสายจีนเปิดร้านจำหน่ายสินค้านานาชนิด คนมุสลิมขายอาหารพื้นถิ่นหอมกลิ่นเครื่องเทศ หรือชาวฮินดูเปิดร้านขายผ้าลวดลายแปลกตา ใช่เพียงรอยจำจากอดีตที่เป็นเพียงชุมชนประมงมะนารอเล็ก ๆ ก่อนจะเป็นบางนราและนราธิวาสในที่สุด พร้อมภาพการเติบโตของเมืองที่เป็นไปอย่างเนิบช้า หากทว่ารากเหง้าหยั่งลึกดั้งเดิมกำลังแตกกิ่งก้านสาขารอบทิศ ปัจจุบันนราธิวาสมีทิศทางเคลื่อนตัวน่าสนใจในมือคนรุ่นใหม่ หลังเดินทางไกลไปเสาะแสวงหาประสบการณ์ต่างถิ่น หรือรับไม้สืบต่อกิจการจากครอบครัว ถึงเวลาได้สานต่อสร้างธุรกิจในกระแส ผสมผสานความชอบส่วนตัวกับสไตล์นิยมร่วมสมัย เน้นรูปแบบชมงานศิลปะและกินดื่มท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ที่ฟื้นชีวิตชีวาให้ถิ่นเกิด ใครว่านราธิวาสไม่มีที่เที่ยวเด็ด ๆ เราขออาสาเป็นไกด์ ชวนคุณไปเที่ยวนราธิวาสแบบชิลล์ ๆ ตั้งแต่หอศิลป์และร้านกาแฟในเมือง ที่พักชายทะเล ไปจนถึงการตั้งแคมป์กลางหุบเขา หรือสัมผัสบรรยากาศเหนือทิวเขาที่โอบล้อมด้วยสายหมอก ตามมาแลต่ะ! 1 De’ Lapae Art Space Narathiwat หอศิลป์ท้องถิ่นกึ่งคาเฟ่ สถานีสื่อศิลปะชายแดนใต้ สถานที่แห่งนี้นับเป็นหอศิลป์แห่งแรกในจังหวัดนราธิวาส ดำเนินงานโดย ปรัชญ์ พิมานแมน ศิลปินหนุ่มซึ่งกำลังทำปริญญาเอกด้านศิลปะอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ควบคู่ไปกับการเป็นอาจารย์สอนศิลปะ ม.อ.ปัตตานี เริ่มรีโนเวตอาคารเก่า ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว ให้กลายเป็นหอศิลป์เต็มไปด้วยสุนทรียะและอาร์ตสเปซ ตั้งแต่ตนเองศึกษาเล่าเรียนอยู่ปี 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) เพื่อสานฝันของคุณพ่อที่อยากให้มีหอศิลป์ดี ๆ เกิดขึ้นในบ้านเกิด “ผมเชื่อว่าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีดีมากมาย ทั้งทรัพยากร ประเพณีต่าง ๆ แต่ขาดพื้นที่การนำเสนอเพื่อจัดแสดงผลงาน รวมถึงพื้นที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ทางสังคม” อ.ปรัชญ์ บอกเล่าถึงแนวคิดของอาร์ตสเปซแห่งนี้ ช่วงที่ผ่านมา เดอลาแป อาร์ต สเปซ ทำหน้าที่ฟื้นคืนสีสันด้านศิลปะให้เมืองนราธิวาสอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิดผู้ก่อตั้งที่ต้องการให้มีการแสดงผลงานศิลปะทุก ๆ 3 เดือน มีนักวิชาการหรือภัณฑารักษ์ รวมถึงศิลปินทั้งในและนอกประเทศ มาแลกเปลี่ยนถ่ายทอดความรู้มุมมองใหม่ ๆ ให้เยาวชน มีกิจกรรมมอบความรู้ให้เด็กนักเรียนและนักศึกษา จากวิทยากรผู้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ศิลปะ นอกจากนี้ ภายหอศิลป์ยังมีคาเฟ่ชื่อ De’ Art Cafe & Coffee Lab เสิร์ฟกาแฟรสชาติหอมกรุ่นเย้ายวนชวนลิ้มรส ในบรรยากาศงานศิลป์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก และ ART LIBRARY ห้องสมุดศิลปะที่มีหนังสือศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก “จุดเด่นของเราคือ ผลงานที่จัดมาแสดงล้วนเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจ ต้องการเผยแพร่ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สัมผัสความงามในพื้นที่ ภายในหอศิลป์มีเรื่องราวและเรื่องเล่าแสดงผ่านศิลปกรรมทุกรูปแบบ และยังมีคาเฟ่ที่เป็นเอกลักษณ์เคียงคู่กัน” คำของ อ.