สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี

ร้านอาหารต้องห้ามพลาด สมุย

วันนี้บัดดี้จะขอแนะนำร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ “เกาะสมุย” จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งอยากจะบอกว่าร้านที่บัดดี้จะพาไปนี้ แต่ละร้านมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญวัตถุดิบที่นำมาทำเมนูอาหารนั้นล้วนเป็นของจากคนพื้นถิ่นที่นำมารังสรรค์ให้เพื่อน ๆ ได้กินกันอย่างจัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอน 1. บ้านสวนลุงไข่เชฟเทเบิ้ลอาหารใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการเสิร์ฟเมนูอาหารท้องถิ่นตามสไตล์วิถีคนสมุยเพราะได้วัตถุดิบมาจากเพื่อนชาวเล ซึ่งทำให้ที่นี่มีเมนูที่หลากหลายไม่ซ้ำกัน และมาพร้อมกับความอร่อยที่อัดแน่นอยู่ในทุกเมนู รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน โดยเพื่อน ๆ จะได้กินทั้งอาหารท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็น “แกงส้มปลาแขกใส่ผักออดิบ” หรือ “น้ำยาปู” ที่กินคู่กับขนมจีนนุ่ม ๆ ก็อร่อย ในส่วนของเมนูซีฟู้ดขาดไม่ได้เลยกับ “ปูม้า” นึ่งตัวโต ๆ สดจากทะเล และจบท้ายด้วยเมนูขนมหวานขึ้นชื่อของเกาะสมุยอย่าง “ขนมโค” ที่ราดมากับน้ำกะทิหอม ๆ ก็อร่อยฟินสุด ๆ บัดดี้ขอบอกก่อนว่านี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น ของจริงบอกเลยว่าอาหารเต็มโต๊ะ โดยทางร้านจะทำเป็นเซตเมนู ซึ่งราคาของแต่ละเซตจะไม่เหมือนกัน อยู่ที่เพื่อน ๆ เลือกสั่งตามความต้องการนะ ร้านบ้านสวนลุงไข่ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีโทร 08 3984 5629 2. บ้านสวนลางสาดอีกหนึ่งร้านสไตล์ชาวบ้านที่คัดสรรวัตถุดิบในพื้นที่จากชาวประมงพื้นบ้านมาทำอาหารให้เพื่อน ๆ ได้ลิ้มลองกันอย่างเช่น “กุ้งผัดสะตอ” กุ้งเนื้อแน่น ๆ หรือจะเป็น “หมูหวานของก๋ง” ที่เสิร์ฟหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ให้อย่างจุก ๆ กินกันเต็มคำโต ๆ เป็นต้น ความพิเศษนอกจากเมนูอาหารพื้นบ้านตามสไตล์ฉบับคนสมุยแล้ว ที่นี่จะเสิร์ฟ “น้ำพริกกะปิ” พร้อมผักสดให้ฟรีทุกโต๊ะ ซึ่งเป็นผักที่ทางร้านปลูกเอง นอกจากจะอิ่มอร่อยไปกับรสชาติอาหารใต้สไตล์คนสมุยกันแล้ว บ้านสวนลางสาดยังมีสวนผลไม้ให้เดินชม และหากเดินทางไปตรงกับช่วงฤดูกาลผลไม้ออกพอดี เพื่อน ๆ อาจจะได้ชิมผลไม้สด ๆ จากสวนของทางร้านก็เป็นได้ ร้านบ้านสวนลางสาด Ban Suan Lang Satตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีโทร 09 9051 4099 3. The Nature Samuiร้านอาหารรูปแบบ Farm to Table อีกหนึ่งร้านที่หากใครชอบการประดิดประดอยตกแต่งสวยงามที่มาจากธรรมชาติ แนะนำที่นี่เลย เพราะนอกจากจะทำอาหารพื้นบ้านรสชาติแบบคนใต้แล้ว ยังมีการนำเอาผัก ผลไม้ รวมทั้งดอกไม้มาเป็นส่วนประกอบของอาหาร จัดเสิร์ฟมาเพื่อให้ได้ชื่นชมผลงานศิลปะที่จะชวนให้อิ่มทั้งตาอิ่มทั้งท้อง นอกจากนี้ บัดดี้ขอแนะนำเมนูที่ไม่ควรพลาดและต้องสั่งมากินให้ได้อย่าง “เมี่ยงดอกบัว” โดยทางร้านจะนำกลีบดอกบัวที่ปลูกเองมาใช้ห่อเมี่ยง นอกจากเมนูของคาวแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มสุขภาพที่ทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่าง “น้ำดอกดาหลา” ที่หากได้ชิมสักครั้งแล้วจะติดใจในความแปลกใหม่ของรสชาติที่มีความหอมหวานละมุนอย่างแน่นอน The Nature Samuiหมู่ 1 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีโทร 08 1564 8489

