ตรัง

ตรัง

ตุ๊ก ตุ๊ก หัวกบ เที่ยวรอบตรัง

วันนี้บัดดี้ ขออาสาพาเพื่อน ๆ  ไปนั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ เที่ยวรอบเมืองตรังกันนะคะ กลุ่มตุ๊กตุ๊กเมืองตรัง TUK TUK Trang Group พาเที่ยวทั่วตรัง ติดต่อ 08 9648 0085 เราจะเริ่มต้นกันที่สถานที่แรก วงเวียนพะยูน สัญลักษณ์เมืองตรัง ที่มีลักษณะเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ 4 ชั้น ที่เล่าถึงเรื่องราวของวรรณคดีไทย สังเกตได้จากชั้นบนสุดเป็นรูปพรานบุญจับกินรีจากเรื่องพระสุธนมโนราห์ ไล่ลงมาเป็นรูปนางเงือกจากเรื่องพระอภัยมณี ถัดไปต่อด้วยม้านิลมังกรจากเรื่องพระอภัยมณีเช่นกัน และชั้นล่างสุดเป็นรูปพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ประจำจังหวัดตรัง ไปต่อกันอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ ที่อย่างน้อยต้องนั่งรถวนผ่านสักครั้งหรือมากกว่านั้นหากได้มาเที่ยวจังหวัดนี้อย่าง หอนาฬิกา หรือที่คนตรังเรียกกันว่า “หอแหลงได้” ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นหอกระจายข่าวของเมือง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจังหวัดตรัง ต่อด้วย สตรีตอาร์ตเมืองตรัง แวะถ่ายรูปชิค ๆ กับภาพบนกำแพงที่ดึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตรังออกมาได้อย่างสวยงามและสร้างสรรค์ให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก ตามจุดต่าง ๆ 1. สตรีตอาร์ตรูปต้นศรีตรัง ต้นไม้ประจำจังหวัดตรังที่มีดอกสีม่วงครามบานสะพรั่งเต็มต้น (พิกัด : ร้านแว่นตาท็อปเจริญ ปากซอยไทรงาม ตรงข้ามกับตึกชิโนโปรตุกีส ร้านสิริบรรณ) 2. สตรีตอาร์ตรูปถ้ำมรกต Unseen ที่สวยที่สุดของจังหวัดตรัง (พิกัด : บ้านเลขที่ 17 ตึกชิโนโปรตุกีส ใกล้สี่แยกท่ากลาง ถนนราชดำเนิน) 3. สตรีตอาร์ตรูปยางพารา ที่บ่งบอกถึงความเป็นจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นจังหวัดแรกที่ได้นำต้นยางพารามาปลูกในประเทศไทยที่อำเภอกันตัง (พิกัด : ผนังบ้านในซอยไทรงาม) นั่งรถต่อไปที่ รมณียสถานพระโพธิสัตว์กวนอิม เขาหนองยวน ชมบรรยากาศความสวยงามของเมืองตรังในมุมสูงแบบ 360 องศา พร้อมสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อเป็นสิริมงคล และมาไหว้ขอพรกันต่อที่ ศาลเจ้าเปากง ที่อยู่คู่กับชาวตรังมาอย่างยาวนาน นอกจากไหว้ขอพรแล้ว ที่นี่ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้นให้ได้เดินชมกันอย่างเพลิดเพลิน จบท้ายด้วยสถานีรถไฟตรัง รถไฟประจำจังหวัด ที่มีประวัติศาสตร์อันยาว ทั้งยังเป็นเส้นเดินรถไฟไปยังสถานีรถไฟกันตังสุดสายเส้นทางอันดามัน อีกด้วย

ตุ๊ก ตุ๊ก หัวกบ เที่ยวรอบตรัง อ่านเพิ่มเติม

ตรัง ยุทธจักรความอร่อย 3 วัน 2 คืน

“ตรัง” ดินแดนแห่งอาหารเลิศรส ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ อาหารตรังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานวัฒนธรรมไทย จีน และมลายู กลายเป็น “ยุทธจักรความอร่อย” ที่รอให้เหล่านักชิมต้องมาลิ้มลอง บัดดี้ชวนเที่ยวตามรอย 9 มื้อเด็ดเสร็จที่ตรัง นำเสนอแผนการเดินทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน พาตะลุยแหล่งท่องเที่ยวดังรวมทั้งร้านเด็ด อิ่มอร่อยจุใจ มากกว่าความอร่อย ตรังยังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติอันงดงาม วัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส มาสัมผัสประสบการณ์ “ยุทธจักรความอร่อย” ที่จังหวัดตรังแล้วคุณจะหลงรัก เส้นทางท่องเที่ยวที่ ททท. สำนักงานตรังแนะนำ หากต้องการสอบถามข้อมูลหรือคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ททท. สำนักงานตรังพื้นที่รับผิดชอบ : ตรังที่อยู่ 330/3 ถ.ห้วยยอด อ.เมืองฯ จ.ตรัง 92000โทร. 0 7521 5867, 0 7521 1058, 0 7521 1085Facebook : ททท.สำนักงานตรัง : TAT Trang อาหารเมืองตรัง กินได้หลากหลาย ติ่มซำมีให้เลือกมากมาย ชวนชิมร้านดั้งเดิม ร้านเขียวโอชา ร้านภาสินีติ่มซำ 2 ร้านตรังหมูย่าง ร้านจีบขาว ร้านเฉินเจีย ติ่มซำ คาเฟ่ เป็นต้น สถานีรถไฟกันตังเป็นรถไฟสายชุมทางทุ่งสง-กันตัง สถานีรถไฟสุดทางฝั่งอันดามัน อดีตเคยเป็นท่าเรือสำคัญ ใช้รับส่งสินค้ากับต่างประเทศ ตัวอาคารเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ทาสีเหลืองสลับน้ำตาล หลังคาทรงปั้นหยา ปัจจุบันสถานีรถไฟกันตัง ไม่ได้ให้บริการเดินรถไฟแล้ว แต่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สามารถมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ถ่ายภาพบรรยากาศ ชมสถาปัตยกรรมได้ ถ้ำมรกต เป็นดินแดนแห่งความลับ ตั้งอยู่บนเกาะมุก ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายขาว น้ำทะเลสีมรกตและแสงอาทิตย์ส่องผ่านโพรงถ้ำ ข้อควรระวัง ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำมรกตในช่วงคลื่นลมแรง ควรสวมเสื้อชูชีพก่อนลงเล่นน้ำ เกาะกระดาน ได้รับการยกย่องให้เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลก ในปี พ.ศ. 2566 ตั้งอยู่บนเกาะห้า หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีมรกต และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ สามารถดำน้ำดูปะการัง ว่ายน้ำ อาบแดด เดินเล่น พายเรือคายัก บนเกาะมีบริการที่พัก ตุ๊กตุ๊กหัวกบ เป็นเสน่ห์เมืองตรัง นักท่องเที่ยวสามารถเหมารถเที่ยวรอบเมือง ไปชมจุดไฮไลต์ต่าง ๆ เช่น วงเวียนปลาโลมา สตรีตอาร์ตเมืองตรัง หอนาฬิกา จุดชมวิว สถานีรถไฟเมืองตรัง ควรตกลงราคาก่อนเดินทาง

