สถานที่ท่องเที่ยว

รวมพิกัด Street Art กันตัง

อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไม่เพียงตึกรามบ้านช่องที่คลาสสิกสวยงาม กันตังยังมี Street Art สนุก ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวกันตังอยู่ทั่วเมืองอีกด้วย วันนี้ แอดมินมีจุดถ่ายรูป Street Art ในตัวอำเภอกันตังกันมาฝาก เช็คพิกัดแล้วก็ไปลุยกันเลย เพื่อให้เพื่อน ๆ หา Street Art ที่ซ่อนตัวอยู่ในกันตังได้ง่ายขึ้น แอดเลยนำพิกัดมาแจก มีด้วยกันทั้งหมด 8 จุด (12 ภาพ) เรียงลำดับตามการเดินทางแบบง่าย ๆ และไม่ต้องย้อนไปมาด้วยจ้า หรือเพื่อน ๆ สะดวกตรงไหนก่อน ก็คลิกไปตามลิงก์ต่าง ๆ ได้ พร้อมกับชมสถานที่ท่องเที่ยว อาคารเก่าแก่บริเวณใกล้เคียง และร้านอาหารอร่อย ๆ ได้อีกด้วย  จุดที่ 1 https://goo.gl/maps/vwruQJ8EYiGSk65E8  จุดที่ 2 https://goo.gl/maps/USxLBqZ6szpE4bXUA  จุดที่ 3 https://goo.gl/maps/7gtPioht6N14LwcU9  จุดที่ 4 https://goo.gl/maps/rqtnRUuyFR6NGzkz7  จุดที่ 5 https://goo.gl/maps/tBZVaC4nH7wcze9Y9  จุดที่ 6 https://goo.gl/maps/jZcDTtuNBKuLf21u5  จุดที่ 7 https://goo.gl/maps/c7qbjPRX7bWoVGVH7  จุดที่ 8 https://goo.gl/maps/2rnN6eJacq8iC5Zi6 Street Art ในกันตัง บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของชาวกันตัง ผ่านภาพวาดอย่างลงตัว แต่ละภาพวาดโดยศิลปินจิตอาสา ภายใต้แนวคิด “วิถีกันตังคัลเลอร์ฟูล”  ที่เห็นอยู่นี้คือภาพหญิงสาวแสนสวยในชุดจีนที่วาดลงบนกำแพงไม้เก่า ๆ สวยและมีเสน่ห์จนใครเห็นเป็นต้องแวะถ่ายภาพ  ระยะทางชม Street Art โดยรวมประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยระยะห่างระหว่างภาพต่อภาพบางจุดก็สามารถเดินถึงกันได้ หรือถ้าอยากเช่ารถกบชมเมืองไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แล้วแต่ตกลงราคากับคนขับได้เลย ภาพนกนางแอ่นน้อยน่ารักที่กำลังร้องเพลง  สื่อให้นึกถึงชาวกันตังที่ประกอบอาชีพเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะลิบง ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมายาวนาน แถมข้าง ๆ ภาพนกนางแอ่น ยังมีภาพวาดบนกำแพงอีก 2 ภาพให้เพื่อน ๆ ได้เช็คอินถ่ายรูปกันด้วย อีกอาชีพของชาวกันตังคือทำประมง  เนื่องจากที่อำเภอกันตังมีแม่น้ำตรังไหลผ่าน นอกจากจะเป็นแม่น้ำสายสำคัญแล้ว ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำหลากชนิด สร้างรายได้ให้แก่ชาวประมงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนเจ้าสล็อตจอมเฉื่อยตัวนี้ก็คงกำลังหาปลาไปขายอยู่สินะ ระหว่างเดินเที่ยวเล่น เพื่อน ๆ สามารถพักเหนื่อยเติมพลังแถวนี้ได้เลย บริเวณนี้มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารทั่วไป อาหารซีฟู้ดส์ ติ่มซำ หรือคาเฟ่เก๋ ๆ  ภาพวาดมังกรแดงนี้ สื่อให้เห็นว่า ครั้งหนึ่งตรังก็ได้รับอิทธิพลจีนด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการค้าต่าง ๆ การอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดตรัง ตลอดจนการเข้ามามีบทบาทในการสร้างเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างวัฒนธรรมผสมผสานไทย-จีนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งอาคาร สถาปัตยกรรม ศาลเจ้า และติ่มซำ ยังมี Street Art อีกหลายจุดให้เพื่อน ๆ ตามไปเก็บ เช็คอิน และถ่ายรูปกันอย่างต่อเนื่อง ใครที่ยังไม่เคยไป แอดแนะนำเลยค่ะ หรือใครที่เคยไปมาแล้ว ก็เอารูปมาอวดกันได้นะ 