ร้านอาหารต้องห้ามพลาด สมุย อ่านเพิ่มเติม

พิพิธภัณฑ์บ้านมะพร้าว Workshop @ สมุย

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ ว่าที่ “เกาะสมุย” นอกจากทะเล ชายหาดสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรม Workshop มากมายให้เราเลือกทำด้วยนะ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะทำกิจกรรม Workshop ที่ไหนดี บัดดี้ขอแนะนำที่นี่เลย “พิพิธภัณฑ์บ้านมะพร้าว Coconut Museum” ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเกาะสมุย เป็นแหล่งเพาะปลูกมะพร้าวอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่นี่จึงเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับมะพร้าวตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เก็บเกี่ยว และการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสาธิตการทำขนมจากมะพร้าว ได้แก่ ขนมโค ขนมขี้มัน ขนมพระพาย ขนมด้วง ขนมครกแป้งสด และขนมกะละแม อีกด้วย วันนี้บัดดี้เลือกทำขนมโคและขนมกะละแม ซึ่งทุกกิจกรรมจะมีวิทยากรสอนเราทำทุกขั้นตอนเลย บัดดี้ชอบมาก ๆ เพราะนอกจากได้ความรู้แล้ว ยังได้รับประทานขนมอร่อย ๆ ฝีมือเราอีกด้วย เป็นกิจกรรมที่สนุกมาก ๆ บอกเลยว่าใครที่เป็นชาว Coconut Lover ไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์บ้านมะพร้าว Coconut Museum ต. อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเวลา 07.30 – 16.00 น. 08 3496 6565 https://maps.app.goo.gl/7N1mG8SR2yRrWVhb7?g_st=ic

พิพิธภัณฑ์บ้านมะพร้าว Workshop @ สมุย อ่านเพิ่มเติม

ปักหมุด 7 คาเฟสมุยต้องห้ามพลาด

เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะมากมาย ที่สำคัญคือมีหาดทรายสีขาวนวล น้ำทะเลใสและแนวปะการังที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำและการเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด นอกจากนี้เกาะสมุยยังมีคาเฟที่บรรยากาศดี อาหารอร่อยและวิวสวยหลักล้านหลายแห่งให้เราได้เลือกถ่ายรูปเช็กอินกันอีกด้วยนะ แต่ใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้บัดดี้ได้ปักหมุด 7 คาเฟสมุยต้องห้ามพลาดมาให้แล้ว ตามไปดูกัน… 1. Sea sun (สีสรรค์)Sea sun หรือ สีสรรค์ เป็นทั้งคาเฟและร้านอาหาร บรรยากาศการตกแต่งร้านดูปลอดโปร่งทำให้รู้สึกเย็นสบาย และสำหรับใครที่ชื่นชอบการชมพระอาทิตย์ตกดินขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด เพราะไม่ว่าจะมากับคนรัก เพื่อน ครอบครัว หรือมาคนเดียวก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศสุดโรแมนติกที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมเครื่องบินที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่งของเกาะสมุยเลย โดยจะมีเครื่องบิน บินผ่านทุก ๆ 15 นาที สำหรับเมนูอาหารและเครื่องดื่มของ Sea sun นอกจากนะหน้าตาดี ถ่ายรูปสวยแล้ว รสชาติยังอร่อยอีกด้วย โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง “Sea sun twielight” ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น. 0 7743 2641https://maps.app.goo.gl/sbSieBraHmxtsmE3A 2. KELAPA (เคลาปา)ชื่อร้านอ่านว่า “เคลาปา” เป็นภาษามาลายู ซึ่งแปลว่ามะพร้าวนั่นเอง เคลาปา เป็นคาเฟน้องใหม่ที่กำลังมาแรงตั้งอยู่บนหาดละไม บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก มีทั้งโซนอินดอร์ที่สามารถถ่ายรูปมองเห็นวิวทะเลได้ และมีโซนเอ้าท์ดอร์ริมทะเลให้เราได้เลือกนั่งกันได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มผลไม้ปั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน บอกเลยว่าใครที่เป็นสายถ่ายรูปต้องไม่พลาด 448 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเวลา 10.00 – 20.