อาหารท้องถิ่น

ผลไม้ตามฤดูกาล ที่ออกผลช่วงเดือนกุมภาพันธ์

เมืองไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องผลไม้ ว่ามีรสชาติดีและมีหลากชนิด หมุนเวียนตามฤดูกาลตลอดปีไม่มีขาด แน่นอนว่าผลไม้ตามฤดูกาลก็จะมีราคาย่อมเยา และรสชาติหวานอร่อยกว่าผลไม้นอกฤดู วันนี้แอดมีรายชื่อผลไม้ที่ออกผลในช่วงต้นฤดูร้อนเดือนกุมภาพันธ์นี้ 3-4 ชนิดมาแนะนำให้เป็นไอเดียในการเลือกซื้อ เลือกชิมกัน ใครยังคิดไม่ออก ว่าช่วงนี้จะกินผลไม้อะไรดี เชิญทางนี้เลยค่ะ มะขามหวาน พูดถึงมะขามหวาน ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็ต้องยกให้ “มะขามหวานเพชรบูรณ์” ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์สีทอง พันธุ์ประกายทอง พันธุ์ศรีชมภู แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุด ก็คือพันธุ์สีทอง เพราะมีเนื้อหนา รสชาติหวานจัด วิธีเลือกคือให้เลือกที่ฝักกลมใหญ่ โค้งงอเป็นครึ่งวงกลม เปลือกเป็นสีเหลืองทอง มะขามพันธุ์นี้จะสุกในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ราคาเริ่มตั้งแต่กิโลกรัมละ 50 บาท ไปจนถึงเกือบ 100 บาท ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แม้ปัจจุบันเราจะหาซื้อมะขามหวานจากที่ต่าง ๆ ได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็อย่าลืมแวะซื้อมะขามหวานติดไม้ติดมือมาเป็นของฝากกันนะคะ ไปถึงถิ่นแล้วทั้งที มะขามเทศ เป็นผลไม้ท้องถิ่นที่ชาวบ้านปลูกกันทั่วไปในต่างจังหวัด แต่ปัจจุบันมะขามเทศได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีการปลูกเพื่อส่งขายมากขึ้น มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้รสชาติอร่อย หวานมัน รับประทานง่ายขึ้น พันธุ์ที่คนนิยม เช่น พันธุ์เจ็ดเสมียน พันธุ์เขียวใหญ่ เป็นต้น บางคนที่ยังไม่เคยลองเพราะไม่คุ้นเคย อยากชวนให้เปิดใจลองชิม เพราะนอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยระบบขับถ่าย คนโบราณใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคปากนกกระจอก และแก้ปวดฟัน ปัจจุบันมีการปลูกมะขามเทศเพื่อส่งขายมากมายในหลายจังหวัด เช่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ถ้าไปเที่ยวตามถิ่นเหล่านี้ ลองซื้อหามาลองชิม หรือเป็นของฝาก รับรองว่าจะติดใจ ราคาในท้องตลาดราว กิโลกรัมละ 60 บาท ไปจนถึง 130 บาท ลูกตาลอ่อน ใครไปเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี รับรองว่าต้องเคยเห็นลูกตาลอ่อนวางขายอยู่ทั่วไปในฤดูนี้ หลายคนอาจเคยทานลูกตาลลอยแก้ว เมนูของหวานเรียกความสดชื่นมาแล้ว แต่ถ้าได้ลิ้มรสลูกตาลอ่อน สดจากต้น ก็จะได้สัมผัสรสชาติของเนื้อตาล รสหวานอ่อนๆ นุ่มละมุนลิ้น ลูกตาลสดนั้นหาซื้อได้ทั่วไป แทบทุกที่ที่มีการปลูกต้นตาลโตนด ถ้าเห็นริมถนนเส้นไหนมีลูกตาลสดขาย มองเข้าไปในท้องทุ่งด้านหลัง ก็จะเห็นมีต้นตาลยืนเด่นอยู่ เรียกว่าขึ้นต้นเก็บกันแล้วก็เฉาะขายกันสดๆเลย เนื้อลูกตาลมีแร่ธาตุและวิตามิน ช่วยแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ และแก้ไออีกด้วย ชมพู่ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คือช่วงที่ชมพู่อร่อยที่สุด เพราะไม่มีฝน สีจะเข้ม รสชาติดี ทั้งหวานทั้งกรอบ พันธุ์ที่คนนิยมรับประทานกัน ได้แก่ ชมพู่เพชรบุรี ผลเป็นสีเขียวอ่อน ชมพู่ทับทิมจันท์ ผลมีสีแดงเหมือนทับทิม และชมพู่พันธุ์เพชรสามพราน ปัจจุบันชมพู่ปลูกกันมากแถวอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดเพชรบุรี ชมพู่นั้นมีประโยชน์มากมาย ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ ต่อต้านอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยระดับลดคอเลสเตอรอลอีกด้วย

ผลไม้ตามฤดูกาล ที่ออกผลช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อ่านเพิ่มเติม

