ตรัง

ตรัง

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨

กางปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ไปไหนดี? เรามาแจกปฏิทิน พร้อมแนะนำที่เที่ยว ทะเล ภูเขา ธรรมชาติ เที่ยวไทยไปได้ทั้งปี ใกล้จะหมดปีแล้ว คุณเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ปี 2564 ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า ถ้าใครยังไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนในปีนี้ หรือถ้าไปแล้ว แต่อยากกลับไปอีก เพราะความคิดถึง ต้องเตรียมแพลนรับปีใหม่ 2565 กันได้แล้วนะ เพราะในปี 2565 นี้ เราอยากจะชวนคุณออกไปเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้เที่ยวแบบเต็มที่มานาน โพสต์นี้เราแนะนำที่เที่ยวสวย อันซีน มาให้แล้ว พร้อมกับแจกปฏิทิน ให้คุณได้ดาวน์โหลดแบบฟรี ๆ งานนี้ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ไหน ช่วงเดือนอะไร ก็สามารถเตรียมแพลนล่วงหน้าไว้ได้เลย สามารถดาวน์โหลดภาพปฏิทิน และทำ E-Card ส่งต่อความสุขและความห่วงใยให้กับคนที่เรารัก ไปด้วยกัน โดยคลิกที่นี่ได้เลย >> https://tatcalendar.com/ นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq พิกัดในภาพ : เจดีย์พระธาตุโบอ่อง กาญจนบุรี ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” เป็นหุบเขาที่มีหมอกตลอดทั้งวัน ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยน ฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขาหากใครที่เข้าไปชมธรรมชาติและสายหมอก ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อธรรมชาติจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วยนะทุกคน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ทะเลหมอก และดอกไม้ที่สวยงามตระการตา มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และบริการหมูกระทะ ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ด้านบนมีลานกางเต็นท์ ค่ากางเต็นท์ เริ่มต้นหลังละ 200 บาท จะนอนกี่คนก็ได้ เพราะคิดราคาต่อหลัง มีห้องน้ำ มีห้องอาบน้ำแยก พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ชุมชนบ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา รับชมแสงสุดท้ายของวันทอประกายสีส้มระเรื่อลงมายังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เป็นภาพความงดงามในมุมสูงช่วงเวลาสนธยาของชุมชนประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา เราสามารถไปบ้านหัวเขาได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ แต่เราเลือกที่จะไปทางเรือ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ที่ชาวสงขลาบอกว่า เป็นจุดที่สวยที่สุด การนั่งเรือไปบ้านหัวเขา สามารถใช้เรือจ้างที่ดัดแปลงมาจากเรือหาปลา แต่เพิ่มเสื้อชูชีพและการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย เมื่อมาถึงบ้านหัวเขา จะมีรถพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นมารับไปเที่ยวรอบชุมชน พิกัด : บ้านหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลาGPS : https://goo.gl/maps/TEmdirkeYi8V9dheA  ​​วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ที่นี่เป็นดินแดนของ องค์พญานาคเจ้าปู่ศรีมุกดา (พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทย ลำตัวเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มอมเขียว คดเคี้ยวเคียงคู่กับพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวที่สวยสง่า สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวอีสานแห่งลุ่มน้ำโขง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนยอดเขามโนรมย์ และมีความเชื่อในการขอพรเกี่ยวกับด้านความโชคดี สุขภาพ ความปลอดภัย และความร่ำรวยเงินทอง บนยอดเขานั้น คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดมุกดาหารได้ ทั้งแม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดมุกดาหารที่ควรค่าแก่การมาเยือน พิกัด : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหารGPS : https://goo.gl/maps/NHU38NQm1SvgHL6aA  ถ้ำคลัง จังหวัดกระบี่ “ถ้ำคลัง” ผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์กว่าพันปี ภายในโพรงถ้ำอันมืดมิด กลับเปล่งประกายด้วยสระน้ำใสสีมรกตและหินงอกหินย้อยประดับตกแต่งราวกับฉากหลังโรงละคร งดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งถ้ำหินปูนเมืองกระบี่ ภายในถ้ำมีโถง 13 ห้องด้วยกัน ด้านในมืดสนิทและเส้นทางซับซ้อน จำเป็นต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งก็คือชาวบ้านที่จะคอยบริการพาเราเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยมากมาย ผลึกแก้วสวยงามวาววับ และสระน้ำมรกตที่มีน้ำใสดั่งกระจกถึง 2 แห่งอยู่ภายในถ้ำ การเดินสำรวจถ้ำ สิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมไปคือ ไฟฉาย และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางให้ด้วย พิกัด : ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/McxxL13JTCZXiE9M6  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเลย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ สะพานหินธรรมชาติในอ้อมกอดของผืนป่า ถูกปกคลุมด้วยพรมสีเขียวของเฟิร์นและมอส แต่งแต้มสีแดงด้วยใบเมเปิลที่ผลัดใบในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปไฮไลท์ของอุทยานฯ ที่มีให้ชมเพียงปีละหนึ่งครั้ง นอกจากจุดนี้แล้ว ในอุทยานฯ ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘ลานหินปุ่ม’ ที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน สวยแปลกตา ‘ผาชูธง’ เป็นจุดชมทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตก ‘น้ำตกผาลาด’ เป็นน้ำตกซึ่งไม่สูงนัก แต่มีน้ำมากตลอดปี เป็นต้น ที่อุทยานฯ ยังมีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย พิกัด : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์GPS : https://goo.gl/maps/kAHoDexZRypXpsDp6  เกาะไผ่ จังหวัดกระบี่ “เกาะไผ่” หรือเกาะไม้ไผ่ เกาะขนาดเล็กกลางทะเลกระบี่ ในวงล้อมของชายฝั่งสีเขียวมรกต หาดทรายขาวละเอียด ทางทิศใต้ของเกาะมีแนวปะการังทอดตัวเป็นวงโค้งสวยงามน่าอัศจรรย์ สมกับฉายาดงปะการังแสนไร่ สวรรค์น้อย ๆ ของคนรักกิจกรรมดำน้ำตื้น พิกัด : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/E4sj5ZZrZo6qaNju8  วังผาเมฆ จังหวัดตรัง เตรียมกายและใจให้พร้อมขึ้นไปพิชิตยอดเขา จุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง วังผาเมฆตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสายควนและป่าอ้ายกลิ้ง บรรยากาศตอนเช้าตรู่จะเป็นทะเลหมอกขาวสะอาดปกคลุมไปทั่วผืนป่าและเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ยามเช้า จากหมอกขาวจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามอมส้ม เมื่อขึ้นมาสู่ยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ในขณะที่ทางด้านทิศตะวันตก สามารถมองเห็นปากอ่าวและชายหาดรวมทั้งหมู่เกาะต่าง ๆ บนท้องทะเลอันดามัน ในจังหวัดตรังได้ บริเวณเชิงเขาจัดสร้างประติมากรรมต่าง ๆ […]