ปรัชญ์ ดั่งเชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้เข้าถึงความหมายของงานศิลปะและสุนทรียรสในชีวิตอย่างแท้จริง  78 ถนนสมัยอาณาจักร อำเภอเมือง ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส https://goo.gl/maps/UV45gocWDiRqapHw5  เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย  08 4193 3651  Facebook : https://www.facebook.com/Delapaeartspace 2 Middle Man Coffee ร้านกาแฟคนเล่นกล้อง ของทายาทธุรกิจร้านถ่ายรูป จากที่เคยทำงานอยู่ในเมืองกรุงต่อเนื่องมาหลายปี วันหนึ่ง ซูม-วัฒกร เสาร์ศรีอ่อน คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอีกครั้ง จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว  ด้วยนิยมชมชอบรสชาติกับบรรยากาศการดื่มกาแฟ และอยากให้คนในจังหวัดนราธิวาสมีโอกาสลิ้มรสชาติกาแฟดี ๆ ในราคาไม่สูงเกินไป ทุกคนจับต้องได้ รวมถึงสร้างแหล่งถ่ายรูปสวย ๆ รองรับความนิยมของคนรุ่นใหม่ทั้งในและนอกพื้นที่ ซูมจึงเปิดร้านกาแฟด้วยเสน่ห์แปลกใหม่ บรรยากาศเหมาะกับการนั่งพบปะพูดคุย ทำงาน หรือพักผ่อนหย่อนใจแบบสบาย ๆ กับคอนเซ็ปต์ ‘เราอยากให้คุณรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่มาหาเรา’  ความเป็นมาของชื่อร้าน Middle Man Coffee หัวใจสำคัญคือคำว่า Middle หรือตรงกลาง นั่นเพราะเจ้าของร้านเป็นลูกคนกลาง พ่อแม่มีธุรกิจร้านถ่ายรูป จึงตั้งชื่อลูกแต่ละคนให้เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพของครอบครัว นั่นคือ พี่ชายเจ้าของร้านชื่อ ฟิล์ม เจ้าของร้านชื่อ ซูม และน้องชายชื่อ ชัตเตอร์ ชื่อร้านและไลฟ์สไตล์จึงหลอมรวมกันลงตัว เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นช่างภาพอยู่แล้ว ย่อมเข้าใจคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับการถ่ายภาพเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเลือกสถานะเป็นคนถ่ายภาพ หรือชมชอบการเป็นแบบให้ถ่าย บรรยากาศภายในร้านมีให้เลือกหลายมุม ไม่ว่ามุมใต้แสงไฟชั้น 2 มุมดาดฟ้า มุมใต้ต้นไม้ ไม่ว่ามุมไหนก็ถ่ายรูปขึ้นไปหมด  เมนูเครื่องดื่มแนะนำ ได้แก่ Dirty Brick Light และ Middle Man เมนูเครื่องดื่มขายดีที่สุดของร้าน พิเศษมากกว่านั้นคือรสชาติกาแฟ โดยเฉพาะ ซันเซ็ต ยูสุ ซันไรส์ สตรอว์เบอรี ซึ่งฟังชื่อแล้วเหมือนมีประกายแสงประดับภาพถ่ายในจินตนาการ ล่องลอยมาพร้อมกลิ่นหอมสุดรัญจวน  143/26 ตำบลบางนาค ถนนสุริยะประดิษฐ์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส https://goo.gl/maps/vCY3SYJ6HGHYy9qU9  เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)  06 1947 8163  Facebook

✨ New Narathiwat…รู้จักนราธิวาสมุมมองใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ บ้านสามช่องเหนือ…สัมผัสวิถีชุมชนริมอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ✨

