เกร็ดความรู้ท่องเที่ยว

✨ ตุ๊กตาอับเฉา ✨

หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปวัดเก่าแก่ใน กรุงเทพฯ อย่างวัดเทพธิดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม ฯลฯ คงเคยเห็นรูปปั้นหินศิลปะจีนกันมาบ้าง แต่รู้ไหมว่า รูปปั้นเหล่านี้ที่เรียกว่า “ตุ๊กตาอับเฉา” มีที่มาที่ไปยังไง วันนี้แอดจะมาแชร์เกร็ดความรู้นี้ให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน “ตุ๊กตาอับเฉา” หรือ “อับเฉาเรือ” ในสมัยรัชกาลที่ 3 ประเทศไทย (สยาม) มีการค้าขายกับประเทศจีน ผ่านเรือสำเภา ซึ่งตอนขนส่งสินค้าไทยไปจีน เรือจะบรรทุกสินค้าไปเต็มเรือ แต่ในตอนกลับ เรือไม่สามารถเดินทางกลับด้วยลำเรือเปล่า ๆ ได้ เนื่องจากเรือสมัยโบราณใช้ไม้ที่มีน้ำหนักเบา เมื่อเจอคลื่นลมแรงอาจล่มได้ จำเป็นต้องมีของถ่วงน้ำหนัก ไม่ให้เรือเบาเกินไป จึงเป็นที่มาของการใช้หิน แกะสลักเป็นของใช้ รูปปั้น หรือตุ๊กตาตามที่มีคนต้องการ ใส่ไว้ในห้องใต้ท้องเรือ ซึ่งเมื่อถึงไทย ก็จะมีการนำอับเฉาเหล่านี้มาตั้งตกแต่งวัดวาอาราม พระราชวัง หรือบ้านผู้มียศศักดิ์ ประเภทของอับเฉานั้นมีหลากหลายมาก ยกตัวอย่างได้ดังนี้ 1. ตุ๊กตาหินที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายสวยงามเต็มยศอย่างขุนนางจีน มีทั้งฝ่ายบู๊ มือถืออาวุธ หน้าตาดุดันใส่เสื้อเกราะ ไปจนถึงฝ่ายบุ๋น หน้าตาอมยิ้ม สวมหมวกทรงสูงแบบนักปราชญ์ มือถือหนังสือเป็นนักปกครอง นักวางแผนแห่งราชสำนัก ซึ่งอับเฉาชนิดนี้เรียกว่า ลั่นถัน 2. รูปคนต่าง ๆ เช่น นักบวช ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก เซียน เทพ ฝรั่ง ซึ่งมีเครื่องแต่งกายแตกต่างกันตามช่างแกะหินจะจินตนาการ 3. รูปสัตว์ มีทั้งสัตว์ในจินตนาการเช่น มังกร หงส์ กิเลน และสัตว์ทั่ว ๆ ไปอย่าง เต่า ม้า ลิง เสือ สิงโต 4. สิ่งของเครื่องใช้ เช่น แท่นบูชา เสามังกร กระถางหิน เจดีย์จีน 5. สิ่งประกอบโครงอาคาร เช่น ขอบกั้นระเบียง บันได พื้นปูใบเสมา  เอาล่ะ ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็รู้ความเป็นมาคร่าว ๆ ของตุ๊กตาอับเฉาแล้ว หากใครอยากเห็นของจริงสามารถตามไปดูได้หลายวัดเลย เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)  2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.30 น.  0 83057 7100 https://goo.gl/maps/T4X37K8R4yCqPgk27 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  146 ถ.บำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-20.30 น.  0 2622 2819, 06 3654 6829 https://goo.gl/maps/KxFR89jWkDvniPnr7 วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)  158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น.  0 2891 2185 https://goo.gl/maps/vUWQN7PKVdY4DdYv6 วัดเทพธิดารามวรวิหาร  70 ถ.มหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.  0 2225 7425, 0 2621 1178 https://goo.gl/maps/2nus2ngSZjYgJP7u5 วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  258 ซอยเอกชัย 4 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  0 2893 7274 https://goo.gl/maps/kAtcZdRdztXC73tj9 ถือเป็นการไปดูตุ๊กตาหินสวย ๆ และแวะทำบุญไปในตัวพร้อมกันเลย 

