สถานที่ท่องเที่ยว

📲 คำแนะนำขั้นตอนการใช้งาน QueQ จองคิวก่อนไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

หลังจากที่มีมาตรการผ่อนปรน เปิดการท่องเที่ยวหลายแห่ง อุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ก็เริ่มกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยวแล้วเช่นกัน วันนี้ แอดมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทะเบียนจองคิวเพื่อเข้าไปเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติมาฝาก โดยทางอุทยานฯ กำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ ล่วงหน้า เพื่อลดความแออัดในสถานที่ท่องเที่ยว 1. ติดตั้งแอป QueQ โดยการดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ทั้งในระบบ iOS และ Android iOS https://apps.apple.com/…/queq-no-more…/id876343584… Android https://play.google.com/store/apps/details… 2. หลังติดตั้งแอปพลิเคชั่นและรับทราบเงื่อนไขการใช้งานแอปฯ แล้ว เปิดแอปฯ QueQ กดเลือกหมวด “อุทยานแห่งชาติ” 3. ค้นหารายชื่ออุทยานแห่งชาติที่ต้องการ 4. กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มบนหน้าแอปพลิเคชั่น ได้แก่ เลือกวันที่เข้าพื้นที่ / เบอร์โทรศัพท์ / ประเภทรถโดยสารที่เข้าพื้นที่ / จำนวนผู้เดินทาง / ประเภทและชื่อผู้เดินทางแต่ละคน 5. เลือกช่วงเวลาที่จะไป จากนั้นกดจอง (หากกดจองไม่ได้ หมายถึงในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้จองเต็มจำนวนแล้ว และหากจองแล้ว แต่ไม่สะดวกเดินทางในวันที่จอง สามารถกดยกเลิกภายหลังได้) 6. ในวันเดินทาง ควรไปถึงอุทยาน ฯ ก่อนเวลาอย่างน้อย 10 นาที หากไม่แสดงข้อมูลการจองในเวลาที่กำหนด ทางอุทยานฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเข้าชมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7. เมื่อไปถึงอุทยาน ฯ นำข้อมูลการจองแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเช็ครายละเอียด 8. ในการผ่านด่านจัดเก็บค่าบริการ จะมีเจ้าหน้าที่ทำการตรวจรหัสการจอง 9. ก่อนเข้าพื้นที่ เช็คอินผ่านระบบ “ไทยชนะ” 10. เข้าตรวจวัดอุณหูมิ และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ที่จุดคัดกรอง การเข้าชมภายในอุทยานแห่งชาติแต่ละจุดจะมีการจำกัดจำนวนตามที่อุทยานฯ กำหนด ให้เพื่อน ๆ ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ท่องเที่ยวแบบรักษาระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และอย่าลืมเช็คเอาท์ผ่านระบบ “ไทยชนะ” ก่อนเดินทางกลับกันด้วยนะคะ  อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักอุทยานแห่งชาติ

📲 คำแนะนำขั้นตอนการใช้งาน QueQ จองคิวก่อนไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ อ่านเพิ่มเติม

หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชุมพร

เวลานึกถึงแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร เพื่อน ๆ น่าจะนึกถึงชายหาดสวย ๆ และกิจกรรมดำน้ำตามเกาะต่าง ๆ แต่นอกจากทะเลแล้ว ชุมพรก็ยังมีจุดชมวิวด้วยเช่นกัน อย่างดอยตาปังและเขาออง แต่วันนี้แอดจะพาไปชมความสวยงามของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นั่นคือ หุบเหววังบาดาล หรือ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนรักทะเลหมอกไม่ควรพลาด รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจากแคมเปญ 25 UNSEEN New Series อีกด้วย แม้ว่าตอนนี้ หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด ยังคงปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 และกำลังปรับปรุงเส้นทางชมวิว แต่ถ้าที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว แอดจะรีบมาอัพเดทข่าวให้เพื่อน ๆ ทราบอย่างแน่นอน หุบเหววังบาดาลตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ถ้ำธารน้ำลอด อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นหุบเขาสูง ด้านบนสามารถมองเห็นวิวของอำเภอสวี เห็นพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้ จนได้รับฉายาว่า “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ที่นี่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกได้ชัดเจน  ขอบคุณรูปภาพจาก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร #ตามสบายรีสอร์ท การขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นบันได ซึ่งเป็นบันไดที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจสร้างขึ้นมา ใช้เวลาในการสร้างหลายปี เพราะสร้างเฉพาะวันพระเท่านั้น บางจุดบันไดชันเกือบ 90 องศา ดังนั้นต้องเดินอย่างระมัดระวัง และเตรียมร่างกายมาให้พร้อม เพราะงานนี้มีหอบแน่นอน  ขอบคุณรูปภาพจาก ททท.สำนักงานชุมพร หลังจากขึ้นบันไดไปประมาณ 700 ขั้น จะพบกับลานองค์พระใหญ่ “พระพุทธมงคลคีรีศรีนาคราช” เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมากที่สุด สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี วิวทะเลหมอกบริเวณลานองค์พระใหญ่ ด้านบนอากาศเย็นสบาย เดินขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร จะพบหุบเขาที่มีช่องเขาเป็นรูลักษณะคล้ายประตู เป็นที่มาของชื่อ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ใครที่อยากชมความสวยงามของ “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” ควรมาตั้งแต่ 05.30-06.00 น. จะได้ไม่พลาดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย  ขอบคุณรูปภาพจาก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร #ตามสบายรีสอร์ท นอกจากจุดชมวิวบนเขาแล้ว ยังมีถ้ำธารน้ำลอด ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสำนักสงฆ์ ภายในเป็นโถงยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีหินงอกหินย้อย มีธารน้ำไหลผ่าน สถานที่แห่งนี้ชาวบ้านเคยใช้ในการสัญจรข้ามระหว่างเทือกเขา เพราะปากถ้ำด้านหนึ่งอยู่ฝั่งตำบลเขาทะลุ อีกด้านอยู่เขตตำบลนาสัก  สำนักสงฆ์ถ้ำธารน้ำลอด “ประตูสวรรค์แห่งชุมพร” อ.สวี จ.ชุมพร  เปิดทุกวัน เวลา 05.30 – 18.00 น. https://goo.gl/maps/2qp4yYuQbiEdcjSY7

หุบเหววังบาดาล ถ้ำธารน้ำลอด แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชุมพร อ่านเพิ่มเติม

