บึงกาฬ

นาคกี้ ไอคอนสุดน่ารัก จังหวัดบึงกาฬ

“นาคกี้” คือผลงานสร้างสรรค์ที่ถือกำเนิดจากแรงศรัทธาต่อพญานาค ผสานกับแนวคิดร่วมสมัย ถูกออกแบบให้เป็นกระปุกออมสินพญานาคน้อย ที่เข้าถึงคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพื่อส่งเสริมวินัยการออมและสร้างรายได้เพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชน…ขับเคลื่อนสู่ Soft Power ของบึงกาฬ และเป็นเครื่องมือพัฒนาเด็ก เปลี่ยนกำลังเล็กให้มีพลังใหญ่ทั้งชุมชน เรื่องราวของ นาคกี้บึงกาฬ เริ่มต้นจากการที่วัดรับเด็ก ๆ จบ ป.6 มาบวชเรียน นักธรรมบาลี หรือบางคนส่งเรียนจนจบปริญญาตรี และในขณะเดียวกันเป็นเด็กกลุ่มเปราะบาง เมื่อจำนวนของเด็ก ๆ เริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 20 ชีวิต พระมหาศรายุทธ อคฺคธมฺโม พระนักพัฒนา เจ้าอาวาสวัดศรีสามัคคีธรรม ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ จึงริเริ่มแนวคิดช่วยชุมชนในการเลี้ยงเด็ก ๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของชุมชน ในเรื่องของ ค่าอาหาร ค่าเทอม โดยใช้องค์ความรู้เดิมของพระอาจารย์ในการออกแบบและทำ “กระปุกออมสินสามเณร” แทนซองผ้าป่า เพื่อให้ชาวบ้านร่วมออมเงินสนับสนุนเด็ก ๆ ในปี พ.ศ. 2565 “พญานาค” ได้รับการประกาศให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติในประเภทสัตว์ในตำนาน สะท้อนถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย ซึ่งได้รับการต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของประเทศอย่างกว้างขวาง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ทรงพลังของไทย ทำให้ต่อมา “กระปุกออมสินสามเณร” ได้พัฒนาแนวคิดเป็น “นาคกี้” โดยอ้างอิงตอนหนึ่งในพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าปราบพญานาคให้กลายเป็นตัวเล็กขดอยู่ในบาตร เพื่อสื่อถึงพลังศรัทธาที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังสร้างสรรค์ ในกระบวนการสร้างสรรค์ “นาคกี้” เด็ก ๆ ที่บวชเรียนภาคฤดูร้อน ณ วัดศรีสามัคคีธรรม ได้ร่วมกันแสดงจินตนาการผ่านการวาดภาพพญานาคในแบบของตนเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแนวคิด โดยผลงานของเด็ก ๆ จะได้รับการนำมาต่อยอดและออกแบบร่วมกับอาจารย์ขาบ–สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ระดับแนวหน้าของไทย จนกลายเป็น “นาคกี้” พญานาคน้อยร่วมสมัย ที่มีรูปลักษณ์น่ารัก ใช้โทนสีพาสเทล ได้แก่ สีม่วง (สีประจำจังหวัดบึงกาฬ), สีเขียว (แทนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ), และสีขาว (แทนศาสนา) นาคกี้เปิดตัวครั้งแรกในงานสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ ผ่านนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมสูติบัตรที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามรับรอง ได้รับการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งปูนปั้น เซรามิก ยางพารา และของฝาก จนกลายเป็น Soft Power และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบึงกาฬ เป็น “ของขวัญริมโขง” ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างกลมกลืน

