กระบี่

กระบี่

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวหลายคนเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกระบี่อาจมองข้ามหรือผ่านเลยไป แต่ถ้าลองหาโอกาสแวะมาเที่ยวชมภายในอุทยานฯ ซึ่งมีทั้งป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตกสวย ๆ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็จะพบว่าที่นี่ถือเป็นสถานที่ฮีลใจ เป็นแหล่งโอโซน และบำบัดความเครียดได้เป็นอย่างดี อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ครอบคลุมท้องที่อำเภออ่าวลึก อำเภอเขาพนม และอำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เขาพนมเบญจาเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีไอหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ลำธาร น้ำตก ถ้ำต่าง ๆ และสัตว์ป่านานาชนิด มีเนื้อที่ประมาณ 31,325 ไร่ หรือ 50.12 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาที่เขียวชอุ่มสลับซับซ้อน มีหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วยเขาพนมและเขาพนมเบญจา เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอดจากเหนือจรดใต้ ซึ่งมียอดเขาสูงสุด คือ “ยอดเขาพนมเบญจา” มีความสูง 1,397 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นยอดเขาสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภาคใต้ เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำสายสำคัญที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในตัวเมืองกระบี่ ได้แก่ คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น คลองโตน คลองกระบี่น้อย คลองพอทาก ห้วยสะเค ห้วยส้าน และห้วยไผ่ ลักษณะภูมิอากาศ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาอยู่ในเขตมรสุมเมืองร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี ประกอบด้วย 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน และฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม จะมีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่อุทยานฯ มีดังนี้“น้ำตกห้วยโต้” น้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น ลงเล่นน้ำได้ 5 ชั้น ได้แก่ วังชก วังสามหาบ วังจงลอย วังปรงและวังเทวดา มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำตกห้วยโต้ ระยะทาง 3.87 กิโลเมตร เส้นทางผ่านจุดชมวิวและแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นน้ำที่นำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าถวายในพระราชพิธีต่าง ๆ “น้ำตกห้วยสะเค” น้ำตกขนาดเล็ก มีทั้งหมด 3 ชั้น สภาพป่าสองข้างทางขึ้นน้ำตกมีความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้นานาชนิด “ต้นสมพง” รุกขมรดกแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา ต้นสมพงต้นนี้ เป็นต้นไม้ที่หากวัดรอบโคนต้นจะมีความกว้างถึง 35 เมตร สูงกว่า 30 เมตร มีความสูงพอ ๆ กับตึก 10 ชั้น และมีอายุประมาณ 120 ปี นับเป็นรุกขมรดกหรือต้นไม้ใหญ่ที่ทรงคุณค่า สามารถใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกห้วยสะเค ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เพียงไม่กี่นาที ก็จะพบกับต้นสมพง สัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์หนึ่งแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา “ยอดเขาพนมเบญจา” หากว่าใครอยากวัดกำลังขาและความอึดของตัวเอง สามารถเดินป่าพิชิตยอดเขาพนมเบญจา มีระยะทางไป-กลับประมาณ 10 กิโลเมตร ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ท้าทาย โดยทางอุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินแค่ 1-2 กลุ่มต่อเดือนเท่านั้น จะเห็นได้ว่าตลอดทางเดินจะมีใบไม้ปกคลุมเยอะ การเดินทางขึ้นไปถึงยอดเรียกได้ว่าค่อนข้างลำบาก มีทางราบไม่ถึง 100 เมตร บวกกับทางเดินที่ชันถึง 45-60 องศาเลยก็ว่าได้ และบางช่วงเป็นหินที่จะต้องปีนป่าย แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างทางค่อนข้างร่มรื่น ระหว่างทางจะมีจุดให้เติมน้ำ จุดตั้งแคมป์จะตั้งอยู่ริมน้ำ สามารถผูกเปลและกางเต็นท์ได้ สัมภาระทุกอย่างจะต้องแบกเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าแดนใต้ที่มีความท้าทาย และอาจไม่เหมาะกับนักเดินป่ามือใหม่สักเท่าใดนัก นักท่องเที่ยวที่สนใจพิชิตยอดเขาพนมเบญจา จำเป็นต้องทำการจองกับทางอุทยานฯ ล่วงหน้า อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวก มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ บ้านพักรับรอง ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ ใครที่คิดว่ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาแล้วต้องสมบุกสมบัน เห็นทีต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว สอบถามข้อมูลการจองที่พักอุทยานแห่งชาติ☎️ โทร. 0 2562 0760 ถึง 3 หรือ 0 2561 0777 ต่อ 1743, 1744📌 https://maps.app.goo.gl/aXQ4LWAWc9HwyReR9

