สถานที่ท่องเที่ยว

🌸 ชมพูพันธุ์ทิพย์บานแล้ววว 🌸

ดอกไม้หน้าร้อนที่สวยไม่แพ้ใครอย่างชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่จะออกดอกบานสะพรั่งปีละครั้งก็เริ่มทยอยบานแล้ว สวยหวานได้ฟีลเหมือนต่างประเทศเลยล่ะ วันนี้มีเกร็ดความรู้ของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มาให้อ่านกันเพลิน ๆ ค่ะ ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือชมพูอินเดีย หรือตาเบบูย่าสีชมพู เป็นไม้ยืนต้นที่มีต้นกำเนิดจากเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ มีการนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย เป็นไม้ประดับตกแต่งและให้ร่มเงาในสวนสาธารณะหรือตามถนนหนทาง กิ่งเปราะ ดอกร่วงหล่นง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยค่ะ ชมพูพันธุ์ทิพย์จะผลัดใบในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งช่วงออกดอกบานเต็มต้นประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น จากนั้นดอกจะค่อย ๆ ร่วงแล้วแตกใบใหม่ รู้แบบนี้ต้องรีบมาชมกันแล้วนะ สำหรับใครที่อยากไปชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง เรามีพิกัดใกล้กรุงเทพฯ มาฝาก แนะนำให้ไปช่วงเช้า ๆ หรือบ่ายแก่ ๆ เพราะอากาศไม่ร้อนมาก และอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศในการชื่นชมดอกไม้ด้วยนะคะ ไม่ป่ายปีน โน้มกิ่ง หักกิ่ง เด็ดดอกไม้เล่นและไม่ทิ้งขยะในบริเวณพื้นที่นั้น ๆ กันนะคะ จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย สวนจตุจักร กรุงเทพฯ บานแล้ว ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/CjZDiwKn3khXb9he9 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คาดว่าจะบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนมีนาคม ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม https://goo.gl/maps/CQMXUNDP7jnj9dAAA สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) บานแล้ว ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/X73ZPX3mTwfoWrvA7 สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 7 บานแล้ว แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/ELWveU2xz84xrRmN6