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) 08 8992 6619https://maps.app.goo.gl/8zcK6MK42LXJwMM79 3. K.O.B. (เคโอบี)K.O.B. (เคโอบี) บนเกาะสมุยมีอยู่ 7 สาขาด้วยกัน ที่บัดดี้จะนำมาแนะนำในวันนี้ก็คือร้านเคโอบี สาขาบางรัก เกาะสมุย นั่นเอง เพราะนอกจากที่นี่จะบรรยากาศดี สามารถชมบรรยากาศริมทะเลได้แล้ว ยังตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินเกาะสมุยอีกด้วย โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะแวะขามาหรือขากลับก็ได้ สำหรับเมนูอาหารและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ที่โดดเด่นเลยคือเมนูขนมปังเหมาะสำหรับทานเป็นอาหารเช้ามาก ๆ 33/105 หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 21.00 น. 09 6653 1925https://maps.app.goo.gl/C6Qvgow92wk5LJxs9 4. Rice x de pier (ไร เดอะเพียร์)เป็นอีกหนึ่งร้านที่ตั้งอยู่ติดริมทะเล สามารถชมวิวและเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ ได้ เมนูแนะนำของทางร้านคือ “พิซซ่าโฮมเมด” ซึ่งใช้เตาถ่านในการอบ ใครอยากชิมต้องมาหลัง 11 โมงเป็นต้นไปนะ เพราะเค้าจะต้องเตรียมเซ็ตเตาก่อน นอกจากนี้ Rice x de pier ยังตั้งอยู่ติดกับ Fisherman’s Village Night Market หรือถนนคนเดินเกาะสมุยอีกด้วย ใครที่มาตรงกับวันศุกร์นอกจากมารับประทานอาหารเครื่องดื่มที่ร้านนี้แล้ว บัดดี้แนะนำให้ไปเดินชอปปิงยามค่ำคืนบนถนนเส้นนี้ด้วยเพราะมีของที่ระลึกให้เราได้เลือกซื้อไปฝากคนทางบ้านมากมายเลย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 23.00 น. 0 7743 0680https://maps.app.goo.gl/PhXbMDPFBbkQHKpa8 5. The roof samui (เดอะรูฟ สมุย)The roof samui คาเฟที่ไม่ลับตั้งอยู่บนยอดเขาสูงของเกาะสมุย สามารถชมวิวแบบ 180 องศา โดยเราจะได้เห็นทั้งวิวภูเขาและทะเล บอกเลยว่าอลังการงานสร้างมาก และยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้เลือกแบบฉ่ำไปเลย นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย แต่ที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือเมนู “หมูโคชุบน้ำพริก” ที่อยู่ใน 5 Must Do in Samui หรือเมนูอาหารจานเด็ดที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนเกาะสมุยนั่นเอง สำหรับใครที่ต้องการไป The roof samui บัดดี้แนะนำให้จอดรถไว้บริเวณด้านล่าง จากนั้นนั่งรถบริการรับ-ส่งของทางร้านขึ้นไป ค่ารถไป-กลับคนละ 50 บาท เพราะทางค่อนข้างชันไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญทาง The roof samui (เดอะรูฟ สมุย) ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษธานี เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น. 06 5547 8898https://goo.gl/maps/XwMK8vwL9EDTdR6x7 6. Rock bar (ร็อกบาร์)ใครที่มาถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างหินตาหินยาย บัดดี้แนะนำให้มาเช็คอินกันที่นี่เลย “Rock bar” สามารถเดินจากหินตาหินยายมาได้เลยนะ คาเฟแห่งนี้แอบลับอยู่หน่อย ๆ แต่บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก วิวสวยและอากาศไม่ร้อน เหมาะสำหรับใครที่อยากมานั่งรับลมทะเลแบบชิล ๆ ที่นี่เค้าตกแต่งด้วยสไตล์เร็กเก้ แถมเปิดเพลงเข้ากับบรรยากาศแบบสุด ๆ เมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะมาก 126/92 หมู่ 3 อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 02.00 น. 06 3760 1486https://maps.app.goo.gl/diBySb6KYqd7pQCHA 7. Coco tam’s (โคโค่แทม)ใครที่มาเที่ยวเกาะสมุย หากไม่ได้แวะเช็คอินที่ Coco tam’s (โคโค่แทมส์) บีชบาร์ยอดฮิตแหงนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่เป็นทั้งคาเฟและร้านอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่โคโค่แทมส์เค้ามีเมนูอาหารคาวหวานให้เลือกแบบจุก ๆ มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกแบบช่ำ ๆ