🏝 เกาะช้าง : จุด Check in ที่คุณไม่ควรพลาด 🏝

เกาะช้าง…เกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้ ภูเขา น้ำตก และท้องทะเลที่สวยงาม มีกิจกรรมให้เลือกหลากหลายตามสไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวน้ำตก ดำน้ำ ล่องเรือมาด พายคายัก ฯลฯ เกาะช้างจึงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตที่ใครหลาย ๆ คน เลือกเดินทางมาเที่ยว TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง จะมาแนะนำจุด Check in เก๋ ๆ เป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจตามไปเที่ยวและถ่ายภาพเอามาอวดบน Social กัน!  จุดชมวิวหาดทรายขาว  จุดชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพของหาดทรายขาวในมุมสูงได้อย่างชัดเจน  บ้านสลักคอก  หมู่บ้านสลักคอก เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ซ่อนอยู่ในช่องแคบที่เป็นเวิ้งขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายคอกสัตว์ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน ล้อมรอบด้วยแนวป่าชายเลนซึ่งเป็นที่ทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน รวมถึงเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ มีกิจกรรมล่องเรือมาด หรือ กอนโดลา ชมความสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าชายเลน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของเกาะช้าง ค่าบริการล่องเรือมาด คนละ 200 บาท (นั่งได้ลำละ 4 คน) ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที สอบถามข้อมูลได้ที่ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก โทร. 08 7748 9497  จุดชมวิวแหลมไชยเชษฐ์  จุดชมวิวที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามอีกจุดของเกาะช้าง แต่ไม่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำเพราะส่วนใหญ่เป็นโขดหิน และมีคลื่นลมแรง  ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง  สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะช้างและชาวตราดให้ความเคารพนับถือ นักท่องเที่ยวสามารถแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล  หาดทรายขาว  อยู่ด้านตะวันตกของเกาะช้าง หาดทรายสีขาวละเอียด มีความยาวกว่า 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ถือเป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า และบริษัทนำเที่ยว  หาดคลองพร้าว  หาดสวยอีกแห่งหนึ่งทางด้านตะวันตกของเกาะช้าง ลักษณะของหาดที่โค้งเริ่มต้นจากแหลมไชยเชษฐ์ยาวไปจนถึงหาดไก่แบ้ สามารถลงเล่นน้ำได้  หาดท่าน้ำ เป็นอีกหนึ่งหาดที่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง มีลักษณะเป็นอ่าวขนาดใหญ่ หาดทรายยาวไปจนสุดแหลมท่าน้ำ น้ำทะเลใส สามารถลงเล่นน้ำได้ และยังเป็นอีกหนึ่งหาดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม  เกาะรัง  หมู่เกาะรัง ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ เช่น เกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะยักษ์ เกาะมะปริง ฯลฯ โดยเกาะทั้งหมดอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะช้าง เป็นจุดดำน้ำยอดนิยม เพราะด้วยความที่มีความสมบูรณ์ของโลกใต้ท้องทะเลที่อุดมไปด้วยปะการังและสัตว์น้ำหลากหลายชนิด  เกาะมะปริง  เป็นเกาะที่อยู่รอบหมู่เกาะรัง เหมาะสำหรับดำน้ำ มีปะการังน้ำตื้นและปลาสีสันสวยงาม  เกาะยักษ์ใหญ่  เกาะขนาดเล็ก ที่เหมาะสำหรับดำน้ำ จุดเด่นของเกาะนี้คือ แนวปะการังเขากวางสีน้ำเงินที่มีให้ได้พบเห็นจำนวนมาก  หาดศาลเจ้า  ชายหาดที่กว้างใหญ่ เม็ดทรายที่ขาวละเอียด เป็นจุดพักผ่อนเล่นน้ำ ถ่ายรูป หรือทำกิจกรรมชิลๆ ให้หายจากความเหนื่อยล้าจากการไปดำน้ำดูโลกใต้ท้องทะเลมา  น้ำตกธารมะยม  นอกจากหาดสวย ๆ เกาะช้างยังมีน้ำตกขนาดกลาง 4 ชั้น ลักษณะเป็นธารน้ำไหลผ่านลงมาเป็นชั้น ๆ ตามร่องหินแกรนิตสีดำ มีหน้าผาสูงชันจนเกือบตั้งฉาก บริเวณโดยรอบเป็นป่าดงดิบ เหมาะแก่การตั้งแคมป์และเล่นน้ำตก  น้ำตกคลองนนทรี  เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของเกาะช้าง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ประมาณ 4 กิโลเมตร  ป่าชายเลนบ้านสลักเพชรหรือโครงการฟื้นฟูบูรณะป่าชายเลนบ้านสลักเพชร  เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและระบบนิเวศป่าชายเลน จุดไฮไลต์คือ สะพานสีแดงสดที่ทอดยาวตัดกับสีเขียวของป่าโกงกาง  ประภาคารบางเบ้า  ตั้งอยู่ที่ท่าเรือบางเบ้า โดยท่าเรือมีลักษณะเป็นสะพานปูนยื่นออกไปในทะเล ตรงสุดปลายสะพานจะมีประภาคารตั้งอยู่โดดเด่น ถือเป็นอีกแลนด์มาร์คหนึ่งของเกาะช้าง  ป่าชายเลนบ้านสลักคอก  อ่าวสลักคอก มีป่าชายเลนใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 650 ไร่ มีกิจกรรมเดินสำรวจป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เป็นสะพานคอนกรีตทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และมีหอชมวิวสูง 4 ชั้น ให้เราได้ขึ้นไปชมวิวในมุมสูง  วัดสลักเพชร  วัดที่สำคัญแห่งหนึ่งบนเกาะช้าง มี “หลวงพ่อเพชร” ที่ผู้คนบนเกาะช้างให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และพิพิธภัณฑ์วัดสลักเพชรที่บอกเรื่องราวการเสด็จประพาสบนเกาะช้างของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  การแสดงโชว์ควงไฟ  ถือเป็นไฮไลต์ยามค่ำคืนที่มีให้ชมตามร้านอาหารต่าง ๆ ริมชายหาดบนเกาะช้าง