✨ ตุ๊กตาอับเฉา ✨ อ่านเพิ่มเติม

บาบ๋า ย่าหยา เอกลักษณ์ปักษ์ใต้✨💫

เวลาท่องเที่ยวไปทางภาคใต้ เพื่อน ๆ คงเคยได้ยินชื่อเรียก บาบ๋า หรือ ย่าหยา มาบ้าง และอาจเคยสงสัยว่าทำไมจึงเรียกกันเช่นนั้น…วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เรื่องนี้มาให้อ่านกันเพลิน ๆ ค่ะ 🎈 ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักที่มาที่ไปกันก่อน ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีชาวเปอรานากัน (Peranakan) ซึ่งเป็นคำมลายู แปลว่า ถือกำเนิดที่นี่ เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีเชื้อสายผสมระหว่างจีน-มลายู โดยชายจะเรียก บาบ๋า หญิงจะเรียก ย่าหยา ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้จะอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ระนอง พังงา และมีกระจายอยู่บ้างที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส ถึงแม้ว่าเวลาล่วงเลยมาทำให้เชื้อสายมลายูของชาวเปอรานากันจางลง จนคนรุ่นหลังแทบจะเป็นจีนเต็มตัวไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำให้วัฒนธรรมผสมผสานของชาวเปอรานากันจืดจางลงไปเลย เพราะยังมีวัฒนธรรมอันโดดเด่นอย่างการแต่งกายให้เราได้เห็นกันอยู่ เพราะชุดบาบ๋าและชุดยาหยาก็มีทั้งแบบผู้ชายและผู้หญิงใส่ ลักษณะชุดย่าหยา หรือ ยะหยา จะใช้ผ้าลูกไม้ หรือ ผ้ารูเบีย ตัดให้เข้ารูป มีทรวดทรงองค์เอว เป็นเสื้อแขนยาว ติดกระดุมสีทอง ความยาวระดับสะโพกบน สามารถประดับได้ด้วยเข็มกลัด ใส่เข้าคู่กับผ้าปาเต๊ะลักษณะชุดบาบ๋า จะเป็นเสื้อคอตั้ง แขนจีบ กระดุมสีทอง มีกระเป๋าสองใบตรงด้านหน้าของเสื้อ ใช้ผ้าคอตตอน ผ้าป่าน หรือผ้าอะไรก็ได้ที่ชอบ ตกแต่งด้วยเข็มกลัด ใส่เข้าคู่กับผ้าปาเต๊ะ 👉ปัจจุบัน ชาวพื้นเมืองยังคงสวมใส่ชุดบาบ๋าย่าหยาในเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญอย่างพิธีแต่งงาน โดยจะสวมใส่พร้อมด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ ครบครัน หากใครมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตามถนนคนเดินก็จะมีร้านขายชุดบาบ๋าย่าหยาให้เราได้เลือกซื้อเลือกชมกันหลายร้าน

