เกร็ดความรู้ท่องเที่ยว

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿

“ชะคราม” ผักชื่อแปลกที่หลายคนอาจจะคุ้นหู แต่แอดเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับผักที่น่าสนใจชนิดนี้มาฝาก ชะครามเป็นพืชที่เติบโตได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่จะมียอดอ่อนขึ้นให้เก็บกินได้เยอะ ต้นอ่อนชะครามจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลอมแดงไปจนถึงแดงเรื่อ พบได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็ม อย่างป่าชายเลน พื้นที่ริมชายฝั่ง ตลอดจนแถบนาเกลือ จึงไม่น่าแปลกใจที่แหล่งชะครามจะอยู่แถบสมุทรสงครามและสมุทรสาคร ส่วนด้านรสชาติ ชะครามจะมีรสเค็ม มัน กรอบ และมีกลิ่นของน้ำทะเลนิด ๆ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งแกง ยำ กินแกล้มน้ำพริก หรือผสมไข่เจียวก็อร่อย หากเพื่อน ๆ รู้สึกสนใจอยากลอง หรือเคยกินแล้วติดใจอยากกินอีก แต่ไม่สะดวกออกไปกินที่ร้าน ปัจจุบันสามารถหาซื้อชะครามทางออนไลน์ได้แล้ว แต่ตอนปรุง อย่าลืมนำชะครามไปต้มและล้างน้ำเปล่าเพื่อกำจัดความเค็มออกสัก 2-3 รอบก่อนล่ะ จะได้กินอย่างอร่อยสมกับความอยาก

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨

ผ้าไทยนับเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน แต่ละถิ่นก็จะมีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากศิลปะการทอผ้าแล้ว การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบในการทอผ้า และย้อมผ้าก็เป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งด้วยเช่นกัน หากอยากรู้กันแล้วว่าสีผ้าต่าง ๆ ที่เราเห็นนั้นมาจากอะไร ไปดูกันเลยค่ะ ฝาง ไม้ยืนต้นขนาดกลางให้สีสันสดใสด้วย “แก่นต้น” โดยนำมาผ่าซีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่ค้างคืนก่อนจะนำไปต้มเพื่อสกัดสี ทำให้ได้น้ำสกัดสีแดง ส้ม น้ำตาลแดง นอกจากนี้ ฝักของฝางก็สามารถนำมาย้อมให้สีได้ด้วยเช่นกัน สีที่ได้คือสีน้ำตาลกะปิ ฝาง เป็นพืชที่หาได้ไม่ยาก พบได้ในหลายภูมิภาค สามารถย้อมได้ทั้งผ้าฝ้าย ไหม มัดหมี่ ดอกบัวแดง นอกจากจะนำมาทำเป็นอาหารรสเลิศแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุให้สีที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะในการย้อมแต่ละแบบ จะให้สีที่ต่างกัน เช่น ดอกบัวสดที่นำมาย้อมเย็น ให้สีชมพู ม่วง ส่วนการย้อมแบบร้อน คือนำบัวไปต้ม จะให้สีน้ำตาลทอง นอกจากนี้ สายบัวก็ยังให้สีที่ต่างออกไปอีกคือ สีเทาเงิน กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เป็นกลุ่มอาชีพที่รื้อฟื้นการทอผ้าหลังจากหยุดไปกว่า 20 ปีจนเกือบจะสูญหายไปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมีจุดเด่นที่การย้อมด้วยบัวแดง จนชุมชนมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หากเพื่อน ๆ อยากไปชมการย้อมผ้าด้วยบัวแดง สามารถไปได้ตามพิกัดนี้ 63 หมู่ 18 บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 093 547 8255, 061 942 8808 เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/efpC6uc93VS2AmLt8 คราม เป็นไม้พุ่มตระกูลถั่ว ให้สีที่สวยงาม ขั้นตอนการทำสีจากครามคือ จะเก็บเกี่ยวทั้งลำต้นมามัดเป็นฟ่อน นำไปแช่น้ำอย่างน้อย 1 คืน จากนั้นเก็บชิ้นส่วนครามออกให้หมด เหลือแต่น้ำไว้เพื่อเตรียมไปทำเนื้อครามต่อไป สีที่ได้จากครามมีหลายเฉดตั้งแต่สีฟ้า น้ำเงิน น้ำเงินเข้ม น้ำเงินออกม่วง การย้อมผ้าครามแพร่หลายมากในแถบภาคอีสาน โดยเฉพาะสกลนคร มีหลายหมู่บ้านหลายกลุ่มที่เป็นแหล่งผลิตผ้าย้อมคราม และงานหัตถกรรมจากผ้าย้อมคราม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ห้อม หรือฮ่อม พืชอีกหนึ่งชนิดที่ให้สีน้ำเงินเช่นเดียวกับต้นคราม โดยใช้ส่วนของใบมาสกัดสีก่อนนำไปย้อมผ้า เรามักได้ยินชื่อผ้านี้บ่อย ๆ ว่า “ผ้าหม้อห้อม” ผ้าทอมือสินค้าพื้นเมืองประจำจังหวัดแพร่ นอกจากสีสันที่สวยงามแล้ว ลายผ้ายังมีความหลากหลายสวยงาม หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปจังหวัดแพร่ แนะนำเลยว่าควรซื้อติดมือกลับมาด้วย ปิ้งขาว ไม้พุ่มขนาดกลาง พบได้ตามบริเวณดอยหรือป่าที่มีอากาศชื้นสูงอย่างทางภาคเหนือ การสกัดสีจะใช้ผลของปิ้งขาว แม้ผลจะมีสีน้ำเงินออกม่วง แต่กลับได้สีที่น่าทึ่ง คือสีเขียวน้ำทะเล หรือหรือเขียวอมฟ้านั่นเอง ทางภาคเหนือ แอดมีแหล่งชมและซื้อผ้าย้อมสีจากปิ้งขาวมาแนะนำ 2 แหล่งได้แก่ 1 ม่อนทรายคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าฝ้าย ใยกัญชง แถมใครอยากซื้อไปถักโครเชต์ งานปักก็ได้เช่นกันนะ สั่งซื้อออนไลน์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thakthorcraft/ 2 บ้านห้วยตองก๊อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุมชนชาวปกาเกอะญออายุกว่า 200 ปีตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าเบญจพรรณ เป็นพื้นที่ราบเชิงเขาล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ใกล้ริมห้วยปูลิง สัมผัส แลกเปลี่ยน เรียนรู้วิถีชีวิต รวมถึงชมการย้อมผ้าสีธรรมชาติภายในชุมชนเล็ก ๆ น่ารักแห่งนี้ได้ ติดต่อ https://web.facebook.com/cbt.huaytongkor/ มังคุด ผลไม้ไทยเนื้อขาวรสหวานอมเปรี้ยว เมื่อรับประทานเนื้อแล้วยังสามารถนำเปลือกที่เหลือทิ้งมาใช้ย้อมสีต่อได้ สามารถใช้ได้ทั้งเปลือกสดและเปลือกแห้ง สกัดสีแล้วจะให้สีน้ำตาล น้ำตาลแกมแดง ที่หมู่บ้านคีรีวง มีกิจกรรม Work Shop ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำผ้ามัดย้อมและเพ้นท์ลายผ้าจากสีธรรมชาติด้วย ซึ่งสีต่าง ๆ ที่ใช้ก็ทำจากพืชหลากหลายชนิด รวมทั้งมังคุดที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของหมู่บ้านคีรีวงด้วย หากเพื่อน ๆ มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว สามารถไปแวะชมหรือทำกิจกรรมกันได้นะ หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช https://goo.gl/maps/vWST3phxEPU7m6Bc7

