สถานที่ท่องเที่ยว

ขอนแก่น Must Do! รวมร้านอาหารเด็ดต้องไปลอง จ.ขอนแก่น

บัดดี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ จ.ขอนแก่น และมีโอกาสไปตามรอย Must Do มาบางส่วน วันนี้เลยจะมาแชร์กับเพื่อน ๆ เผื่อใครมีโอกาสได้ไปขอนแก่นเร็ว ๆ นี้ จะได้ลองไปสัมผัส ขอนแก่น Must Do กันบ้าง บอกเลยว่าดี! อย่างที่เรา ๆ ชอบพูดกัน ว่าสำหรับคนไทยเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะไปไหนหรือเจอใคร คำถามติดปากคำถามแรก ๆ ที่มักจะถามกันก็ต้องเป็น กินอะไรมาหรือยัง? บัดดี้เลยขอพาเพื่อน ๆ มาเริ่มที่ Must Eat ของ จ.ขอนแก่น ที่บัดดี้ได้ไปลองมา โดยเมนูแรกก็คือ “อ๋อปลายอน” อ๋อปลายอน เป็นอาหารที่บัดดี้พึ่งเคยได้กินเป็นครั้งแรก ลักษณะเป็นแกงน้ำขลุกขลิก หอมผักชีลาวและปลาร้า มีปลายอนเนื้อละเอียดและไขมันเยอะ ทำให้ได้รสนุ่มละมุนลิ้น ถือเป็นอาหารที่ Rice Killer มาก ๆ เพราะยิ่งกินยิ่งอร่อย รู้ตัวอีกทีข้าวหมดจานแล้ว ซึ่งบัดดี้ได้ชิมเมนูนี้ที่ร้าน “มีกินฟาร์ม (Mekin Farm)” ร้านอาหารกึ่งฟาร์มสเตย์ที่เสิร์ฟอาหารด้วยวัตถุดิบสุดแสนจะธรรมดาแต่ผ่านการดูแลและคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ใครอยากกินอาหารที่ผ่านการใส่ใจในทุกคนตอน มาที่นี่ได้เลย 📌 114 ม.7 บ้านโคกกลาง ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.30 – 17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)📞 06 1695 9926🌐 https://maps.app.goo.gl/7MsQ3jbx8kN4mW5TA มาต่อกันอีก 1 เมนู Must Eat ของ จ.ขอนแก่น โจ๊กจั๊บเส้น ที่ร้าน “โจ๊ก ก๋วยจั๊บ ต้มเส้น บัตรคิว” ร้านรถเข็นดังในตัวเมืองที่ขายมานานกว่า 30 ปี มีทั้ง โจ๊ก ก๋วยจั๊บญวนเส้นสดซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมและต้มเส้นน้ำซุปสีน้ำตาลสวยกลิ่นหอมฟุ้ง แถมยังสามารถเพิ่มไก่ฉีก หมูยอ ไข่ลวก ตามความชอบได้อีกด้วย ร้านนี้มีทั้งลูกค้าขาประจำ ขาจรและไรเดอร์แวะเวียนมาไม่ขาดสาย หากมาช้าทางร้านจะแจกบัตรคิวให้สำหรับซื้อกลับบ้าน เป็นอีกหนึ่งร้านที่บัดดี้ไม่อยากให้พลาดหากมีโอกาสมาเที่ยวที่ จ.ขอนแก่น 📌 123/20 ถ.หน้าเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 17.30 – 21.00 น.📞 08 6406 2424🌐 https://maps.app.goo.gl/kvScERLrPLcZk8Hg7 ต่อมา บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ มาร่วม Must Seek ที่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ ที่จัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือของกรมทรัพยากรธรณี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธรณีวิทยา ธรรมชาติวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ เพื่อให้ความรู้และเป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชนรวมถึงผู้ที่สนใจ ภายในแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน คือ👉 โซนที่ 1 กำเนิดจักรวาล วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต และเรื่องราวของไดโนเสาร์ทั่วโลก ที่จะบอกเล่าถึงเรื่องเกี่ยวกับการกำเนิดจักรวาล การเกิดและสลายของหินรวมไปถึงการกำเนิดสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ👉 โซนที่ 2 ไดโนเสาร์ในแหล่งเทือกเขาภูเวียง จัดแสดงทั้งซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ชิ้นแรกในไทยและไดโนเสาร์ที่พบในไทย👉 โซนที่ 3 ห้องปฏิบัติการด้านซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยา เป็นห้องกระจกที่เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นห้องปฏิบัติการของนักธรณีวิทยา เป็นที่รวบรวมซากดึกดำบรรพ์ที่ขุดพบใน จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง👉 โซนที่ 4 สวนไดโนเสาร์ เป็นห้องที่จำลองบรรยากาศของป่าดึกดำบรรพ์ สองข้างทางก็จะมีไดโนเสาร์ที่สำรวจพบที่ภูเวียง บัดดี้ขอเตือนไว้ก่อนว่าไดโนเสาร์สามารถขยับได้ อย่าตกใจกันล่ะ👉 โซนที่ 5 ยุคเทอร์เชียรี เป็นส่วนที่ให้ความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากหินแร่ชนิดต่าง ๆ หลายแบบในปัจจุบัน ทั้งการนำหินแร่มาทำถ่าน เครื่องมือเครื่องใช้และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ 📌 ศูนย์ศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ภูเวียง กรมทรัพยากรธรณี ต.ในเมือง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริการปกติ)📞 0 4343 8204🌐 https://maps.app.goo.gl/YV4rruzioWiY5kab8 อีกหนึ่งสถานที่ Must See ของ จ.ขอนแก่น ที่บัดดี้มีโอกาสได้ไปก็คือ พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากว่า 200 ปีแล้ว แต่พระมหาธาตุแก่นนคร เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เนื่องในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เป็นพระธาตุ 9 ชั้น เพื่อน ๆ สามารถชมภายในพระมหาธาตุได้ทั้งหมด 9 ชั้น โดยไฮไลต์จะอยู่ที่ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและจุดชมวิว มีลมพัดเย็นสบาย มองวิวเมืองขอนแก่นได้สุดลูกหูลูกตา ในทุกวันสำคัญทางศาสนา พระมหาธาตุแก่นนครจะเปิดไฟในตอนกลางคืน สวยมาก ๆ เลยล่ะ 📌 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.📞 09 3460 8455🌐 https://maps.app.goo.gl/jxzEfxXdaRcnzNrMA Must สุดท้าย บัดดี้จะพามาชมของ Must Buy ที่ บ้านเฮง ร้านอาหารเช้าและร้านของฝาก ตัวร้านจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ มีที่นั่งเยอะ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส บริการรวดเร็ว อาหารรสชาติดี หากใครมาที่ขอนแก่นแล้วยังไม่มีที่ฝากท้องตอนเช้า

