สถานที่ท่องเที่ยว

คลองสังเน่ห์ : Little AMAZON: พังงา

คลองสังเน่ห์ ตั้งอยู่ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา สามารถล่องเรือพายหรือเรือยนต์ขนาดเล็กเที่ยวชมทัศนียภาพ ระหว่างทางจะพบอุโมงค์ต้นไทรอายุนับร้อยปีที่แผ่กิ่งก้านสาขาสองฝั่งคลอง บางช่วงกิ่งก้านจะห้อยระย้าลงมาเหนือลำคลองเหมือนม่านอุโมงค์ต้นไทร ทัศนียภาพโดยรวมคล้ายลุ่มน้ำอะเมซอน จึงถูกขนานนามว่า “ ลิตเติ้ลอะเมซอน (The Little Amazon) ”

คลองสังเน่ห์ : Little AMAZON: พังงา อ่านเพิ่มเติม

✨ พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา จ.เชียงใหม่ ✨

พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 ที่นี่มีการอนุรักษ์และจัดแสดงเรือนล้านนาให้กับประชาชนทั่วไปได้ศึกษากว่า 10 หลัง แถมมียุ้งข้าวอีก 4 หลัง ซึ่งแต่ละหลังมีที่มาและประวัติของตนเอง ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของล้านนาในอดีต ที่ผ่านการดูแลให้คงสภาพเดิมที่ยังเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากที่นี่มีเรือนล้านนาโบราณหลายหลัง แถมแต่ละหลังมีรายละเอียดเยอะมาก แอดเลยขอแนะนำเรือนล้านนาและยุ้งข้าวส่วนหนึ่งให้กับเพื่อน ๆ โดยเริ่มที่  เรือนไทลื้อ (หม่อนตุด)  เรือนหม่อนตุด สร้างขึ้นจากการผสมผสานเรือนแบบไทลื้อผสมไทยวน โดยชาวไทลื้อจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีนที่ถูกกวาดต้อนเข้ามาอยู่ในเชียงใหม่ ที่บ้านลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด เมื่อปี พ.ศ. 2460 ปลายปี 2534 อาจารย์ศิริชัย นฤมิตรเรขการ ได้ทราบเรื่องการประกาศขายเรือนหม่อนตุดจาก ทางมูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ จึงตัดสินใจซื้อและมอบให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเก็บรักษาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวเชียงใหม่ โดยเป็นเรือนที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการอนุรักษ์เรือนโบราณล้านนาและจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับให้คนทั่วไปได้ศึกษา และในเดือนมกราคม พ.ศ. 2537 ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ประกอบพิธีขึ้นเฮือนใหม่ โดยมีเจ้าหม่อมคำลือ กษัตริย์องค์สุดท้ายของชาวสิบสองปันนา เป็นผู้ทำพิธีเปิดเรือนและอุทิศส่วนกุศลไปให้หม่อนตุดเจ้าของเรือนผู้ล่วงลับ ตัวเรือนหม่อนตุดเป็นเรือนไม้ขนาดกลางมุงหลังคา “แป้นเกล็ด” ลักษณะเป็น “เรือนสองหลังหน้าเปียง” (เรือนจั่วสองหลังวางต่อกันในระนาบเดียวกัน) ประกอบด้วยเรือน 2 หลังคือ “เฮือนนอน” และ “เฮือนไฟ” ตรงกลางระหว่างชายคาของเรือนทั้งสองเชื่อมต่อกันทำเป็นรางน้ำฝน เรียกว่า “ฮ่อมริน” ล้อมรอบตัวเรือนด้วยเติ๋น  เรือนกาแล (พญาวงศ์)  เรือนพญาวงศ์ เป็นชื่อที่ได้มาจากเจ้าของเรือน กำนันแห่งบ้านสบทา จาก จ.ลำพูน สร้างโดยลูกเขยของพญาวงศ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2440 แต่หลังจากพญาวงศ์เสียชีวิต ไม่มีผู้สืบทอดและอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ทางเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้าและเจ้าคณะ จึงได้ติดต่อขอซื้อเรือนแล้วทำการรื้อย้ายมาปลูกสร้างไว้ที่วัดสุวรรณวิหาร บ้านแม่อาว ต่อมามีชาวสิงคโปร์ได้ซื้อไว้และภายหลังเสียชีวิตลง มูลนิธิ ดร.