ปักหมุด 7 คาเฟสมุยต้องห้ามพลาด อ่านเพิ่มเติม

 Low Carbon Tourism ล่องแพไม้ไผ่คลองศก จังหวัดสุราษฎร์ธ

จุดหมายปลายทางที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเมื่อเดินทางมาเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกเหนือจากการไปเที่ยวทะเลตามเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า รองลงมาก็น่าจะเป็นการไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) และป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด นั่นเอง แต่รีวิวนี้จะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบ Low Carbon และใกล้ชิดธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมากในสุราษฎร์ธานีตอนนี้ นั่นก็คือ “กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก” ในพื้นที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก สามารถจัดสรรเวลาเป็นทริปท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) หรือจะเป็นทริปท่องเที่ยวแบบครึ่งวัน (Half Day Trip) ก็ยังได้สบาย ๆ เพราะนักท่องเที่ยวมักใช้เวลาในการเล่นกิจกรรมนี้ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกล่องไปในคลองศกด้วยเรือแคนูหรือห่วงยางได้ด้วย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ระยะที่คลองศกมีทัศนียภาพและบรรยากาศสวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุด คือช่วงที่สายน้ำไหลผ่านท้องที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม ทำให้บริเวณนี้มีบริการกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง และพายเรือแคนูในคลองศกมากที่สุด งบประมาณสำหรับกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง และพายเรือแคนู ณ คลองศก เฉลี่ยเริ่มต้นที่คนละ 250 บาท เท่านั้น ที่คลองศก แพไม้ไผ่ 1 แพ สามารถนั่งได้ 2 คน ไม่รวมคนถ่อแพ ซึ่งคนถ่อแพจะทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นชี้ชวนให้ดูสัตว์น้อยใหญ่และพรรณไม้ต่าง ๆ ที่มักพบเจอระหว่างล่องแพ เช่น นก ลิง ต้นหวาย ต้นมะเดื่อ เป็นต้น โดยปกติการล่องแพคลองศกจะมีระยะทางล่องประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที-1.30 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่ามีการแวะส่องสัตว์ป่า เล่นน้ำ หรือถ่ายรูปกันนานแค่ไหน ช่วงเวลาที่แนะนำในการล่องแพ คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อนจนเกินไปและแสงกำลังสวย ที่พักแนะนำ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก และให้บริการกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง พายเรือแคนู ณ คลองศก เช่น 1. Our Jungle Campwww.khaosokecoresort.comโทร. 09 8695 8928, 08 8577 6838 2. Bridge Hill Caféhttps://www.facebook.com/bridgehiicafeโทร. 06 2228 9689 3. Anurak Community Lodgewww.anuraklodge.comโทร. 08 1898 9271 4. เขาสก มังกี้ & ริเวอร์ แคมป์ (Khaosok Monkeys & River Campsite)https://maps.app.goo.gl/d1KpwrzeTbqs2q6q9โทร. 06 3742 0070 5. อุทยานแห่งชาติคลองพนมที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองศก อำเภอพนมโทร. 0 7727 0905, 08 3388 1129อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทอุทยานฯ มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และร้านอาหารสวัสดิการไว้บริการนักท่องเที่ยว 6. อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนมโทร. 0 7739 5139, 0 7739 5154-5อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อุทยานฯ มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดในการล่องแพคลองศกมีด้วยกันหลายจุด ขึ้นอยู่กับการนัดหมายกับผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ตำบลคลอกศกนั่นเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานีโทร. 0 7742 0504, 0 7742 0720-2

