สถานที่ท่องเที่ยว

✨ สัมผัสธรรมชาติ และเสน่ห์ท้องถิ่นใกล้กรุงฯ ที่ “ราชบุรี” ✨

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศยังคงเย็นสบายอย่างต่อเนื่อง ใครที่กำลังมองหาไอเดียในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวก่อนถึงสุดสัปดาห์นี้ ตามมาดูเส้นทางท่องเที่ยวใน #ราชบุรี กัน เส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ เพื่อน ๆ จะได้อินไปกับบรรยากาศของธรรมชาติและเสน่ห์ของคนในท้องถิ่นใน จังหวัดราชบุรี สามารถเที่ยวได้ในเวลา 2 วัน 1 คืน หรือหากใครมีเวลามากกว่านี้ จะเลือกเที่ยวแบบชิล ๆ 3 วัน 2 คืนเหมือนกับเส้นทางนี้เลยก็ได้เช่นกัน 😉  เส้นทางของทริปนี้ เดินทางไปทั้งหมด 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอบ้านคา และอำเภอสวนผึ้ง การเดินทาง แนะนำให้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถขับ จะสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยว  หากเพื่อน ๆ ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่สะดวกขับรถไปเอง สามารถใช้บริการรถตู้และรถมินิบัส จากกรุงเทพฯ (ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต และสายใต้ใหม่) หรือสายอื่น ๆ ที่ไปลงอำเภอเมืองราชบุรี จากนั้นไปขึ้นรถตู้ที่เดินทางภายในจังหวัดราชบุรี ท่ารถตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารออมสิน สาขาราชบุรี (ตรงข้ามกับแม่น้ำแม่กลอง) เส้นทางราชบุรี – โป่งกระทิง (ผ่านอำเภอบ้านคา) เส้นทางราชบุรี – สวนผึ้ง มีรถให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  นอกจากนี้ในอำเภอสวนผึ้ง ยังมีรถนำเที่ยวโดยรถโฟร์วีล สามารถติดต่อให้นำเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคา 1,800 บาท/วัน (เวลา 08.30-17.30 น.) สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์08 2197 9265 (ช่างยุทธ) เริ่มต้นทริปในอำเภอเมืองราชบุรี ที่ “อุทยานหินเขางู”  ในอดีตเป็นแหล่งระเบิดหินและย่อยหินที่สำคัญของไทย แต่หลังจากมีการยกเลิกสัมปทาน ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของราชบุรี มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างไม่ขาดสาย ไฮไลต์ที่นี่คือ สะพานแขวน มุมถ่ายรูปสุดฮิตที่ต้องมีรูปไว้เช็กอินกัน กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอุทยานหินเขางู คือการปั่นเรือถีบนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะอยู่กลางแจ้ง แต่ภายในก็มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา  ภายในอุทยานฯ ยังมีทางเดินรอบบึงให้เพื่อน ๆ ได้เดินเล่นรอบ ๆ เลาะไปตามแนวเขาหินปูนของเขางู หรือจะถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งมุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่หากใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน  ภายในอุทยานหินเขางู ยังมีเขตพุทธสถานบนภูเขา และมีถ้ำอยู่หลายแห่ง สามารถไปชมกันได้ หากเข้ามาทางฝั่งสวนสาธารณะเขางู เพื่อน ๆ จะได้ชมพระพุทธรูปปางลีลาแบบนูนต่ำขนาดใหญ่ ที่สร้างโดยการยิงแสงเลเซอร์บนหน้าผาหินด้วย  ที่นี่ยังมีลิงอาศัยอยู่บริเวณถ้ำด้วย แนะนำให้ระมัดระวังกันด้วยนะ  พิกัดอุทยานหินเขางู  ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. 0 3239 1308https://goo.gl/maps/uL1NhZdsCFQf3Jt67 พามาเสพบรรยากาศแบบสไตล์ยุโรปที่ “อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย”  เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในอำเภอบ้านคา อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มีฉากประกอบเป็นวิวภูเขา ลานหญ้า และป่าสนอยู่รอบ ๆ เป็นภาพที่สวยงามราวกับหลุดมาจากภาพโปสเตอร์เลยทีเดียว บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย ยังเป็นที่ตั้งของที่พักและลานกางเต็นท์หลายแห่ง หากใครยังไม่แน่ใจว่ามาที่นี่แล้วจะพักที่ไหน ขอแนะนำ 4 แห่ง ได้แก่ Phupha Coffee Camp ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ บ้านคา ราชบุรี 06 2538 1899https://goo.gl/maps/QrZnpeSAeiaURSYD7 มะหาด-ไทธารา โฮมสเตย์ Mahad-Thaitara Home Stay 09 9979 1914https://goo.gl/maps/mB9AsH5SgxrmPzMw7 ฟูจิ เมาท์เท่น แคมป์ Fuji mountain camp 09 9165 6489https://goo.gl/maps/eLVESYMSa45zjARt7 The Palm Hill Camping (เดอะ ปาล์ม ฮิลล์ แคมป์ปิ้ง) 08 7669 6038https://goo.gl/maps/2b6aVGKJ2J9KsM2g6 นอกจากจะได้พักผ่อนหย่อนใจแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถลงเล่นน้ำ ตกปลา พายเรือคายัก และซับบอร์ดในอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคยได้อีกด้วย ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับทางที่พัก   เด็ก ๆ ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด พระอาทิตย์ลับฟ้าแล้ว ถึงเวลาเพลิดเพลินและสนุกสนานหน้าแคมป์ที่ตกแต่งให้พิเศษสำหรับเพื่อน ๆ เติมแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน  พิกัดอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย  ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรีhttps://goo.gl/maps/3rg6GTmPRWrK88c17 วันที่ 2 ของทริป ออกจากอำเภอบ้านคา เดินทางไปที่อำเภอสวนผึ้งในตอนเช้าตรู่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อไปทำกิจกรรมไฮไลต์ภายในตลาดน่ารัก ๆ ที่ “โอ๊ะป่อย” ตลาดโอ๊ะป่อย  เป็นตลาดยามเช้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำภาชี มีชื่อเรียกตามภาษาของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีความหมายว่า “พักผ่อน” ภายในตลาดมีร้านค้ามากมายที่ชาวบ้านนำมาขาย เตรียมเปิดร้านกันตั้งแต่เช้ามืด แต่ก่อนที่จะเริ่มจับ จ่าย ชอปปิงนั้น มีกิจกรรมที่จะพาเพื่อน ๆ ไปทำกันค่ะ  ไฮไลต์ที่ว่านี้คือ “การใส่บาตร” ซึ่งพระจะล่องแพไม้ไผ่มาตามแม่น้ำภาชี ให้ผู้คนได้ใส่บาตรบริเวณริมแม่น้ำ  เพื่อน ๆ ที่ต้องการมาให้ทันใส่บาตร แนะนำว่าให้มาถึงก่อนเวลา 07.30 น. เพื่อที่จะได้มีเวลาซื้อของใส่บาตร และจับจองพื้นที่นั่งรอสำหรับใส่บาตร  อิ่มบุญแล้วอย่าลืมอิ่มกาย เพราะในตลาดโอ๊ะป่อย มีของกินให้เลือกเยอะมาก ทั้งของคาวหวาน อาหารยามเช้า ตลาดแห่งนี้มีความน่ารักอีกอย่างคือ ภาชนะต่าง ๆ สำหรับใส่อาหาร ล้วนเป็นวัสดุจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  จะเห็นได้ว่า ภายในตลาดโอ๊ะป่อย มีบรรยากาศที่ร่มรื่น แถมยังมีที่นั่งให้เพื่อน ๆ สามารถรับประทานอาหารได้อย่างสะดวก ไม่แออัด  ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ต่อเนื่องจากวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. 09 2371 7799https://goo.gl/maps/BYa4k9y9q5xbzWVD6โอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมธาร ออกเดินทางจากตลาด มาที่ “อัลปาก้า ฮิลล์”  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที อัลปาก้า ฮิลล์