วินิจ – คุณหญิงพรรณี วินิจนัยภาค ได้มอบเรือนหลังนี้และให้การสนับสนุนการรื้อถอนและย้ายมาปลูกไว้ที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2541 ตัวเรือนพญาวงศ์ เป็นหลังคาทรงจั่วแฝด ยอดจั่วมี “กาแล” เป็นไม้แกะสลักวางไขว้กันอยู่ มี “เติ๋น” (ชานเรือน) อยู่ด้านหน้าของเรือนพร้อมบันไดทางขึ้น ไม่มีหลังคาคลุม มี “เฮือนนอน” 2 หลังคู่กัน  เรือนกาแล(อุ๊ยผัด)  เรือนอุ๊ยผัด เป็นของ อุ๊ยผัด โพธิทา จาก อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สันนิษฐานว่าตัวเรือนสร้างในปี พ.ศ. 2456 โดยทาง มูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ (มูลนิธิที่สนับสนุนสถาบันการหาความรู้ทางโบราณคดี เกษตรกรรม วัฒนธรรมและศิลปกรรมไทย) และ อาจารย์ศิริชัย นฤมิตรเรขการ เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์เรือนนี้ จึงนำเรือนนี้มาปลูกไว้ในบริเวณที่ตั้งของสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2537 ตัวเรือนขนาดกระทัดรัดทำจากไม้ทั้งหลังยกพื้นสูง หลังคามุงด้วย “แป้นเกล็ด” (กระเบื้องทำจากไม้เนื้อแข็ง) นอกจากเรือนอุ๊ยผัดจะมี “เฮือนนอน” และ “เฮือนไฟ” แล้ว ยังมี “ชานฮ่อม” ที่เป็นเหมือนชั้นไม้สำหรับวางหม้อน้ำอยู่ทางเข้าตัวเรือน ไว้บริการแขกผู้มาเยือนและคนในเรือนอีกด้วย มาต่อกันที่ยุ้งข้าวกันบ้าง ซึ่งภาคเหนือจะเรียกกันว่า “หลองข้าว” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่อยู่คู่กับเรือนของชาวล้านนา ใช้สำหรับเก็บข้าวเปลือกไว้กินตลอดทั้งปี อีกทั้งหลองข้าวยังถือเป็นหน้าตาของเจ้าบ้าน ว่ากันว่า หลองข้าวบ้านใครใหญ่ เจ้าของบ้านจะมีฐานะ โดยวันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มาเริ่มดูกันที่  ยุ้งข้าวป่าซาง(นันทขว้าง)  หลองข้าวขนาดใหญ่ของตระกูลนันทขว้าง เดิมอยู่ในเขต อ.ป่าซาง จ.ลำพูน โดยมีคุณโสภา เมืองกระจ่าง (นันทขว้าง) เป็นเจ้าของ ต่อมามีการบริจาคให้อยู่ในความดูแลของพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2559 หลองข้าวป่าซาง(นันทขว้าง) สันนิษฐานจากสถาปัตยกรรมว่า สร้างมาแล้วประมาณอายุได้ 150-170 ปี บริเวณเสาช่วงกลางหลองข้าวมีร่องรอยบากไม้ เพื่อนำแผ่นไม้มาใส่กั้นเป็นห้องเก็บข้าว มีการแกะสลักรูปนกยูงหน้าจั่วทั้งสองด้านและดัดแปลงทางขึ้นเพิ่ม โดยการต่อเติมบันไดถาวรขึ้นลงทางด้านหน้า (หลองข้าวดั้งเดิมไม่มีทางขึ้นถาวร ต้องใช้บันไดไม้พาดเพื่อขึ้นลง)  ยุ้งข้าวเปลือย  สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยใช้เสาหลองข้าวเก่าและไม้ที่เหลือจากการซ่อมแซมเรือนในพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาสร้างตามต้นแบบหลองข้าวทรงแม่ไก่ในบ้าน อาจารย์วิถี พานิชพันธ์ เป็นหลองข้าวขนาดเล็ก มี 6 เสา ต่างจากหลองข้าวทั่วไปที่จะมีอย่างน้อย 8 เสา ใช้เก็บข้าวโดยใส่ข้าวเปลือกไว้ในเสวียน (เครื่องสานขนาดใหญ่ มักทำเป็นทรงกลมไม่มีฝา สานด้วยซีกไม้ไผ่) ที่พอกทับด้วยมูลวัวผสมยางไม้   ยุ้งข้าวสารภี  สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2450 โดยพ่อโต (เศรษฐี) ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 Professor Dr Hans-Jurgen Langholz และภรรยา Dr. Agnes Langholz ได้ให้การสนับสนุนในการย้ายหลองข้าวหลังนี้มาไว้ที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลองข้าวสารภีเป็นอาคารไม้ขนาดกลาง ยกใต้ถุนสูงเพื่อเก็บอุปกรณทางการเกษตร ตัวเรือนตีไม้ปิดทึบเป็นห้องเอาไว้เก็บข้าว ล้อมรอบด้วยระเบียงชั้นนอก มีเสาไม้กลมจำนวน 8 ต้น  หากสนใจเข้าชม สามารถติดต่อได้ที่อาคารสำนักงานของพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทางด้านหน้าได้เลย รับรองการเยี่ยมชมเรือนโบราณล้านนา จะมอบประสบการณ์และความรู้ใหม่ ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ซึมซับแบบจุใจมากแน่ ๆ