ขอนแก่น Must Do! รวมร้านอาหารเด็ดต้องไปลอง จ.ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม

ชวนเดินเที่ยวย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต

เมื่อพูดถึง “จังหวัดภูเก็ต” แล้ว เพื่อน ๆ นึกถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนกันคะ บ้างก็นึกถึงเกาะที่มีจุดชมวิว หาดทราย ชายทะเลรายล้อมมากมาย นึกถึงอาหารทะเลอร่อย ๆ จุใจ รวมทั้งเป็นพื้นที่ ๆ ที่จัดงานระดับโลกมากมาย ✨ ทำให้เมืองภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็น “เมืองเทศกาลโลก” (World Festival and Event City) ประจำปี 2024 และงานประเพณีถือศีลกินผัก ได้รางวัล Grand Pinnacle Award ที่เป็นรางวัลสูงสุด ยังไม่หมดแค่นี้ งาน Phuket Peranakan Festival 2024 ก็ได้รับรางวัล Gold Pinnacle Awards สาขา Best Parade จากสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA) ด้วย และรางวัลที่น่าภูมิใจล่าสุด คือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศรับรองให้ “เคบายา” ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ประเภทวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567 ร่วมกับ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย 👏🎉 เคบายา/ย่าหยา/เพอรานากัน เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของหญิงชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเอกลักษณ์ สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ รุ่นสู่รุ่น วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ตามหาเสื้อเคบายา และเที่ยวชมเมืองเก่าภูเก็ต ช่วงเช้าพาเพื่อน ๆ ไป Workshop ระบายสีถ้วยเซรามิค ช่วงบ่ายจะพาเดิน พากิน ย่านเมืองเก่า โดยวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ได้รับรางวัล Tourism Awards ประจำปี 2566 ประเภท การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainbility) อย่าลืมถ่ายรูปกับตึกสไตล์ชิโน-ยูโรเปี้ยน เอกลักษณ์ตึกสวยงามของที่นี่ บอกได้เลยว่าชุมชนท่องเที่ยว พาชม พากิน พาเที่ยว พร้อมให้ข้อมูลได้ดีมาก ๆ สนใจเที่ยวกับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต สามารถติดต่อไปที่📌 Facebook: วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต Old Phuket town Community☎️ โทร. 08 4305 3960 👉 Workshop ระบายสีด้วยเซรามิค ที่ Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ ที่นี่มีชื่อว่า Sitao Studio (ซิเทา สตูดิโอ) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ตึกสีเหลืองสวยเด่น เป็นสตูดิโอเรียนรู้ศิลปะเกี่ยวกับการปั้นดิน-ระบายสี แบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้น 1 เป็นโซนคาเฟ่ ชั้น 2 เป็นโซนระบายสีบนกระดาษ และชั้น 3 เป็นโซนระบายสีลงเซรามิค เปิดมากว่า 8 ปีแล้ว ผู้ใช้บริการมีทุกรุ่น ทุกวัย ร้านน่ารักมาก ๆ วันนี้ บัดดี้ เลือกระบายสีบนถ้วยเซรามิค เริ่มต้น 150-800 บาท เลือกแก้วได้ตามใจชอบ พนักงานจะมาแนะนำการลงสี จากนั้น ทำตามจินตนาการของตัวเองได้เล้ยยยยยยย เป็นงานชิ้นเดียวในโลก ของแท้ ลงสีเสร็จแล้วทางร้านจะนำไปเคลือบและเผาให้สีติดทนนานตลอดไป และจัดส่งให้ถึงที่บ้านรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 | วันอาทิตย์ เวลา 10.00-22.00 น.☎️ โทร. 06 2025 6713📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/bwLbrbJw5MfRDSkt8 👉 เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองภูเก็ต ที่ มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket จบจาก Workshop แล้ว เรามีนัดกับพี่มัคคุเทศก์จากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่ Museum Phuket เดินจากซิเทาสตูดิโอ ไม่ไกลนัก ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่การสร้างเมือง วิถีชีวิตชาวเพอรานากัน รวมทั้งรวบรวมประวัติชุดเคบาย่ามาไว้ที่นี่ด้วย ชุดเคบายา (Kebaya) ชุดพื้นเมืองของสตรีทางภาคใต้ มี 3 รูปแบบ คือ แบบบีกู ปักลูกไม้ฉลุลงไปในเนื้อผ้า มีเพียงสีเดียว แบบลินดา ปักลูกไม้เชื่อมต่อกัน แบบผ่าหน้า และแบบซูแลม ปักฉลุลงไปในผ้า มีหลากหลายสี ที่ขึ้นทะเบียนยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในประเทศไทย พบได้ในจังหวัดภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง สตูล ประเทศเพื่อนบ้านทางใต้เรา บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ก็สวมใส่ชุดนี้เช่นเดียวกัน โดยจะใส่ร่วมงานที่สำคัญต่าง ๆ ใครมาชมที่นี่ สามารถเปลี่ยนชุดเคบายา ใส่ถ่ายรูปได้นะ มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket⏰ เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.30 น. | วันอาทิตย์ เวลา 13.00-20.30 น.☎️ โทร. 09 4807 7873💸 ไม่เสียค่าเข้าชม📌 พิกัด https://goo.gl/maps/MoZEJKHXt1mH7rbA6 👉 กินหมี่ฮกเกี้ยนจากเชฟชุมชน

ชวนเดินเที่ยวย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต อ่านเพิ่มเติม