🌸 ชมพูพันธุ์ทิพย์บานแล้ววว 🌸 อ่านเพิ่มเติม

✨ TAKE YOUR TIME ✨

สุดสัปดาห์นี้ถ้าใครไม่อยากอยู่บ้าน เรามีนิทรรศการศิลปะแห่งห้วงเวลาของศิลปินชื่อดังอย่างคุณ #SUNTUR หรือ ซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติ ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทาง ความทรงจำและสิ่งที่เขาพบเจอ ในระยะเวลา 33 ปี ออกมาเป็น 33 ภาพวาด โดยใช้ชื่อนิทรรศการนี้ว่า TAKE YOUR TIME ที่ตัวศิลปินจะมาแบ่งปันห้วงเวลาและประสบการณ์ของเขาให้ผู้ที่มาชมได้เรียนรู้เรื่องราวสุขและทุกข์ให้เป็นเหมือนเรื่องราวธรรมดา ๆ ของชีวิตที่ทุกคนต่างต้องเจอ ผ่านภาพวาดแสนเรียบง่าย หากเพื่อน ๆ พร้อมจะใช้เวลาส่วนตัวมาเรียนรู้เรื่องราวผ่านภาพวาดแล้ว ลองตามมาดูกัน นิทรรศการ Take Your Time เกิดขึ้นจากการที่คุณ SUNTUR และ Trendy Gallery ร่วมมือกันจัดงานขึ้นที่ River City Bangkok หนึ่งในสถานที่จัดนิทรรศการสุดฮิตย่านเจริญกรุง เมื่อเดินทางมาถึง เพื่อน ๆ จะเจอทางเข้างานที่มีลักษณะเป็นซุ้มอุโมงค์ยาว นำทางไปสู่ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ภายในอุโมงค์จะเป็นเหมือนพื้นที่ปรับอารมณ์ให้สงบลงก่อนเดินชมภาพจริง มีแสง สี เสียงหลาย Mood ที่เปลี่ยนไปทุก ๆ 10 นาที เป็นจุด มหาชนที่หลายคนชอบมาถ่ายรูป บริเวณทางเข้า จะมี QR Code ที่ภายในมีเพลงที่แต่งขึ้นมาเฉพาะสำหรับนิทรรศการนี้ให้สแกนฟัง สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มอรรถรสในการชมให้มากขึ้นหรืออาจต้องการตัดขาดจากโลกภายนอกระหว่างชมนิทรรศการ เพื่อน ๆ สามารถสแกนแล้วใส่หูฟังได้เลย ซึ่งเพลงที่จะได้ฟังมีชื่อว่า Day 1 to End เป็นเพลงบรรเลงยาว 9:23 นาที ที่มอบจินตนาการทั้งสุขและเศร้าผ่านโสตประสาท ระหว่างที่เราชมภาพในนิทรรศการ “หยิบออกจนคงเหลือเพียงสิ่งสำคัญ” คือนิยามการทำงานศิลปะของคุณ SUNTUR ที่งานแต่ละชิ้นล้วนต้องผ่านการคิด การทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งการสื่อสารผ่านภาพวาด การตั้งชื่อภาพ ที่ต่อให้แม้ทั้งแคนวาสจะเต็มไปด้วยพื้นที่ว่าง แต่ก็ไม่ยากที่จะพบความหมายที่แฝงไว้กลางภาพวาดผืนนั้น จุดเด่นของนิทรรศการนี้คือการบอกเล่าเรื่องของเวลา ว่าควรใช้เวลาให้มีความสุขและคุ้มค่ามากแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเศร้าผ่านมาให้ต้องเจอบ้าง แต่มันก็คือเรื่องธรรมดาที่เราต้องเจอ Happiness won’t last long ความสุขสนุกสนาน เหมือนว่าวที่ลอยอยู่ในอากาศ ลอยตัวได้จากลม แต่ถ้าลมหยุดก็ต้องหล่นลงมา หากยังมีเวลาสนุก จงสนุกให้เต็มที่กันล่ะ Take your time ภาพวาดชื่อเดียวกับนิทรรศการ คนเรามีมุมสนุกและมองหาความสุขในตัวอยู่เสมอ อย่าลืมใช้เวลาให้คุ้มค่ากันล่ะ หรือต่อให้เราผ่านช่วงเวลาที่เคยสนุกที่สุดมาแล้ว ก็อย่าเสียใจไป อย่างน้อยเราก็เคยมีช่วงเวลานั้นที่เป็นความทรงจำดี ๆ ของเรา Don’t worry mom, I’m fine ภาพวาดสำหรับคนเหงาที่อยู่ไกลบ้านในยุคสมัยคุยโทรศัพท์ผ่านตู้ การได้คุยโทรศัพท์สั้น ๆ กับครอบครัวอาจเป็นช่วงเวลามอบแสงสว่างให้คลายเหงา คำว่า “สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง” อาจเป็นคำพูดคลายกังวลให้คนที่บ้านรับรู้และอุ่นใจได้เช่นกัน See you soon ภาพที่กล่าวถึงคุณตาคุณยายหรือคนที่ออกเดินทางไกลไปก่อนเรา หากวันหนึ่งกาลเวลานำพาเราให้ได้เจอกันอีกครั้ง เราก็คงไม่ต่างกับเด็กน้อยของพวกเขาอย่างเช่นที่เคยเป็นมา Low happiness cost บางครั้งความสุขคือการแค่ได้นั่งทอดใจกับใครสักคน ยังมีภาพอีกมากมายให้เพื่อน ๆ ได้ใช้เวลากับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกับภาพนั้น แต่อีกจุดที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ชมคือ การนำบทกลอนสอนใจ ซึ่งแต่งโดยคุณพ่อของคุณ SUNTUR มาร่วมจัดแสดงไว้ภายในงานนี้ด้วย ภายในงาน มีจุดให้เลือกชมเลือกซื้อสินค้า อย่างเช่น โปสการ์ด แก้วกาแฟ ปลอกหมอน เสื้อยืดสกรีนลายภาพวาด ถุงผ้าและเก้าอี้ดีไซน์เก๋ ๆ ที่ปัจจุบันของเหล่านี้แทบจะกลายเป็นของสะสมแทนของไปใช้แล้ว หลังจากชมนิทรรศการนี้เสร็จแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่มาคงตกผลึกความรู้สึกบางอย่างของตัวเองจากการเชื่อมโยงประสบการณ์ผ่านภาพวาดของคุณ SUNTUR และรับรู้ได้ว่า จะสุขแสนหวาน ทุกข์แสนขม การพบเจอแสนพิเศษหรือการจากลาที่ไม่มีใครอยากพบเจอ ล้วนเป็นสิ่งธรรมดาที่เราต้องเรียนรู้และยอมรับมัน หากใครยังไม่เคยมางานชมงานศิลป์บนผืนผ้าแคนวาส หรือมองว่านิทรรศการแบบนี้เข้าถึงยาก อยากให้ลองมา Take Your Time รับรองว่าพื้นที่เหนือกาลเวลาที่จัดเพียงชั่วคราวแห่งนี้ จะตอบแทนการมาด้วยอะไรที่เป็นมากกว่าการชมภาพนิ่งแน่นอน หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถร่วมชมนิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งที่ 3 TAKE YOUR TIME ของศิลปิน SUNTUR ได้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์-23 เมษายน พ.ศ. 2566 ที่ River City Bangkok ชั้น 2 ที่ห้อง RCB Galleria 2  เข้าชมฟรี  : 23 ซอย เจริญกรุง 24 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100: เปิดทุกวัน 10.00-20.00 น.: 09-0312-0910: https://goo.gl/maps/SvAeJfVs49Bqcrfa8 : Bts ลงที่สถานีสะพานตากสิน ใช้ทางออก 1 หรือ 2 และนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเหลือง ธงส้ม และธงเขียว) ลงที่ท่าเรือสี่พระยาMRT ลงสถานีหัวลำโพง ใช้ทางออก 1 แล้วนั่งรถวินมอเตอร์ไซต์ ราคา 20 บาท