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้อควรระวังก่อนนวดแผนไทย ✨

การนวด ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่รู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรู้สึกดีขึ้นจนทำให้หลาย ๆ คนติดใจและบอกต่อ ๆ กัน แต่ในข้อดีก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดแผนไทย หลายคนอาจนึกไม่ถึง วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำข้อควรระวังก่อนการนวด เพื่อให้คนที่กำลังจะไปนวดได้รีเช็คอาการกันก่อน 1. บาดเจ็บจากเล่นกีฬา หากมีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย เช่น แผลฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นอักเสบ ฯลฯ ควรรอให้หายดีก่อนประมาณ 1-2 อาทิตย์จึงค่อยไปนวด เพราะการนวดในขณะที่ยังไม่พร้อมอาจเพิ่มอาการบาดเจ็บใหม่ได้ 2. ผู้ป่วยกระดูกหัก หากเคยประสบอุบัติเหตุ มีประวัติกระดูกแตกหัก ร้าว เคลื่อน ฯลฯ ไม่ควรนวดแผนไทย เพราะเมื่อประสบอุบัติเหตุ ร่างกายจะสร้างลิ่มเลือดขึ้นเพื่อห้ามเลือดในเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการนวดแผนไทยอาจจะทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกมาในกระแสเลือด และเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดในสมอง อาจเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ รวมถึงผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน กระดูกบาง หรือมีสภาวะข้อต่อหลวม ควรหลีกเลี่ยงการนวดแผนไทยเช่นกัน 3. ผู้มีโรคประจำตัวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไม่ควรไปนวด เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตจากการกดจุดหรือนวดตามเส้นเลือดได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคติดต่อที่แพร่เชื้อได้ เช่น โรคงูสวัด อีสุกอีใส วัณโรค ก็ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะอาจเกิดการแพร่เชื้อหรืออาการหนักกว่าเดิม รวมถึงผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา และแผลยังปิดไม่สนิท เพราะการนวดอาจทำให้แผลปริแตก หรือเกิดการอักเสบขึ้น 4. สตรีมีครรภ์ สตรีมีประจำเดือน สุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์หรือช่วงมีประจำเดือน มักมีอาการปวดเมื่อย ทำให้หลายคนอยากไปนวด แต่การนวดแผนไทยที่ต้องใช้แรงหรือมีการกดจุด อาจกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ได้ และการนวดที่ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ในช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติ หรืออาจทำให้เป็นไข้ทับระดูได้ 5. ผู้ที่มีปัญหากระดูกสันหลัง สำหรับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะมีการกดจุดและดัดตัว อาจทำให้กระดูกสันหลังมีการเคลื่อนตัว เกิดความเจ็บปวดและอันตรายต่อกระดูกสันหลัง หากต้องการนวด แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะด้านจะดีกว่า ทั้งนี้ส่วนสำคัญของการนวดคือ ผู้เข้ารับบริการไม่ควรปกปิดประวัติความเจ็บป่วยต่อผู้ให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการนั่นเอง