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล

ถ้าพูดถึง ‘จังหวัดกระบี่’ บัดดี้เชื่อว่าเพื่อน ๆ มักจะนึกถึงทะเล  แต่วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกระบี่มุมมองใหม่ พักกาย พักใจ แบบให้ธรรมชาติเยียวยา บอกเลยว่ากระบี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลแน่นอน 💚🤗 สำหรับทริป ‘พักกาย พักใจ ให้ธรรมชาติเยียวยา’ ในครั้งนี้ บัดดี้ขอพาไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามของ ‘จังหวัดกระบี่’ กับ 4 สถานที่หลัก ๆ ที่รับรองว่ามาถึงแล้วสบายกาย สบายใจ แน่นอนค่ะ 💚 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช📌 เขาขนาบน้ำ📌 ชุมชนเกาะกลาง📌 AMATAYA Wellness 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากชาวกระบี่มีความศรัทธาในพญานาคมาก เพราะเชื่อว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และอุดมสมบูรณ์ โดยรูปปั้นพญานาคที่ตั้งอยู่บริเวณลานพระอาทิตย์ หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่นั้น จะหันหน้าเข้าหาปากแม่น้ำกระบี่ทางทิศตะวันตก รับแสงอาทิตย์ตกยามอัสดง ราวกับว่าได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ 🙏 ที่นี่สามารถขอพรได้ทุกเรื่องตามใจปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ ใครที่จะมาขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช วันนี้บัดดี้มีทริกในการไหว้ขอพรให้ปังมาแจกค่ะ ✨1. ให้ไปไหว้หลวงปู่ทวดที่ศาลาเล็ก ๆ บริเวณทางด้านขวามือขององค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราชก่อน โดยสามารถไหว้มือได้เลยไม่ต้องจุดธูป หลังจากไหว้เสร็จแล้วแนะนำให้ใช้สองมือลูบลูกแก้วบนตักหลวงปู่ทวดแล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนา2. กลับมาไหว้องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช บริเวณลานพระอาทิตย์ โดยจะไหว้มือ หรือจุดธูปไหว้ 9 ดอก ก็ได้เช่นกัน แล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนาได้เลย 📌 ลานพระอาทิตย์ หากมาไหว้ขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เสร็จแล้ว บัดดี้แนะนำให้เดินมายัง ‘ลานพระอาทิตย์’ บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (จากองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช ให้เดินมาทางซ้ายมือ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตา) จะเจอกับลานกว้าง ๆ จากนั้นก้มหน้ามองอิฐบนพื้นเลยค่ะ หาจุดศูนย์กลางของพื้น จากนั้นให้ลองไปยืนตรงนั้นแล้วปรบมือดูค่ะ เราจะได้ยินเสียงปรบมือที่ก้องขึ้น 👏 ชาวบ้านเชื่อกันว่า จุดนี้เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานที่ดีทั้งหมด และยังมีความเชื่ออีกว่าในวันที่พระจันทร์เต็มดวง หากไปยืนอยู่ตรงจุดนั้น จะได้รับพลังงานที่ดีให้กับชีวิตนั่นเอง 👍 📌 เขาขนาบน้ำ เขาขนาบน้ำ เป็นเขาหินปูน 2 ลูก ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งขนานกันอยู่สองฝั่งแม่น้ำกระบี่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่เลยก็ว่าได้ บัดดี้บอกเลยว่าจุดนี้สวยมาก ๆ เลยค่ะ ใครเป็นสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป ถูกใจแน่นอน แนะนำให้เช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือท่าเรือปูดำ ล่องเรือไปชมแบบใกล้ ๆ และแวะชมถ้ำที่เขาขนาบน้ำนะคะ 🏞️ บริเวณเขาขนาบน้ำ จะมีบันไดให้ขึ้นไปยังถ้ำที่เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานภายในถ้ำที่ขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2542 ใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์ บัดดี้บอกเลยว่าบริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะปากถ้ำจะแสดงผลงานศิลปะของ Tu Wei Cheng ศิลปินชาวไต้หวัน ส่วนภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย ปล่องภูเขาที่มีแสงสว่างส่องลงมาด้านล่าง ทำให้ในถ้ำนั้นระบายอากาศได้ดี มีลมพัดเย็น ๆ เล็กน้อยตลอดการเดินชมถ้ำ ใครแข็งแรงหน่อยก็สามารถปีนเชือกขนาดใหญ่ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ นอกจากนี้ยังมีมุมจำลองแหล่งพักพิงของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ด้วย ✨ เปิดทุกวัน เวลา 8.30-16.00 น.✨ อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 200 บาท | ชาวต่างชาติ 500 บาท (ใช้เวลาเข้าชมภายในถ้ำประมาณ 1.30 ชม.) 📌 ชุมชนเกาะกลาง ใครชอบเที่ยวแบบสไลว์ไลฟ์ สัมผัสกับวิถีชุมชน ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ แถมมาที่นี่มีกิจกรรมให้ได้เข้าร่วมหลากหลายเลยค่ะ 💚 การมาเที่ยวชม ‘ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่’ หนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดเลย คือการเข้าชมการสาธิตจากกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในชุมชนค่ะ ครั้งนี้บัดดี้ได้เข้าชม 3 กลุ่มอาชีพด้วยกัน คือ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด, กลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง และกลุ่มการทำผ้าบาติก ส่วนใครที่ชมสาธิตจากชาวบ้านแล้วอยากอุดหนุนสินค้าชุมชน ก็สามารถติดต่อซื้อสินค้ากับชาวบ้านในแต่ละกลุ่มได้เลยนะคะ 🛍️ 📌 กิจกรรมท่องเที่ยวบนเกาะกลาง– ชมการสาธิตจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด– ชมการสาธิตจากกลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง– ชมการสาธิตจากกลุ่มการทำผ้าบาติก– เดินเที่ยว ปั่นจักรยาน เช่าจักรยานยนต์ หรือสามล้อพ่วงข้าง ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวบ้านรอบเกาะ 📌 AMATAYA Wellness ต้องบอกก่อนเลยว่า อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็มหนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 แห่งของโลกด้วย 😲♨ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญเลยก็ว่าได้ โดยบ่อหลักที่เกิดจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าชายเลน มีลักษณะเป็นบ่อน้ำที่ผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็ม เกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโพล่ขึ้นมาบนพื้นดินนั่นเอง อุณหภูมิของน้ำในบ่อนั้นจะไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ที่ประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส แต่เดิมชาวบ้านมาแช่เพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อต่าง ๆ และเพื่อผ่อนคลาย แต่จากคุณสมบัติของแร่ธาตุที่มีในบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้น สามารถช่วยพื้นฟูร่างกายจากโรคต่าง ๆ และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย พร้อมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระยะยาวด้วย ♨️ AMATAYA Wellness เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องของ ‘คลองท่อมเฮอริเทจ’ มีพื้นที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม (Salt Hot Spring) ที่มีคุณสมบัติของแร่ธาตุและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูและช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ♨️ AMATAYA Wellness ในปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 รูปแบบ คือ AMATAYA Rehabilitation Hospital ที่ให้บริการดูแล ฟื้นฟู ผู้ป่วยจากโรค Stroke และโรคอื่น ๆ ด้วยการใช้ ‘น้ำพุร้อนเค็ม’ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และ AMATAYA Holistic Medical Treatment

