ที่เที่ยวภาคใต้

ปักหมุดตามรอย สถานที่ถ่ายทำ Jurassic World : Rebirth ในประเทศไทย

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาตามรอยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลก Jurassic World จากค่าย Universal Pictures ที่มีการถ่ายทำภาคล่าสุดอย่าง “จูราสสิค เวิลด์: กำเนิดชีวิตใหม่” (Jurassic World : Rebirth) ในประเทศไทยหลายจุด บางส่วนถ่ายทำในกรุงเทพมหานคร บางส่วนถ่ายทำที่ จ.เชียงใหม่ แต่สถานที่หลักที่ถ่ายทำจะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทางภาคใต้ของไทย นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จ.กระบี่ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จ.พังงา ซึ่งวันนี้จะมีสถานที่ไหนที่บัดดี้จะมานำเสนอบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย 1. หาดซันเซ็ต เกาะกระดาน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง สถานที่แรกที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาตามรอยคือ “หาดซันเซ็ต” ชายหาดสวยที่ตั้งอยู่บนเกาะกระดาน ที่มีหาดทรายขาวละเอียด และมีความยาวเพียง 100 เมตรเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นชายหาดเล็ก ๆ แต่ชายหาดนี้ ก็ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดจุดหนึ่งบนเกาะกระดาน และยังได้รับการจัดอันดับจาก Lonely Planet ให้เป็น 1 ใน 10 Best Beaches ที่น่ามาเยือนแห่งหนึ่งในโลก ในปี 2025 และได้รับการโหวตให้เป็นชายหาดที่ดีที่สุดในโลก โดยเว็บไซต์ World Beach Guide ถึง 2 ปีซ้อน คือปี 2023 และ 2024 เลยนะ เพื่อน ๆ สามารถเดินทางมาที่หาดซันเซ็ต โดยการใช้เส้นทางเดินเท้าจากชายหาดฝั่งตะวันออกไปยังชายหาดฝั่งตะวันตกของเกาะกระดาน เดินผ่านป่าและขึ้นเนินประมาณ 800 เมตรก็ถึงแล้วล่ะ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หมู่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง📌 https://maps.app.goo.gl/NKUu3dcmPqmg5gPL8☎️ 0 7582 9967 2. ถ้ำมรกต เกาะมุก อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมุก ในเขตของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เป็นเกาะที่เงียบสงบ หาดทรายขาว น้ำทะเลเขียวใส มีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม ไฮไลต์ของเกาะมุกคือ “ถ้ำมรกต” ที่มีลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ มีหาดทรายขาวที่รายล้อมไปด้วยหน้าผาสูง แต่หากต้องการเข้ามา ต้องลอยตัวจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 80 เมตร การเดินทางมาที่นี่ เพื่อน ๆ ต้อง เช่าเหมาเรือจากท่าเทียบเรือปากเมง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที หรือจะซื้อแพ็กเกจนำเที่ยวจากผู้ประกอบการบริเวณท่าเรือก็ได้ แต่เกาะมุกจะปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน ของทุกปี เพราะฉะนั้นถ้าจะมาต้องวางแผนเรื่องเวลาเที่ยวให้ดีล่ะ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หมู่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง📌 https://maps.app.goo.gl/tLjZKg5YqXMnXosGA☎️ 0 7582 9967 3. เขาตาปู อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จ.พังงา หนึ่งในแลนด์มาร์กขึ้นชื่อของ จ.พังงา แห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา หลายคนคุ้นหูเขาตาปูในชื่อเกาะเจมส์บอนด์ (James Bond Island) แต่บางคนก็จะเรียกว่าเขาตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยวทรงสูงตั้งตรง ด้านบนกว้างและค่อย ๆ คอดเล็กลงมาจนถึงด้านล่างเหมือนทั้งลักษณะตาของปูและตะปู เขาตาปู ตั้งอยู่ทางด้านเหนือบริเวณเวิ้งอ่าวของ “เกาะเขาพิงกัน” จุดชมวิวที่สวยคือการมองจากระยะไกลจากทะเล เพื่อน ๆ สามารถซื้อแพ็กเกจนำเที่ยวได้จากผู้ประกอบการทั้งจาก จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา📌 https://maps.app.goo.gl/coqCYDtmhXrbCbZPA☎️ 0 7648 1188 4. น้ำตกห้วยโต้ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จ.กระบี่ น้ำตกห้วยโต้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี ไหลค่อนข้างแรงในฤดูฝน จุดทางเข้าจะอยู่ห่างจากลานจอดรถประมาณ 500 เมตร ก่อนถึงน้ำตกจะต้องเดินข้ามสะพาน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ปรากฏใน Jurassic World : Rebirth เช่นกัน บริเวณชั้นที่ 1 น้ำตกห้วยโต้เป็นแอ่งน้ำ สามารถเล่นน้ำได้ แต่หากใครชอบการเดินป่าและผจญภัย สามารถเดินไปชั้นที่สูงขึ้นได้ แต่ระมัดระวังตอนเดินด้วยล่ะ เพราะที่นี่มีน้ำทั้งปี บางจุดอาจลื่นล้มได้​ อีกจุดที่ปรากฏอยู่ในภาพยนต์เรื่องนี้ คือ ต้นสมพงยักษ์ ต้นไม้โบราณ อายุ 120 ปีที่ต้องเดินเข้าป่าไปเล็กน้อย ตลอดเส้นทางจะมีแผ่นป้ายอธิบายข้อมูลพันธุ์ไม้อยู่หลายจุด เส้นทางเดินง่าย เพียงแต่ต้องระวังสะดุดรากไม้บ้างเท่านั้น อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา 170 หมู่ที่ 4 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่📌 https://maps.app.goo.gl/42myTe82DJcBtLF26⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น.☎️ 06 1232 4901 5. หาดถ้ำพระนาง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สถานที่ต่อมาคือ หาดถ้ำพระนาง หรือ อ่าวถ้ำพระนาง เป็นชายหาดที่สวยงามมาก ๆ มีวิวภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ หน้าผาและทะเลที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ หากเดินไปสุดชายหาด จะเจอกับ “ถ้ำพระนาง” ที่ข้างในมี “ศาลพระนาง” ที่ชาวบ้านและชาวเรือให้ความเคารพนับถือ เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่น เล่นน้ำ นอนอาบแดด พายคายัก ปีนหน้าผาหรือแม้แต่รอชมพระอาทิตย์ตกดินได้ตามใจอยาก สำหรับการเดินทางมาที่นี่ เพื่อน