✨ สัมผัสธรรมชาติ และเสน่ห์ท้องถิ่นใกล้กรุงฯ ที่ “ราชบุรี” ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌊 เที่ยวพังงาไป…เกาะผ้า 🌊

เกาะผ้า เกาะเล็ก ๆ จังหวัดพังงา ที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกัน วันนี้มาจะมาเช็กอินกันที่นี่และชมความสวยงามของเกาะแห่งนี้กันค่ะ🫶 แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นมะพร้าวมากมาย เมื่อเกิดอุทกภัยสึนามิ พ.ศ. 2547 ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกซัดหายไป ปัจจุบันจะมองเห็นเพียงเนินสันทรายสีขาว มองดูแล้วก็แปลกตาไม่น้อยเลยค่ะ 🤿ไฮไลท์ของที่นี่ ขอใช้คำว่ามหัศจรรย์คือ เกิดปรากฏการณ์คล้ายทะเลแหวกเมื่อน้ำทะเลลดต่ำจนเห็นสันทรายของเกาะ ยิ่งน้ำลดลงเราจะเห็นชายหาดสีขาวนวล หากมองจากมุมสูงก็มีรูปร่างคล้ายกับผืนผ้าพริ้วไหว นอกจากนี้บนเกาะมีกิจกรรมที่สายดำน้ำดูปะการัง พายคายัค หรือใครอยากจะหาที่พักสักคืนก็สามารถพักใกล้ ๆ เกาะคอเขาได้ 👉ฤดูกาลท่องเที่ยวที่แนะนำ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน

🌊 เที่ยวพังงาไป…เกาะผ้า 🌊 อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดดอนสัก อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ✨

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้มีวัดสวยลึกลับกลางเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มาแนะนำให้ชมกัน นั่นก็คือวัดดอนสัก นั่นเอง ชื่อของวัดมาจากการสร้างวิหารด้วยไม้สักเพียงต้นเดียว มีเรื่องเล่ากันว่าวัดนี้รอดพ้นจากการถูกพม่าเผาทำลายเพราะมีเสาหงส์ จึงเว้นไว้ไม่เผา แต่ใช้ดาบฟันบานประตูวิหารเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าได้ทำการทำลายลงแล้ว มีร่องรอยให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ วิหารของวัดมีบานประตูเป็นคู่บานประตูไม้จำหลักโบราณ มีลวดลายสวยงาม สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตัวเสาประตูเป็นลายกนกใบเทศสลับลายกนกก้ามปู บานประตูเป็นไม้แกะสลักทั้งบาน รูปลายกนกก้านขด มีรูปสัตว์หิมพานต์แทรกอยู่ในลวดลายกนกต่าง ๆ มีความอ่อนช้อยสวยงาม โดยบานซ้ายและขวานั้นไม่เหมือนกัน แต่เมื่อปิดบานแล้วลวดลายมีความลงตัวเข้ากันได้สนิท และเป็นบานประตูมีความสวยงามมากที่สุด 1 ใน 3 คู่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ หากเพื่อนคนไหนมาเที่ยวเมืองลับแล แล้วไม่ได้มาเยี่ยมชมที่วัดนี้ถือว่าพลาดมาก

✨ วัดดอนสัก อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย ✨

ความเชื่อเรื่องพญานาคอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ส่วนใหญ่จะมีตำนานว่าพญานาคอยู่ในแม่น้ำ บางก็อยู่ในถ้ำ “ถ้ำดินเพียง” ก็เป็นหนึ่งในถ้ำที่มีตำนานเล่าว่าเป็น “ถ้ำพญานาค” ถ้ำดินเพียง ตั้งอยู่ในวัดถ้ำศรีมงคล อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำพญานาคเนื่องจากมีตำนานเล่าว่า เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นโพรงเข้าไปคล้ายกับว่าเป็นห้องต่าง ๆ สวยงามมาก ในการเดินชมถ้ำนี้ต้องถอดรองเท้า บางจุดมีแอ่งน้ำ บางจุดจำเป็นต้องย่อตัวเพื่อให้ผ่านช่องแคบ ๆ ไปได้ ระยะทางในถ้ำไม่ไกลมากนักใช้เวลาในการชมถ้ำประมาณ 15-20 นาที จุดไฮไลท์ต่าง ๆ ภายในถ้ำ

✨ ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย ✨

ความเชื่อเรื่องพญานาคอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ส่วนใหญ่จะมีตำนานว่าพญานาคอยู่ในแม่น้ำ บางก็อยู่ในถ้ำ “ถ้ำดินเพียง” ก็เป็นหนึ่งในถ้ำที่มีตำนานเล่าว่าเป็น “ถ้ำพญานาค” ถ้ำดินเพียง ตั้งอยู่ในวัดถ้ำศรีมงคล อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำพญานาคเนื่องจากมีตำนานเล่าว่า เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นโพรงเข้าไปคล้ายกับว่าเป็นห้องต่าง ๆ สวยงามมาก ในการเดินชมถ้ำนี้ต้องถอดรองเท้า บางจุดมีแอ่งน้ำ บางจุดจำเป็นต้องย่อตัวเพื่อให้ผ่านช่องแคบ ๆ ไปได้ ระยะทางในถ้ำไม่ไกลมากนักใช้เวลาในการชมถ้ำประมาณ 15-20 นาที ตำแหน่งจุดไฮไลท์ต่าง ๆ ภายในถ้ำ

