สถานที่ท่องเที่ยว

ของฝากห้ามพลาด…จังหวัดกระบี่✨

กระบี่เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก และหมู่เกาะต่าง ๆ นอกจากความประทับใจที่เราจะเก็บกลับไปแล้ว อีกอย่างที่ลืมไม่ได้ก็คือของฝาก ที่ติดไม้ติดมือกลับไปฝากเพื่อนฝูงญาติมิตร ว่าแต่ที่กระบี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง แอดมีตัวอย่างมาให้ดูเป็นแนวทางเลือกช้อปปิ้งกัน แอดมีพิกัดแหล่งชอปปิ้ง มาฝากเพื่อน ๆ แต่นี่เป็นเพียงน้ำจิ้ม ยังมีอีกหลาย ๆ ร้านให้เลือกเลยน้า  ร้านจี้ออ กระบี่ โทร. 09 8670 2160 Facebook : จี้ออ ของฝากกระบี่ ร้านศรีกระบี่ โทร. 0 7570 0636, 08 1719 1098 Facebook : ศรีกระบี่ ของฝาก จ.กระบี่ ร้านกระบี่สินโอชาเบเกอรี่ โทร. 0 7562 2429 Facebook : กระบี่สินโอชาเบเกอรี่  เต้าส้อ เป็นขนมขึ้นชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ลักษณะคล้ายขนมเปี๊ยะ เนื้อแป้งร่วนซุย มีหลายไส้ให้เลือก เช่น ไส้ถั่ว ไส้หวาน ไข่เค็ม หอมอร่อย อย่าพลาดชิมเชียวล่ะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ น้ำพริกกุ้งเสียบ อีกหนึ่งความหรอยที่ขาดไม่ได้ น้ำพริกกุ้งเสียบ เมนูขึ้นชื่อของภาคใต้ ทานคู่กับอะไรก็อร่อย น้ำพริกกุ้งเสียบมีหลายสูตร มีทั้งน้ำพริกกุ้งเสียบอบแห้ง น้ำพริกกุ้งเสียบตำสด ส่วนใหญ่จะมีรสชาติจัดจ้าน เผ็ดเปรี้ยว กลมกล่อม มีเครื่องเคียงเป็นผักสด หรอยแรง!! ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ ขนมลากรอบ ขนมท้องถิ่นยอดฮิตของภาคใต้ แต่ไหนแต่ไรจะหาทานได้ในช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ แต่ปัจจุบัน ขนมลากลายเป็นของฝากยอดนิยมไปแล้ว สามารถซื้อได้ทั้งปี ส่วนประกอบหลักของขนมลาคือ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย รสชาติหวาน กรอบ หอมกลิ่นน้ำตาล และสามารถเก็บไว้ได้นาน กินเพลินเกินห้ามใจเลยล่ะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ อินทผาลัมกระบี่ ที่กระบี่ มีการปลูกอินทผาลัมกันมาก และเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพดี เหมาะจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก มีให้เลือกทั้งแบบสดและแบบอบแห้ง รสชาติหวานอร่อย เหมาะกับการทานเล่น ขอบคุณรูปภาพจากเพจ จี้ออ ของฝากกระบี่ ผ้าบาติก ผ้าบาติกถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวใต้ ไม่เพียงความสวยงามของสีสันจะถูกใจนักท่องเที่ยว ลวดลายบนผ้าที่สื่อถึงท้องถิ่นอย่างท้องทะเล ธรรมชาติ ป่าเขา ก็ยิ่งทำให้เหมาะกับเป็นของฝาก

ของฝากห้ามพลาด…จังหวัดกระบี่✨ อ่านเพิ่มเติม

🌈 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ) : อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ 🌈