✨ พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา จ.เชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ 15 พิกัดที่เที่ยวอยุธยา ✨

พระราชวังบางปะอิน ✨ พระราชวังบางปะอิน เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 พระราชวังแห่งนี้ถูกปล่อยทิ้งร้าง กระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงได้เริ่มการบูรณะฟื้นฟู ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งยังคงใช้เป็นที่ประทับ ต้อนรับพระราชอาคันตุกะและพระราชทานเลี้ยงรับรองในโอกาสต่าง ๆ พระราชวังแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ หอเหมมณเฑียรเทวราช พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระที่นั่งเวหาศจำรูญ หรือ เทียนเม่งเต้ย หอวิทูรทัศนา ตำหนักเก้าห้อง เรียกได้ว่า พระราชวังแห่งนี้มีความงดงามมาก แถมยังมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมของตะวันตกและจีนเข้าด้วย 😍 วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร  อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในอำเภอบางปะอินคือ “วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร” เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดฯ ให้สร้างเพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ ขณะเสด็จมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน ความพิเศษของวัดแห่งนี้ คือ เป็นวัดไทยที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก ภายในพระอุโบสถตกแต่งอย่างงดงาม หน้าต่างประดับกระจกสีอย่างโดดเด่น เนื่องจากวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางเข้าถึงวัดนี้จริงมีเส้นทางพิเศษคือการนั่งกระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำ กระเช้าจะออกทุก ๆ 5-10 นาที ไม่มีค่าใช้จ่าย นั่งได้ไม่เกิน 10 คน/ครั้ง วัดมหาธาตุ ✨ วัดสำคัญแห่งนี้มีพระปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม พงศาวดารบางฉบับกล่าวว่าวัดนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อ พ.ศ. 1927 ปัจจุบันภายในวัดก็ยังคงหลงเหลือโบราณสถานและพระปรางค์ประธานให้เราได้ชมกัน นอกจากพระปรางค์ประธานแล้ว ยังมีเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งรูปแบบและลวดลายที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลล้านนา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจภายในวัดแห่งนี้ คือ เศียรพระพุทธรูปหินทรายที่มีรากไม้ปกคลุม ดูสวยงามแปลกตา วัดราชบูรณะ  ไม่ไกลจากวัดมหาธาตุ คือ “วัดราชบูรณะ” เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานที่สำคัญ สร้างขึ้นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระศพเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา เมื่อคราวเสียกรุง วัดนี้เกิดความเสียหายอย่างมาก จากซากโบราณสถานในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าวิหารและส่วนต่าง ๆ ของวัดนี้มีความใหญ่โตมาก ปรางค์ประธานขนาดใหญ่ของวัดนี้ ก่อด้วยอิฐและศิลาแลง ภายในปรางค์มีกรุซึ่งเคยขุดพบสิ่งของมีค่าต่าง ๆ เช่น เครื่องราชูปโภคที่ทำด้วยทองคำ มงกุฎ พระพุทธรูป พระพิมพ์ และของมีค่าอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ปัจจุบันโบราณวัตถุที่ยังหลงเหลืออยู่ได้นำไปจัดเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี่เอง หอมกลิ่น Thai Dessert Cafe  มาถึงอยุธยา คงต้องหาขนมไทยอร่อย ๆ ชิมสักร้าน ที่ “หอมกลิ่น Thai dessert Cafe” คาเฟ่ขนมไทยที่ไม่ได้มีดีแค่ขนมไทย แต่ยังสามารถชมบรรยากาศวัดราชบูรณะจากมุมชั้นบนของร้านได้อย่างกว้างขวาง ที่นี่มีขนมไทยและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย แถมบรรยากาศในร้านก็ดีอีกด้วย หากใครมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมมาแวะกันนะ วัดไชยวัฒนาราม ✨ วัดแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง สร้างในปี พ.