✨ ทำความรู้จักตราฮาลาลในอาหาร ✨

เวลาเพื่อน ๆ ไปตามร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อ คงจะเคยเห็นสัญลักษณ์ “ฮาลาล” กันมาบ้าง หลายคนอาจยังไม่รู้ความหมาย วันนี้แอดจะถือโอกาสมาแนะนำสัญลักษณ์ฮาลาลให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน อาหารที่มีสัญลักษณ์ฮาลาล คืออาหารที่ไม่มีสิ่งต้องห้าม หรือสิ่งที่ขัดกับหลักศาสนาอิสลามเจือปน โดยคำว่าฮาลาล มาจากภาษาอาหรับ ใช้สัญลักษณ์ (حلال‎) ทำเป็นตราสำหรับติดบนสลากผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้ชาวมุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์ได้ โดยอาหารที่ได้รับตราฮาลาล จะต้องผ่านกรรมวิธีในการทำ ผสม ปรุง ประกอบ หรือแปรสภาพ ตามศาสนบัญญัติ ถือเป็นอาหารที่มีขั้นตอนในการเตรียมวัตถุดิบค่อนข้างละเอียด มีหลายขั้นตอน โดยผู้ออกตราฮาลาลในประเทศไทยคือคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน อาหารฮาลาลได้รับความสนใจมากกว่าแต่ก่อน เพราะทุกคนสามารถรับประทานได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นชาวมุสลิมเท่านั้น หลัก ๆ แล้วอาหารฮาลาลก็เหมือนอาหารที่เรารับประทานทั่วไป แต่จะไม่มีเหล้า ไขมันหมู เลือด และสัตว์ในข้อห้ามของศาสนาอย่างสัตว์มีกรงเล็บ สัตว์นักล่าต่าง ๆ รวมถึงหากเป็นสัตว์ที่ถูกเชือด ก็ต้องถูกเชือดด้วยผู้ที่รู้วิธี สัตว์ต้องโดนเชือดแบบไม่ทรมาน

✨ ทำความรู้จักตราฮาลาลในอาหาร ✨ อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อชา 🍵🫖

แหล่งปลูกชาในไทย นอกจากจะเป็นพื้นที่เพาะปลูกแล้วส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวชม เรียนรู้ และถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ มักมีร้านของฝากให้เราได้ซื้อชาหรือของที่ระลึกอื่น ๆ กลับไปด้วย หากเพื่อน ๆ สนใจอยากซื้อใบชากลับบ้าน แอดก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ ในการเลือกซื้อมาฝากค่ะ 😉 แหล่งปลูกชา 🌱 แหล่งปลูกชาก็เป็นอีกปัจจัยที่จะตัดสินว่าชานั้นมีคุณภาพหรือไม่ เพราะสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ และอากาศถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการปลูกชา เพราะจะทำให้ใบชามีรสชาติและคุณภาพที่ต่างกัน แหล่งปลูกชาคุณภาพดีในไทยส่วนใหญ่อยู่ทางตอนบนของประเทศ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่บนเขาสูง มีความชื้นปกคลุม และมีอากาศเย็น คุณภาพของใบชา 🍃 จริง ๆ แล้วใบชามีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต เบื้องต้นแนะนำให้เลือกเป็นชาใบ มากกว่าชาผงหรือเศษฝุ่นชาที่เหลือจากกระบวนการผลิต จะทำให้ได้ชาที่มีคุณภาพมากกว่า ชิมก่อนซื้อ 🍵 ชาแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่าง ทั้งในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ซึ่งต่างคนก็คงจะต่างใจ หากเป็นร้านชาที่มีบริการชิมก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ ก็น่าจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ดีขึ้น สังเกตบรรจุภัณฑ์ 📦 การเก็บรักษาใบชาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรใส่ใจ เพราะใบชานั้นมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นแสง อุณหภูมิ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะทึบ และสุญญากาศ เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจจะทำให้ใบชาเสียหายและรสชาติเปลี่ยนได้