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล อ่านเพิ่มเติม

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ รูป ‘ช้างแม่-ลูก’ เล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ผลักดันเสน่ห์ไทยด้านเฟสติวัลสู่สายตาชาวโลก 🥈🇹🇭 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การเข้าร่วมงานดังกล่าว เป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้นำเสนอเทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ ในวาระปี 2568 ประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ‘Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025’ เทศกาลสงกรานต์นับว่าเป็นเทศกาลที่เป็น Signature ของประเทศไทยและอีกหนึ่งอีเว้นท์ไฮไลท์ใน Grand Festivities ที่จะเป็นหมุดหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมสนุกในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้” 💦 ทีมตัวแทนประเทศไทยที่ ททท. สนับสนุนให้เข้าแข่งขันในปีนี้ คือทีมที่ได้สร้างชื่อเสียงมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วย นายกุศล บุญกอบส่งเสริม จากโรงแรมแชง-กรีล่า, นายอำนวยศักดิ์ ศรีสุข นักแกะสลักอิสระ และนายกฤษณะ วงศ์เทศ นักแกะสลักอิสระ 👏 ขอขอบคุณ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้านซูเปอร์สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัลรีเทล บริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายแบรนด์ Columbia ซึ่งสนับสนุนเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้แก่ทีมประเทศไทยพร้อมพิชิตภารกิจท้าความหนาวในครั้งนี้ ✨

ทีมนักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน ‘World Water Festival’ คว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น อ่านเพิ่มเติม

ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ใจกลางพระนคร

ต้นปีนี้ ใครกำลังมองหาที่เที่ยวแบบเดินทางง่าย ๆ ในกรุงเทพฯ แบบที่ไม่ต้องขับรถไปไหนไกล บัดดี้ขอนำเสนอพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่ ที่ตั้งอยู่กลางพระนคร เดินทางง่าย และรอบ ๆ ยังมีสถานที่อื่นให้เที่ยวต่อได้ไม่ยากเลย “ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier)” พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ตั้งอยู่ในโครงการท่าช้าง วังหลวง ติดกับท่าเรือท่าช้าง เป็นอาคาร 3 ชั้น ที่รวบรวมศิลปะของไทยในรูปแบบต่าง ๆ มาจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยช่วงนี้จัดแสดงนิทรรศการแรกของการเปิดพิพิธภัณฑ์ คือ นิทรรศการ “200 Years Journal through Thai Modern Art History” ที่จัดแสดงชิ้นงานสะสมส่วนตัวของ คุณกรกมล และคุณพิริยะ วัชจิตพันธ์ กว่า 100 ชิ้น มีทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ภาพวาดอิทธิพลตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 6 งานประติมากรรม นิทรรศการแสดงตัวอย่างผลงานของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ผลงานของอาจารย์ศิลปะที่มีชื่อเสียงในไทย อาทิ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ และอาจารย์ทวี นันทขว้าง รวมไปถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาทิ Cry Baby ของ มอลลี่-นิสา ศรีคำดี Mushkin ของ แอนดี้-วรกันต์ จงธนพิพัฒน์ โดยนิทรรศการนี้จะจัดตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568 นอกจากนี้ยังมีสินค้าทำมือ โปสการ์ด เทียนหอม และของที่ระลึกดีไซน์สวย ๆ ฝีมือคนไทยจัดจำหน่ายที่ชั้น 1 ใกล้กับเคาน์เตอร์ขายบัตรเข้าชม เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกันได้ ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.🎟️ ค่าบัตรเข้าชม ชาวไทย 100 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท☎️ สอบถามข้อมูล 08 2896 1929, Facebook: Museum Pier ท่าพิพิธภัณฑ์ 🚗 การเดินทาง– เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าเรือท่าช้าง จะเชื่อมต่อกับทางเข้าพิพิธภัณฑ์ตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินเรือ ได้ที่ https://www.chaophrayaexpressboat.com/chaophrayaexpressboat– MRT สนามไชย ทางออก 5 สามารถเดินทางจากถนนมหาราชจนถึงพิพิธภัณฑ์ หรือใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก MuvMi หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมายังพิพิธภัณฑ์ได้ พิกัดสถานที่เที่ยวใกล้เคียง📌 ท่ามหาราช / Tha Maharajhttps://maps.app.goo.gl/uEoHQWQWYkreu1Lo7📌 ท่าเตียน / Tha Tienhttps://maps.app.goo.gl/jUytiKP6Hm7TwGrQA📌 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) / Wat Phra Kaew (The Temple of the Emerald Buddha)https://maps.app.goo.gl/5HgpgTzqymMZgqKfA📌 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) / Wat Pho (The Temple of the Reclining Buddha)https://maps.app.goo.gl/DabE9RtfN4dW3RTy7📌 มิวเซียมสยาม / Museum Siamhttps://maps.app.goo.gl/JYBHJpvfrKHguZt99📌 ปากคลองตลาด / Pak Klong Talat (Flower Market)https://maps.app.goo.gl/UXme6U6CYSnrWBBe8📌 ตลาดวังหลัง / Wang Lang Markethttps://maps.app.goo.gl/6MZQBbJbc3XJBrwr9

ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ ใจกลางพระนคร อ่านเพิ่มเติม

“ม่อนจอง” ต้องลองไป

เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยม่อนจอง ระยะทางเดินเท้า 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเฉลี่ยประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่ละคน เป็นเส้นทางเดินป่าระดับง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นหัดเดินป่า เพราะเส้นทางเดินเท้าค่อนข้างชัดเจน ทางเดินจะชันมากในช่วงเนินแรกและเนินสุดท้ายก่อนถึงทุ่งหญ้าโล่งบนสันเขา ดอยม่อนจองต้องพักค้างแรมที่จุดกางเต็นท์ยอดดอย 1 คืน นักท่องเที่ยวต้องนำอุปกรณ์กางเต็นท์และค้างแรมมาเอง รวมทั้งเสบียงอาหาร สามารถประกอบอาหารบริเวณจุดกางเต็นท์ได้ มีลูกหาบเป็นชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการช่วยขนสัมภาระและดูแลตลอดการเดินทางไปกลับ บริเวณจุดลงทะเบียนยืนยันตัวตน จุดเริ่มต้นเดินเท้า จุดกางเต็นท์บนดอย และจุดสูงสุดยอดดอยที่ผาหัวสิงห์ มีเจ้าหน้าเขตฯ คอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเช่นกัน วิธีเดินทางไปยังยอดดอยม่อนจอง1. ลงทะเบียนขออนุญาตและจองสิทธิ์เดินป่าล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 วัน2. ยืนยันตัวตนในวันเดินป่า ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)3. นั่งรถโฟร์วีลไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ประมาณ 45 นาที4. เดินเท้าไปจุดกางเต็นท์บนสันดอย ประมาณ 4 กิโลเมตร5. เดินเท้าจากจุดกางเต็นท์ไปยอดดอยบริเวณผาหัวสิงห์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ตั้ง: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wThQ4JDtoWFKdbop8ช่วงฤดูกาลเปิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ: เดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี ดอยม่อนจอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 240 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง) ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพื่อทำเรื่องรายงานตัวตอน 08.00 น. เป็นต้นไป ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรแวะพักค้างคืนยังที่พักเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียง หรือออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจากไหนก็ตาม เพื่อกะเวลามาให้ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ในช่วงเช้าตรู่ เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ติดตามและอัปเดตข้อมูลการเดินขึ้นม่อนจองได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ป่าตึง) Facebook page: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย – Omkoi Wildlife Sanctuary สอบถามข้อมูลเรื่องการอนุญาตและการจองสิทธิ์ได้ตามช่องทางดังนี้โทร. 08 3482 1983Line id: omk1983 การเดินทางไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง):จากถนนสายหลัก ทางหลวงหมายเลข 108 (ฮอด-แม่สะเรียง) วิ่งมาจนถึงตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด เลี้ยวซ้ายเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 1099 ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง) พิกัดที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (ปางตึง)https://maps.app.goo.gl/1gknr3GgG1P3dMCU8 เมื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนและชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้ว จากนั้นขนสัมภาระเปลี่ยนไปนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านที่จองไว้ พร้อมลูกหาบ เข้าป่าไปอีกประมาณ 45 นาที ไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องไปถึงจุดเริ่มต้นเดินเท้าก่อน 12.00 น. ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อาจไม่ให้ขึ้นดอย เพราะเกรงว่าจะมืดค่ำระหว่างทาง สอบถามและติดต่อเรื่องรถโฟร์วีลและลูกหาบได้ที่Facebook page: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง – บ้านมูเซอโทร. 09 3731 0626 เมื่อถึงจุดเริ่มเดินเท้า แต่ละคนต้องแยกสัมภาระที่จะต้องแบกด้วยตัวเอง เช่น ของมีค่าส่วนตัว น้ำดื่ม ยารักษาโรคประจำตัว เสบียงอาหารหรือขนมเติมพลังระหว่างทาง เป็นต้น และสัมภาระส่วนกลางที่จะให้ลูกหาบแบกให้ เช่น อุปกรณ์เต็นท์และเครื่องนอน อุปกรณ์ประกอบอาหาร น้ำดื่มแบบขวด เป็นต้น เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็เริ่มออกเดินเท้าขึ้นยอดดอยม่อนจอง เส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จากจุดเริ่มเดินเท้า-จุดกางเต็นท์บนสันดอย ลักษณะเส้นทางเดิน ช่วงที่ 1 เปรียบเหมือนช่วงวัดใจ เดินข้ามเขาลูกแรก มีความชันค่อนข้างมาก อาจรู้สึกเหนื่อยหอบได้ง่าย เพราะร่างกายอาจยังปรับสภาพไม่ทัน แต่ระยะทางช่วงไม่ไกล มีเส้นทางเดินชัดเจน ผ่านป่าสนลมเย็นสบาย มีจุดให้แวะนั่งพักระหว่างทาง ช่วงที่ 2 เริ่มเดินเข้าป่าทึบ มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มและมีไม้ล้มลุกขึ้นตามพื้นดิน เป็นทางค่อนข้างราบ ไม่ค่อยมีทางชัน ช่วงที่ 3 เริ่มเดินขึ้นสันเขาอีกลูก ทางโล่งมีลมพัดเย็น แต่แสงแดดก็แรงเช่นกัน เห็นทิวทัศน์สันเขาตลอดทาง มีจุดไฮไลต์ คือ ลานหินช่อ ลักษณะเป็นก้อนหินสูงซ้อนกัน สามารถปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ เมื่อเดินมาถึงจุดนี้แสดงว่าเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว และบริเวณใกล้กับลานหินช่อ มีแนวร่มไม้ใหญ่บนสันเขาให้นั่งพักผ่อน เป็นจุดที่นักเดินป่าและลูกหาบนิยมแวะพักทานมื้อเที่ยงกัน ช่วงที่ 4 เริ่มเดินเข้าป่าทึบอีกครั้ง สลับเดินขึ้นลงเนินอีกเล็กน้อย ไม่ชันมาก และระยะทางไม่ไกล เดินจนพ้นชายป่า จะพบทางเดินขึ้นสันเขาโล่งกว้าง จุดนี้เรียกว่า ดอยหมาหอบ ลักษณะเป็นทางเดินขึ้นสันเขาที่มีความชันมากที่สุดในเส้นทางเดินขึ้นม่อนจอง ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 200 เมตร เท่านั้น แต่อากาศร้อนมาก เพราะเป็นทุ่งหญ้าโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย นักเดินป่าส่วนใหญ่จะต้องได้นั่งพักหอบแฮกกลางทุ่งหญ้าระหว่างทาง อย่างน้อยคนละ 1 ครั้ง ก่อนจะฝืนใจดันตัวเองเดินขึ้นสู่สันเขา เมื่อเดินขึ้นมาถึงสันเขา และมองกลับไปยังทางที่ขึ้นมาของดอยหมาหอบ หลังผ่านดอยหมาหอบ ก็จะเป็นทางเดินบนสันเขาและทุ่งหญ้า ช่วงที่ 5 เป็นทางเดินไปตามสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้าโล่ง ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะพบทางเดินตัดลงไปในหุบเขาทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์บนดอยม่อนจอง เดินตัดจากทุ่งหญ้าสันเขาลงมาเพียง 100 เมตร ถึงจุดกางเต็นท์ บริเวณจุดกางเต็นท์จะอยู่ชายป่า มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา มีห้องน้ำให้บริการ และมีสำนักงานชั่วคราวของเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ คอยดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตลอดเวลา ปกติหากเริ่มเดินเท้าจากจุดเริ่มเดินช่วงประมาณ 10.00 น. ส่วนมากจะเดินมาถึงจุดกางเต็นท์กันไม่เกิน 15.00 น. เมื่อจัดการกางเต็นท์ เก็บสัมภาระ และพักผ่อนกันแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินไปชมทิวทัศน์และแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ตก ณ จุดสูงสุดยอดดอย ที่เรียกว่า “ผาหัวสิงห์” ซึ่งห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 1-1.5 กิโลเมตร ไฮไลต์ของม่อนจองอยู่ที่บรรยากาศแสงยามเย็น เพราะแสงอาทิตย์ยามสาดสะท้อนภูเขาหญ้าสีทองนั้น ให้ความรู้สึกสวยสะกดสายตาอย่างมาก ฉะนั้นแนะนำให้พยายามทำเวลา เริ่มเดินขึ้นดอยอย่าสายจนเกินไป จะได้มาถึงจุดกางเต็นท์เร็ว ๆ และมีเวลาเดินเล่นเก็บบรรยากาศยามเย็น ผาหัวสิงห์