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่ อ่านเพิ่มเติม

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า

บัดดี้พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไปอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา หาดไร่เลย์ และหาดถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า เส้นทางนี้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย~ บทความยาว ๆ อ่านบทความเดียวก็เที่ยวตามได้เลย เพราะว่าเราจะบอกข้อมูลสำคัญครบ ได้แก่👉🏻 การเดินทางไปหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี👉🏻 มุมสวยหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 การเดินทางไปไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง👉🏻 มุมสวยไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง การเดินทางจากตัวเมืองกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนางที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีบริการรถบัสโดยสารปรับอากาศเข้าตัวเมืองกระบี่ เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง จุดจำหน่ายบัตรโดยสารและรอขึ้นรถ จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 15 เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงประตูทางออก ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยรถจะวิ่งถนนเส้นหลักเลียบแนวหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง สามารถแจ้งคนขับก่อนรถออกจากท่าว่าพักโรงแรมอะไรในเส้นทางนั้นได้ คนขับจะจอดส่งให้ลงริมถนนเส้นหลักที่ใกล้กับโรงแรมที่พักมากที่สุด ขากลับหากต้องการใช้บริการรถสายนี้จากอ่าวนางหรือหาดนพรัตน์ธาราไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แนะนำให้โทรจองที่นั่งล่วงหน้า 1 วัน ก่อนวันเดินทางกลับ เพราะบริษัทรถจะนัดเวลาให้มารอขึ้นรถริมถนนเส้นหลักที่รถจะผ่านและจอดแวะรับ โดยทางบริษัทรถจะนัดหมายเวลาขึ้นรถให้กับนักท่องเที่ยวตามข้อมูลเที่ยวบินของนักท่องเที่ยว เพื่อให้เดินทางไปทันขึ้นเครื่องบินต่อไป อัตราค่าโดยสาร เที่ยวไปและเที่ยวกลับราคาเดียวกัน💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่ 80 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-ตัวเมืองกระบี่ 90 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง 150 บาท สอบถามข้อมูล: บริษัท พิเชษฐ์ ขนส่ง จำกัดโทร. 08 2468 2426, 08 2468 2426, 09 9282 1424 จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีขาว) สายสถานีขนส่งฯ – ตัวเมืองกระบี่ – หาดนพรัตน์ธารา – อ่าวนาง – อ่าวน้ำเมา ให้บริการตลอดทั้งวัน อัตราค่าโดยสาร 50 บาท ตลอดสาย ใครที่มาเที่ยวกระบี่ หากพักหรือเที่ยวในตัวเมืองก่อน สามารถมาขึ้นรถสองแถวสายนี้ที่บริเวณหัวมุมถนนมหาราช ซอย 8 ใกล้กับห้างโวค (Vogue Shopping Center) ในตัวเมืองกระบี่ เพื่อไปเที่ยวต่อที่อ่างนางหรือหาดนพรัตน์ธารา ที่พักโซนหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง มีที่พักเอกชนให้บริการมากมายหลายระดับราคา แต่ในบทความนี้ขอพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับที่พักราคาประหยัด ทำเลที่ตั้งและบรรยากาศดี คือ บ้านพักและจุดกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา บ้านพักอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา เพียงข้ามถนนไปก็เป็นชายหาดนพรัตน์ธารา มีบ้านพักแฝดประมาณ 10 หลัง ใน 1 หลัง แบ่งเป็นห้องพัก 4 ห้อง แต่ละห้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ราคาห้องละ 1,500 บาท ภายในประกอบด้วย เตียงนอน 2 เตียง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และห้องน้ำในตัว ถือว่าราคาสมเหตุสมผล และตั้งอยู่ในทำเลที่ดีด้วย 📌 พิกัดบ้านพักอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/5MGS1uVMMVL5aGFE8 ในส่วนของพื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ และโซนบ้านพักอุทยานฯ เดินประมาณ 150 เมตร ก็ถึงหาดนพรัตน์ธารา นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มากางเอง เสียค่าธรรมเนียมหลังละ 30 บาทต่อคืน หรือเช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอนของอุทยานฯ ก็ได้ ค่าเช่าเต็นท์ของอุทยานฯ หลังละ 225 บาท (นอนได้ 2-3 คน) เครื่องนอนชุดละ 60 บาท บริเวณเดียวกันนี้ยังเป็นที่จอดรถบ้านด้วย มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ พิกัดลานกางเต็นท์ของอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/RAUhyNPERczo7W2m9 📌 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ที่ 5 หาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 💸 อัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท *แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระอัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ อัตราพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะไม้ไผ่ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักและจุดกางเต็นท์ ร้านอาหารสวัสดิการ สามารถจองบ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php ☎️ สอบถามข้อมูลโทร. 0 7566 1145 (ที่ทำการอุทยานฯ)โทร. 0 7565 6150, 08 9871 1082 (บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ) 📌 หาดนพรัตน์ธารานักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่ลานจอดรถบริเวณที่ทำการอุทยานฯ และเดินเท้าผ่านแนวต้นสนทะเลมาประมาณ 50 เมตร ถึงหาดนพรัตน์ธารา หาดนพรัตน์ธาราอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ แต่การเดินเที่ยวชม พักผ่อน หรือเล่นน้ำที่หาดนี้ นักท่องเที่ยวไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา มีลักษณะเป็นชายหาดยาว ตอนเหนือของหาดติดกับปากคลองแห้ง เป็นจุดที่คลองแห้งไหลออกสู่ทะเล และบริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีด้วย ส่วนทางตอนใต้ของหาดมีพื้นที่ต่อเนื่องกับหาดอ่าวนาง ทางตอนเหนือของหาดนพรัตน์ธารา มีหาดทรายสีขาว เม็ดละเอียด น้ำทะเลสวยใส นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำและนอนอาบแดดกันบริเวณนี้ จุดนี้ทางอุทยานฯ ห้ามเรือทุกชนิดเข้ามาจอดที่หน้าหาด เพื่อเปิดพื้นที่ชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย บริเวณปลายแหลมทางตอนเหนือของหาด เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว จากหาดนพรัตน์ธารา สามารถเดินเท้าไปเที่ยวต่อยังอ่าวนางได้ เพราะชายหาดยาวต่อเนื่องกัน หรือหากใครไม่อยากเดิน จะมีรถสองแถว (สีขาว)

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน

ชวนไปท่องเที่ยวจังหวัดชายฝั่งอันดามันที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลาย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวบนบก ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้กระบี่ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อได้อย่างกลมกลืน ความหลากหลายเช่นนี้ทำให้กระบี่มีรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและทุกวัยได้อย่างเหมาะสม วันที่ 1📌 ท่าปอม คลองสองน้ำ📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก วันที่ 2📌 หมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี📌 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ)📌 ลากูนเกาะห้อง (ทะเลใน)📌 เกาะเหลาลาดิง📌 เกาะผักเบี้ย📌 อ่าวนาง วันที่ 3📌 หาดนพรัตน์ธารา📌 อ่าวไร่เลย์📌 หาดไร่เลย์ตะวันตก📌 หาดไร่เลย์ตะวันออก📌 หาดถ้ำพระนาง📌 วัดถ้ำเสือ