ศ. 2173 สมัยพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งสร้างขึ้นบริเวณนิวาสสถานเดิมของพระราชมารดา เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล และต่อมายังใช้เป็นที่ถวายพระเพลิงพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ด้วย สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดแห่งนี้ก็คือ ปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่กลางวัด และปรางค์บริวารทั้ง 4 มุม ระเบียงคดมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยตั้งเรียงอยู่ รวมทั้งเมรุทิศเมรุรายทางด้านหลัง แม้จะชำรุดไปบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความงดงามและองค์ประกอบต่าง ๆ ของวัดได้เป็นอย่างดี วัดพระศรีสรรเพชญ์  วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา ใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ พระสถูปเจดีย์ที่ตั้งเด่นเรียงกันทั้งสามองค์นี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 3 พระองค์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ในคราวแรกนั้นมีการสร้างเพียงสององค์ และหลังจากนั้นราว ๆ 30 ปี ได้มีการสร้างองค์ที่สามขึ้นมา พระสถูปเจดีย์ทั้งสามองค์เป็นทรงลังกา และมีการสร้างมณฑปขึ้นระหว่างเจดีย์แต่ละองค์ สันนิษฐานว่าสร้างภายหลัง ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง นอกจากนี้ ยังมีโบราณสถานที่สำคัญซึ่งอยู่ติดกับพระสถูปเจดีย์ ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เรียกว่าพระราชวังโบราณหรือพระราชวังหลวงนั่นเอง บ้านข้าวหนม  คาเฟ่ขนมไทยร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนนอู่ทองในเกาะอยุธยา ตัวร้านสีเขียวดูสบายตา ภายในตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ที่นี่มีทั้งขนมที่หาได้ทั่วไป ขนมไทยโบราณ และยังมีเครื่องดื่มเย็น ๆ จำหน่ายด้วยนะ ใครที่มาเที่ยวอยุธยาแล้วอยากชั่งชิล ๆ ในบรรยากาศไทย ๆ แอดแนะนำที่นี่เลย วัดโลกยสุธาราม  วัดแห่งนี้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง รัชสมัยสมเด็จพระนครินทราธิราช พระราชบิดาเจ้าสามพระยา ราว ๆ ปี พ.ศ. 1995 เป็นวัดที่มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ก่อด้วยอิฐถือปูน ยาว 42 เมตร พระเศียรมีดอกบัวรองรับ ผู้คนนิยมมากราบไหว้สักการะกันจำนวนมาก บ้านเวียงเหล็ก  แวะมานั่งชิล ๆ ในบรรยากาศไทย ๆ ที่ “บ้านเวียงเหล็ก” ที่นี่เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่ สำหรับโซนคาเฟ่จะอยู่ด้านหลัง ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำ ตั้งแต่ทางเดินเข้าไปจนถึงคาเฟ่มีบรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ ภายในร้าน ตกแต่งแบบไทยประยุกต์ รอบห้องติดกระจกใส ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัด ที่นี่มีทั้งอาหาร ของหวานและเครื่องดื่มให้บริการ ใครที่กำลังหาร้านอาหารอร่อย ๆ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก วัดใหญ่ชัยมงคล  ชื่อเดิมคือ “วัดป่าแก้ว” หรือ “วัดเจ้าพระยาไทย” สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 1900 สมัยพระเจ้าอู่ทองเพื่อเป็นสำนักสงฆ์ซึ่งไปบวชเรียนมาจากประเทศศรีลังกา จุดเด่นภายในวัดคือพระเจดีย์องค์ใหญ่ ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสร้างตั้งแต่เมื่อใด สันนิษฐานว่าอาจสร้างขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งเมื่อทำศึกยุทธหัตถีและมีชัยชนะกลับมา ให้เป็นอนุสรณ์สถาน ในวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมี “งานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล” แห่ผ้าห่มองค์พระเจดีย์เวียนรอบเกาะเมืองอยุธยาและทำพิธีห่มผ้าพระเจดีย์ หากใครที่มีโอกาส อยากไปร่วมงานบุญ อย่าลืมไปกันนะ  วัดพนัญเชิงวรวิหาร  วัดเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก สันนิษฐานว่ามีการสร้างมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ และมีเรื่องราวเกี่ยวกับ