✨ ข้อควรระวังก่อนนวดแผนไทย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครคิดแบบแอดบ้าง ที่นึกอยากจะกินข้าวแช่ขึ้นมาทุกครั้งไป ในฐานะคนชอบกินข้าวแช่ เลยอยากจะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้าวแช่ พร้อมแนะนำพิกัดร้านข้าวแช่แสนอร่อยมาฝากกัน ข้าวแช่แต่เดิมเป็นอาหารของชาวมอญ ในอดีตการหุงข้าวแช่เป็นพิธีกรรมในการบูชาเทวดาอย่างหนึ่ง นิยมทำในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ชาวมอญ เป็นโอกาสที่ญาติมิตรที่อยู่ห่างไกล ได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำข้าวแช่ไปทำบุญและตั้งศาลของบ้านขึ้นมาเพื่อเซ่นไหว้เทวดา และถือโอกาสนำข้าวแช่ไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและกราบไหว้ขอพร การทำข้าวแช่แบบมอญนั้น มีพิธีและขั้นตอนการทำมากมาย เริ่มตั้งแต่คัดข้าวสารเม็ดสวย มาซาวน้ำ 7 ครั้ง ให้สะอาด หุงโดยตั้งเตาไฟบนลานโล่ง ส่วนน้ำที่จะกินร่วมกับข้าวแช่ ต้องเป็นน้ำสะอาดต้มสุก เทลงหม้อดินเผาใบใหญ่ อบควันเทียนและดอกไม้หอม เช่น มะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา ทิ้งไว้หนึ่งคืน เครื่องเคียงข้าวแช่หลัก ๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแห้งป่น เนื้อเค็มฉีกฝอย หัวไชโป๊เค็มผัดไข่ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ต่อมาข้าวแช่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระนครคีรี ทรงโปรดปรานข้าวแช่สูตรเมืองเพชรเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ ลูกกะปิ ปลากระเบนผัดหวาน และผักกาดเค็มผัดหวาน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดทำข้าวแช่ เป็นข้าวแช่เสวยขึ้นถวาย ซึ่งมีการปรับสูตรเครื่องเคียงเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน รวมถึงผักสดแกะสลัก ร้อนนี้ ลองแวะไปหาข้าวแช่รับประทานกัน แอดมีพิกัดแนะนำหลายแห่ง เช่น เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นแหล่งรวมข้าวแช่ขึ้นชื่อหลายร้าน เช่น ร้านข้าวแช่คุณแดง (เปิดขายช่วงสงกรานต์) ร้านข้าวแช่ป้าสุดจิตร สูตรชาววัง ร้านข้าวแช่ลุงแดง เป็นต้น จังหวัดเพชรบุรี มีร้านข้าวแช่ชื่อดังหลายร้าน เช่น ข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี อยู่ตรงข้ามสถานีกาชาดที่ 8 อำเภอเมือง ร้านข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ อำเภอท่ายาง ในบริเวนเกาะรัตนโกสินทร์ มีข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ถนนตะนาวนอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายร้านในกรุงเทพฯที่มีเมนูข้าวแช่ขายในช่วงหน้าร้อน ดูพิกัดของร้านแล้ว ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น ไปร้านข้าวแช่อย่างเดียวคงไม่พอ คงต้องเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨

เพื่อน ๆ รู้จักข้าวเปิ๊บกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก มาทำความรู้จักกัน ข้าวเปิ๊บ หรือในอดีตเรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง เป็นอาหารถิ่นของ จ.สุโขทัย มีส่วนประกอบที่เรียบง่าย รสชาติอร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพมาก ๆ คำว่า “เปิ๊บ” มาจากภาษาถิ่น แปลว่า “พับ” วิธีการทำคล้ายกับข้าวเกรียบปากหม้อ โดยการขึงผ้าขาวบางไว้บนปากหม้อ เมื่อน้ำเดือดก็นำแป้งสดมาละเลงแล้วเกลี่ยบาง ๆ เมื่อแป้งสุกก็ใส่วุ้นเส้น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี และถั่วงอกลงไป รอสักครู่ให้เครื่องสุก จากนั้นพับแป้งห่อเครื่องให้เป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นตักใส่ชาม เติมหมูสับ ไข่ดาวนึ่ง ปิดท้ายด้วยการราดน้ำซุปกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อม จะเห็นว่าไม่ได้ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงมากมาย แต่รสชาตินั้นอร่อยจนใครต่อใครต่างพากันติดใจ

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ถนอมอาหารกันอย่างไร ✨

เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าร้อน ปัญหาที่มักเจออยู่ประจำคือ วัตถุดิบในการประกอบอาหารจะสุกเร็วและเน่าเสียได้ง่าย วิธีเก็บรักษาที่ง่ายที่สุดในปัจจุบันก็คือแช่ตู้เย็น แต่สมัยก่อนที่จะมีตู้เย็น คนรุ่นปู่ย่าตายายของเราได้ใช้กระบวนการทางธรรมชาติมาเก็บถนอมอาหาร จนเป็นภูมิปัญญาที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบัน บางท้องถิ่นทำกินกันจนสามารถเป็นอาชีพได้เลยทีเดียว มีอะไรบ้าง ไปดูกัน 1. ดอง เป็นวิธีถนอมอาหารที่เราคุ้นเคยที่สุด ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดองได้ทั้งรสเค็ม หวาน เปรี้ยว โดยมีเกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชู เป็นส่วนผสมหลัก นอกจากผัก-ผลไม้ที่นิยมนำไปดองแล้ว ก็ยังมีไข่ที่สามารถนำไปดองได้เช่นกัน   โดยการดองไข่ สามารถทำได้ทั้งแบบดองในน้ำเค็ม และดองแบบแห้ง เช่น ไข่เค็มดินสอพอง ที่ทำกันมากที่จังหวัดลพบุรี โดยส่วนผสมหลักคือ “ดินสอพอง” ทรัพยากรธรรมชาติที่หาได้ไม่ยากของจังหวัดนี้ นอกจากร้านของฝากที่มีวางจำหน่ายแล้ว เพื่อน ๆ ยังเข้าไปซื้อหรือทดลองทำด้วยตัวเองได้ที่ บ้านดินสอพอง จ.ลพบุรี วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโคกพุทรา จ.ลพบุรี ส่วนที่ ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จ.เพชรบุรี ก็มีกิจกรรม work shop ให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมสนุก ทำไข่เค็มดินสอพองอัญชันกันด้วยนะ  2. ตากแห้ง เป็นการถนอมอาหารอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกันมาก และสามารถทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ เครื่องเทศ หรือ ผลไม้ แถมยังมีการปรุงรสเพิ่มเติมเพื่อความอร่อย และช่วยให้เก็บได้นานยิ่งขึ้นด้วย อาหารตากแห้งประเภทเนื้อสัตว์ที่นิยม มีทั้งหมูแดดเดียว เนื้อแดดเดียว ปลาเค็ม รวมทั้งอาหารทะเลอื่น ๆ  เมื่อนำมาตากแห้งสามารถช่วยลดปัญหาของสดเน่าเสียในครัวเรือนได้อย่างดี หรือหากนำมาตากแห้งเพื่อจำหน่ายก็ช่วยสร้างรายได้อย่างมาก แหล่งรวมอาหารทะเลตากแห้งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งเราสามารถไปเที่ยวและช้อปปิ้งได้ไม่ยาก ได้แก่ ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี ตลาดมหาชัย และร้านรวงต่าง ๆ ในย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร นอกจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแล้ว ผลไม้ตากแห้งอย่าง “กล้วยตาก” ก็เป็นของว่างยอดนิยม รสชาติหวานอร่อย ถูกใจคนกินทุกช่วงวัยทีเดียว เนื่องจากประเทศไทยสามารถปลูกกล้วยได้ทุกภาค เราจึงมีกล้วยตากอร่อย ๆ แทบจะทุกหัวระแหงเลยทีเดียว  กล้วยตาก จ.กำแพงเพชร ที่มีแหล่งปลูกกล้วยไข่ และมีรายได้เพิ่มจากการทำกล้วยตาก  กล้วยตากบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ผลิตภัณฑ์เด่น ณ เมืองสองแคว  กล้วยตากสังคม จ.หนองคาย กล้วยน้ำว้าพันธุ์พื้นเมืองได้รับการจดทะเบียนเป็นสินค้า GI ด้วยเช่นกัน  กล้วยตาก จ.ชุมพร แหล่งเพราะปลูกผลไม้คุณภาพดี ผลผลิตกล้วยค่อนข้างมาก นำมาแปรรูปเป็นกล้วยตากหลากหลายแบบ ทั้งกล้วยตากอบน้ำผึ้ง กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต อร่อยจนอยากให้เพื่อน ๆ ชิมด้วยตัวเอง   3. หมัก อาจจะสงสัยว่าต่างกับการดองยังไง เพราะเรามักเรียกรวมกันว่า “ของหมักดอง” ติดปากมาโดยตลอด การหมัก คือการถนอมอาหารโดยอาศัยจุลินทรีย์เป็นตัวย่อยสลายวัตถุดิบต่าง ๆ และต้องใช้เวลานานกว่าการดอง ของหมักที่อร่อยแถมมีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นที่นิยมมากก็คือ โยเกิร์ต  ในบ้านเรามีฟาร์มโคนม และฟาร์มแพะหลายแห่งที่ไม่ได้แปรรูปนมพาสเจอร์ไรท์เพียงอย่างเดียว แต่ยังทำเป็นโยเกิร์ตอีกด้วย หากเพื่อน ๆ มีโอกาส สามารถไปเที่ยวชมและซื้อโยเกิร์ตได้จากฟาร์มต่าง ๆ เช่น ฟาร์มโชคชัย จ.นครราชสีมา ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ฯลฯ   4. กวน เป็นการถนอมอาหารที่นำวัตถุดิบประเภทผลไม้หรือธัญพืชมาบดละเอียด กวนผ่านความร้อน ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม รสหวาน ผลไม้ไทยสามารถนำมากวนได้หลายอย่าง เช่น มะม่วง กล้วย สัปปะรด ฯลฯ จะกวนเองก็ไม่ยาก หาซื้อมารับประทานก็ไม่ยากเช่นกัน โดยเฉพาะสับปะรดกวนที่มีมากในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีการทำไร่สับปะรดค่อนข้างมาก และขนมสุดฮิตในประจวบฯ ก็คือขนมปังชีสเชคไส้สับปะรด มีขายทั่วไปตามร้านของฝากเลยจ้า 