ตรัง ยุทธจักรความอร่อย 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน

ช่วงนี้ทุกที่ในไทยถูกอาบไปด้วยแสงแดดของหน้าร้อนแล้ว หลายคนคงวางแผนไปเที่ยวทะเลสวย ๆ ต้อนรับ Summer Vibe กันแน่ บัดดี้เลยถือโอกาสมาแนะนำทะเลที่หากเพื่อน ๆ ไปแล้ว นอกจากจะได้ทั้งเล่นน้ำทะเลใส ๆ ได้ภาพสวย ๆ ปัง ๆ มาลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวกันหลายภาพแน่ หากทะเลไหนที่บัดดี้นำเสนอวันนี้สวยกระแทกใจ เพื่อน ๆ ก็เตรียมวางแผนไปกระแทกคลื่นกันได้เลย 1. หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ห่างจาก จ.กระบี่ ประมาณ 40 กิโลเมตร แต่เดิมลูกทะเลหลายคนจะเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” โดยคำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ ส่วนคำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลจำพวกแสมและโกงกาง ที่ต่อมาเรียกกันว่า “ต้นปีปี” และเพี้ยนเสียงเป็น “พีพี” ในที่สุด หมู่เกาะพีพี จะประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล มีลักษณะเป็นเวิ้งโค้ง หาดทรายขาวสวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด ที่เกาะพีพีดอนจะมีทั้งที่พัก ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2 เกาะใหญ่นี้ จะมีเกาะเล็ก ๆ รายรอบ คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก เกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะจะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ถ่ายรูปได้รัว ๆ สำหรับการเดินทางไปเกาะพีพี คือการไปกับเรือโดยสารขนาดใหญ่ (เรือเฟอร์รี่) ซึ่งสามารถเดินทางไปเกาะพีพีได้ทั้งจากท่าเรือคลองจิหลาดจ.กระบี่ และท่าเรือรัษฏา จ.ภูเก็ต ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง หากใครต้องการการเดินทางที่เร็วขึ้น สามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทได้ทั้งจาก จ.ภูเก็ต หรือ จ.กระบี่ ได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 60 นาที มีหลายบริษัทให้บริการบริเวณท่าเรือ 0 7566 1145 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://maps.app.goo.gl/3VRptYfQA76PoX1s8 2. เกาะระยั้ง จ.ตราด สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว บัดดี้ขอแนะนำ หมู่เกาะระยั้ง (ประกอบไปด้วยเกาะระยั้งในและเกาะระยั้งนอก) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะหมาก ที่เกาะนี้มีความเงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวาย หาดทรายนุ่มขาวสะอาด น้ำทะเลใส ที่สำคัญบนเกาะมีที่พักแห่งเดียวซึ่งเป็นบ้านเพียง 3 หลัง ตั้งอยู่บนเกาะระยั้งนอก ส่วนเกาะระยั้งใน ไม่มีหาดทราย ไม่มีที่พัก แต่เป็นจุดดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่สวยมาก ถึงแม้ที่นี่จะเป็นอีกเกาะที่หลายคนบอกว่าโอกาสได้มาค่อนข้างน้อยเพราะต้องจองล่วงหน้าแล้วที่นี่ก็เต็มไวเสียเหลือเกิน แต่ถ้าได้มาแล้วคุ้มค่าสุด ๆ ทั้งได้พักผ่อน ได้อยู่กับความสงบท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ได้ดำน้ำชมปะการัง จนอยากกลับมาซ้ำกันแทบทุกคน สำหรับการเดินทางไป เกาะระยั้ง เพื่อน ๆ ต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือ แหลมงอบ-เกาะหมาก เพราะทางที่พักบนเกาะระยั้งจะส่งมารับที่เกาะหมากเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาโดยรวมจากท่าเรือแหลมงอบไปเกาะระยั้งประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด 09 0948 4849https://maps.app.goo.gl/ozNJwHMEH8NNGvmC9 3. เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อีกหนึ่งเกาะสวยในใจของหลายคน ที่นอกจากทะเลสวย น้ำใสแล้ว หาดทรายขาวนุ่มละเอียดเดินได้สบายเท้าแล้ว ยังมีที่พักต่าง ๆ ให้เลือกตั้งแต่ บังกะโลไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว มีร้านอาหารและคาเฟให้เลือกฝากท้องมากมาย แถมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการดำน้ำชมปะการัง พายคายัก ตกหมึก ตกปลา พายเรือคายัก ดูการแสดงโชว์ Fire Man Show นวดผ่อนคลาย เรียกได้ว่าการมาที่นี่ทั้งได้สนุก และพักผ่อนครบจบเลยล่ะ การเดินทางไป เกาะเสม็ด เพื่อน ๆ สามารถเลือกขึ้นเรือได้จากหลายท่า ซึ่งแต่ละท่าเรือมีให้บริการทั้งเรือโดยสารธรรมดาและเรือสปีดโบ๊ท แล้วแต่ว่าเพื่อน ๆ อยากลงที่หาดไหน เช่น– ท่าเรือบ้านเพ สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวหวาย อ่าวช่อ อ่าวปะการัง– ท่าเรือนวลทิพย์ 1 สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว และอ่าวน้อยหน่า– ท่าเรือลุงหวัง อยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาล เรือจะจอดที่อ่าวลุงหวัง– ท่าเรือเสรีบ้านเพ เรือจอดที่ อ่าวพร้าว หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน หน้าด่าน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว– ท่าเรือโชคมานะ จอดตามหาด ตามที่ลูกค้าต้องการ ต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 0 3865 3034 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดhttps://maps.app.goo.gl/U6feeEaRthxV9JbBA 4. ถ้ำมรกต จ.ตรัง หนึ่งในถ้ำสวยที่เป็นผลงานแสนงามจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เป็นส่วนหนึ่งของเกาะมุก โดยถ้ำมรกต ถือเป็นถ้ำทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปข้างในได้จากโพรงถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ช่วงที่น้ำลดสามารถนั่งเรือเล็ก ๆ เข้าไปได้ แต่ถ้าช่วงน้ำขึ้นจะต้องลงน้ำ ดึงตัวไปตามเชือกเพื่อเข้าไป หลังจากผ่านถ้ำทะเลไปประมาณ 80 เมตร ก็จะเจอทางออกของอีกด้าน ที่มีโพรงขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเขียวใสและหน้าผาสูง สวยมาก ๆ เลยล่ะ การเดินทางไป ถ้ำมรกต เพื่อน ๆ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือหาดปากเมง และ ท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือหลายเจ้าคอยให้บริการ หากมาเป็นกลุ่มสามารถเหมาลำได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรือหากอยากให้คุ้ม สามารถซื้อทัวร์เที่ยวเกาะแบบวันเดย์ ที่จะมีคนนำเที่ยวได้แบบหายห่วง ซึ่งมีหลายเจ้าในเมืองตรังให้เลือก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง 08 0572