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อชา 🍵🫖 อ่านเพิ่มเติม

1 Day Trip ปั่นจักรยาน 🚴 เที่ยวเมืองน่าน

จังหวัดน่านนั้นแม้จะเป็นเมืองรอง แต่ก็อยู่ในลิสต์ต้นๆที่คนอยากไปเที่ยว บางคนอาจจะไปเที่ยวมาหลายครั้งแล้วด้วยซ้ำ เรื่องนี้จริงค่ะ มาเที่ยวกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะน่านมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ไปเยี่ยมชม ทั้งแนวธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม ส่วนทริปนี้ แอดจะชวนไปปั่นจักรยานเที่ยวชมตัวเมืองน่านกันค่ะ จะปั่นคนเดียว ปั่นเป็นคู่ หรือปั่นเป็นแก๊งค์ รับรองว่าสนุกทุกแบบ น่านนั้นเป็นเมืองจักรยาน จึงปั่นเที่ยวได้ง่ายและปลอดภัย แถมยังเป็นการเดินทางที่สะดวกในการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แค่จอดจักรยาน ก็ลงไปถ่ายรูปได้เลย อีกอย่างการถ่ายรูปในตัวเมืองเก่าน่าน จะได้ภาพถ่ายที่สวยงามมาก เพราะไม่มีเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้ามาบดบัง การเดินทางมายังจังหวัดน่านนั้น สามารถเลือกได้หลายวิธี  เครื่องบินสนามบินน่าน (NNT) อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร มีสายการบินให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-น่าน จำนวน 3 สายการบิน คือ สายการบินนกแอร์ (Nok Air), สายการบินไทยแอร์เอเชีย (AirAsia) และสายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที  รถยนต์จากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 680 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง  รถโดยสารประจำทางมีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต ถนนกำแพงเพชร ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดน่านกันแล้ว เราสามารถเช่าจักรยานได้จากโรงแรมที่พัก หรือที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน  46/1 ถนนผากอง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน https://goo.gl/maps/u4CHkJBuLhvtUNqB8  0 5477 5169 ไปดูกันว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง 1. วัดภูมินทร์ – ชมภาพวาดแห่งตำนาน “กระซิบรักบันลือโลก” 2. วัดมิ่งเมืองและเสาพระหลักเมืองน่าน – สถาปัตยกรรมลายปูนปั้นอันงดงาม ต้นแบบ “วัดร่องขุน จังหวัดเชียงราย” 3. วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร – สถาปัตยกรรมงดงาม จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยตอนกลางวัน Amazing ตอนกลางคืน 4. วัดหัวข่วง – มีหอไตรเก่าแก่ที่สวยงาม จุดถ่ายรูปเก๋ๆอีกมุมหนึ่ง 5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน – ศูนย์รวมโบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่าของเมืองน่าน ซุ้มลีลาวดี จุดถ่ายรูปแสนโรแมนติก 6. ร้าน น้ำเงี้ยว ข้าวซอย แม่สุณีย์ – ร้านอาหารท้องถิ่นที่เปิดมายาวนานกว่า 30 ปี 7. โฮงเจ้าฟองคำ – แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การันตีด้วยรางวัล Thailand Tourism Awards 2021  วัดภูมินทร์ ถือเป็นหัวใจของเมืองน่านก็ว่าได้ค่ะ เป็นวัดหลวงที่พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองเมืองน่าน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2139 จุดเด่นคือ เป็นวิหารทรงจตุรมุขหลังเดียวในประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ประธาน สิ่งที่ทำให้วัดภูมินทร์เป็นที่รู้จัก และโด่งดังที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวคือ ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก” ผลงานของ“หนานบัวผัน” ศิลปินชาวน่านชื่อดัง เป็นภาพชายหญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณ หรือที่เรียกกันว่า“ปู่ม่าน ย่าม่าน” กำลังกระซิบสนทนากัน เชื่อกันว่า คู่รักที่มาบอกรัก ขอพรต่อหน้า“ปู่ม่าน ย่าม่าน” จะมีความรักที่มั่นคงยั่งยืน ถ้ามาเป็นคู่ อย่าลืมมาบอกรักขอพรกันนะคะ วัดภูมินทร์  ถนนผากอง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ( เข้าชมฟรี ) https://goo.gl/maps/CAs83xDDq5t4f3pE9  วัดมิ่งเมืองและเสาพระหลักเมืองน่าน จากนั้นเราไปไหว้พระและสักการะพระเสาหลักเมืองน่านเพื่อความเป็นสิริมงคลกันต่อคะ วัดมิ่งเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมลายปูนปั้นงดงาม ที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ โดยฝีมือช่างสกุลเชียงแสน และวัดนี้เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจแก่ศิลปินในการสร้าง “วัดร่องขุน” ในจังหวัดเชียงราย วัดมิ่งเมืองและเสาพระหลักเมืองน่าน  52 ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ( เข้าชมฟรี )  https://goo.gl/maps/Q2M6zZeDiVsncLbx5  วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมต่างจากวัดอื่น ๆ ในเขตเมืองเก่าค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากมีเจดีย์ทรงลังกาฐานองค์พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนและปั้นเป็นรูปช้างครึ่งตัวโดยรอบ ทำให้ดูเหมือนช้างใช้หลังหนุน หรือค้ำองค์เจดีย์ไว้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดพระธาตุช้างค้ำนั่นเอง วัดนี้แอดขอบอกว่า เป็นจุดถ่ายรูปในเวลากลางคืน ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในตัวเมืองเก่าน่าน รับรองคนชอบถ่ายรูปต้องกดชัตเตอร์กันรัวๆเลยล่ะ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร  ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ( เข้าชมฟรี ) https://goo.gl/maps/VdGZBgWwDCdhtttt9  วัดหัวข่วง วัดเก่าแก่ที่สวยงามอีกวัดหนึ่งในเขตเมืองเก่า ได้รับการประกาศให้เป็นโบราณสถานของชาติ ตั้งอยู่ติดกันกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน มีวิหารที่หน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษา อย่างประณีต วัดนี้แอดว่า มีหอไตรที่สวยงามมาก แถมยังตั้งเรียงรายกับเจดีย์ และพระวิหาร ได้มุมกันพอดี เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยเก๋อีกมุมหนึ่งทีเดียว วัดหัวข่วง  ถนนมหาพรหม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ( เข้าชมฟรี ) https://goo.gl/maps/BE6as7wU4q4FADbj7  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