✨ ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย ✨ อ่านเพิ่มเติม

แหลมกระทิง🌊

แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต นอกจากการท่องเที่ยวทางทะเลแล้ว วันนี้เราจะพาไปลุยแบบผจญภัยกันที่ #แหลมกระทิง สวยจริงก็ต้องยกให้ที่นี่เลยค่ะ แต่ถามว่าลุยแค่ไหน…ต้องลองไปชมกันเลย จุดชมวิวทะเลอันดามันที่อยู่ใกล้ ๆ กับหาดในหาน มีลักษณะเป็นไหล่เขาที่ยื่นไปในทะเล มีทุ่งหญ้าโล่งกว้างสลับกับก้อนหินตามแนวเขา เราสามารถเดินลัดเลาะชมวิวไปเรื่อย ๆ ด้านหน้ามองเห็นคลื่นทะเลไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ด้วยความสวยงามและความท้าทายของแหลมกระทิงทำให้หลายคนอยากมาเพื่อพิชิตจุดชมวิวแห่งนี้ ไฮไลท์ที่ต้องมาปักหมุดเรียกกันว่า “หินเรือใบ” ด้วยรูปร่างที่คล้ายเรือใบ ก็ต้องมีภาพคู่พร้อมกับวิวสวยๆ บรรยากาศดี ๆ ลมเย็นๆ นั่งชมทะเลช่วงพระอาทิตย์ตกดิน นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งไม่แพ้แหลมพรหมเทพ คุ้มค่ากับการเดินเพื่อวิวหลักล้านเลยล่ะค่ะ ฤดูกาลท่องเที่ยวที่แนะนำ : สามารถมาได้ทุกช่วงฤดูกาล ยกเว้นเพียงช่วงที่มรสุมเข้า แหลมแห่งนี้แต่ละเดือนสีของทุ่งหญ้าจะต่างกัน หากอยากมาช่วงเดือนสิงหาคมทุ่งหญ้าจะเขียวสวย หรือมาช่วงเดือนมีนาคม จะได้เห็นทุ่งหญ้าสีเหลืองทองก็สวยไปอีกแบบค่ะ แนะนำให้เช็กสภาพอากาศของพื้นที่ก่อนการเดินทางทุกครั้ง เนื่องจากการเดินขึ้นไปแหลมกระทิง เส้นทางบางจุดจะเป็นก้อนหินและปีนป่ายเล็กน้อย ควรใส่รองเท้าผ้าใบมา และเป็นรองเท้าที่มีพื้นกันลื่น ที่สำคัญขาดไม่ได้เลยคือน้ำดื่ม ช่วยดับกระหายระหว่างเดินขึ้น ระหว่างทางค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังกันนะคะ การเดินทาง สามารถจอดรถได้ที่บริเวณหาดในหาน เนื่องจากมีที่จอดรถกว้างขวาง เมื่อจอดรถแล้วต้องเดินต่อไปประมาณ 1 กิโลเมตร (20 นาที) จนถึงรั้วของบ้านกระทิงรีสอร์ท เมื่อถึงชายหาดแล้วเดินเลาะโขดหินไปเรื่อย ๆ จะเริ่มขึ้นสู่ทางเดินเลียบหน้าผาอีกประมาณ 300-400 เมตร ใช้เวลา​เดิน​ประมาณ ​30-50 นาที ก็จะถึงแหลมกระทิง ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต https://goo.gl/maps/tDcR4ueh1Dtipur9A