 Low Carbon Tourism ล่องแพไม้ไผ่คลองศก จังหวัดสุราษฎร์ธ อ่านเพิ่มเติม

เขื่อนรัชชประภา ฉบับ Backpacker

ภูเขาสูงชันและหน้าผาหินปูนรูปทรงแปลกตา ตั้งตระหง่านและโอบล้อมผืนน้ำสีเขียวใส ยามเช้าและหลังฝนตกมักปรากฎสายหมอกลอยละล่องผ่านทิวเขา ให้ความสดชื่น เย็นตา สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ที่กล่าวมานี้คือคำจำกัดความส่วนหนึ่งของ “เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” จุดท่องเที่ยวและถ่ายรูปเช็กอินเขื่อนรัชชประภามีมากมายหลายจุด เช่น จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ประตูกุ้ยหลิน เขาสามเกลอ ทะเลใน 500 ไร่ ถ้ำปะการัง จุดชมวิวไกรสร ถ้ำประกายเพชร ถ้ำน้ำทะลุ จุดส่องสัตว์ป่า (ช้างป่า กระทิง กวาง หมูป่า ชะนี นกเงือก) เป็นต้น เขื่อนรัชชประภาเป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียว มีความสูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร ความกว้างสันเขื่อน 12 เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร สามารถเก็บกักน้ำได้สูงสุด 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่บริเวณสันเขื่อนและช่องทางระบายน้ำอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อนอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก น้ำในเขื่อนนอกจากใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม การประมง การท่องเที่ยว และบรรเทาอุทกภัย การเดินทางมายังเขื่อนรัชชประภา จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-พังงา) จนถึงสามแยกไฟแดงในตัวอำเภอบ้านตาขุน จะพบป้ายทางเข้าเขื่อนรัชชประภาอยู่บริเวณแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบท สฎ.3062 ตรงไป 13 กิโลเมตร ถึงเขื่อนรัชชประภา ระยะทางรวมจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 78 กิโลเมตร การนั่งเรือท่องเที่ยวในเขื่อนรัชชประภาสามารถลงเรือได้ที่ ท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลาน สอบถามข้อมูล โทร. 0 7791 8036, 08 3300 1730 ซึ่งท่าเรือห่างจากจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน 2 กิโลเมตร หากจองที่พักกับแพพักที่ตั้งอยู่ในเขื่อนไว้แล้ว แพพักส่วนใหญ่จะมีบริการเรือรับส่งระหว่างท่าเรือกับที่พักด้วย บริเวณท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลานมีจุดรับฝากรถแบบทั้งวันและแบบค้างคืน หากเป็นรถยนต์สี่ล้อ อัตราค่ารับฝากรถแบบทั้งวันคันละ 40 บาท และแบบค้างคืนคันละ 80 บาท อัตราค่าบริการเรือนำเที่ยวทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชชประภา มีการกำหนดเกณฑ์ราคาเป็นมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น เรือยนต์เหมาลำขนาดเล็ก (ไม่เกิน 10 คน) และเรือยนต์เหมาลำขนาดใหญ่ (ไม่เกิน 20 คน) ทั้งยังมีอัตราค่าบริการแบบเช้าไปเย็นกลับในวันเดียว และแบบค้างคืนคือไปส่งแพพักวันนี้และไปรับกลับขึ้นฝั่งวันถัดไป นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมใช้บริการท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลเขื่อนรัชชประภาก่อนลงเรือด้วยอัตราค่าธรรมเนียม– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทพิกัดท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลานhttps://maps.app.goo.gl/aANwaLLJgSrJcBSo6 เนื่องด้วยพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชชประภา อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก นักท่องเที่ยวที่เดินทางล่องเรือเที่ยวทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและแบบค้างคืนในเขื่อน จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน อัตราค่าธรรมเนียม– นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท แนะนำให้นักท่องเที่ยวพกบัตรค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ติดตัวไว้เสมอ เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ อาจเรียกตรวจได้ทุกเมื่อ ทะเลสาบเหนือเขื่อนมีที่พักให้บริการหลายแห่ง ทั้งที่ดำเนินการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสกและผู้ประกอบการเอกชนแพพักของอุทยานฯ มี 4 แห่ง ได้แก่1. แพนางไพร (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.3 อ่าวสมเด็จ)2. แพคลองคะ (ศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวคลองคะ อุทยานแห่งชาติเขาสก)3. แพโตนเตย (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.4 คลองแปะ)4. แพไกรสร (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.7 ไกรสร) จองแพพักอุทยานฯ ได้ที่https://nps.dnp.go.th/reservation.php?option=home สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขาสก ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84250 โทร. 0 7739 5139, 0 7739 5154-5, 09 6329 6583 แหล่งท่องเที่ยวและจุดไม่ควรพลาดไปเช็กอินของเขื่อนรัชชประภา มีอยู่ด้วยกันหลายจุด เช่น จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ประตูกุ้ยหลิน เขาสามเกลอ ทะเลใน 500 ไร่ ถ้ำปะการัง จุดชมวิวไกรสร ถ้ำประกายเพชร ถ้ำน้ำทะลุ จุดส่องสัตว์ป่า (ช้างป่า กระทิง กวาง หมูป่า ชะนี นกเงือก) เป็นต้น “จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน”สามารถชมทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนและสันเขื่อน พื้นที่บริเวณนี้กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ศูนย์อาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ ห้องละหมาด ห้องน้ำ และลานจอดรถกว้างขวางให้บริการ พิกัดจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อนรัชชประภาhttps://maps.app.goo.gl/jqTWQQqTSeihZwPH8 “พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)”พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บนเนินสูง บริเวณจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน นักท่องเที่ยวที่มาเขื่อนรัชชประภา นิยมเดินขึ้นมาสักการะขอพรก่อนลงเรือไปเที่ยวและเดินทางกลับภูมิลำเนา ศูนย์อาหารและร้านกาแฟคุณสายชล จะตั้งอยู่บริเวณจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ปกตินักท่องเที่ยวที่จะนั่งเรือท่องเที่ยวในทะเลสาบเหนือเขื่อน มักลงเรือกันในช่วงสายประมาณ 09.00 น. ไปแล้ว และนักท่องเที่ยวที่จองแพพักค้างคืนในเขื่อน มักเดินทางมาถึงท่าเรือและลงเรือในช่วง 13.00 น. ไปแล้ว เมื่อเรือแล่นออกจากท่าเรือมาได้ไม่นาน จะมองเห็นจุดชมทิวทัศน์บริเวณเหนือสันเขื่อนในมุมมองจากบนเรือ เมื่อแล่นเรือต่อจนเข้ามาในพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อน จะเริ่มเห็นภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาและน้ำสีเขียวใส “ประตูกุ้ยหลิน”ลักษณะเป็นเขาหินปูนสองลูกตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ คล้ายบานประตูขนาดใหญ่นำทางให้เรือแล่นเข้าไปสู่พื้นที่ตอนในของทะเลสาบ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่ง “เขาสามเกลอ”ลักษณะเป็นเขาหินปูนสามหน่อตั้งเรียงกันอยู่กลางน้ำในทะเลสาบเหนือเขื่อน ภูมิประเทศโดยรอบโอบล้อมด้วยกำแพงภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน มีแมกไม้เขียวชอุ่มปกคลุมภูเขา ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวมรกต จุดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภา ใครที่นั่งเรือมาเที่ยวทะเลสาบเหนื่อเขื่อน จะต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปจุดนี้ “ทะเลใน 500 ไร่”ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขื่อน

เขื่อนรัชชประภา ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ New Unseen สุราษฎร์ธานี