รวมพิกัด Street Art กันตัง อ่านเพิ่มเติม

#ปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน มากี่รอบก็ชอบเหมือนเดิม

#ปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน มากี่รอบก็ชอบเหมือนเดิม กางเต็นท์ ล่องแพท่ามกลางสายหมอกสุดฟิน เมื่อไหร่ที่ร่างกายต้องการพักผ่อน “แม่ฮ่องสอน” มักเป็น Dream Destination ที่หลายคนอยากเดินทางมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ความสวยงามอันน่าหลงใหล ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์ สถานที่ที่ต้องมาปักหมุดให้ได้ คือ ปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ที่มีบรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนสุด ๆ วิวทะเลสาบที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นสนท่ามกลางขุนเขาสุดโรแมนติก ต้องมากางเต็นท์ เเคมป์ปิ้ง สัมผัสธรรมชาติ ล่องเเพไม้ไผ่ลำน้อยท่ามกลายสายหมอกในช่วงเช้าเเบบชิลล์ ๆ ฟีลสวิตเซอร์แลนด์สักครั้ง หากได้ลองมาสัมผัสแล้วจะหลงรักจนสุดหัวใจ กิจกรรมห้ามพลาด ล่องแพไม้ไผ่ชมทะเลสาบ กางเต็นท์แคมป์ปิ้ง ถ่ายรูปกับน้องหงส์ ที่พัก นำเต็นท์ส่วนตัวมาเอง เช่าเต็นท์อุทยานฯ โฮมสเตย์ การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนหมายเลข 107 จากอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ถนนเส้น 1095 ผ่านอำเภอปายมายังปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รถโดยสารประจำทาง (รถสองแถว) ขึ้นที่ตลาดสายหยุด อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มี 2 เที่ยว/วัน เวลา 8.00 น. และ 15.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 053 – 611244 ศิลปาชีพ 096 – 9786312 สอบถามที่พัก 082 – 19111746 จองเต็นท์ของอุทยานฯ 086 – 4247371 โออุทยานฯ 053 – 061533 สภ.หมอกจำแป่ 083 – 0711356 กางเต็นท์หน้าหมู่บ้าน (พี่เล็ก)

#ปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน มากี่รอบก็ชอบเหมือนเดิม อ่านเพิ่มเติม