🏝 เกาะช้าง : จุด Check in ที่คุณไม่ควรพลาด 🏝 อ่านเพิ่มเติม

กระทงรักษ์โลกรูปแบบต่าง ๆ จากวัสดุธรรมชาติ

เดือนแห่งประเพณีลอยกระทงมาถึงแล้ว เพื่อน ๆ มีแพลนเที่ยวที่ไหนกันหรือยัง แต่แน่นอนว่า เที่ยววันลอยกระทงเราก็ต้องหากระทงไปลอยกันใช่มั้ยล่ะ วันนี้แอดมีตัวอย่างกระทงหลากหลายไอเดียมาแชร์ให้อ่านกันเพลิน ๆ เป็นกระทงที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ทำเองได้ง่าย ๆ แถมยังรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 1.กระทงใบตอง กระทงที่เราเห็นได้ทั่ว ๆ ไป เป็นกระทงที่ทำง่าย วัสดุหลักคือใบตอง ประดับด้วยดอกไม้ตามชอบ เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ทำให้กระทงใบตองเป็นที่นิยม 2.กระทงกะลามะพร้าว เป็นกระทงที่นำกะลามะพร้าวมาทำเป็นฐาน ประดับด้วยดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งกระทงแบบนี้จะเป็นกระทงแบบเดียวกับกระทงสาย ในประเพณีลอยกระทงของจังหวัดตากนั่นเอง 3.กระทงกาบกล้วย/ กาบมะพร้าว เป็นกระทงที่ใช้กาบกล้วยหรือกาบมะพร้าวมาเป็นฐาน และนำดอกไม้ต่าง ๆ มาประดับตกแต่งให้สวยงาม กาบกล้วยและกาบมะพร้าว มีลักษณะเป็นเส้นใย น้ำหนักเบาและยังย่อยสลายได้อีกด้วย 4.กระทงฟักทอง เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบกระทงได้เก๋สุด ๆ เพราะเราสามารถตัดแต่งรูปร่างหน้าตาของฟักทองออกมาได้ตามที่ต้องการ และด้วยสีของฟักทองสีส้ม จากฟักทองธรรมดาก็กลายเป็นกระทงฟักทองในธีม “ฮาโลวีน” ได้เลยล่ะ 5.กระทงน้ำแข็ง สำหรับกระทงน้ำแข็ง นับเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมเอามาก ๆ เช่นกัน เพียงมีแค่น้ำเปล่ากับภาชนะเพื่อทำน้ำแข็ง ใส่ดอกไม้ประดับลงไปให้สวยงาม นำไปแช่แข็งทิ้งไว้ เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งก็เอาออกจากภาชนะไปลอยน้ำได้แล้วล่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ไปลอยกระทงด้วยกันหลายคน แอดแนะนำให้ลอยกระทงอันเดียวกัน ถือเป็นการลอยกระทงแบบรักษ์โลก ช่วยลดปริมาณขยะและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ

กระทงรักษ์โลกรูปแบบต่าง ๆ จากวัสดุธรรมชาติ อ่านเพิ่มเติม

☘️ คลองน้ำใส … มหัศจรรย์ธารน้ำกระบี่ ☘️

คลองน้ำใส คลองน้ำจืดสายเล็ก ๆ ต้นน้ำเกิดจากตาน้ำผุดตามธรรมชาติใต้ผิวดิน บรรยากาศเย็นสบายร่มรื่นท่ามกลางป่าชุมชนที่เงียบสงบ เป็นคลองที่มีน้ำใสมาก โดยเฉพาะยามเมื่อแสงแดดสาดสะท้อนจะเห็นผืนน้ำเป็นสีเขียวมรกตสวยใสราวคริสตัล และบางจุดมองเห็นพื้นทรายใต้น้ำได้อย่างชัดเจน สามารถลงเล่นน้ำได้ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและจุดเช็กอินสุด Unseen แห่งใหม่ของกระบี่ ช่วงปลายน้ำของคลองน้ำใสเชื่อมต่อกับ คลองหรูด เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่นิยมลงเล่นน้ำ การเข้าไปเที่ยวชมและเล่นน้ำที่คลองน้ำใสและคลองหรูด วิธีสะดวกและเพลิดเพลินสุดคือ การพายเรือคายักเข้าไปยังบริเวณจุดที่เป็นตาน้ำผุดหรือแหล่งต้นน้ำ ปัจจุบันมีจุดให้บริการพายเรือคายักอยู่หลายแห่ง เช่น The Lake view Restaurant 08 9871 9498 คลองหรูด คายัค แหลมสอม 09 8078 4483 Krabi Lazanya Tour 06 2087 4357 ครัวข้าวหอม 08 3641 0038 ค่าเช่าเรือคายัก ลำละ 300 บาท นั่งได้ 2 คน ระยะทางพายเรือไปกลับ ประมาณ 1-1.5 กิโลเมตรใช้เวลาพายเรือรวมเล่นน้ำด้วย ประมาณ 2-3 ชั่วโมง การเดินทาง : ห่างจากอ่าวนาง ประมาณ 11 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4203 (อ่าวนาง-บ้านช่องพลี) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4034 (ถนนหนองทะเล) จนถึงบ้านแหลมสอม