เกาะที่มีหาดทรายโค้งเว้า ทรายเม็ดขาวละเอียด น้ำทะเลสีสวยและใสมาก เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ต้องห้ามพลาดของกระบี่ อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ : (ชาวไทย) ผู้ใหญ่ 60 บ. เด็ก 30 บ. (ชาวต่างชาติ) ผู้ใหญ่ 300 บ. เด็ก 100 บ. บนเกาะมีร้านค้าสวัสดิการ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. และบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่าย การมาท่องเที่ยวเกาะห้อง สามารถซื้อแพคเก็จทัวร์แบบ One day tour จากตัวเมืองกระบี่ อ่าวนาง หรือจากพังงา (เพราะอาณาเขตทางทะเลเชื่อมต่อกัน) หรือจ้างเรือหัวโทงจากอ่าวนางหรือหาดนพรัตน์ธารามาเที่ยว ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 45 นาที ถึงเกาะห้อง นอกจากเกาะห้องแล้ว ยังมีจุดอื่น ๆ ในหมู่เกาะห้องที่เรือมักจะพาแวะเที่ยว เช่น ลากูนเกาะห้อง (ทะเลใน) เกาะผักเบี้ย (ทะเลแหวก) เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น ‘เกาะห้อง’ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘เกาะเหลาบิเละ’ เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะห้อง ตั้งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ หมู่เกาะห้อง เปิดให้ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เป็นช่วงปลอดมรสุม ท้องทะเลแถบนี้คลื่นลมจะสงบ แดดดี ฟ้าใส ทำให้มองเห็นความใสของน้ำทะเลได้เด่นชัด รีวิวนี้ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง จะพาไปชมเกาะห้องในมุมมองใหม่ ที่ไม่ต้องมีโดรนก็สามารถชมความสวยงามของเกาะห้องในมุมสูงได้ เมื่อนั่งเรือมาถึงเกาะห้อง มองไปยังภูเขาหินสูงตระหง่านตั้งอยู่สุดปลายหาดอีกด้าน บนยอดเขานั้นคือจุดชมวิว 360 องศา เกาะห้อง จุดเช็กอินแห่งใหม่แห่งท้องทะเลอันดามัน มุมสวย ๆ ของชายหาดเกาะห้อง ระหว่างทางเดินขึ้นไปบนยอดเขา มุมสวย ๆ ของชายหาดเกาะห้อง ระหว่างทางเดินขึ้นไปบนยอดเขา ใช้เวลาเดินขึ้นมาประมาณ 15-30 นาที ถึงจุดชมวิวบนยอดเขา แล้วแต่กำลังและความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคนด้วย มุมสุด Unseen ที่ต้องห้ามพลาด เมื่อเดินขึ้นมาถึงจุดชมวิว เบื้องล่างคือชายหาดเกาะห้อง ในวันที่แดดดีและฟ้าใส เมื่อมองจากจุดชมวิวลงไปจะเห็นหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าสวยใส เดินขึ้นบันไดมาแบบเหนื่อย ๆ ร้อน ๆ พอได้เห็นวิวที่สะกดสายตาเช่นนี้ บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ จุดชมวิว 360 องศา เกาะห้อง เริ่มเปิดอย่างเป็นทางการให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาชมวิว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา นอกจากจะได้ชมความสวยงามของชายหาดเกาะห้องในมุมสูงแล้ว ยังมองเห็นทัศนียภาพของเกาะต่าง ๆ ในน่านน้ำของทั้งจังหวัดกระบี่และพังงาอีกด้วย ชายหาดเกาะห้อง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ผู้ไปเยือนได้สัมผัสกับความสดใหม่และความสวยงามของธรรมชาติบนเกาะ หลังจากที่ได้ปิดพักให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ จากเดิมก่อนหน้านี้ ‘เกาะห้อง’ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ Amazing แห่งหนึ่งของท้องทะเลไทย แต่มาวันนี้ความสมบูรณ์ของธรรมชาติและความสวยงามตรงหน้า ทำให้ผู้ไปเยือนได้สัมผัสกับคำว่า Amazing ยิ่งกว่าเดิม อ่านรีวิวจบ อย่าลืมออกไปกอดเมืองไทยกันให้หายคิดถึง อย่าลืมรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกสถานที่ที่ไปเยือน รวมทั้งดูแลสุขอนามัยของตัวเองด้วยนะคะ  อย่าลืมให้ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ร่วมเคียงข้างไปกับคุณในทุกที่

🌈 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ) : อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ 🌈 อ่านเพิ่มเติม

✨ ทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี ✨

หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวอีสาน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่ไหน แอดแนะนำที่นี่เลย ทะเลบัวแดง ช่วงนี้กำลังบานสวยเลย วันนี้แอดจะเอาบรรยากาศและรายละเอียดมาให้เพื่อน ๆ ดูเป็นตัวอย่าง ถ้าอยากรู้ของจริงเป็นไง ต้องไปดูด้วยตัวเอง!! ทะเลบัวแดงอยู่ที่บึงหนองหาน แหล่งน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความหลากหลายทางด้านชีวภาพ ทั้งพันธุ์ปลา พันธุ์นก และพันธุ์พืชน้ำ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” นั่นเอง กิจกรรมยอดนิยมก็คือ การล่องเรือชมดอกบัวที่บานเต็มบึง ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัว และเก็บภาพที่น่าประทับใจ ปกติจะใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องห่วงว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะเจอวิวสวย ๆ เพราะแค่ออกเรือไป 3 นาทีก็เห็นบัวแดงแล้วล่ะ ปกติดอกบัวจะบานมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ก่อนจะค่อย ๆ ลดปริมาณลง ช่วงเวลาที่เหมาะจะออกเรือไปดูบัวคือช่วงเช้าจนถึงประมาณ 11.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวบาน และอากาศไม่ร้อนมาก  ฤดูกาลท่องเที่ยว : ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ : ตำบล เชียงแหว อำเภอกุมภวาปี อุดรธานี 41110 จุดขึ้นเรือ : ท่าเรือบ้านโนนน้ำย้อย (มีเรือให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-12.00 น.)  ค่าบริการ เรือเล็ก 300 บาท นั่งได้ 2 คน ใช้เวลา1 ชั่วโมงเรือใหญ่ 500 บาท นั่งได้ 6 คน ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมงบนเรือมีชูชีพให้บริการ  โทร : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี 0 4232 5407 ติดต่อล่องเรือสมสีท่าเรือโนนย้อย 06 5679 3784สมศรีท่าเรือโนนน้ำย้อย 08 8406 5492