✨ TAKE YOUR TIME ✨ อ่านเพิ่มเติม

แนะนำกิจกรรม วันมาฆบูชา

พาไปเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ส่งท้ายอากาศหนาว ที่ #บ้านป่าเหมี้ยง ใครอยากมาพักผ่อนใช้ชีวิตเรียบง่าย สโลวไลฟ์ ต้องมาที่นี่เลย เพราะที่นี่มีอากาศที่อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก และมีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปีนี้ตรงกับวันที่ 6 มีนาคม 2566 แต่ละวัดจะมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ ส่วนช่วงเย็นก็จะมีการเวียนเทียนด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ วัดในแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคก็จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ตามวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นในช่วงวันมาฆบูชาอีกด้วย วันนี้ ขอแนะนำสถานที่ทำกิจกรรมในวันมาฆบูชา ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมและวางแผนล่วงหน้ากันได้ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกัน  งานมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2566 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช  2-6 มีนาคม 2566 ประเพณีประจำปีของจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกได้ว่ามีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ต้อนรับประชาชนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแสวงบุญที่เดินทางมายังวัดนี้ และมีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้ง 5 วัน เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/TAT.NST/posts/pfbid0hcSYQT26NKZ3nrGQK3no3i4KNfKRHBxQ7MaiKkk2YUh5sWTKJJzZRrE87vkijR8Ql  เวียนเทียนทางน้ำ แห่งเดียวในโลก ณ วัดติโลกอาราม กว๊านพะเยาตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา  4-6 มีนาคม 2566 เป็นอีกแห่งที่มีกิจกรรมในวันมาฆบูชาที่มีชื่อเสียงอย่างมาก คือ กิจกรรมนั่งเรือเวียนเทียนทางน้ำรอบวัดติโลกอารามซึ่งตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา โดยปกติแล้ว ทุกๆ ปีจะมีการเวียนเทียน 3 ครั้ง ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถไปร่วมกิจกรรม พร้อมชมแสงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินกันได้ด้วย พิธีเวียนเทียน จัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม เวลา 17.00 น. ขึ้นเรือได้ที่ ท่าเรือวัดติโลกอาราม ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/tatchiangrai/posts/pfbid02ub8DXAMETK8yUEY8nkLVxSRQQ7oMtfggrvno5MjttrT6XS86yBzLHmowxJEiaC22l  งานสรงน้ำพระธาตุ ห่มผ้าพระนอน ประจำปี 2566 วัดพระนอนแม่ปูคา หรือ วัดพระป้านตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่  6 มีนาคม 2566 ประเพณีสำคัญแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ แม้ในปีนี้จะไม่ได้มีการจัดงานอย่างคึกคัก แต่เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทางวัดจึงมีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุ ห่มผ้าพระนอน และเจริญพุทธมนต์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไปและเวลา 19.00 น. จะมีการเวียนเทียนรอบอุโบสถ   วันมาฆบูชา สืบสานตำนานสองเจดีย์ธาตุ องค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี ประจำปี 2566 วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหารถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน  6 มีนาคม 2566 ร่วมงานประเพณีเดือนหกเป็ง ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี ปูชนียสถานสำคัญที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน กิจกรรมไฮไลต์ 18.00 น. แห่ผ้าห่มองค์พระบรมธาตุหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี 19.00 น. ชมการแสดงแสง สี เสียง เล่าขานตำนานสองเจดีย์ธาตุ  งานนมัสการพระบรมธาตุนาดูน ประจำปี 2566 พระบรมธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสานตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม  4-12 มีนาคม 2566 นมัสการปูชนียสถานสำคัญแห่งอีสาน สถานที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต อีกทั้งยังค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 (สมัยทวารวดี) กิจกรรมไฮไลต์ ชมพิธีเปิดสุดตระการตา การแสดงแสง สี เสียง ขบวนแห่ประเพณีสิบสองเดือน และมหรสพ เพื่อน ๆ สามารถดูกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/phathatnadun?locale=th_TH

แนะนำกิจกรรม วันมาฆบูชา อ่านเพิ่มเติม

บ้านป่าเหมี้ยง สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน จ. ลำปาง ☕💚

“บ้านป่าเหมี้ยง” ตั้งอยู่ในตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัด #ลำปาง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้ และลำธาร หากมาที่นี่แล้วเจอต้นกาแฟ ไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ เพราะว่าเป็นสิ่งยืนยัน ที่บอกว่าคุณมาถูกที่แล้ว #กาแฟ เป็นหนึ่งในพืชผลทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของบ้านป่าเหมี้ยงนั่นเอง บอกเลยว่าถ้าใครเป็นคอกาแฟ ที่นี่ถือเป็นสวรรค์เลย ☕ กาแฟ หนึ่งในพืชผลทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของ “บ้านป่าเหมี้ยง” บอกเลยว่าใครที่เป็นคอกาแฟ ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของนักดื่มกาแฟเลย ☕ และหากใครอยากซื้อกาแฟกลับไปดื่มที่บ้าน อย่าลืมไปอุดหนุนได้ที่ร้านขายสินค้าชุมชน กลางหมู่บ้านนะคะ “บ้านป่าเหมี้ยง” ตั้งอยู่ในตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้ และลำธาร หากมาที่นี่แล้วเจอต้นกาแฟ ไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ เพราะว่าเป็นสิ่งยืนยัน ที่บอกว่าคุณมาถูกที่แล้วกาแฟ เป็นหนึ่งในพืชผลทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของบ้านป่าเหมี้ยงนั่นเอง บอกเลยว่าถ้าใครเป็นคอกาแฟ ที่นี่ถือเป็นสวรรค์เลย ☕ สำหรับใครที่อยากมาพักผ่อน ที่ “บ้านป่าเหมี้ยง” ภายในหมู่บ้านจะมีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ให้เลือกพักหลายแห่งเลยค่ะ โดยเฉพาะที่พักติดลำธารที่บรรยากาศดี มีลมพัดเย็นตลอดเวลา หากได้มาจิบกาแฟที่เป็นของดีประจำถิ่นท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ รับรองว่าถูกใจ ต้องมีมาซ้ำเป็นรอบที่ 2 รอบที่ 3 แน่นอนค่ะ ส่วนใครที่เป็นสายเดินเที่ยวชุมชน เผื่อสัมผัสวิถีชีวิตจริง ๆ รอบ ๆ หมู่บ้านจะมีสตรีตอาร์ตตามผนังบ้าน ที่ถูกวาดออกมาตามวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ สวยทุกรูป ทุกมุมเลยค่ะ เช็ตเมนูอาหารเช้าจากโฮมสเตย์ ใครไปพักที่โฮมสเตย์ไหน แชะภาพมาอวดกันได้นะคะ “บ้านป่าเหมี้ยง” เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้ และลำธาร บ้านเรือนภายในหมู่บ้าน “บ้านป่าเหมี้ยง” รวมถึงโฮมสเตย์ จะเป็นบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิมเกือบทั้งหมด มีความเรียบง่าย ดูบ้าน ๆ หากเลือกพักโฮมสเตย์ที่ติดริมลำธาร ก็จะมีบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ นั่งชิลล์รับลมได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ บรรยากาศดี ๆ ริมลำธาร ที่ “บ้านป่าเหมี้ยง” จังหวัดลำปาง ดอกเสี้ยว  จะบานเพียงปีละ 1 ครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม เป็นไม้ป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่ที่ลานชมดอกเสี้ยวบาน บริเวณทางขึ้นชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง หากมาเที่ยวในช่วงนี้ ห้ามพลาด!!