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน อ่านเพิ่มเติม

✨ Wetland ชุ่มฉ่ำใจ ในแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ชุ่มน้ำของไทย ✨

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ คือ #วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความสำคัญทางด้านทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก เพราะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีความหลากหลายของระบบนิเวศมากที่สุด ปัจจุบัน มีการสำรวจและพบว่าประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อน ๆ ทราบกันหรือไม่ว่า พื้นที่ชุ่มน้ำในไทยถูกแบ่งกลุ่มตามลำดับความสำคัญตามอนุสัญญา #แรมซาร์ รวม 131 พื้นที่ โดยแบ่งเป็น🌿 พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับระหว่างประเทศ (Ramsar Sites)🌿 พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ🌿 พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ 📌 พื้นที่ชุ่มน้ำที่หลาย ๆ คนรู้จักกัน ประกอบด้วยป่าชายเลน ป่าพรุ หนอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบและแม่น้ำ แต่ถ้าหากแบ่งตามประเภทของพื้นที่ชุ่มน้ำจริง ๆ แล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ พื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเล และพื้นที่ชุ่มน้ำในแผ่นดิน ที่สำคัญ ยังต้องประกอบไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพและความหลากหลายของระบบนิเวศ มีลักษณะเฉพาะ และเกื้อกูลสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่หาพบได้ยากหรือใกล้สูญพันธุ์ พื้นที่ชุ่มน้ำยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ศึกษาระบบนิเวศนอกห้องเรียนที่ดีอีกด้วย เพราะจะทำให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจและตระหนักถึงการช่วยกันรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน วันนี้ จึงขอแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ชุ่มน้ำของไทยว่ามีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย 😉 พรุควนขี้เสียน  พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้อยู่เขตพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพัทลุง ที่สำคัญ ยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งแรกในไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Sites) มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบสงขลา มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี มีต้นเสม็ดขาวปกคลุมโดยรอบ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด เพื่อน ๆ ที่อยากไปเที่ยวที่นี่ นอกจากจะสามารถล่องเรือชมพรุควนขี้เสียนแล้ว ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ยังมีแหล่งเที่ยวชมอีกหลายจุดได้แก่ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ทะเลสาบน้ำจืดที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลา ชมทุ่งบัวแดงแห่งภาคใต้ และฝูงกระบือที่ลัดเลาะเล่นน้ำไปตามสายน้ำ คลองปากประ แหล่งท่องเที่ยวและที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจที่มี “ยอ” อุปกรณ์จับสัตว์น้ำขนาดใหญ่ตั้งเรียงตระหง่านทั่วบริเวณ  ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงhttps://goo.gl/maps/bEk5pi3f8DxNpiS98 ป่าพรุโต๊ะแดง  หรือ ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร เป็นป่าพรุผืนสุดท้ายที่ยังมีความสมบูรณ์แห่งเดียวในไทย ครอบคลุมถึง 3 อำเภอในจังหวัดนราธิวาส มีพรรณไม้และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด แม้จะอยู่ไกล แต่หากมีโอกาสได้ไปแล้วนับเป็นสิ่งคุ้มค่าที่ได้ไปชมด้วยตาตัวเอง ที่นี่มีพรรณไม้มากกว่า 400 ชนิด รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิดอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “นกเงือกดำ” 1 ใน 13 สายพันธุ์นกเงือกที่มีอยู่ในไทย พบในป่าพรุแห่งนี้เพียงแห่งเดียว  เพื่อน ๆ สามารถเดินชมศึกษาเส้นทางธรรมชาติไปบนสะพานไม้ระยะทาง 1,200 เมตร และมีกิจกรรมพายเรือคายัคแก่เพื่อน ๆ ที่สนใจ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้ากันด้วยนะ   ตำบลปูโย๊ะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. (กรณีเที่ยวชมวันเสาร์-อาทิตย์ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่) 098 010 5736 (อาจติดต่อยากบางเวลาเนื่องจากติดภารกิจ)https://goo.gl/maps/DVPpdhWDHP2x61Bt8 อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง-ปากแม่น้ำตรัง  ทั้ง 3 พื้นที่นี้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Sites) ในอาณาเขตเดียวกัน มีพื้นที่อยู่ใกล้กัน มีระบบนิเวศที่หลากหลาย เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิดและเป็นพันธุ์ที่หายาก มีแหล่งหญ้าทะเลขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล โดยเฉพาะ “พะยูน” พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่นี้ยังครอบคลุมเกาะแก่งต่าง ๆ และแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น หาดต่าง ๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จุดชมนกบนเกาะลิบง ถ้ำมรกตบนเกาะมุก แหล่งดำน้ำชมปะการังที่เกาะแหวน ล่องเรือชมป่าชายเลนชุมชนบ้านน้ำราบ เป็นต้น  ครอบคลุมอำเภอสิเกา อำเภอปะเหลียน อำเภอกันตัง จังหวัดตรังhttps://goo.gl/maps/KzmgUo19hv5Cy7fa7 (อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม)https://goo.gl/maps/ChnG4YNThkUzvBnp6 (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง)https://goo.gl/maps/6BoUPxMUrHaKphjD9 (ปากแม่น้ำตรัง)  อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในแนวทิวเขาตะนาวศรี ที่สำคัญยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม และการประมง ภายในอุทยานฯ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เกิดจากการสร้างเขื่อนดินปิด 3 ช่องทางระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมแก่งน้ำเดิม กลายเป็นผืนน้ำขนาดกว้างใหญ่ กลางอ่างเก็บน้ำมีเกาะแก่งโผล่พ้นน้ำกระจายตัวอยู่หลายจุด ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงาม  ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงฯ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อน ล่องเรือ ตั้งแคมป์ ชมธรรมชาติพืชพรรณต่าง ๆ และยังเป็นแหล่งดูนกที่หาได้ยากหลายชนิดอีกด้วย   คลอบคลุมอำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์https://goo.gl/maps/kNJbPTsSwtLoTbLy9 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก  เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับการจัดลำดับว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ มีสภาพพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำจืด และยังเป็นแหล่งน้ำทางการเกษตรและประมงท้องถิ่นอีกด้วย ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของนกหลายชนิด และเป็นบ้านของนกกระเรียนไทย นกขนาดใหญ่ที่จัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 19 ชนิด และยังเป็นแหล่งวางไข่ของนกตีนเทียนที่อพยพมาในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นอีกด้วย  เพื่อน ๆ ที่เดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์ สามารถมาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำได้ ภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับนกกระเรียนไทย และยังมีนกกระเรียนไทยให้ได้ชมกันอีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อน ๆ สามารถทำกิจกรรมล่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมนกที่โบยบินไปรอบ ๆ ได้ แนะนำให้มาช่วงเช้า ๆ อากาศกำลังดี  ตำบลบ้านบัว อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์https://goo.gl/maps/52y6RFDLBwW8PivF6

✨ Wetland ชุ่มฉ่ำใจ ในแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ชุ่มน้ำของไทย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨รวมอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ✨