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨ อ่านเพิ่มเติม

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅

อลังการความงามของธรรมชาติทั้งปี หมอกสวย วิวอลัง การเดินทางสุดมันส์ บรรยากาศเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง เริ่ม !! ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปี 2565 ด้วยพิกัดเที่ยว “ตามล่าหาทะเลหมอก” ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย เราขอแนะนำที่เที่ยว ชวนไปสัมผัสอากาศหนาวกันบ้าง พาไปชมทะเลหมอกขาว ท่ามกลางธรรมชาติ ดูแสงแรกยามเช้า รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งแต่ละสถานที่นั้น สวยไม่แพ้กันเลย เอาใจสายรักหมอกมาก ๆ เพราะธรรมชาติเมืองไทย มีให้เราไปเจอได้แบบไม่สิ้นสุด แถมยังเที่ยวได้ทั้งปีอีกด้วย คุณลองหลับตา และจินตนาการถึงสายหมอก สายลมเย็นเหนือขุนเขาที่พัดผ่านผิวกาย สองเท้าย่ำไปบนผืนดิน สูดรับออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าปอด และมองดูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น แล้วความสุขของการท่องเที่ยวและพักผ่อน บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นจะกลับมา และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณ สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยว หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ได้เลย https://tatcalendar.com/ สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง.. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ คลิก เปลี่ยนข้อความ คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ Social Media, E-mail เป็นต้น นอกจากมีเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq ม่อนหมอกตะวันจังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยนฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขา เป็นความงดงามที่เพิ่งถูกค้นพบและกลายเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดตาก ที่นี่ มีบริการลานกางเต็นท์ บ้านพัก ให้ตื่นมาพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น กับทะเลหมอก รวมทั้งดอกไม้ที่สวยงามตระการตา กับบรรยากาศที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ขับรถระวัง ๆ กันด้วยนะ พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ดอยผาตั้งจังหวัดเชียงราย จุดชมวิวบนดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในช่วงหน้าหนาว เพราะนอกจากอากาศที่หนาวสะท้านไปถึงกระดูกแล้ว ยังได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกขาวโพลนอีกด้วย บรรยากาศดีมาก ซึ่งจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์บนดอยแห่งนี้ มีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ป่าหินยูนนาน’ แนวโขดหินริมหน้าผา ไปนั่งเท่ ๆ ถ่ายภาพคู่กับวิวทะเลหมอกได้ หรือจุดชมวิว ‘ช่องเขาขาด’ เป็น landscape ที่โดดเด่น มีช่องเขาที่มองเห็นทะเลหมอกกับวิวภูเขาฝั่ง สปป.ลาวเป็น background ‘เนิน102’ อยู่ถัดจากช่องเขาขาดไปเล็กน้อย เดินขึ้นง่ายไม่เหนื่อย เป็นจุดที่มองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา ด้านหนึ่งจะเห็นยอดเขาแหลมฝั่งลาวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ใกล้เคียงอีกด้วย แต่ว่าต้องเดินไกลหน่อย รวมไปถึงมีที่พักไว้บริการด้วยนะ พิกัด : ดอยผาตั้ง อ. เวียงแก่น จ. เชียงรายGPS : ‭https://goo.gl/maps/nHvzsZDLD7z ดอยตาปังจังหวัดชุมพร “ดอยตาปัง” อยู่ในพื้นที่ของเขาทะลุ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก สุดฟินแห่งภาคใต้ เพราะมีหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เป็นดอยที่ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันผลักดันจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของชุมพร ที่นี่จะมองเห็นทะเลหมอกทอดผ่านแนวทิวเขาสวยงามไม่แพ้ทางเหนือ เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้น มีลานกางเต็นท์ให้บริการ การเดินทางจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากข้างบนเป็นพื้นที่แคบ แนะนำให้ใช้การบริการรถจากชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องถนนหนทางพาขึ้นไปดีกว่านะ พิกัด : ดอยตาปัง อ.สวี จ.ชุมพรGPS : https://goo.gl/maps/21FgYFpJorMSBPhq9 และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมคำแนะนำงานประเพณี กิจกรรมดีดี หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ https://tatcalendar.com/ หรือสแกน QR Code ในภาพได้เลย นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23brดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq  และนี่ก็คือตัวอย่าง E-Card ที่เราทำ ซึ่งสามารถใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือเปลี่ยนข้อความเป็นคำอวยพรในสไตล์ของตัวเองได้เลย สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง..1. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ2. ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ3. คลิก เปลี่ยนข้อความ4. คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต5. นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅ อ่านเพิ่มเติม

✨ วังผาเมฆ จ.ตรัง ✨

 บ้านห้วยใหญ่ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ยอดเขาที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง #amazingthailand#เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม

✨ วังผาเมฆ จ.ตรัง ✨ อ่านเพิ่มเติม

6 เกาะใต้ ทะเลสวยสุดปัง

ช่วงนี้ทะเลบ้านเรากำลังสวย โดยเฉพาะทะเลทางภาคใต้ น้ำใสมากกกกก อาจเป็นเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเหมือนแต่ก่อน ธรรมชาติจึงได้ฟื้นฟูกลับมาสวยงามอีกครั้ง . ก่อนจะหมดฤดูท่องเที่ยวทะเลใต้ แอดจะพาไปเที่ยว 6 เกาะสวยสุดปังที่ต้องห้ามพลาด ใครไปเที่ยวช่วงนี้ถือว่าคุ้มมาก ๆ เพราะทะเลก็สวย นักท่องเที่ยวก็น้อย ถ่ายรูปออกมารับรองว่าเป๊ะปังอลังเว่อร์แน่นอน . อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลล้างมือทุกครั้งที่ออกเดินทาง . สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม Call Center 1672 IG : 1672travelbuddy Twitter : tat1672 Line : https://line.me/ti/p/@tatcontactcenter WeChat : VisitThailand 1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา2. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา3. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล4. หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่5. เกาะมุก จังหวัดตรัง6. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา.หมู่เกาะสิมิลันมีเกาะเล็ก ๆ รวมกัน 9 เกาะ คือ เกาะหูยง เกาะปาหยัง (เกาะสอง) เกาะปาหยัน (เกาะสาม) เกาะเมี่ยง (เกาะสี่) สวนปลาไหล (เกาะห้า) เกาะปายู (เกาะหก) เกาะปูซา (เกาะเจ็ด) เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) เกาะบางู นอกจากนี้ยังมีเกาะที่อยู่ในพื้นที่อุทยานฯ อีก นั่นก็คือ เกาะตาชัยและเกาะบอน อุทยานฯ จะเปิดให้ท่องเที่ยวในช่วงเดือนตุลาคม- พฤษภาคมของทุกปี.ไฮไลท์ของการมาเที่ยวหมู่เกาะสิมิลันคือ การมาดำน้ำดูปะการังและปลาทะเลสายพันธุ์ต่าง ๆ เพราะบริเวณนี้น้ำใสสุด ๆ และแนวปะการังก็สวยงามสมบูรณ์มาก จุดดำน้ำที่แอดแนะนำ มีดังนี้ จุดดำน้ำตื้น สามารถดำน้ำได้บริเวณรอบเกาะทุกเกาะจุดดำน้ำลึก – เกาะบอน กองหินคริสต์มาส อ่าวกวางเอน หมู่เกาะสิมิลันมีจุดท่องเที่ยวอยู่หลายจุด เช่น – เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งชายหาด จุดชมวิว จุดดำน้ำดูปะการัง และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มาถึงเกาะแปด ก็อย่าลืมถ่ายรูปกับหินเรือใบ แลนมาร์กของเกาะกันนะ.– เกาะเมี่ยง (เกาะสี่) เกาะใหญ่อันดับ 2 เป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีชายหาดสำคัญ 2 หาด คือ หาดเล็กและหาดหน้า นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนที่หาดหน้าได้ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และร้านอาหารพร้อมต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวสวยงาม คือ จุดชมวิวลานข้าหลวง สามารถมองเห็นวิวของหาดเล็ก สวนปลาไหล และเกาะปายู การเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวจากบริษัทนำเที่ยวไปล่วงหน้า และไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทที่ท่าเรือทับละมุ ใช้เวลาเดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลันประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที . อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่ตั้ง : เลขที่ 93 หมู่ที่ 5 บ้านทับละมุ ถนนเพชรเกษม ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โทร : 0 7645 3272 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/MuKoSimilanNationalPark 2. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา การเดินทาง สำหรับผู้ที่ไม่ได้ซื้อแพ็คเกจทัวร์ – ขึ้นเรือสปีดโบ๊ทที่ท่าเรือคุระบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที – หากต้องการดำน้ำตื้น ทางอุทยานฯ มีเรือเมล์บริการ ค่าใช้จ่ายคนละ 200 บาท/ทริป ใช้เวลา 2 ชั่วโมง – สอบถามข้อมูลบริษัทเรือนำเที่ยวได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โทร. 0 7647 2145-6 . หมู่เกาะสุรินทร์เปิดฤดูการท่องเที่ยววันที่ 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคมของทุกปี ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรอนลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี (เกาะสต็อร์ค) เป็นหมู่เกาะที่เหมาะทั้งดำน้ำตื้นและน้ำลึก เพราะมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ จุดดำน้ำตื้น – เกาะสต็อร์ค อ่าวจาก แหลมไทรเอน แหลมแม่ยาย อ่าวไม้งาม แหลมช่องขาด หินกอง อ่าวสุเทพ อ่าวบอน อ่าวสับปะรด อ่าวเต่า อ่าวผักกาด จุดดำน้ำลึก – เกาะสต็อร์ค แหลมช่องขาด หินกอง อ่าวเต่า กองหินริเชลิว อ่าวผักกาด เกาะตอรินลา จุดท่องเที่ยวแนะนำ เกาะสุรินทร์เหนือ เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ (ฝั่งทะเล) มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก จุดกางเต็นท์ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และมีอ่าวที่สวยงามหลายแห่ง ได้แก่ อ่าวแม่ยาย อ่าวไม้งาม อ่าวช่องขาด อ่าวจาก และแหลมไทรเอน เป็นต้น เกาะสุรินทร์ใต้ บริเวณอ่าวบอนเป็นที่อยู่ของชาวมอแกนหรือชาวเล โดยเราจะเห็นบ้านเรือนของพวกเขาตั้งเรียงรายตลอดแนวชายหาด ชาวมอแกนมีนามสกุลเดียวกันหมดทุกคนคือ “กล้าทะเล” ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นอกจากทำประมงแล้ว ชาวมอแกนยังทำงานผีมือด้วย เช่น กำไลสาน งานแกะสลัก