✨ ทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เมืองต้องห้ามพลาด ✨

ช่วงปีสองปีมานี้ จังหวัดนครศรีธรรมราชกลายเป็นจังหวัดที่คนคุ้นหูกันมากขึ้น เพราะกระแสความศรัทธาในวัดเจดีย์ แต่แอดขอบอกว่า จริง ๆ นครฯ มีอีกหลายสิ่งที่น่าสนใจ ควรแก่การจัดทริปไปเที่ยวชม ที่นี่มีครบทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นทะเล ป่าเขา ศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมในชุมชนต่าง ๆ แถมอาหารก็อร่อยล้ำไม่แพ้ใครเลย ถ้ายังไม่เคยมาเที่ยวนครศรีธรรมราช ลองมาทำความรู้จักกันหน่อย ดูว่าโปรแกรม 2 วัน 1 คืนนี้ แอดจะพาไปเที่ยวไหนบ้าง วิธีการเดินทางมาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ตามสะดวก เครื่องบิน สนามบินนครศรีธรรมราช (NST) อยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชประมาณ 10 นาที ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ตอนนี้สายการบินที่บินมาลงสนามบินนครศรีธรรมราชมีให้เลือก 5 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air), สายการบินนกแอร์ (Nok Air), สายการบินไทยแอร์เอเชีย (AirAsia), สายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile), สายการบินไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet Air) รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แล้วใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41ผ่านสุราษฎร์ธานี-ทุ่งสง จนถึงนครศรีธรรมราชใช้เวลาประมาณ 10-11 ชั่วโมง รถประจำทาง มีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-11 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 780 กม. (แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า) สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 (เนื่องจากเที่ยวรถอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โควิด-19) รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นรถด่วน ขบวนที่ 85 ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้เวลาประมาณ 15-16 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โทร. 1690 วันที่ 1 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมพระธาตุไร้เงา ที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร สักการะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ดื่มด่ำบรรยากาศของหมู่บ้านคีรีวง ที่ขี้นชื่อว่ามีอากาศดีที่สุด วันที่ 2 ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่วัดเจดีย์ กินลมชมวิวบนหาดสิชล ขับรถเลียบทะเลสิชล-ขนอม ชมถนนที่สวยที่สุดในจังหวัดนครฯ เดินชิลล์ริมหาดท้องหยีและหาดในเพลา ชมวิถีชาวประมงที่อ่าวเตล็ด ร้านซีฟู้ด สุดอร่อย ห้ามพลาด วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร จุดหมายแรก เริ่มกันที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกขานกันว่าวัดพระธาตุ เป็นวัดสำคัญคู่เมืองนครศรีธรรมราช ภายในวัดมีพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ มีขนาดใหญ่ เห็นเด่นมาแต่ไกล โดยรอบ ๆ พระบรมธาตุเจดีย์ มีองค์เจดีย์บริวารอีก 149 องค์ สิ่งที่ทำให้วัดพระธาตุเป็นอันซีนไทยแลนด์ ก็คือ “พระธาตุไร้เงา” เพราะไม่ว่าแสงแดดจะส่องมาจากทิศทางไหนก็ไม่มีเงากระทบลงพื้น หากใครมาเที่ยวนครศรีธรรมราช อย่าลืมมาไหว้พระขอพร เพื่อเป็นศิริมงคลกันด้วยนะ  435 ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.  โทร. 0 7534 5172 https://goo.gl/maps/VtzPMHrYTq9wJsU68 ศาลหลักเมือง  จุดหมายต่อไป แอดจะพาไปไหว้ศาลหลักเมืองกัน ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวนครฯ นับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในบริเวณศาลหลักเมือง มีอาคารอยู่ 5 หลังด้วยกัน หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานของศาลหลักเมือง ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ (สี่พักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง ส่วนอาคารหลังเล็กที่อยู่ล้อมรอบ 4 หลังนั้นถือเป็นบริวาร 4 ทิศ มีศาลพระเสื้อเมือง ศาลพระทรงเมือง ศาลพระพรหมเมือง และศาลพรบันดาลเมือง  บริเวณทิศเหนือของสนามหน้าเมือง  เปิดทุกวันเวลา07.30-17.00 น.  โทร.0 7535 6458 https://goo.gl/maps/dW1F5mx3sKmaoHiPA หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา  หลังจากไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ได้เวลาผ่อนคลาย ไปดื่มด่ำกับธรรมชาติที่หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีที่สุดกัน นั่นคือ “หมู่บ้านคีรีวง” ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา สวนผลไม้ และวิถีชีวิตในชุมชนที่เรียบง่าย เอาล่ะ พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว ลุย!!  บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช https://goo.gl/maps/L6UomcPhcXjAW9gz8 จุดแรกที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะถ่ายรูปคือ สะพานบ้านคีรีวง เพื่อนๆห้ามพลาดเลยนะ ใครไม่ถ่าย ถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ สะพานบ้านคีรีวงนี้ อยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ยังไงก็ต้องผ่าน แนะนำให้ไปถ่ายรูปช่วงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะได้เห็นบรรยากาศและสีท้องฟ้าที่สวยงามทีเดียว ส่วนอีกช่วงก็คือช่วงเช้า จะได้เห็นวิวภูเขาและหมอกที่ลอยต่ำ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ หมู่บ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ แถมอากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ แอดแนะนำให้ขี่จักรยานชมบรรยากาศในหมู่บ้านนะคะ ชิลล์มาก ถ้าเพื่อน ๆ มาพักค้างในหมู่บ้าน สามารถเช่าจักรยานกับที่พักได้เลย แลนด์มาร์กยอดฮิตอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปก็คือ สะพานแขวนคีรีวง ด้านล่างเป็นลำธารใสแจ๋ว สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่แอดแนะนำให้เพื่อน ๆ ดูสีและความแรงของน้ำด้วยนะ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ในหมู่บ้านคีรีวงยังมีศูนย์การเรียนรู้หลายกลุ่ม กลุ่มที่แอดจะพาไปเยี่ยมชมวันนี้คือกลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติบ้านคีรีวง เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้ขั้นตอนการมัดย้อม การเขียนผ้าให้เกิดลวดลาย การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อให้เกิดสีต่าง ๆ และยังสามารถทดลองทำด้วยตัวเองได้อีกด้วย  373 บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา

✨นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เมืองต้องห้ามพลาด ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿 รวมร้าน Refill 🌿

ช่วงนี้เทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรง มีร้านรวง สินค้าและบริการที่หันมาใช้หลักการ Reuse Reduce Recycle กันมากมาย แอดเห็นแล้วก็อยากสนับสนุนไปหมดทุกร้านเลย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุด ๆ ร้านค้ากลุ่มที่แอดจะแนะนำคราวนี้เป็นร้าน Refill ซึ่งเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ช่วยลดขยะบรรจุภัณฑ์ โดยการนำบรรจุภัณฑ์เก่ามาเติมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ถือเป็นการใช้ซ้ำ (Reuse) ที่ช่วยลดขยะจากบรรจุภัณฑ์ไปได้เยอะเลย วันนี้แอดรวบรวมพิกัดร้านรีฟิลมาให้ ถ้าอยากอุดหนุนสินค้าที่ดีต่อโลกและดีต่อใจแบบนี้ ตามไปช้อปกันได้นะ ✨ 1. Zero Moment Refillery ✨ จากที่อยากให้ทุกคนคิดว่าการลดขยะไม่ใช่เรื่องยาก การซื้อของก็สามารถช่วยลดการเกิดขยะได้ จึงเกิดเป็นร้านนี้ขึ้น โดยที่นี่จะมีทั้งของกินและของใช้ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลและทำความสะอาดร่างกาย อาหารแห้ง ข้าวสาร เส้นสปาเกตตี เครื่องเทศ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ตลอดจนของขบเคี้ยว สินค้าที่ขายดีสุด ๆ ของที่นี่ก็คืออัลมอนต์เคลือบดาร์คช็อกโกแลตและข้าวโพดอบกรอบรสหัวหอมชีส อร่อยเพลินจริง ๆ แต่ถ้าใครเกิดลืมนำบรรจุภัณฑ์มาซื้อสินค้า ก็ไม่ต้องกังวล สามารถซื้อบรรจุภัณฑ์ใช้ซ้ำจากที่นี่ได้เช่นกัน 📍 : ตึก @home residence ซอย 16 ถนนเสรี 2 กรุงเทพฯ (หลัง The Nine พระราม 9 จอดรถได้ที่อาคาร @home residence) ⏰ : เปิดทุกวัน 10.00 – 19.00 น. 📞 : 08 2465 9262 🌐 : https://www.facebook.com/zeromomentrefillery  2. Get Well Zone  เพราะอยากให้โลก Get well soon ร้าน Get Well Zone จึงเกิดขึ้น โดยร้านนี้จะเน้นสินค้าจากธรรมชาติ อย่างผงสครับถั่วเขียว เกลือจากธรรมชาติ ที่กรองชาทำจากไม้ไผ่ช่วยลดการใช้ถุงชา หรือแม้แต่ยาสีฟันอัดเม็ดจาก Cheww.co ที่สะดวก พกพาง่าย แถมช่วยลดขยะจากหลอดบรรจุยาสีฟันได้อีกด้วย  : 436 ซอยเอกมัย 26 ถนนสุขุมวิท 63 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110  : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)  : 09 1942 2498  : https://www.facebook.com/getwellzone  3. Refill Station ปั๊มน้ำยา  ร้านนี้ตั้งอยู่ในร้าน Better Moon ที่เป็นทั้งเกสต์เฮาส์และคาฟ่ หลายคนอาจคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว ในร้านมีสบู่ แชมพูแบ่งขายหลายยี่ห้อ รวมทั้งโลชั่น ครีมทาผิว น้ำยาซักผ้า ฯลฯ มีทั้งแบรนด์แฮนด์เมด และแบรนด์ยอดนิยมที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อน ๆ เลือกได้เลย นอกจากนี้ยังมี ผลไม้อบแห้ง และถั่วนานาชนิดอีกด้วย พิเศษสำหรับคุณสุภาพสตรี ร้านนี้เขามีผ้าอนามัยแบบซักได้และถ้วยอนามัยให้เลือกซื้อด้วยนะ  : 2031 ซอย สุขุมวิท 77/1 แขวง พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 (BTS อ่อนนุช ทางออก 1)  : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 20.00 น. (หยุดวันจันทร์)  : 08 6993 6566  : https://www.facebook.com/refillstationbkk  4. Less : Plastic : Able  ร้านนี้ตั้งอยู่ในร้าน Delipizza Bangkok ที่เป็น Hub ให้คนแถวฝั่งธนฯ ที่สนใจเรื่องลดขยะได้มีร้านทางเลือก โดยทางร้านมีผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้าน ของใช้ส่วนตัว อาหารแห้งต่าง ๆ รวมถึงบรรจุภัณฑ์สำหรับใช้ซ้ำ อย่าง ขวดน้ำ ถุงผ้า มาขายด้วย เรียกว่าครบครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยล่ะ.  : ร้าน Delipizza Bangkok เลขที่ 632 ถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ  : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 – 18.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์-อังคาร)  : 09 4596 2936  : https://www.facebook.com/lessplasticable