✨ ทริปเพิ่มพลัง ลุยไม่ยั่น เดินสามย่าน-บรรทัดทอง ✨

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ แอดมีเส้นทางเดินเที่ยวกรุงเทพฯ อย่าง “สามย่าน-บรรทัดทอง” มาแนะนำ เพื่อน ๆ ที่รู้สึกเบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปไหนดี ตามลิสต์ของแอดไปได้เลย นอกจากจะเป็น 1 day trip ที่เดินทางสะดวก อยู่กลางเมืองสุด ๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มพลังให้เราด้วยนะ เพิ่มพลังยังไงบ้าง ลองตามไปอ่านกัน เส้นทางเดินเที่ยว 1. ไหว้พระที่วัดหัวลำโพง 2. เพิ่มความรู้รอบตัวที่สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย 3. เพิ่มลิสต์จุดถ่ายรูปที่ Dragon Town 4. เติมออกซิเจนให้ปอดที่อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5. อิ่มอร่อยสุขภาพดีที่ร้านน้ำเต้าหู้เจ้วรรณ  1. ไหว้พระที่วัดหัวลำโพง  จุดแรกของวันนี้คือ วัดหัวลำโพง เดินทางสะดวกมาก เรียกว่าพอพ้นประตูทางออกที่ 1 ของ MRT สามย่าน เราก็เจอวัดทันที กิจกรรมทำบุญที่คนนิยมมาทำกันมากก็คือ การบริจาคโลงศพให้ศพไร้ญาติที่มูลนิธิร่วมกตัญญูซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดหัวลำโพงนั่นเอง เพื่อน ๆ สามารถเข้ามาบริจาคได้ 24 ชั่วโมงเลย นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีเทพยดาฟ้าดิน (ทีกง) เจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อเสือ หรือหากใครไม่สบายใจเพราะเป็นปีชง ก็มาไหว้ได้เช่นกัน ในบริเวณวัด เพื่อน ๆ จะเจอเทพมากมาย ทั้งเทพจีน เทพฮินดู รวมทั้งจุดทำบุญสะเดาะเคราะห์ ไถ่ชีวิตโคกระบือ ฯลฯ เรียกว่าถ้าเกิดความไม่สบายใจ อยากไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อปลอบประโลมใจ เลือกทำตามความสบายใจได้ที่นี่ อีกจุดที่แอดอยากแนะนำคือ ขึ้นไปไหว้พระในอุโบสถที่อยู่บนชั้น 2 คนไทยสามารถขึ้นไปได้ฟรี แต่ชาวต่างชาติต้องซื้อตั๋ว ราคา 40 บาท เมื่อเดินขึ้นมา เพื่อน ๆ จะพบกับพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ ภายในพระอุโบสถ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อ พระพุทธมงคล ตามความเชื่อหากขอพรกับพระพุทธรูปปางมารวิชัย จะช่วยปกป้องภัยจากศัตรู ช่วยให้การงานราบรื่น บนชั้น 2 นี้ เพื่อน ๆ สามารถซึมซับความสงบ และชมวิวเมืองที่อยู่ท่ามกลางตึกสูงของสามย่านได้ แม้การทำบุญจะไม่ได้เห็นผลทันตา แต่ก็ได้ความสบายใจทันทีที่ทำ ต้นปีแบบนี้ เพิ่มพลังใจกันหน่อยก็น่าจะดีนะแอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาที่นี่ก่อนนั่นเอง หลังทำบุญแล้ว หากใครอยากหาที่นั่งพักสักครู่ แอดแนะนำให้เข้าไปที่ “ซอยหน้าวัดหัวลำโพง” ที่นี่มีสวนสาธารณะเล็ก ๆ ชื่อ สวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์ เปิดบริการ 05.00-20.00 น. ลองมาดูกันได้นะ  : 728 ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ  : 0 2233 8109 2. เพิ่มความรู้รอบตัวที่สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย จุดต่อไป แอดจะพาไปสภากาชาดไทย ไม่ได้พามาบริจาคเลือด แต่จะพามาดูงู!! ซึ่งจริง ๆ แอดเป็นคนที่กลัวงูมาก ๆ แต่ที่อยากมาก็เพราะอยากมาเรียนรู้ และได้ยินมาว่ากลัวอะไรให้ลองเผชิญหน้าดู ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรให้เราเรียนรู้บ้าง จากวัดหัวลำโพง ใช้ทางลอดใต้ถนน MRT เดินไปทางจามจุรีสแควร์ ระยะทางประมาณ 750 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนอื่นแอดขอแนะนำสวนงู สถานเสาวภาสักนิด ที่นี่ทำงานเกี่ยวกับงูหลายด้าน หลักๆที่เรารู้กันดีก็คือผลิตเซรุ่มแก้พิษงู และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงงูพิษเพื่อเอามาทำเซรุ่ม นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องงูที่ถูกต้อง มีการทำวิจัยเรื่องงูและพิษงู รวมทั้งมีการเพาะเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์อีกด้วย หลังจากซื้อตั๋วแล้ว แอดก็แอบหวั่น ๆ แต่พอเข้าไปในสวนงูแล้ว แต่ละส่วนจัดพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้แอดรู้สึกปลอดภัยเบาใจไปได้เยอะเลย โดยในสวนงูจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วน indoor และ ส่วน outdoor โซน outdoor บรรยากาศร่มรื่นมาก ตามทางเดินจะมีป้ายให้ความรู้เป็นระยะ ตั้งแต่แหล่งที่อยู่อาศัยของงู รวมถึงประเภทของงู ส่วนลานข้างหน้าจะเป็นเวทีโชว์งูพร้อมให้ความรู้ ซึ่งบอกเลยว่าพิธีกรเก่งมาก พูดจาลื่นไหล พาให้บรรยากาศสนุกสนาน ใครมีเพื่อนต่างชาติก็พาไปได้ เพราะเขาพูดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย พิธีกรกำลังสอนว่าเจองูเห่าให้อยู่นิ่ง ๆ อย่าขยับมาก เดี๋ยวมันก็ไปเอง หลังจบโชว์ จะมีน้องงูหลามเผือกที่ทางสวนงูเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กมาให้ถ่ายรูปด้วย ไม่เสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากสนับสนุนกิจกรรมที่นี่ก็สามารถไปหย่อนตู้บริจาคได้เลย ส่วนโซน indoor อยู่ที่อาคารสี่มะเสง จะมีโชว์รีดพิษงูในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 น. ส่วนอาคารชั้น 2 จะเป็นส่วนให้ความรู้ มีการจัดแสดงซากงูนานาชนิดในขวดโหล แถมยังจัดแสดงโครงกระดูกงูอีกด้วย แอดเดินชมเพลินจนลืมกลัวไปเลยล่ะ โครงกระดูกงู ที่นี่ได้รับตรา SHA ปลอดภัยหายห่วง แถมยังมีห้องน้ำและทางลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็นด้วย สำหรับแอดแล้ว ถือเป็นแหล่งที่ทำให้แอดได้ความรู้รอบตัวหลายเรื่องเลย บางเรื่องที่เคยรู้เคยลืมก็กลับมาจำได้ใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความรู้ ความตื่นเต้น และยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทุกวัยอีกด้วย  ค่าเข้าชม  คนไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท | นักเรียน-นักศึกษา 20 บาท | เด็ก 10 บาท ต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท | เด็ก 50 บาท ตารางการแสดง จันทร์ – ศุกร์ 11.00 น.

