สถานที่ท่องเที่ยว

✨ ผลไม้ช่วงหน้าร้อน ✨

ประเทศไทย เป็นประเทศที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ามีผลไม้เยอะ สามารถหามารับประทานได้ทั้งปี ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว แอดเลยถือโอกาสรวบรวมผลไม้ที่ออกผลในช่วงนี้มานำเสนอ ซึ่งนอกจากจะรสชาติดี ราคาถูกแล้ว ยังหาง่ายอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูได้เลย ✨ ทุเรียน ✨ ราชาแห่งผลไม้ มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว รสหวานและมัน กินได้ทั้งแบบสด และแปรรูปอย่าง การกวน ทอด หรือทำเป็นขนมหวาน แม้ทุเรียนจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน แต่ในทุเรียนจะมีส่วนประกอบของสารกำมะถันอยู่ด้วย หากรับประทานมาก ๆ จะทำให้รู้สึกร้อนและอึดอัด เพราะฉะนั้นควรกินแต่พอดี ซึ่งสายพันธุ์ยอดฮิตของทุเรียนก็คือ 1. พันธุ์ก้านยาว เป็นพันธุ์ที่มีราคาแพง รสชาติหวานมันกลมกล่อม นิยมปลูกในจังหวัดนนทบุรี พันธุ์นี้เปลือกจะค่อนข้างหนา เนื้อเนียนละเอียด เมล็ดกลมใหญ่ หนามเรียงเป็นระเบียบ ราคาเริ่มที่ประมาณ 170 บาทต่อกิโลกรัม 2. พันธุ์หมอนทอง สายพันธุ์นี้มีกลิ่นไม่แรงมาก รสชาติหวานมัน ปลูกมากในจังหวัดจันทบุรี จังหวัดพังงา ลักษณะผลมีขนาดใหญ่ รูปร่างหนามแหลมตรง เนื้อละเอียดและแห้ง ไม่แฉะติดมือ เมล็ดเล็กและลีบ ราคาประมาณ 100-140 บาทต่อกิโลกรัม 3.พันธุ์ชะนี เป็นสายพันธุ์ที่นิยมนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนม เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีมทุเรียน มีกลิ่นแรง รสจัด มีผลขนาดปานกลางถึงใหญ่ หนามมีขนาดใหญ่สั้น เมล็ดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนเมล็ดน้อย แหล่งปลูกจะอยู่ที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ราคาประมาณ 70-140 บาทต่อกิโลกรัม และหากใครพลาดทุเรียนในช่วงหน้าร้อนนี้ไป แอดขอแนะนำทุเรียนภูขาไฟ จากจังหวัดศรีสะเกษที่จะออกผลในช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม มีสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน รสหวานมันไม่แฉะติดมือ ราคาจะเริ่มต้นที่ 170 บาทต่อกิโลกรัม สาวกทุเรียนคนไหนไม่เคยลอง แอดขอบอกเลยว่าห้ามพลาด ✨ มังคุด ✨ มาต่อกันที่ราชินีแห่งผลไม้ ซึ่งมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วรู้สึกชื่นใจ เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ เปลือกขั้วบนมีลักษณะคล้ายมงกุฎ จำนวนกลีบของเนื้อสังเกตได้จากจำนวนของกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือกนอก ปลูกกันมากในภาคใต้และภาคตะวันออก ในพื้นที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พังงาและสุราษฏร์ธานี มังคุด