1 Day Trip ปั่นจักรยาน 🚴 เที่ยวเมืองน่าน อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿

สายดื่ม มารวมกันตรงนี้! อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะแอดหมายถึง สายดื่มชาต่างหาก “ชา” เป็นต้นพืชชนิดหนึ่ง ที่ใช้ส่วนของ “ใบ” มาผ่านกระบวนการที่ต่างกันจนออกมาเป็นชาต่าง ๆ โดยพันธุ์ชาที่นิยมปลูกในไทยมี 2 สายพันธุ์คือ ชาพันธุ์อัสสัมและพันธุ์ชาจีน ซึ่งชาที่ไทยนิยมปลูก สามารถนำเอามาทำเป็นชาประเภทต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 ประเภทตามกรรมวิธีที่ใช้ผลิต เช่น ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลงและชาดำ ชาขาว (White Tea) เป็นชาที่เก็บยอดอ่อนของต้นชา มาผ่านกระบวนการอบไอน้ำในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษารสชาติและกลิ่น โดยไม่ผ่านการหมักเหมือนชาชนิดอื่น ๆ ชาดำ (Black Tea) เป็นชาที่นำยอดอ่อนของใบชามานวดแล้วหมักจนได้กลิ่นที่หอม ก่อนที่จะนำไปอบแห้งอีกที ซึ่งใบชาที่ได้มานั้นจะมีสีเข้มและมีรสขมฝาดมากกว่าชาเขียว ชาเขียว (Green Tea) เป็นชาที่เก็บมาจากยอดอ่อนของชาแล้วนำไปอบแห้งทันที ไม่ผ่านการหมัก ทำให้ใบชายังมีสีเขียว รสชาติ สีและกลิ่นที่ยังใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ชาอู่หลง (Oolong Tea) เป็นชาที่ได้จากใบชาที่ถูกทิ้งให้สลด นำมานวดและบ่มเล็กน้อย ถือว่าเป็นชาประเภทกึ่งหมัก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสชาติเข้มข้นกว่าชาเชียวแต่ฝาดน้อยกว่าชาดำ เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบชาสามารถไปชิมชาที่แหล่งปลูกได้เลย ซึ่งไร่ชาส่วนใหญ่ของไทยมักจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย กระจายอยู่ตามภูเขาทางภาคเหนือ ถ้าสนใจ แอดมีลิสต์แหล่งท่องเที่ยวพร้อมไปจิบชาชิลล์ ๆ มาฝากกันด้วย จังหวัดเชียงราย ไร่ชาฉุยฟง 97 หมู่ 8 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5377 1563 GPS : https://goo.gl/maps/JEcp5znUyPNBGo7C7 สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) 99 หมู่ 1 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5316 0636-7, 06 1387 7592, 09 1576 0374 GPS : https://goo.gl/maps/dkm1RxtZAs6DWxWw8 ไร่ชาหงษ์ฝู่ 133 หมู่ 1 บ้านสันติคีรี ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 0558 0066 GPS : https://goo.gl/maps/kqFHoxdS2ekxiPh78 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ชาหงษ์ฝู่ ดอยแม่สลอง ไร่ชา 101 63 หมู่ 6 ดอยแม่สลอง ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 8805 9391, 0 5371 0029 GPS : https://goo.gl/maps/YwK1UTpq6qpXS5ad8 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ไร่ชา101 ดอยแม่สลอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านรักไทย หมู่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน GPS : https://goo.gl/maps/6ZABHshTL5RQzmuZ6 จังหวัดเชียงใหม่ ไร่ชาลุงเดช 91/1 หมู่ 2 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 08 1163 3765 GPS : https://goo.gl/maps/TFivQ3dvj9qjFGzp8 จังหวัดน่าน บ้านศรีนาป่าน บ้านศรีป่าน ตำบลเรือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โทร. 06 2546 3294, 08 1180 5232 GPS : https://goo.gl/maps/2TSA6Pny9hZFLYm37 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ศรีนาป่าน

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ กิน เที่ยว ชมย่าน ถนนดินสอ – เสาชิงช้า ✨