☘️ คลองน้ำใส … มหัศจรรย์ธารน้ำกระบี่ ☘️ อ่านเพิ่มเติม

6 ข้อแนะนำลอยกระทงให้ปลอดภัย

ใกล้จะถึงเทศกาลวันลอยกระทงแล้ว เพื่อน ๆ วางแผนไปลอยกระทงกันที่ไหนรึเปล่า ยังไงก็อย่าลืมระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุกันด้วยนะ วันนี้แอดมีคำแนะนำการลอยกระทงให้ปลอดภัยมาฝาก จะได้ลอยกระทงกันอย่างมีความสุขค่ะ  ลอยกระทงบริเวณท่าน้ำหรือโป๊ะเรือที่มั่นคงแข็งแรง และระยะท่าน้ำกับแม่น้ำต้องไม่สูงชันจนเอื้อมไม่ถึง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้พลัดตกน้ำได้  ผู้ปกครองควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงหรือเล่นที่ท่าน้ำตามลำพัง  ไม่จุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ใกล้วัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือน  ไม่ปล่อยโคมลอยในเขตชุมชนและบริเวณโดยรอบสนามบิน  หากพบอุบัติเหตุทางน้ำ โทรเบอร์ 1196 สายด่วนกรมเจ้าท่าและเหตุด่วนทางน้ำ  หากไปลอยกระทงตามสถานที่ที่มีการจัดงานลอยกระทง ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผู้จัดงานกำหนดอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ถ้าไปลอยกระทงด้วยกันหลายคน แอดแนะนำให้ลอยกระทงเดียวกัน ถือเป็นการลอยกระทงแบบรักษ์โลก ช่วยลดปริมาณขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม 