✨ 15 พิกัดที่เที่ยวอยุธยา ✨ อ่านเพิ่มเติม

แกงฮังเล อาหารพื้นเมืองภาคเหนือ 🥘

ถ้าให้พูดถึงอาหารของทางภาคเหนือ “แกงฮังเล” คงจะเป็นหนึ่งในเมนูที่ถูกนึกถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ เนื่องด้วยรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ในช่วงที่พม่า(ในขณะนั้น)ได้เข้ามาปกครองอาณาจักรล้านนาจึงทำให้ได้รับอิทธิพลต่าง ๆ มาด้วยรวมถึง “แกงฮังเล” นี้ด้วย แกงฮังเล มี 2 ประเภท คือแกงฮังเลม่าน ส่วนผสมหลัก ผงฮังเล ผงขมิ้น น้ำมะขามเปียก ขิงหั่นฝอย ใส่เนื้อสัตว์เป็นหมูสามชั้นหรือหมูเนื้อสะโพก อีกประเภทคือ แกงฮังเลเชียงแสน ส่วนผสมหลักจะคล้าย ๆ กันแต่จะมีการใส่ผักอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา อย่างเช่นมะเขือพวง มะเขือยาว ถั่วฝักยาว สีน้ำแกงจะแตกต่างกันเนื่องจากแกงฮังเลเชียงแสนใส่ผักเยอะน้ำแกงจึงออกสีเขียว แกงฮังเลส่วนใหญ่จะสามารถหาทานได้ใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยลองทานต้องลองแล้วนะ อร่อยแน่นอน แอดรับประกันเลย 😋

แกงฮังเล อาหารพื้นเมืองภาคเหนือ 🥘 อ่านเพิ่มเติม

🌳”ป่าในกรุง” โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวบนที่ดินของ ปตท. 🌿

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยนะ ได้พักผ่อน เรียนรู้ และยังปลูกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ด้วย ไปชมภาพบรรยากาศและข้อมูลกันเลยค่ะ 😻 โครงการป่าในกรุง ก่อตั้งโดยสถาบันปลูกป่า ปตท. หรือ “PTT Green in the City” เพื่อส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืนนั่นเอง มองจากมุมสูงก็จะเห็นต้นไม้เขียว ๆ อย่างหนาแน่นเลยล่ะ ภายในโครงการป่าในกรุง ได้แบ่งสัดส่วนของพื้นที่ออกเป็น พื้นที่ป่า 75% พื้นที่น้ำ 15% และพื้นที่ใช้งาน 10% โดยมีจุดที่เราสามารถเข้าไปชม ไม่ว่าจะเป็นอาคารอเนกประสงค์ ห้องนิทรรศการ ห้องฉายภาพยนตร์ขนาดเล็ก และยังมีทางเดิน sky walk เป็นสะพานไม้ศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 200 เมตร มีมุมถ่ายรูปกันเพลิน ๆ หอชมป่า (Observation Tower) เป็นจุดชมวิวมุมสูง มีความสูง 23 เมตร นับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ เมื่อขึ้นไปแล้วเราก็จะได้เห็นบรรยากาศของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาเลยล่ะ  ระหว่างทางเดินมีอาคารเอนกประสงค์ มีโครงสร้างกำแพงเป็นดินบดอัด มีต้นไม้เลื้อยจากด้านบนของอาคารลงมาตามผนังให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติอีกด้วย  โซนนิทรรศการ (Exhibition Hall) ภายในได้จัดแสดงความเป็นมาของโครงการป่าในกรุง ทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปรากฏการณ์ธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้อ่านกันเพลิน ๆ

🌳”ป่าในกรุง” โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวบนที่ดินของ ปตท. 🌿 อ่านเพิ่มเติม

ดอกบัวตอง บานสะพรั่งทั่วหุบเขาบนดอยแม่อูคอ 🌼

ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุด บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ในทุก ๆ ปี ดอกบัวตองจะบานช่วงฤดูหนาวราว ๆ เดือนพฤศจิกายน และมีอายุประมาณ 1-2 เดือน 🗓 สำหรับปีนี้ จะมีพิธีเปิดในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 และคาดว่าจะบานเต็มทุ่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม นอกจากจะได้ชมดอกบัวตองเหลืองอร่ามงาม ๆ แล้ว 🌼 เพื่อน ๆ จะได้เพลิดเพลินกับภูเขาเขียวขจีที่รายล้อม พร้อมสัมผัสลมหนาวสุดฟิน และหากเพื่อน ๆ ที่มีแผนจะตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ใกล้ ๆ กัน ก็มีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่งเลยล่ะ เพื่อน ๆ ที่อยากอัปเดตข้อมูลก่อนเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่📞 องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ โทร. 053 615 987📞 ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 053 612 983 📍 ดอยแม่อูคอ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน🌐 https://goo.gl/maps/HHDyfea5L7EiZzFL8