ถ้าสถานการณ์โควิด 19 ดีขึ้น เพื่อน ๆ จะไปเที่ยวที่ไหนกัน สำหรับแอด จังหวัดพังงาเป็นอีกจังหวัดที่อยู่ในลิสต์ เพราะเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าทะเล ภูเขา เมืองเก่า ร้านอร่อย หรือคาเฟ่สุดเก๋ รวมไปถึงชุมชนท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม วันนี้แอดจะพาไปชมแหล่งท่องเที่ยวให้หายคิดถึง กับชุมชนบ้านสามช่องเหนือ เป็นชุมชนมุสลิม อยู่ติดทะเล สวยงามและเงียบสงบ เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวเลที่เรียบง่าย และเต็มไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ที่นี่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สนุกสนานและน่าสนใจให้เที่ยวให้ทำเยอะเลย ตามมาดูกันค่ะ ช่วงนี้ ใครยังไม่สะดวกเดินทางสามารถเก็บแหล่งท่องเที่ยวนี้ไว้ในลิสต์ก่อนได้ แต่ถ้าใครต้องการเดินทาง ตรวจสอบมาตรการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดพังงาได้ที่ 👉 https://www.facebook.com/pngo.moph หรืออ่าน E-Book จังหวัดพังงาเพื่อเก็บข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่ https://www.amazingthailandebook.com/issue/195 นอกจากนี้ สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ที่ https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect ล่องเรือชมถ้ำเพชรปะการัง ถ้ำนี้อยู่บนเกาะทะลุใน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ บางจุดมีประกายระยิบระยับเหมือนเพชร จนเป็นที่มาของชื่อถ้ำเพชรปะการัง นอกจากนี้ บนผนังถ้ำยังพบภาพเขียนสีโบราณอายุกว่า 3,000 ปี ข้อควรระวัง : การเดินชมภายในถ้ำ มีบางจุดที่ต้องปีนป่าย และบางจุดเป็นทางลาดที่ลื่น เวลาเดินต้องเกาะเชือกไว้ แนะนำให้ใส่รองเท้าที่เหมาะกับการปีนป่ายมานะคะ ที่นี่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลและเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ นอกจากนี้บางจุดของถ้ำยังมีอากาศเย็นเหมือนติดแอร์อีกด้วย  ขอบคุณรูปภาพจาก วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านสามช่องเหนือ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบล่องเรือชมวิว นอกจากถ้ำเพชรปะการังแล้ว ยังสามารถล่องเรือไปชมอ่าวพังงา เขาพิงกัน และเขาตะปูได้อีกด้วย แต่ถ้าอยากสนุกกับกิจกรรมที่ได้ออกแรงมากกว่านี้ แอดแนะนำให้ลองมาพายเรือแคนูชมวิวป่าโกงกางดูค่ะ เส้นทางการพายจะอยู่บริเวณป่าโกงกางของบ้านสามช่องเหนือ  ขอบคุณรูปภาพจาก วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านสามช่องเหนือ กะปิเคย สามช่องเหนือ กะปิของบ้านสามช่องเหนือทำจากกุ้งเคยสด ๆ จากอ่าวพังงา เป็นกะปิตำมือรสชาติเข้มข้น ปลอดสารเคมี นำไปทำอาหารหรือจิ้มกับมะม่วงเปรี้ยวก็อร่อยจังฮู้ ใครอยากมาช่วยจ๊ะ (พี่สาวในภาษาใต้) ตำกะปิก็มาช่วยตำได้นะ ถือเป็นการออกกำลังต้นแขนไปในตัว  ทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากป่าชายเลน ผ้ามัดย้อมที่นี่ไม่ได้ใช้สีเคมีนะคะ แต่ใช้สีย้อมจากต้นตะบูนและต้นโปรงแดง ที่ขึ้นอยู่ในป่าชายเลนของหมู่บ้านนี่เอง วิธีการทำผ้ามัดย้อมคือ นำเปลือกไม้มาต้ม จากนั้นนำผ้าที่มัดเป็นลวดลายแล้วลงไปต้มประมาณ 20 นาที สีที่ได้ออกมาจะเป็นสีน้ำตาลแดง ถ้าอยากได้สีเข้ม ให้นำไปล้างในน้ำปูนขาว ถ้าอยากได้สีอ่อนให้นำไปล้างสารส้ม นอกจากกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมแล้ว ทางกลุ่มผ้ามัดย้อมยังมีสินค้าผ้ามัดย้อมอื่น ๆ จำหน่ายอีกด้วย