“ม่อนจอง” ต้องลองไป อ่านเพิ่มเติม

ชวนเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ที่ ทุ่งบัวแดงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์

ต้นปีนี้! ชวนเพื่อนไปเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ท่ามกลางดอกบัวแดงที่กำลังบานสะพรั่งนับพันไร่ ที่ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น บึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง มีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำอพยพหนีความหนาวมาอาศัยอยู่ที่นี่ โดยมีนกประจำถิ่นที่เราสามารถมองเห็นได้ตามธรรมชาติรอบ ๆ บึงก็คือ นกเป็ดน้ำ นกอีโก้ง นกอีแจว นกปากห่าง วันนี้! บัดดี้ขอนำภาพบรรยากาศทุ่งบัวแดงยามเช้าท่ามกลางแสงอาทิตย์อ่อน ๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคม มาฝากเพื่อน ๆ กัน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทุ่งบัวแดงสวย ๆ แล้ว การชมนกอพยพบินอวดโฉมไปมาบนท้องฟ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ของที่นี่เลย เพื่อน ๆ มาเที่ยวช่วงนี้ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนมาก ๆ  ตามมาชมความสวยงามของทุ่งบัวแดงกันเลย! 🌸📸 ช่วงเวลาที่ดีในการชมดอกบัว: 06.00 – 10.00 น. (ดอกบัวจะบานช่วงเช้า)🌸📸 วันนี้ – 14 กุมภาพันธ์ 2568 จุดบริการล่องเรือชมบัวแดง1. ชุมชนบ้านรางบัว (ใกล้จุดชมบัวมากที่สุด)ค่าบริการ ท่านละ 100 บาทคุณสายรุ้ง 📞 08 6401 1433พิกัด https://goo.gl/maps/3V2YYn3xYrg9Tq8K8 2. อุทยานนกน้ำ (ล่องเรือดูนก ชมบัว ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง)ค่าบริการเหมาลำ 8-10 ท่าน ราคา 1,200 บาทคุณพนม 📞 08 1786 4330พิกัด https://goo.gl/maps/9KygyhNaeNKCqdni7 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม– เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด 📞 06 4451 4980– ททท. นครสวรรค์ 📞 0 5622 1811-2

ชวนเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ ที่ ทุ่งบัวแดงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