ผ่านพ้นปีใหม่มาไม่กี่วัน ใครยังรู้สึกท่องเที่ยวได้ไม่หนำใจไหมคะ แอดมีเส้นทางท่องเที่ยว 1 วัน ย่านถนนดินสอ-เสาชิงช้า ในกรุงเทพฯ มาฝากค่ะ ในช่วงเดือนมกราคมนี้ อากาศยังไม่ร้อนจนเกินไป ท้องฟ้าก็ยังสดใส มาค่ะ…ออกไปเดินเล่นชมย่านเมืองเก่า กินอาหารอร่อย ๆ กัน ส้นทางท่องเที่ยว ย่านเสาชิงช้า – ถนนดินสอ  เติมพลังยามเช้าด้วยมื้อเบา ๆ บริเวณสามยอด  1 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร : สักการะหลวงพ่อโต  2 เสาชิงช้า : ชมสถาปัตยกรรมใจกลางเมืองพระนคร  3 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ : ขอพร สักการะเทพในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู  แวะบ้านขนมปังขิง ชิมขนมไทยรสเลิศ  4 บ้านลลิณ : ร้านอาหารสไตล์ไทยคาเฟ่ริมคลอง  5 Mynd rooftop slow bar : ชิลล์ในคาเฟ่พร้อมชมวิวภูเขาทอง  การเดินทาง : MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีสามยอด ทางออกที่ 3 เดินไปทางถนนอุณากรรณ  มื้อเช้าบริเวณสามยอดก่อนเริ่มเดินชมเมือง แอดจะพาไปกินมื้อเช้ากันก่อน รอบ ๆ สถานี MRT สามยอดมีร้านอาหารเช้าให้เลือกหลายร้าน ทั้งร้านเก่าเจ้าเด็ด และร้านใหม่น่าลอง ออน ล็อก หยุ่น ร้านกาแฟสุดคลาสสิค ขายอาหารเช้าสไตล์ฝรั่งผสมจีน บรรยากาศย้อนยุค มีชากาแฟแบบโบราณ ชุดอาหารเช้าขนมปัง ไข่ดาว ไข่คน เบคอน ไส้กรอก กุนเชียง หรือจะสั่งไข่ลวกก็มี ทีเด็ดคือ ขนมปังสังขยา หวานหอมกำลังดี  72 ถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวัน เวลา 06.00-14.30 น.  085 809 0835 https://goo.gl/maps/eBSkt9Md4Uv28jjz7 Varen เดินเลยออนล็อกหยุ่นไปทางศาลาเฉลิมกรุง จะเห็นคาเฟ่สีขาวสะอาดตาน่านั่ง ที่นี่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟเป็นมื้อเช้า มีกาแฟรสชาติดีหลายเมนูให้เลือก ทั้งร้อนและเย็น จิบไปพร้อมกับเบเกอรี่อร่อย ๆ สักชิ้นก็เป็นการเริ่มต้นวันที่ไม่เลวเลย  14 ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  081 692 9999 https://goo.gl/maps/75ZXpFHCRYWcnWeb9 โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ ณ เสาชิงช้า เป็นร้านกาแฟเก่าแก่อีกร้านที่อยู่คู่พระนครมายาวนาน ปัจจุบันมีหลายสาขา นอกจากชากาแฟสไตล์โบราณแล้ว ยังให้บริการอาหารหลากหลายเมนู ทั้งอาหารเบา ๆ ในมื้อเช้า เมนูกับข้าว ขนมหวาน และที่ขึ้นชื่อก็คือ เมนูไข่กระทะที่ใคร ๆ ต่างติดใจ   ถนนศิริพงษ์ แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น.  091 979 1498, 062 678 3003 https://goo.gl/maps/PX6pBnaXDrCsdUjW8 หลังจากเติมพลังยามเช้ากันแล้ว ก็ถึงเวลาเดินชมเมือง เราจะเริ่มจากถนนดินสอกัน ถนนดินสอเป็นถนนระยะทางสั้น ๆ ตั้งต้นจากบริเวณเสาชิงช้ายาวไปทางวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจนจรดถนนพระสุเมรุ สันนิษฐานว่า ชื่อถนนนี้มีที่มาจากอาชีพของชาวบ้านย่านนี้ในอดีตที่ทำดินสอขาย  ดินสอที่เป็นเครื่องเขียนในสมัยโบราณอาจจะไม่เหมือนดินสอที่เรารู้จักในปัจจุบันนัก ดินสอสมัยโบราณมีหลายชนิด เช่น ดินสอหิน ใช้เขียนบนกระดานชนวน ดินสอขาว ใช้เขียนบนกระดานดำ สมุดไทยดำ ดินสอดำ ใช้เขียนบนสมุดไทยขาว ฯลฯ แม้ปัจจุบัน อาชีพของชาวบ้านย่านนี้จะเปลี่ยนไปหมดแล้ว แต่ก็ยังเป็นย่านเมืองเก่าที่สวยงาม มีสถานที่น่าสนใจให้ชมหลายจุด แถมมีของกินอร่อย ๆ ให้เราอิ่มท้องไปตลอดทั้งวัน วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เริ่มก่อตั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 3 รัชกาลเลยทีเดียว  ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวัน 08.00-16.00 น.  02 222 6932, 02 222 9635 https://goo.gl/maps/hJTz7fU7oJm ภายในวิหารวัดสุทัศน์ เป็นที่ประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)” ที่อัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย เป็นองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบหล่อสำริดที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย  นอกจากนี้ วัดสุทัศน์เป็นวัดที่ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่น ๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ (สถานที่สำคัญ 7 แห่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขหลังตรัสรู้) เสาชิงช้า หน้าวัดสุทัศน์ฯ เราจะเห็นเสาชิงช้าสูงใหญ่ตั้งตระหง่านงดงาม เสาชิงช้านี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 บนพื้นที่สะดือเมือง หมายถึงศูนย์กลางของพระนคร เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธี “ตรียัมปวาย ตรีปวาย” ตามโบราณราชประเพณี และคติความเชื่อของพราหมณ์ ก่อนจะมีการยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 7 ปัจจุบัน เสาชิงช้ากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นมรดกอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ใกล้ ๆ กับเสาชิงช้า คือ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เทวสถานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับเสาชิงช้า ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 1 เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีโบราณ ที่ให้มีเทวาลัยอยู่ใจกลางเมือง บริเวณด้านหน้ามีซุ้มเทวรูปพระพรหมตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ ด้านหลังซุ้ม เป็นอาคารทรงไทย 3 หลัง อายุมากว่า 200 ปีแล้ว โดยแต่ละหลังเป็นที่ประดิษฐานเทพศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ ได้แก่ เทวสถานพระอิศวร เทวสถานพระมหาวิฆเณศวร (พระคเณศ) และ เทวสถานพระนารายณ์  268 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวัน

✨ กิน เที่ยว ชมย่าน ถนนดินสอ – เสาชิงช้า ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌷 เมี่ยงคำกลีบบัว อาหารเป็นยา 🌷

ฮอตฮิตกันมาสักพักแล้วนะคะ กับของว่างสูตรโบราณ “เมี่ยงคำกลีบบัว” เอาใจคนรุ่นใหม่ที่อยากรับประทานเมี่ยง แต่ไม่ชอบกลิ่น และรสฝาดของใบชะพลู จึงปรับสูตรใช้กลีบบัวหลวงแทนใบชะพลู เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น เมนูนี้ นอกจากจะหน้าตาสวยงาม และรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากอีกด้วย เพราะส่วนผสมในเมี่ยงคำกลีบบัวนั้น มีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาธาตุทั้งสี่ให้สมดุลกัน ดังนี้ มะพร้าวคั่ว บำรุงธาตุดิน บำรุงกระดูกและไขข้อ ถั่วลิสงคั่ว มีโปรตีน บำรุงธาตุดิน บำรุงเส้นเอ็น หัวหอมแดง บำรุงธาตุลม แก้ไข้หวัด ขิง บำรุงธาตุไฟ แก้อาเจียน มะนาว บำรุงธาตุน้ำ ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ช่วยให้ชุ่มคอ พริก บำรุงธาตุลม ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ กุ้งแห้ง บำรุงธาตุดิน บำรุงผิวหนัง มีโปรตีนและแคลเซียม น้ำจิ้ม มีรสหวาน รสเค็ม ช่วยบำรุงธาตุดิน บำรุงกำลัง มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ สนใจจะลองชิมบ้างหรือยัง อีกอย่าง เมนูนี้เหมาะกับช่วงที่อากาศเย็น ๆ หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง คนเป็นหวัดกันง่าย สมุนไพรในเมี่ยงคำนี่ช่วยรักษาอาการหวัดได้ดีเลยค่ะ