✨ ทริปเพิ่มพลัง ลุยไม่ยั่น เดินสามย่าน-บรรทัดทอง ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌸 2 พิกัดชม #ดอกพญาเสือโคร่ง ทิ้งท้ายลมหนาว ที่ #เชียงใหม่ โค้งสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลย 🌸

ในช่วงฤดูหนาวเดือนมกราคมของทุกปี นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการบานสะพรั่งของดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะดอกไม้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นดอกซากุระเมืองไทย อย่าง “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ก็กำลังเบ่งบานเผยความสวยงามท่ามกลางลมหนาวอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะที่จังหวัด “เชียงใหม่” เราจึงมี 2 พิกัดชมดอกพญาเสือโคร่งมาแนะนำ ซึ่งความพิเศษแบบนี้ หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะครับ! ดอยอ่างข่าง เป็นแหล่งชมดอกซากุระที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของดอกไม้เมืองหนาว ไฮไลท์คือ มีต้นซากุระแท้จากญี่ปุ่นให้ชมด้วย ขุนช่างเคี่ยน ชุมชนชาวม้งกลางอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพและดอยปุย ที่ปกคลุมไปด้วยความงดงามของดอกนางพญาเสือโคร่งในทุกฤดูหนาว ก่อนลมหนาวจะผ่านไป ต้องรีบจูงมือคนรู้ใจไปดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติก ท่ามกลางความบานสะพรั่งของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่กันครับ สามารถรับชมรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/6904514926287195

🌸 2 พิกัดชม #ดอกพญาเสือโคร่ง ทิ้งท้ายลมหนาว ที่ #เชียงใหม่ โค้งสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลย 🌸 อ่านเพิ่มเติม

🌳 พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ความงดงามใจกลางเมืองหลวง 🌳