ลายสวยทุกผืนไม่มีซ้ำ มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ และผ้าพันคอ  ใครสนใจสินค้าจากผ้ามัดย้อม ติดต่อได้ที่ กลุ่มทำผ้ามัดย้อม โทร. 08 6741 7949  ขอบคุณรูปภาพจาก วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านสามช่องเหนือ  นอกจากผ้ามัดย้อมและกะปิเคยแล้ว ชุมชนบ้านสามช่องเหนือยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ สมุนไพรเหงือกปลาหมอ เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย เช่น ช่วยบำรุงผิวพรรณ รักษาโรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ทางชุมชนได้นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ แชมพู และชา ใครได้ไปเที่ยวก็อย่าลืมซื้อมาลองใช้กันนะคะ สนใจอยากซื้อเพิ่มเติม ทางกลุ่มก็มีบริการจัดส่งให้ด้วย ติดต่อได้ที่ กลุ่มทำสมุนไพรเหงือกปลาหมอ 09 3581 2129 Facebook: https://www.facebook.com/สมุนไพรเหงือกปลาหมอบ้านสามช่องเหนือ-2360930340661250/  ขอบคุณรูปภาพจาก วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านสามช่องเหนือ  สนุกกับกิจกรรมกันไปแล้วก็ถึงเวลาของความอร่อยกันบ้าง แนะนำว่าอย่าพลาดชิมอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นกันนะคะ ตัวอย่างเช่น แกงกะทิหอยกันยอดเป้ง ปูผัดพริกไทยดำ หอยนางรมสด หอยหลักควายลวกจิ้ม ปลาทอดทรงเครื่อง ฯลฯ น่ากินทุกเมนู ซึ่งอาหารทะเลเหล่านี้ ชาวบ้านในชุมชนเพาะเลี้ยงเองทั้งนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมชุมชนบ้านสามช่องเหนือได้ทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ และแบบค้างคืน เพราะบนเกาะมีโฮมสเตย์บรรยากาศเป็นกันเองให้บริการค่ะ วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านสามช่องเหนือ หมู่ที่ 9 ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 086 741 7949 Facebook: https://www.facebook.com/วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน-บ้านสามช่องเหนือ-1945305685727206

✨ บ้านสามช่องเหนือ…สัมผัสวิถีชุมชนริมอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ดูดาวเต็มฟ้า ดอกไม้ป่าเต็มทุ่ง @ ภูสอยดาว ✨

ถ้าช่วงนี้ เพื่อน ๆ เป็นเหมือนแอด ร่างกายรู้สึกโหยหาธรรมชาติสุด ๆ นึกถึงแต่ภาพเดินป่า ดูหมอก ส่องดาวแล้วละก็ เราอยู่สายเดียวกัน วันนี้แอดมีจุดหมายที่น่าจะถูกใจทุกคนมานำเสนอ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ เก็บกระเป๋าออกเดินทางกัน ทริปนี้ แอดจะพาไปเที่ยว “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว”สถานที่ ๆ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์มากซึ่งสำนักงานของอุทยานฯ ตั้งอยู่ใน จ.อุตรดิตถ์ แต่มีพื้นที่ครอบคลุมจาก จ.อุตรดิตถ์ ไปถึง จ.