แหลมกระทิง🌊 อ่านเพิ่มเติม

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️

💕 เดือนกุมภาพันธ์ อบอวลด้วยความรักและเทศกาลพิเศษที่หลาย ๆ คนมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมอบความพิเศษให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรู้ใจ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะจะเดินทางอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศยังมีช่วงที่อากาศเย็นสบาย ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันปลอดมรสุม และที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาจำกัดอีกด้วย  Bangkok Design Week 2023 กรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ก็มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ในธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ที่จะสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ในแต่ละย่านให้กลายเป็นเมืองที่น่ารัก เป็นมิตร ด้วยศิลปะและงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างเต็มที่ BKKDW จะจัดขึ้นในวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ในย่านหลัก ๆ ได้แก่ โซนพระนคร ปากคลองตลาด เจริญกรุง-ตลาดน้อย เยาวราช สามย่าน-สยามอารีย์-ประดิพัทธ์ วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู คลองสาน บางโพ พร้อมพงษ์ และ ม.เกษตรฯ เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรืออยากจะดูว่ามีกิจกรรมที่ไหนบ้าง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023/program  เบญจมาศบานในม่านหมอก ประจำปี 2566 จ.นครราชสีมา ชวนคนรักไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลางทุ่งดอกไม้ใน งานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก 2566  เนรมิตพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศขุนเขาให้กลายเป็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายสายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมการออกร้าน จำหน่ายสินค้า OTOP จำหน่ายผักปลอดสาร และชมนิทรรศการของส่วนต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมได้ตั้งแต่ วันที่ 5-25 กุมภาพันธ์ 2566  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ถ้าถามว่า ทะเลกระบี่สวยที่สุดช่วงไหน ก็คงตอบได้เลยว่าช่วงต้นปีนี่แหละเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย และมักจะได้รับผลกระทบจากมรสุมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หากใครที่มากระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ก็เป็นจุดหมายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ภายในอุทยานฯ มีชายหาดสวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอนถ้ำไวกิ้ง อ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวมาหยาอ่าวปิเละ เป็นต้น และยังมีกิจกรรมทางทะเล ได้แก่ ล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ปีนผาชมวิวมุมสูงที่อ่าวไร่เลย์ ชมทะเลแหวกอัตราค่าบริการท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัท หรือแล้วแต่ตกลงกับทางผู้นำเที่ยวว่าต้องการจะไปที่ไหนบ้าง และหากใครที่อยากนอนพักบนเกาะ สามารถไปพักได้ที่เกาะพีพีดอน ซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่ง  79 หมู่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 0 7566 1145 Facebook อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://goo.gl/maps/3s19gU2bBwJ81s6E8  เกาะพยาม จ.ระนอง  เกาะพยาม  เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมากแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยว บนเกาะมีอ่าวอยู่หลายแห่ง มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง บนเกาะ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น ชมพระอาทิตย์ตกบน “อ่าวใหญ่” ชมพระอาทิตย์ขึ้นบน “อ่าวแม่หม้าย” พายเรือคายักชม “ป่าโกงกาง” กลางเกาะ สัมผัสวิถีชีวิตของคนใน “หมู่บ้านมอแกน” เป็นต้น  การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่ เรือธรรมดาและเรือสปีดโบต มีหลายบริษัทและผู้ให้บริการหลายเจ้า ราคาประมาณ 250-400 บาท  ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโทร. 09 3582 4507 (อบต.เกาะพยาม)​https://goo.gl/maps/eqFYfNNiNaS2  อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ทางภาคเหนือ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ที่หากใครมีโอกาส อยากจะลองไปชมสักครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เหมาะมาก ๆ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนจุดชมทิวทัศน์ 1715 ชมวิวสันเขาและหมอกหนาบนยอดดอยภูแว นอนดูดาว กางเต็นท์พักแรม นอกจากบรรยากาศจะดีมากแล้ว ยังจะได้ชมพืชพรรณต่าง ๆ ของอุทยานฯ อย่างเช่น ก่วมแดง ที่มีในลักษณะคล้ายเมเปิ้ล ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานเต็มที่ เตรียมต้อนรับฤดูที่เบ่งบานของดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัยที่ปัจจุบันในไทยพบเพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2566 นี้ ดอกชมพูภูคาจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อย ใครที่วางแผนจะไปชมดอกชมพูภูคา สามารถติดตาม อัปเดตทางหน้าเพจอุทยานฯ ได้โดยตรง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานฯ ร้านค้าสวัสดิการ เปิดทุกวัน เวลา 07.30-18.30 น. บ้านพักและลานกางเต็นท์ จองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานฯ  ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อัตราค่าบริการชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท 08 2194 1349 Facebook อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – Doi Phu Kha National Parkhttps://goo.gl/maps/aUL4NDdrfu9K3PqS7