บ้านป่าเหมี้ยง สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน จ. ลำปาง ☕💚 อ่านเพิ่มเติม

✨ แนะนำเทศกาลเดือนมีนาคม ✨

เดือนที่ 3 ของปี เริ่มก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว หลายคนคงมีแผนเดินทางไปเที่ยวทะเล น้ำตก เพื่อเล่นน้ำคลายร้อน หรือขึ้นเขาเพื่อมองหาความสดชื่นของสีเขียวจากยอดดอย แต่นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มอบความเย็นทางใจให้แล้ว เดือนมีนาคมก็เป็นช่วงเวลาที่มีเทศกาลพิเศษและสนุก ๆ ถูกจัดขึ้นเหมือนกัน… เอาล่ะ หากใครกำลังมองหาเทศกาลประเพณีพิเศษ ๆ ที่จัดขึ้นเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม นอกเหนือจากการเที่ยวตามธรรมชาติล่ะก็ ลองตามมาอ่านคอนเทนต์นี้ดู ว่า 5 เทศกาลเดือนมีนาคมที่นำมาแนะนำวันนี้ จะมีที่ไหนบ้าง 1.ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จ.ยโสธร เป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชุมชนบ้านฟ้าหยาด จ.ยโสธร เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ได้เห็นถึงความสำคัญของข้าว จึงคัดข้าวเปลือกที่ดีที่สุดมาคั่วเป็นข้าวตอก แล้วนำมาร้อยเป็นมาลัยสายยาวแทน “ดอกมณฑารพ” ดอกไม้ทิพย์บนสวรรค์ ที่เชื่อว่ามีความสวยงามและมีกลิ่นหอม ซึ่งจะหล่นลงมาบนโลกในเหตุการณ์สำคัญ เช่นครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ดอกมณฑารพก็ร่วงหล่นลงมาบนโลกทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเสมือนการแสดงความเสียใจในเหตุการณ์นี้ เหล่าพระภิกษุ ข้าราชการบริพารและประชาชนทั้งหลาย จึงพากันเก็บมาสักการะพระบรมศพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นการรำลึกเหตุการณ์นี้ ชาวบ้านฟ้าหยาด จึงประดิษฐ์และจัดงานแห่มาลัยข้าวตอกขึ้นก่อนวันมาฆบูชา ปัจจุบันจะมีการจัดงาน 5 วัน มีการแห่เป็นขบวนรอบตัวอำเภอ ก่อนจะนำไปถวายที่วัดหอก่อง ซึ่งภายในวัดมี พิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามหลังจากแห่ขบวนได้ ในปี พ.ศ. 2566 ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอมหาชนะชัย ใครที่สนใจสามารถไปชม ชิม ชอปปิง สินค้าโอทอป ของกิน ของฝาก ที่ถนนคนเดินของงานได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานอุบลราชธานี (ดูแลพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร และ จ.อำนาจเจริญ) โทร. 0 4524 3770 2.งานพระนครคีรี-เมืองเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จ.เพชรบุรี งานต่อมาที่อยากแนะนำ ก็คือ งานพระนครคีรี-เมืองเพชร ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “เยือนถิ่นเมืองพริบพรี สดุดีจอมราชัน แดนสร้างสรรค์อาหารไทย” เพื่อเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า รัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5, รัชกาลที่ 6 ในวันที่ 17 – 26 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ภายในงาน จะมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีจากสกุลช่างเมืองเพชร รวมไปถึงกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ชมพลุบนเขาวัง ชิมอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมืองเพชรบุรี สินค้า OTOP รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มา ชม ชิม ชอปปิง และถ่ายรูปกันได้อย่างจุใจ : ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาทนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟ้า ค่าบริการไป-กลับ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) 15 บาท : ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี: เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.: สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1006 3. ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตู ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ อีกหนึ่งเทศกาลและงานประจำปีของปราสาทหินพนมรุ้ง ที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 บานของปราสาทหินพนมรุ้ง ที่ในปีนี้ จะมีในช่วงวันที่ 5-7 มีนาคม พ.ศ. 2566 ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของปราสาทหินพนมรุ้ง หนึ่งในอารยธรรมโบราณ ที่สร้างจากหินทรายสีชมพูและศิลาแลง ในทุกปีจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ของปราสาทหิน จำนวน 4 ครั้งต่อปี ซึ่งปีนี้มีรายละเอียดดังนี้ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตก 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง– ครั้งที่ 1 พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-7 มีนาคม เวลาประมาณ 18.15 น.– ครั้งที่ 2 พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 3-5 เมษายน เวลาประมาณ 06.03 น.– ครั้งที่ 3 พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 8-10 กันยายน เวลาประมาณ 05.57 น.– ครั้งที่ 4 พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-7 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.55 น. ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน พ.ศ. 2566 ปราสาทหินพนมรุ้ง ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของ จ.บุรีรัมย์ ด้วยลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณ ที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยที่ประทับของพระศิวะ บนยอดเขาพนมรุ้ง โดยคำว่า “พนมรุ้ง” หรือ “วนํรุง” เป็นภาษาเขมรแปลว่า “ภูเขาอันกว้างใหญ่” ภายในมีการออกแบบที่ประณีต มีอาคารเรียงรายไปจนถึงปราสาทประธาน ทับหลังที่บอกเล่าเรืองราวของวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าของฮินดู อย่างเรื่องรามเกียรติ์