One Day Trip ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี

เมื่อลมหนาวมาเยือน เป็นสัญญาณแห่งการผลิบานของมวลหมู่ดอกไม้นานาชนิด หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวและนักถ่ายภาพ คือ ดอกทานตะวัน ในประเทศไทย จังหวัดที่มีการปลูกทานตะวันมากที่สุด คือ จังหวัดลพบุรี โดยมักปลูกกันมากในพื้นที่บริเวณเขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอพัฒนานิคม และอำเภอหนองม่วง ทุ่งทานตะวันในพื้นที่จังหวัดลพบุรี จะบานในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคมของทุกปี แต่ก็อาจจะมีบางแปลงที่บานช้า มีให้ได้ชมกันถึงช่วงหลังปีใหม่ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการชมและถ่ายภาพกับทุ่งทานตะวัน คือ – ช่วงแสงเช้า เวลา 08.00-10.00 น. – ช่วงแสงเย็น คือ เวลา 15.00-17.00 น. บัดดี้จะพาไปเที่ยวทุ่งทานตะวันจังหวัดลพบุรี แบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) ซึ่งบัดดี้ได้เดินทางไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายบรรยากาศสวย ๆ มาอัปเดตให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวกันค่ะ ทุ่งทานตะวัน โซนเขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี การเดินทางไปทุ่งทานตะวัน (โซนเขาจีนแล) อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี และอำเภอพระพุทธบาท จนถึงสี่แยกนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี ให้เลี้ยวขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 3017 ตรงไปประมาณ 8.5 กิโลเมตร จะพบซอยทางซ้ายมืออยู่ถัดจากร้านกะเพรา & Coffee ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยดังกล่าว ตามป้ายบอกทางไปวัดเวฬุวัน (เขาจีนแล) ตรงเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทางจะเริ่มเป็นพื้นที่ทุ่งทานตะวัน (ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) จากทางหลวงหมายเลข 3017 หากไม่เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างร้านกะเพรา & Coffee ก็ให้ตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 3017 อีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าชุมชนบ้านนิคมหมู่ 6 สามัคคี จากนั้นตรงเข้าไปอีก 1.5 กิโลเมตร จะเริ่มเข้าสู่พื้นที่ปลูกทานตะวัน ทุ่งทานตะวันในพื้นที่เขาจีนแล อำเภอเมืองลพบุรี1. ไร่วิชาญ โทร. 08 9615 25632. ไร่ไสวรถยก โทร. 06 2357 93883. ไร่เปรมปรี โทร. 08 4775 79424. ไร่จำรัส โทร. 08 9813 53615. ไร่แม่ไหมพ่อไก่ โทร. 09 9449 71646. ไร่แป้งหอม โทร. 08 1286 42807. ไร่ฟ้าใส โทร. 08 9089 24268. สนามโดดร่ม โทร. 09 3582 173510. ไร่ลุงนอง โทร. 08 9413 439211. ไร่ป้าจ้อย โทร. 09 4419 128512.ไร่ลุงหลวง โทร. 06 1545 643213. ไร่ลุงวิรัช โทร. 06 1642 766414. ไร่วานร ลพบุรี โทร. 08 3798 799215. ไร่นวล-พยอม (ทุ่งคอสมอส) โทร. 08 6130 8584 *แนะนำก่อนเดินทางไปเที่ยว อาจโทรไปสอบถามหรือติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของทุ่งทานตะวัน เพื่ออัปเดตสถานการณ์ดอกทานตะวันบาน จะได้กำหนดวันเดินทางไปชมทุ่งทานตะวันสวย ๆ ได้ทันเวลา ก่อนที่ดอกจะโรยรา ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองลพบุรี ร้านคาเฟ่จากนั้นแวะมานั่งพักและกินไอติมชิลล์ๆ กันที่ Flower House Cafe & Bistro คาเฟ่ตกแต่งน่ารักในโซนเขาจีนแล ตรงข้ามถนน คือ ทุ่งทานตะวัน ไร่ฟ้าใส ภายในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมเค้ก รวมทั้งมีไอติมรูปดอกทานตะวันและเขาจีนแลให้ได้ชิมและถ่ายรูปเก๋ ๆ ด้วย ซึ่งในวันที่เดินทางไป คือ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ดอกทานตะวันของไร่นี่ก็บานแล้วเช่นกัน Flower House Cafe & Bistro📌 18/4 หมู่ที่ 7 (ตรงข้ามวัดถ้ำมงคลนิมิตร) ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีhttps://maps.app.goo.gl/o8mDrSa4uax2UEQz5โทร. 06 4235 9449Facebook: Flower House Cafe & Bistro ร้านอาหารกลางวันมาทานมื้อกลางวันแบบจัดเต็มจนแน่นท้องกันที่ร้านอาหารใกล้กับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งบริเวณทางเข้าเขื่อนจะมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลาเผา กุ้งเผา และปลาจากเขื่อนให้บริการอยู่หลายร้าน พวกเราเลือกฝากท้องไว้ที่ ร้านครัวกุ้งหลวง อยู่ห่างจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพียง 2 กิโลเมตร และห่างจากทุ่งทานตะวัน “ไร่คุณรำยอง” ประมาณ 7 กิโลเมตร อาหารที่ร้านนี้สด อร่อย ให้เยอะ และราคาสมเหตุสมผล เพื่อน ๆ สามารถแวะมาฝากท้องลองชิมด้วยตัวเองได้ ทุ่งทานตะวัน โซนอำเภอพัฒนานิคมปิดท้ายกันที่ทุ่งทานตะวัน “ไร่คุณรำยอง” ซึ่งกำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวล้นหลาม ไฮไลต์เด่นของไร่คุณรำยอง คือ บันไดสีขาวเอนชี้ขึ้นฟ้า ให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปถ่ายภาพสวยเก๋ ตัดกับสีเหลืองสดใสของทุ่งทานตะวัน เรียกได้ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยแหละ *มีรถบริการพาชมรอบไร่ คนละ 10

One Day Trip ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี อ่านเพิ่มเติม

เอาใจสายแอดแวนเจอร์ ที่ อุโมงค์เหมืองแร่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับเส้นทางท่องเที่ยวเอาใจสายแอดแวนเจอร์ สายเอ็กซ์ตรีม ท้าลมหนาว กับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกล สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือจะไปแบบ One Day Trip ก็ทำได้ เพราะที่ที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปก็คือ จ.กาญจนบุรี หนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลายนั่นเอง เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลย จากกรุงเทพฯ เพื่อน ๆ สามารถไปได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถไฟ หรือรถสาธารณะก็ได้ จุดหมายปลายทางคือ จ.กาญจนบุรี เมื่อถึงตัวเมืองกาญจนบุรี ให้เดินทางต่อไปยัง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งตรงจุดนี้อาจใช้บริการรถตู้โดยสาร หรือเช่าเหมารถสองแถวก็ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จากนั้นเดินทางเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อันเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวเนินสวรรค์ สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขา ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์บริเวณลานกางเต็นท์ที่ทางอุทยานฯ จัดไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ต้องปฏิบัติตาม ระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด จากจุดนี้เพื่อน ๆ สามารถเช่ารถ 4 Wheels (นั่งได้ 6-8 คน) จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อพาเข้าชมความอลังการของอุโมงค์ 3 มิติ หนึ่งใน Unseen New Charpter ได้ อุโมงค์ 3 มิติ เป็นอุโมงค์เหมืองแร่เก่า บรรยากาศภายในอุโมงค์มีความน่าตื่นตาตื่นใจ สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยป่าเขาที่เป็นธรรมชาติ อุโมงค์เหมืองแร่ 3 มิติ อยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ 4 อุโมงค์ อุโมงค์แรก – มีความลึกประมาณ 100 เมตร เส้นทางเป็นเส้นทางขึ้นเขาทั้งในและนอกอุโมงค์  อุโมงค์ที่ 2 – เป็นอุโมงค์เหมืองแร่ที่มีความลึกประมาณ 300 เมตร ห่างจากอุโมงค์แรกราว 1 กม. ภายในอากาศเย็น มีความชื้นบาง ๆ เข้าไปแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย ไม่อึดอัด จากจุดนี้ขึ้นไป 500 เมตร จะขึ้นสู่ “เขาเอเวอร์เรสต์”  ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ 3 อุโมงค์ที่ 3 – มีความลึกราว 300 เมตร ความพิเศษของอุโมงค์ที่ 3 คืออุโมงค์มีความแคบ ชัน และเพดานเตี้ยนักท่องเที่ยวจะต้องก้มศีรษะให้ต่ำขณะกำลังลอดอุโมงค์ นอกจากนี้ยังมีความงดงามของหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติให้ชื่นชม ระหว่างทางภายในอุโมงค์อีกด้วย เมื่อพ้นอุโมงค์ที่ 3 ออกมา จะพบว่าเรายืนอยู่บนยอดเขาแล้ว อากาศโปร่ง โล่ง ทัศนียภาพสวยงาม มองจากเขาลงไปเป็นแนวป่าครึ้ม เขียวขจี ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสด และยังมีเส้นทางเดินต่อไปในถ้ำ ชื่นชมความงามของภาพสะท้อนแสงเงาที่เกิดขึ้นจากแอ่งน้ำตามธรรมชาติในถ้ำได้อย่างจุใจ หลังจากนั้น บัดดี้กลับมาเดินทางต่อด้วยรถ 4 Wheels อีกครั้งเพื่อเข้าอุโมงค์สุดท้าย อุโมงค์ที่ 4 – หรืออุโมงค์ ดร.ผล กลีบบัว เป็นอุโมงค์ที่มีความลึกมากที่สุดใน 4 อุโมงค์นี้ มีความลึกประมาณ 2.3 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์มีความคดเคี้ยว มีตาน้ำไหลซึมออกมาแรงบ้างเบาบ้างตามทางในอุโมงค์ เป็นทางน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไหลลงมาจากเขาด้านบนของอุโมงค์ นับเป็นอุโมงค์ที่ได้ผจญภัยด้วยความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งเส้นทาง เมื่อเดินทางพ้นจากอุโมงค์ที่ 4 จะพบกับเส้นทางออกจากเขา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ใช้เข้ามาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปภายในอุโมงค์ เนื่องจากเส้นทางมีความซับซ้อน นักท่องเที่ยวอาจเกิดอันตรายได้ บัดดี้คิดว่าความมหัศจรรย์ทั้งทางธรรมชาติและที่มนุษย์ทำขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจนี้ กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีมที่เพื่อน ๆ น่าจะได้ไปลิ้มลองรสชาติของการผจญภัยแบบ Indianna Jones เมืองไทยซักครั้งในชีวิต 🔴 ไม่มีเงื่อนไขในการเข้าชม ยกเว้นเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่กลัวที่มืด และแคบ💸 ค่าเช่ารถ 4 Wheels ประมาณ 1,300 บาท (8-10 คน) ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดราว 2 ชม.📍 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี📞 สนใจเข้าเยี่ยมชม ติดต่อ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทร. 0 3451 1200🌐 https://maps.app.goo.gl/xisWqWEHSAxZepJf6