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker

เกาะจำ เกาะใกล้ฝั่งของทะเลกระบี่ ที่เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนฮีลใจ และลองใช้ชีวิตแบบ Slow life เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวสายแบกเป้น่าจะชื่นชอบ บรรยากาศบนเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งน่ารักและใจดี 🥰 📌 เกาะจำ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ห่างจากฝั่งอำเภอเหนือคลองประมาณ 23 กิโลเมตร บนเกาะมี 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเกาะปู บ้านเกาะจำ และบ้านติงไหร จากคำบอกเล่าของชาวบ้านถึงความเป็นมาของเกาะ เมื่อราว 200 กว่าปีก่อน มีชาวพื้นเมืองมุสลิมอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะปู” ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาจากเกาะจำนุ้ยซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง รวมกับชาวจีนที่ทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานรวมกันทางตอนใต้ของเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะจำ” ดังนั้นเกาะแห่งนี้จึงมีชื่อเรียก 2 ชื่อ แต่ก็คือเกาะเดียวกัน เกาะจำ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นเกาะใกล้ชายฝั่ง แต่ช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ ฟ้าใส แดดดี และน้ำทะเลสวยน่าเล่น คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคม พิกัดแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ รอบเกาะ👉🏻 หาดช่องกิ่ว👉🏻 หาดลุโบ๊ะ👉🏻 Rock View Terrace👉🏻 ท่าเรือบ้านเกาะปู👉🏻 หาดติงไหร ชาวบ้านบนเกาะจำมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนยางพารา ทำเครื่องแกงและน้ำพริกจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะส่วนใหญ่เป็นชายหาด มีชายหาดสวยหลายแห่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ เช่น หาดช่องกิ่ว หาดลุโบ๊ะ หาดติงไหร ท่าเรือชุมชนบ้านเกาะปู เป็นต้น การเดินทางไปเกาะจำ ต้องไปขึ้นเรือโดยสาร ณ ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่📌 พิกัดท่าเรือแหลมกรวด: https://maps.app.goo.gl/a88vVK7LYnUzdzPJ7 การเดินทางไปท่าเรือแหลมกรวด 🚌1. รถยนต์จากตัวเมืองกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) จนถึงตัวอำเภอเหนือคลอง จากนั้นแยกไปทางขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4036 ตรงไปจนถึงท่าเรือแหลมกรวด รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือแหลมกรวด มีบริการรับฝากรถยนต์ คันละ 100 บาท/คืน 2. รถโดยสารประจำทางในตัวเมืองกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีฟ้า) สายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด จุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) รถจะผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ตัวอำเภอเหนือคลอง และไปจอดหน้าทางเข้าท่าเรือแหลมกรวด ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 60 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังท่าเรือแหลมกรวดประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลรอบเวลารถ โทร. 08 9970 8261 นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถสองแถว (สีฟ้า) สายกระบี่-เหนือคลอง ซึ่งมีจุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) ใกล้กับจุดจอดรถสองแถวสายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด ผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไปสิ้นสุดที่ตลาดในตัวอำเภอเหนือคลอง ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังตัวอำเภอเหนือคลองประมาณ 45 นาที ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลองมีเรือโดยสารเป็นเรือยนต์ให้บริการไปกลับเกาะจำ โดยท่าเรือบนเกาะจำ มี 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมูตู ท่าเรือบ้านเกาะจำ และท่าเรือบ้านเกาะปู ท่าเรือหลักสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางไปกลับเกาะจำ คือ ท่าเรือมูตู ส่วนท่าเรือบ้านเกาะจำและท่าเรือบ้านเกาะปูนิยมใช้ในการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือแหลมกรวด-ท่าเรือมูตู09.00 น. / 10.00 น. / 11.30 น. / 13.00 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 17.30 น. / 18.00 น. ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือมูตู-ท่าเรือแหลมกรวด06.30 น. / 07.00 น. / 08.00 น. / 08.30 น. / 10.30 น. / 13.30 น. / 14.30 น. / 16.00 น. 💸 อัตราค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวไทย 70 บาทนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 140 บาทชาวบ้านบนเกาะ 40 บาท ⏰ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40 นาที ท่าเรือมูตู ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะจำ ไม่มีสะพานท่าเรือ การขึ้นลงเรือจะใช้วิธีเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ บริเวณท่าเรือจะมีจุดจำหน่ายตั๋วเรือขากลับขึ้นฝั่ง มีรถกระบะและจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดรอให้บริการรับส่งไปยังที่พักและจุดต่าง ๆ บนเกาะ ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น จากท่าเรือมูตูไปยังที่พักหาดช่องกิ่วซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ ค่าบริการรถกระบะไปส่ง 200 บาท เป็นต้น และยังสามารถติดต่อเหมารถกระบะที่ท่าเรือให้พาไปเที่ยวรอบเกาะได้ ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมหาดทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ ที่พักส่วนใหญ่จะมีร้านอาหารของที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่แขกผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวระหว่างวัน ส่วนทางฝั่งตะวันออกและทางใต้ของเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนท้องถิ่นและท่าเรือ ลักษณะของที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นบังกะโลคล้ายบ้านเป็นหลัง ๆ และอยู่ริมชายหาด มีบางแห่งที่สร้างเป็นอาคารคล้ายตึกแต่ไม่สูงมาก บนเกาะจำมีที่พักไม่เยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ บนเกาะจำ