🌿 รวมร้าน Refill 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ เลียบชายฝั่ง…ระยอง ✨

ระยองนับเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกเที่ยวมากมาย แถมเดินทางสะดวก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว วันนี้แอดมินมีตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งในพื้นที่อำเภอเมืองฯ และอำเภอแกลงมาฝาก สนใจข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม สามารถอ่าน eBook จังหวัดระยองได้ที่ https://www.amazingthailandebook.com/issue/167 หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect/  วันที่ 1 1 ชมผืนป่าชายเลนและพระเจดีย์กลางน้ำ ที่ “ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” 2 ส่องปลาใจกลางเมือง ที่ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง” 3 ชิลล์ริมหาดแม่รำพึง ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน  วันที่ 2 4 พายเรือคายัคชม “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” 5 ถ่ายรูปคู่กับต้นแสมยักษ์ ณ “ทุ่งโปรงทอง” การเดินทาง  สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยองมีรถโดยสารให้เลือกหลายบริษัท ทั้งรถบัส มินิบัส และรถตู้  บริษัท ระยองทัวร์ขนส่ง789 จํากัด โทร. 096 494 6395 หรือเว็บไซต์ https://www.rayongtour1989.com/  หจก. บี เอช ระยอง จำกัด โทร. 085 431 8998, 081 344 6042 หรือเว็บไซต์ https://www.facebook.com/BHRayongOfficial/  วันที่ 1 ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ เริ่มต้นทริปกันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติพร้อมชมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของระยองกัน ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำตั้งอยู่บริเวณปากน้ำระยอง เป็นผืนป่าชายเลนพื้นที่กว่า 300 ไร่มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์มาก เพื่อน ๆสามารถเดินชมและศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิดไปตามเส้นทางสะพานไม้ที่ทอดยาวผ่านผืนป่า จุดเด่นกลางผืนป่าชายเลนแห่งนี้คือ “พระเจดีย์กลางน้ำ”เจดีย์ทรงระฆังสีขาวอายุกว่าร้อยปีสร้างขึ้นในสมัยพระยาศรีสมุทร โภคชัยชิตสงครามเจ้าเมืองระยองคนแรก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวเรือรู้ว่าได้เดินทางมาถึงตัวเมืองระยองแล้ว  ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง  เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.  สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 โทร. 038 020 070 https://goo.gl/maps/5bqgHbLtvFTyZDZHA  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณวีระชัย ชินวัฒน์ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง  พาเพื่อน ๆ มาชมความน่ารักของเหล่าปลาหลากชนิดใจกลางเมืองระยองกันที่ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง” ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณวีระชัย ชินวัฒน์ ภายในอควาเรียมแบ่งเป็นโซน ได้แก่ ตู้แสดงสัตว์น้ำต่าง ๆ บ่ออุโมงค์ บ่อกลางแจ้ง บ่อเต่า รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหายาก และเปลือกหอยมากกว่าร้อยชนิด   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากคุณสุธี กิจอำนวยพร เพลิดเพลินโลกใต้ท้องทะเล ด้วยทางเดินอุโมงค์ขนาดยาว ชมปลาขนาดใหญ่แบบใกล้ชิด เสมือนอยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณวีระชัย ชินวัฒน์ นอกจากนี้ยังมีห้องนิทรรศการจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวประมงและพันธุ์สัตว์น้ำหายากแบบจำลองให้เพื่อน ๆ ได้ชมอีกด้วย  เลขที่ 2 หมู่ 2 ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง  เปิด วันพุธ-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-17.00 น.  ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 10 บาท เด็กความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร และผู้สูงอายุเข้าชมฟรี  038 651 764 https://goo.gl/maps/mcachTo6TCuPbEc99  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณวีระชัย ชินวัฒน์ หาดแม่รำพึง จากอควาเรียม ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที ก็จะได้พบกับชายหาดที่มีเม็ดทรายละเอียดขาวนวลสะอาดตา หาดแม่รำพึงเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงาม มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมของจังหวัดระยอง อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ชายหาดมีความยาว 12 กิโลเมตร นับเป็นหาดที่ยาวที่สุดของทะเลฝั่งตะวันออก  ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณวีระชัย ชินวัฒน์. ตลอดแนวหาดมีต้นมะพร้าวเรียงรายให้ร่มเงา  เพื่อน ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่โปรดใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากบริเวณหาดแม่รำพึงน้ำค่อนข้างแรง หากรู้สึกหิว สามารถหาของอร่อยรับประทานได้ที่ร้านอาหารริมหาด หรือสนใจพักค้าง ที่นี่ก็มีที่พักหลากหลายแนวให้เลือก หากเพื่อน ๆ มีโอกาสอยู่แถว ๆ นี้ตอนเย็น อย่าลืมรอชมพระอาทิตย์ตกดินกันนะ   ตำบลเพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดระยองhttps://goo.gl/maps/D7EBZjvgCQztfhA68  วันที่ 2 สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เริ่มต้นเช้าวันที่สอง แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปพายเรือคายัคชมป่าเสม็ดโบราณกัน สวนพฤกษศาสตร์ระยอง Unseen แห่งใหม่ของจังหวัดระยองเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 3,800 ไร่ ประกอบไปด้วยป่าพรุ หนองบึงและป่าบก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพรรณไม้ต่าง ๆ พืชท้องถิ่น สมุนไพรและยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิดอีกด้วย กิจกรรมไฮไลต์ของที่นี่คือ นั่งเรือชมวิว หรือพายเรือคายัคชมป่าเสม็ดพันปี เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องรู้สึกตะลึงไปกับวิวต้นเสม็ดขาวเก่าแก่โบราณที่ยืนต้นสูงอยู่กลางน้ำเหล่านี้แน่ ๆ  ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ ทำให้มีพืชสมุนไพรและไม้แปลกหลายชนิดเติบโต หนึ่งในพืชที่น่าสนใจก็คือ “แพหญ้าหนังหมา” พืชหญ้าชนิดหนึ่งที่เติบโตเป็นผืนขนาดใหญ่คล้ายพรมสีเขียวและนุ่ม ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี บนแพหญ้าหนังหมาจะมีกล้วยไม้ดินหายาก ได้แก่ เอื้องสีสนิม เอื้องอึ่งอ่าง แห้วชะครู ผักไผ่น้ำ