✨ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ถนอมอาหารกันอย่างไร ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ผลไม้ช่วงหน้าร้อน ✨

ประเทศไทย เป็นประเทศที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ามีผลไม้เยอะ สามารถหามารับประทานได้ทั้งปี ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว แอดเลยถือโอกาสรวบรวมผลไม้ที่ออกผลในช่วงนี้มานำเสนอ ซึ่งนอกจากจะรสชาติดี ราคาถูกแล้ว ยังหาง่ายอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูได้เลย ✨ ทุเรียน ✨ ราชาแห่งผลไม้ มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว รสหวานและมัน กินได้ทั้งแบบสด และแปรรูปอย่าง การกวน ทอด หรือทำเป็นขนมหวาน แม้ทุเรียนจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน แต่ในทุเรียนจะมีส่วนประกอบของสารกำมะถันอยู่ด้วย หากรับประทานมาก ๆ จะทำให้รู้สึกร้อนและอึดอัด เพราะฉะนั้นควรกินแต่พอดี ซึ่งสายพันธุ์ยอดฮิตของทุเรียนก็คือ 1. พันธุ์ก้านยาว เป็นพันธุ์ที่มีราคาแพง รสชาติหวานมันกลมกล่อม นิยมปลูกในจังหวัดนนทบุรี พันธุ์นี้เปลือกจะค่อนข้างหนา เนื้อเนียนละเอียด เมล็ดกลมใหญ่ หนามเรียงเป็นระเบียบ ราคาเริ่มที่ประมาณ 170 บาทต่อกิโลกรัม 2. พันธุ์หมอนทอง สายพันธุ์นี้มีกลิ่นไม่แรงมาก รสชาติหวานมัน ปลูกมากในจังหวัดจันทบุรี จังหวัดพังงา ลักษณะผลมีขนาดใหญ่ รูปร่างหนามแหลมตรง เนื้อละเอียดและแห้ง ไม่แฉะติดมือ เมล็ดเล็กและลีบ ราคาประมาณ 100-140 บาทต่อกิโลกรัม 3.พันธุ์ชะนี เป็นสายพันธุ์ที่นิยมนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนม เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีมทุเรียน มีกลิ่นแรง รสจัด มีผลขนาดปานกลางถึงใหญ่ หนามมีขนาดใหญ่สั้น เมล็ดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนเมล็ดน้อย แหล่งปลูกจะอยู่ที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ราคาประมาณ 70-140 บาทต่อกิโลกรัม และหากใครพลาดทุเรียนในช่วงหน้าร้อนนี้ไป แอดขอแนะนำทุเรียนภูขาไฟ จากจังหวัดศรีสะเกษที่จะออกผลในช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม มีสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน รสหวานมันไม่แฉะติดมือ ราคาจะเริ่มต้นที่ 170 บาทต่อกิโลกรัม สาวกทุเรียนคนไหนไม่เคยลอง แอดขอบอกเลยว่าห้ามพลาด ✨ มังคุด ✨ มาต่อกันที่ราชินีแห่งผลไม้ ซึ่งมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วรู้สึกชื่นใจ เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ เปลือกขั้วบนมีลักษณะคล้ายมงกุฎ จำนวนกลีบของเนื้อสังเกตได้จากจำนวนของกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือกนอก ปลูกกันมากในภาคใต้และภาคตะวันออก