ใจกลางเมืองหลวง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราจะชวนไปหลบร้อน ชมหมู่เรือนไทยโบราณเก่าแก่ ที่รวบรวมโบราณวัตถุและของสะสมมีค่าให้เราได้ชื่นชมและเรียนรู้ น่าสนใจใช่ไหม ตามแอดมาได้เลยค่ะ “พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด” เดินทางสะดวกมากๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS ซึ่งจะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน และช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศไปด้วยในคราวเดียวกัน พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด หรือ วังสวนผักกาด ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พญาไท ประมาณ 450 เมตร แต่เดิมเคยเป็นสวนผักกาดของชาวจีน ก่อนที่พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ) จะสร้างเป็นตำหนักที่ประทับ และย้ายเข้ามาประทับอยู่เป็นการถาวรพร้อมชายา คือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในพ.ศ. 2495 หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ ได้เปิดวังสวนผักกาดให้บุคคลภายนอกมีโอกาสเข้าชมศิลปะและโบราณวัตถุที่ท่าน และเสด็จในกรมฯสะสมไว้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้านเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม ในขณะที่เจ้าของบ้านยังคงใช้เป็นที่พำนัก ภายในพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ 8 หลัง เรือนหลังที่ 1-4 เป็นหมู่เรือนไทยที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี โดยเรือนหลังแรกมีสะพานเชื่อมไปสู่เรือนหลังที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ตามลำดับ ส่วนเรือนหลังที่ 5 – 8 ปลูกอยู่ห่างกันทางทิศตะวันตก และมีหอเขียนอยู่ทางทิศใต้ ทุกเรือนมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ และของสะสมมีค่า แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน น่าชมทุกเรือน ตั้งแต่เรือนพิพิธภัณฑ์โขน ห้องดนตรีไทย ห้องจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เครื่องถ้วยเบญจรงค์ เครื่องชามสังคโลก ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เรือนต้อนรับ และส่วนจัดแสดงเรือพระที่นั่ง เป็นต้น ในเรือนไทยหลังที่ 1 เป็นการจัดแสดงโบราณวัตถุในยุคต่างๆ รวมทั้งพระพุทธรูป เทวรูปพระอุมา และเทวรูปพระอรรธนารีศวร ตะลุ่มและเตียบประดับมุก ตลับงาช้าง และขวดน้ำหอมจากต่างประเทศ ทุกชิ้นสวยงาม จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 2 โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยวัฒนธรรมบ้านเชียง จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 5 ในเรือนไทยหลังที่ 6 เป็น“พิพิธภัณฑ์โขน” มีเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการแสดงโขน รวมทั้งหัวโขน หุ่นละครเล็ก และตุ๊กตาดินเผาจากเรื่องรามเกียรติ์ เครื่องชามสังคโลกจากสุโขทัย เครื่องถ้วยจีน เครื่องเคลือบสีเขียว ของสะสมหายาก จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 7 เครื่องใช้ส่วนพระองค์ ทั้งที่เป็นเครื่องแก้วลายทอง เครื่องแก้วคริสตัล เครื่องเงิน และเครื่องลายครามจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแจกันรูปผักกาดที่เป็นสัญลักษณ์ของวัง จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 8 หอเขียน ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด และเป็นเรือนที่สวยที่สุดในพิพิธภัณฑ์ฯ โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต นำโครงเรือนมาจาก หอไตรเก่าที่วัดบ้านกลิ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2501 กำหนดอายุราวช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อนจะนำมาอนุรักษ์ซ่อมแซมจนสำเร็จ เพื่อมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่ชายาของท่าน เนื่องในวันครบรอบอายุ 50 ปี ภายในหอเขียน มีภาพเขียนลายรดน้ำ สมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นเรื่องราวหลักๆ 2 เรื่อง คือพุทธประวัติและรามเกียรติ์ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่ยังหลงเหลือให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาต่อไป ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด อยู่ภายใต้การดูแลของ มูลนิธิจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์ ซึ่งก่อตั้งโดยหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร  การเดินทาง BTS : สถานีพญาไท รถโดยสารประจำทางสาย 14, 17, 72, 74, 77, 159, 164, 204, 536, 539  พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด   ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -16.00 น.  0 2246 1775-6 ต่อ 229, 0 2245 4934 https://goo.gl/maps/EbgXwiv2NDcPY7LE8  ขอบคุณรูปภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด

🌳 พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ความงดงามใจกลางเมืองหลวง 🌳 อ่านเพิ่มเติม