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

9 วัดมหาธาตุ เสริมสิริมงคล

เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า วัดที่มีคำว่า “มหาธาตุ” อยู่ท้ายชื่อวัด เป็นวัดที่มีพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนที่ได้ให้ความเคารพ ความศรัทธา และต้อนรับให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมศาสนสถานของประเทศไทย วัดที่มีคำว่ามหาธาตุ มีมากมายในประเทศไทย แต่วันนี้บัดดี้ขอแนะนำ 9 วัดมหาธาตุ ทั่วประเทศ สามารถเดินทางไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ 1. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร วัดเก่าแก่มีมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ ณ ภายในพระมณฑป และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 07.30-18.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/jsno8HoTAoVQG7BC9 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: สตรีทฟู้ดเยาวราชMust Try: สนามมวยราชดำเนินMust Buy: กางเกงช้างMust Seek: ย่านทรงวาด ตลาดน้อยMust See: การแสดงทางวัฒนธรรม 2. วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม เมื่อปี พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ พบของโบราณหลายชิ้นที่สําคัญคือผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุได้รับการนําไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในภาพคือเศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ปกคลุมเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุม มีความงดงามและเป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญของที่นี่ เปิดทุกวัน (มีค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/iSm3ferrATqXweyk8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: โรตีสายไหมMust Try: อยุธยามาราธอนMust Buy: เครื่องหอมเก้ากลิ่นอยุธยาMust Seek: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาMust See: เทศกาลโขนกรุงศรีฯ 3. วัดมหาธาตุวรวิหาร หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดหน้าพระธาตุ) จังหวัดราชบุรี ที่นี่คือโบราณสถานที่พาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทวาวรดีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการสันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้น ราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 ไล่เลี่ยกับการสร้างเมืองราชบุรีเก่า สิ่งที่น่าชมภายในวัด ได้แก่ วิหารหลวง อันเป็นที่ประดิษฐานพระมงคลบุรี พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น องค์พระปรางค์มีความสูง 24 เมตร ผนังส่วนบนเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้าในซุ้มเรือนแก้วเป็นแถวเรียงต่อกัน ตอนล่างเป็นพุทธประวัติ เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/haTuDRzVuvVmfjjC7 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ไก่ย่างบางตาลMust Try: พายซัพบอร์ดแม่น้ำแม่กลองMust Buy: เซรามิก กระถาง โอ่งมังกรMust Seek: ตลาดน้ำดำเนินสะดวก-ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั้กMust See: ตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย 4. วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นวัดสำคัญของกรุงสุโขทัยและเป็นศูนย์รวมทั้งงานด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุเป็นเจดีย์ประธาน ลักษณะทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ รายรอบด้วยปรางค์ศิลาแลง 8 องค์ เปิดทุกวัน (มีค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่)เวลา 06.30-19.30 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/AQjrAqj7iRqVChoW8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยMust Try: ปั่นจักรยานชมอุทยานประวัติศาสตร์ในสุโขทัยMust Buy: เครื่องสังคโลกMust Seek: อุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดสุโขทัยMust See: งานสงกรานต์และงานลอยกระทง 5. วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ เป็นวัดเก่าแก่มีตำนานเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า มีพระประธานนาม “หลวงพ่อประธานเฒ่า” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ เรื่อง พระสังข์ทอง ด้านหลังวิหารมีพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นแบบลังกา เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/gumDQmDo3dJnAf1s8 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: หมี่พันMust Try: พิชิตยอดภูสอยดาว 2,102 Mls.Must Buy: ทุเรียนหลง-หลิน ลับแลMust Seek: บ่อเหล็กน้ำพี้Must See: งานมหกรรมทุเรียนหลง-หลิน ลับแล 6. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก เป็นโบราณสถานและพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อ พ.ศ. 1900 มีพระประธานองค์ใหญ่ประดิษฐานในวิหารคือ “พระพุทธชินราช” ซึ่งชาวเมืองพิษณุโลกนิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” มีความสำคัญ คือ พระมหากษัตริย์ของไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ เสด็จมาสักการะบูชา ถือเป็นธรรมเนียมในการมาเยือนเมืองพิษณุโลก เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 06.00-20.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/TwjCoaubeDhDnVnB7 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: ผัดไทยวังทองMust Try: ล่องแก่งลำน้ำเข็กMust Buy: กล้วยเบรคแตกMust Seek: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีMust See: งานนมัสการพระพุทธชินราช 7. วัดมหาธาตุ (พระธาตุนคร) จังหวัดนครพนม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 1150 โดยสร้างขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม เป็นวัดประจำเมือง มีพระธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ พระธาตุนครเป็นพระธาตุประจำวันเกิดสำหรับผู้ที่เกิดในวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการพระธาตุนคร จะได้รับอานิสงส์ มีความสุขสวัสดิ์ มีความมั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง เสริมบารมี อำนาจวาสนา ด้านหน้าวัดมหาธาตุ สามารถเดินลัดเลาะพร้อมชมบรรยากาศแนวเขื่อนเลียบริมน้ำโขง เปิดทุกวัน (สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา)เวลา 07.00-17.00 น.พิกัด https://maps.app.goo.gl/W9pAUbrYB2B1yHv77 แนะนำกิจกรรม/แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงMust Taste: จิ้มจุ่ม ปลาเผาMust Try: วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วนMust Buy: สัปปะรดท่าอุเทนMust Seek:

9 วัดมหาธาตุ เสริมสิริมงคล อ่านเพิ่มเติม

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล

ถ้าพูดถึง ‘จังหวัดกระบี่’ บัดดี้เชื่อว่าเพื่อน ๆ มักจะนึกถึงทะเล  แต่วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกระบี่มุมมองใหม่ พักกาย พักใจ แบบให้ธรรมชาติเยียวยา บอกเลยว่ากระบี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลแน่นอน 💚🤗 สำหรับทริป ‘พักกาย พักใจ ให้ธรรมชาติเยียวยา’ ในครั้งนี้ บัดดี้ขอพาไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามของ ‘จังหวัดกระบี่’ กับ 4 สถานที่หลัก ๆ ที่รับรองว่ามาถึงแล้วสบายกาย สบายใจ แน่นอนค่ะ 💚 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช📌 เขาขนาบน้ำ📌 ชุมชนเกาะกลาง📌 AMATAYA Wellness 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากชาวกระบี่มีความศรัทธาในพญานาคมาก เพราะเชื่อว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และอุดมสมบูรณ์ โดยรูปปั้นพญานาคที่ตั้งอยู่บริเวณลานพระอาทิตย์ หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่นั้น จะหันหน้าเข้าหาปากแม่น้ำกระบี่ทางทิศตะวันตก รับแสงอาทิตย์ตกยามอัสดง ราวกับว่าได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ 🙏 ที่นี่สามารถขอพรได้ทุกเรื่องตามใจปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ ใครที่จะมาขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช วันนี้บัดดี้มีทริกในการไหว้ขอพรให้ปังมาแจกค่ะ ✨1. ให้ไปไหว้หลวงปู่ทวดที่ศาลาเล็ก ๆ บริเวณทางด้านขวามือขององค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราชก่อน โดยสามารถไหว้มือได้เลยไม่ต้องจุดธูป หลังจากไหว้เสร็จแล้วแนะนำให้ใช้สองมือลูบลูกแก้วบนตักหลวงปู่ทวดแล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนา2. กลับมาไหว้องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช บริเวณลานพระอาทิตย์ โดยจะไหว้มือ หรือจุดธูปไหว้ 9 ดอก ก็ได้เช่นกัน แล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนาได้เลย 📌 ลานพระอาทิตย์ หากมาไหว้ขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เสร็จแล้ว บัดดี้แนะนำให้เดินมายัง ‘ลานพระอาทิตย์’ บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (จากองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช ให้เดินมาทางซ้ายมือ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตา) จะเจอกับลานกว้าง ๆ จากนั้นก้มหน้ามองอิฐบนพื้นเลยค่ะ หาจุดศูนย์กลางของพื้น จากนั้นให้ลองไปยืนตรงนั้นแล้วปรบมือดูค่ะ เราจะได้ยินเสียงปรบมือที่ก้องขึ้น 👏 ชาวบ้านเชื่อกันว่า จุดนี้เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานที่ดีทั้งหมด และยังมีความเชื่ออีกว่าในวันที่พระจันทร์เต็มดวง หากไปยืนอยู่ตรงจุดนั้น จะได้รับพลังงานที่ดีให้กับชีวิตนั่นเอง 👍 📌 เขาขนาบน้ำ เขาขนาบน้ำ เป็นเขาหินปูน 2 ลูก ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งขนานกันอยู่สองฝั่งแม่น้ำกระบี่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่เลยก็ว่าได้ บัดดี้บอกเลยว่าจุดนี้สวยมาก ๆ เลยค่ะ ใครเป็นสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป ถูกใจแน่นอน แนะนำให้เช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือท่าเรือปูดำ ล่องเรือไปชมแบบใกล้ ๆ และแวะชมถ้ำที่เขาขนาบน้ำนะคะ 🏞️ บริเวณเขาขนาบน้ำ จะมีบันไดให้ขึ้นไปยังถ้ำที่เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานภายในถ้ำที่ขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2542 ใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์ บัดดี้บอกเลยว่าบริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะปากถ้ำจะแสดงผลงานศิลปะของ Tu Wei Cheng ศิลปินชาวไต้หวัน ส่วนภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย ปล่องภูเขาที่มีแสงสว่างส่องลงมาด้านล่าง ทำให้ในถ้ำนั้นระบายอากาศได้ดี มีลมพัดเย็น ๆ เล็กน้อยตลอดการเดินชมถ้ำ ใครแข็งแรงหน่อยก็สามารถปีนเชือกขนาดใหญ่ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ นอกจากนี้ยังมีมุมจำลองแหล่งพักพิงของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ด้วย ✨ เปิดทุกวัน เวลา 8.30-16.00 น.✨ อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 200 บาท | ชาวต่างชาติ 500 บาท (ใช้เวลาเข้าชมภายในถ้ำประมาณ 1.30 ชม.) 📌 ชุมชนเกาะกลาง ใครชอบเที่ยวแบบสไลว์ไลฟ์ สัมผัสกับวิถีชุมชน ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ แถมมาที่นี่มีกิจกรรมให้ได้เข้าร่วมหลากหลายเลยค่ะ 💚 การมาเที่ยวชม ‘ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่’ หนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดเลย คือการเข้าชมการสาธิตจากกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในชุมชนค่ะ ครั้งนี้บัดดี้ได้เข้าชม 3 กลุ่มอาชีพด้วยกัน คือ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด, กลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง และกลุ่มการทำผ้าบาติก ส่วนใครที่ชมสาธิตจากชาวบ้านแล้วอยากอุดหนุนสินค้าชุมชน ก็สามารถติดต่อซื้อสินค้ากับชาวบ้านในแต่ละกลุ่มได้เลยนะคะ 🛍️ 📌 กิจกรรมท่องเที่ยวบนเกาะกลาง– ชมการสาธิตจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด– ชมการสาธิตจากกลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง– ชมการสาธิตจากกลุ่มการทำผ้าบาติก– เดินเที่ยว ปั่นจักรยาน เช่าจักรยานยนต์ หรือสามล้อพ่วงข้าง ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวบ้านรอบเกาะ 📌 AMATAYA Wellness ต้องบอกก่อนเลยว่า อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็มหนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 แห่งของโลกด้วย 😲♨ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญเลยก็ว่าได้ โดยบ่อหลักที่เกิดจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าชายเลน มีลักษณะเป็นบ่อน้ำที่ผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็ม เกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโพล่ขึ้นมาบนพื้นดินนั่นเอง อุณหภูมิของน้ำในบ่อนั้นจะไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ที่ประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส แต่เดิมชาวบ้านมาแช่เพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อต่าง ๆ และเพื่อผ่อนคลาย แต่จากคุณสมบัติของแร่ธาตุที่มีในบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้น สามารถช่วยพื้นฟูร่างกายจากโรคต่าง ๆ และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย พร้อมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระยะยาวด้วย ♨️ AMATAYA Wellness เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องของ ‘คลองท่อมเฮอริเทจ’ มีพื้นที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม (Salt Hot Spring) ที่มีคุณสมบัติของแร่ธาตุและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูและช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ♨️ AMATAYA Wellness ในปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 รูปแบบ คือ AMATAYA Rehabilitation Hospital ที่ให้บริการดูแล ฟื้นฟู ผู้ป่วยจากโรค Stroke และโรคอื่น ๆ ด้วยการใช้ ‘น้ำพุร้อนเค็ม’ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และ AMATAYA Holistic Medical Treatment