✨ เลียบชายฝั่ง…ระยอง ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ย้อนรอยประตูเมืองเชียงใหม่ ✨

เวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยไปเดินเล่นหรือถ่ายรูปแถวประตูท่าแพกันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ว่าแต่เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ประตูเมืองเชียงใหม่มีกี่ประตู แต่ละประตูเอาไว้ทำอะไรบ้าง ถ้ายังไม่รู้ แอดจะพาไปหาคำตอบกัน กำแพงเมืองเชียงใหม่ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เป็นกำแพงเมืองชั้นใน คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยพญามังราย กำแพงเมืองมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีแจ่ง (มุม) 4 แจ่ง แต่ประตูเมืองมีทั้งหมด 5 ประตู ซึ่งแต่ละประตูมีหน้าที่และความสำคัญต่างกันออกไป ประตูช้างเผือก ถือเป็นประตูมงคล สมัยก่อนใช้ในพิธีราชาภิเษก กษัตริย์เมืองเชียงใหม่จะเสด็จเข้าเมืองทางประตูนี้ ประตูช้างเผือกอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น วัดโลกโมฬี วัดเชียงยืน อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ วัดหัวข่วง พิพิธภัณฑ์ถิ่นล้านนา เป็นต้น ประตูท่าแพ ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนบ้านเชียงเรือกซึ่งเป็นชุมชนโบราณ และอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำปิง ในสมัยก่อน ประตูท่าแพจึงเป็นเส้นทางสัญจรเพื่อไปยังท่าน้ำ จากประตูท่าแพเพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปวัดเชตวัน วัดบุพพาราม วัดอุปคุต และไปช้อปของอร่อย ๆ ได้ที่ตลาดวโรรส ประตูสวนดอก ในอดีตเป็นประตูที่อยู่ใกล้กับพระราชอุทยานของพญามังราย ต่อมาในสมัยพญากือนา พระองค์ได้สร้างวัดขึ้นมาในพื้นที่อุทยาน และเรียกวัดนี้ว่าวัดสวนดอก จากประตูสวนดอก เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ และอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ประตูเชียงใหม่ เดิมชื่อประตูท้ายเวียง ในอดีตเมืองเชียงใหม่ เมืองเวียงกุมกาม และลำพูนตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง จึงใช้ประตูเชียงใหม่ในการเดินทางไปมาระหว่างเมือง ปัจจุบันบริเวณประตูเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของถนนวัวลาย ถนนคนเดินสุดฮิตที่มีสินค้าของฝากหลายประเภทให้เลือกซื้อ ประตูแสนปุง ตั้งอยู่ใกล้กับประตูเชียงใหม่ เป็นประตูที่สร้างขึ้นมาภายหลัง แต่ไม่ทราบช่วงเวลาการสร้างที่แน่นอน สมัยก่อนมีชุมชนช่างหลอมโลหะอยู่ใกล้กับประตูแห่งนี้ ซึ่งมีเตาปุง (เตาไฟ) อยู่จำนวนมาก จึงสันนิษฐานว่าเป็นที่มาของชื่อแสนปุง นอกจากนี้ เวลามีคนเสียชีวิตจะนำศพออกจากเมืองผ่านประตูนี้เพื่อไปยังสุสาน จากประตูแสนปุง สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่าง วัดศรีสุพรรณ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ คราวนี้ เพื่อน ๆ ก็ทราบเรื่องราวของประตูเมืองเชียงใหม่กันแล้ว ถ้าทริปหน้ามีแผนไปเชียงใหม่ อย่าลืมไปเที่ยวแถวประตูเมืองเชียงใหม่กันนะคะ