เป็นผลไม้แปลกในเรื่องของสายพันธุ์ เนื่องจากผลมังคุดพัฒนามาจากฐานรองดอก ไม่ได้มีการผสมเกสรของเพศผู้และเพศเมียเหมือนพืชผลชนิดอื่น ทำให้ไม่มีการกระจายตัวทางพันธุกรรม สายพันธุ์จึงไม่มีหลากหลายเหมือนผลไม้ชนิดอื่น ๆ ราคาของมังคุดโดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 60-120 บาท ต่อกิโลกรัม ✨ มะยงชิด ✨ ผลไม้ชนิดนี้เป็นฝาแฝดของมะปราง ออกผลเพียงปีละครั้ง แม้มะปรางและมะยงชิดจะคล้ายกันมากเพราะเป็นพืชในกลุ่มเดียวกัน แต่แอดก็มีวิธีสังเกตเพื่อการแยกแยะผลไม้ 2 ชนิดนี้มาฝาก ดังนี้ 1. สังเกตที่ลักษณะผลภายนอก มะปรางจะลูกเล็กกว่ามะยงชิด และหลังจากที่ผลสุกเต็มที่ สีของมะปรางจะออกเหลืองนวล ส่วนมะยงชิดจะออกสีเหลืองอมส้ม 2. ตอนผลดิบ มะปรางจะมีรสมัน สีออกเขียวซีด ส่วนมะยงชิดจะมีรสเปรี้ยว และสีเขียวค่อนข้างจัด เมื่อสุกแล้วมะปรางจะมีรสชาติหวานจืดไปจนถึงหวานจัด ส่วนมะยงชิดจะมีรสหวานอมเปรี้ยว 3. มะปรางบางสายพันธุ์เมื่อกินแล้วจะระคายในคอเพราะมียาง แต่มะยงชิดไม่มียาง กินอร่อย ไม่ระคายคอ พันธุ์มะยงชิดที่ได้รับความนิยม มี 3 สายพันธุ์ คือ 1. พันธุ์เพชรกลางดง ปลูกกันมากที่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นพันธุ์ที่ออกผลง่าย แหล่งกำเนิดอยู่ที่บ้านกลางดง จังหวัดกำแพงเพชร ผลใหญ่ รสหวาน เนื้อกรอบ 2. พันธุ์ทูลเกล้า เป็นพันธุ์ขึ้นชื่อของ จังหวัดนครนายก ผลมีขนาดเสมอกันทุกพวง เมล็ดลีบเนื้อในเยอะ รสหวานแหลม กลิ่นหอม 3. พันธุ์บางขุนนนท์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกกันว่า มะปรางเสวย แหล่งกำเนิดอยู่ที่ ตำบลท่าอิฐ จังหวัดนนทบุรี รสชาติหวานอมเปรี้ยว เป็นพันธุ์มะยงชิดที่เก่าแก่สายพันธุ์หนึ่ง โดยราคาของมะยงชิดโดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท ต่อกิโลกรัม แตงโม ผลไม้สุดฮิตช่วงหน้าร้อน มีเนื้อสีแดงหรือสีเหลืองแล้วแต่สายพันธุ์ มีเนื้อฉ่ำน้ำ กรอบ รสหวาน เย็นชื่นใจ ยิ่งแช่เย็นยิ่งสดชื่น กินแบบสดก็อร่อย นำมาปั่นเป็นน้ำแตงโมดับกระหายก็ดี บางคนก็เอามาทำเป็นของว่างอย่างปลาแห้งแตงโมก็น่ารับประทานมาก แหล่งปลูกแตงโมกระจัดกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น จังหวัดกาญจนบุรี นครราชสีมา ยโสธร สกลนคร สระแก้ว สุโขทัย นครสวรรค์และอยุธยา โดยสายพันธุ์ยอดฮิตก็คือ 1. แตงโมจินตหรา ผลยาวรี เปลือกเขียวเข้มสลับลายเขียวอ่อน เนื้อละเอียดสีแดง กรอบ เปลือกอ่อน ราคาประมาณกิโลกรัมละ 6-10 บาท 2. แตงโมตอร์ปิโด ผลจะยาวรีกว่าพันธุ์จินตหรา เปลือกเหนียว เนื้อหยาบสีแดงสด แน่น หวาน กรอบ ราคาประมาณกิโลกรัมละ 9-15 บาท 3. แตงโมกินรี ผลกลม เปลือกเขียวเข้มสลับลายเขียวเข้มเกือบดำ เนื้อละเอียดสีแดง กรอบ เปลือกอ่อน ราคาประมาณกิโลกรัมละ 12-16 บาท