บาบ๋า ย่าหยา เอกลักษณ์ปักษ์ใต้✨💫 อ่านเพิ่มเติม

✨ แนะนำกัญชง ✨

แอดเชื่อว่า เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อสมุนไพรที่เรียกว่า “กัญชง” มาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจยังสับสนว่า นี่เป็นอีกชื่อของ “กัญชา” หรือเปล่า วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกัญชงให้มากขึ้น ว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้มีหน้าตายังไง และมีประโยชน์อะไรบ้าง ก่อนอื่นขอเริ่มที่ความต่างของกัญชงและกัญชาก่อน แม้ว่าพืชทั้ง 2 ชนิดนี้จะเป็นพืชล้มลุกที่่อยู่ในตระกูล Cannabis เหมือนกันแต่ก็เป็นคนละสายพันธุ์ เราสามารถแยกพืชสองพี่น้องนี้ได้โดยดูจากลักษณะภายนอก นั่นคือ กัญชา (Marijuana) จะมีต้นเตี้ยและใบอ้วน แผ่นใบเป็นสีเขียวถึงเขียวจัด ใบมีประมาณ 5-7 แฉก ส่วนกัญชง (Hemp) จะมีต้นสูงและใบเรียว แผ่นใบเป็นสีเขียวอมเหลือง ใบมีแฉกประมาณ 7-9 แฉก 👉 นอกจากนี้ กัญชาและกัญชงยังมีคุณสมบัติด้านสารเคมีที่แตกต่างกัน นั่นคือ กัญชงจะมีสาร THC ไม่เกิน 1% และ CBD เกิน 2% ส่วนกัญชามี THC เกิน 1% และสาร CBD ไม่เกิน 2% สาร THC (Tetrahydrocannabinol): มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ส่งผลต่ออารมณ์ ความจำ ความรู้สึก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม อยากอาหาร ลดอาการคลื่นไส้ สาร CBD (Cannabidiol): ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีฤทธิ์ระงับอาการปวด ลดการอักเสบ ลดอาการชักเกร็ง และลดความกังวล 🍀 ในส่วนประโยชน์ของกัญชงนั้นก็มีมากมาย สามารถใช้ได้แทบทุกส่วนทีเดียว 🍀 เปลือกส่วนลำต้น สามารถแปรรูปเป็นเส้นด้ายและเชือก นำไปทอผ้าทำเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงทำเป็นด้ายสายสิญจน์ เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อ เนื้อส่วนลำต้น เมื่อลอกเปลือกออกแล้วสามารถนำมาผลิตเป็นกระดาษได้ แกนของต้น มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น ดูดซับน้ำหรือน้ำมันได้ดี ในต่างประเทศนิยมนำไปผลิตเป็นพลังงานชีวมวลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถ่านไม้ แอลกอฮอล์ เอทานอล รวมถึงนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งอาคาร เมล็ด สามารถใช้เป็นอาหารของคนและนกได้ ภายในอุดมไปด้วยน้ำมันจากโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มวิตามินดีที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้ น้ำมันจากเมล็ด สามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น สบู่ เครื่องสำอาง ครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิว ลิปสติก ฯลฯ โปรตีนในเมล็ด สามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารได้ เช่น เนย ชีส เต้าหู้ โปรตีนเกษตร ไอศกรีม อาหารเสริม ฯลฯ ใบกัญชง สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้ โดยนิยมทำเป็นผงผสมในอาหารอย่างเส้นพาสต้า คุกกี้ หรือขนมปัง รวมทั้งสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้ เพราะมีสรรพคุณช่วยดูแลผิวพรรณ ทำให้ผิวชุ่มชื้น หรือจะนำใบมาทำเป็นชาก็ได้เช่นกัน

✨ แนะนำกัญชง ✨ อ่านเพิ่มเติม

เส้นใยผ้าจากพืช🌿✨

ปัจจุบันเสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติกลายเป็นที่พูดถึงและนิยมกันมาก นอกจากคุณสมบัติที่ดีของเส้นใยธรรมชาติในการสวมใส่แล้ว การใช้สินค้าจากธรรมชาติยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า พืชชนิดใดบ้างที่นิยมนำมาทอเป็นเสื้อผ้า วันนี้แอดมีข้อมูลมาให้อ่านกันเพลิน ๆ ด้วยนะ กัญชง เป็นพืชที่มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์คล้ายกัญชา แต่ก็ให้ประโยชน์ด้านสิ่งทอไม่น้อยกว่าเส้นใยอื่น ๆ จุดเด่นคือมีความเหนียว ยืดหยุ่น และทนทาน ดูดซับความชื้นได้ดี ทำให้นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายหลายรูปแบบ เช่น เสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น หากใครมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สามารถไปแวะชมผลิตภัณฑ์ใยกัญชงที่ ห้วยทราย แม่ริม กันได้ https://goo.gl/maps/27HCG3dQhh2w6ihx8 ฝ้าย เมื่อผลฝ้ายแก่จัด ผลจะแตกมีใยเป็นปุยขาว เก็บมาแยกเอาเปลือกและเมล็ดออก แล้วนำไปปั่นเป็นเส้นใยและเส้นด้าย ทอเป็นผ้าแล้วนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ฯลฯ ตัวอย่างเช่น ผ้าหม้อห้อมก็ทำจากผ้าฝ้าย สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ใครมีแพลนไปเที่ยวจังหวัดแพร่ สามารถแวะชมผ้าหม้อห้อมได้ที่บ้านทุ่งโฮ้ง แนะนำเลยว่าควรซื้อติดไม้ติดมือกลับมาเป็นของฝากด้วย https://goo.gl/maps/bpX9L5srpFNk3ExY7 นุ่น เส้นใยจะมาจากส่วนที่เป็นเมล็ดของต้นนุ่น มีลักษณะเดียวกับปุยฝ้าย เส้นใยไม่เหนียวมาก และเป็นเส้นใยสั้น จึงไม่นิยมนำมาทอผ้า แต่นิยมนำมาใช้เป็นวัสดุยัดหมอน ที่นอน เป็นต้น ลินิน เป็นเส้นใยที่ได้จากต้นแฟลกซ์ (Flax) พบว่าเป็นเส้นใยที่ใช้ทอผ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณ (ผ้าห่อมัมมี่ในประเทศอียิปต์ก็คือผ้าลินิน) มีคุณสมบัติคล้ายผ้าฝ้าย แต่มีความเหนียวกว่า มีความโปร่งสบาย และระบายอากาศได้ดี นิยมทำมาผลิตเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าคลุมเตียง ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น ไผ่ เป็นเส้นใยที่ได้จากต้นไผ่ ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นเส้นใยที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี ดูดซับเหงื่อดี และมีความเบาอีกด้วย