6 เกาะใต้ ทะเลสวยสุดปัง อ่านเพิ่มเติม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน

พูดถึงจังหวัดตรัง เพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยคงต้องคิดถึงทะเล ทะเล แล้วก็ทะเล แต่รู้ไหมว่า จังหวัดตรังยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ทะเลอยู่ด้วย วันนี้แอดจะมาแนะนำให้รู้จัก นั่นก็คือ “กันตัง” . กันตัง เป็นอำเภอที่มีอาคารเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วอำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง นอกจากทะเลสวย ๆ ที่นักท่องเที่ยวปักหมุดตั้งใจมาเที่ยวแล้ว กันตังยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ได้เข้าไปสัมผัสอีกด้วย . ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้เพื่อน ๆ ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปกติ และเป็นโอกาสที่ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้พักและฟื้นฟู รอให้เราออกเดินทางอีกครั้ง และเมื่อการเดินทางครั้งใหม่ของเราได้เริ่มขึ้น คุณจะพบว่าเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม วันที่ 1– สถานีรถไฟกันตัง– ต้นยางคาเฟ่– ล่องแพ กินปู ดูวิว โดย “วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ”.วันที่ 2– Matou Hostel & Cafe– เยี่ยมชม และทำกิจกรรมที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” สถานีรถไฟกันตัง.จุดนี้เป็นจุดที่ต้องมาเช็คอิน พลาดไม่ได้เลย “สถานีรถไฟกันตัง” เป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายบนเส้นทางรถไฟฝั่งอันดามัน เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 นับอายุก็กว่าร้อยปีแล้ว มีความสำคัญมากในสมัยนั้น เพราะเป็นศูนย์กลางการรับ-ส่งสินค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยผ่านท่าเรือกันตัง ซึ่งอยู่เลยจากสถานีรถไฟไปประมาณ 500 เมตร ตัวอาคารเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว ปัจจุบันสถานีรถไฟกันตังยังให้บริการเดินรถทุกวัน วันละ 1 เที่ยว โดยขบวนรถเร็วเที่ยวไป ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 18.30 น. และขบวนรถเที่ยวกลับ ออกจากสถานีกันตังเวลา 12.40 น. ใช้เวลาประมาณ 16-17 ชั่วโมง.สำหรับเพื่อน ๆ สายชิลล์ที่ไม่อยากนั่งเครื่องบิน ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่นี่ได้เลย แต่อย่าลืมตรวจสอบเวลาเดินรถอีกครั้งก่อนเดินทางนะคะ.โทร. 075 251 015, 1690ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใกล้กับสถานีรถไฟ มีร้านกาแฟน่ารักน่าแวะชื่อ สถานีรัก Love Station ตัวร้านเป็นไม้ทาสีเหลือง ตกแต่งย้อนยุคคล้ายกับสถานีรถไฟกันตัง บรรยากาศชิลล์มาก สถานีรัก Love Stationเปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.00 น.โทร. 081 979 6806ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ต้นยาง คาเฟ่ .แอดจะพาไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ ต้นยางคาเฟ่ ร้านนี้อยู่ใกล้กับต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย จุดท่องเที่ยวอีกจุดของกันตัง มีเมนูให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย-อีสาน สเต็ก ของหวาน และเครื่องดื่ม ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ผนังร้านโดดเด่นมากเพราะเป็นภาพวาดที่เล่าเรื่องราวของเมืองกันตัง.เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. (ครัวปิด 19.00 น.)โทร. 089 723 1733ที่ตั้ง 253/1 ถ.ตรังคภูมิ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook ต้นยางคาเฟ่ @กันตัง ล่องแพ กินปู ดูวิว โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.จากอำเภอกันตังไปประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าไปที่ตำบลบางสัก ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือการล่องแพไปชมวิวเขาจมป่าและทะเลแหวก พร้อมทานอาหารทะเลกันบนแพ โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย แอดเลือกกิจกรรมแบบครึ่งวัน คือ ล่องแพไปเที่ยวเขาจมป่า และทะเลแหวก โดยเราจะล่องแพผ่านป่าชายเลน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้.โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท หากไปกันหลายคนก็สามารถติดต่อสอบถามก่อนได้ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แต่ถ้าไปน้อยกว่า 5 คน แอดแนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า มาถึงจุดแรก พาเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาจมป่า ตรงนี้ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 20 นาที ระยะทาง 400 เมตร ถึงแม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่ก็มีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน เดินขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ.ด้านบนสุด สามารถชมวิวป่าชายเลนผืนใหญ่ เขียวชอุ่มสบายตา เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกล ๆ ได้อีกด้วย ลงจากยอดเขามาเหนื่อย ๆ เริ่มหิวก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะบนแพได้เตรียมอาหารรอไว้แล้ว มีอาหารทะเลหลายอย่าง โดยเฉพาะปูม้าตัวใหญ่ ๆ มีให้กินแบบจุใจเลยจ้า จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า นานวันเข้าก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลงมาก ชาวบ้านจึงหาทางแก้ปัญหา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าให้กลับสู่สมดุลย์ จึงเริ่มนำแม่ปูม้าที่มีไข่นอกกระดองมาเลี้ยง รอจนแม่ปูวางไข่ แล้วจึงนำลูกปูไปปล่อยบริเวณแหล่งแนวหญ้าทะเล เพื่อให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป กิจกรรมนี้สามารถช่วยรักษาประชากรปูม้าได้ไม่น้อยเลย เพราะแม่ปูแต่ละตัวนั้นมีไข่ประมาณสามแสนฟอง แต่ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟองเลยทีเดียว.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และลูกปลาหมึกอีกด้วย หลังจากกินจนอิ่มแปล้แล้ว ก็ไปจุดที่สอง เพื่อชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราว ๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็น ใครไปช่วงเย็น ๆ ก็ยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินจากจุดนี้ได้อีกด้วย.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บังยูร 080 824 9468, พี่อู๊ด 087 277 8017ที่ตั้ง ท่ากะหยง หมู่ที่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ คาเฟ่แห่งนี้ให้บริการของหวาน และเครื่องดื่ม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล

ชุมชนบ้านน้ำราบตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง บริเวณนี้เคยประสบเหตุการณ์สึนามิ ทำให้ธรรมชาติถูกทำลายไปหลายส่วน แต่ชาวบ้านในชุมชนก็ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้กลับมาสมบูรณ์ได้เหมือนเดิม.จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า เนื่องจากอาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลง จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มเพาะพันธุ์ปูม้า โดยนำแม่ปูที่ไข่นอกกระดองมาเลี้ยง แม่ปู 1 ตัว มีไข่ประมาณสามแสนฟอง ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟอง!! เมื่อถึงระยะที่ไข่ใกล้ฟักตัวชาวบ้านก็จะนำไปปล่อยลงทะเล ให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และไข่ปลาหมึกอีกด้วย  การท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี.กิจกรรมที่เราจะไปทำคือการล่องแพ โดยโปรแกรมล่องแพนั้นมีทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน แอดเลือกโปรแกรมแบบครึ่งวัน ซึ่งมีจุดหลักๆ ที่จะแวะคือ เขาจมป่า และทะเลแหวก.เราล่องแพผ่านป่าชายเลนบ้านน้ำราบ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้ โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท (ยิ่งไปด้วยกันหลายคน ราคาจะยิ่งถูก เพราะตัวหารเยอะขึ้น) ถ้าไปเที่ยวกันกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 5 คน แนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า.ใครอยากล่องแพสุดชิลแบบนี้ ติดต่อได้ที่บังยูร 080 824 9468พี่อู๊ด 087 277 8017.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ จุดแวะแรก เดินขึ้นจุดชมวิวเขาจมป่า ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 15-20 นาที ระยะทาง 400 เมตร เห็นระยะทางไม่ค่อยไกล แต่ก็เหนื่อยใช่เล่นเลยล่ะ เพราะมีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน ต้องใช้ทักษะในการปีนป่ายเข้าช่วย ด้านบนสามารถชมวิวป่าชายเลนอันเขียวชอุ่ม เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย หลังจากลงมาจากจุดชมวิว ท้องก็ร้องทันที แต่ไม่ต้องห่วง บนแพมีอาหารเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งแกงส้มปลากระบอกรสจัดจ้าน ปลาทอดราดพริก วายคั่ว (หมึกต้มกะทิ) และมื้อนี้ทางชุมชนยังจัดปูม้านึ่งมาให้แบบไม่อั้นด้วย เติมได้เรื่อยๆ เลย จุดแวะที่สอง ทะเลแหวก หลังจากทานอาหารกันอิ่มแล้ว เราก็ล่องแพไปชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราวๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็นๆ.ทะเลแหวกที่นี่เขากว้างใหญ่จริงๆ แถมน้ำทะเลก็ใสมากด้วย ถ้าใครไม่รีบ จะอยู่รอชมพระอาทิตย์ตกก็ได้ บอกเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 27 กันยายน 2562

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา ใครจะไปเชื่อว่า จังหวัดเดียว แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่โดดเด่นครบถ้วน ซึ่งคำขวัญประจำจังหวัดก็ได้ยกเอาสิ่งเหล่านั้นมาชูให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น “เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง” พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ นายคอซิมบี๊ ณ ระนอง คือผู้สร้างคุณูปการให้แก่เมืองตรังมากมายหลายด้าน อาทิ การคมนาคม เกษตรกรรม กสิกรรม การศึกษา การปกครอง ฯลฯ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมชาวตรังจึงเคารพรักและระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สำหรับใครที่ไปเมืองตรัง สามารถย้อนอดีตไปสู่ความรุ่งเรืองในวันวานกับ “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ภายในพิพิธภัณฑ์มีหุ่นขี้ผึ้งของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี และจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านเอาไว้อย่างครบถ้วน โดยมีทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีที่ตั้ง : เทศบาลกันตัง อ.กันตัง จ.ตรังไม่เสียค่าเข้าชมเปิดวันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น. “หมูย่างรสเลิศ” ตรัง เมืองเล็กๆ ที่น่ารัก ได้รับการนิยามว่าเป็นยุทธจักรแห่งการกิน เพราะแต่ละมุมเมืองล้วนมากมายไปด้วยร้านเด็ดน่าชิม ซึ่งเมนูเด็ดที่ไปแล้วห้ามพลาดเลยก็คือ “หมูย่างเมืองตรัง” ที่ไม่ว่าใครที่ได้ลิ้มลอง ต่างก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย!! ความโดดเด่นของหมูย่างเมืองตรังคือ ความกรอบของหนังหมูที่กรอบกำลังพอดี เนื้อนุ่ม รสชาติอร่อยกลมกล่อม ทำให้นักชิมติดใจมานักต่อนักแล้ว “ถิ่นกำเนิดยางพารา” การนำต้นยางพารามาปลูกในไทยเป็นครั้งแรกนั้น เกิดจากความคิดของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เมื่อครั้งที่ท่านไปดูงานที่มลายู ต่อมา พ.ศ.2444 ท่านจึงได้ให้พระสถลสถานพิทักษ์ หลานชายของท่าน นำเมล็ดของต้นยางพารามาจากอินโดนีเซีย มาปลูกที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นที่แรก ก่อนแพร่หลายไปสู่หลายๆ จังหวัดในภาคใต้ จึงถือกันว่าพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเป็น “บิดาแห่งยางพาราไทย” ปัจจุบันต้นยางพารากลุ่มแรกที่ได้ปลูกไว้ที่อำเภอกันตัง เหลือให้เห็นเพียงต้นเดียว อยู่บริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรกันตังนั่นเอง “เด่นสง่าดอกศรีตรัง” พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เป็นผู้ที่นำต้นศรีตรังมาปลูกที่เมืองตรังเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2444 และในเวลาต่อมาดอกศรีตรังก็ได้รับการกำหนดให้เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานประจำจังหวัด และยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดตรังอีกด้วย ต้นศรีตรังเป็นไม้ที่ปลูกง่าย เติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ชอบแดดจัด แต่ก็ต้องให้น้ำเป็นประจำ สามารถปลูกได้ด้วยการเพาะเมล็ด ระหว่างปลายเดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ต้นศรีตรังจะออกดอกบานสะพรั่งสวยงามทั่วจังหวัดตรัง ใครไปเที่ยวช่วงนั้นแอดบอกเลยว่า มองไปทางไหนก็จะเห็นดอกสีม่วงๆ ไปทั่วทุกพื้นที่ สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยล่ะ “ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม” จังหวัดตรังตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นทะเลที่มีน้ำใสสีคราม มีสัตว์น้ำนานาพันธุ์ ปะการังหลากหลายชนิด และหาดทรายยาวขาวละเอียด สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลของตรังหลายๆ ที่ มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เช่น เกาะมุก ถ้ำมรกต เกาะเชือก เกาะแหวน เกาะเหลาเหลียง และเกาะกระดาน เป็นต้น “น้ำตกสวยตระการตา” นอกจากทะเลที่สวยงามแล้ว จังหวัดตรัง ก็ยังมีน้ำตกอีกหลายแห่ง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเล่นน้ำและชมความงดงามของธรรมชาติได้ เช่น น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกโตนตก น้ำตกไพรสวรรค์ และน้ำตกกะช่อง เป็นต้น ในภาพคือ น้ำตกกะช่อง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ บนหน้าผาชั้นที่ 7 ของน้ำตกกะช่อง ยังมีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และ สก. ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงจารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จฯ เยี่ยมราษฏรภาคใต้ครั้งแรก พ.ศ.2502 แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี แต่จารึกนั้นยังคงชัดเจนจวบจนปัจจุบัน น้ำตกกะช่องที่ตั้ง : ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 พฤษภาคม 2562