นาคกี้ ไอคอนสุดน่ารัก จังหวัดบึงกาฬ อ่านเพิ่มเติม

ศรัทธาแห่งบึงโขงหลง : เกาะดอนโพธิ์-เกาะดอนแก้ว จังหวัดบึงกาฬ

วันนี้บัดดี้ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังแห่งความเชื่อและความสวยงามทางธรรมชาติ หากใครสนใจสถานที่ที่อยู่ในเรื่องเล่าจากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น ที่ถูกบ่มด้วยควันไฟแห่งศรัทธาและจุดประกายด้วยความเชื่อจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ลองตามมาอ่านกันได้เลย 🙏 บึงโขงหลง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ มองจากด้านบนจะมีลักษณะรูปทรงคล้ายเขาวัวแคบ ๆ ต้นน้ำของบึงโขงหลง เกิดจากภูวัวและภูลังกาไหลมารวมกันลง ถือเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของโลก อันดับที่ 1,098 (Wetland of International Importance) ในปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน บึงโขงหลงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายมู โดยเฉพาะผู้ที่มีความศรัทธาต่อปู่อือลือ พญานาคผู้ทรงฤทธิ์ ที่เชื่อว่าสามารถดลบันดาลความสำเร็จในด้านต่าง ๆ และโชคลาภแก่ผู้ที่มากราบไหว้ได้ จุดขอพรปู่อือลือ คือ เกาะดอนโพธิ์และเกาะดอนแก้ว เพื่อน ๆ สามารถไปได้ด้วยการนั่งเรือ ทั้งจากผู้ประกอบการรอบ ๆ บึงโขงหลงที่มีอยู่หลายเจ้า หรือแม้แต่ที่พักหลายที่ก็มีบริการนั่งเรือนำเที่ยวไปไหว้ขอพรปู่อือลือเช่นกัน เกาะดอนโพธิ์ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กลางสายน้ำ เป็นที่ตั้งของศาลพ่อปู่อือลือขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมดวงด้านการเงิน การค้าขาย การเดินทางและโชคลาภ บริเวณนี้มีพราหมณ์นำสวด หากใครสนใจสามารถแจ้งได้เลย ควรเตรียมของไหว้บูชา เช่น บายศรีดอกไม้ ธูป เทียน มาให้พร้อม นอกจากเกาะดอนโพธิ์แล้ว เพื่อน ๆ ก็สามารถไปไหว้ขอพรได้ที่เกาะดอนแก้วเช่นกัน ตั้งอยู่ห่างจากเกาะดอนแก้วเพียง 3-4 นาที บนเกาะมีรูปเคารพของปู่อือลือนาคราชให้กราบไหว้เช่นกัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม☎️ 09 8852 4195🌐 Facebook: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ศรัทธาแห่งบึงโขงหลง : เกาะดอนโพธิ์-เกาะดอนแก้ว จังหวัดบึงกาฬ อ่านเพิ่มเติม