✨ แนะนำเทศกาลเดือนมีนาคม ✨ อ่านเพิ่มเติม

อาคารหม่องโง่ยซิ่น จังหวัดลำปาง 🐴

กาดกองต้า เป็นถนนคนเดินในตัวเมืองลำปาง ที่คึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมทุกวันเสาร์และอาทิตย์ มีร้านขายอาหารพื้นบ้าน และสินค้าท้องถิ่น วางจำหน่ายทั้งสองข้างทางบนถนนตลาดเก่า ที่สำคัญ บนถนนสายนี้และบริเวณโดยรอบ ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ทรงคุณค่าหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ อาคารหม่องโง่ยซิ่น อาคารหม่องโง่ยซิ่น ในอดีตคือบริษัททำไม้ในลำปาง โดย “หม่องโง่ยซิ่น” คหบดีชาวเมียนมาที่ได้สืบทอดงานในธุรกิจป่าไม้จาก “หม่องส่วยอัตถ์” ผู้เป็นบิดา อาคารออกแบบและสร้างโดยช่างชาวเมียนมา อาคารแห่งนี้มีอายุ 115 ปี นับว่ามีความเก่าแก่อย่างมาก แต่ความเก่าไม่ลดทอนคุณค่าและความงดงามของอาคารแห่งนี้ได้เลย 🏠 มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบเรือนขนมปังขิง หลังคาทรงมะนิลา หน้าจั่วประดับสะระไนอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนแบบมะนิลา ทั่วอาคารประดับไม้ฉลุเป็นลวดลายต่าง ๆ ดูพลิ้วไหว ทั้งลายพรรณพฤกษา ลายก้านขด รวมถึงลายประดิษฐ์สัญลักษณ์ของหม่องโง่ยซิ่น และรูปสัตว์ 🐮🐇 ภายในอาคารมีพื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งอาคารได้สวยงาม ชดช้อยอย่างมาก ซุ้มโค้งเหนือประตูตกแต่งด้วยกระจกหลากสี ฝ้าเพดานประดับด้วยแผ่นดีบุกดุนลายนำเข้าจากออสเตรเลีย สะท้อนถึงความมั่งคั่งของเจ้าของบ้าน และนอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีห้องใต้ดินเพื่อหลบภัยในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย อาคารหม่องโง่ยซิ่น เคยถูกปิดไว้เหมือนหลับใหลไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งในรูปแบบคาเฟ่ที่ให้บริการของหวานและเครื่องดื่ม 🍰☕ และยังมีมุมแสดงนิทรรศการที่บอกเล่าความเป็นมาของตัวอาคาร บ้านโบราณที่อยู่ใกล้เคียง และประวัติศาสตร์เมืองลำปางในสมัยนั้น หากเพื่อน ๆ ที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดลำปาง สามารถมาชมก่อนที่จะไปเดินเที่ยว ชอปปิงของขายที่กาดกองต้ากันได้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ใกล้เคียง เดินทางสะดวก ไม่ไกลกันมากนักให้เพื่อน ๆ ไปชมได้อีกด้วย 😉 การเดินทางในตัวเมืองลำปาง🚩 รถม้า : เพื่อน ๆ สามารถใช้บริการได้ ราคาเริ่มต้น 300 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลา มีสถานีรถม้าหลายจุดที่ให้บริการ เช่น🐎 จุดจอดตรงถนนบุญวาทย์ ฝั่งเดียวกับมิวเซียมลำปาง🐎 จุดจอดหน้าโรงแรมเวียงทอง🐎 จุดจอดบริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาล 4🐎 จุดจอดหน้าตลาดอัศวิน🐎 จุดจอดเซ็นทรัลพลาซ่าลำปาง🐎 จุดจอดหน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง รวมถึงจุดจอดอื่น ๆ ในเมือง🚩 รถสองแถว : ให้บริการวิ่งไปยังจุดต่าง ๆ สามารถขึ้นได้หลายจุด เช่น สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ราคาขึ้นอยู่กับการตกลงกับคนขับ