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล อ่านเพิ่มเติม

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน

ช่วงนี้ทุกที่ในไทยถูกอาบไปด้วยแสงแดดของหน้าร้อนแล้ว หลายคนคงวางแผนไปเที่ยวทะเลสวย ๆ ต้อนรับ Summer Vibe กันแน่ บัดดี้เลยถือโอกาสมาแนะนำทะเลที่หากเพื่อน ๆ ไปแล้ว นอกจากจะได้ทั้งเล่นน้ำทะเลใส ๆ ได้ภาพสวย ๆ ปัง ๆ มาลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวกันหลายภาพแน่ หากทะเลไหนที่บัดดี้นำเสนอวันนี้สวยกระแทกใจ เพื่อน ๆ ก็เตรียมวางแผนไปกระแทกคลื่นกันได้เลย 1. หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ห่างจาก จ.กระบี่ ประมาณ 40 กิโลเมตร แต่เดิมลูกทะเลหลายคนจะเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” โดยคำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ ส่วนคำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลจำพวกแสมและโกงกาง ที่ต่อมาเรียกกันว่า “ต้นปีปี” และเพี้ยนเสียงเป็น “พีพี” ในที่สุด หมู่เกาะพีพี จะประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล มีลักษณะเป็นเวิ้งโค้ง หาดทรายขาวสวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด ที่เกาะพีพีดอนจะมีทั้งที่พัก ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2 เกาะใหญ่นี้ จะมีเกาะเล็ก ๆ รายรอบ คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก เกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะจะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ถ่ายรูปได้รัว ๆ สำหรับการเดินทางไปเกาะพีพี คือการไปกับเรือโดยสารขนาดใหญ่ (เรือเฟอร์รี่) ซึ่งสามารถเดินทางไปเกาะพีพีได้ทั้งจากท่าเรือคลองจิหลาดจ.กระบี่ และท่าเรือรัษฏา จ.ภูเก็ต ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง หากใครต้องการการเดินทางที่เร็วขึ้น สามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทได้ทั้งจาก จ.ภูเก็ต หรือ จ.กระบี่ ได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 60 นาที มีหลายบริษัทให้บริการบริเวณท่าเรือ 0 7566 1145 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://maps.app.goo.gl/3VRptYfQA76PoX1s8 2. เกาะระยั้ง จ.ตราด สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว บัดดี้ขอแนะนำ หมู่เกาะระยั้ง (ประกอบไปด้วยเกาะระยั้งในและเกาะระยั้งนอก) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะหมาก ที่เกาะนี้มีความเงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวาย หาดทรายนุ่มขาวสะอาด น้ำทะเลใส ที่สำคัญบนเกาะมีที่พักแห่งเดียวซึ่งเป็นบ้านเพียง 3 หลัง ตั้งอยู่บนเกาะระยั้งนอก ส่วนเกาะระยั้งใน ไม่มีหาดทราย ไม่มีที่พัก แต่เป็นจุดดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่สวยมาก ถึงแม้ที่นี่จะเป็นอีกเกาะที่หลายคนบอกว่าโอกาสได้มาค่อนข้างน้อยเพราะต้องจองล่วงหน้าแล้วที่นี่ก็เต็มไวเสียเหลือเกิน แต่ถ้าได้มาแล้วคุ้มค่าสุด ๆ ทั้งได้พักผ่อน ได้อยู่กับความสงบท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ได้ดำน้ำชมปะการัง จนอยากกลับมาซ้ำกันแทบทุกคน สำหรับการเดินทางไป เกาะระยั้ง เพื่อน ๆ ต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือ แหลมงอบ-เกาะหมาก เพราะทางที่พักบนเกาะระยั้งจะส่งมารับที่เกาะหมากเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาโดยรวมจากท่าเรือแหลมงอบไปเกาะระยั้งประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด 09 0948 4849https://maps.app.goo.gl/ozNJwHMEH8NNGvmC9 3. เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อีกหนึ่งเกาะสวยในใจของหลายคน ที่นอกจากทะเลสวย น้ำใสแล้ว หาดทรายขาวนุ่มละเอียดเดินได้สบายเท้าแล้ว ยังมีที่พักต่าง ๆ ให้เลือกตั้งแต่ บังกะโลไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว มีร้านอาหารและคาเฟให้เลือกฝากท้องมากมาย แถมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการดำน้ำชมปะการัง พายคายัก ตกหมึก ตกปลา พายเรือคายัก ดูการแสดงโชว์ Fire Man Show นวดผ่อนคลาย เรียกได้ว่าการมาที่นี่ทั้งได้สนุก และพักผ่อนครบจบเลยล่ะ การเดินทางไป เกาะเสม็ด เพื่อน ๆ สามารถเลือกขึ้นเรือได้จากหลายท่า ซึ่งแต่ละท่าเรือมีให้บริการทั้งเรือโดยสารธรรมดาและเรือสปีดโบ๊ท แล้วแต่ว่าเพื่อน ๆ อยากลงที่หาดไหน เช่น– ท่าเรือบ้านเพ สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวหวาย อ่าวช่อ อ่าวปะการัง– ท่าเรือนวลทิพย์ 1 สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว และอ่าวน้อยหน่า– ท่าเรือลุงหวัง อยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาล เรือจะจอดที่อ่าวลุงหวัง– ท่าเรือเสรีบ้านเพ เรือจอดที่ อ่าวพร้าว หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน หน้าด่าน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว– ท่าเรือโชคมานะ จอดตามหาด ตามที่ลูกค้าต้องการ ต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 0 3865 3034 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดhttps://maps.app.goo.gl/U6feeEaRthxV9JbBA 4. ถ้ำมรกต จ.ตรัง หนึ่งในถ้ำสวยที่เป็นผลงานแสนงามจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เป็นส่วนหนึ่งของเกาะมุก โดยถ้ำมรกต ถือเป็นถ้ำทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปข้างในได้จากโพรงถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ช่วงที่น้ำลดสามารถนั่งเรือเล็ก ๆ เข้าไปได้ แต่ถ้าช่วงน้ำขึ้นจะต้องลงน้ำ ดึงตัวไปตามเชือกเพื่อเข้าไป หลังจากผ่านถ้ำทะเลไปประมาณ 80 เมตร ก็จะเจอทางออกของอีกด้าน ที่มีโพรงขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเขียวใสและหน้าผาสูง สวยมาก ๆ เลยล่ะ การเดินทางไป ถ้ำมรกต เพื่อน ๆ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือหาดปากเมง และ ท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือหลายเจ้าคอยให้บริการ หากมาเป็นกลุ่มสามารถเหมาลำได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรือหากอยากให้คุ้ม สามารถซื้อทัวร์เที่ยวเกาะแบบวันเดย์ ที่จะมีคนนำเที่ยวได้แบบหายห่วง ซึ่งมีหลายเจ้าในเมืองตรังให้เลือก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง 08 0572