ทะเลไทยขึ้นชื่อว่าสวยงามไม่แพ้ใคร วันนี้แอดจะมาแนะนำ อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก หากใครมีโอกาสได้ไปรับรองประทับใจแน่นอน ลองตามแอดมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง 👉 สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลก่อนการเดินทางได้ที่ สำนักอุทยานแห่งชาติ โทรศัพท์ 0 2579 5269 จังหวัดพังงา 1. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่งและอำเภอเกาะยาว อุทยานฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้ทางฝั่งทะเลอันดามันที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีชายหาดและเกาะสวยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่หลายแห่ง ที่สำคัญที่นี่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากการค้นพบหลักฐานหลายอย่างที่แสดงว่า เคยมีกลุ่มชนอาศัยอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ภาพเขียนสี เศษภาชนะดินเผา ขวานหิน ฯลฯ 2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามันห่างจากฝั่งไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร อยู่ติดกับเขตชายแดนไทย-พม่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี (เกาะสต๊อก) ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังน้ำตื้นของเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ ที่นี่จึงถือเป็นแหล่งดำน้ำระดับแถวหน้าของเมืองไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก จนได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ส่วนอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น 3. อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อุทยานแห่งนี้ แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ เทือกเขาลำปี มีลักษณะเป็นภูเขาหลายลูกเรียงเป็นแนวยาว ส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีที่อายุราว ๆ 60–140 ล้านปี มีป่าดงดิบปกคลุม และอีกส่วนคือ ชายหาดท้ายเหมือง ที่มีลักษณะเป็นหาดทรายขาวสะอาดกว้างและยาว มีความเงียบสงบ เป็น่จุดวางไข่ของเต่าทะเลและที่อยู่อาศัยของนกจำนวนมาก 4.อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพังงา ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า อำเภอกะปง อำเภอท้ายเหมือง และ อำเภอเมือง ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญในจังหวัดพังงา ได้แก่ แม่น้ำพังงาและแม่น้ำตะกั่วป่า ภายในมีชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่ในเขา 2 แห่ง คือชายหาดเขาหลัก เป็นหาดหินสวยงาม มีต้นสนตลอดแนวริมหาด ส่วนอีกหาดคือ หาดเล็ก แต่อาจจะไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก เหมาะการเล่นน้ำทะเลหรือพักผ่อนริมชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบเหมือนเป็นชายหาดส่วนตัว 5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สิมิลัน มาจากภาษายาวี แปลว่า “เก้า” ซึ่งมาจากจำนวนของเกาะน้อยใหญ่ทั้งหมดที่รวมกันเป็นหมู่เกาะสิมิลัน อีกหนึ่งสวรรค์ของนักดำน้ำในไทยนั่นเองอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันประกอบไปด้วย 9 เกาะ เรียงกันจากเหนือลงมาใต้ ดังนี้-เกาะหูยง-เกาะปายัง-เกาะปาหยัน-เกาะเมี่ยง เป็นสองเกาะติดกัน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีปูไก่และนกชาปีไหน สัตว์ที่หาชมได้ยาก-เกาะปายู-เกาะหัวกะโหลก เป็นเกาะที่มีลักษณะคล้ายหัวกะโหลก มีปะกะรัง ปลากระเบนราหูและหุบเขาใต้น้ำ-เกาะสิมิลัน มีขนาดใหญ่สุด เป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังและสัตว์ทะเล มีจุดชมวิวหินเรือใบ-เกาะบางู จุดดำน้ำชมกองหินใต้น้ำ กองหินคริสต์มาสพอยต์ ต่อมาได้มีการรวมเอาเกาะตาชัยมาอยู่ในหมู่เกาะสิมิลันด้วย * พื้นที่บริเวณโดยรอบของเกาะหูยง เกาะปายัง และเกาะปาหยัน ได้ถูกสงวนให้เป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะโดยเด็ดขาด จังหวัดสตูล 6. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา “ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากภาษามลายูคำว่า “ตะโละเตรา” แปลว่า มีอ่าวมาก เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ทางด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยถึง 51 เกาะ โดยมีเกาะที่มีขนาดใหญ่ 7 เกาะ คือ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี โดยจัดแบ่งออกเป็นหมู่เกาะใหญ่ๆ ได้ 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะตะรุเตาและหมู่เกาะอาดัง-ราวี  7. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ตั้งอยู่ที่ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ติดกับชายแดนของประเทศมาเลเซีย เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางหุบเขาจีนและเขามดแดง เกิดขึ้นจากการยุบตัวของพื้นดิน โดยน้ำในบึงมาจากต้นน้ำที่ออกมาจากผนังภูเขา บริเวณรอบ ๆ ของอุทยาน มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีภูเขา น้ำตก ถ้ำ เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์หายากอย่าง เขียดว้าก (หมาน้ำ) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรูปร่างคล้ายกบที่ส่งเสียงร้องคล้ายลูกสุนัข และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองเผ่าซาไกหรือเงาะป่าอีกด้วย โดยคำว่า ทะเลบัน เพี้ยนมาจาก ภาษามลายูว่า เลิดเรอบัน ที่มีความหมายว่า แผ่นดินยุบ นั่นเอง 8. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประกอบด้วยเกาะ 22 เกาะ วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ รูปร่างแปลกตา มีลักษณะเป็นเกาะหินปูนที่มีความลาดชันมีโพรง ถํ้า หลุมยุบ หน้าผาสูงชัน จากการกัดเซาะของน้ำและลม ที่ราบบนเกาะส่วนมากเป็นหาดทรายแคบ ๆ สั้น ๆ อยู่ตามหัวแหลมของเกาะและอ่าว จังหวัดภูเก็ต 9. อุทยานแห่งชาติเขาสิรินาถเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติหาดในยาง ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดภูเก็ต ภายในบริเวณอุทยานมีป่าสนทะเล หาดทราย แนวปะการัง ที่วางไข่ของเต่าทะเล จักจั่นทะเลและเป็นที่อยู่อาศัยหอยทะเลที่หายากหลายชนิด จังหวัดตรัง 10. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา ภายในประกอบด้วยชายหาดและเกาะ 7 แห่ง โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้– ส่วนชายหาด ได้แก่ หาดปากเมง หาดฉางหลาง หาดยาว หาดหยงหลิง หาดสั้น หาดเจ้าไหม ถ้ำเจ้าไหม– ส่วนเกาะ ได้แก่ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะปลิง

✨รวมอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 16 แห่ง ✨ อ่านเพิ่มเติม