ปักหมุดตามรอย สถานที่ถ่ายทำ Jurassic World : Rebirth ในประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางเที่ยว “สมุย” 3 วัน 2 คืน สวรรค์แห่งการพักผ่อนระดับโลกที่คุณต้องไปสัมผัส

บัดดี้ขอแนะนำเส้นทางเที่ยว “สมุย” 3 วัน 2 คืน สวรรค์แห่งการพักผ่อนระดับโลกที่คุณต้องไปสัมผัส เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งชมหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ดำน้ำชมปะการัง และสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะ พร้อมตามรอยซีรีส์ชื่อดัง “The White Lotus” ซีซั่น 3 Day 1📌 วัดคีรีวงการาม📌 ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม DUSIT DHEVA เกาะสมุย📌 บ้านสวนลางสาด📌 วัดภูเขาทอง📌 วัดพระใหญ่📌 หาดเชิงมน Day 2📌 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง📌 ร้านอาหารเพ็ญศิริ เกาะสมุย Day 3📌 เกาะมัดสุม📌 เกาะแตน📌 Kamalaya Koh Samui📌 CoCo Tam’s ✨ รายละเอียดเพิ่มเติม: TAT Koh Samui x Koh Phangan x Koh Tao

เส้นทางเที่ยว “สมุย” 3 วัน 2 คืน สวรรค์แห่งการพักผ่อนระดับโลกที่คุณต้องไปสัมผัส อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวหลายคนเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกระบี่อาจมองข้ามหรือผ่านเลยไป แต่ถ้าลองหาโอกาสแวะมาเที่ยวชมภายในอุทยานฯ ซึ่งมีทั้งป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตกสวย ๆ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็จะพบว่าที่นี่ถือเป็นสถานที่ฮีลใจ เป็นแหล่งโอโซน และบำบัดความเครียดได้เป็นอย่างดี อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ครอบคลุมท้องที่อำเภออ่าวลึก อำเภอเขาพนม และอำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เขาพนมเบญจาเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีไอหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ลำธาร น้ำตก ถ้ำต่าง ๆ และสัตว์ป่านานาชนิด มีเนื้อที่ประมาณ 31,325 ไร่ หรือ 50.12 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาที่เขียวชอุ่มสลับซับซ้อน มีหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วยเขาพนมและเขาพนมเบญจา เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอดจากเหนือจรดใต้ ซึ่งมียอดเขาสูงสุด คือ “ยอดเขาพนมเบญจา” มีความสูง 1,397 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นยอดเขาสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภาคใต้ เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำสายสำคัญที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในตัวเมืองกระบี่ ได้แก่ คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น คลองโตน คลองกระบี่น้อย คลองพอทาก ห้วยสะเค ห้วยส้าน และห้วยไผ่ ลักษณะภูมิอากาศ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาอยู่ในเขตมรสุมเมืองร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี ประกอบด้วย 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน และฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม จะมีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่อุทยานฯ มีดังนี้“น้ำตกห้วยโต้” น้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น ลงเล่นน้ำได้ 5 ชั้น ได้แก่ วังชก วังสามหาบ วังจงลอย วังปรงและวังเทวดา มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำตกห้วยโต้ ระยะทาง 3.87 กิโลเมตร เส้นทางผ่านจุดชมวิวและแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นน้ำที่นำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าถวายในพระราชพิธีต่าง ๆ “น้ำตกห้วยสะเค” น้ำตกขนาดเล็ก มีทั้งหมด 3 ชั้น สภาพป่าสองข้างทางขึ้นน้ำตกมีความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้นานาชนิด “ต้นสมพง” รุกขมรดกแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา ต้นสมพงต้นนี้ เป็นต้นไม้ที่หากวัดรอบโคนต้นจะมีความกว้างถึง 35 เมตร สูงกว่า 30 เมตร มีความสูงพอ ๆ กับตึก 10 ชั้น และมีอายุประมาณ 120 