6 ข้อแนะนำลอยกระทงให้ปลอดภัย อ่านเพิ่มเติม

🌿 Florapark Wangnamkeaw 🌿

ปลายปีแบบนี้ คิดถึงสวนกว้าง ๆ ที่มีดอกไม้บานสะพรั่งน่าถ่ายรูปกันบ้างไหม วันนี้แอดมีสวนดอกไม้สวย ๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ “ฟลอร่าพาร์ค วังน้ำเขียว” ที่ตอนนี้ได้เวลากลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งแล้ว ฟลอร่าพาร์ค วังน้ำเขียว เป็นสวนที่รวบรวมไม้ดอกไม้ประดับไว้ในพื้นที่กว่า 70 ไร่ เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ เปิดโอกาสให้เกษตรกรรวมถึงผู้ที่สนใจ เข้ามาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กัน และยังเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันได้ในช่วงหน้าหนาวของทุกปีอีกด้วย ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 นี้ ทางฟลอร่าพาร์คก็มีการจัดการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยบริเวณด้านหน้าจุดซื้อตั๋วเข้าชม จะมีทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ และจุดบริการสเปรย์ฆ่าเชื้อ  ภายในสวน นอกจากจะมีไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับหลายร้อยสายพันธุ์แล้ว ยังมีการตกแต่งจุดชมดอกไม้แต่ละจุดได้น่ารักน่าชมทีเดียว จุดที่แอดจะมาแนะนำมีดังนี้ 1. วงกตดอกไม้ เป็นสวนดอกไม้หลากสีสัน ที่จัดภูมิทัศน์เป็นทางเดินคล้ายกับเขาวงกต ให้นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมดอกไม้และถ่ายรูปอย่างจุใจ 2. หอชมวิวฟลอร่า (Flora Tower View) มีทั้งหมด 4 ชั้น ด้านบนเป็นจุดชมวิวมุมกว้าง 360 องศา สามารถมองเห็นวงกตดอกไม้จากมุมสูง และทุ่งลาเวนเดอร์ที่ปีนี้ปลูกอย่างจัดเต็มอีกด้วย นอกจากนี้ บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านกาแฟให้นักท่องเที่ยวได้จิบกาแฟชื่นชมดอกไม้ 3. หออธิษฐานรัก เป็นเนินเขาที่มีหอระฆังเล็ก ๆ จัดเป็นมุมสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปกัน กิมมิกที่น่ารักคือคนที่ไปกับคนรู้ใจสามารถไปสั่นระฆังอธิษฐานรักให้สุขสมหวังด้วยกัน แต่ถึงจะไปคนเดียวก็สั่นระฆังได้นะ 4. อุโมงค์ไม้เลื้อย เป็นอุโมงค์สานด้วยไม้ไผ่ แล้วปลูกไม้เลื้อยคลุม เป็นเหมือนหลังคาสีเขียว โดยจะสลับสับเปลี่ยนพันธุ์ไม้ไปในแต่ละปี มีความยาว 90 เมตร ใครที่โปรดปรานดอกกุหลาบ แอดแนะนำให้ไปต่อที่ ฟ้าประทานโรสพาร์ค สวนที่รวมกุหลาบหลายร้อยสายพันธุ์มาไว้ด้วยกัน นักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วแบบชม 2 สวน สามารถเดินทางไปที่สวนกุหลาบได้ด้วยรถรับส่งจากฟลอร่าพาร์คฟรี หากไม่ได้ซื้อแบบชม 2 สวนมาแต่แรก สามารถเดินไปได้ (ระยะทาง 1 กิโลเมตร)  ค่าเข้าชม  ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท (ซื้อสองสวน ราคา 180 บาท, ซื้อแยก สวนละ 100 บาท) เด็กสูงไม่เกิน 145 ซม. ราคา 50 บาท เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม. เข้าฟรี ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ราคา 50 บาท (แสดงบัตรประชาชน)  : 119 หมุ่ 5 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 30370  : เวลา 08.00-18.00 น.  : 09 2294 1594 และ 08 9812 8851 Facebook : florapark Wangnawkeaw Line : florapark ขอบคุณภาพจาก : Florapark Wangnamkeaw