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน อ่านเพิ่มเติม

ตามรอยโลเคชั่นหนังรัก

ไหน ๆ ก็ผ่านวันแห่งความรักไปแล้ว บัดดี้ขอถือโอกาสนี้นำเสนอโลเคชั่นหนังรักในไทย มานำเสนอเพื่อน ๆ หลายเรื่องหลากสไตล์ ทั้งสนุก สุข เหงา เศร้า ตลก ลองตามมาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง 1. The Letter จดหมายรัก (2004) – สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ The Letter จดหมายรัก เป็นหนังที่มอบทั้งความสุขสุดโรแมนติกและความเศร้าของการจากลา จนน้ำตาร่วงผ่านการเขียนจดหมายตามชื่อเรื่อง โดยใช้สถานที่ถ่ายทำเป็นสถานีเกษตรอ่างขาง จ.เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าหนาว ที่นี่มีทั้งแปลงพืชผลทางการเกษตรและสวนดอกไม้เมืองหนาวให้ชม ยิ่งช่วงเดือนมกราคมจะมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมสวยให้ชมทั่วทั้งบริเวณ หมู่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น. 05 3969 4768 ต่อ 114https://maps.app.goo.gl/wECr81PsEXnGohjZ9 2. รักจัง (2006) – น้ำตกผาดอกเสี้ยว จ.เชียงใหม่ รักจังหนังรักโรแมนติก-คอมเมดี้ เกี่ยวกับเรื่องราวความรักของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อและปาปารัซซี่สาว โดยหนึ่งในสถานที่ถ่าย ที่หลายคนน่าจะจำได้ก็คือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จนหลายคนเรียกกันติดปากว่า “น้ำตกรักจัง” นอกจากน้ำตกที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยวที่จะมีไกด์ท้องถิ่นเดินนำทาง หากใครไปแล้ว จะได้สัมผัสกับธรรมชาติสีเขียว ความสดชื่นและวิวสวย ๆ แถมยังมีจุดให้ลองชิมกาแฟต้มถ่านที่ปลายเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย น้ำตกผาดอกเสี้ยว ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://maps.app.goo.gl/xyjLUBFMNKDwMa5z9 3. Low Season สุขสันต์วันโสด (2020) – กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ หนังที่บอกเล่าช่วงชีวิตสุดจะ LOW ของเหล่าคนอกหัก รักคุด ที่ต่างก็หนีไปพักใจที่โฮมสเตย์กลางหุบเขา จ.เชียงใหม่ ซึ่งหนังเรื่องนี้ นำเสนอทั้งความหลากหลายของอาการอกหัก ความรัก ความสวยงามของกิ่วแม่ปาน ที่มีทั้งทะเลหมอก ขุนเขา ความเขียวที่สดชื่น จนตัวละครในเรื่องเปลี่ยนฤดู LOW เป็นฤดูเราเลยล่ะ กิ่วแม่ปาน ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 06.00-16.00 น.https://maps.app.goo.gl/CMUUvyyuhYyPSnE97 4. One For The Road วันสุดท้ายก่อน…บายเธอ (2022) – ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ หนังที่มีทั้งมิตรภาพ ความรักและดราม่า ที่ได้ผู้กำกับระดับตำนาน “หว่อง กาไว” มาเป็นผู้อำนวยการสร้าง และไปคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award จาก Sundance Film Festival 2021 ภายในเรื่องบอกเล่าเรื่องราวของอู๊ด ผู้ป่วยโรคร้ายที่มีเวลาอยู่ได้อีกไม่นาน และบอส เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นเจ้าของบาร์ใน New York ซึ่งจะพาผู้ชมร่วมย้อนเรื่องราวในอดีตและกลับไปเจอเหล่าคนสำคัญในชีวิตของอู๊ด เพื่อกล่าวลาและขอโทษเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งอาจทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องที่หลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่อู๊ดทำเรียกว่าความเห็นแก่ตัวไหมแล้ว ทุกฉากของหนังเรื่องนี้ละเมียดมาก ทั้งเสื้อผ้า เพลงประกอบหนัง บรรยากาศ รวมไปถึง ประตูท่าแพ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลย ถ.ท่าแพ ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 24 ชั่วโมงhttps://maps.app.goo.gl/iwYNwRLeufu9HShz9 5. The Melody รักทำนองนี้ (2012) – ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน หนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ วิน นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ที่อยู่ในช่วงขาลงจนเขาต้องหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอนและบังเอิญพบกับหมอก นักเปียโนสาวสวยฝีมือดี ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาจนกลายเป็นแรงบันดาลใจและความอบอุ่นของกันและกันท่ามกลางบรรยากาศหนาวบนดอย ถึงแม้ท้ายที่สุดหมอกจะจากไปแบบไม่มีวันกลับด้วยโรคร้าย แต่ความรักและแรงบันดาลใจในดนตรีที่มอบให้วินก็ยังอยู่ในใจของเขาตลอดกาล พูดถึงสถานที่ถ่ายทำ ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มอบความสวยงามให้คนที่ได้ดูเรื่องนี้ประทับใจไม่น้อย ยิ่งฉากที่เห็นดอกสีเหลืองทั่วทั้งหุบเขาท่ามกลางอากาศเย็น ๆ ยิ่งอยากให้ทุกคนไปเห็นของจริงด้วยตัวเอง หากใครว่างช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม บัดดี้แนะนำให้มาที่นี่เป็นอันดับแรก ๆ ดอยแม่อูคอ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น. 0 5361 2983 ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน 0 5361 5987 องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอhttps://maps.app.goo.gl/jnkgcFBaLiest3z6A 6. ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2014) – เชียงคาน จ.เลย เรื่องราวที่เล่าผ่านความทรงจำตั้งแต่เด็กของ “ตุ๊กแก” เด็กชายที่เติบโตมากับการคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังและวาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง “เพชรเชียงคาน” และได้สิทธิพิเศษที่สามารถดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังแห่งนี้ จนเขาได้มาเรียนที่ กรุงเทพฯ และได้มาช่วยรุ่นพี่ในกองถ่ายและได้พบกับ “แป้ง” ลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับตุ๊กแก ที่คาแรกเตอร์เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน จนตุ๊กแกต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แป้งคนเดิมกลับมา ในด้านของสถานที่ถ่ายทำ หากใครได้ดูเรื่องนี้ จะเห็นกับเสน่ห์ของ เชียงคาน ได้อย่างจุใจ ทั้งบรรยากาศของชุมชน ถนนคนเดินและวิวแม่น้ำโขง ที่สวยและเรียบง่ายชวนให้อยากไปเยือนสุด ๆ ต.ชายโขง อ.เชียงคาน จ.เลย เปิดทุกวันเวลา 16.00-22.00 น.https://maps.app.goo.gl/w7kM6x5du9bbJjuF8 7. รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2009) – ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2009) หนึ่งในหนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ในตำนานของไทย ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “เหมยลี่” พนักงานบริษัทสาวโสดวัย 30 ปี ที่พบรักกับ “ลุง” วิศวกรรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มาช่วยดูเครื่องยนต์รถที่สตาร์ตไม่ติดให้ และมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดจากความไม่บังเอิญที่ทำให้ ลุง ได้เจอกับเหมยลี่อยู่เรื่อย ๆ