✨ ผลไม้ช่วงหน้าร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ✨

วันนี้แอดอยากชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ นั่นคือ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดสวยบนเกาะรัตนโกสินทร์ที่นอกจากจะมีศิลปกรรมที่งดงามแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสที่เราจะได้ท่องเที่ยวไปพร้อมกับทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเวลาเดียวกัน เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร 1 ใน 6 ของไทย ที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2350 เพื่อให้เป็นวัดใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์เปรียบดังเช่นวัดพนัญเชิงวรวิหาร ของกรุงศรีอยุธยา ก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ใช้เวลาในการก่อสร้างรวม 40 ปี และยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 🌟 พระวิหารหลวง 🌟 สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เพื่อประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)” ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) ถือเป็นองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบหล่อสำริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย และที่ใต้ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์ของพระศรีศากยมุนี บรรจุพระบรมราชสรีรังคารของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ภายในพระวิหารหลวงมีจิตรกรรมฝาผนังต้นแบบสัตว์หิมพานต์ที่งดงาม รวมถึงจิตรกรรมฝาผนัง เปรตวัดสุทัศน์ ที่โด่งดัง ซึ่งเป็นภาพเปรตตนหนึ่งนอนพาดกายอยู่ โดยมี พระสงฆ์กำลังยืนพิจารณาสังขาร ใครอยากเห็นภาพจิตรกรรมที่ขึ้นชื่อนี้ ต้องเดินไปด้านหลังพระประธาน โดยภาพจิตรกรรมดังกล่าวอยู่ที่เสาด้านขวา นอกจากนี้ ด้านหลังขององค์พระศรีศากยมุนี ยังเป็นที่ตั้งของ “แผ่นศิลาจำหลักสมัยทวารวดี” สลักเรื่องพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาติหาริย์ 🌟 พระสุนทรีวาณี 🌟 พระสุนทรีวาณี คือรูปเปรียบพระธรรม ที่สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) ดำริสร้างขึ้นด้วยการผูกลักษณาการจากบทปณามคาถาบูชา พระธรรมที่ปรากฎในบานแพนกของคัมภีร์สุโพธาลังการ สัททาวิเสส มีลักษณะเป็นเทพธิดาประทับนั่ง บนดอกบัว ยกพระหัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก เทพธิดาเปรียบเหมือนพระธรรม ดอกบัวเปรียบเหมือนพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า อาการกวักเปรียบเหมือนเชิญน้อมเข้ามาสู่ตน พระสุนทรีวาณี (ลอยองค์) ประดิษฐานภายในพระวิหารหลวง เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะได้ ส่วนภาพพระสุนทรีวาณี ประดิษฐานภายในตำหนักสมเด็จพระสังฆราช (แพ) (ไม่เปิดให้เข้ากราบสักการะ)  พระอุโบสถ  ถูกจัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ภายในเป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติฝีมือช่างในรัชสมัยเดียวกัน ด้านในประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดให้สร้างอสีติมหาสาวก จำนวน 80 องค์ นั่งพนมมือฟัง พระบรมพุทโธวาทเบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้า ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระกริ่งใหญ่ และท้าวเวสสุวรรณ พระกริ่งใหญ่นี้ ใช้ในพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ถือเป็นพระกริ่งที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่วนองค์ท้าวเวสสุวรรณ ถือเป็นเทวดาที่มีบารมี มีนักท่องเที่ยวให้ความศรัทธา เดินทางมาขอพรอย่างไม่ขาดสาย  พระพุทธเสรฏฐมุนี หรือ พระกลักฝิ่น  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ ศาลาการเปรียญ หล่อจากกลักฝิ่นที่ทำจากทองแดง ทองเหลือง ในยุคปราบฝิ่น พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี” แปลว่า พระผู้ประเสริฐสุด มีความหมายว่า ผู้ติดสิ่งเสพติดทั้งหลาย สามารถกลับใจเป็นคนดีได้เสมอ ย่อมสว่างรุ่งเรือง เหมือนพระพุทธรูปที่ทรงสร้าง อันจะเป็นพลัง แข็งแกร่งชนะจิตใจให้เหินห่างสิ่งเสพติด ได้ ถือเป็นพระกลักฝิ่นที่มีเพียงองค์เดียวในโลกปัจจุบันมีผู้ศรัทธามาสักการะเป็นจำนวนมาก ด้วยมีความเชื่อว่า สามารถขอถอนคำอธิษฐาน คำสัญญา คำสาบาน และแก้กรรมได้  สัตตมหาสถาน  คือการจำลองเหตุการณ์พระพุทธเจ้าทรงเสวย วิมุตติสุขหลังตรัสรู้ ในสถานที่สำคัญ 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่วัดสุทัศน์ฯ เป็นวัดที่ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่นๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ นั่นเอง   พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8  ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของพระวิหารหลวง มีเรื่องเล่าว่า ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ยังทรงพระเยาว์และได้เสด็จฯมายังวัดสุทัศน์ ฯ นั้น ได้ตรัสว่า เป็นวัดที่เงียบสงบ น่าอยู่ หลังเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรังคาร มาบรรจุที่ใต้ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี ในพระวิหารหลวง ซึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี จะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคคต  ประชาชนผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมทำวัตรที่วัดสุทัศน์ฯได้ทุกวัน  พระอุโบสถ ทำวัตรเช้า 8.30 น. ทำวัตรเย็น 16.00 น.  พระวิหารหลวง ทำวัตรกลางวัน 12.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ 13.00 น.) ทำวัตรค่ำ 18.30 น. การเดินทาง : รถประจำทางสาย 10 ,12, 19 ,35 ,42 รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงที่สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อประมาณ 600 เมตร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.00 น.  02 222 6932, 02 222 9635 https://goo.gl/maps/hJTz7fU7oJm