พิษณุโลก โดยมีช่วงท่องเที่ยวที่แนะนำคือ ช่วงหน้าฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน เพื่อดูดอกหงอนนาคได้ โดยดอกหงอนนาคจะบานในช่วงหน้าฝนเท่านั้น และจะออกดอกเยอะที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ช่วงหน้าหนาว (พฤศจิกายน-มกราคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน เพื่อดูดาว ดูดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และใบเมเปิลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเดินขึ้นยอดสูงสุดของภูสอยดาวซึ่งติดกับชายแดนลาวได้ การเดินทางนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถไปตามโลเคชั่นนี้ได้เลย : https://goo.gl/maps/9a8g1kgVDbdCvySq7 หากเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะอื่น ๆ สามารถมาลงได้ที่1. ขนส่งน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)2. ขนส่ง จ.พิษณุโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)3. สถานีรถไฟ จ. พิษณุโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) แล้วหารถเหมาไปอุทยานฯ โดยตรง ราคาเหมาคันละประมาณ 800-1000 บาท (ปัจจุบันไม่มีรถประจำทางไปที่อุทยาน) อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดให้เข้ามาท่องเที่ยว 2 วิธี วิธีที่ 1 จองล่วงหน้าผ่านแอป QueQ โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ถึง 15 วัน เมื่อมาถึงที่ภูสอยดาว ให้ลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น. เพื่อยืนยันตัวตนได้เลย วิธีที่ 2 สามารถ Walk in เข้าไปได้ตามปกติ แต่แอดขอแจ้งไว้ก่อนว่า ทางภูสอยดาวจะรับนักท่องเที่ยวที่จองผ่านแอปพลิเคชัน 70% นักท่องเที่ยววอล์คอิน 30% โดยแบ่งเป็นจุดที่ 1 ที่ทำการอุทยานฯ และน้ำตกภูสอยดาว ไม่เกิน 150 คน/วัน (QueQ 105 คน/ Walk in 45 คน)จุดที่ 2 ลานสนภูสอยดาว ไม่เกิน 350 คน/วัน (QueQ 245 คน/ Walk in 105 คน) หลังจากลงทะเบียนแล้ว เพื่อน ๆ สามารถสอบถามเรื่องการเช่าเต็นท์ เครื่องนอน และอุปกรณ์ทำอาหาร หรือจ้างลูกหาบ แล้วไปรับของบนลานสนได้เลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปขึ้นรถอีแต๋นเพื่อไปจุดเริ่มต้นเดินป่า ซึ่งแอดแนะนำให้กินอาหารและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะระหว่างทางไม่มีร้านอาหาร ไม่มีห้องน้ำ และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ควรพกขนมและน้ำไปกินระหว่างทางด้วย (ที่สำคัญอย่าลืมเก็บขยะกลับมาด้วยห้ามทิ้งไว้ระหว่างทางนะ!) ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นลานสนภูสอยดาวได้ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. เท่านั้น โดยหลัง 16.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปยังจุดกางเต็นท์ เพื่อเช็คจำนวนนักท่องเที่ยว ว่ามีใครตกหล่นอยู่ระหว่างทางไหม และมีจำนวนคนตรงกับที่ลงทะเบียนไหม เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะปิดรับนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 15 มกราคม-31 มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู เอาล่ะ เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว ก็เริ่มเดินทางกันเลย!!!! ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว หลังจากนั่งรถของเจ้าหน้าที่มาตรงจุดเริ่มต้น เพื่อน ๆ จะพบกับ “น้ำตกภูสอยดาว” เป็นเหมือนสถานที่ต้อนรับในตอนแรก โดยน้ำตก่จะมีทั้งหมด 5 ชั้น ชื่อไพเราะคล้องจองกันว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สภาพป่าโดยรอบน้ำตกจึงมีความชุ่มชื้นมาก มีมอสส์ขึ้นปกคลุมตามก้อนหินริมน้ำสวยงาม น้ำตกภูสอยดาว จากนี้ต้องตั้งใจเดินแล้วละนะ จุดหมายของแอดคือ “ลานสนสามใบภูสอยดาว” ซึ่งแอดขอแนะนำ ว่าควรออมแรงกันไว้หน่อยนะ เพราะกว่าจะถึงจุดหมาย ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ผ่านเนินต่าง ๆ ถึง 5 เนิน ที่มีชื่อแสนจะไม่ต้อนรับ คือ เนินส่งญาติ, เนินปราบเซียน, เนินป่าก่อ, เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ลักษณะทางเดินจะมีความชันขึ้นไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีดอกไม้ป่าที่สวยงามเป็นระยะ จากเนินแรก (เนินส่งญาติ) ไปลานสน จะใช้เวลาจะประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง แล้วแต่กำลังของแต่ละคน อ้อ…อย่าไปยึดติดกับคำว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ในตอนเราเหนื่อยล่ะ ถ้าบ่าวบอกเหนื่อยก็พักก่อนได้ อาจจะนั่งเล่น จิบน้ำชมวิวเพื่อซึมซับความรู้สึกในป่าระหว่างรอกำลังกายกลับมา ก็เป็นความคิดที่ดีมากเลยนะ ระหว่างแต่ละเนินทางจะชันขึ้นเรื่อย ๆ ความยากแตกต่างกันไป ตามลักษณะภูมิประเทศ ระหว่างเดินแอดแทบไม่ได้พูดเลย ตั้งใจเดินเป็นหลัก (จริง ๆ กลัวเหนื่อยกว่าเดิมนั่นแหละ) แต่พอมองวิวข้างทางที่สวยแล้ว ก็หายเหนื่อยไปได้เยอะเลย ในที่สุดก็มาถึง “เนินมรณะ” เนินสุดท้ายก่อนถึงจุดหมาย ทางเดินค่อนข้างแคบและชัน ต้องใช้สมาธิในการเดินมาก ๆ ขณะเดิน มีลูกหาบที่เดินสวนลงมาคอยให้กำลังใจเป็นระยะ ๆ ด้วยนะ ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นสุด ๆ

✨ ดูดาวเต็มฟ้า ดอกไม้ป่าเต็มทุ่ง @ ภูสอยดาว ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย มาฝาก ประเพณีโล้ชิงช้า เป็นงานเทศกาลปีใหม่ของชาวอาข่า จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร ให้มีความเจริญงอกงาม และถือเป็นการให้เกียรติสตรี ซึ่งหญิงสาวชาวอาข่าจะใช้เวลาทั้งปีตระเตรียมชุดเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ในงานประเพณีโล้ชิงช้า (แย้ขู่อ่าเผ่ว) จะประกอบด้วยการโล้ชิงช้าอันเป็นจุดเด่นในเทศกาล พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ การเลี้ยงฉลองและการเต้นรำ ซึ่งแต่ละชุมชนจะจัดไม่ตรงกัน ผู้นำชุมชนแต่ละชุมชนจะกำหนดวันจากความเหมาะสมของชุมชน โดยจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน งานจะมีทั้งหมด 4 วัน ดังนี้ วันที่ 1 ″จ่าแบ”ครอบครัวจะส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้หญิง แต่งกายสวยงามด้วยชุดประจำเผ่า ออกไปตักน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ นอกจากนี้ แต่ละครอบครัวจะตำข้าวปุ๊ก (ห่อถ่อง) เพื่อใช้ในพิธีไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งข้าวปุ๊กนี้จะเป็นการนำข้าวเหนียวไปนึ่ง แล้วนำมาตำกับงาดำและเกลือ วันที่ 2 วันสร้างชิงช้าคนในชุมชนจะมารวมตัวกันที่บ้านของ “โจ่วมา” ผู้นำศาสนาของชุมชน โจ่วมาจะแบ่งงานให้ทุกคนช่วยกันสร้างชิงช้าใหญ่ของชุมชน วันนี้จะไม่มีการฆ่าสัตว์หรือทำพิธีใด ๆ หลังจากสร้างชิงช้าใหญ่เสร็จแล้ว จะมีการโล้ชิงช้าเปิดพิธีโดยโจ่วมา จากนั้นทุกคนก็สามารถโล้ชิงช้าได้ หลังจากนั้นทุกคนก็จะไปสร้างชิงช้าเล็กไว้หน้าบ้านเพื่อให้ลูกหลานของตนได้เล่น วันที่ 3 “ล้อดา