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️ อ่านเพิ่มเติม

🌠ชมหมอกส่องดาว ที่…แม่กาษา จังหวัดตาก 🌠

แม่สอด เป็นอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดตาก แม้จะเป็นอำเภอเล็ก ๆ หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะอำเภอติดกับชายแดนเมียนมาแต่วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักแม่สอดในมุมมองอื่น ๆ มาดูกันสิว่าแม่สอดมีอะไรน่าค้นหาบ้าง เริ่มที่แรกด้วยการพาเพื่อน ๆ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ อุทยานเทวะ ดอยสา สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปสักการะโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีอาคารสำคัญด้วยกันสามอาคาร ได้แก่วิหารพระพุทธเทวาลัยพระพิฆเนศเทวาลัยพระตรีมูรติ วิหารตรงกลางเรียกว่าวิหารพระพุทธ ประดิษฐานพระพุทธภัทรกัปเป็นพระประธานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระปรัชญาปารมิตา 2 องค์ นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อพระเกจิชื่อดัง ได้แก่ หลวงปู่ทวด, สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี, หลวงพ่อสด, หลวงปู่ศุข, หลวงพ่อเผือก และหลวงพ่อแฉ่ง ทางด้านซ้ายของวิหารพระพุทธคือ เทวาลัยพระพิฆเนศ ประดิษฐานพระพิฆเนศปางประทับนั่ง มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เป็นเนื้อหินภูเขาไฟจากประเทศอินโดนิเซีย เพื่อน ๆ จะเห็นอีกองค์ที่อยู่ด้านหลังนั้นเป็นปางประทับยืน องค์หล่อสำริด สูงถึง 2 เมตร สุดท้ายคือเทวาลัยพระตรีมูรติ ภายในประดิษฐานองค์โยคะทักษิณามูรติเป็นอวตารหนึ่งของพระศิวะ, พระสทาศิวะ, พระพรหม, พระกฤษณะ, พระอคัสตยะ และพระโพธิสัตว์วัชรสัตโต นอกจากองค์เทพแล้วยังมีศิวลึงค์หินโบราณอีกด้วย ที่นี่จะมีลำดับการสักการะเริ่มจาก วิหารพระพุทธ เทวาลัยพระพิฆเนศ และเทวาลัยพระตรีมูรติตามลำดับ ไปต่อกันที่น้ำตกแม่กาษา เป็นน้ำตกหินปูน 2 ชั้น น้ำสีฟ้าใสเหมือนสระว่ายน้ำ บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นมาก ๆ เย็นสบาย สวยจนใครเห็นก็อดไม่ได้ที่จะลงเล่นน้ำ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ไม่อยากเล่นน้ำสามารถเช่าเสื่อมานั่งเล่นได้เช่นกัน ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เดินขึ้นมาบนชั้น 2 จะพบกับผาน้ำตกที่มีน้ำไหลลงมา กระทบหินบวกกับแสงแดดที่สาดส่องผ่านต้นไม้ลงมาทำให้เกิดรุ้งกินน้ำเล็ก ๆ อดไม่ได้ที่จะเดินลุยน้ำตกเข้าไปเพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ผ่อนคลายกับน้ำตกสวย ๆ ไปแล้ว เราไปต่อกันที่ที่พักคืนนี้เลย ไม่ไกลจากน้ำตกเท่าไรนักมีจุดกางเต็นท์ที่สามารถชมวิวตำบลแม่กาษาได้ 180 องศา นั่นก็คือ ไฮ่ดอยตะวันขวาย เป็นลานกางเต็นท์ขนาดย่อม หากเพื่อน ๆ นำเต็นท์มาเองเสียค่าบริการคืนละ 100 บาท ต่อคน หากใครไม่มีเต็นท์มาเองก็สามารถเช่าได้ในราคา 500 บาท ต่อคืน พร้อมที่นอน หมอน และผ้าห่ม มีห้องน้ำให้บริการ ชาย 2 ห้อง หญิง 2 ห้อง และสามารถขอชาร์จแบตโทรศัพท์กับทางเจ้าของที่พักได้อีกด้วย  ในส่วนของอาหารแนะนำให้เพื่อน ๆ นำขึ้นไปเองเนื่องจากที่พักไม่มีบริการทำอาหารให้ จะมีเพียงเตาให้เช่าเท่านั้น หรือหากเพื่อน ๆ อยากปิ้งหมูกระทะให้ได้บรรยากาศแคมปิงก็สามารถแจ้งกับผู้ดูแลที่พักได้เขาจะสั่งจากร้านข้างล่างขึ้นมาให้ ราคาขึ้นอยู่กับชุดที่เราเลือก ประมาณ 300-500 บาท หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วมานอนดูดาวอากาศเย็นสบายมาก ๆ แม้ไฟจากในหมู่บ้านจะรบกวนการดูดาวของเราบ้างแต่ก็ยังทำให้เห็นดาวอยู่นะ  ไฮ่ดอยตะวันขวายในยามเช้ามีหมอกมาให้เราเห็นไม่เยอะมากแต่ก็ทำให้เช้านี้ของเราสดชื่นไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับที่นี่ถ้าใครไม่ใช่สายตั้งแคมป์สามารถขึ้นมาดื่มกาแฟชมวิวได้ ร้านกาแฟเปิด 07.00-19.00 น. ก่อนกลับเราจะพาเพื่อน ๆ ไปแช่น้ำแร่ที่ อโรคยาศาลโป่งคำราม ที่นี่มีให้บริการแช่น้ำแร่ร้อนฟรีด้วยนะ เป็นการแช่น้ำแร่ร้อนในถังไม้โอ๊คคล้ายกับออนเซ็นในประเทศญี่ปุ่นจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ใครที่ปวดเมื่อยอยู่ก็สามารถแช่เพื่อบรรเทาอาการได้เช่นกัน ที่นี่จะมีแยกโซนชาย-หญิงไว้อย่างชัดเจน ก่อนลงไปแช่น้ำแร่ต้องเปลี่ยนเป็นผ้าถุงก่อนหากไม่ได้เตรียมมาที่นี่ก็มีให้เช่าในราคา 20 บาทเท่านั้น โดยปกติจะใช้เวลาแช่เฉลี่ยไม่เกิน 20 นาที สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรแช่เกิน 10 นาที หลังจากแช่น้ำแร่แล้วควรอาบน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขน ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนของการแช่น้ำแร่แล้วค่ะ นอกจากแช่น้ำร้อนแล้วที่นี่ยังมีบริการนวดแผนไทย สำหรับบริการนี้แนะนำให้เพื่อน ๆ จองคิวมาก่อนนะ แม่สอด ไม่ได้เป็นเพียงเมืองที่ติดชายแดนแต่เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรอให้เพื่อน ๆ ไปเยือนอยู่นะคะ   จากกรุงเทพฯ ไปยัง จ.ตาก สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยว หมู่บ้านแม่กาษา ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก การขับรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชม.  การเดินทางโดยรถตู้, มินิบัส และรถบัส สามารถขึ้นได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ไปลงที่ตัวเมืองตาก หรือ อำเภอแม่สอด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชม. มีรถให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น.  การเดินทางโดยเครื่องบินจากท่าอากาศยานดอนเมือง บินตรงไปลงที่ท่าอากาศยานแม่สอดใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. โดยสายการบินนกแอร์ มีเที่ยวบินให้บริการทุกวัน ปัจจุบันมี 1-2 เที่ยวบิน/วัน  จากตัวเมืองแม่สอดใช้ถนนหมายเลข 105 มุ่งสู่ ตำบลแม่กาษา เมื่อถึงนิคมสหกรณ์แม่สอดเลี้ยวขวามุ่งสู่ถนน 4016 ไปตามเส้นทางแต่ละพิกัด 