ในพื้นที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พังงาและสุราษฏร์ธานี มังคุด เป็นผลไม้แปลกในเรื่องของสายพันธุ์ เนื่องจากผลมังคุดพัฒนามาจากฐานรองดอก ไม่ได้มีการผสมเกสรของเพศผู้และเพศเมียเหมือนพืชผลชนิดอื่น ทำให้ไม่มีการกระจายตัวทางพันธุกรรม สายพันธุ์จึงไม่มีหลากหลายเหมือนผลไม้ชนิดอื่น ๆ ราคาของมังคุดโดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 60-120 บาท ต่อกิโลกรัม ✨ มะยงชิด ✨ ผลไม้ชนิดนี้เป็นฝาแฝดของมะปราง ออกผลเพียงปีละครั้ง แม้มะปรางและมะยงชิดจะคล้ายกันมากเพราะเป็นพืชในกลุ่มเดียวกัน แต่แอดก็มีวิธีสังเกตเพื่อการแยกแยะผลไม้ 2 ชนิดนี้มาฝาก ดังนี้ 1. สังเกตที่ลักษณะผลภายนอก มะปรางจะลูกเล็กกว่ามะยงชิด และหลังจากที่ผลสุกเต็มที่ สีของมะปรางจะออกเหลืองนวล ส่วนมะยงชิดจะออกสีเหลืองอมส้ม 2. ตอนผลดิบ มะปรางจะมีรสมัน สีออกเขียวซีด ส่วนมะยงชิดจะมีรสเปรี้ยว และสีเขียวค่อนข้างจัด เมื่อสุกแล้วมะปรางจะมีรสชาติหวานจืดไปจนถึงหวานจัด ส่วนมะยงชิดจะมีรสหวานอมเปรี้ยว 3. มะปรางบางสายพันธุ์เมื่อกินแล้วจะระคายในคอเพราะมียาง แต่มะยงชิดไม่มียาง กินอร่อย ไม่ระคายคอ พันธุ์มะยงชิดที่ได้รับความนิยม มี 3 สายพันธุ์ คือ 1. พันธุ์เพชรกลางดง ปลูกกันมากที่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นพันธุ์ที่ออกผลง่าย แหล่งกำเนิดอยู่ที่บ้านกลางดง จังหวัดกำแพงเพชร ผลใหญ่ รสหวาน เนื้อกรอบ 2. พันธุ์ทูลเกล้า เป็นพันธุ์ขึ้นชื่อของ จังหวัดนครนายก ผลมีขนาดเสมอกันทุกพวง เมล็ดลีบเนื้อในเยอะ รสหวานแหลม กลิ่นหอม 3. พันธุ์บางขุนนนท์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกกันว่า มะปรางเสวย แหล่งกำเนิดอยู่ที่ ตำบลท่าอิฐ จังหวัดนนทบุรี รสชาติหวานอมเปรี้ยว เป็นพันธุ์มะยงชิดที่เก่าแก่สายพันธุ์หนึ่ง โดยราคาของมะยงชิดโดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท ต่อกิโลกรัม แตงโม ผลไม้สุดฮิตช่วงหน้าร้อน มีเนื้อสีแดงหรือสีเหลืองแล้วแต่สายพันธุ์ มีเนื้อฉ่ำน้ำ กรอบ รสหวาน เย็นชื่นใจ ยิ่งแช่เย็นยิ่งสดชื่น กินแบบสดก็อร่อย นำมาปั่นเป็นน้ำแตงโมดับกระหายก็ดี บางคนก็เอามาทำเป็นของว่างอย่างปลาแห้งแตงโมก็น่ารับประทานมาก แหล่งปลูกแตงโมกระจัดกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น จังหวัดกาญจนบุรี นครราชสีมา ยโสธร สกลนคร สระแก้ว สุโขทัย นครสวรรค์และอยุธยา โดยสายพันธุ์ยอดฮิตก็คือ 1. แตงโมจินตหรา ผลยาวรี เปลือกเขียวเข้มสลับลายเขียวอ่อน เนื้อละเอียดสีแดง กรอบ เปลือกอ่อน ราคาประมาณกิโลกรัมละ 6-10 บาท 2. แตงโมตอร์ปิโด ผลจะยาวรีกว่าพันธุ์จินตหรา เปลือกเหนียว เนื้อหยาบสีแดงสด แน่น หวาน กรอบ ราคาประมาณกิโลกรัมละ 9-15 บาท 3. แตงโมกินรี ผลกลม เปลือกเขียวเข้มสลับลายเขียวเข้มเกือบดำ เนื้อละเอียดสีแดง กรอบ เปลือกอ่อน ราคาประมาณกิโลกรัมละ 12-16 บาท