เส้นใยผ้าจากพืช🌿✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿

“ชะคราม” ผักชื่อแปลกที่หลายคนอาจจะคุ้นหู แต่แอดเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับผักที่น่าสนใจชนิดนี้มาฝาก ชะครามเป็นพืชที่เติบโตได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่จะมียอดอ่อนขึ้นให้เก็บกินได้เยอะ ต้นอ่อนชะครามจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลอมแดงไปจนถึงแดงเรื่อ พบได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็ม อย่างป่าชายเลน พื้นที่ริมชายฝั่ง ตลอดจนแถบนาเกลือ จึงไม่น่าแปลกใจที่แหล่งชะครามจะอยู่แถบสมุทรสงครามและสมุทรสาคร ส่วนด้านรสชาติ ชะครามจะมีรสเค็ม มัน กรอบ และมีกลิ่นของน้ำทะเลนิด ๆ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งแกง ยำ กินแกล้มน้ำพริก หรือผสมไข่เจียวก็อร่อย หากเพื่อน ๆ รู้สึกสนใจอยากลอง หรือเคยกินแล้วติดใจอยากกินอีก แต่ไม่สะดวกออกไปกินที่ร้าน ปัจจุบันสามารถหาซื้อชะครามทางออนไลน์ได้แล้ว แต่ตอนปรุง อย่าลืมนำชะครามไปต้มและล้างน้ำเปล่าเพื่อกำจัดความเค็มออกสัก 2-3 รอบก่อนล่ะ จะได้กินอย่างอร่อยสมกับความอยาก

