พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของโลกพบได้ที่ระนองและพังงาเท่านั้น “พลับพลึงธาร” เป็นพืชน้ำอยู่ในวงศ์พลับพลึง Amaryllidaceae ชื่อสามัญคือ Water Onion, Water lily, Thai Water Onion, Onion Plant, Yellowish leaves lily. และมีชื่อที่เรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน เช่น ช้องนางคลี่ หอมน้ำ เป็นต้น เป็นพืชเฉพาะถิ่น (endemic species) ที่พบได้ในจังหวัดระนองและจังหวัดพังงาของประเทศไทยเท่านั้น โดยที่จังหวัดระนองพบมีการกระจายพันธุ์อยู่ในพื้นที่อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ ส่วนจังหวัดพังงาพบที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง ฤดูกาลออกดอกของพลับพลึงธาร ตั้งแต่เดือนกันยายน – เดือนธันวาคม ของทุกปี ตามมาทำความรู้จักและชมความสวยงามของพลับพลึงธาร … ราชินีแห่งสายน้ำ ด้วยกันในรีวิวค่ะ พลับพลึงธารได้รับฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งสายน้ำ” เนื่องจากเป็นไม้น้ำที่มีดอกชูช่อสวยงาม มีสีขาวเนียนคล้ายดอกพลับพลึง แต่อยู่ในน้ำเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของโลกพบได้ที่ระนองและพังงาเท่านั้น ได้ขึ้นเป็นบัญชีพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก (IUCN Redlist) เมื่อปี พ.ศ. 2554 พลึบพลึงธารพบมีการขึ้นกระจายพันธุ์อยู่ในระบบนิเวศเฉพาะ คือ บริเวณลำธารที่มีน้ำสะอาดไหลตลอดเวลา มีพื้นท้องน้ำที่ไม่ลาดชันมาก และพบว่าไม่มีการกระจายพันธุ์บริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึง ลักษณะลำต้นเป็นลำต้นใต้ดิน ความสูงเตี้ยของลำต้นขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของน้ำ ใบมีสีเขียวอ่อน มีลักษณะแถบยาวปลายใบเรียวแหลมลอยพริ้วตามสายน้ำ ดอกเป็นประเภทดอกสมบูรณ์เพศที่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน ช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยประมาณ 7-9 ดอก กลีบดอกมีสีขาวลักษณะรูปหอก มีเกสรสีแดง อับเรณูสีเหลืองอ่อน ตามวัฏจักรของพลับพลึงธาร หลังจากงอกเป็นลำต้น จะใช้ระยะเวลาเติบโตราว 3 ปี จึงเริ่มออกดอก เมื่อดอกบานจะส่งกลิ่นหอมเย็นอบอวล การขยายพันธุ์ของพลับพลึงธาร ตามธรรมชาติพลับพลึงธารจะขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ดสีเขียวอ่อนที่อยู่ในผลซึ่งมีลักษณะคล้ายหัวหอมแดง (ตามภาพ) เมื่อผลแก่จะแตกออกมาเองและเมล็ดสีเขียวอ่อนภายในผลจะไหลไปตามลำคลอง ยึดเกาะตามพื้นดินใต้น้ำหรือกองหินใต้น้ำ จากนั้นงอกเป็นต้นพลับพลึงธารต่อไป พลับพลึงธารจะออกดอกทุกปี คือระหว่างเดือนกันยายน-เดือนธันวาคม ช่วงเวลาที่พบว่าดอกพลับพลึงธารบานพร้อมกันเต็มที่ คือ ราวต้นเดือนพฤศจิกายน จุดชมพลับพลึงธารจุดแรกที่จะพาไปชม คือ บ้านไร่ใน ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง พิกัด : https://maps.app.goo.gl/J66S3ntAbegH9R9e9 การเดินทาง : จากตัวเมืองระนอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา) จนถึงสามแยกตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ (กิโลเมตรที่ 677 ของถนนเพชรเกษม) ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไป 8 กิโลเมตร ถึงศูนย์อนุรักษ์พลับพลึงธาร บ้านไร่ใน แนะนำให้โทรไปสอบถามช่วงเวลาการบานของพลับพลึงธารและการเดินทางไปชม ได้ที่ โทร. 08 2808 7548 (คุณอัมรินทร์ ผู้ประสานงานศูนย์อนุรักษ์และเรียนรู้พลับพลึงธารบ้านไร่ใน) หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร (ดูแลพื้นที่จังหวัดชุมพรและระนอง) โทร. 0 7750 2775-6, 0 7750 1831 โดยที่ศูนย์อนุรักษ์พลับพลึงธาร บ้านไร่ใน จะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในชุมชนพาเที่ยวชมพลับพลึงธารที่ขึ้นกระจายอยู่ตามลำธารในหมู่บ้าน ที่บ้านไร่ในมีการเตรียมกิจกรรม “จิบกาแฟ แลพลับพลึงธาร” ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมพลับพลึงธารในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านไร่ในมีการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นของหมู่บ้าน จึงมีการต่อยอดโดยการเปิดเป็นร้านกาแฟวิสาหกิจชุมชนบ้านไร่ใน ให้นักท่องเที่ยวได้มาจิบกาแฟคั่วหอมอร่อยท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น และจากนั้นจะพาไปชมพลับพลึงธารตามจุดต่าง ๆ นอกจากนี้ที่บ้านไร่ใน ยังมีกิจกรรม “พายคายัก คลองนาคา” รองรับนักท่องเที่ยว เป็นการพายคายักระยะ 2 – 4 กิโลเมตร ภายในคลองนาคา ซึ่งเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านในหมู่บ้าน บรรยากาศสองฝั่งของลำคลองแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นพื้นที่ป่าชุมชนสลับกับสวนปาล์มของชาวบ้าน สอบถามข้อมูลกิจกรรม “จิบกาแฟ แลพลับพลึงธาร” และกิจกรรม “พายคายัก คลองนาคา” ได้ที่ โทร. 08 2808 7548 (คุณอัมรินทร์ ผู้ประสานงานศูนย์อนุรักษ์และเรียนรู้พลับพลึงธารบ้านไร่ใน) จุดที่สองในการแนะนำ คือ คลองตาเลื่อน เลขที่ 117 หมู่ที่ 1 บ้านบางซอย ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QpiocV6ckxVNL2vp7 การเดินทาง : จากตัวเมืองพังงา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม (พังงา-ระนอง) จนถึงสามแยกอำเภอคุระบุรี ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสายรองข้างโรงเรียนคุระบุรี ตรงเข้าไปประมาณ 5.5 กิโลเมตร ถึงจุดชมพลับพลึงธารคลองตาเลื่อน คุณตาเลื่อน มีแสง อายุ 87 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2566) ได้รับฉายาว่าเป็น “องครักษ์ผู้พิทักษ์พลับพลึงธาร” สืบเนื่องจากในลำคลองเล็ก ๆ ช่วงที่ไหลผ่านพื้นที่บ้านและสวนของคุณตาเลื่อน มีต้นพลับพลึงธารขึ้นกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก จากคำบอกเล่าอย่างภาคภูมิใจของคุณตาเลื่อน ทำให้ทราบว่าพลับพลึงธารที่ขึ้นอยู่ในลำคลองข้างบ้านมีให้เห็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ของคุณตาแล้ว และคุณตาได้ดูแลอนุรักษ์พลับพลึงธารเหล่านี้ด้วยความรักและผูกพันเสมอมา เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคุณตาเลื่อน จะพบคุณตานั่งรอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณหน้าบ้านเป็นประจำ คุณตาจะพาเดินชมพลับพลึงธารในลำคลองเล็ก ๆ ข้างบ้าน พร้อมบอกเล่าความเป็นมาของพลับพลึงธารที่ตนดูแลด้วยสีหน้าที่มีความสุข การมาเที่ยวชมพลับพลึงธารคลองตาเลื่อน ไม่เสียค่าเข้าชม แต่จะมีกล่องรับบริจาคเพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์พลับพลึงธารตั้งอยู่บริเวณส่วนรับแขกหน้าบ้าน ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคได้แทนค่าเข้าชม แนะนำให้โทรไปสอบถามช่วงเวลาการบานของพลับพลึงธารและการเดินทางไปชมได้ที่ บ้านคุณตาเลื่อน โทร. 06 1180 8438 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา โทร. 0 7641 3400-2 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันอนุรักษ์พลับพลึงธาร” ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมขึ้น ณ คลองตาเลื่อน โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การเปิดให้ชมดอกพลับพลึงธารที่กำลังชูช่อดอกบานสะพรั่งในลำคลอง ร่วมเรียนรู้การเพาะปลูกพลับพลึงธาร การหว่านเมล็ดปลูกพลับพลึงธาร การเสวนาเรื่องการร่วมอนุรักษ์พลับพลึงธาร ชมนิทรรศการจากองค์กรภาคีเครือข่าย การมอบรางวัลการประกวดวาดภาพดอกพลับพลึงธาร การวาดภาพระบายสีบนกระเป๋าผ้า ร่วมชิมอาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป และดนตรีโฟล์คซอง ข้อแนะนำที่ควรให้ความสำคัญในการเที่ยวชมดอกพลับพลึงธาร ได้แก่– ไม่ควรเดินเหยียบย่ำทุกส่วนของต้นพลับพลึงธาร– ไม่ควรเด็ดหรือสัมผัสดอกพลับพลึงธารแรง ๆ– ไม่ควรทิ้งขยะหรือทำความสกปรกให้กับลำคลองที่มีต้นพลับพลึงธารขึ้นอยู่– ควรเคารพกฎ กติกาที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้กำหนดไว้ ในการท่องเที่ยวและชมพลับพลึงธาร