8 ที่เที่ยว ต้อนรับปีงู

ปี 2568 เริ่มศักราชใหม่กับปีมะเส็ง (ปีงู) ขอให้ทุกท่านพบเจอแต่สิ่งดีดี โชคดีตลอดปีงู มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ปรับตัวง่าย ยืดหยุ่น อายุยืน ดังเช่นคุณลักษณะเด่นของงูนะคะ 🐍 วันนี้บัดดี้ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับงู บางที่มีงู บางที่ไม่มีงูให้ชมแต่มีอะไรดีดีเกี่ยวกับงูให้ได้สัมผัส ตามไปชมกันเลยค่ะ 1. วัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยาชวนสัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา วัดอนาลโยทิพยาราม เป็นวัดประจำปีเกิดของผู้เกิดปีมะเส็ง (งูเล็ก) ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม สามารถไปสักการะ พระมหาเจดีย์พุทธคยาจำลองได้ บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรมและพักผ่อนใจเป็นอย่างยิ่ง เปิด 06.00 – 18.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/eVvbVU5TPE6SDgBX8 2. อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรีชวนผจญภัยธรรมชาติ ณ อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี อยากสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รังสรรค์ อุทยานหินเขางู คือคำตอบ เพื่อน ๆ จะได้พบกับภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาที่ถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นทัศนียภาพอันน่าทึ่ง เทือกเขามีลักษณะคดเคี้ยวคล้ายงู จึงเรียกเขางู เคยเป็นที่พักอาศัยกว่าพันปี เพราะได้ค้นพบโบราณวัตถุหลากหลาย นอกจากได้เดินชมธรรมชาติแล้ว อย่าลืมเก็บมุมถ่ายรูปสวย ๆ มีให้เลือกมากมาย เปิด 09.00 – 17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/19C7YaPryiYUCbGf6 3. ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬพิสูจน์ความมหัศจรรย์ ณ ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ พบกับพลังแห่งธรรมชาติและความศักดิ์สิทธิ์ กับหินรูปร่างแปลกตาที่เล่าเรื่องราวตำนาน และทัศนียภาพอันงดงาม มีความเชื่อเกี่ยวกับตำนานพญานาค ที่ถูกสาปเป็นหิน แต่ก็มีวิทยาศาสตร์อธิบายไว้เช่นกันว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เรียกว่า ซันแครก (Sun Crack) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิที่แตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหน้าของหินแตก และน้ำได้มีการกัดเซาะเกิดลักษณะเป็นชั้น ๆ เปิดทุกวัน 07.00 – 15.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/j7L5h531nV6Si1XPA 4. วัดโคกงู จังหวัดสิงห์บุรีอัญมณีกลางทุ่งนาที่รอให้คุณค้นพบ ตั้งอยู่บนเนินกลางทุ่งนาอันเขียวขจี ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ภายในวัดประดิษฐาน หลวงพ่อชะเอม พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอยุธยาอายุหลายร้อยปี องค์พระมีความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน อดีตมีงูเห่าเยอะ และวัดตั้งอยู่บนเนิน จึงเรียกว่า “วัดโคกงู” เปิด 08.00 – 16.30 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/RuhKS1XHQC92Hkie6 5. ผาพญางู จังหวัดปัตตานีผาพญางู อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ปัตตานี: อัญมณีธรรมชาติที่ซ่อนเร้น ผาหินรูปร่างแปลกตาที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมาคล้ายพญางูขนาดยักษ์ คอยเฝ้าดูผืนป่าและท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นจุดชมวิวเขารังเกียบ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างท้าทาย แต่เมื่อถึงจุดหมายแล้ว เพื่อน ๆ จะต้องประทับใจกับความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้าอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่ผาพญางูเท่านั้น บริเวณใกล้เคียงยังมีจุดชมวิวที่สวยงามให้ได้สัมผัสอีกมากมาย เปิด 08.30 – 16.30 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/GYj5smXuPucTV9Yn9 6. สยามเซอร์เพนทาเรี่ยม กรุงเทพฯโลกแห่งงูที่คุณต้องมาสัมผัส สยามเซอร์เพนทาเรียม ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์งูธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์ที่คุณจะได้เรียนรู้และสัมผัสโลกของงูอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเกิด การเติบโต พฤติกรรม และความหลากหลายของสายพันธุ์งูทั่วโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของงูผ่านนิทรรศการที่น่าสนใจและกิจกรรมที่หลากหลาย เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 16.00 น. (ปิดทำการ 17.00 น.)เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. (ปิดทำการ 18.00 น.)มีค่าเข้าชมตามอัตราที่กำหนด สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของสยามเซอร์เพนทาเรียมพิกัด https://maps.app.goo.gl/wsF7mnMpqF7Un8B99 7. สถานเสาวภา กรุงเทพฯสวนงู สุดยอดประสบการณ์เรียนรู้โลกแห่งงูใจกลางกรุงเทพฯ สถานเสาวภา หรือที่รู้จักกันดีในนาม “สวนงู” ที่นี่ไม่ใช่แค่สวนงูธรรมดา แต่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับงูที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย พร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและได้ความรู้ไปพร้อมกัน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และน่าสนใจในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เหมาะกับทุกวัย เปิด วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.30 – 15.30 น.วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30 – 13.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/atdSWgjXiWjn3nRY8 8. อำเภอละงู จังหวัดสตูลสวรรค์ของคนรักทะเลและธรรมชาติ อำเภอละงู เป็นภาษามลายูโบราณ เพื้ยนมาจากคำว่า ลากู แปลว่าซื้อง่าย ขายคล่อง อยู่ในจังหวัดสตูล ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับงู เป็นคำพ้องเสียงเท่านั้น แต่ที่นี่เป็นอัญมณีแห่งอันดามันที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยชายหาดที่ทอดยาว ทะเลสีคราม อาทิ หาดปากบารา และหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่รายล้อม อาทิ เกาะบุโหลน เกาะหลีเป๊ะ เกาะเภตรา ปราสาทหินพันยอด ทำให้ละงูเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติ พิกัด https://maps.app.goo.gl/vMAuzLJbXJbL28FS8