🌿 Florapark Wangnamkeaw 🌿 อ่านเพิ่มเติม

สัมผัสหมอก ณ หนองคาย🌥✨

ลมหนาวใกล้เข้ามาแบบนี้ ไปลุยอีสานกัน!! เราจะไปกันที่จังหวัดหนองคาย จังหวัดที่มีความสวยงาม และมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมถึงบรรยากาศ และวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขงที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง ไม่เพียงเท่านี้ เพราะเรายังจะไปสัมผัสทะเลหมอกยามเช้ากันด้วย บอกเลยว่าเป็นเส้นทางสั้น ๆ แต่ความสุขล้นเหลือแน่นอน : ) วันที่ 1 ล่องเรือสักการะพระธาตุหล้าหนอง พระธาตุกลางน้ำอันเก่าแก่ เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย ชมอุโมงค์ปลาที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ของอร่อยเมืองหนองคาย ร้านแดงแหนมเนือง ไหว้พระที่วัดผาตากเสื้อ พร้อมชมวิวมุมสูงจากสกายวอล์ค วันที่ 2 สัมผัสหมอกยามเช้าที่ ภูห้วยอีสัน จิบกาแฟริมธารที่ ไร่ฉัตรดนัย วันที่ 1 พระธาตุหล้าหนอง เริ่มต้นการเดินทางด้วยการล่องเรือไปสักการะพระธาตุหนองคาย หรือพระธาตุหล้าหนอง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน โดยพระธาตุหล้าหนองนี้ตั้งอยู่ที่วัดธาตุ หรือวัดสิริมหากัจจายน์ ชุมชนวัดธาตุ ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ได้พังทลายหายไปจากการที่แม่น้ำโขงไหลเชี่ยวในฤดูน้ำหลาก ปัจจุบันเหลือเพียงองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนจมอยู่กลางแม่น้ำโขง ล้มตะแคงไปตามกระแสน้ำ เห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูแล้ง พระธาตุหล้าหนอง ถือเป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคาย มีการจัดงานประเพณีเกี่ยวกับพระธาตุในทุกปี ปัจจุบันมีการสร้างพระธาตุหล้าหนองหรือพระธาตุกลางน้ำ (จำลอง) ขึ้นไว้บนฝั่ง แล้วบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงเข้าไว้ข้างใน เพื่อให้นักท่องเที่ยวมากราบไหว้กัน  ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย https://goo.gl/maps/8cJtrqiXFXRAjSVF8 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสิรินธร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ที่นี่นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และปลาโบราณพื้นบ้าน ปลาลุ่มน้ำโขง นอกจากนี้ ยังมีอุโมงค์ปลาที่มีความยาวถึง 34 เมตร น่าตื่นตาตื่นใจไม่ใช่น้อย สนุกได้ทั้งนักท่องเที่ยวรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยทีเดียว ค่าเข้าชม เด็ก นักเรียน นักศึกษา 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท  112 หมู่ 7 ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย  เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (ปิดวันจันทร์)  0 4241 4901, 08 3459 4466 https://goo.gl/maps/9Wme7F8RaMfbTUPw9 แดงแหนมเนือง ไปหาอะไรรองท้องกันสักหน่อยดีกว่า แอดจะพาไปร้านแดงแหนมเนือง ร้านอาหารชื่อดังของหนองคาย เป็นร้านอาหารเวียดนามที่ใช้สูตรอาหารเวียดนามขนานแท้ เมนูขึ้นชื่อก็คือ “แหนมเนือง” นี่เอง แอดมองไปมองมา มีเมนูนี้ทุกโต๊ะเลยล่ะ ใครมาเที่ยวหนองคาย แอดแนะนำเลยว่าต้องไปลองเมนูแหนมเนืองสักครั้ง หรือจะซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากทางบ้านได้ นอกจากนี้ บรรยากาศยังสุดแสนจะชิลล์เพราะตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโขง  526-527 ถนนริมโขง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย (ใกล้ตลาดท่าเสด็จ)  042 411 961, 042 421 202, 042 411 234, 042 413 999 https://goo.gl/maps/YnmnDS9ft792 วัดผาตากเสื้อ หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราจะไปชมวิวมุมสูงที่วัดผาตากเสื้อกันค่ะ วัดผาตากเสื้อ อยู่ในอำเภอสังคม ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 78 กิโลเมตร เดิมทีวัดนี้ชื่อว่า วัดถ้ำพระ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ ตั้งอยู่บนเขา มองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม ด้านบนสุดของวัด มีอุโบสถแบบจัตุรมุข ทางเดินขึ้นเป็นบันไดพญานาค ทอดยาวไปจนถึงอุโบสถ  ส่วนไฮไลต์ของวัดผาตากเสื้อ คือ สกายวอล์ก ทางเดินกระจกใสทรงเกือกม้าที่ยื่นออกไปบริเวณหน้าผา ระยะทางเดิน 16 เมตร เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-ลาว มองลงมาจะเห็นสันทรายเป็นริ้ว ๆ สวยงามมาก สกายวอล์กนี้รองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 คน หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม เพื่อเป็นการดูแลทางสกายวอล์ค จึงมีค่าถุงหุ้มรองเท้าขณะเดินบนกระจก 20 บาทค่ะ  บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย  0 4290 1013, 08 2261 4564  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. https://goo.gl/maps/YjChJmgzBa22 วันที่ 2 ภูห้วยอีสัน เราออกเดินทางแต่เช้าตรู่ไปขึ้น ภูห้วยอีสัน เป็นจุดชมวิวเล็ก ๆ บนเขา สามารถมองเห็นแม่น้ำโขง และภูเขาขนาดใหญ่ของทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว นอกจากนี้ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของจังหวัดหนองคายเลยทีเดียว ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือการมาชมทะเลหมอก ซึ่งสามารถชมได้อย่างจุใจในช่วงฤดูหนาว ถ้ามานอกฤดู ก็พอจะได้เห็นบ้างเช่นกัน แต่บอกเลยว่าร้องว้าวแน่นอน : ) จุดชมวิวภูห้วยอีสัน แบ่งเป็น 2 จุด คือ จุดที่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่รถอีแต๊กจอด มีลานชมวิว จุดที่ 2 คือ จุดชมวิวสูงสุด โดยเดินจากจุดที่ 1 ขึ้นไปประมาณ 200 เมตร จุดนี้จะสามารถมองเห็นวิวได้กว้างและสูงกว่า เป็นสะพานไม้ยื่นออกไปจากหน้าผา สามารถมองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตา และยังเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตยขึ้นได้ใกล้ที่สุดด้วย การเดินทางขึ้นไปที่ภูห้วยอีสันต้องใช้บริการรถอีแต๊ก ไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากทางขึ้นสูงและชันมาก ด้านบนภูไม่อนุญาตให้ค้างคืน แนะนำให้หาที่พักในอำเภอสังคม หรือที่พักในตำบลบ้านม่วงซึ่งไม่ไกลจากจุดขึ้นรถ จุดบริการรถอีแต๊กจะอยู่ที่ อบต.บ้านม่วง วัดแก้วเสด็จชัย หรือติดต่อกับที่พักโฮมเสตย์ก็ได้เช่นกัน ค่าบริการรถอีแต๊ก คนละ 80 บาท ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที จุดที่น่าสนใจและท้าทายความสูง แอดขอชวนให้มาเล่นชิงช้าตรงนี้ ทั้งสนุกและหวาดเสียว แต่ก็จะได้เห็นวิวสวย ๆ