อ่าเผ่ว”เป็นวันพิธีใหญ่ มีการเลี้ยงฉลองกันทุกครัวเรือน มีการเชิญผู้อาวุโสหรือแขกต่างหมู่บ้านมาร่วมรับประทานอาหารในบ้านของตน มีการอวยพรให้กับเจ้าบ้านจากผู้อาวุโส วันที่ 4 “จ่าส่า”จะมีการโล้ชิงช้าจนตะวันตกดิน (ประมาณ 18.00 น.) โจ่วมา จะทำการเก็บเชือกของชิงช้า โดยการมัดเชือกสำหรับโล้ชิงช้าติดกับเสา หลังอาหารค่ำจะมีการเก็บเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ถือเป็นการเสร็จสิ้นประเพณีโล้ชิงช้า 👉 รายชื่อหมู่บ้านอาข่า บ้านศรีวิเชียร จ.เชียงราย บ้านแม่จันใต้ อ.แม่สรวย บ้านแสนใจพัฒนา อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านอาข่าป่ากล้วย ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านผาหมี-บ้านผาฮี้ อ.แม่สาย บ้านสามแยก อ.แม่ฟ้าหลวง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม📞: 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 (ททท.สำนักงานเชียงราย)📞: 0 5391 8415 (ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 12 จ. เชียงราย)📞: 0 5371 4250, 08 1952 2179 (สมาคมอาข่า)

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ รวมหาดสวยบนเกาะสมุย ✨

เกาะสมุย นับเป็นหนึ่งใน dream destination ของคนรักทะเล เป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเดินทางมาเที่ยว สมุยเป็นเกาะใหญ่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง มีชายหาดที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย แอดบอกได้เลยว่าสมุยสวยทุกมุม ถ้าเพื่อน ๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองเลือกดูจากหาดต่าง ๆ ที่แอดรวบรวมมาดูได้ หาดละไม  ชายหาดสีขาวรูปพระจันทร์เสี้ยวนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ ทะเลใส หาดสวย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปลายหาดเป็นที่ตั้งของหินตาหินยาย แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะสมุย หินตาหินยายเป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนทำให้เกิดเป็นรูปร่างแปลกตา เพื่อน ๆ สามารถขึ้นไปชมวิวหาดละไมในมุมสูงได้ มีค่าเข้าชม 10 บาท ไม่อนุญาตให้ปีนขึ้นไปบนหินตาเด็ดขาด อาจทำให้หินถล่มและเกิดอันตรายได้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งชุมชนเล็ก ๆ ของชาวบ้านละไมอีกด้วย บรรยากาศของหาดนี้ค่อนข้างคึกคัก เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันที่นี่นั่นเอง และในวันอาทิตย์ หาดละไมก็ยังมีถนนคนเดินด้วยนะ เวลา 17.30-21.00 น. ในช่วงสถานการณ์โควิด ถนนคนเดินอาจปิดชั่วคราว https://goo.gl/maps/ZD8KuzPJyWg26F6j7 หาดแม่น้ำ  ชายหาดอันเงียบสงบแห่งนี้อยู่บริเวณตอนเหนือของเกาะ เป็นที่ตั้งของชุมชนแม่น้ำ และท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะพะงัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบและความเป็นส่วนตัว ช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี จะมีถนนคนเดินเลียบชายหาด มีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทาน 17.00- 22.00 น. ในช่วงสถานการณ์โควิด ถนนคนเดินอาจปิดชั่วคราว https://goo.gl/maps/H3KJSD4JENAAALPQA