8 ที่เที่ยว ต้อนรับปีงู อ่านเพิ่มเติม

✨ กาฬเก่า-กาฬใหม่ ✨

TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมกับ The Cloud ขอนำเสนอคอลัมน์ Take Me Out ชวนพิสูจน์ความเก๋ไก๋ของ ‘บึงกาฬ’ จังหวัดน้องใหม่ ที่แฝงความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ไม่แพ้จังหวัดพี่ ๆ อย่างแน่นอน ตั้งแต่ล่องเรือผ่านลุ่มแม่น้ำโขง สัมผัสเมืองบึงกาฬเก่า-ใหม่ กิน เที่ยว พัก และเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างครบรส รับรองว่าจะฮักที่นี่หล้ายหลาย บึงกาฬ คือจังหวัดน้องใหม่ เกิดจากการมัดรวมบรรดา 8 อำเภอน้อยใหญ่ในจังหวัดหนองคาย และยกสถานะขึ้นเป็นจังหวัดลำดับที่ 77 ของประเทศไทย เวลาเอ่ยถึงจังหวัดนี้คนส่วนใหญ่คงคิดว่ามีอะไร ๆ คล้ายหนองคายไปเสียหมด ตั้งแต่วิถีชุมชน สัมพันธ์ไทย-ลาวเลาะริมโขง อาหารการกิน วัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพญานาค ไปจนถึงเกาะแก่งแหล่งน้ำตามธรรมชาติ หากปรับจูนโฟกัสให้แคบลงเข้าหาบึงกาฬสักนิด แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งหินสามวาฬ ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ ป่าดงสีชมพู และถ้ำนาคา ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ก็ฟังดูคุ้นหูผู้คนในปัจจุบันนี้มากขึ้นหน่อย  แต่บึงกาฬที่เรารู้จักไม่ใช่แบบนั้น… นอกเหนือจากความดีงามที่ว่ามาแล้ว บึงกาฬยังเป็นเมืองซึ่งสอดแทรกความใหม่ร่วมสมัยเข้ากับความเก่าแก่เก๋ไก๋ได้อย่างแนบเนียน เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ที่โยกย้ายกลับแดนเกิด เปิดกิจการห้างร้านเจ๋ง ๆ เลียบเคียงไปกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบึงกาฬ ชุบชีวิตให้จังหวัดกลับมาคึกคัก เคียงคู่กับวัฒนธรรมดั้งเดิมทรงคุณค่าได้อีกครั้ง  สถานีต่อไป ‘บึงกาฬ’ เก็บสัมภาระให้พร้อมแล้วไปเที่ยวให้ม่วนซื่นนำกันโลด เพราะเราพามาตกหลุมรักจังหวัดน้องใหม่ลำดับที่ 77 ของไทย ดูทั้งเมืองบึงกาฬเก่า-กาฬใหม่ ที่สอดแทรกความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว เราคัดมาแล้วว่าม้วนแท้แน่นอน  1 พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต  พิพิธภัณฑ์บ้านอีสานโบราณอายุ 60 ปีที่พลิกจาก Local สู่เลอค่า  ก้าวแรกที่ย่างกรายเข้าเขตบ้านเก่า ที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ก็หวนให้คิดถึงความทรงจำเมื่อครั้งวัยเยาว์ ผู้เฒ่าผู้แก่ และกลิ่นถ่านไม้ยามนึ่งข้าวเหนียว  พิพิธภัณฑ์นี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของ ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดังผู้ประสบความสำเร็จในระดับโลก เขาเปลี่ยนบ้านเก่าที่ตัวเองเติบใหญ่มาเป็นพิพิธภัณฑ์กึ่งศูนย์การเรียนรู้ประจำชุมชน