🌷 เมี่ยงคำกลีบบัว อาหารเป็นยา 🌷 อ่านเพิ่มเติม

1 day เที่ยวเมืองเก่าอยุธยา🚂

วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวแบบ slow life กันบ้าง นั่นคือนั่งรถไฟไปเที่ยวกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นเอง พอพูดถึงรถไฟ…ถึงแม้ว่าจะไปกันแบบช้า ๆ แต่เราจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบที่ไม่สามารถพบเจอจากการนั่งรถยนต์แน่นอน เส้นทางการเดินทางในวันนี้ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงก็ถึงอยุธยาแล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ใช้เป็นแนวทางจัดทริปเที่ยวเมืองเก่าแบบไปเช้าเย็นกลับกันได้ง่าย ๆ ไปลุยกันเลย : ) 1 วันเที่ยวเมืองเก่าอยุธยาวัดมหาธาตุ Unseen Thailand แห่งอยุธยา ชมเศียรพระใต้ต้นไม้และพระปรางค์อิทธิพลจากขอม วัดราชบูรณะ ชมพระปรางค์องค์ใหญ่ อดีตกรุสมบัติล้ำค่ากรุงเก่า วัดพระราม ชมสถาปัตยกรรมของพระปรางค์ขนาดใหญ่ที่ได้รับอิทธิพลแบบเขมรโบราณจากเมืองละโว้ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ชมความอลังการ วัดสำคัญสมัยอยุธยา ดับร้อนด้วยชา กาแฟเย็น ๆ ร้านบ้านขาวม้าคาเฟ่ สไตล์ไทย ๆ ลิ้มลอง กุ้งแม่น้ำเผา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ร้านบ้านป้อมเพชร การเดินทางท่องเที่ยวไปจุดต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยาสามารถเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น รถสามล้อ หากไปด้วยกันหลายคน แนะนำให้เหมารถไปเลยเพื่อความสะดวก หรือถ้าเป็นสายปั่น สามารถเช่าจักรยานปั่นชมเมืองชิลล์ ๆ ได้ เพราะแต่ละสถานที่ก็อยู่ไม่ไกลกันมากนัก หรือหากเป็นสายซิ่งก็มีรถจักรยานยนต์ให้เช่า ราคา 200-300 บาท/วัน ทริปนี้เราเดินทางโดยรถไฟ นั่งสบาย ๆ ชิลล์ ๆ มีบริการทุกวันจากสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยรถเที่ยวแรกออกจากกรุงเทพฯ เวลา 05.20 และรถเที่ยวสุดท้าย ผ่านอยุธยา เวลา 20.45 น สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถไฟได้ที่  เว็บไซต์ : www.railway.co.thการรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690 เอาล่ะ ไปลุยกันเลย! ก่อนอื่นเราจะต้องซื้อตั๋วเข้าชมโบราณสถานแต่ละแห่งเสียก่อน จุดจำหน่ายตั๋วจะอยู่ตรงทางเข้าของโบราณสถานทุกที่ค่ะ เริ่มต้นที่ไหนก็ซื้อจากที่นั่นได้เลย  ตั๋วรวม ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท(สามารถเข้าชมได้ 6 วัด ได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังโบราณ วัดพระราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดไชยวัฒนาราม และวัดมเหยงคณ์ บัตรมีอายุ 30 วัน เข้าชมได้วัดละ 1 ครั้ง) สำหรับทริปนี้ เราจะเที่ยวกันในเกาะเมืองเก่า นอกจากวัดที่แอดพาไปแล้ว ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งหากเพื่อน ๆ มีเวลาเพียงพอ ลองไปเที่ยวชมกันนะคะ วัดพระมหาธาตุ จุดแรกจะว่าเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้ วัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีจุดที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างเศียรพระพุทธรูปที่อยู่ในรากต้นโพธิ์ และพระปรางค์องค์ใหญ่ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น เป็นปรางค์ที่ได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม ต้องห้ามพลาดกันนะ วัดพระมหาธาตุ  ถนนนเรศวร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.30 น.  พิกัด : https://goo.gl/maps/SmeBkorpBqhxdts49 วัดราชบูรณะ เป็นโบราณสถานที่สำคัญ เพราะสร้างขึ้นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระศพเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา สิ่งที่น่าสนใจคือ ปรางค์ประธานขนาดใหญ่ที่ก่อด้วยอิฐและศิลาแลง ภายในปรางค์มีกรุซึ่งเคยขุดพบสิ่งของมีค่าต่าง ๆ เช่น เครื่องราชูปโภคที่ทำด้วยทองคำ มงกุฎ พระพุทธรูป พระพิมพ์ และสิ่งมีค่าอื่น ๆ (สามารถชมของที่ขุดพบได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา) วัดราชบูรณะ  ถนนชีกุน ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.  พิกัด : https://goo.gl/maps/WR9cccXdEs7p1aSJA วัดพระราม วัดพระรามเป็นวัดที่อยู่นอกเขตพระราชวัง ตรงข้ามกับวิหารพระมงคลบพิตร วัดนี้สังเกตได้ง่าย ๆ คือมีบึงขนาดใหญ่อยู่หน้าวัด เพราะในการสร้างกรุงศรีอยุธยา มีการขุดดินในหนองมาถมพื้นที่วังและวัด ทำให้พื้นที่ส่วนนี้กลายเป็นบึงขนาดใหญ่ ชื่อว่า “บึงชีขัน” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “บึงพระราม” ปัจจุบันใช้เป็นสวนสาธารณะ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และที่สำคัญอีกอย่างคือ มีพระปรางค์ขนาดใหญ่เห็นเด่นชัดแต่ไกล องค์ปรางค์ก่อด้วยอิฐสอปูน เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้นที่นิยมทำเป็นพระปรางค์ เพราะได้รับอิทธิพลแบบเขมรโบราณจากเมืองละโว้ (ลพบุรี) วัดพระราม ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/mv2G5g4ojVngcVwe7 วัดพระศรีสรรเพชญ์ มาถึงอยุธยาก็ต้องห้ามพลาดวัดพระศรีสรรเพชญ์ เพราะในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวัง ใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานคร หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย เราจะเห็นเจดีย์ทรงระฆัง 3 องค์ ตั้งสูงตระหง่านสวยงาม ภายในบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เดิมระหว่างเจดีย์มีมณฑปคั่น แต่ได้หักพังไปหมดเหลือเพียงฐานและผนังบางส่วน แม้วัดจะทรุดโทรมลงไปมาก แต่ก็ยังคงความงดงามให้เราได้ชื่นชมอยู่  ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.  พิกัด : https://goo.gl/maps/5vkzTUxZoLi3Whf27 บ้านขาวม้า คาเฟ่ หลบร้อนกันสักหน่อยที่บ้านขาวม้า แค่ชื่อร้านก็ดูออกเลยนะคะว่าจะต้องมีผ้าขาวม้าแน่ ๆ ที่นี่เป็นร้านกาแฟสไตล์ไทยร่วมสมัย ที่ใช้ผ้าขาวม้ามาเป็นลูกเล่นในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปูโต๊ะ เบาะรองนั่ง ผ้ารองแก้ว ฯลฯ ส่วนเมนูขนมและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเพียบเลยค่ะ บ้านขาวม้า คาเฟ่  ถนนเจดีย์-วัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.30 น.  โทร.08 6664 1291