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอ่างน้ำธรรมชาติที่มีตาน้ำผุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน ผ่านชั้นทราย ผุดขึ้นมาเป็นฟองอากาศจำนวนมาก น้ำในอ่างเป็นน้ำจืดที่มีความใสจนมองเห็นพื้นน้ำเบื้องล่าง บางจุดมีสาหร่ายใต้น้ำสีเขียวและปลาตัวเล็ก ๆ แหวกว่ายดูเพลินตา จากจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม เดินเข้ามาจะพบสะพานคอนกรีตเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณนี้ หากเดินลึกเข้าไปจนสุดทางเดินสะพานคอนกรีต จะเป็นจุดเช่าคายักสำหรับพายชมธรรมชาติอันร่มรื่น และพายไปดูตาน้ำผุดบริเวณป่าพรุด้านในลำคลอง ซึ่งมีระยะทางพายคายักประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าทางเข้าอ่างน้ำผุด มีห้องอาบน้ำและร้านอาหารให้บริการด้วย บ้านอ่างน้ำผุด หมู่ที่ 13 ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานีhttps://maps.app.goo.gl/ZutgWZhkcQPma4qdA เปิดให้ท่องเที่ยวทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก 50 บาท เช่าคายัก ลำละ 120 บาท (นั่งได้ 2 คน) หากต้องการให้เจ้าหน้าพายให้ มีค่าบริการบวกเพิ่มอีกลำละ 80 บาท สอบถามข้อมูล สำนักงานเทศบาลตำบลบางสวรรค์ โทร. 0 7796 1851 การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 44 (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) จนถึงอำเภอเคียนซา ให้แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4219 ต่อด้วยทางหลวงชนบท สฎ. 3118 และเข้าสู่ถนนในชุมชน ซึ่งจะมีป้ายบอกทางไปอ่างน้ำผุดบางสวรรค์เป็นระยะ รถทุกชนิดเดินทางไปได้ ระยะทางรวมจากตัวเมืองประมาณ 79 กิโลเมตร

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ New Unseen สุราษฎร์ธานี อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เมื่อเอ่ยถึงหมู่เกาะในทะเลฝั่งอ่าวไทย ภาพจำอันดับต้น ๆ ที่มักพบเห็นผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย น่าจะเป็นภาพหมู่เกาะน้อยใหญ่เรียงรายอยู่กลางทะเลสีเขียวอมฟ้า หนึ่งในทัศนียภาพอันสวยงามของ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง” และเป็นที่มาของคำว่า “เมืองร้อยเกาะ” ซึ่งปรากฎอยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอ่าวไทย ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ กลางทะเลอ่าวไทย 42 เกาะ มีเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า และเกาะพะลวย เป็นต้น ฤดูกาลแนะนำในการท่องเที่ยว : เดือนมีนาคม-เดือนกันยายน วิธีการเดินทาง1. ซื้อแพคเก็จท่องเที่ยวหรือเหมาเรือจากฝั่งอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจากบนฝั่งอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปท่องเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง 2. ซื้อแพกเก็จท่องเที่ยวหรือเหมาเรือจากเกาะสมุยและจากเกาะพะงัน ไปท่องเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง ทั้งนี้สามารถเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) และแบบค้างคืนบนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งมีบ้านพักและจุดกางเต็นท์ของอุทยานฯ ให้บริการ โดยจะต้องจองที่พักล่วงหน้าบนเว็บไซต์ของกรมอุทยานฯ อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท วันนี้บัดดี้จะแนะนำการเดินทางไปท่องเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองด้วยการพักค้างคืนบนเกาะสมุย และซื้อแพกเก็จท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Tour) จากบริษัทนำเที่ยวบนเกาะสมุยไปยังหมู่เกาะอ่างทอง ราคาแพกเก็จท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ เริ่มต้นที่ 850-1,800 บาท/คน ขึ้นอยู่กับประเภทเรือนำเที่ยว (เรือยนต์ธรรมดา/สปีดโบ๊ต) สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการต่าง ๆ ระหว่างทริป (ค่าเข้าอุทยานฯ / อาหารและเครื่องดื่ม / อุปกรณ์ดำน้ำ / กิจกรรมพายคายัก ฯลฯ) เรือธรรมดาใช้เวลาเดินทางจากเกาะสมุย-หมู่เกาะอ่างทองประมาณ 1.30 ชั่วโมง