🌠ชมหมอกส่องดาว ที่…แม่กาษา จังหวัดตาก 🌠 อ่านเพิ่มเติม

✨ แก้ปีชง 2566 ✨

เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาขึ้นปีใหม่ของชาวจีนกับเทศกาลตรุษจีนที่ถือเป็นการเริ่มต้นปีและงานฉลองรวมญาติครั้งใหญ่ สิ่งหนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้คือธรรมเนียมการแก้ชงเสริมดวงให้ปีนี้เป็นปีที่ดี เพื่อปัดเป่าเรื่องเลวร้ายที่อาจเข้ามาและเกิดขึ้นในชีวิตให้ผ่านพ้นไปได้ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าปีชงและการไหว้แก้ชงมาช้านาน แต่บางคนอาจไม่ทราบว่าปีชงมีที่มาอย่างไร ทำไมดวงชะตาของคนเราจึงไปตกอยู่บนปีชงได้ แล้วมีวิธีแก้ชงอย่างไรจะช่วยเสริมดวง ให้แคล้วคลาด โชคดี ดวงเฮงตลอดปี และจะแก้ชงที่ไหนดี วันนี้เราได้รวบรวม 5 สถานที่แก้ชงในกรุงเทพฯ ให้ใครที่ชงในปีนี้รีบไปไหว้ขอพร สะเดาะเคราะห์แก้ชง เสริมดวงปีนี้ จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย  ปีชงคืออะไร  ปีชง เป็นเรื่องความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน ที่เกี่ยวพันกับการดำเนินชีวิตของชาวจีนมานับพันปี คำว่า “ชง” ในภาษาจีนหมายถึง “การปะทะ” หรือ “ชน” ดังนั้นคำว่า “ปีชง” จึงหมายถึงปีที่อาจมีการปะทะเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามามากขึ้น อธิบายง่าย ๆ คือ ปีชง ก็เหมือนกับปีที่เราดวงตก หากปีนี้เป็นปีชงของปีนักษัตรไหน ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะเกิดอุปสรรค เกิดปัญหาติดขัด ไม่ราบรื่น อาจทำให้เกิดสิ่งไม่ดีกับบุคคลนั้น ดังนั้นจึงมีการเสริมดวงชะตาด้วยการ “แก้ชง” เพื่อปัดเป่าเคราะห์กรรม เสริมดวง ให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และให้เหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ทั้งหลายนั้นคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งความเชื่อเรื่องปีชงนี้ เกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วยเอี๊ย” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” ของมนุษย์ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมากในแต่ละปี โดยหากในปีนั้น เทพไท้ส่วยเอี๊ยเคลื่อนเข้าทับดวงดาวของปีนักษัตรใด จะทำให้ปีนั้นเป็นปีที่ได้รับผลไม่ดี หรือที่เราเรียกว่า “ปีชง” และจะส่งผลต่อดวงชะตาของผู้ที่เกิดในปีดังกล่าว ดังนั้น จึงมีการบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยเมื่อเริ่มขึ้นปีใหม่ของชาวจีน โดยการไหว้ขอพรเพื่อให้ช่วยปัดเป่าความทุกข์ เคราะห์กรรมของเจ้าชะตาในปีนั้น ๆ และคุ้มครองผู้กราบไหว้ให้มีความสุข แคล้วคลาด ปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงตลอดทั้งปี ควบคู่กับธรรมเนียมการไปแก้ชงคือการฝากดวงชะตาไว้กับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อบรรเทาเคราะห์กรรมหรือผลกระทบต่าง ๆ ให้เบาบางลง เป็นการนำสิ่งเลวร้ายออกไปและเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต  ปีชง 2566 มีปีไหนชงบ้าง  สำหรับปีชงในปี 2566 ได้แก่ ปีนักษัตรระกา ซึ่งถือเป็นปีชงตรง หรือชง 100% คือ ปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2476, 2488, 2500, 2512, 2524, 2536, 2548, 2560 ซึ่งปีระกาจะเจอแรงปะทะจากปีชงไปเต็ม ๆ คือ จะต้องระมัดระวังมากที่สุด อาจมีเรื่องอะไรที่ทำให้มีอุปสรรค หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันครั้งใหญ่ในด้านลบ นอกจากนี้ยังมี ปีชงร่วม ซึ่งจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เหมือนเป็นปีที่อยู่ในองศาที่ถือว่า โดนลูกหลง ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ปีคัก คือ ปีนักษัตรที่ชงกับตัวเอง หมายถึงปีนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ จะทำอะไรอาจมีเรื่องที่เป็นอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามา มีปัญหาติดขัด ไม่ราบรื่น สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีเถาะ หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2482, 2494, 2506, 2518, 2530, 2542 และ 2554 ปีเฮ้ง คือ ปีนักษัตรที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม ปัญหาอุปสรรค คดีความต่าง ๆ สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีชวด หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2479, 2491, 2503, 2515, 2527, 2539 และ 2551 ปีผั่ว คือ ปีนักษัตรที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ การงาน ความรัก ครอบครัว อาจมีเรื่องขัดแย้ง ไม่ราบรื่น สำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่ ปีมะเมีย หรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2485, 2497, 2509, 2521, 2533, 2545 และ 2557 มาถึงตรงนี้ก็คงทราบกันแล้วว่าปีเกิดของตัวเองนั้นเป็น ปีชง ในปี 2566 หรือไม่ และคงอยากจะไปแก้ปีชงกันแล้ว ซึ่งจังหวะเวลาการแก้ชงจะนิยมกระทำในช่วงหลังตรุษจีนเพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี ในวันนี้ จะขอแนะนำสถานที่แก้ปีชงที่ได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ศรัทธาเดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก จะมีสถานที่ไหนบ้าง เรามีตัวอย่างมาฝากกัน  แก้ปีชงที่ไหนดี 2566  1.วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่เมื่อพูดถึงการ “แก้ชง” สถานที่ที่คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ชื่อดังอายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ย่านเยาวราชและเป็นวัดยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีน คนไทยส่วนใหญ่นิยมมาแก้ชงกันที่วัดแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่วัดแห่งนี้จะมีความคึกคักเป็นพิเศษ คนส่วนใหญ่จะนิยมมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สะเดาะเคราะห์ ขอพรเสริมดวงชะตา โชคลาภ และแก้ปีชงกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว ภายในวัดมีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ หรือ “ซำป้อหุกโจ้ว” พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ หรือที่เรียกว่า “จับโป๊ยหล่อหั่ง” ส่วนข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ ตลอดจนเทพเจ้ารวมทั้งหมด 58 องค์ ไม่ว่าจะเป็น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ ไท้ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าแห่งยา หรือหมอเทวดา “หั่วท้อเซียงซือกง” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ” ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปไหว้