ตามรอยโลเคชั่นหนังรัก อ่านเพิ่มเติม

🌊 เที่ยวพังงาไป…เกาะผ้า 🌊

เกาะผ้า เกาะเล็ก ๆ จังหวัดพังงา ที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกัน วันนี้มาจะมาเช็กอินกันที่นี่และชมความสวยงามของเกาะแห่งนี้กันค่ะ🫶 แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นมะพร้าวมากมาย เมื่อเกิดอุทกภัยสึนามิ พ.ศ. 2547 ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกซัดหายไป ปัจจุบันจะมองเห็นเพียงเนินสันทรายสีขาว มองดูแล้วก็แปลกตาไม่น้อยเลยค่ะ 🤿ไฮไลท์ของที่นี่ ขอใช้คำว่ามหัศจรรย์คือ เกิดปรากฏการณ์คล้ายทะเลแหวกเมื่อน้ำทะเลลดต่ำจนเห็นสันทรายของเกาะ ยิ่งน้ำลดลงเราจะเห็นชายหาดสีขาวนวล หากมองจากมุมสูงก็มีรูปร่างคล้ายกับผืนผ้าพริ้วไหว นอกจากนี้บนเกาะมีกิจกรรมที่สายดำน้ำดูปะการัง พายคายัค หรือใครอยากจะหาที่พักสักคืนก็สามารถพักใกล้ ๆ เกาะคอเขาได้ 👉ฤดูกาลท่องเที่ยวที่แนะนำ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน

🌊 เที่ยวพังงาไป…เกาะผ้า 🌊 อ่านเพิ่มเติม

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️

💕 เดือนกุมภาพันธ์ อบอวลด้วยความรักและเทศกาลพิเศษที่หลาย ๆ คนมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมอบความพิเศษให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรู้ใจ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะจะเดินทางอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศยังมีช่วงที่อากาศเย็นสบาย ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันปลอดมรสุม และที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาจำกัดอีกด้วย  Bangkok Design Week 2023 กรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ก็มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ในธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ที่จะสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ในแต่ละย่านให้กลายเป็นเมืองที่น่ารัก เป็นมิตร ด้วยศิลปะและงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างเต็มที่ BKKDW จะจัดขึ้นในวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ในย่านหลัก ๆ ได้แก่ โซนพระนคร ปากคลองตลาด เจริญกรุง-ตลาดน้อย เยาวราช สามย่าน-สยามอารีย์-ประดิพัทธ์ วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู คลองสาน บางโพ พร้อมพงษ์ และ ม.เกษตรฯ เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรืออยากจะดูว่ามีกิจกรรมที่ไหนบ้าง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023/program  เบญจมาศบานในม่านหมอก ประจำปี 2566 จ.นครราชสีมา ชวนคนรักไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลางทุ่งดอกไม้ใน งานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก 2566  เนรมิตพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศขุนเขาให้กลายเป็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายสายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมการออกร้าน จำหน่ายสินค้า OTOP จำหน่ายผักปลอดสาร และชมนิทรรศการของส่วนต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมได้ตั้งแต่ วันที่ 5-25 กุมภาพันธ์ 2566  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ถ้าถามว่า ทะเลกระบี่สวยที่สุดช่วงไหน ก็คงตอบได้เลยว่าช่วงต้นปีนี่แหละเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย และมักจะได้รับผลกระทบจากมรสุมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หากใครที่มากระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ก็เป็นจุดหมายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ภายในอุทยานฯ มีชายหาดสวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอนถ้ำไวกิ้ง อ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวมาหยาอ่าวปิเละ เป็นต้น และยังมีกิจกรรมทางทะเล ได้แก่ ล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ปีนผาชมวิวมุมสูงที่อ่าวไร่เลย์ ชมทะเลแหวกอัตราค่าบริการท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัท หรือแล้วแต่ตกลงกับทางผู้นำเที่ยวว่าต้องการจะไปที่ไหนบ้าง และหากใครที่อยากนอนพักบนเกาะ สามารถไปพักได้ที่เกาะพีพีดอน ซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่ง  79 หมู่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 0 7566 1145 Facebook อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://goo.gl/maps/3s19gU2bBwJ81s6E8  เกาะพยาม จ.ระนอง  เกาะพยาม  เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมากแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยว บนเกาะมีอ่าวอยู่หลายแห่ง มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง บนเกาะ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น ชมพระอาทิตย์ตกบน “อ่าวใหญ่” ชมพระอาทิตย์ขึ้นบน “อ่าวแม่หม้าย” พายเรือคายักชม “ป่าโกงกาง” กลางเกาะ สัมผัสวิถีชีวิตของคนใน “หมู่บ้านมอแกน” เป็นต้น  การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่ เรือธรรมดาและเรือสปีดโบต มีหลายบริษัทและผู้ให้บริการหลายเจ้า ราคาประมาณ 250-400 บาท  ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโทร. 09 3582 4507 (อบต.เกาะพยาม)​https://goo.gl/maps/eqFYfNNiNaS2  อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ทางภาคเหนือ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ที่หากใครมีโอกาส อยากจะลองไปชมสักครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เหมาะมาก ๆ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนจุดชมทิวทัศน์ 1715 ชมวิวสันเขาและหมอกหนาบนยอดดอยภูแว นอนดูดาว กางเต็นท์พักแรม นอกจากบรรยากาศจะดีมากแล้ว ยังจะได้ชมพืชพรรณต่าง ๆ ของอุทยานฯ อย่างเช่น ก่วมแดง ที่มีในลักษณะคล้ายเมเปิ้ล ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานเต็มที่ เตรียมต้อนรับฤดูที่เบ่งบานของดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัยที่ปัจจุบันในไทยพบเพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2566 นี้ ดอกชมพูภูคาจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อย ใครที่วางแผนจะไปชมดอกชมพูภูคา สามารถติดตาม อัปเดตทางหน้าเพจอุทยานฯ ได้โดยตรง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานฯ ร้านค้าสวัสดิการ เปิดทุกวัน เวลา 07.30-18.30 น. บ้านพักและลานกางเต็นท์ จองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานฯ  ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อัตราค่าบริการชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท 08 2194 1349 Facebook อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – Doi Phu Kha National Parkhttps://goo.gl/maps/aUL4NDdrfu9K3PqS7

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top