✨ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยววิถีชุมชน ยลเมืองเพชร ✨

เวลานึกถึงเพชรบุรี ถ้าไม่ใช่ทะเล เพื่อน ๆ คิดออกไหมว่าจะไปไหนดี หากยังไม่มีไอเดีย แอดมินจะขอพาไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสนุกกับกิจกรรมในชุมชนเล็ก ๆ ที่น่ารักในจังหวัดเพชรบุรีกันค่ะ  วันที่ 1 1 ชมพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) 2 เช็คอินกินขนมอร่อยที่ สวนตาลลุงถนอม 3 ผ่อนคลายสบายผิว ที่ กังหันทอง  วันที่ 2 4 ชมธนาคารต้นไม้ และกิจกรรมมากมาย ที่ ชุมชนบ้านถ้ำเสือ การเดินทาง  รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง หรือรถตู้ประจำทาง สามารถขึ้นได้ทั้งที่สถานีขนส่งหมอชิตและสายใต้  วันที่ 1 พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน)  “พระรามราชนิเวศน์” หรือที่รู้จักในชื่อ “พระราชวังบ้านปืน” สถานที่ประทับแปรพระราชฐานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี พระราชวังบ้านปืนเป็นอาคารสีขาว 2 ชั้น สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ด้านหน้าอาคารมีพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ชั้นล่างเป็นท้องพระโรงกลาง ห้องเสวยและห้องครื่อง ส่วนชั้นบนเป็นห้องบรรทมและห้องทรงพระอักษร  ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมฟรี ใครยังไม่เคยมาชม แอดแนะนำเลยค่ะ สวยงามมาก ๆ  ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายใน  ตำบลบ้านปืน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.  0 3242 8506-10 ต่อ 259 https://goo.gl/maps/ypgnYY1yDCmQo3wMA สวนตาลลุงถนอม  เพชรบุรี ได้ชื่อว่ามีต้นตาลและสวนตาลจำนวนมาก แน่นอนว่าเราก็ต้องไม่พลาด แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมและเรียนรู้เรื่องตาลที่ “สวนตาลลุงถนอม” ผู้ตั้งใจที่จะอนุรักษ์ต้นตาลไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเพชรบุรี ที่สวนตาลแห่งนี้ปลูกต้นตาลไว้กว่า 400 ต้น ไม่เพียงเป็นสวนเกษตรแต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องตาลที่มีชื่อเสียงอีกด้วย สัมผัสแรกที่ได้เห็นก็คือ แนวต้นตาลที่ปลูกเรียงเป็นแถวอย่างสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ  ที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การชมการขึ้นตาล การทำขนมตาล เคี่ยวน้ำตาล ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นการสาธิตให้นักท่องเที่ยวชมเท่านั้น แต่ยังเป็นวิถีชีวิตและอาชีพที่ชาวสวนตาลตัวจริงเสียงจริงสืบทอดจากบรรพบุรุษมาจนปัจจุบัน  หลังชมกิจกรรมแล้วก็อย่าพลาดการลองชิมน้ำตาลสด และน้ำตาลโตนดแสนอร่อย รวมทั้งขนมตาลหอม ๆ ที่เพิ่งออกจากเตากันนะ  ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น.  08 7800 7716 https://goo.gl/maps/C3uHrEJxNLV3S8P47 สปาเกลือกังหันทอง ในวันที่ร่างกายเหนื่อยล้า หลายคนเลือกผ่อนคลายด้วยการไปสปา แอดจะพาไป “กังหันทอง”แหล่งผลิตเกลือสปาที่มีชื่อเสียงของเพชรบุรี ซึ่งเลือกสรรสุดยอดเม็ดเกลือก็คือดอกเกลือบริสุทธิ์มาผสมผสานกับสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เปี่ยมคุณภาพ ชื่อ “กังหันทอง” มีที่มาจากวิธีการทำนาเกลือในอดีตที่ใช้กังหันลมผันน้ำเข้าสู่นาเกลือ ส่วนดอกเกลือบริสุทธิ์ที่ได้ก็เปรียบเสมือนทองคำบนผืนนาเกลือนั่นเอง ที่นี่มีกิจกรรมหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฟังบรรยาย ชมสาธิตการทำเกลือสปา หรือผ่อนคลายด้วยการทำสปาเท้าแช่น้ำดอกเกลือ รวมไปถึงการนวดบำบัดความเครียด โดยปกติแล้วการนวดจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากเพื่อน ๆ ต้องการไปในวันธรรมดา ต้องติดต่อล่วงหน้า 1 วันเพื่อเตรียมสถานที่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์จากดอกเกลือให้เพื่อน ๆ ได้เลือกช้อปปิ้ง น่าใช้ไปหมดเลยค่ะ   ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.  086 544 4473 https://goo.gl/maps/ePeU1nbHMtEycTxK9 ตะวันใกล้ลับฟ้า หากเพื่อน ๆ ยังไม่มีแผนเรื่องที่พัก แอดขอแนะนำ โฮมสเตย์ บ้านถ้ำเสือ ชุมชนท่องเที่ยวที่แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปทำกิจกรรมในวันถัดไปนั่นเอง มีทั้งแบบบ้านพัก หรือจะกางเต็นท์ก็น่าสนใจไม่น้อย สามารถสอบถามราคากับทางชุมชนได้โดยตรง   วันที่ 2 ชุมชนบ้านถ้ำเสือ  ชุมชนบ้านถ้ำเสือเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขา นอกจากจะมีความร่มรื่นน่าไปเยี่ยมชมแล้ว ที่นี่ถือเป็นชุมชนต้นแบบในการอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน มีโครงการธนาคารต้นไม้ สนับสนุนโดย ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนหันมาปลูกต้นไม้ และเห็นคุณค่าต้นไม้ในเชิงเศรษฐกิจ  ในชุมชนมีกิจกรรมให้เรียนรู้และลงมือทำหลายอย่าง เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้เลยค่ะ แต่มาแล้วทั้งที แอดขอเลือกกิจกรรมแบบเต็มวันให้จุใจไปเลยแล้วกัน เริ่มจากเยี่ยมชมธนาคารต้นไม้ ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ปลูกป่า ทำไข่เค็มดินสอพองอัญชัน ทำทองม้วนตาลโตนด และกิจกรรมล่องเรือยางสะพานสองพี่น้อง โดยทั้งหมดนี้มีค่ากิจกรรมอยู่ที่ 650 บาท/คน คุ้มมาก ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-5 วัน และอย่างน้อย 5 คนขึ้นไป เพื่อให้ทางสถานที่ได้เตรียมการต้อนรับ มื้อเที่ยงก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะทางชุมชนจะจัดอาหารให้ด้วย เมนูแนะนำได้แก่ น้ำพริกกะปิกุ้งสด ปลาตะเพียนทอดกรอบ ยำผักกรูด ซึ่งแต่ละเมนูก็ใช้วัตถุดิบที่เป็นผลผลิตของชุมชนนี่เอง  สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาพักหรือมาทำกิจกรรมที่นี่ ก็ยังสามารถมารับประทานอาหารอร่อย ๆ ได้ที่โซนร้านอาหารของชุมชน แต่แนะนำว่าให้ติดต่อกับทางชุมชนล่วงหน้า ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก เพจ โฮมสเตย์ บ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน  เลขที่ 8 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น. (เปิดให้เข้ามากางเต็นท์ได้ตั้งแต่ 09.00-21.00 น.)  0811303835 https://goo.gl/maps/ePeU1nbHMtEycTxK9

✨ เที่ยววิถีชุมชน ยลเมืองเพชร ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨

หลายคนอาจพอได้ยินเรื่องพระธาตุประจำปีเกิด และเคยไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของตนเองมาแล้ว แต่เคยสงสัยไหมว่า พระธาตุประจำปีเกิดถูกกำหนดขึ้นอย่างไร แอดสงสัยค่ะ จึงไปหาความรู้มาฝาก ชุธาตุ หรือพระธาตุประจำปีเกิด เป็นความเชื่อของชาวล้านนาในเรื่องการบูชาพระธาตุเจดีย์องค์สำคัญในวัฒนธรรมล้านนา ชาวล้านนามีความเชื่อว่า ก่อนที่มนุษย์จะมาเกิดในครรภ์มารดา ดวงจิตได้เคยสถิตอยู่กับต้นไม้ ซึ่งมีภูตผีหรือสัตว์รักษาอยู่ แต่ด้วยความไม่เหมาะสม ที่ดวงจิตของมนุษย์จะอยู่กับอมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย ดวงจิตของมนุษย์ก่อนกำเนิด จึงได้ลาไปจากต้นไม้ดังกล่าว เพื่อไปสถิตกับพระธาตุที่ต่างกันไป ตามที่สัตว์ประจำนักษัตรพาไปพัก เพื่อรอการถือกำเนิดขึ้น ความเชื่อเหล่านี้ทำให้ชาวล้านนามีความผูกพันกับพระธาตุประจำปีนักษัตรของตน และเชื่อว่าการได้ไปสักการะจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต โดยพระธาตุประจำปีเกิดอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้ 🌟 คนเกิดปีชวด สักการะ พระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีฉลู สักการะ พระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง 🌟 คนเกิดปีขาล สักการะ พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ 🌟 คนเกิดปีเถาะ สักการะ พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน 🌟 คนเกิดปีมะโรง สักการะพระธาตุวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีมะเส็ง สักการะ พระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธยาประเทศอินเดีย หรือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิพุทธคยา วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจดีย์เจ็ดยอด) จังหวัดเชียงใหม่ แทน 🌟 คนเกิดปีมะเมีย สักการะ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า หรือ พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดตาก แทน 🌟 คนเกิดปีมะแม สักการะ พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีวอก สักการะ พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม 🌟 คนเกิดปีระกา สักการะ พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน 🌟 คนเกิดปีจอ ให้ปล่อยโคมเพื่อสักการะพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือ สักการะพระธาตุวัดเกต จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีกุน สักการะ พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลจากพระธาตุประจำปีเกิดของตน ไม่สะดวกเดินทาง ก็สามารถหารูปภาพพระธาตุประจำปีเกิดมากราบไหว้ที่บ้านได้ และเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เมื่อเดินทางไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตกันแล้ว ก็อย่าลืมแวะท่องเที่ยวระหว่างทาง เสาะหาอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ และซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤📍ถ่ายรูปบึงบัว #ทุ่งสามร้อยยอด📍ชมความงดงามของ #ถ้ำพระยานคร เมืองสามอ่าว เที่ยวสบาย มีธรรมชาติหลากหลายให้ได้ลองมาสัมผัส มาปักหมุดกันที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ในพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย สามารถมาเดินพักผ่อนชมบึงบัวทุ่งสามร้อยยอดในเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานชมทุ่งบัวที่ทอดยาวออกไปกลางน้ำ มีฉากหลังเป็นทิวเขาหินปูน ถ่ายรูปสวยมาก ๆ ใกล้ ๆ กันยังมีไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตในสามร้อยยอด ก็คือ “ถ้ำพระยานคร” ถ้ำบนเทือกเขาใหญ่เลียบทะเล มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ภายในถ้ำมีปล่องขนาดใหญ่ด้านบน ทำให้แสงสามารถสาดส่องลงมาถึงภายในกระทบกับ “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” พอดี เป็นภาพที่สวยสะดุดตา และงดงาม อลังการมากๆ ถ้าไปประจวบฯ ต้องห้ามพลาดเลยล่ะ ติดต่อ : อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่อยู่ : หมู่ 2 บ้านเขาแดง ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น. โทร : 032 – 821568 พิกัด : https://goo.gl/maps/iNh2T3hrsPtjFBph6 ชมรูปภาพเพิ่มเติมผ่าน Facebook ได้ที่ : https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/7094387910633228