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨

ผ้าไทยนับเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน แต่ละถิ่นก็จะมีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากศิลปะการทอผ้าแล้ว การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบในการทอผ้า และย้อมผ้าก็เป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งด้วยเช่นกัน หากอยากรู้กันแล้วว่าสีผ้าต่าง ๆ ที่เราเห็นนั้นมาจากอะไร ไปดูกันเลยค่ะ ฝาง ไม้ยืนต้นขนาดกลางให้สีสันสดใสด้วย “แก่นต้น” โดยนำมาผ่าซีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่ค้างคืนก่อนจะนำไปต้มเพื่อสกัดสี ทำให้ได้น้ำสกัดสีแดง ส้ม น้ำตาลแดง นอกจากนี้ ฝักของฝางก็สามารถนำมาย้อมให้สีได้ด้วยเช่นกัน สีที่ได้คือสีน้ำตาลกะปิ ฝาง เป็นพืชที่หาได้ไม่ยาก พบได้ในหลายภูมิภาค สามารถย้อมได้ทั้งผ้าฝ้าย ไหม มัดหมี่ ดอกบัวแดง นอกจากจะนำมาทำเป็นอาหารรสเลิศแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุให้สีที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะในการย้อมแต่ละแบบ จะให้สีที่ต่างกัน เช่น ดอกบัวสดที่นำมาย้อมเย็น ให้สีชมพู ม่วง ส่วนการย้อมแบบร้อน คือนำบัวไปต้ม จะให้สีน้ำตาลทอง นอกจากนี้ สายบัวก็ยังให้สีที่ต่างออกไปอีกคือ สีเทาเงิน กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เป็นกลุ่มอาชีพที่รื้อฟื้นการทอผ้าหลังจากหยุดไปกว่า 20 ปีจนเกือบจะสูญหายไปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมีจุดเด่นที่การย้อมด้วยบัวแดง จนชุมชนมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หากเพื่อน ๆ อยากไปชมการย้อมผ้าด้วยบัวแดง สามารถไปได้ตามพิกัดนี้ 63 หมู่ 18 บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 093 547 8255, 061 942 8808 เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/efpC6uc93VS2AmLt8 คราม เป็นไม้พุ่มตระกูลถั่ว ให้สีที่สวยงาม ขั้นตอนการทำสีจากครามคือ จะเก็บเกี่ยวทั้งลำต้นมามัดเป็นฟ่อน นำไปแช่น้ำอย่างน้อย 1 คืน จากนั้นเก็บชิ้นส่วนครามออกให้หมด เหลือแต่น้ำไว้เพื่อเตรียมไปทำเนื้อครามต่อไป สีที่ได้จากครามมีหลายเฉดตั้งแต่สีฟ้า น้ำเงิน น้ำเงินเข้ม น้ำเงินออกม่วง การย้อมผ้าครามแพร่หลายมากในแถบภาคอีสาน โดยเฉพาะสกลนคร มีหลายหมู่บ้านหลายกลุ่มที่เป็นแหล่งผลิตผ้าย้อมคราม และงานหัตถกรรมจากผ้าย้อมคราม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ห้อม หรือฮ่อม พืชอีกหนึ่งชนิดที่ให้สีน้ำเงินเช่นเดียวกับต้นคราม โดยใช้ส่วนของใบมาสกัดสีก่อนนำไปย้อมผ้า เรามักได้ยินชื่อผ้านี้บ่อย ๆ ว่า “ผ้าหม้อห้อม” ผ้าทอมือสินค้าพื้นเมืองประจำจังหวัดแพร่ นอกจากสีสันที่สวยงามแล้ว ลายผ้ายังมีความหลากหลายสวยงาม หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปจังหวัดแพร่ แนะนำเลยว่าควรซื้อติดมือกลับมาด้วย ปิ้งขาว ไม้พุ่มขนาดกลาง พบได้ตามบริเวณดอยหรือป่าที่มีอากาศชื้นสูงอย่างทางภาคเหนือ การสกัดสีจะใช้ผลของปิ้งขาว แม้ผลจะมีสีน้ำเงินออกม่วง แต่กลับได้สีที่น่าทึ่ง คือสีเขียวน้ำทะเล หรือหรือเขียวอมฟ้านั่นเอง ทางภาคเหนือ แอดมีแหล่งชมและซื้อผ้าย้อมสีจากปิ้งขาวมาแนะนำ 2 แหล่งได้แก่ 1 ม่อนทรายคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าฝ้าย ใยกัญชง แถมใครอยากซื้อไปถักโครเชต์ งานปักก็ได้เช่นกันนะ สั่งซื้อออนไลน์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thakthorcraft/ 2 บ้านห้วยตองก๊อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุมชนชาวปกาเกอะญออายุกว่า 200 ปีตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าเบญจพรรณ เป็นพื้นที่ราบเชิงเขาล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ใกล้ริมห้วยปูลิง สัมผัส แลกเปลี่ยน เรียนรู้วิถีชีวิต รวมถึงชมการย้อมผ้าสีธรรมชาติภายในชุมชนเล็ก ๆ น่ารักแห่งนี้ได้ ติดต่อ https://web.facebook.com/cbt.huaytongkor/ มังคุด ผลไม้ไทยเนื้อขาวรสหวานอมเปรี้ยว เมื่อรับประทานเนื้อแล้วยังสามารถนำเปลือกที่เหลือทิ้งมาใช้ย้อมสีต่อได้ สามารถใช้ได้ทั้งเปลือกสดและเปลือกแห้ง สกัดสีแล้วจะให้สีน้ำตาล น้ำตาลแกมแดง ที่หมู่บ้านคีรีวง มีกิจกรรม Work Shop ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำผ้ามัดย้อมและเพ้นท์ลายผ้าจากสีธรรมชาติด้วย ซึ่งสีต่าง ๆ ที่ใช้ก็ทำจากพืชหลากหลายชนิด รวมทั้งมังคุดที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของหมู่บ้านคีรีวงด้วย หากเพื่อน ๆ มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว สามารถไปแวะชมหรือทำกิจกรรมกันได้นะ หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช https://goo.gl/maps/vWST3phxEPU7m6Bc7