ดอกบัวตอง บานสะพรั่งทั่วหุบเขาบนดอยแม่อูคอ 🌼 อ่านเพิ่มเติม

6 พิกัด 📍 น่าชมในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย ✨

ใกล้วันลอยกระทงแล้วเพื่อน ๆ วางแผนไปลอยกระทงที่ไหนกันบ้างหากใครวางแผนไปงานลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ ที่ จ.สุโขทัย วันนี้แอดมีที่เที่ยวในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยมาฝากเพื่อน ๆ ให้ทริปลอยกระทงนี้ ได้ทั้งสืบสานประเพณีวัฒนธรรมและยังได้ไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยรวมเอาอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เข้าเป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย ภายใต้ชื่อ ‘เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร’ มาดูกันเลยว่ามีวัดไหนห้ามพลาดบ้าง วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นวัดขนาดใหญ่มีเจดีย์รายกว่า 200 องค์ เจดีย์องค์ประธานคือเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์รายล้อมไปด้วยเจดีย์อีก 8 องค์ ข้าง ๆ เจดีย์ประธานเป็นวิหารหลวงเคยเป็นที่ประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี” ที่ปัจจุบันได้อันเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ในสมัยนั้นอีกด้วย วัดตระพังเงิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  วัดตระพังเงินอยู่ไม่ไกลจากวัดมหาธาตุมากนัก เจดีย์ประธานเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์มีพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนทั้ง 4 ทิศ มีวิหารอยู่หน้าเจดีย์ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดศรีสวาย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  วัดนี้จะแตกต่างจากวัดอื่น ๆ เนื่องจากภายในวัดเป็นพระปรางค์สามองค์คล้ายกับที่ลพบุรี นอกจากนี้ยังมีการค้นพบ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ศิวลึงค์ และชิ้นส่วนเทวรูปจึงสันนิษฐานว่าเคยเป็นเทวสถานมาก่อน วัดช้างล้อม อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพญาลิไท เจดีย์ประธานทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นประดับอยู่รอบเจดีย์ รวมทั้งหมด 39 เชือกลักษณะเด่นคือช้างจะยืนเต็มตัวแยกออกจากผนัง ช้างที่มุมเจดีย์จะมีขนาดใหญ่กว่าช้างที่ประดับโดยรอบ วัดเจดีย์เจ็ดแถว อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย วัดนี้ตั้งอยู่หน้าวัดช้างล้อม เจดีย์ประธานทรงพุ่มข้าวบิณฑ์และมีเจดีย์ภายในวัดเรียงรายกันถึง 33 องค์จึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่าเจดีย์เจ็ดแถว บริเวณเรือนธาตุทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกสีขาวสวยงาม ขอบคุณรูปภาพจาก ททท. สำนักงานสุโขทัย  วัดนางพญา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย  วัดนี่เป็นวัดที่ห้ามพลาดเลยเพื่อน ๆ เนื่องจากยังคงมีผนังของวิหารยังเหลืออยู่แม้จะมีด้านเดียวแต่ก็มองเห็นความสวยงามของลวดลายปูนปั้นนั้น ลวดลายปูนปั้นที่ยังคงเหลืออยู่ได้แก่ รูปกึ่งมนุษย์ รูปเทพนม รูปกึ่งวานร และรูปลายพันธุ์พฤกษาต่าง ๆ ผนังของวิหารวัดนางพญาที่ยังหลงเหลืออยู่

6 พิกัด 📍 น่าชมในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ แนะนำที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน ✨