อาคารหม่องโง่ยซิ่น จังหวัดลำปาง 🐴 อ่านเพิ่มเติม

✨ กินขนม ชมดอกไม้ มองวิว ย่านพระนคร – คลองสาน ✨

หลายคนอาจกำลังมองหาที่เที่ยวในวันหยุดที่มีทั้งที่เที่ยว ที่กิน จุดถ่ายรูปและการเดินทางที่สะดวก หากใครมีเวลาว่าง 1 วันแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ อยากออกมาเดินเที่ยวข้างนอก แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ลองมาอ่านเป็นไอเดียและตามรอยคอนเทนต์นี้ดู อาจเปลี่ยนวันหยุดที่ว่างเป็นวันหยุดที่ว้าว และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เพื่อน ๆ ประทับใจในวันหยุดก็ได้ 1. The Old Siam Plaza เริ่มกันที่ ดิโอลด์สยาม พลาซ่า ศูนย์การค้าใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก แหล่งรวมผ้าไหม ขนม อาหารไทย และมุมถ่ายภาพให้นักเที่ยวสายสะพายกล้องมาเก็บภาพกันได้หลายมุม เนื่องจากในอดีตที่นี่เป็นที่ตั้งของ ตลาดมิ่งเมือง ภายในอาคารแห่งนี้จึงมีการจำลองบรรยากาศร้านค้าของตลาดมิ่งเมืองในอดีตเอาไว้ โดยเฉพาะร้านขายผ้าชิ้น และชุดตัดสำเร็จหลากสีหลายแบบมากกว่า 10 ร้าน แถมยังมีร้านขายเครื่องประดับสวยงามอย่าง เพชร พลอย ทองรูปพรรณ ให้แก่ผู้หลงใหลในความงามของงานฝีมือและอัญมณีนับสิบร้าน นอกจากนี้ ยังมีร้านขายปืน ซุ้มพระเครื่อง ศูนย์ขายอุปกรณ์และศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย ลานเฟื่องนคร จุดรวมร้านขนมไทยและอาหารไทยหลายร้าน อยากให้ลองแวะมาชิม ทำสด ๆ วันต่อวัน รสชาติอร่อยถูกใจ หลายคนผ่านมาแถวนี้ทีไรต้องแวะเข้าไปซื้อซ้ำอยู่บ่อย ๆ เลยทีเดียว 2. มิวเซียมสยาม (Museum Siam) หลังจากกินและถ่ายรูปที่ ดิโอลด์สยาม พลาซ่า ก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่สถานที่ถัดไป “มิวเซียมสยาม” พิพิธภัณฑ์ที่เหมาะกับคนทุก Gen มีเรื่องราวแบบไทย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ โดยจัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ จับต้องได้ เข้าใจและเข้าถึงง่าย ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10 นาทีเท่านั้น มิวเซียมสยาม ดูแลโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551 เป็นอาคาร 3 ชั้น มีห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวร และร้านค้าของที่ระลึก มีทางเข้าออกบริการผู้พิการและผู้สูงอายุ ด้านหน้าอาคารแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้เป็นทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าสถานีสนามไชย ทางออกที่ 1 เริ่มเปิดบริการในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ภายในพิพิธภัณฑ์ เพื่อน ๆ สามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเก็บเป็นความรู้ ประสบการณ์ความประทับใจได้ทุกห้อง มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรชุด “ถอดรหัสไทย” (DECODING THAINESS) ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้พัฒนาการของ “อัตลักษณ์ความเป็นไทย” ที่ดูเหมือนจะมีความชัด แต่กลับคลุมเครือจากการหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผ่านเรื่องราวของความเป็นไทยในมิติต่าง ๆ อย่าง ประวัติศาสตร์ของไทย สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ อาหารการกินและเครื่องแต่งกาย อยากรู้เป็นยังไง ลองมาหาคำตอบให้ตัวเองกันได้ที่นี่เลย : 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์): โทร. 0 2225 2777: https://g.page/museumofsiam?share 3. พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จุดหมายถัดไปหลังจากเดินชมประวัติศาสตร์ของไทยในมิวเซียมสยามแล้ว คือการมาเดินชม “ปากคลองตลาด” ก่อนถึงปากคลองตลาดเพื่อน ๆ จะเจอกับ “พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ตั้งประดิษฐานอย่างโดดเด่น ณ เชิงสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์หรือสะพานพุทธฯ ฝั่งพระนคร  พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ของปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 150 ปี ในปี พ.ศ. 2475 โดยมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีด้วยในคราวเดียวกัน โดยมีศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ปั้นแบบและหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ด้วยทองสำริด มีความสูงตั้งแต่ฐานจนถึงยอด 4.60 เมตร (ต่อมาได้เสริมแท่นให้สูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร) 4. ปากคลองตลาด ห่างจาก “พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง “ปากคลองตลาด” ตลาดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ขายดอกไม้กันมานานนับร้อยปีแล้ว มีขายทั้งปลีกและส่ง มีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ทั้งของไทยและต่างประเทศ ดอกไม้แห้ง ดอกไม้สดก็มีหมด แถมเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ใครอยากได้ดอกไม้สวย ๆ ไม่ว่าในโอกาสอะไร ที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ  ดอกไม้มีให้เลือกหลากหลาย เดินดูกันได้เพลินเลยล่ะ  นอกจากดอกไม้แล้ว ที่นี่ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ ให้สามารถฝากท้องและนั่งพักได้หลายร้านเลยล่ะ 5. พระปกเกล้าสกายปาร์ค (สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา) ก่อนหมดวัน อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำก็คือ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ซึ่งแต่เดิมบริเวณนี้เคยเป็นโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าลาวาลินที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทางกรุงเทพมหานครจึงเข้ามาปรับภูมิทัศน์ให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเหนือผิวน้ำบนสะพานพระปกเกล้า สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ถึง 360 องศา ทีเดียวเชียว  สวนสาธารณะแห่งนี้ ถูกออกแบบให้มีทั้งทางเดินเท้าและเลนจักรยาน มีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา มีโต๊ะนั่งพักผ่อน ชมวิว สามารถมาเดินออกกำลังกายเบา ๆ ได้เพลินเลยล่ะ ยิ่งช่วงเย็น ๆ บรรยากาศจะดีเป็นพิเศษ อากาศไม่ร้อนเกินไป มีลมพัดเย็น ๆ พร้อมวิวพระอาทิตย์ตก ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งในกรุงเทพฯ เลยล่ะ