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง อ่านเพิ่มเติม

วังเทพทาโร แดนไม้มหัศจรรย์ บ้านแห่งปราชญ์ท้องถิ่น

หลายคนอาจจะเคยไปดูสันหลังมังกรกลางทะเลกันมาแล้ว แต่ที่จังหวัดตรัง นอกจากสันหลังมังกรแล้ว ยังมีมังกรเป็นตัวๆ ให้ดูอีกด้วยนะ  วังเทพทาโร คือสถานที่รวบรวมมังกรที่ทำจากไม้เทพทาโร ผลงานสร้างสรรค์ฝีมืออาจารย์จรูญ แก้วละเอียด ปราชญ์ท้องถิ่นผู้รักในแผ่นดินบ้านเกิด เทพทาโรคืออะไร เทพทาโร หรือต้นจวงหอม เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่เนื้อไม้มีกลิ่นหอม นิยมนำมาแกะสลักเป็นของตกแต่งบ้าน หรือนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ที่มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ใช้ทานวดแก้ปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก แก้ผดผื่น แก้แมลงสัตว์กัดต่อย ทาแผลสด แผลเรื้อรัง แผลอักเสบ แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เป็นต้น ความมหัศจรรย์อีกอย่างของพืชชนิดนี้คือ ต้นเทพทาโรแต่ละต้นจะให้ความหอมต่างกัน มีทั้งกลิ่นตะไคร้หอม กลิ่นรูทเบียร์ กลิ่นเสม็ดขาว และกลิ่นดอกไม้ ซึ่งทดสอบได้โดยขยี้ใบแล้วดมค่ะ วังเทพทาโรเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของอาจารย์จรูญ แก้วละเอียด อดีตครูภาษาอังกฤษ โรงเรียนห้วยยอด ที่ต้องการอนุรักษ์พืชชนิดนี้ไว้ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นหลัง อาจารย์จรูญเล่าว่า เมื่อก่อนละแวกนี้มีไม้เทพทาโรเป็นแสนๆ ต้น แต่ชาวบ้านโค่นทิ้งเพื่อปลูกยางพารา อาจารย์เห็นว่าไม้เทพทาโรเป็นไม้ที่มีประโยชน์ มีคุณค่า จึงขอซื้อต่อจากชาวบ้าน แล้วลองนำมาต่อเป็นมังกรจนสำเร็จ หลังจากนั้นจึงทุ่มทุนสร้างวังเทพทาโรที่มีเนื้อที่กว่า 25 ไร่นี้ขึ้นมา สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ประชาชนและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับไม้เทพทาโร อีกทั้งยังได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย และด้วยความที่อาจารย์จรูญเป็นคนชอบแต่งกลอนและเพลงมาก จึงได้แต่งกลอนที่มีเนื้อหามาจากคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เอาไว้มากมาย อาจารย์แต่งกลอนเก่งมากๆ มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เดินอ่านเพลินเลยค่ะ ต้นกำเนิดของวังเทพทาโร มังกรตัวแรกที่อาจารย์จรูญลองทำ โดยนำท่อนไม้ เศษไม้ และรากของต้นเทพทาโรมาต่อเข้าด้วยกัน.สาเหตุที่สร้างเป็นรูปมังกรก็เพราะ มังกรเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ เป็นสัตว์เทพ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับชื่อเทพทาโรอีกด้วย ห้ามพลาด!! มาที่นี่ต้องมาลอดท้องมังกร 9 ช่อง เพื่อความเป็นสิริมงคล พญามังกรเก้ามงคล “รักษ์น้ำ” ถือเป็นมังกรไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “มังกรไพรภักดี” มังกรตัวที่ 88 ก็สวยงาม อลังการไม่แพ้กัน.ปัจจุบันอาจารย์จรูญยังคงสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนี่อง โดยตั้งใจจะสร้างมังกรให้ครบ 89 ตัว เท่ากับพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562