✨ ผลไม้ช่วงหน้าร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

วิธีลดขยะอาหารในบ้าน🍝🥗🍗🥦

ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คงจะมีเพื่อน ๆ หลายคน WFH ทำให้ต้องทำอาหารกินเองที่บ้าน หรือสั่งเดลิเวอรี่กันมา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าภายในบ้านจะมีปริมาณขยะจากอาหารเพิ่มมากขึ้น (Food Waste) วันนี้แอดมาแบ่งปันไอเดียการลดขยะอาหารภายในบ้านให้เพื่อน ๆ ได้นำไปปรับใช้ นอกจากจะได้ลดขยะจากอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยโลกกันคนละไม้ละมือจากที่บ้านด้วย จัดเก็บวัตถุดิบให้เห็นชัดและวางแผนการซื้ออาหารให้พอเหมาะ จัดระเบียบตู้เย็น เก็บวัตถุดิบที่ใหม่กว่าไว้ด้านในสุด เพื่อจะได้ทะยอยใช้วัตถุดิบไปตามลำดับ ไม่หลงลืมอาหารที่ถูกเก็บไว้นาน จัดเก็บอาหารในภาชนะถนอมอาหาร เพื่อยืดอายุของอาหารให้นานขึ้น วางแผนการซื้อ จดรายการอาหารก่อนซื้อ เพื่อเช็คความเหมาะสมและเพียงพอ ทำความเข้าใจความแตกต่างของคำว่า Expiry Date กับ Best Before Expiry Date (EXP/EXD) คือ อาหารจะหมดอายุ ณ วันที่ระบุไว้ ไม่ควรนำมารับประทานต่อเพราะอาจเป็นอันตรายได้ Best Before (BB/BBE) คือ อาหารนั้นยังมีรสชาติ ลักษณะ รวมถึงสารอาหารครบถ้วนจนถึงวันที่ระบุไว้ข้างฉลาก ถ้าเลยวันไป รสชาติอาจอร่อยน้อยลง คุณภาพลดลง แต่ยังนำมารับประทานต่อได้โดยไม่เป็นอันตราย คัดแยกขยะเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เศษอาหารสดสามารถนำไปหมักทำปุ๋ย หลังจากย่อยสลายแล้ว นำไปผสมกับดินเพื่อปลูกต้นไม้ได้ Regrow จากเศษผักที่สามารถนำไปปลูกใหม่ เช่น โหระพา สะระแหน่ ฯลฯ หรือผักผลไม้ที่มีเมล็ดก็สามารถเก็บเมล็ดไปปลูกใหม่ได้ นำไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น กากกาแฟนำไปเช็ดถูหม้อกระทะลดความมัน เปลือกมะนาวใช้หมักกับน้ำส้มสายชูนำมาใช้ถูพื้นได้ ฯลฯ