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤 อ่านเพิ่มเติม

วิธีลดขยะอาหารในบ้าน🍝🥗🍗🥦

ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คงจะมีเพื่อน ๆ หลายคน WFH ทำให้ต้องทำอาหารกินเองที่บ้าน หรือสั่งเดลิเวอรี่กันมา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าภายในบ้านจะมีปริมาณขยะจากอาหารเพิ่มมากขึ้น (Food Waste) วันนี้แอดมาแบ่งปันไอเดียการลดขยะอาหารภายในบ้านให้เพื่อน ๆ ได้นำไปปรับใช้ นอกจากจะได้ลดขยะจากอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยโลกกันคนละไม้ละมือจากที่บ้านด้วย จัดเก็บวัตถุดิบให้เห็นชัดและวางแผนการซื้ออาหารให้พอเหมาะ จัดระเบียบตู้เย็น เก็บวัตถุดิบที่ใหม่กว่าไว้ด้านในสุด เพื่อจะได้ทะยอยใช้วัตถุดิบไปตามลำดับ ไม่หลงลืมอาหารที่ถูกเก็บไว้นาน จัดเก็บอาหารในภาชนะถนอมอาหาร เพื่อยืดอายุของอาหารให้นานขึ้น วางแผนการซื้อ จดรายการอาหารก่อนซื้อ เพื่อเช็คความเหมาะสมและเพียงพอ ทำความเข้าใจความแตกต่างของคำว่า Expiry Date กับ Best Before Expiry Date (EXP/EXD) คือ อาหารจะหมดอายุ ณ วันที่ระบุไว้ ไม่ควรนำมารับประทานต่อเพราะอาจเป็นอันตรายได้ Best Before (BB/BBE) คือ อาหารนั้นยังมีรสชาติ ลักษณะ รวมถึงสารอาหารครบถ้วนจนถึงวันที่ระบุไว้ข้างฉลาก ถ้าเลยวันไป รสชาติอาจอร่อยน้อยลง คุณภาพลดลง แต่ยังนำมารับประทานต่อได้โดยไม่เป็นอันตราย คัดแยกขยะเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เศษอาหารสดสามารถนำไปหมักทำปุ๋ย หลังจากย่อยสลายแล้ว นำไปผสมกับดินเพื่อปลูกต้นไม้ได้ Regrow จากเศษผักที่สามารถนำไปปลูกใหม่ เช่น โหระพา สะระแหน่ ฯลฯ หรือผักผลไม้ที่มีเมล็ดก็สามารถเก็บเมล็ดไปปลูกใหม่ได้ นำไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น กากกาแฟนำไปเช็ดถูหม้อกระทะลดความมัน เปลือกมะนาวใช้หมักกับน้ำส้มสายชูนำมาใช้ถูพื้นได้ ฯลฯ

วิธีลดขยะอาหารในบ้าน🍝🥗🍗🥦 อ่านเพิ่มเติม

✨ ATT 19 ✨ อาร์ตสเปซย่านเจริญกรุง

หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชื่นชอบและเพลิดเพลินไปกับงานศิลปะ ของสะสมเก่าแก่ นิทรรศการต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้เบื่อแล้วล่ะก็ แอดมีสถานที่หนึ่งในย่านเจริญกรุงมาแนะนำค่ะ ATT 19 เป็นอาร์ตสเปซที่ไม่ได้มีเพียงห้องแสดงผลงาน หรือจัดวางของสะสมไว้ในตู้ในแบบพิพิธภัณฑ์ แต่เป็นการแบ่งสัดส่วนและจัดแสดงงานศิลปะต่าง ๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา น่าชมมาก หลังเดินผ่านประตูซุ้มต้นไม้เข้ามา ก็จะพบกับอาคารเก่าแก่ 2 ชั้น อายุกว่า 120 ปีตรงหน้า เดิมที่นี่เคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีน ก่อนจะถูกปรับปรุงให้กลายเป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการศิลปะที่สวยงาม มีการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว ไม่แออัด อาคารแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนนิทรรศการศิลปะ และโซนคาเฟ่ แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมงานศิลปะก่อนแล้วค่อยพาไปกินของอร่อยนะคะ  ก่อนจะมาเป็น ATT 19 เดิมทีเป็นธุรกิจร้านขายศิลปวัตถุและของสะสมมาก่อน จนกระทั่งย้ายมาตั้งอยู่ที่อาคารโรงเรียนเก่าแห่งนี้ และปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแกลเลอรี่ โดยมีแนวคิดที่อยากให้คนรักงานศิลปะรุ่นใหม่สามารถเสพงานศิลป์ได้อย่างเพลิดเพลินและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้มากขึ้น เมื่อเข้ามาด้านในอาคาร ชั้นแรกจะเป็นงานดีไซน์สวย ๆ มีทั้งเครื่องใช้ เซรามิก เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ซึ่งข้าวของที่เห็นภายใน ATT 19 แห่งนี้ ถ้าเพื่อน ๆ ชมแล้วถูกใจก็สามารถซื้อกลับไปได้นะ ชั้นที่สอง เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน โดยจะจัดแสดงนิทรรศการละ 1-2 เดือน มีทั้งผลงานของศิลปินอาชีพ นิสิตนักศึกษา รวมถึงนิทรรศการของทาง ATT 19 เอง  หลังจากชื่นชมงานศิลปะกันแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับ เพราะร้านกาแฟในแกลเลอรี่แห่งนี้บรรยากาศดีน่านั่งมาก  ATT 19 Café มีทั้งโซน In door ตากแอร์เย็นฉ่ำ และ Out door ใกล้ชิดธรรมชาติ เลือกนั่งได้ตามชอบ บรรยากาศดีไม่แพ้กัน เมนูมีทั้งเครื่องดื่มร้อนเย็น ขนมอบ ของว่าง ไปจนถึงมื้ออิ่ม เลือกได้ตามระดับความหิวเลยค่ะ  หากมีโอกาสหรือผ่านมาแถวนี้ ที่นี่เป็นอีกแห่งหนึ่งเลยที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ มาชมด้วยตัวเอง  19 เจริญกรุง 30 (ตรอกกัปตันบุช) แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร  เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 11.00-19.00 น.  062 887 6161 https://goo.gl/maps/M2PFWR4yy81Feq228 ATT 19  หากไม่ได้ขับรถมา สามารถเดินทางโดย 1. BTS ลงสถานีสะพานตากสิน แล้วต่อแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์มาที่ ATT 19 ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร 2. MRT ลงสถานีหัวลำโพง ใช้ทางออก 4 แล้วต่อแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์มาที่ ATT 19 ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร

✨ ATT 19 ✨ อาร์ตสเปซย่านเจริญกรุง อ่านเพิ่มเติม

🌱 อุทัยธานี…. เสน่ห์วิถีชีวิตคู่ธรรมชาติ 🌱

ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน จังหวัดอุทัยธานีเป็นเมืองรองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เอกลักษณ์ที่เป็นที่จดจำก็คือ ชุมชนชาวแพริมน้ำสะแกกรัง ในปัจจุบัน นอกจากชุมชนชาวแพที่ยังคงมีเสน่ห์ อุทัยธานียังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยมอีกมากมาย ทั้งแนวธรรมชาติและวัดวาอาราม วันนี้แอดอยากชวนไปเที่ยวตัวเมืองอุทัยธานี ไปชมวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบชาวแพริมน้ำ และชมธรรมชาติบนเกาะเทโพด้วยการปั่นจักรยาน มาดูว่าใน 1 วัน เราสามารถไปเที่ยวไหนกันได้บ้าง 1. ชมวิถีชีวิตชุมชนชาวแพริมน้ำ – นั่งเรือล่องแม่น้ำสะแกกรัง2. ตลาดเช้าริมน้ำสะแกกรัง – เลือกชิมอาหารท้องถิ่นยามเช้า3. วัดอุโปสถาราม – วัดเก่าแก่ริมลำน้ำสะแกกรัง หนึ่งในสัญลักษณ์ของจังหวัดอุทัยธานี4. เกาะเทโพ – เกาะสวรรค์ของนักปั่นจักรยาน  ชมวิถีชีวิตชุมชนชาวแพริมน้ำ – นั่งเรือล่องแม่น้ำสะแกกรัง แม่น้ำสะแกกรัง เป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอุทัยธานีมาตั้งแต่อดีต และยังเป็นแหล่งกำเนิดของ “ชุมชนชาวแพแม่น้ำสะแกกรัง” ชุมชนชาวแพแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งอยู่อาศัยต่อเนื่องกันมานานนับร้อยปีแล้ว เห็นเป็นเรือนแพอย่างนี้ แพทุกหลังมีเลขที่บ้านและทะเบียนบ้านอย่างถูกกฎหมาย มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้เหมือนบ้านบนบกทั่วไป โดยปัจจุบันเรือนแพมีจำนวนประมาณ 120 หลังเท่านั้น ซึ่งจากนี้จะไม่มีการออกทะเบียนบ้านให้เพิ่มอีกแล้ว ชาวแพมีอาชีพทำประมงน้ำจืด เลี้ยงปลาในกระชัง เช่น ปลาสวาย ปลาแรด และปลาเทโพ รวมทั้งแปรรูปปลาที่จับจากแม่น้ำสะแกกรังหรือแหล่งน้ำอื่น ๆ ทำเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม นำไปขายในตลาดเป็นรายได้ให้กับครอบครัว การนั่งเรือล่องแม่น้ำสะแกกรัง เป็นวิธีที่เราจะได้ชมวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวแพริมน้ำได้ดีที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดบริการเรือหางยาวล่องแม่น้ำได้ที่ผู้ประกอบการที่อยู่บริเวณท่าเรือชุมชนชาวแพแม่น้ำสะแกกรัง  ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี https://goo.gl/maps/bepeBxFdrg6ELKgA7  ตลาดเช้าริมน้ำสะแกกรัง  เป็นตลาดแบกะดินที่พ่อค้า แม่ค้า นำสินค้าจำพวกพืชผัก ผลไม้ อาหารสด อาหารท้องถิ่น รวมถึงปลาชนิดต่างๆ ที่ชาวบ้านจับมาได้จากแม่น้ำสะแกกรัง มานั่งขายกับพื้นตามวิถีดั้งเดิม ใครอยากเรียนรู้วิถีชีวิตของคนท้องถิ่นให้ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำว่าต้องมาตลาดเช้า เพราะจะทำให้เราได้เห็นว่าเขากินอยู่อย่างไร ตลาดเช้านี้ตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารตลาดสดเทศบาล ใกล้กับสะพานวัดโบสถ์ฝั่งตรงกันข้ามกับเกาะเทโพ  ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี https://goo.gl/maps/uAf6KmfPE8ApHEwCA  วัดอุโปสถาราม  เดิมชื่อวัดโบสถ์มโนรมย์ ชาวบ้านเรียกว่าวัดโบสถ์ เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำสะแกกรัง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ 2324 โดยพระสุนทรมุนี (จัน) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ต่อมา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2536 ภายในโบสถ์และวิหาร มีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่สวยงาม มีความโดดเด่นที่มณฑปแปดเหลี่ยม ลักษณะผสมแบบตะวันตก ที่ผนังด้านนอกมีลายปูนปั้นงดงาม และเนื่องเพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯมาทอดพระเนตรวัดอุโปสถาราม เมื่อครั้งเสด็จฯมาทรงเยี่ยมพสกนิกรชาวอุทัยธานี จึงมีการสร้างแพรับเสด็จบริเวณท่าน้ำหน้าวัด  ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี https://goo.gl/maps/p76qxAFojxgN4qwe6  เกาะเทโพ  เมื่อครั้งอดีต เกาะเทโพเคยเป็นแหลมที่ยื่นออกมาคั่นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังครั้นมีการขุดคลองเชื่อมในภายหลัง จึงกลายเป็นเกาะกลางแม่น้ำที่มีสะพานเชื่อมระหว่างตลาดสดเทศบาลและวัดอุโปสถารามซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนี้ ที่นี่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของจังหวัดอุทัยธานี และเป็นเส้นทางปั่นจักรยานยอดนิยมลำดับต้นๆของเมืองไทย เพราะบรรยากาศสองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งนา ป่าไฝ่ ไร่ข้าวโพด และสวนผลไม้ โดยเฉพาะสวนส้มโอ แถมบางจุดยังเป็นแหล่งรวมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อีกด้วย ระยะทางปั่นจักรยานมีให้เลือกตั้งแต่ระยะ 8, 15 ไปจนถึง 33 กิโลเมตร สามารถติดต่อ ขอแผนที่เส้นทางปั่นจักรยาน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี รีสอร์ตส่วนใหญ่บนเกาะเทโพ มีจักรยานให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักใช้ฟรี กรุณาสอบถามก่อนจองห้องพัก  ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี https://goo.gl/maps/pi3ZwpCPtzycJNj89 การเดินทาง รถยนตร์ : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที  รถโดยสารประจำทาง : มีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต ถนนกำแพงเพชร ทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 รถไฟ : ลงที่สถานีนครสวรรค์ แล้วต่อรถโดยสารประจำทาง ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ไปยังจังหวัดอุทัยธานี สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถไฟได้ที่ เว็บไซต์ : www.railway.co.th โทร : การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690