สวัสดีทุกคน สิ้นเดือนแบบนี้ แอดจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวในเดือนพฤศจิกายนนิด ๆ หน่อย ๆ ให้กับเพื่อน ๆ เผื่อใครอยากเที่ยว แต่ยังไม่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาอ่านสถานที่ที่แอดนำมาเสนอประกอบการตัดสินใจกันได้เลย แต่ไปเที่ยวแล้วอย่าลืมรักษ์ธรรมชาติกันด้วยล่ะ สถานที่ท่องเที่ยวจะได้สวยงามไปนาน ๆ ให้เรากลับไปเที่ยวได้บ่อย ๆ #responsibletourism  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่  เริ่มต้นกันที่ภาคเหนือ อากาศเริ่มหนาวลงแล้ว แอดแนะนำ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุม อ.จอมทอง อ.แม่แจ่ม อ.แม่วาง อ.ดอยหล่อ ที่นี่มีที่ให้เที่ยวเยอะมาก เช่น นาขั้นบันไดป่าบงเปียง น้ำตกผาดอกเสี้ยว น้ำตกวชิรธาร เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ซึ่งตลอดเส้นทางจะเห็นทิวทัศน์สวย ๆ ของทิวเขาสลับซับซ้อนมากมาย แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ซึ่งคำว่า “หลวง” ในภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่ และคำว่า “อ่างกา” ในภาษาปกาเกอะญอ ก็แปลว่า ใหญ่ ซึ่งทั้งสองชื่อหมายถึงดอยที่มีขนาดใหญ่เหมือนกัน ในเวลาต่อมาดอยแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ดอยอินทนนท์” ตามพระนามของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 พระบิดาของเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั่นเอง เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน จะมีไกด์ท้องถิ่นพาเดินและแนะนำจุดน่าสนใจต่าง ๆ ระหว่างทาง จุดชมวิวเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา น้ำตกผาดอกเสี้ยว หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “รักจัง” น้ำตกวชิรธาร นาขั้นบันไดป่าบงเปียง หากมาหน้าฝนจะเจอภูเขาสีเขียวชุ่มฉ่ำ หากมาช่วงเริ่มหนาวจะเจอต้นข้าวสีเหลืองทองสวยงาม  ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา  สถานที่ต่อมา อยู่ใต้สุดของประเทศไทย นั่นก็คือทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ที่นี่มี Sky walk ที่สามารถชมวิวทะเลหมอกมุมสูงและเดินไปตามระเบียงทางเดินที่ยื่นออกไปจากฐาน ส่วนปลายคือระเบียงที่มีลักษณะเป็นพื้นกระจกใส ที่ Sky walk จะมีการจำกัดจำนวนคนในการเข้าชม ประมาณรอบละ 70 คน (รอบละ 15 นาที) เมื่อหมดเวลาจะมีเสียงกระดิ่ง เพื่อน ๆ ก็เดินลงบันไดที่อยู่บริเวณกลางสะพานลงมาได้เลย หากใครต้องการชมหมอกสวย ๆ พร้อมกับวิวพระอาทิตย์ขึ้น แอดแนะนำให้มาแต่เช้า รับรองวิวที่เห็นคุ้มกับการตื่นเช้าแน่นอน Skywalk อัยเยอร์เวง Skywalk อัยเยอร์เวง  อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี  ที่ต่อมาอยู่ภาคอีสาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้ป่าอย่างดอกสร้อยสุวรรณา ดุสิตา สรัสจันทร ทิพเกสรและมณีเทวา ออกดอกบานสะพรั่งบริเวณลานเสาเฉลียงคู่ นอกจากนี้ภายในอุทยานฯ ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงอารยธรรมมนุษย์โบราณและประติมากรรมธรรมชาติที่มีรูปทรงแปลกตา ทั้งภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกแสงจันทร์ ผาโสก รวมถึง “ผาชะนะได” จุดชมตะวันขึ้นที่แรกของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเยือน จุดชมตะวันขึ้นที่แรกของประเทศไทย “ผาชะนะได” ผาโสก น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกสุดสวยของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกห้วยพอก  ทุ่งปอเทืองไร่ธรรมชัย จ.นครสวรรค์  ทุ่งดอกไม้สวยของ จ.นครสวรรค์ ที่เต็มไปด้วยปอเทืองสีเหลืองเต็มทุ่งตัดกับแนวภูเขาสีเขียว ที่จะบานในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มีจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดคือบันไดลอยฟ้า ซุ้มถ่ายภาพ ระเบียงชมวิวบริเวณกลางทุ่ง เนื่องจากทุ่งปอเทืองที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก แอดแนะนำให้เตรียมร่มและหมวกมาด้วย เพราะแดดค่อนข้างแรง ดอกปอเทือง ไร่ธรรมชัย กลางไร่มีจุดถ่ายรูป บันไดลอยฟ้า ใครอยากได้รูปสวย ๆ อย่าพลาดล่ะ  เกาะช้าง จ.ตราด  ปิดท้ายกันที่เที่ยวทะเลบ้าง สำหรับสภาพภูมิอากาศของเกาะช้างระหว่างเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ จะมีอากาศเย็นสดชื่น ท้องฟ้าโปร่งใส มาเที่ยวได้ สนุกแน่นอน เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับดับสองของประเทศไทยรองจากภูเก็ต มีความอุดมสมบูรณ์ โอบล้อมไปด้วยภูเขาและป่าฝนเมืองร้อน มีที่เที่ยว ที่พักและจุดน่าเช็กอิน เกาะช้างแบ่งออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ใครชอบเที่ยวหาดทรายสวย ๆ ขาว ๆ เล่นน้ำได้ มีร้านอาหารริมทะเล มีที่พัก ติดชายหาดต้องมาฝั่งขวา ส่วนทางซ้ายจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และชุมชนของชาวบ้านที่นี่ ป่าชายเลนชุมชนบ้านสลักเพชร อยู่ฝั่งซ้ายของเกาะ เป็นเส้นทางเดินสบาย มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูป น้ำตกคลองพลู ใครสนใจเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ แอดแนะนำที่นี่เลย ปางช้างคลองพลู ชุมชนบ้านสลักคอก สถานที่ล่องเรือยอดฮิตอีกแห่งของเกาะช้าง หากชอบพายคายัคหรือดำน้ำ แอดแนะนำฝั่งขวาของเกาะ จุดชมวิวหาดทรายขาว หาดเพนนินซูลา