หาดบ่อผุด  ชายหาดเงียบสงบอีกจุดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ และยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะสมุย ให้กลิ่นอายความเป็นเมืองเก่าริมทะเล คนไม่พลุกพล่าน สามารถมองเห็นเกาะพะงันได้จากหาดนี้ และยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากหาดหนึ่ง มีร้านอาหารบรรยากาศริมทะเลหลายร้าน นอกจากนี้ยังมีถนนคนเดินตลาดเก่าเลียบชายหาด ทุกวันศุกร์ เวลา 17.00-23.00 น. ในช่วงสถานการณ์โควิด ถนนคนเดินอาจปิดชั่วคราว https://goo.gl/maps/JgQQfnBwfDp9tEQz8 หาดบางรัก  หาดบางรัก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “หาดพระใหญ่” อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ถัดจากหาดบ่อผุด เป็นหาดที่มีบรรยากาศคึกคักสำหรับสายกินเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นตลาดจำหน่ายอาหารทะเลสด ๆ ราคาหลักร้อย แต่ได้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมเลยล่ะ เดินไปทางเกือบสุดหาด ทางขวามือจะมีเกาะเล็ก ๆ คือ “เกาะฟาน” มีถนนเชื่อมที่สามารถเดินถึงกันได้ เป็นที่ตั้งชุมชนเล็ก ๆ และเป็นที่ตั้งของ “วัดพระใหญ่” อีกด้วย https://goo.gl/maps/BP3T7b762bEDNeLt7  หาดเฉวง  หาดดังเกาะสมุย เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะสมุย ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก เดินทางง่าย ใกล้สนามบิน แถมยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากหาดนี้ได้อย่างชัดเจน บรรยากาศที่หาดนี้คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ใครที่ชอบการสังสรรค์ และความสนุกสนาน ต้องไม่พลาดหาดนี้ ตามแนวโขดหินมีจุดดำน้ำหลายจุด ชมได้ทั้งปะการัง และฝูงปลา แถมยังมีจุดดำน้ำลึกให้เพื่อน ๆ ดำน้ำแบบจุใจ นอกจากนี้หาดเฉวงยังมีถนนคนเดิน ซึ่งมีสินค้าหลายประเภท ทั้งเสื้อผ้า สินค้าพื้นเมือง และอาหารหลากหลาย ถนนคนเดินเปิดทุกวัน (ยกเว้นวันศุกร์) เวลา 18.00-23.00 น. ในช่วงสถานการณ์โควิด ถนนคนเดินอาจปิดชั่วคราว https://goo.gl/maps/qEdfAcRygfMYqhkw5 หาดท้องตะเคียน  หาดเล็กแต่ไม่ลับ อยู่ใกล้กับจุดชมวิวลาดเกาะ เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่อยากได้บรรยากาศแบบหาดเฉวงแต่คนไม่เยอะ หาดนี้น้ำใสมาก สามารถชมปะการังแบบดำน้ำตื้นได้ หรือใครอยากนอนเล่นริมทะเลก็มีร่มไม้ตลอดแนวหาดให้พักพิงด้วย https://goo.gl/maps/Dks7SDShBt1qgyep6  จุดชมวิวลาดเกาะ สุดท้ายนี้ที่แอดจะพาไปชม ไม่ใช่หาดทราย แต่เป็นจุดชมวิวที่ไม่อาจละสายตาไปได้ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ระหว่างหาดละไมและหาดเฉวง ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวสวยที่สุดบนเกาะ ด้านล่างจุดชมวิวมีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ติดริมทะเล มีทางเดินไปตามหน้าผาหินลงทะเล ให้เพื่อน ๆ ได้ลงไปเดินเล่น ถ่ายรูปกับทะเลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีศาลาทรงปั้นหยาริมทะเลให้นั่งพักผ่อน ชมวิวไปเรื่อย ๆ https://goo.gl/maps/tGGqg62vk3rnq8hU8 

✨ รวมหาดสวยบนเกาะสมุย ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top