✨ กินขนม ชมดอกไม้ มองวิว ย่านพระนคร – คลองสาน ✨ อ่านเพิ่มเติม

นกเงือก…สัญลักษณ์แห่งรักแท้ 🥰🦅

“นกเงือก” หรือ “Hornbills” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และถือเป็นตัวบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่สำคัญ เนื่องจากนกเงือกจะอาศัยอยู่แต่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง หากพูดถึงสัญลักษณ์แห่งรักแท้…เมื่อนกเงือกจับคู่แล้ว จะใช้ชีวิตแบบผัวเดียวเมียเดียวไปตลอดชีวิต ไม่ว่าคู่เดิมจะตายหรือหายไปก็จะไม่หาคู่ใหม่โดยนกเงือกจะเริ่มหาคู่ในช่วงปลายปี และเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน❣️ 📣ด้วยพฤติกรรมการครองรักและผสมพันธุ์กับคู่เดิมนี้ จึงยกให้นกเงือกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้กำหนดให้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันรักนกเงือก” (Love Hornbills Day) ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 นกเงือกเป็นนกขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าและป่าดิบเขตร้อน ซึ่งในประเทศไทยมีนกเงือกทั้งหมด 13 ชนิด และหลายชนิดอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์นกเงือกมีลักษณะที่เป็นจุดเด่นของตัวเองคือ ตัวนกจะมีทั้งที่มีขนสีดำ สีขาว บางชนิดอาจจะมีสีอื่น ๆ เช่น สีน้ำตาลหรือสีเทา ส่วนที่ถือว่าฉูดฉาดที่สุดบนตัวนกเงือกจะอยู่ที่บริเวณหนังคอ ไม่ก็ขอบตา มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่มาก นอกจากนี้ นกเงือกยังมีความสำคัญกับระบบนิเวศป่าอีกด้วย ตามธรรมชาติการหาอาหารของนกเงือกจะกินทั้งผลไม้และสัตว์เล็ก ๆ แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่จะเลือกกินผลไม้สุกและทิ้งเมล็ดไปในพื้นที่ต่าง ๆ นี่จึงเป็นเหมือนตัวช่วยปลูกป่า ซึ่งเมื่อป่าเติบโตก็จะเป็นแหล่งอาหารต่อไป🌱 🔎แหล่งที่เราสามารถพบเห็นนกเงือกในประเทศไทยมีหลายแห่งมากค่ะ วันนี้เรามีสถานที่ที่พบเห็นนกเงือกมาฝากเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ได้ไปชมกันด้วย-เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา-อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส-เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต-ป่าพรุโต๊ะแดง ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร จังหวัดนราธิวาส

นกเงือก…สัญลักษณ์แห่งรักแท้ 🥰🦅 อ่านเพิ่มเติม

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร?

ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ประเทศไทยกันค่อนข้างมาก และเราเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่หาข้อมูลสำหรับการเดินทางเข้าเมือง เมื่อลงเครื่องที่สนามบินในกรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดอีกหลายท่าน ที่มีแพลนเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แล้วต้องการข้อมูลการเดินทางเข้าเมือง เซฟโพสต์นี้เก็บไว้ได้เลยค่ะ เพราะเพื่อนร่วมทาง อย่างเรา มัดรวมวิธีเดินทางเข้าเมืองไว้ให้คุณแล้ว ทั้งจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าเมือง และจากสนามบินดอนเมืองเข้าเมือง บอกเลยว่าทริปพักผ่อนที่กรุงเทพฯ รอบนี้ สบายใจเรื่องการเดินทางแน่นอนค่ะ จากสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 4 วิธี1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link >> ให้บริการระหว่างสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (A1) – พญาไท (A8) และสามารถเดินทางต่อได้เพียงเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า BTS หรือรถเมล์ โดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน ค่าบริการอยู่ที่ 45 บาท (หากใครต้องเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แนะนำให้ลงที่สถานีมักกะสัน (A6) แล้วเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้า MRT ได้เลยค่ะ) 2.รถตู้สาธารณะ >> เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเมืองรอบนอก เช่น มีนบุรี, อ่อนนุช, ปากน้ำ, ดอนเมือง, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 27-60 บาท549 ทสภ.-มีนบุรี >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552 ทสภ.-สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.552A ทสภ.-ปากน้ำ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น.555 ทสภ.-ดอนเมือง >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-22.00 น. และ 06.00-23.00 น.559 ทสภ.-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-23.00 น. 3. รถโดยสารสาธารณะ บขส. >> มีให้บริการทั้งเข้าเมืองในกทม. และเดินทางต่อไปยังต่างจังหวัด>> เข้าเมืองในกทม.สาย S1 สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 06.00-17.00 น.สาย 555 รังสิต (ทางด่วนพระรามเก้า) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-21.00 น.สาย 554 รังสิต (ถนนรามอินทรา) >> ให้บริการตั้งแต่ 04.30-18.40 น.สาย 558 เซ็นทรัลพระราม 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 05.30-19.00 น.>> เดินทางไปยังต่างจังหวัด (บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู พัทยา (จอมเทียน) >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.หัวหิน >> ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-19.30 น.เกาะช้าง >> ให้บริการเวลา 07.00 น. และ 11.00 น.เกาะกูด >> ให้บริการเวลา 07.00 น. 4. Taxi บริเวณชั้น 1 ประตู 4 และประตู 7 จากท่าอากาศยานนดอนเมือง สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ถึง 3 วิธี 1. รถไฟฟ้าสายสีแดง >> ให้บริการเส้นทางบางซื่อ-รังสิต เดินทางจากสถานีกลางบางซื่อ (RW01/RN01) ไปยังสถานีดอนเมือง (RN08) ค่าบริการอยู่ที่ 33 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. ของทุกวัน 2. รถเมล์ปรับอากาศ >> รถเมล์ปรับอากาศเข้าเมือง จากดอนเมืองไปยังจุดต่าง ๆ มีทั้งหมด 4 สาย จอดรับผู้โดยสารที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 1 ประตู 6 และอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 ประตู 12 ค่าบริการอยู่ที่ 30-50 บาท ตลอดสาย สาย A1 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-สถานีขนส่งหมอชิต 2 >> ให้บริการตั้งแต่ 06.50-24.00 น.สาย A2 สนามบินดอนเมือง – BTS จตุจักร-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ >> ให้บริการตั้งแต่ 05.00-23.00 น.สาย A3 สนามบินดอนเมือง-ประตูน้ำ-ราชประสงค์-สวนลุมพินี >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น.สาย A4 สนามบินดอนเมือง-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ถนนข้าวสาร-สนามหลวง >> ให้บริการตั้งแต่ 07.00-23.00 น. สำหรับใครที่มีต่อเครื่อง/เปลี่ยนสายการบิน ระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานดอนเมือง ก็มีบริการ Airport Shuttle Bus รับส่งระหว่างสนามบินฟรีด้วยนะคะ โดยจำเป็นจะต้องมีตั๋วเครื่องบินแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนใช้บริการ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 3ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้บริการบริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6