✨ แนะนำที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน ✨ อ่านเพิ่มเติม

เปิดแล้ว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

หมู่เกาะสุรินทร์ แบ่งออกเป็น เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ ขึ้นชื่อเรื่องจุดดำน้ำตื้นที่สวยแห่งหนึ่งของไทย ไม่ว่าจะสายฟรีไดฟ์ หรือ สนอคเกิ้ล ก็ต้องมาสัมผัสบรรยากาศซักครั้งหนึ่ง บอกเลยว่าที่นี่น้ำใส สีเขียวมรกต สวยมาก ๆ จุดเด่นของที่นี่คือแนวปะการังที่ยังมีความสมบูรณ์หลากหลายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังโขด ฯลฯ รวมถึงฝูงปลาหลายชนิด เช่น ปลามง ปลานีโม่ ปักเป้า บางจุดสามารถเจอน้องเต่า หรือฉลามครีบดำ ที่บริเวณเกาะตอรินลาได้ด้วย ทะเลที่นี่ถือว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เลย กิจกรรมท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ดำน้ำตื้นตามจุดต่าง ๆ มากมาย เช่น หาดไม้งาม อ่าวช่องขาด อ่าวสุเทพ และอ่าวแม่ยาย ฯลฯ เยี่ยมชมหมู่บ้านมอแกน ตั้งอยู่บนเกาะสุรินทร์ใต้ พร้อมเลือกซื้อสินค้าชุมชน เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กระเป๋าสาน เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมพระอาทิตย์ตก อุทยานเปิดเกาะให้ท่องเที่ยวตั้งแต่ 15 ตุลาคม -15 พฤษภาคม ของทุกปี สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แบบไปกลับ one day tour มีบริษัททัวร์นำเที่ยวให้บริการหลายเจ้า หรือจะพักค้างคืนบนเกาะก็ได้ อุทยาน ฯ มีบ้านพักและเต็นท์ให้เช่า หรือ ถ้าใครจะพกเต็นท์มาเอง ทางอุทยานฯ มีจุดกางเต็นท์ ให้บริการด้วยนะ ค่าสถานที่กางเต็นท์คืนละ 80 บาท/คน/คืน

เปิดแล้ว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา อ่านเพิ่มเติม

โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี 📜

#กาญจนบุรี นับเป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวและสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์อย่างมาก อย่างในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนพื้นที่ปากแพรกเมืองเก่า ก็มีสถานที่ที่เปิดทำการในสมัยนั้น คือ #โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี เปิดกิจการอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2481 ก่อตั้งโดยพระยาพหลพลพยุหเสนา ซึ่งรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อผลิตกระดาษและธนบัตรในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งผลิตมาจากเยื่อใบไผ่ โครงสร้างอาคารโรงงานสร้างโดยช่างชาวเยอรมัน การออกแบบทั้งภายนอกและภายในอาคารจึงมีความแข็งแรง ทนทาน และเรียบง่าย อาคารโรงงานนั้น โดดเด่นด้วยลักษณะแบบยุโรปสมัยกลาง มีความสูงใหญ่ และมีความทันสมัยอย่างมากในสมัยนั้น ภายในพื้นที่โรงงานกว้างขวางและมีกลุ่มอาคารหลายจุดได้แก่ อาคารโรงงาน อาคารกองทำเยื่อ โรงคลอรีน และอาคารประกอบอื่น ๆ ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้ไม่ได้เงียบเหงาแม้จะปิดตัวไป เพราะที่นี่ได้รับการปรับปรุงพื้นที่โรงงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมให้มีความสวยงาม มีต้นไม้ร่มรื่น สนามหญ้าลานกว้าง ๆ มีผู้คนนิยมมาแวะเวียน เช็กอิน ถ่ายภาพกัน เพื่อน ๆ ที่เข้าไปชมที่นี่ นอกจากจะได้เห็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่แล้ว ยังสามารถถ่ายรูปชิค ๆ สไตล์ยุโรปกันได้

โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี 📜 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top