ส่วนเรือสปีดโบ๊ตใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เรือนำเที่ยวจากเกาะสมุย-หมู่เกาะอ่างทอง ส่วนมากจะให้บริการที่ท่าเรือหน้าทอนบนเกาะสมุย และออกเดินทางไปยังหมู่เกาะอ่างทองประมาณ 08.30-09.00 น. พาไปท่องเที่ยวยังเกาะต่าง ๆ ตามโปรแกรมทัวร์ และกลับถึงเกาะสมุยไม่เกิน 17.00 น. แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่มักบรรจุอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Tour) เช่น– พายคายักที่หาดถ้ำร้าง เกาะแม่เกาะ– ชมทะเลใน (ลากูนกลางหุบเขา) เกาะแม่เกาะ– จุดชมวิวผาจันทร์จรัส เกาะวัวตาหลับ “หาดถ้ำร้าง” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะแม่เกาะ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ชายหาดมีความยาวประมาณ 200 เมตร เป็นจุดที่นิยมกิจกรรมพายเรือคายัก ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น เล่นน้ำ และพักผ่อนบริเวณชายหาด “เกาะแม่เกาะ” จะมีสะพานทำจากทุ่นทะเลให้เดินขึ้นเกาะ มีเส้นทางเดินจากชายหาดด้านหน้าเกาะ เป็นบันไดเหล็กและมีราวจับ เพื่อขึ้นไปชมทะเลใน ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที ซึ่งมีสีของน้ำเป็นสีเขียวมรกต โอบล้อมด้วยผาหินสูงชันและแมกไม้เขียวขจี เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก “ทะเลใน” (ทะเลสาบกลางภูเขา) อยู่บนเกาะแม่เกาะ เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยเขาหินปูนที่สูงสลับซับซ้อน แต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของหินชั้นตามปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ โดยบนจุดชมวิวสูงสุดของทะเลใน สามารถมองเห็นทั้งทะเลใน (ลากูน) และทะเลนอก (ทะเลด้านหน้าเกาะแม่เกาะ) ระหว่างทางเดินขึ้นไปชมทัศนียภาพทะเลในในมุมสูง จะมีเส้นทางเดินแยกออกมาอีกเส้น ให้เดินลงไปชมทะเลในด้านล่างแบบใกล้ชิด *ทะเลใน ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำนะคะ โดยบนจุดชมวิวสูงสุดของทะเลใน สามารถมองเห็นทั้งทะเลใน (ลากูน) และทะเลนอก (ทะเลด้านหน้าเกาะแม่เกาะ) ระหว่างทางเดินขึ้นไปชมทัศนียภาพทะเลในในมุมสูง จะมีเส้นทางเดินแยกออกมาอีกเส้น ให้เดินลงไปชมทะเลในด้านล่างแบบใกล้ชิด *ทะเลใน ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำนะคะ “เกาะวัวตาหลับ” เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะอ่างทอง เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ ร้านค้าสวัสดิการ และห้องน้ำให้บริการ มีสะพานทำจากทุ่นทะเลให้เดินขึ้นเกาะเช่นเดียวกับที่เกาะแม่เกาะ บนเกาะมีแหล่งน้ำจืดไหลที่มาจากยอดเขา ลงมาตามอุโมงค์ภายในถ้ำ สำหรับใช้อุปโภคบริโภคบนเกาะ บริเวณด้านหน้าของที่ทำการอุทยานฯ มีหาดทรายขาวสะอาด ร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าว น้ำทะเลสวยใส เหมาะกับการเล่นน้ำ เกาะวัวตาหลับมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพื่อขึ้นไปชมทัศนียภาพบนยอดเขา ในระดับความสูงจากน้ำทะเล 222 เมตร ระยะทางเดิน 500 เมตร ลักษณะเป็นทางเดินตามแนวก้อนหินธรรมชาติสลับบันไดหิน มีราวบันไดและแนวเชือกให้ยึดจับตลอดทาง มีจุดแวะพักและชมทิวทัศน์อยู่หลายจุด ระหว่างทางจะพบกับป่าเขาหินปูนที่มีต้นจันทร์ผา สลัดได และยอป่าเป็นพันธุ์ไม้เด่น รวมทั้งยังมีโอกาสพบค่างแว่นถิ่นใต้อีกด้วย แนะนำให้สวมรองเท้าที่กระชับข้อเท้าและกันลื่น พร้อมพกน้ำดื่มไปด้วย เพราะเส้นทางค่อนข้างชันและอากาศร้อน จุดชมวิวบนยอดเขามีชื่อเรียกว่า “จุดชมวิวผาจันทร์จรัส” มองเห็นทัศนียภาพของหมู่เกาะอ่างทอง ทั้งเกาะขนาดใหญ่ อย่างเกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมาย เรียงรายเป็นแนวยาวกลางผืนน้ำของทะเลอ่าวไทย บริษัทนำเที่ยวบนเกาะสมุยที่ให้บริการพาเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง เช่น 1. สมายล์ สมุย ทัวร์ (Smile Samui Tour)www.smilesamuitour.comโทร. 08 1676 2343 2. สมุย ทัวร์ (Samui Tour)https://samuitour.netโทร. 09 2386 9212 3. ไฮซีทัวร์ (High Sea Tour)https://highseatour.comโทร. 0 7742 1285, 08 1843 1533 4. ทีเอ็นเอส ฮอลิเดย์ (TNS Holiday)www.samuitns.comโทร. 08 6883