📸 ถ้ำมรกต มหัศจรรย์ทะเลตรัง 🌴

ออกไปเที่ยวดำน้ำผจญภัยลอดใต้โพรง อุโมงค์หลุมยุบ “ถ้ำมรกต” มหัศจรรย์ทะเลตรัง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ถ้ำน้ำ” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ #เกาะมุก#อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีความยาวทั้งหมด 80 เมตร ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้ลอดเข้าไปด้านในผ่านความมืด เมื่อมายังอีกฝั่งจะตะลึงกับความสวยงามตรงหน้า น้ำสีฟ้าใส เมื่อถูกแดดส่องมาจากด้านบน ทำให้น้ำข้างในกลายเป็นสีเขียวมรกตสมชื่อ พร้อมหาดทรายสีขาวสะอาด ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน สวยจริง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สายท่องเที่ยวต้องไปเห็นให้ได้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง! การเดินทาง : สามารถเช่าเรือเหมาลำจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเภา หรือแพ็กเกจนำเที่ยวจากผู้ประกอบการนำเที่ยวบริเวณท่าเรือหรือในอำเภอเมืองตรังก็ได้ จะใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือปากเมงมายังถ้ำมรกตประมาณ 40 นาที เตรียมแพลนไว้นะทุกคน หมดเดือนนี้เมื่อไหร่ปักหมุดไปกันได้เลย ปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติถ้ำมรกต : วันที่ 1 – 30 กันยายน ของทุกปี ปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติบริเวณเกาะมุก เกาะเชือก เกาะแหวน : วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน ของทุกปี ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร. 08 0572 2583 / 0 7582 9967 Facebook : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม – Hat Chao Mai National Park ที่ตั้ง : ถ้ำมรกต เกาะมุก ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 92110 พิกัด : https://goo.gl/maps/NvFMQef5dKL1Y48x5

📸 ถ้ำมรกต มหัศจรรย์ทะเลตรัง 🌴 อ่านเพิ่มเติม

นั่งรถกบ ชมเมืองตรัง

จังหวัดตรัง นอกจากจะมีทะเลสวยจับใจแล้ว ในตัวเมืองก็มีวัดวาอาราม ตึกเก่าสวยคลาสสิคน่าไปถ่ายรูปไม่น้อย ซึ่งวิธีการเที่ยวรอบเมืองตรังที่สะดวกและน่าประทับใจที่สุดก็คือ นั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบชมเมือง กิจกรรมนี้เป็นโปรแกรมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนปักไว้ว่าต้องลองสักครั้ง เพราะรถตุ๊กตุ๊กหัวกบดีไซน์คลาสสิคนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรังก็ว่าได้ ปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ไหนใช้รถรุ่นนี้แล้ว ยังเหลือก็ที่นี่เท่านั้น การเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ  เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถรอบเมืองด้วยค่าบริการคนละ 20 บาท/เที่ยว หรือจะใช้บริการนำเที่ยวในราคาเริ่มต้น 250 บาท/ชั่วโมง หรือแล้วแต่ตกลงกับคนขับได้เลยว่าจะใช้เวลาเที่ยวนานเท่าไหร่โดยจุดจอดรถตุ๊กตุ๊กหัวกบจะอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟตรัง บอกก่อนเลยว่า เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชื่นชอบตึกเก่า จะคุ้มมาก ๆ ถ้าได้มาเที่ยวตรัง เพราะจะได้เห็นวัฒนธรรมที่ผสมผสานทั้งไทย ยุโรป และจีนไปด้วยกัน  เมนูเด็ดของตรัง  มาถึงถิ่นภาคใต้ก็ต้องมากินติ่มซำกัน กระซิบบอกก่อนว่าควรมากินมื้อเช้า เพราะร้านส่วนใหญ่จะเปิดเช้ามาก ๆ และของอาจจะหมดไวด้วย