ถ้าช่วงนี้ เพื่อน ๆ เป็นเหมือนแอด ร่างกายรู้สึกโหยหาธรรมชาติสุด ๆ นึกถึงแต่ภาพเดินป่า ดูหมอก ส่องดาวแล้วละก็ เราอยู่สายเดียวกัน วันนี้แอดมีจุดหมายที่น่าจะถูกใจทุกคนมานำเสนอ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ เก็บกระเป๋าออกเดินทางกัน ทริปนี้ แอดจะพาไปเที่ยว “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว”สถานที่ ๆ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์มากซึ่งสำนักงานของอุทยานฯ ตั้งอยู่ใน จ.อุตรดิตถ์ แต่มีพื้นที่ครอบคลุมจาก จ.อุตรดิตถ์ ไปถึง จ.พิษณุโลก โดยมีช่วงท่องเที่ยวที่แนะนำคือ ช่วงหน้าฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน เพื่อดูดอกหงอนนาคได้ โดยดอกหงอนนาคจะบานในช่วงหน้าฝนเท่านั้น และจะออกดอกเยอะที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ช่วงหน้าหนาว (พฤศจิกายน-มกราคม) : สามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน เพื่อดูดาว ดูดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และใบเมเปิลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเดินขึ้นยอดสูงสุดของภูสอยดาวซึ่งติดกับชายแดนลาวได้ การเดินทางนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถไปตามโลเคชั่นนี้ได้เลย : https://goo.gl/maps/9a8g1kgVDbdCvySq7 หากเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะอื่น ๆ สามารถมาลงได้ที่1. ขนส่งน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)2. ขนส่ง จ.พิษณุโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)3. สถานีรถไฟ จ. พิษณุโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) แล้วหารถเหมาไปอุทยานฯ โดยตรง ราคาเหมาคันละประมาณ 800-1000 บาท (ปัจจุบันไม่มีรถประจำทางไปที่อุทยาน) อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดให้เข้ามาท่องเที่ยว 2 วิธี วิธีที่ 1 จองล่วงหน้าผ่านแอป QueQ โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ถึง 15 วัน เมื่อมาถึงที่ภูสอยดาว ให้ลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น. เพื่อยืนยันตัวตนได้เลย วิธีที่ 2 สามารถ Walk in เข้าไปได้ตามปกติ แต่แอดขอแจ้งไว้ก่อนว่า ทางภูสอยดาวจะรับนักท่องเที่ยวที่จองผ่านแอปพลิเคชัน 70% นักท่องเที่ยววอล์คอิน 30% โดยแบ่งเป็นจุดที่ 1 ที่ทำการอุทยานฯ และน้ำตกภูสอยดาว ไม่เกิน 150 คน/วัน (QueQ 105 คน/ Walk in 45 คน)จุดที่ 2 ลานสนภูสอยดาว ไม่เกิน 350 คน/วัน (QueQ 245 คน/ Walk in 105 คน) หลังจากลงทะเบียนแล้ว เพื่อน ๆ สามารถสอบถามเรื่องการเช่าเต็นท์ เครื่องนอน และอุปกรณ์ทำอาหาร หรือจ้างลูกหาบ แล้วไปรับของบนลานสนได้เลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปขึ้นรถอีแต๋นเพื่อไปจุดเริ่มต้นเดินป่า ซึ่งแอดแนะนำให้กินอาหารและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะระหว่างทางไม่มีร้านอาหาร ไม่มีห้องน้ำ และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ควรพกขนมและน้ำไปกินระหว่างทางด้วย (ที่สำคัญอย่าลืมเก็บขยะกลับมาด้วยห้ามทิ้งไว้ระหว่างทางนะ!) ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นลานสนภูสอยดาวได้ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. เท่านั้น โดยหลัง 16.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปยังจุดกางเต็นท์ เพื่อเช็คจำนวนนักท่องเที่ยว ว่ามีใครตกหล่นอยู่ระหว่างทางไหม และมีจำนวนคนตรงกับที่ลงทะเบียนไหม เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะปิดรับนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 15 มกราคม-31 มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู เอาล่ะ เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว ก็เริ่มเดินทางกันเลย!!!! ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว หลังจากนั่งรถของเจ้าหน้าที่มาตรงจุดเริ่มต้น เพื่อน ๆ จะพบกับ “น้ำตกภูสอยดาว” เป็นเหมือนสถานที่ต้อนรับในตอนแรก โดยน้ำตก่จะมีทั้งหมด 5 ชั้น ชื่อไพเราะคล้องจองกันว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สภาพป่าโดยรอบน้ำตกจึงมีความชุ่มชื้นมาก มีมอสส์ขึ้นปกคลุมตามก้อนหินริมน้ำสวยงาม น้ำตกภูสอยดาว จากนี้ต้องตั้งใจเดินแล้วละนะ จุดหมายของแอดคือ “ลานสนสามใบภูสอยดาว” ซึ่งแอดขอแนะนำ ว่าควรออมแรงกันไว้หน่อยนะ เพราะกว่าจะถึงจุดหมาย ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ผ่านเนินต่าง ๆ ถึง 5 เนิน ที่มีชื่อแสนจะไม่ต้อนรับ คือ เนินส่งญาติ, เนินปราบเซียน, เนินป่าก่อ, เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ลักษณะทางเดินจะมีความชันขึ้นไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีดอกไม้ป่าที่สวยงามเป็นระยะ จากเนินแรก (เนินส่งญาติ) ไปลานสน จะใช้เวลาจะประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง แล้วแต่กำลังของแต่ละคน อ้อ…อย่าไปยึดติดกับคำว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ในตอนเราเหนื่อยล่ะ ถ้าบ่าวบอกเหนื่อยก็พักก่อนได้ อาจจะนั่งเล่น จิบน้ำชมวิวเพื่อซึมซับความรู้สึกในป่าระหว่างรอกำลังกายกลับมา ก็เป็นความคิดที่ดีมากเลยนะ ระหว่างแต่ละเนินทางจะชันขึ้นเรื่อย ๆ ความยากแตกต่างกันไป ตามลักษณะภูมิประเทศ ระหว่างเดินแอดแทบไม่ได้พูดเลย ตั้งใจเดินเป็นหลัก (จริง ๆ กลัวเหนื่อยกว่าเดิมนั่นแหละ) แต่พอมองวิวข้างทางที่สวยแล้ว ก็หายเหนื่อยไปได้เยอะเลย ในที่สุดก็มาถึง “เนินมรณะ” เนินสุดท้ายก่อนถึงจุดหมาย ทางเดินค่อนข้างแคบและชัน ต้องใช้สมาธิในการเดินมาก ๆ ขณะเดิน มีลูกหาบที่เดินสวนลงมาคอยให้กำลังใจเป็นระยะ ๆ ด้วยนะ ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นสุด ๆ