🌱 อุทัยธานี…. เสน่ห์วิถีชีวิตคู่ธรรมชาติ 🌱 อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดนันตาราม จ.พะเยา ✨

ในช่วงเดือนแห่งความรักนี้ แอดมีที่เที่ยวแบบ Unseen มาแนะนำ นั่นก็คือวัดนันตาราม จ.พะเยา เดิมวัดนี้มีชื่อว่า “วัดจองคา” เพราะเป็นวัดที่ใช้หญ้าคามุงทำเป็นหลังคา จนกระทั่ง พ.ศ.2467 พ่อเฒ่านันตา วงศ์อนันต์ คหบดีชาวปะโอ (ต่องสู้) ได้บูรณะวัดขึ้นใหม่ โดยจ้างช่างชาวพม่าจากลำปางมาออกแบบและก่อสร้างวิหารหลังใหม่ และได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดนันตาราม” เพื่อรำลึกถึงคุณความดีและเป็นอนุสรณ์แด่พ่อเฒ่านันตา วงศ์อนันต์ ผู้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด ปัจจุบัน วัดนันตาราม มีวิหารขนาดใหญ่ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง มีหลังคาซ้อนเป็นชั้นลดหลั่นกันสวยงาม นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ แล้ว ด้านหลังวิหารยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณอีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่ คือพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบมัณฑะเลย์ แกะสลักจากไม้สักทอง และลงรักปิดทอง โดยมีการแกะสลัก “คิวปิด” หรือกามเทพตัวน้อยไว้บนซุ้มเรือนแก้วด้านหลังองค์พระ ไปลองมองหากันดู คาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากตะวันตก นับเป็นการผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้ากันอย่างลงตัวทีเดียว ด้วยเหตุที่มีเทพคิวปิด (เทพแห่งความรัก) ประดับอยู่ วัดนันตาราม จึงเป็นที่นิยมของเหล่าคู่รักหนุ่มสาว ที่มักเดินทางไปขอพรไหว้พระ ด้วยความเชื่อว่าได้ทั้งบุญได้ทั้งความรักที่สมหวัง

✨ วัดนันตาราม จ.พะเยา ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿 ภูผาม่าน ดินแดนในม่านหมอกที่ขอนแก่น 🌿

#ภูผาม่าน ดินแดนในม่านหมอกที่ขอนแก่น โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูน สูดกลิ่นธรรมชาติห่างจากตัวเมืองแค่ 120 กม. เท่านั้น! พาร่างกายมาชาร์ตพลัง เพิ่มความสดชื่นกันที่ “อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน” อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีธรรมชาติอันงดงามให้เราได้สัมผัส ทุ่งนาสีเขียวขจีที่ถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาหินปูนน้อยใหญ่ มองไปแล้วรู้สึกสบายตาสบายใจ บรรยากาศในยามเช้ามีสายหมอกลอยละล่องอยู่รอบๆ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่ควรค่าต่อการมาสัมผัสด้วยตัวเอง 🦇🦇 และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่ คือ การมาชมค้างคาวที่ “ถ้ำค้างคาว” ในช่วงเวลา 17.30-18.30 น. ของทุกวัน ฝูงค้างคาวจำนวนมากจะบินเป็นริ้วขบวนออกมาจากถ้ำเป็นสายพลิ้วไหวไปมาน่าตื่นตาตื่นใจ ต้องลองไปสัมผัสดูสักครั้ง ☎️ ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูผาม่าน โทร 043-001753

🌿 ภูผาม่าน ดินแดนในม่านหมอกที่ขอนแก่น 🌿 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top