1 day เที่ยวเมืองเก่าอยุธยา🚂 อ่านเพิ่มเติม

ของฝากห้ามพลาด…จังหวัดกระบี่✨

กระบี่เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก และหมู่เกาะต่าง ๆ นอกจากความประทับใจที่เราจะเก็บกลับไปแล้ว อีกอย่างที่ลืมไม่ได้ก็คือของฝาก ที่ติดไม้ติดมือกลับไปฝากเพื่อนฝูงญาติมิตร ว่าแต่ที่กระบี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง แอดมีตัวอย่างมาให้ดูเป็นแนวทางเลือกช้อปปิ้งกัน แอดมีพิกัดแหล่งชอปปิ้ง มาฝากเพื่อน ๆ แต่นี่เป็นเพียงน้ำจิ้ม ยังมีอีกหลาย ๆ ร้านให้เลือกเลยน้า  ร้านจี้ออ กระบี่ โทร. 09 8670 2160 Facebook : จี้ออ ของฝากกระบี่ ร้านศรีกระบี่ โทร. 0 7570 0636, 08 1719 1098 Facebook : ศรีกระบี่ ของฝาก จ.กระบี่ ร้านกระบี่สินโอชาเบเกอรี่ โทร. 0 7562 2429 Facebook : กระบี่สินโอชาเบเกอรี่  เต้าส้อ เป็นขนมขึ้นชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ลักษณะคล้ายขนมเปี๊ยะ เนื้อแป้งร่วนซุย มีหลายไส้ให้เลือก เช่น ไส้ถั่ว ไส้หวาน ไข่เค็ม หอมอร่อย อย่าพลาดชิมเชียวล่ะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ น้ำพริกกุ้งเสียบ อีกหนึ่งความหรอยที่ขาดไม่ได้ น้ำพริกกุ้งเสียบ เมนูขึ้นชื่อของภาคใต้ ทานคู่กับอะไรก็อร่อย น้ำพริกกุ้งเสียบมีหลายสูตร มีทั้งน้ำพริกกุ้งเสียบอบแห้ง น้ำพริกกุ้งเสียบตำสด ส่วนใหญ่จะมีรสชาติจัดจ้าน เผ็ดเปรี้ยว กลมกล่อม มีเครื่องเคียงเป็นผักสด หรอยแรง!! ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ ขนมลากรอบ ขนมท้องถิ่นยอดฮิตของภาคใต้ แต่ไหนแต่ไรจะหาทานได้ในช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ แต่ปัจจุบัน ขนมลากลายเป็นของฝากยอดนิยมไปแล้ว สามารถซื้อได้ทั้งปี ส่วนประกอบหลักของขนมลาคือ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย รสชาติหวาน กรอบ หอมกลิ่นน้ำตาล และสามารถเก็บไว้ได้นาน กินเพลินเกินห้ามใจเลยล่ะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ อินทผาลัมกระบี่ ที่กระบี่ มีการปลูกอินทผาลัมกันมาก และเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพดี เหมาะจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก มีให้เลือกทั้งแบบสดและแบบอบแห้ง รสชาติหวานอร่อย เหมาะกับการทานเล่น ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ ผ้าบาติก ผ้าบาติกถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวใต้ ไม่เพียงความสวยงามของสีสันจะถูกใจนักท่องเที่ยว ลวดลายบนผ้าที่สื่อถึงท้องถิ่นอย่างท้องทะเล ธรรมชาติ ป่าเขา ก็ยิ่งทำให้เหมาะกับเป็นของฝาก