มีหลายร้านให้เลือกเลย เช่น ร้านพงษ์โอชา (มี 2 สาขา) ร้านเลตรัง ติ่มซํา ร้านเตอรัง ติ่มซำ ฯลฯ เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดอีกเมนูก็คือ “หมูย่างเมืองตรัง” ถ้าเพื่อน ๆ ไปกินติ่มซำที่ร้านพงษ์โอชา ก็สามารถสั่งมาชิมได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอื่น ๆ เช่น หมูย่างเมืองตรังโกเภาโกสุยหมู่ย่าง หมูย่างโกอึ้ง ฯลฯ ไม่ไกลจากย่านร้านอาหาร มีจุดเช็คอินถ่ายรูปชิค ๆ กับภาพเขียนบนกำแพงสวยงาม เป็น Street Art ภาพวาด 3 มิติซึ่งแต่ละภาพ บ่งบอกความเป็นตรังได้อย่างชัดเจน  ที่ปากซอย ราชดำเนิน 1 มี ภาพเขียน “ต้นศรีตรัง” ต้นไม้มงคลประจำจังหวัดตรังที่มีดอกสีม่วงสดใส ยามเมื่อออกดอก ทั้งต้นจะเห็นเป็นสีม่วงอย่างในภาพเขียนที่เราเห็น จากปากซอย เดินเข้ามาเพียงแค่ 100 เมตร จะเจอกับภาพเขียน “ต้นยางพารา” ตามประวัติการปลูกต้นยางพาราในไทยนั้น พบว่าปลูกครั้งแรกที่จังหวัดตรัง โดยเป็นการนำเมล็ดเข้ามาปลูก ปัจจุบัน ต้นยางรุ่นแรกของไทยเหลือเพียงต้นเดียวที่บริเวณถนนตรังคภูมิ อำเภอกันตัง  ห่างออกไป 500 เมตร มีภาพ “ถ้ำมรกต” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนบนเกาะมุก จังหวัดตรัง จากนั้นเลี้ยวขวาไปราว ๆ 550 เมตร จะพบวิหารคริสต์เก่าแก่ “คริสตจักรตรัง” หนึ่งในสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวตรัง  วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2458 มีความโดดเด่นแปลกตา เพราะมีหอระฆังอยู่ด้านข้าง อาคารเป็นสีเหลืองมัสตาร์ดทั้งหลัง นับจากเมื่อแรกสร้างจนปัจจุบัน อาคารมีการบูรณะหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมที่งดงามคลาสสิกเอาไว้อย่างดี จนได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น เมื่อปี พ.ศ. 2552  24 ถนนเพชรเกษม ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ในเมืองตรัง เพื่อน ๆ จะได้เห็นตึกเก่า อาคารเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีสสวย ๆ หลายหลัง ถือเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นมาก เพื่อน ๆ ที่อยากมีรูปเก๋ ๆ สามารถแวะถ่ายรูปกับตึกสวยๆ กันได้นะ  “วัดตันตยาภิรม พระอารามหลวง” เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นวัดสำคัญ และเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการในจังหวัดตรังเมื่อปี พ.ศ. 2461 จุดเด่นก็คือเจดีย์ทรงบาตรคว่ำสีขาว เรียงซ้อนกัน 5 ชั้น ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติ ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันพระเท่านั้น  ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรังhttps://goo.gl/maps/tH87ppy8JkA2 “วงเวียนพะยูน” แลนด์มาร์คอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวมักมาแวะถ่ายรูป พะยูนถือเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่อยู่คู่ทะเลตรัง พบมากบริเวณเกาะลิบง เพราะเป็นพื้นที่อุดมไปด้วยหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูนนั่นเอง  อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือนายคอซิมบี้ ณ ระนอง บุคคลที่ชาวตรังรักและระลึกถึงอยู่เสมอ ในฐานะผู้สร้างคุณูปการให้แก่เมืองตรังมากมายหลายด้าน อาทิ การคมนาคม เกษตรกรรม กสิกรรม การศึกษา การปกครอง และยังเป็นผู้ที่นำยางพารามาปลูกที่จังหวัดตรัง  อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีhttps://goo.gl/maps/pFayNfhCEgL2

นั่งรถกบ ชมเมืองตรัง อ่านเพิ่มเติม

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก”

เมื่อร่างกายต้องการความหวาน จะมี “น้ำตาล” ชนิดไหนบ้างมาช่วยเติมความอร่อยลงในอาหารแต่ละมื้อของเรา ในบ้านเรามีกระบวนการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาทำเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำตาลปึก” เป็นการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาเคี่ยวให้เหนียวและข้นจนเป็นสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน ๆ จับให้เป็นก้อน แล้วพักไว้ให้เย็น เป็นภูมิปัญญาเรื่องอาหารที่ส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันก็ยังมีการใช้น้ำตาลปึกในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำน้ำตาลปึกให้มีคุณภาพเพื่อจำหน่าย และช่วยให้เกิดอาชีพในชุมชน น้ำตาลจากภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นจะผลิตจากวัตถุดิบใดบ้าง ไปดูกัน อ้อย พืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้ชุมชน สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้หลายรูปแบบ รวมถึงน้ำตาลปึก โดยคั้นเอาน้ำจากลำตัน นำไปเคี่ยวจนเหนียวหนึบ แล้วนำมาหยอดเป็นก้อนกลม ปัจจุบันมีเหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังผลิตน้ำตาลอ้อยแบบโบราณกันอยู่ หาซื้อได้ที่ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสรรพสิ่งบ้านนากลาง ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ 086 351 2633 วิสาหกิจชุมชนน้ำตาลทรายแดง บ้านวังหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 081 008 3965 มะพร้าว พืชตระกูลเดียวกับปาล์ม สามารถเก็บน้ำตาลได้จากช่อดอกมะพร้าว โดยการตัดปลายช่อออก แล้วนำกระบอกมารองน้ำตาลที่จะไหลออกมา ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะได้น้ำตาลจากมะพร้าวเต็มกระบอก เพื่อน ๆ สามารถหาชมการทำน้ำตาลปึกจากมะพร้าวได้ในบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น กลุ่มน้ำตาลมะพร้าวตาหลวง หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 081 014 8345, 083 026 3005, 090 437 8831, 085 393 9499 บ้านเตาไทยเดิม หมู่ 4 ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 087 321 1288, 089 770 7541 ตาลโตนด การเก็บน้ำหวานจากตาลโตนด มีวิธีการคล้ายกับการเก็บน้ำตาลมะพร้าว แต่จะนิยมเก็บน้ำตาลจากต้นตัวผู้ เนื่องจากทำง่ายกว่า ใช้ “ไม้คาบ” อุปกรณ์สำหรับการนวดจั่นตาล (งวงดอกตาล) นวดวันละ 1 ครั้งไป 3-4 วัน จากนั้นตัดปลายจั่นแล้วเอากระบอกรองเก็บน้ำตาล ก็จะได้น้ำตาลจากตาลโตนด สามารถกินเป็นน้ำตาลสด หรือเอาไปทำน้ำตาลปึกได้ ตาลโตนดที่ขึ้นชื่ออยู่ที่เพชรบุรี นอกจากนี้ก็ยังมีที่อื่น ๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น สวนตาลลุงถนอม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 087 800 7716 วิสาหกิจชุมชนบ้านปากคลองเกยไชย ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 084 657 7227, 098 549 9974 ต้นจาก อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่เกือบสูญหาย คือการทำน้ำตาลจากต้นจาก พืชตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำไปทำน้ำตาลปึกได้ การเก็บน้ำตาล ทำโดยการตัดเอาจาก “งวงจาก” คือส่วนก้านของผลจากที่มี 30 ผลขึ้นไป ลอกกาบออก ตัดปลายงวงที่มีทะลายจากออก ทำซ้ำเป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 4 จึงสามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้ นำกระบอกที่เจาะรูด้านข้างไว้เพื่อเสียบงวงจากได้ ทิ้งไว้ 1 คืนก็จะได้น้ำตาล ส่วนมากทำกันในแถบภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นจากจำนวนมาก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง เป็นต้น วิสาหกิจแปรรูปน้ำตาลจาก “ขนาบนาก” หมู่ 5 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 095 682 4343 วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่จากอำเภอกันตัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 083 088 4978