1 วันดีๆ ที่ชุมชนหัวตะเข้🐊

วันหยุดสุดสัปดาห์ มีใครมองหาที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯบ้างไหม แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวชานเมืองมาแนะนำ นั่นคือ “ชุมชนหัวตะเข้” ค่ะ ไปเดินชมบรรยากาศย้อนยุค บ้านไม้ริมน้ำอายุกว่าร้อยปี รวมถึงย้อนอดีตของตลาดโบราณ พายเรือชมบรรยากาศริมคลองสองฝั่ง และชมกราฟิตี้เท่ ๆ ในชุมชนกัน ชุมชนหัวตะเข้ แป็นชุมชนเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีตลาดเก่าริมน้ำและเป็นเหมือนศูนย์กลางชานเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกนั่นเอง รวมถึงเป็นจุดตัดทางน้ำ 3 คลอง คือ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองลำปลาทิวและคลองจระเข้ หากย้อนกลับไปในอดีตชุมชนแห่งนี้ถือว่าเป็นชุมชนที่รุ่งเรืองและคึกคักเป็นอย่างมากทั้งการค้าขาย การขนส่ง บรรยากาศในชุมชนเก่าหัวตะเข้ ยังคงเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นมุงหลังคาสังกะสีริมน้ำ กลิ่นอายบรรยากาศเก่า ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ปัจจุบัน ทางชุมชนได้กลับมาอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จนตอนนี้ทำให้ชุมชนหัวตะเข้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าสนใจและมีเสน่ห์มาก ๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ ชุมชนยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ชิค ๆ ร้านโชห่วยของเก่า เกสต์เฮาส์ริมคลอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีถิ่นหัวตะเข้ บ้านเรือนของคนในชุมชนที่ยังความคลาสสิกไว้อยู่ ชุมชนจัดกิจกรรม workshop งานศิลปะ งานไม้ต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ คนรักชุมชนหัวตะเข้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือพายเรือคายัคชมบรรยากาศริมน้ำ แต่เราจะได้เก็บขยะในคลองกันได้ด้วยนะ : ) สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ ฮั่วฮง คายัค คลับ/HuaHong Kayak Club โทร. 09 7097 0863 ค่าบริการเรือ ชั่วโมงละ 350 บาท/คน กรณีเก็บขยะจากในคลองขึ้นมาเกิน 10 ชิ้นขึ้นไป จะได้รับส่วนลดเหลือ ชั่วโมงละ 100 บาท/คน จุดเช็คอินของคนคูล ๆ กราฟิตี้บนกำแพงอยู่หลายจุดมีให้เราถ่ายรูป ใครเดินมาเรื่อย ๆ ตรงร้านสี่แยกหัวตะเข้ ตรงนี้มีสะพานนี้ข้ามคลอง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปและชมพระอาทิตย์ตกกันด้วย การเดินทาง Airport Rail Link ลงสถานีลาดกระบัง จากนั้นนั่งรถสองแถวสาย 333 มาลงที่ปากซอยลาดกระบัง 17 ราคา 8 บาท จากนั้นเดินเข้ามาสุดซอย รถยนต์ส่วนตัว ขับรถมาที่ซอยลาดกระบัง 17 จะผ่านตลาดสดเข้าไปสุดทาง มีบริการที่จอดรถ รถไฟสายตะวันออก ต้นทางสถานีหัวลำโพงลงที่สถานีหัวตะเข้ จากนั้นเดินเลาะริมคลองตาม google map หรือนั่งรถจักรยานยนต์มาที่ตลาดหัวตะเข้ได้ ตลาดหัวตะเข้  ซอยลาดกระบัง 17 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. https://goo.gl/maps/AyebeED52Ww5iggi9

1 วันดีๆ ที่ชุมชนหัวตะเข้🐊 อ่านเพิ่มเติม

✨ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ✨

แอดมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ มาเล่าให้ฟัง เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า วันที่ 17 มกราคมนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย นั่นคือเป็นวันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์พระร่วง ในสมัยสุโขทัย ผู้ทรงพระปรีชาสามารถ และได้รับการยกย่องให้เป็นพระราชบิดาแห่งอักษรไทย เนื่องจากทรงเป็นผู้ประดิษฐ์ลายสือไทย ตัวอักษรแรกเริ่มก่อนจะเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ จนเป็นตัวอักษรไทยในปัจจุบัน หากใครที่กำลังท่องเที่ยวในสุโขทัยกันอยู่ ก็สามารถไปกราบไหว้สักการะกันได้ที่ “พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” 📍 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-19.30 น. 📞 055 697 527 🌐 https://goo.gl/maps/Uhz2pyk3fEchZWZd7