ต่อยอดความดีงามทุกด้านในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ตั้งแต่สถาปัตยกรรม อาหารการกิน วิถีชีวิต และความเชื่อเรื่องพญานาค ปรับปรุงให้อยู่ในรูปแบบที่หวือหวาน่าสนใจ สมกับคอนเซ็ปต์ ‘จาก Local สู่เลอค่า’  ห้องหับยังคงจัดวางข้าวของดั้งเดิมไว้อยู่กับที่ ราวกับใช้งานอยู่เป็นนิตย์ สะท้อนชีวิตชาวบึงกาฬขนานแท้ พื้นที่จัดสรรปันส่วนให้เป็นระเบียบน่าชมสมกับเป็นพิพิธภัณฑ์ มีบริเวณกว้างโดยรอบสำหรับทำกิจกรรมที่จะสับเปลี่ยนเวียนหมุนไปตามโอกาส แถมด้วยพญานาค 4 ตระกูลสุดป๊อป สีเขียวตัดม่วงชวนมอง มื้ออาหารท้องถิ่นเสิร์ฟแบบทันสมัย เครื่องจักสานสะท้อนวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้คือการปรับตัวที่ฟู้ดสไตลิสต์คนเก่งประสานมือกับน้องพี่ในชุมชน   ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ https://goo.gl/maps/ac8nDK7i6PpsfNXbA  เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.  08 6229 7626  พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ  2 สตรีทอาร์ตชุมชนบ้านขี้เหล็กใหญ่  คืนชีพชุมชนทางผ่านด้วยสตรีตอาร์พญานาคสุดจ๊าบ  มาเพลิดเพลินเจริญตาไปกับสตรีทอาร์ตแห่งหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ เป็นการรวมพลังของคนในชุมชนนำคติความเชื่อเรื่องพญานาคมาดัดแปลงเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก เพนต์ลงบนผนังเหย้าเรือนของพี่น้องชาวขี้เหล็กใหญ่ เพื่อสร้างบรรยากาศชุมชนให้มีชีวิตชีวา อบอวลด้วยมวลแห่งความคิดสร้างสรรค์ สะท้อนแนวคิดการปรับตัวให้เท่าทันสังคมที่เปลี่ยนไป โดยใช้สตรีทอาร์ตเป็นเครื่องมือสร้างสุข  แนะนำให้เดินทอดน่องลัดเลาะทั่วชุมชนทักทายแม่ป้า ด้วยรอยยิ้มบ้าง เสียงหัวเราะบ้าง คำโอภาปราศรัยจากใจบ้าง และอย่าลืมตามหา Easter Egg ที่ซุกซ่อนอยู่ตามซอกมุมทั่วหมู่บ้านนี้ล่ะ  ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ https://goo.gl/maps/ac8nDK7i6PpsfNXbA 3 ศิลปะบำบัดในโรงพยาบาลโซ่พิสัย  ศิลปะสุดคิวต์แต่งแต้มโรงหมอ ชุบชูจิตใจทั้งคนไข้และญาติ ถ้าเบื่อบรรยากาศโรงพยาบาลรัฐแบบเดิม ๆ ลองเปลี่ยนมาใช้เวลาที่ ‘โรงพยาบาลโซ่พิสัย’ กันไหม เพราะที่นี่มีงานศิลปะสุดคิวต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ลบภาพจำโรงพยาบาลรัฐแบบเดิม ๆ จนสิ้น  จากวิสัยทัศน์ของ นายแพทย์สุรพงษ์ ลักษวุธ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย ที่ตั้งใจเปลี่ยนโรงหมอแห่งนี้เป็นบ้านหลังอบอุ่น ไม่ว่าผู้ป่วยมากน้อยรายไหนได้เข้าเขตแดนนี้มา ล้วนต้องแข็งแรงทั้งกายและใจกลับไป ญาติพี่น้องมาเฝ้าไข้ก็ต้องมีกำลังใจดี  มุมมองนี้เปิดโอกาสให้ โบ-อิสรีย์ ฉัตรดอกไม้ไพร นักเรียนจิตอาสาผู้มาฝึกงานที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ร่วมมือกับขาบ ฟู้ดสไตลิสต์เจ้าถิ่น มาผัดแป้งแปลงโฉม แต่งแต้มสีสันเรื่องราวลงบนผืนผนังทั่วทั้งสถานพยาบาลประจำอำเภออายุ 30 ปี ให้มีชีวิตชีวา  143 หมู่ที่ 2 ตำบลโซ่ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ https://goo.gl/maps/w59LsSevzHSssuTp9  เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง  0 4248 5100  โรงพยาบาลโซ่พิสัย  4 วัดพระแม่ถวายพระกุมารในวิหาร โบสถ์คริสต์ริมโขงอายุ 200 ปี ศูนย์รวมจิตใจชาวคริสต์บุ่งคล้า สองข้างทางในอำเภอบุ่งคล้าเต็มไปด้วยโบสถ์คริสต์สลับกับวัดไทย ผู้คนที่นี่ต่างศาสนาแต่อยู่ร่วมกันด้วยความเคารพอย่างน่าประทับใจ ริมแม่น้ำโขง ใจกลางตัวอำเภอ คือที่ตั้งของโบสถ์คริสต์เก่าแก่อายุกว่า 200 ปี  อาจารย์โชคดี คุณโดน เล่าตำนานว่า ที่นี่เกิดขึ้นจากนักบุญชาวคริสต์ไถ่ตัวข้าไทจากเมืองลาว แล้วข้ามฟากมาตั้งรกรากที่บ้านภูสวาท ทำให้ชาวบ้านศรัทธา พร้อมเปลี่ยนมานับถือคริสต์ศาสนา และกระจายความเชื่อออกไปทั่วบริเวณหมู่บ้าน ประจักษ์หลักฐานคือโบสถ์ตรงหน้า ลำพังสถาปัตยกรรมอาจบอกเล่าเรื่องราวได้ไม่ชัดเจน แต่หากมาถูกช่วง ตรงกับหน้าเทศกาล จะได้สัมผัสประเพณีชาวคริสต์ โดยเฉพาะเทศกาลอีสเตอร์ ที่จะแห่กันขึ้นเขาไปทำพิธี หรือเทศกาลแห่ดาวในวันคริสต์มาสอีฟ  ไม่ไกลกันมี ‘คักแท๊ะ แสนพันโฮมสเตย์’ ที่พร้อมนำเที่ยวชุมชนบุ่งคล้าระดับมืออาชีพ สัมผัสสินค้าโอทอปท้องถิ่น พร้อมฟังประวัติศาสตร์เล่าขานที่ไม่ได้จดจารึกไว้ที่ไหน แต่มาจากปากผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน  วัดพระแม่ถวายพระกุมารในวิหาร  ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ https://goo.gl/maps/4wWW1XWhmdUZPLir6 5 กว้างคูณยาว คาเฟ่ของลูกหลานบึงกาฬที่ตั้งใจให้เป็นแลนด์มาร์กจังหวัด เขาว่ากันว่า หากคนรุ่นใหม่บึงกาฬกลับมาทุ่มทุนลงมือทำกิจการสักแห่ง ต้องเป็นเพราะความรักล้วน ๆ กว้างคูณยาว คาเฟ่ของ ธี-พิพัฒน์พงศ์ นาใจปัด ชาวบึงกาฬรุ่นใหม่คือเครื่องยืนยัน อดีตนักเรียนเบเกอรี่จากเลอ กอร์ดอง เบลอ ผู้เริ่มต้นทำร้านกาแฟและขนมหวานที่จังหวัดชลบุรีด้วยความรัก ประสบความสำเร็จมากมายจนต้องขยายสาขา สู่หัวเรี่ยวหัวแรงสร้างสรรค์คาเฟ่แห่งนี้ให้เป็นแลนด์มาร์กท้องถิ่น

✨ กาฬเก่า-กาฬใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

สะดือแม่น้ำโขง

แก่งอาฮง หรือ สะดือแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 21 กิโลเมตร ว่ากันว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุด ซึ่งไม่สามารถวัดระดับความลึกได้ ทั้งยังเป็นบริเวณที่น้ำไหลเชี่ยวกรากมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูน้ำหลาก

สะดือแม่น้ำโขง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top