ของฝากห้ามพลาด…จังหวัดกระบี่✨ อ่านเพิ่มเติม

✨นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เมืองต้องห้ามพลาด ✨

ช่วงปีสองปีมานี้ จังหวัดนครศรีธรรมราชกลายเป็นจังหวัดที่คนคุ้นหูกันมากขึ้น เพราะกระแสความศรัทธาในวัดเจดีย์ แต่แอดขอบอกว่า จริง ๆ นครฯ มีอีกหลายสิ่งที่น่าสนใจ ควรแก่การจัดทริปไปเที่ยวชม ที่นี่มีครบทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นทะเล ป่าเขา ศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมในชุมชนต่าง ๆ แถมอาหารก็อร่อยล้ำไม่แพ้ใครเลย ถ้ายังไม่เคยมาเที่ยวนครศรีธรรมราช ลองมาทำความรู้จักกันหน่อย ดูว่าโปรแกรม 2 วัน 1 คืนนี้ แอดจะพาไปเที่ยวไหนบ้าง วิธีการเดินทางมาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ตามสะดวก เครื่องบิน สนามบินนครศรีธรรมราช (NST) อยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชประมาณ 10 นาที ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ตอนนี้สายการบินที่บินมาลงสนามบินนครศรีธรรมราชมีให้เลือก 5 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air), สายการบินนกแอร์ (Nok Air), สายการบินไทยแอร์เอเชีย (AirAsia), สายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile), สายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet Air) รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แล้วใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41ผ่านสุราษฎร์ธานี-ทุ่งสง จนถึงนครศรีธรรมราชใช้เวลาประมาณ 10-11 ชั่วโมง รถประจำทาง มีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-11 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 780 กม. (แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า) สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 (เนื่องจากเที่ยวรถอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โควิด-19) รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นรถด่วน ขบวนที่ 85 ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้เวลาประมาณ 15-16 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โทร. 1690 วันที่ 1 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมพระธาตุไร้เงา ที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร สักการะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ดื่มด่ำบรรยากาศของหมู่บ้านคีรีวง ที่ขี้นชื่อว่ามีอากาศดีที่สุด วันที่ 2 ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่วัดเจดีย์ กินลมชมวิวบนหาดสิชล ขับรถเลียบทะเลสิชล-ขนอม ชมถนนที่สวยที่สุดในจังหวัดนครฯ เดินชิลล์ริมหาดท้องหยีและหาดในเพลา ชมวิถีชาวประมงที่อ่าวเตล็ด ร้านซีฟู้ด สุดอร่อย ห้ามพลาด วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร จุดหมายแรก เริ่มกันที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกขานกันว่าวัดพระธาตุ เป็นวัดสำคัญคู่เมืองนครศรีธรรมราช ภายในวัดมีพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ มีขนาดใหญ่ เห็นเด่นมาแต่ไกล โดยรอบ ๆ พระบรมธาตุเจดีย์ มีองค์เจดีย์บริวารอีก 149 องค์ สิ่งที่ทำให้วัดพระธาตุเป็นอันซีนไทยแลนด์ ก็คือ “พระธาตุไร้เงา” เพราะไม่ว่าแสงแดดจะส่องมาจากทิศทางไหนก็ไม่มีเงากระทบลงพื้น หากใครมาเที่ยวนครศรีธรรมราช อย่าลืมมาไหว้พระขอพร เพื่อเป็นศิริมงคลกันด้วยนะ  435 ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.  โทร. 0 7534 5172 https://goo.gl/maps/VtzPMHrYTq9wJsU68 ศาลหลักเมือง  จุดหมายต่อไป แอดจะพาไปไหว้ศาลหลักเมืองกัน ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวนครฯ นับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในบริเวณศาลหลักเมือง มีอาคารอยู่ 5 หลังด้วยกัน หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานของศาลหลักเมือง ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ (สี่พักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง ส่วนอาคารหลังเล็กที่อยู่ล้อมรอบ 4 หลังนั้นถือเป็นบริวาร 4 ทิศ มีศาลพระเสื้อเมือง ศาลพระทรงเมือง ศาลพระพรหมเมือง และศาลพรบันดาลเมือง  บริเวณทิศเหนือของสนามหน้าเมือง  เปิดทุกวันเวลา07.30-17.00 น.  โทร.0 7535 6458 https://goo.gl/maps/dW1F5mx3sKmaoHiPA หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา  หลังจากไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ได้เวลาผ่อนคลาย ไปดื่มด่ำกับธรรมชาติที่หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีที่สุดกัน นั่นคือ “หมู่บ้านคีรีวง” ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา สวนผลไม้ และวิถีชีวิตในชุมชนที่เรียบง่าย เอาล่ะ พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว ลุย!!  บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช https://goo.gl/maps/L6UomcPhcXjAW9gz8 จุดแรกที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะถ่ายรูปคือ สะพานบ้านคีรีวง เพื่อนๆห้ามพลาดเลยนะ ใครไม่ถ่าย ถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ สะพานบ้านคีรีวงนี้ อยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ยังไงก็ต้องผ่าน แนะนำให้ไปถ่ายรูปช่วงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะได้เห็นบรรยากาศและสีท้องฟ้าที่สวยงามทีเดียว ส่วนอีกช่วงก็คือช่วงเช้า จะได้เห็นวิวภูเขาและหมอกที่ลอยต่ำ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ หมู่บ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ แถมอากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ แอดแนะนำให้ขี่จักรยานชมบรรยากาศในหมู่บ้านนะคะ ชิลล์มาก ถ้าเพื่อน ๆ มาพักค้างในหมู่บ้าน สามารถเช่าจักรยานกับที่พักได้เลย แลนด์มาร์กยอดฮิตอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปก็คือ สะพานแขวนคีรีวง ด้านล่างเป็นลำธารใสแจ๋ว สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่แอดแนะนำให้เพื่อน ๆ ดูสีและความแรงของน้ำด้วยนะ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ในหมู่บ้านคีรีวงยังมีศูนย์การเรียนรู้หลายกลุ่ม กลุ่มที่แอดจะพาไปเยี่ยมชมวันนี้คือกลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติบ้านคีรีวง เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้ขั้นตอนการมัดย้อม การเขียนผ้าให้เกิดลวดลาย การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อให้เกิดสีต่าง ๆ และยังสามารถทดลองทำด้วยตัวเองได้อีกด้วย  373 บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา

✨นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เมืองต้องห้ามพลาด ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top