✨ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ✨ อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อชา 🍵🫖

แหล่งปลูกชาในไทย นอกจากจะเป็นพื้นที่เพาะปลูกแล้วส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวชม เรียนรู้ และถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ มักมีร้านของฝากให้เราได้ซื้อชาหรือของที่ระลึกอื่น ๆ กลับไปด้วย หากเพื่อน ๆ สนใจอยากซื้อใบชากลับบ้าน แอดก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ ในการเลือกซื้อมาฝากค่ะ 😉 แหล่งปลูกชา 🌱 แหล่งปลูกชาก็เป็นอีกปัจจัยที่จะตัดสินว่าชานั้นมีคุณภาพหรือไม่ เพราะสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ และอากาศถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการปลูกชา เพราะจะทำให้ใบชามีรสชาติและคุณภาพที่ต่างกัน แหล่งปลูกชาคุณภาพดีในไทยส่วนใหญ่อยู่ทางตอนบนของประเทศ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่บนเขาสูง มีความชื้นปกคลุม และมีอากาศเย็น คุณภาพของใบชา 🍃 จริง ๆ แล้วใบชามีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต เบื้องต้นแนะนำให้เลือกเป็นชาใบ มากกว่าชาผงหรือเศษฝุ่นชาที่เหลือจากกระบวนการผลิต จะทำให้ได้ชาที่มีคุณภาพมากกว่า ชิมก่อนซื้อ 🍵 ชาแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่าง ทั้งในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ซึ่งต่างคนก็คงจะต่างใจ หากเป็นร้านชาที่มีบริการชิมก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ ก็น่าจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ดีขึ้น สังเกตบรรจุภัณฑ์ 📦 การเก็บรักษาใบชาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรใส่ใจ เพราะใบชานั้นมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นแสง อุณหภูมิ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะทึบ และสุญญากาศ เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจจะทำให้ใบชาเสียหายและรสชาติเปลี่ยนได้