วิธีลดขยะอาหารในบ้าน🍝🥗🍗🥦 อ่านเพิ่มเติม

นกเงือก สัญลักษณ์แห่งรักแท้

ในเดือนแห่งความรัก แอดมีเรื่องราวดี ๆ ของนกเงือกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งรักแท้ มาให้อ่านกันเพลิน ๆ ค่ะ “นกเงือก” หรือ “Hornbills” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และถือเป็นตัวบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่สำคัญ เนื่องจากนกเงือกจะอาศัยอยู่แต่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงนั่นเอง นกเงือกเป็นนกขนาดใหญ่อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าและป่าดิบเขตร้อน พบได้ในทวีปเอเชียและแอฟริกา ปัจจุบันมีถึง 54 ชนิดทั่วโลก โดยในประเทศไทยมี 13 ชนิด กระจายอยู่ทั่วประเทศ รูปร่างหน้าตาจำได้ง่ายเพราะโดดเด่นตั้งแต่บริเวณปากที่มีขนาดใหญ่และโหนกมีสีเหลือง ขนมักมีสีดำ-ขาว บางชนิดมีขนสีน้ำตาล สถานที่ที่สามารถพบเห็นนกเงือกในประเทศไทยมีหลายแห่งมากค่ะ แอดมีลิสต์สถานที่ที่พบเห็นนกเงือกมาฝากเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ได้ไปชมกันด้วย เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ นกเงือกยังมีความสำคัญกับระบบนิเวศป่าอีกด้วย ตามธรรมชาติการหาอาหารของนกเงือกแล้ว จะกินทั้งผลไม้และสัตว์เล็ก แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่จะเลือกกินผลไม้สุกและทิ้งเมล็ดไปในพื้นที่ต่าง ๆ นี่จึงเป็นเหมือนตัวช่วยปลูกป่า ซึ่งเมื่อป่าเติบโตก็จะเป็นแหล่งอาหารต่อไป หากพูดถึงที่มาของสัญลักษณ์แห่งรักแท้ รู้หรือไม่ ? เมื่อนกเงือกจับคู่แล้ว จะใช้ชีวิตแบบผัวเดียวเมียเดียวไปตลอดชีวิต ไม่ว่าคู่เดิมจะตายหรือหายไปก็จะไม่หาคู่ใหม่ เรียกได้ว่ารักเดียวใจเดียวมากจริง ๆ โดยนกเงือกจะเริ่มหาคู่ในช่วงปลายปี และเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ทางมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก มหาวิทยาลัยมหิดลได้กำหนดให้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันรักนกเงือก” (Love Hornbills Day) ตั้งแต่ พ.ศ.2547 เป็นต้นมา

นกเงือก สัญลักษณ์แห่งรักแท้ อ่านเพิ่มเติม

🍇 เทศกาลเก็บเกี่ยว ฤดูเก็บองุ่น 🍇

เพื่อน ๆ รู้ไหม ในเมืองไทยก็มีเทศกาลเฉลิมฉลองเก็บองุ่นนะ แอดเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ ไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กัน ไร่องุ่นในไทยมีอยู่หลายแห่งกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่นำเข้ามาจากเขตหนาว แต่ก็สามารถเติบโต และพัฒนาสายพันธุ์ให้งอกงามออกผลที่มีคุณภาพ รสหวาน หอม อร่อย สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ไวน์” จนปัจจุบันมีไวน์แบรนด์ไทย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักหลายแบรนด์เลยทีเดียว องุ่น สามารถตัดแต่งให้มีผลผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ในพื้นที่สูงมักจะนิยมบังคับองุ่นให้มีผลผลิตในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม และเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพื่อให้ได้องุ่นที่มีคุณภาพสูง พวงสวย รสชาติดี โดยจะเก็บเกี่ยวภายใน 1-2 เดือนหลังออกผลเต็มที่ และสิ่งที่น่าสนใจในช่วงที่กำลังจะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ก็คือ “เทศกาลฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น” ในเทศกาลฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น จะมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น การเก็บองุ่นด้วยตัวเอง การเตรียมองุ่นเพื่อนำไปหมักบ่มทำไวน์ ไร่องุ่นในไทยก็มีการจัดงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยวองุ่นอยู่หลายที่ด้วยกัน เตรียมชุดและพร็อพให้พร้อม แล้วออกไปเที่ยวชมถ่ายรูปสวย ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศในไร่องุ่นกัน เพื่อน ๆ สะดวกที่ไหนก็ไปตามพิกัดเหล่านี้กันได้เลยจ้า ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ (ตลอดเดือนกุมภาพันธ์) 52 หมู่ 9 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดทุกวัน เวลา 07.30-20.00 น. 092 806 7755 https://goo.gl/maps/E44juedJhHZLxW2r6 รายละเอียดกิจกรรม https://www.facebook.com/granmonte/posts/10158316627176156 ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ (ประมาณเดือนมีนาคม/เมษายน) 102 หมู่ 5 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-19.00 น. วันศุกร์-เสาร์ เวลา 09.00-21.00 น. 081 733 8783, 085 481 1741 https://goo.gl/maps/nwXMKGQAU4HxUMHF7 ไร่องุ่นคุณหวาน (ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.00 น. 081 808 8745 https://goo.gl/maps/nwXMKGQAU4HxUMHF7 ไร่องุ่นภูผา สวนผึ้ง (ประมาณเดือนเมษายน) ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 081 007 0668 https://goo.gl/maps/yaTcy4XY5tEfFcXB6 (ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์)

🍇 เทศกาลเก็บเกี่ยว ฤดูเก็บองุ่น 🍇 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top