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ่านเพิ่มเติม

 4 พระบรมธาตุ…เมืองปักษ์ใต้

สำหรับผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนนั้น ย่อมเป็นโอกาสอันดีในการเข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย สร้างขวัญกำลังใจให้ตนเองและครอบครัว TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ขอนำเสนอพิกัดไหว้พระขอพร “4 พระบรมธาตุเมืองปักษ์ใต้” ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสเดินทางไปสักการะ 1. พระบรมธาตุเมืองนคร ที่ตั้ง: วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช พิกัด: https://maps.app.goo.gl/etjaiqTv8V2uMZC28 เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราชและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้มากราบสักการะพระบรมธาตุเมืองนคร จะถือเป็นมงคลชีวิตแก่ตนเองและครอบครัว พระบรมธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ซึ่งเป็นผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา มีความสูง 55.78 เมตร ปลียอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าและของมีค่ามากมาย ที่พุทธศาสนิกชนต่างนำมาถวายเพื่อเป็นการสักการบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อให้ตนได้ถึงซึ่งนิพพาน ในวันมาฆบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) และวันวิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ของทุกปี จะมีการจัดงาน “ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร” ซึ่งถือเป็นประเพณีเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช มีความเชื่อกันว่าพระบรมธาตุเมืองนครเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงเป็นการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการจัดขบวนแห่ผ้าพระบฏและผ้าพระบฏนานาชาติจากประเทศต่าง ๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งนิยมเป็นผ้าสีขาว ผ้าสีเหลือง และผ้าสีแดง เมื่อแห่แล้วจะนำไปห่มรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคล อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการดำรงชีพทุก ๆ ด้าน 2. พระบรมธาตุสวี ที่ตั้ง : วัดพระบรมธาตุสวี ริมแม่น้ำสวี ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พิกัด : https://goo.gl/maps/FrGyz9rm12xbra39A พระบรมธาตุสวี ลักษณะเป็นเจดีย์สีทองทรงระฆังคว่ำ มีความสูงประมาณ 70 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ด้านหน้าทางเข้าไปสักการะพระบรมธาตุติดกับแม่น้ำสวี มี “ศาลพระเสื้อเมือง” ซึ่งภายในมีรูปปั้นคนนั่ง ขนาดเท่าคนจริงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน โดยเชื่อกันว่าเป็นทหารในกองทัพสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่ได้รับหน้าที่ให้เฝ้าดูแลพระบรมธาตุแห่งนี้ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าวัด ยังเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี” เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. 3. พระบรมธาตุไชยา ที่ตั้ง : วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SrZj1QxCphqHGVj28 พระบรมธาตุไชยาเป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายานตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รอบองค์พระบรมธาตุมีเจดีย์เล็ก ๆ 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ทั้ง 4 ด้าน เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ใช้ภาพองค์พระบรมธาตุไชยาเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัด และกล่าวกันว่าหากใครไม่ได้ไปสักการะพระบรมธาตุไชยาจะถือว่ายังไปไม่ถึงสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา จัดแสดงประติมากรรมศิลาและสัมฤทธิ์ที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนต่าง ๆ ส่วนอาคารที่สองจัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ อีกมากมาย เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0 7743 1066 4. พระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว ที่ตั้ง : วัดเขียนบางแก้ว บ้านบางแก้วใต้ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZbFkKmBqrn8jyjLW6 เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดพัทลุง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย และบริเวณวัดน่าจะเคยเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุงมาก่อน เนื่องจากมีการค้นพบซากปรักหักพังของศิลาแลงและพระพุทธรูปเก่าแก่มากมาย พระบรมธาตุเจดีย์บางแก้ว เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ก่อด้วยอิฐสูง 22 เมตร ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากลังกา มีฐานะเสมอเหมือนพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยา ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ โดยผู้สนใจเข้าชมต้องติดต่อขอรับกุญแจจากเจ้าอาวาสวัด ขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวและเดินสายทำบุญไหว้พระโดยสวัสดิภาพค่ะ

 4 พระบรมธาตุ…เมืองปักษ์ใต้ อ่านเพิ่มเติม

✨ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ✨

ชวนไปแหวกว่ายคลายร้อนในน้ำเย็นสดชื่นกลางบ่อน้ำสีฟ้าที่ใสราวกระจก โอบล้อมด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เป็นตาน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา มีจุดเด่นที่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ใสจนมองเห็นพื้นและปลาที่อยู่ในน้ำได้อย่างชัดเจน ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือถึงจะมีคนลงเล่นน้ำเยอะแค่ไหน แอ่งน้ำตรงนี้ก็ยังคงความใสไม่มีตะกอนได้อย่างเหลือเชื่อ กิจกรรมแนะนำเมื่อเดินทางมาถึงป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดคือการลงเล่นน้ำในแอ่งน้ำที่ไม่ลึกมาก (แต่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปเล่นน้ำต้องคอยดูแลตลอดเวลา) และการนั่งเรือชมธรรมชาติ โดยจะมีน้อง ๆ ไกด์ท้องถิ่นตัวน้อยทำหน้าที่พายเรือและให้ความรู้ตลอดเส้นทาง และจากความสำคัญในฐานะต้นน้ำ ชาวบ้านบ้านน้ำราดจึงรวมตัวกันจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดขึ้นเพื่อดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยมีข้อปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวคือ ห้ามน้ำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปในบริเวณแอ่งน้ำ รวมถึงถุงผ้า ถุงพลาสติก หรือกระเป๋าขนาดใหญ่ โดยจะอนุญาตให้น้ำกระเป๋าเงินขนาดเล็ก โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป เสื้อผ้ารองเท้าสำหรับเปลี่ยนเล่นน้ำ และนมสำหรับเด็กอ่อนโดยบรรจุในขวดนมเท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตราอยู่ ณ บริเวณจุดตรวจตั๋ว แนะนำว่าให้เก็บไว้ที่รถ หรือใช้บริการตู้เก็บของที่ชุมชนเตรียมไว้ได้เช่นกัน การเดินทางมาเที่ยวป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดนั้นสะดวกสบายด้วยถนนลาดยางจนถึงจุดจอดรถ ซึ่งในบริเวณนี้มีร้านค้าและร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยวหลายร้าน นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำให้บริการหลายจุด โดยมีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดดูแลความเรียบร้อยเป็นอย่างดี พิกัด (จุดจอดรถป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด) https://goo.gl/maps/pSPN8TrjcNsbfAJj6เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.

✨ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top