เอาใจสายแอดแวนเจอร์ ที่ อุโมงค์เหมืองแร่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยววัดใกล้กรุง ราชบุรี-นครปฐม ✨

วันนี้บัดดี้จะพามาเที่ยววัดที่ จ.ราชบุรีและ จ.นครปฐม ที่มีทั้งวัดเก่า วัดชื่อดังอยู่ไม่น้อย ยิ่งช่วงนี้ใครอยากไหว้พระขอพรหรือหาความสงบทางใจให้ตัวเองแล้ว ตามมาอ่านกัน Explore Temples Near Bangkok: Ratchaburi and Nakhon Pathom Today, let’s visit beautiful temples in Ratchaburi and Nakhon Pathom. These provinces are home to many historic and famous temples. If you’re looking for a peaceful place to pray or simply seeking tranquility, come along and read on!  วัดคงคาราม จ.ราชบุรี แต่เดิมชื่อว่า “วัดกลาง” (ภาษามอญจะเรียกว่า “เภียโต้” แปลว่า วัดกลาง)วัดคงคารามเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยชาวมอญกลุ่มรามัญ 7 หัวเมือง ที่ย้ายถิ่นโดยการล่องแม่น้ำมาตั้งถิ่นฐานบริเวณริมแม่น้ำแม่กลองในเขต อ.บ้านโป่ง และ อ.โพธาราม ต่อมาที่ได้เกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่และได้มีการสร้างวัดขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ประกอบศาสนพิธี และเป็นศูนย์รวมของชาวมอญในตัวชุมชน โดยเจ้าอาวาสของวัดคงคารามจะมีตำแหน่งเป็นพระครูรามัญญาธิบดี  Wat Kongkaram, Ratchaburi Originally named “Wat Klang” (in Mon language, “Phia To,” meaning “Middle Temple”), Wat Kongkaram is an ancient temple built during the early Rattanakosin era by the Mon people. They settled along the Mae Klong River in Ban Pong and Photharam districts, forming a large ‘Mon’ community and building this temple as a spiritual center. The abbot here holds the title of Phra Kru Raman Yathibodi. ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องจิตรกรรมฝาผนังที่อายุมากกว่า 250 ปี จากฝีมือช่างชั้นสูงที่หาชมได้ยาก ซึ่งสีของภาพนั้นป็นสีจากธรรมชาติจากเปลือกไม้และดอกไม้ แม้ปัจจุบันจะเลือนลางไปไม่น้อย แต่บัดดี้ว่าความสวยงามและความปราณีตให้เห็นมีให้เห็นอยู่อย่างชัดเจนเลยล่ะ.1 หมู่ 3 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรีเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-16.30 น.08 9257 8726https://maps.app.goo.gl/XZbpJikc1apd18L58 This temple is famous for its over 250-year-old murals created by skilled artists. The paintings, made from natural colors derived from tree bark and flowers, may have faded over time, but their beauty and craftsmanship remain clear. 1 Moo 3, Khlong Ta Kot, Photharam, Ratchaburi Open on weekends and public holidays: 09:00 AM – 04:30 PM 08 9257 8726https://maps.app.goo.gl/XZbpJikc1apd18L58  วัดขนอน จ.ราชบุรี อีกหนึ่งวัดดัง สถานที่เก็บ “หนังใหญ่” สมบัติทางการแสดงชั้นสูงอย่างหนึ่งไทย ที่เกิดจากการรวมศิลปะหลายแขนง เช่น หัตถศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ ดุริยางคศิลป์และวรรณศิลป์ ปัจจุบันมีตัวหนังทั้งหมดกว่า 313 ตัว ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ภายในวัด  Wat Khanoni, Ratchaburi Another well-known temple, Wat Khanoni, is home to “Nang Yai,” a form of traditional Thai shadow puppet art. The temple houses over 313 puppets in its museum,

✨ เที่ยววัดใกล้กรุง ราชบุรี-นครปฐม ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top