วังเทพทาโร แดนไม้มหัศจรรย์ บ้านแห่งปราชญ์ท้องถิ่น อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวกันตัง ชมหมากตักน้ำ

ราจะไปกันที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ”ที่ตั้ง : ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรังพิกัด : https://goo.gl/maps/5xBxVs4x2Zv “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” เป็นชุมชนริมฝั่งแม่น้ำตรัง และยังเป็นชุมชนป่าจากที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้อีกด้วยนะคะ เอาล่ะค่ะ เรามาทำความรู้จักกับ “ติหมา” กันดีกว่า.“ติหมา” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “หมาตักน้ำ” หรือ “หมาจาก” นั้น ก็คือภาชนะตักน้ำที่ทำมาจากใบจากนั่นเองค่ะ.หนึ่งในภูมิปัญญาของชาวใต้ ที่นำวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่อดีต.ซึ่งในปัจจุบัน ด้วยกระแสของการลดการใช้พลาสติก และหันกลับมาใช้วัสดุธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เราพบเห็นการนำติหมามาใช้ประโยชน์กันมากมายเลย ไม่ว่าจะใส่น้ำ ใส่ขนม หรือแม้แต่ใช้เป็นของตกแต่งบ้านด้วย และประโยชน์ของใบจากยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เพราะใบจากยังสามารถนำมาสานเป็นภาชนะต่างๆ เช่น ตะกร้า กระเช้า ถาด ฯลฯ สำหรับใส่ของได้อีกด้วยค่ะ หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากจะศึกษาหรือเรียนรู้งานฝีมือจากต้นจากให้มากกว่านี้ ก็สามารถเดินทางมาที่ชุมชนบ้านย่านซื่อได้เลย คุณลุงคุณป้ายินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะถ่ายทอดภูมิปัญญาอันล้ำค่าเหล่านี้ให้กับพวกเราค่ะ  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562