✨ แก้ปีชง 2566 ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌸 ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ 🌸

มาถึงจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยงามอีกหนึ่งจุดของ จ.เชียงใหม่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” สถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรชาวไทยบนที่สูง ซึ่งในช่วงนี้มีดอกนางพญาเสือโคร่งบานแล้วประมาณ 50-60% คาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนจะได้ชมความงามสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งเต็มพื้นที่ แถมอากาศยังหนาวแบบฟิน ๆ ให้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ สอบถามระยะเวลาบานของดอกนางพญาเสือโคร่ง ติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 09 8111 8478 ในวันและเวลาราชการ Facebook : https://www.facebook.com/Cm.Khunwang ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม เวลาเปิด-ปิด 07.00 – 18.00 น. ของทุกวัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจองบ้านพักสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 4217 4060 https://maps.app.goo.gl/tXWJtkyxtpzm4kDU6?g_st=ic สวนลุงเปา ขุนวาง อีกจุดเช็กอินที่ต้องแวะชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ตั้งอยู่ระหว่างศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ กำลังออกดอกบานเป็นสีชมพู 100 % ที่นี่ต้นนางพญาเสือโคร่งมีลำต้นไม่สูงมากนัก ออกดอกเต็มต้น จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย เก๋ ~ รู้กันแล้วอย่าลืมรีบไปตามมาเที่ยวกันล่ะ สวนลุงเปา ขุนวาง 08 2188 0978 ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม https://maps.app.goo.gl/qG5mQnVcFjpD5aL28

🌸 ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ 🌸 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top