สัมผัสหมอก ณ หนองคาย🌥✨ อ่านเพิ่มเติม

✨🏝 เกาะเสม็ด จ.ระยอง 🏝 ✨

ชอบความชิล อยากใกล้ชิดธรรมชาติ หรือจะแนวครื้นเครงและปาร์ตี้ ทะเลที่นี่ตอบโจทย์ รวมทุกบรรยากาศหลากหลายไว้บนเกาะเดียวกัน

✨🏝 เกาะเสม็ด จ.ระยอง 🏝 ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ล่องสะเปา จาวละกอน ✨

เข้าสู่เดือนของสีสันแห่งสายน้ำอย่าง “วันลอยกระทง” หรือ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ในแต่ละท้องถิ่นก็มีประเพณีแตกต่างกันออกไป ซึ่งจังหวัดลำปางเองก็มีงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวในไทย นั่นคือ “ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน” คำว่า “สะเปา” เป็นภาษาถิ่น แปลว่า “เรือสำเภา” ส่วนคำว่า “จาวละกอน” แปลว่า “ชาวลำปาง” นั่นเอง ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติมานาน โดยชาวบ้านจะนำเรือสำเภาน้อย ๆ ที่ประดิษฐ์ขึ้น ใส่สิ่งของลงไปและนำไปลอยน้ำ เพื่อเป็นการทำทานให้แก่ผู้ล่วงลับ หรือให้ทานกับผู้อื่นที่อยู่ปลายน้ำ ซึ่งการใส่สิ่งของลงไปนี้ บ้างก็เชื่อว่าทำเพื่อเป็นการเตรียมไว้ใช้สำหรับภพหน้า นอกจากนี้ ยังถือเป็นการลอยทุกข์ สักการะ และขอขมาแม่น้ำ คล้าย ๆ กับการลอยกระทงนั่นเอง เรือสะเปานี้จะประดิษฐ์จากวัสดุที่หาได้ทั่วไป ได้แก่ ไม้ไผ่ผ่าซีกบาง กาบกล้วย ต้นมะละกอ กระดาษแก้ว นำมาประดิษฐ์เป็นตัวเรือ ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน ปักธูป เทียน ส่วนสิ่งของที่นำมาใส่ตามคติความเชื่อนั้น นิยมใส่เป็นอาหาร เช่น ข้าวสุก กล้วย อ้อยควั่น น้ำตาล เกลือ ยาสูบ หมาก พลู เพื่อเป็นกุศลแก่ผู้รับ ปีนี้ ทางจังหวัดลำปางมีการจัดงานประเพณีล่องสะเปาจาวละกอนตามปกติ เพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียม และประเพณีอันเก่าแก่ โดยจะมีการประดับไฟสวยงาม มีแสงสว่างเพียงพอ และปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่ไปล่องสะเปา แต่เพื่อเป็นควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงงดจัดกิจกรรมรื่นเริงทุกประเภท 19-20 พฤศจิกายน 2564 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำวัง ได้แก่ ท่าน้ำบ้านดงไชย (เขื่อนยาง) ท่าน้ำบ้านสิงห์ชัย (หลังโรงพยาบาลแวนแซนต์วูร์ด) และท่าน้ำสะพานรัษฎาฝั่งกาดกองต้า

✨ ล่องสะเปา จาวละกอน ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top