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้อควรระวังก่อนนวดแผนไทย ✨

การนวด ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่รู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรู้สึกดีขึ้นจนทำให้หลาย ๆ คนติดใจและบอกต่อ ๆ กัน แต่ในข้อดีก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดแผนไทย หลายคนอาจนึกไม่ถึง วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำข้อควรระวังก่อนการนวด เพื่อให้คนที่กำลังจะไปนวดได้รีเช็คอาการกันก่อน 1. บาดเจ็บจากเล่นกีฬา หากมีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย เช่น แผลฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นอักเสบ ฯลฯ ควรรอให้หายดีก่อนประมาณ 1-2 อาทิตย์จึงค่อยไปนวด เพราะการนวดในขณะที่ยังไม่พร้อมอาจเพิ่มอาการบาดเจ็บใหม่ได้ 2. ผู้ป่วยกระดูกหัก หากเคยประสบอุบัติเหตุ มีประวัติกระดูกแตกหัก ร้าว เคลื่อน ฯลฯ ไม่ควรนวดแผนไทย เพราะเมื่อประสบอุบัติเหตุ ร่างกายจะสร้างลิ่มเลือดขึ้นเพื่อห้ามเลือดในเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการนวดแผนไทยอาจจะทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกมาในกระแสเลือด และเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดในสมอง อาจเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ รวมถึงผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน กระดูกบาง หรือมีสภาวะข้อต่อหลวม ควรหลีกเลี่ยงการนวดแผนไทยเช่นกัน 3. ผู้มีโรคประจำตัวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไม่ควรไปนวด เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตจากการกดจุดหรือนวดตามเส้นเลือดได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคติดต่อที่แพร่เชื้อได้ เช่น โรคงูสวัด อีสุกอีใส วัณโรค ก็ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะอาจเกิดการแพร่เชื้อหรืออาการหนักกว่าเดิม รวมถึงผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา และแผลยังปิดไม่สนิท เพราะการนวดอาจทำให้แผลปริแตก หรือเกิดการอักเสบขึ้น 4. สตรีมีครรภ์ สตรีมีประจำเดือน สุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์หรือช่วงมีประจำเดือน มักมีอาการปวดเมื่อย ทำให้หลายคนอยากไปนวด แต่การนวดแผนไทยที่ต้องใช้แรงหรือมีการกดจุด อาจกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ได้ และการนวดที่ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ในช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติ หรืออาจทำให้เป็นไข้ทับระดูได้ 5. ผู้ที่มีปัญหากระดูกสันหลัง สำหรับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะมีการกดจุดและดัดตัว อาจทำให้กระดูกสันหลังมีการเคลื่อนตัว เกิดความเจ็บปวดและอันตรายต่อกระดูกสันหลัง หากต้องการนวด แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะด้านจะดีกว่า ทั้งนี้ส่วนสำคัญของการนวดคือ ผู้เข้ารับบริการไม่ควรปกปิดประวัติความเจ็บป่วยต่อผู้ให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการนั่นเอง

✨ ข้อควรระวังก่อนนวดแผนไทย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครคิดแบบแอดบ้าง ที่นึกอยากจะกินข้าวแช่ขึ้นมาทุกครั้งไป ในฐานะคนชอบกินข้าวแช่ เลยอยากจะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้าวแช่ พร้อมแนะนำพิกัดร้านข้าวแช่แสนอร่อยมาฝากกัน ข้าวแช่แต่เดิมเป็นอาหารของชาวมอญ ในอดีตการหุงข้าวแช่เป็นพิธีกรรมในการบูชาเทวดาอย่างหนึ่ง นิยมทำในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ชาวมอญ เป็นโอกาสที่ญาติมิตรที่อยู่ห่างไกล ได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำข้าวแช่ไปทำบุญและตั้งศาลของบ้านขึ้นมาเพื่อเซ่นไหว้เทวดา และถือโอกาสนำข้าวแช่ไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและกราบไหว้ขอพร การทำข้าวแช่แบบมอญนั้น มีพิธีและขั้นตอนการทำมากมาย เริ่มตั้งแต่คัดข้าวสารเม็ดสวย มาซาวน้ำ 7 ครั้ง ให้สะอาด หุงโดยตั้งเตาไฟบนลานโล่ง ส่วนน้ำที่จะกินร่วมกับข้าวแช่ ต้องเป็นน้ำสะอาดต้มสุก เทลงหม้อดินเผาใบใหญ่ อบควันเทียนและดอกไม้หอม เช่น มะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา ทิ้งไว้หนึ่งคืน เครื่องเคียงข้าวแช่หลัก ๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแห้งป่น เนื้อเค็มฉีกฝอย หัวไชโป๊เค็มผัดไข่ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ต่อมาข้าวแช่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระนครคีรี ทรงโปรดปรานข้าวแช่สูตรเมืองเพชรเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ ลูกกะปิ ปลากระเบนผัดหวาน และผักกาดเค็มผัดหวาน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดทำข้าวแช่ เป็นข้าวแช่เสวยขึ้นถวาย ซึ่งมีการปรับสูตรเครื่องเคียงเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน รวมถึงผักสดแกะสลัก ร้อนนี้ ลองแวะไปหาข้าวแช่รับประทานกัน แอดมีพิกัดแนะนำหลายแห่ง เช่น เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นแหล่งรวมข้าวแช่ขึ้นชื่อหลายร้าน เช่น ร้านข้าวแช่คุณแดง (เปิดขายช่วงสงกรานต์) ร้านข้าวแช่ป้าสุดจิตร สูตรชาววัง ร้านข้าวแช่ลุงแดง เป็นต้น จังหวัดเพชรบุรี มีร้านข้าวแช่ชื่อดังหลายร้าน เช่น ข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี อยู่ตรงข้ามสถานีกาชาดที่ 8 อำเภอเมือง ร้านข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ อำเภอท่ายาง ในบริเวนเกาะรัตนโกสินทร์ มีข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ถนนตะนาวนอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายร้านในกรุงเทพฯที่มีเมนูข้าวแช่ขายในช่วงหน้าร้อน ดูพิกัดของร้านแล้ว ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น ไปร้านข้าวแช่อย่างเดียวคงไม่พอ คงต้องเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨

เพื่อน ๆ รู้จักข้าวเปิ๊บกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก มาทำความรู้จักกัน ข้าวเปิ๊บ หรือในอดีตเรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง เป็นอาหารถิ่นของ จ.สุโขทัย มีส่วนประกอบที่เรียบง่าย รสชาติอร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพมาก ๆ คำว่า “เปิ๊บ” มาจากภาษาถิ่น แปลว่า “พับ” วิธีการทำคล้ายกับข้าวเกรียบปากหม้อ โดยการขึงผ้าขาวบางไว้บนปากหม้อ เมื่อน้ำเดือดก็นำแป้งสดมาละเลงแล้วเกลี่ยบาง ๆ เมื่อแป้งสุกก็ใส่วุ้นเส้น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี และถั่วงอกลงไป รอสักครู่ให้เครื่องสุก จากนั้นพับแป้งห่อเครื่องให้เป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นตักใส่ชาม เติมหมูสับ ไข่ดาวนึ่ง ปิดท้ายด้วยการราดน้ำซุปกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อม จะเห็นว่าไม่ได้ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงมากมาย แต่รสชาตินั้นอร่อยจนใครต่อใครต่างพากันติดใจ

✨ ข้าวเปิ๊บ อาหารถิ่นสุโขทัย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ถนอมอาหารกันอย่างไร ✨

เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าร้อน ปัญหาที่มักเจออยู่ประจำคือ วัตถุดิบในการประกอบอาหารจะสุกเร็วและเน่าเสียได้ง่าย วิธีเก็บรักษาที่ง่ายที่สุดในปัจจุบันก็คือแช่ตู้เย็น แต่สมัยก่อนที่จะมีตู้เย็น คนรุ่นปู่ย่าตายายของเราได้ใช้กระบวนการทางธรรมชาติมาเก็บถนอมอาหาร จนเป็นภูมิปัญญาที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบัน บางท้องถิ่นทำกินกันจนสามารถเป็นอาชีพได้เลยทีเดียว มีอะไรบ้าง ไปดูกัน 1. ดอง เป็นวิธีถนอมอาหารที่เราคุ้นเคยที่สุด ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดองได้ทั้งรสเค็ม หวาน เปรี้ยว โดยมีเกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชู เป็นส่วนผสมหลัก นอกจากผัก-ผลไม้ที่นิยมนำไปดองแล้ว ก็ยังมีไข่ที่สามารถนำไปดองได้เช่นกัน   โดยการดองไข่ สามารถทำได้ทั้งแบบดองในน้ำเค็ม และดองแบบแห้ง เช่น ไข่เค็มดินสอพอง ที่ทำกันมากที่จังหวัดลพบุรี โดยส่วนผสมหลักคือ “ดินสอพอง” ทรัพยากรธรรมชาติที่หาได้ไม่ยากของจังหวัดนี้ นอกจากร้านของฝากที่มีวางจำหน่ายแล้ว เพื่อน ๆ ยังเข้าไปซื้อหรือทดลองทำด้วยตัวเองได้ที่ บ้านดินสอพอง จ.ลพบุรี วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโคกพุทรา จ.ลพบุรี ส่วนที่ ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จ.เพชรบุรี ก็มีกิจกรรม work shop ให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมสนุก ทำไข่เค็มดินสอพองอัญชันกันด้วยนะ  2. ตากแห้ง เป็นการถนอมอาหารอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกันมาก และสามารถทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ เครื่องเทศ หรือ ผลไม้ แถมยังมีการปรุงรสเพิ่มเติมเพื่อความอร่อย และช่วยให้เก็บได้นานยิ่งขึ้นด้วย อาหารตากแห้งประเภทเนื้อสัตว์ที่นิยม มีทั้งหมูแดดเดียว เนื้อแดดเดียว ปลาเค็ม รวมทั้งอาหารทะเลอื่น ๆ  เมื่อนำมาตากแห้งสามารถช่วยลดปัญหาของสดเน่าเสียในครัวเรือนได้อย่างดี หรือหากนำมาตากแห้งเพื่อจำหน่ายก็ช่วยสร้างรายได้อย่างมาก แหล่งรวมอาหารทะเลตากแห้งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งเราสามารถไปเที่ยวและช้อปปิ้งได้ไม่ยาก ได้แก่ ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี ตลาดมหาชัย และร้านรวงต่าง ๆ ในย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร นอกจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแล้ว ผลไม้ตากแห้งอย่าง “กล้วยตาก” ก็เป็นของว่างยอดนิยม รสชาติหวานอร่อย ถูกใจคนกินทุกช่วงวัยทีเดียว เนื่องจากประเทศไทยสามารถปลูกกล้วยได้ทุกภาค เราจึงมีกล้วยตากอร่อย ๆ แทบจะทุกหัวระแหงเลยทีเดียว  กล้วยตาก จ.กำแพงเพชร ที่มีแหล่งปลูกกล้วยไข่ และมีรายได้เพิ่มจากการทำกล้วยตาก  กล้วยตากบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ผลิตภัณฑ์เด่น ณ เมืองสองแคว  กล้วยตากสังคม จ.หนองคาย กล้วยน้ำว้าพันธุ์พื้นเมืองได้รับการจดทะเบียนเป็นสินค้า GI ด้วยเช่นกัน  กล้วยตาก จ.ชุมพร แหล่งเพราะปลูกผลไม้คุณภาพดี ผลผลิตกล้วยค่อนข้างมาก นำมาแปรรูปเป็นกล้วยตากหลากหลายแบบ ทั้งกล้วยตากอบน้ำผึ้ง กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต อร่อยจนอยากให้เพื่อน ๆ ชิมด้วยตัวเอง   3. หมัก อาจจะสงสัยว่าต่างกับการดองยังไง เพราะเรามักเรียกรวมกันว่า “ของหมักดอง” ติดปากมาโดยตลอด การหมัก คือการถนอมอาหารโดยอาศัยจุลินทรีย์เป็นตัวย่อยสลายวัตถุดิบต่าง ๆ และต้องใช้เวลานานกว่าการดอง ของหมักที่อร่อยแถมมีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นที่นิยมมากก็คือ โยเกิร์ต  ในบ้านเรามีฟาร์มโคนม และฟาร์มแพะหลายแห่งที่ไม่ได้แปรรูปนมพาสเจอร์ไรท์เพียงอย่างเดียว แต่ยังทำเป็นโยเกิร์ตอีกด้วย หากเพื่อน ๆ มีโอกาส สามารถไปเที่ยวชมและซื้อโยเกิร์ตได้จากฟาร์มต่าง ๆ เช่น ฟาร์มโชคชัย จ.นครราชสีมา ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ฯลฯ   4. กวน เป็นการถนอมอาหารที่นำวัตถุดิบประเภทผลไม้หรือธัญพืชมาบดละเอียด กวนผ่านความร้อน ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม รสหวาน ผลไม้ไทยสามารถนำมากวนได้หลายอย่าง เช่น มะม่วง กล้วย สัปปะรด ฯลฯ จะกวนเองก็ไม่ยาก หาซื้อมารับประทานก็ไม่ยากเช่นกัน โดยเฉพาะสับปะรดกวนที่มีมากในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีการทำไร่สับปะรดค่อนข้างมาก และขนมสุดฮิตในประจวบฯ ก็คือขนมปังชีสเชคไส้สับปะรด มีขายทั่วไปตามร้านของฝากเลยจ้า 

✨ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ถนอมอาหารกันอย่างไร ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top