Airport to City ลงเครื่องแล้วจะเข้าเมืองได้อย่างไร? อ่านเพิ่มเติม

🌿 คิดถึงกาญจน์…อีต่อง-ปิล๊อก 🌿

กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่น่าสนใจไม่ว่าจะฤดูใดก็ตาม เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าชม✨ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวในเมืองแล้ว ก็มีแหล่งท่องเที่ยวอย่างอำเภอทองผาภูมิซ่อนตัวอยู่มากมาย วันนี้พาไปพักกายพักใจเที่ยวหมู่บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก เมืองที่ไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 🫶🌤 เมื่อถึงหน้าตลาดทองผาภูมิแล้ว สามารถเช่ารถสองแถวเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางของเส้นทางท่องเที่ยว เราเริ่มกันที่ หมู่บ้านอีต่อง อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ 217 กิโลเมตร ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขามีอาณาเขตติดต่อกับเมียนมา ในอดีตมีการทำเหมืองแร่ดีบุก ก่อนจะปิดเหมืองเลิกทำไป ปัจจุบันหมู่บ้านและเหมืองเก่าของที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูด เพราะนอกจากจะมีอากาศเย็นสบายแล้ว บรรยากาศของหมู่บ้านก็น่ารักมาก ๆ รวมทั้งถนนหนทางที่สะดวกขึ้น ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวกันมากขึ้น หมู่บ้านอีต่องมีอากาศเย็นตลอดปี แต่หากมาเที่ยวในช่วงนี้มีโอกาสได้เห็นหมอกลงยามเช้าด้วยนะ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมเมื่อมาเที่ยวที่นี่ คือ การผูกป้ายชื่อไว้ที่สะพานของหมู่บ้านเพื่อเป็นที่ระลึกที่จุดเช็คอินของหมู่บ้านอีต่อง ซึ่งป้ายชื่อเหล่านี้ เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าใกล้ ๆ  บรรยากาศยามค่ำคืน แสงไฟของชาวบ้านสะท้อนลงมาในบ่อน้ำ สวยงามไม่น้อยเลยค่ะ   ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/fiAuQ8QCfAE6HWYB8 ยามเช้าเพื่อน ๆ ยังสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ใส่บาตร เที่ยวตลาดชิมอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ หรือแวะชมธารน้ำตกเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน นอกจากนี้ ใครที่ไปเที่ยวหมู่บ้านอีต่องไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะที่หมู่บ้านมีบริการรถนำเที่ยวใกล้ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนินช้างศึก เนินเสาธง น้ำตกจ๊อกกะดิ่นและอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ฯลฯ สามารถติดต่อที่พักได้โดยตรงหรือโฮมสเตย์ในหมู่บ้านก็ได้เช่นกันค่ะ  ไม่ไกลจากหมู่บ้านอีต่อง มาเล่นน้ำเย็น ๆ ที่ #น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีน้ำตลอดทั้งปี ไหลจากผาสูงลงสู่พื้นที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ หากมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นสีเขียวมรกต สวยงาม อัตราค่าบริการคนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาทเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/KPSm6MEL8dgmRfKz9 จุดชมวิวเนินเสาธง ห่างจากหมู่บ้านไป 2 กิโลเมตร เราจะไปชมวิวสุดเขตแดนสยามที่ #เนินเสาธง ยอดเขาที่มีธงระหว่างประเทศไทย-เมียนมา ตั้งเด่นอยู่ข้างกัน เรียกกันว่า “จุดประสานสัมพันธ์ไมตรีนิจนิรันดร์ ไทย-เมียนมา” เพื่อน ๆ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากจุดนี้  ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/bYn2Ka5CvsMZemEx5 #เนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก มองเห็นทิวทัศน์ของแนวเขาที่สลับซับซ้อนได้แบบ 360 องศา อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ทุ่งหญ้าบนเนินจะเปลี่ยนสีแตกต่างกันไปตามฤดูกาล สวยงามทุกฤดูเลย จากด้านบนเราจะเห็นหมู่บ้านอิต่องที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล หากอยากพักค้างแรม ด้านบนไม่อนุญาตให้ค้างนะคะ แต่สามารถพักโฮมสเตย์ที่หมู่บ้านอีต่องให้เลือกหลายเจ้า  ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 0 3459 9118https://goo.gl/maps/aMsTpLYaRcZPsB1q9 จากอำเภอทองผาภูมิ หากเพื่อน ๆ ขับรถได้ต่อชิล ๆ ไปยังอำเภอสังขละบุรี ประมาณ 140 กิโลเมตร ที่อำเภอสังขละบุรีมีกิจกรรมให้เราทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเดินข้ามสะพานมอญหรือสะพานอุตตมานุสรณ์ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดของไทย มีความยาวถึง 850 เมตร ที่ทอดข้ามแม่น้ำซองกาเรีย หรือจะล่องเรือชมพระอุโบสถกลางน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด   ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/w37Hc5w1ZbN18cCX9

🌿 คิดถึงกาญจน์…อีต่อง-ปิล๊อก 🌿 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top