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก” อ่านเพิ่มเติม

รวมพิกัด Street Art กันตัง

อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไม่เพียงตึกรามบ้านช่องที่คลาสสิกสวยงาม กันตังยังมี Street Art สนุก ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวกันตังอยู่ทั่วเมืองอีกด้วย วันนี้ แอดมินมีจุดถ่ายรูป Street Art ในตัวอำเภอกันตังกันมาฝาก เช็คพิกัดแล้วก็ไปลุยกันเลย เพื่อให้เพื่อน ๆ หา Street Art ที่ซ่อนตัวอยู่ในกันตังได้ง่ายขึ้น แอดเลยนำพิกัดมาแจก มีด้วยกันทั้งหมด 8 จุด (12 ภาพ) เรียงลำดับตามการเดินทางแบบง่าย ๆ และไม่ต้องย้อนไปมาด้วยจ้า หรือเพื่อน ๆ สะดวกตรงไหนก่อน ก็คลิกไปตามลิงก์ต่าง ๆ ได้ พร้อมกับชมสถานที่ท่องเที่ยว อาคารเก่าแก่บริเวณใกล้เคียง และร้านอาหารอร่อย ๆ ได้อีกด้วย  จุดที่ 1 https://goo.gl/maps/vwruQJ8EYiGSk65E8  จุดที่ 2 https://goo.gl/maps/USxLBqZ6szpE4bXUA  จุดที่ 3 https://goo.gl/maps/7gtPioht6N14LwcU9  จุดที่ 4 https://goo.gl/maps/rqtnRUuyFR6NGzkz7  จุดที่ 5 https://goo.gl/maps/tBZVaC4nH7wcze9Y9  จุดที่ 6 https://goo.gl/maps/jZcDTtuNBKuLf21u5  จุดที่ 7 https://goo.gl/maps/c7qbjPRX7bWoVGVH7  จุดที่ 8 https://goo.gl/maps/2rnN6eJacq8iC5Zi6 Street Art ในกันตัง บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของชาวกันตัง ผ่านภาพวาดอย่างลงตัว แต่ละภาพวาดโดยศิลปินจิตอาสา ภายใต้แนวคิด “วิถีกันตังคัลเลอร์ฟูล”  ที่เห็นอยู่นี้คือภาพหญิงสาวแสนสวยในชุดจีนที่วาดลงบนกำแพงไม้เก่า ๆ สวยและมีเสน่ห์จนใครเห็นเป็นต้องแวะถ่ายภาพ  ระยะทางชม Street Art โดยรวมประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยระยะห่างระหว่างภาพต่อภาพบางจุดก็สามารถเดินถึงกันได้ หรือถ้าอยากเช่ารถกบชมเมืองไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แล้วแต่ตกลงราคากับคนขับได้เลย ภาพนกนางแอ่นน้อยน่ารักที่กำลังร้องเพลง  สื่อให้นึกถึงชาวกันตังที่ประกอบอาชีพเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะลิบง ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมายาวนาน แถมข้าง ๆ ภาพนกนางแอ่น ยังมีภาพวาดบนกำแพงอีก 2 ภาพให้เพื่อน ๆ ได้เช็คอินถ่ายรูปกันด้วย อีกอาชีพของชาวกันตังคือทำประมง  เนื่องจากที่อำเภอกันตังมีแม่น้ำตรังไหลผ่าน นอกจากจะเป็นแม่น้ำสายสำคัญแล้ว ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำหลากชนิด สร้างรายได้ให้แก่ชาวประมงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนเจ้าสล็อตจอมเฉื่อยตัวนี้ก็คงกำลังหาปลาไปขายอยู่สินะ ระหว่างเดินเที่ยวเล่น เพื่อน ๆ สามารถพักเหนื่อยเติมพลังแถวนี้ได้เลย บริเวณนี้มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารทั่วไป อาหารซีฟู้ดส์ ติ่มซำ หรือคาเฟ่เก๋ ๆ  ภาพวาดมังกรแดงนี้ สื่อให้เห็นว่า ครั้งหนึ่งตรังก็ได้รับอิทธิพลจีนด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการค้าต่าง ๆ การอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดตรัง ตลอดจนการเข้ามามีบทบาทในการสร้างเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างวัฒนธรรมผสมผสานไทย-จีนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งอาคาร สถาปัตยกรรม ศาลเจ้า และติ่มซำ ยังมี Street Art อีกหลายจุดให้เพื่อน ๆ ตามไปเก็บ เช็คอิน และถ่ายรูปกันอย่างต่อเนื่อง ใครที่ยังไม่เคยไป แอดแนะนำเลยค่ะ หรือใครที่เคยไปมาแล้ว ก็เอารูปมาอวดกันได้นะ 

รวมพิกัด Street Art กันตัง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top