✨ ย้อนรอยประตูเมืองเชียงใหม่ ✨ อ่านเพิ่มเติม

บอกบุญ…รวมแหล่งส่งต่อของเหลือใช้ในบ้าน

เพื่อน ๆ มีข้าวของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือเก็บไว้นานจนลืมไปแล้วว่ามีไหมคะ ถ้ามี และกำลังคิดจะโละข้าวของเหล่านั้น อยากให้ทุกคนได้ดูโพสต์นี้ของแอดก่อนนะคะ : )แอดรวบรวมสถานที่รับบริจาคของที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว เพื่อส่งต่อให้กับผู้อื่นที่ต้องการมาเป็นไอเดียให้ทุกคนค่ะ มีทั้งสถานที่รับบริจาคเสื้อผ้า หนังสือ นิตยสารและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ มีที่ไหนบ้างมาดูกันค่ะ ✨1.ร้านปันกัน ร้านปันกัน รับบริจาคหนังสือ สิ่งพิมพ์ ตุ๊กตาสภาพดี เพื่อนำไปเป็นสินค้าแบ่งปัน จำหน่าย และนำเงินที่ระดมได้ทั้งหมดมอบเป็นทุนการศึกษาแก่น้องๆ เยาวชนที่ขาดโอกาส สถานที่รับบริจาค : ส่งทางไปรษณีย์หรือบริจาคด้วยตัวเองที่ ร้านปันกัน โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ เลขที่ 1 ซอยพรีเมียร์ 2 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 หรือร้านปันกันทุกสาขา โทร. 0 2301 1096 และ 08 1903 6639 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/pankansociety/ ✨2.StangDonation ศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสาร ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดรับบริจาคหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีสภาพดี ไม่ผ่านการขีดเขียน สะอาด พร้อมใช้งาน เพื่อส่งต่อให้เยาวชนที่ขาดแคลนทั่วประเทศ สถานที่รับบริจาค : ศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสาร ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 272 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2201 5724 เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/StangDonation/ 3.มูลนิธิบ้านนกขมิ้น มูลนิธิบ้านนกขมิ้นเป็นองค์กรที่อุปการะช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน เด็กด้อยโอกาส คนชรา และบำบัดผู้เสพยาเสพติด เปิดรับบริจาคสิ่งของ หนังสือ หรือสมทบทุนค่าอาหารของเด็ก ๆ สถานที่รับบริจาค : 89 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240 โทร. 0 2375 6497, 0 2375 2455 เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/baannokkamin1989/ 4.Paper Ranger จิตอาสาสมุดเพื่อน้อง โครงการ Paper Ranger ดำเนินการอยู่ภายใต้ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดรับบริจาคกระดาษเอสี่ใช้แล้วหน้าเดียวเพื่อมาทำเป็นสมุดเล่มใหม่ และนำไปส่งมอบต่อให้กับเด็กด้อยโอกาสที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน นอกจากนี้ ยังรับสมัครจิตอาสาประดิษฐ์สมุดทำมือเพื่อน้อง ๆ ด้วย สถานที่รับบริจาค : บริจาคด้วยตนเองหรือส่งไปรษณีย์ได้ที่ บ้านจิตอาสา 2044/21 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 08 9670 4600 (คุณพี) เว็บไซต์ : http://paperranger.org/ , https://web.facebook.com/wearepaperranger 5.โครงการ วน สำหรับเพื่อน ๆ ที่เริ่มเป็นนักแยกขยะ แยกแล้ว กำลังมองหาที่ส่งต่อ แอดขอแนะนำโครงการ วน ค่ะ โครงการนี้รับแต่พลาสติกยืดเท่านั้น เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นถุงใหม่และผลิตภัณฑ์อื่น ยังไม่รับขวด/พลาสติกแข็งอื่น ๆ นะคะ ซึ่งทางโครงการ วนก็ไม่ได้รับพลาสติกยืดแบบฟรี ๆ เพราะทุก 1 กิโลกรัม จะบริจาค 5 บาทให้มูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณประโยชน์ด้วย สถานที่รับบริจาค : สามารถนำไปส่งตามจุดรับของโครงการ หรือส่งทางไปรษณีย์ได้ที่ “โครงการ วน” บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด(มหาชน) 42/174 หมู่ 5 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/wontogether/?ref=page_internal