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อชา 🍵🫖 อ่านเพิ่มเติม

🌳สวนเบญจกิติ ป่าใหญ่ใจกลางกรุง 🌳

สวัสดียามเช้าค่ะทุกคน เช้านี้ใครหลายคนคงกำลังเดินทางไปทำงานกันอยู่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ คงมีบางส่วนใช้รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้ากันแน่นอน วันนี้แอดก็ได้เดินทางเหมือนกัน แต่เป็นการไปแวะชมสวนสาธารณะเบญจกิติที่อยู่กลางกรุงเทพฯค่ะ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างส่วนขยายและปรับปรุงสวนเบญจกิติ เพิ่มเติมอีกหลายจุด โดยออกแบบเพื่อรองรับคนทุกสภาวะ ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการทางสายตา ผู้ที่ใช้บริการรถเข็น (Wheelchair) รวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุและคนที่รักสุขภาพด้วย สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก เดินทางสะดวก เพราะใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และรถไฟฟ้า BTS  ที่นี่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สวนน้ำ เนื้อที่ 130 ไร่ และสวนป่า เนื้อที่ 300 ไร่ แต่เดิมบริเวณนี้เป็นพื้นที่ของโรงงานยาสูบ ปัจจุบันได้กลายเป็นทั้งสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายไปแล้ว วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมสวนเบญจกิติ และอัพเดทโครงการสวนป่า ระยะ 2 และ 3 ที่กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม ตอนนี้ยังไม่เปิดบริการทั้งหมด คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 รอติดตามกันน้า  บริเวณโดยรอบสวนน้ำ เป็นจุดที่ผู้คนมักจะมาออกกำลังกายกัน มีทั้งคนเดิน วิ่ง หรือใครชอบปั่นจักรยานก็มีเส้นทาง Bike Lane สำหรับปั่นจักรยาน แม้จะอยู่กลางเมือง มองเห็นวิวตึกสูงโดยรอบ แต่ก็ยังได้เห็นสีเขียวจากต้นไม้ใหญ่น้อยของสวน สวยไปอีกแบบ เข้ามาเดินเล่นหรือออกกำลังกายเบา ๆ แบบนี้เหมือนได้มาชาร์จพลังจากธรรมชาติเลยค่ะ หากใครเป็นสายปั่น…สามารถนำจักรยานส่วนตัวเข้ามาปั่น หรือจะเช่าจักรยานก็ได้ จำกัดความเร็วไม่เกิน 15 กม./ชม.ปั่นจักรยานได้ตั้งแต่เวลา 06.00-17.30 น. บริเวณนี้เราจะข้ามมาอีกฝั่ง ไปชมสวนป่าระยะ 2 และ 3 กัน สำหรับโครงการที่กำลังก่อสร้างนี้ จะไม่ใช่แค่สวนสาธารณะธรรมดาเลยค่ะ แต่จะเป็นโครงการสวนป่าขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่เลยทีเดียว เรียกว่า ในกรุงเทพฯ เราจะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย : ) ส่วนของสิ่งปลูกสร้าง จะประกอบด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์ อาคารแสดงศิลปะ หอสมุด ลานกิจกรรมกลางแจ้ง และเส้นทางปั่นจักรยานระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เส้นทางวิ่งระยะทาง 3 กิโลเมตร รวมถึงไฮไลท์อย่างเส้นทางสกายวอร์ค สูงจากพื้น 4-8 เมตร โดยจะเชื่อมกับสกายวอร์คเดิมที่มาจากสวนลุมพินี (สะพานเขียว) สวนป่าระยะ 2 และ 3 มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจมาก โดยจะเน้นเรื่องของระบบนิเวศ สร้างเป็น Wet Land หรือพื้นที่ชุ่มน้ำ มีการปลูกต้นไม้ใหม่ ทั้งพันธุ์ไม้หายากเพื่อการอนุรักษ์ และบึงน้ำยังทำให้เป็นพื้นที่ธรรมชาติมากขึ้น และเหมือนที่แอดได้บอกไป เส้นทางภายในสวนเบญจกิติ เป็นเส้นทางที่เอื้อต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้พิการทางสายตาที่สามารถนำสุนัขที่ผ่านการฝึกเข้าได้ค่ะ แต่สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ไม่สามารถนำเข้าได้น้า บริเวณนี้เป็นลานสนามหญ้าและอัฒจันทร์กลางแจ้งไว้สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ  อัฒจันทร์รองรับกิจกรรมของผู้ใช้งานได้ถึง 15,000 คนเลยทีเดียว  มองจากตรงนี้เห็นวิวตึกด้วยนะ สวยไปอีกแบบ  การเดินทาง MRT : สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ BTS : สถานีอโศก รถประจำทาง : สาย 45 46 109 115 116 ปอ.22 ปอ.185 ปอ. 507 สวนเบญจกิติ  ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น. โทร. 0 2254 1263, 08 6337 2741 https://goo.gl/maps/rRQDNYDSDjtD2rza6

🌳สวนเบญจกิติ ป่าใหญ่ใจกลางกรุง 🌳 อ่านเพิ่มเติม

Road of the Dragon : น่าน

ถนนคดเคี้ยวผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่าแห่งเมืองปัว จังหวัดน่าน เปรียบได้กับสันหลังมังกรที่ทอดยาวจากอำเภอปัวสู่ดอยภูคาจรดอำเภอบ่อเกลือ ระยะทางร่วม 45 กิโลเมตร เชื่อมต่อจากเมืองสู่ขุนเขา นักเดินทางมากมายคล้ายต้องมนต์สะกด ยามเมื่อได้ขับรถยลโฉมทิวทัศน์ในยามเช้าและแวะสัมผัสวิถีชุมชนบ่อเกลือในยามบ่าย รวมถึงยอดดอยภูคาในยามเย็น ท่ามกลางฉากขุนเขากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เรื่องราวระหว่างทางเปลี่ยนไปตามบริบทที่พบเจอ ถนนเส้นนี้จะพาเราไปพบประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำกับการเดินทางในครั้งไหน ๆ โดยมีผืนป่า ……………….. สามารถรับชมผ่าน Youtube ได้ที่ ภาษาไทย : https://youtu.be/NdhQBTg7BN4 English Language: https://youtu.be/XOpNea-9o3k

Road of the Dragon : น่าน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top