เที่ยวกันตัง ชมหมากตักน้ำ อ่านเพิ่มเติม

ติด (ใจ) … เกาะสุกร ลองไปดูก่อน แล้วจะรัก

เกาะสุกร จ.ตรัง เกาะที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว อบอวลไปด้วยวิถีชีวิตที่โดดเด่นและน่าสนใจ .เป็นเกาะขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่งเพียง 3 กิโลเมตร เต็มไปด้วยทุ่งนา และธรรมชาติที่เขียวขจี โอบล้อมด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลอันดามัน.แอดได้มีโอกาสไปเที่ยวและได้ทำกิจกรรมต่างๆ บนเกาะแล้วประทับใจมากๆ เลยอยากจะมาชวนให้แฟนเพจให้ลองเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตอันน่าสนใจของชาวเกาะแห่งนี้ดู การเดินทางไปเกาะสุกร.สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือตะเสะ ที่ตั้งอยู่ใน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มีเรือรับ-ส่ง บริการตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีไปยังเกาะสุกร ราคาคนละ 30 บาท.พิกัดท่าเรือตะเสะ https://goo.gl/maps/o5EXa8H16YH2  กิจกรรมยอดฮิตบนเกาะสุกร คือการนั่งรถซาเล้งเที่ยวรอบเกาะ โดยไกด์ท้องถิ่นที่เป็นคนขับของเราจะพาไปชมทิวทัศน์รอบเกาะ และพาไปแวะชม ชิม ชอป ของดี ของเด็ดประจำเกาะสุกร.เหมารถซาเล้งเที่ยวรอบเกาะ ราคา 400 บาท/คันติดต่อได้ที่ บังสุนัน โทร. 094 318 1075 เริ่มทริปของเราด้วยการไปชมวิถีชีวิตบนเกาะสุกรกันเลย เกาะสุกรเป็นเกาะขนาดใหญ่อยู่ห่างจากชายฝั่งเพียง 3 กิโลเมตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ทำอาชีพประมง ทำสวนยาง และเกษตรกรรม ที่นี่มีการทำนาข้าวซึ่งเกาะสุกรถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เกาะในประเทศไทย ที่มีการทำนาบนเกาะ ว้าววว ดูสิ มองทางไหนก็มีแต่นาข้าวสีเขียวสบายตา นอกจากนี้ บนเกาะยังมีผลไม้ที่มีชื่อเสียงคือ แตงโมที่ปลูกอยู่ริมชายหาด บอกเลยว่ารสหวานอร่อยมาก ๆ ถ้าใครอยากมาลองว่ารสชาติหวานขนาดไหน ต้องมาช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายนนะ ไปต่อกันที่จุดชมวิวเกาะสุกร อยู่ห่างจากท่าเรือเกาะสุกร 4 กิโลเมตร สามารถชมทิวทัศน์ของเกาะสุกร และมองเห็นสันหลังมังกรได้พิกัด : https://goo.gl/maps/vZBMJK5xTyN2 ท่าเรือบ้านแหลม บริเวณนี้ชาวบ้านนิยมมาตกปลา และเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้พิกัด : https://goo.gl/maps/dL1iPJfbN1L2 หลังจากชมวิวกันจนหนำใจแล้ว เราไปแวะดูของเด็ดของเกาะสุกรกันดีกว่า ไปที่กลุ่มทำเครื่องแกงกันเลย ขนาดยังเข้าไปไม่ถึงห้องครัว กลิ่นเครื่องแกงก็ส่งกลิ่นหอมเตะจมูกมาแต่ไกล แอดนี่รีบตามกลิ่นไปอย่างรวดเร็วเลย ที่นี่มีการทำเครื่องแกง 4 อย่าง ได้แก่ เครื่องแกงกะทิ เครื่องแกงส้ม เครื่องแกงคั่วพริก เครื่องแกงไก่และแกงเนื้อ โดยแม่บ้านจะมารวมกลุ่มกันทุกวัน และทำเครื่องแกงวันละ 1 อย่าง เครื่องแกงมีขายทั้งแบบซอง แบบกระปุก ฯลฯราคาก็ตามนี้เลย– แบบซอง ซองละ 7 บาท– แบบกระปุก กระปุกละ 10 บาท– แบบครึ่งกิโลกรัม ราคา 75 บาท– แกงส้ม ราคากิโลกรัมละ 140 บาท– แกงอื่น ๆ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ใครสนใจอยากซื้อมาปรุงอาหาร โทรสั่งได้ที่เบอร์ 084 304 1104 เขามีบริการส่งไปรษณีย์ด้วยนะ หลังจากนั่งรถซาเล้งตะลอนมาเกือบครึ่งวัน บวกกับกลิ่นเครื่องแกงที่ชวนให้หิว แอดว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่า แอดจะพาไปทานอาหารท้องถิ่น สไตล์ชาวเกาะกัน อาหารมาแบบจัดเต็มเลยทีเดียว ทั้งปลาทอด หมึกผัดน้ำหมึก แกงส้มปลากระบอกรสจัดจ้าน ปลาส้ม แกงกะทิหน่อไม้ น้ำพริกกะปิรสเด็ดที่มาคู่กับผักพื้นบ้านหลายชนิด และน้ำชุปหยำแบบใต้แท้ ๆ มื้อนี้อร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลยละค่ะ กินอิ่มแล้ว เรี่ยวแรงก็กลับมา เราไปทำกิจกรรม D.I.Y ที่เมื่อมาเกาะสุกรต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ ระบายสีผ้าบาติก เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ให้ความเพลิดเพลิน ที่ไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิด เพราะมีคุณครูคอยประกบอยู่ข้าง ๆ ลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะสุกร คือลายแตงโม และลายปลาที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล ครั้งนี้แอดจัดไปเบา ๆ 2 ลาย ช่วยกันระบายคนละไม้คนละมือ แป๊บเดียวก็เสร็จค่ะ หลังจากระบายสีเสร็จแล้ว ต้องทิ้งไว้ให้สีแห้งสนิท แล้วนำผ้าไปเคลือบโซเดียมซิลิเกต เพื่อกันสีตก 6-8 ชั่วโมง ล้างน้ำยาออกด้วยน้ำเปล่า 1 ครั้ง จากนั้นนำผ้าไปต้มในน้ำเดือดที่ผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน เพื่อลอกเอาเส้นเทียนออกจากตัวผ้า แล้วล้างน้ำเปล่าออกอีก 1 รอบ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย  #ไปต่อไม่รอแล้วนะ มาทำขนมตาหยาบต่อกันเลย ขนมตาหยาบเป็นขนมพื้นบ้านของภาคใต้ ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย ที่เกาะสุกรจะนิยมทานกับชาหรือกาแฟในตอนเช้า ส่วนผสมมีดังนี้– แป้งห่อ ใช้แป้งสาลี แป้งข้าวเหนียว น้ำกะทิ น้ำใบเตย และเกลือเล็กน้อยมาผสมกัน– ไส้ ใช้มะพร้าวทึนทึกขูดกับน้ำตาลปีบ เคี่ยวให้เข้ากัน วิธีทำคือ ตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน นำแป้งที่ผสมแล้วหยอดลงไปในกระทะ แล้วหมุนกระทะให้แป้งเป็นวงกลม วิธีสังเกตว่าแป้งสุกหรือไม่นั้น ถ้าแป้งสุกจะเป็นสีเขียวเสมอกัน และขอบแป้งจะร่อนออก นำแป้งออกจากกระทะ วิธีที่สะดวกที่สุดคือ ใช้มือหยิบเลยจ้า ทนร้อนนิดเดียว นำแป้งมาพักไว้ จากนั้นใส่ไส้ลงไป แล้วห่อให้สวยงาม.รสชาติของขนมตาหยาบจะหอมกลิ่นใบเตย และได้ความหวานจากไส้มะพร้าว อร่อยมาก ๆ ค่ะ หยุดทานไม่ได้เลย ทำขนมตาหยาบอย่างเดียวยังไม่หนำใจ ไปทำขนมคล้องใจกันต่อดีกว่า.วิธีการทำไม่ยากมากนัก เริ่มจากนำแป้งอเนกประสงค์มาผสมกับไข่ไก่ นวดให้เข้ากัน ปั้นให้เป็นเส้นยาวพอประมาณ แล้วนำมาคล้องซ้าย คล้องขวา เกี่ยวกันให้เป็นเหมือนห่วง 3 อัน ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องใช้ทักษะในการคล้องสักเล็กน้อย  จากนั้นนำไปทอดให้แป้งพองตัว และมีสีเหลืองนวล ๆ เมื่อทอดจนได้ที่แล้ว นำขนมขึ้นจากกระทะ แล้วชุบด้วยน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้ค่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขนมคล้องใจของเรา.ตัวขนมมีลักษณะเป็นแป้งโปร่งๆ กรุบกรอบ เนื้อไม่แน่นมาก หอมหวาน ทานคู่กับชาหรือกาแฟจะฟินมาก ๆ หลังจากกินขนมจนพุงกางแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อนหย่อนใจอีกครั้ง.เราเดินทางเข้าที่พัก และออกมาชมวิวที่ชายหาด พระอาทิตย์ตกที่เกาะสุกรสวยมากเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะสุกรเลยแหละ…………………………………………………………….หนึ่งวันของแอดบนเกาะสุกร ถือว่าใช้ไปอย่างคุ้มค่า แฮปปี้สุด ๆ ใครอยากตามรอยมาฟินแบบแอด ก็รีบมากันนะ ป้า ๆ น้า ๆ ที่น่ารักรอต้อนรับทุกคนอยู่ค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center

ติด (ใจ) … เกาะสุกร ลองไปดูก่อน แล้วจะรัก อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top