บอกบุญ…รวมแหล่งส่งต่อของเหลือใช้ในบ้าน อ่านเพิ่มเติม

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨

หากพูดถึงจุดชมทะเลหมอกในจังหวัดเชียงราย จุดที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปสักครั้งก็คือ ดอยผาตั้ง เพราะนอกจากทะเลหมอกหนา ๆ น่าชมแล้วก็ยังมีวิวขุนเขาแบบ 360 องศา รวมทั้งวิวลำน้ำโขงที่แบ่งอาณาเขตไทย-ลาว บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 053 602 742 (องค์การบริหารส่วนตำบลปอ) https://goo.gl/maps/fTxLADxkxcZEXM8BA ดอยผาตั้ง นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ชาวม้ง และชาวเย้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนฮ่อ โดยชาวจีนกลุ่มนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงหน้าหนาว ก็เตรียมฟินกับบรรยากาศหมอกได้เลยค่ะ  หากเพื่อน ๆ เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงรายในช่วงนี้ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยล่ะ บนดอยผาตั้ง มีจุดท่องเที่ยวให้ไปชมหลายจุดด้วยกัน แถมยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน แต่ละช่วงก็จะได้ชมความงดงามที่แตกต่างกันไป จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ “ผาบ่อง” ประตูรักแห่งขุนเขา จุดแรกคือผาบ่อง เป็นหน้าผาที่มีช่องเขาให้เดินลงไป มองเห็นทัศนียภาพของฝั่งลาวได้อย่างสวยงาม เป็นที่รู้จักกันว่า “ประตูรักแห่งขุนเขา” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโครงการ “เขาเล่าว่า” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “เขาเล่าว่า…ประตูรักแห่งขุนเขา ที่เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา” เล่ากันมาแบบนี้ เห็นทีคงต้องพาหวานใจไปด้วยแล้ว  ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่  เป็นศาลาทรงเก๋งจีนที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่นายพลหลี่ อดีตผู้นำทางทหารจีนคณะชาติ แห่งกองพล 93 นับเป็นสถาปัตยกรรมเล็ก ๆ ที่โดดเด่นบนขุนเขาแห่งนี้ เดินต่อไปประมาณ 5 นาที เพื่อน ๆ ก็จะเจอ “พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ” ประดิษฐานอยู่บนเขาด้วยเช่นกัน ไปแวะสักการะกันได้ค่ะ 🙏 เดินมาอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะพบกับ “ป่าหินยูนาน”  มีหินจำนวนมากกองอยู่บริเวณนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันป่าหินในจีน มีทางเดินขึ้นมาด้านบนให้เราได้ชมวิวกว้าง ๆ พร้อมกับทะเลหมอกกันด้วยนะ  “ช่องเขาขาด”  ผาหินบริเวณนี้มีลักษณะเป็นหินที่ขาดแยกจากกัน มองทะลุไปได้ ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เพื่อน ๆ จะได้ชมทัศนียภาพฝั่งลาว และเส้นแม่น้ำโขงที่ทอดตัวยาว   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ก่อนจะไปที่จุดถัดไป แวะชมทุ่งดอกบัวตองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับป่าหินกันก่อน ซึ่งช่วงนี้ก็บานเต็มที่แล้ว เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก  มองจากมุมนี้ จะเห็นได้ว่า ป่าหิน ช่องเขาขาด และทุ่งดอกบัวตองตั้งเรียงลำดับกันเลย เดินใกล้มาก ๆ ทางเดินที่นี่เป็นพื้นดินค่อนข้างเรียบ เดินง่าย สลับกับทางเดินขึ้นบันไดปูน มีราวกั้นเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณทางลาด สามารถเดินได้อย่างอุ่นใจ  จากนี้ ทางเดินจะเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ แวะพักจนหายเหนื่อยแล้ว แอดก็จะพาไปชมต่อที่ “จุดชมวิวเนิน 102” ซึ่งห่างไปประมาณ 300 เมตร เนิน 102 เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาที่เพื่อน ๆ สามารถชมทะเลหมอก  และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงาม  เดินต่อไปอีกราว ๆ 300 เมตร จะเป็น “เนิน 103” ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขาอีกลูกของดอยผาตั้ง ตรงจุดนี้นับว่าเป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกในมุมกว้างได้สวยงามมาก  ไหน ๆ ก็มาเที่ยวแล้ว ขอเก็บให้ครบเลยแล้วกันนะ ต่อไปก็คือ “เนิน 104” ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยและกว้างที่สุดของดอยผาตั้ง  สำหรับจุดนี้ จะอยู่อีกฝั่ง เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถโฟร์วีลไปถึงจุดชมวิว เนิน 104 ได้ มีจุดให้บริการรับ-ส่ง ราคาเหมาคันละ 500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 380 เมตรก็จะถึงด้านบนสุด มองเห็นสันเขา ทะเลหมอก และหมู่บ้านระแวกใกล้เคียงได้กว้างขวางเลยล่ะ

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ วังผาเมฆ จ.ตรัง ✨

 บ้านห้วยใหญ่ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ยอดเขาที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง #amazingthailand#เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม

✨ วังผาเมฆ จ.ตรัง ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top