ปี นับเป็นรุกขมรดกหรือต้นไม้ใหญ่ที่ทรงคุณค่า สามารถใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกห้วยสะเค ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เพียงไม่กี่นาที ก็จะพบกับต้นสมพง สัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์หนึ่งแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา “ยอดเขาพนมเบญจา” หากว่าใครอยากวัดกำลังขาและความอึดของตัวเอง สามารถเดินป่าพิชิตยอดเขาพนมเบญจา มีระยะทางไป-กลับประมาณ 10 กิโลเมตร ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ท้าทาย โดยทางอุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินแค่ 1-2 กลุ่มต่อเดือนเท่านั้น จะเห็นได้ว่าตลอดทางเดินจะมีใบไม้ปกคลุมเยอะ การเดินทางขึ้นไปถึงยอดเรียกได้ว่าค่อนข้างลำบาก มีทางราบไม่ถึง 100 เมตร บวกกับทางเดินที่ชันถึง 45-60 องศาเลยก็ว่าได้ และบางช่วงเป็นหินที่จะต้องปีนป่าย แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างทางค่อนข้างร่มรื่น ระหว่างทางจะมีจุดให้เติมน้ำ จุดตั้งแคมป์จะตั้งอยู่ริมน้ำ สามารถผูกเปลและกางเต็นท์ได้ สัมภาระทุกอย่างจะต้องแบกเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าแดนใต้ที่มีความท้าทาย และอาจไม่เหมาะกับนักเดินป่ามือใหม่สักเท่าใดนัก นักท่องเที่ยวที่สนใจพิชิตยอดเขาพนมเบญจา จำเป็นต้องทำการจองกับทางอุทยานฯ ล่วงหน้า อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวก มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ บ้านพักรับรอง ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ ใครที่คิดว่ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาแล้วต้องสมบุกสมบัน เห็นทีต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว สอบถามข้อมูลการจองที่พักอุทยานแห่งชาติ☎️ โทร. 0 2562 0760 ถึง 3 หรือ 0 2561 0777 ต่อ 1743, 1744📌 https://maps.app.goo.gl/aXQ4LWAWc9HwyReR9

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่ อ่านเพิ่มเติม

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า

บัดดี้พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไปอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา หาดไร่เลย์ และหาดถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า เส้นทางนี้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย~ บทความยาว ๆ อ่านบทความเดียวก็เที่ยวตามได้เลย เพราะว่าเราจะบอกข้อมูลสำคัญครบ ได้แก่👉🏻 การเดินทางไปหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี👉🏻 มุมสวยหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 การเดินทางไปไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง👉🏻 มุมสวยไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง การเดินทางจากตัวเมืองกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนางที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีบริการรถบัสโดยสารปรับอากาศเข้าตัวเมืองกระบี่ เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง จุดจำหน่ายบัตรโดยสารและรอขึ้นรถ จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 15 เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงประตูทางออก ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยรถจะวิ่งถนนเส้นหลักเลียบแนวหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง สามารถแจ้งคนขับก่อนรถออกจากท่าว่าพักโรงแรมอะไรในเส้นทางนั้นได้ คนขับจะจอดส่งให้ลงริมถนนเส้นหลักที่ใกล้กับโรงแรมที่พักมากที่สุด ขากลับหากต้องการใช้บริการรถสายนี้จากอ่าวนางหรือหาดนพรัตน์ธาราไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แนะนำให้โทรจองที่นั่งล่วงหน้า 1 วัน ก่อนวันเดินทางกลับ เพราะบริษัทรถจะนัดเวลาให้มารอขึ้นรถริมถนนเส้นหลักที่รถจะผ่านและจอดแวะรับ โดยทางบริษัทรถจะนัดหมายเวลาขึ้นรถให้กับนักท่องเที่ยวตามข้อมูลเที่ยวบินของนักท่องเที่ยว เพื่อให้เดินทางไปทันขึ้นเครื่องบินต่อไป อัตราค่าโดยสาร เที่ยวไปและเที่ยวกลับราคาเดียวกัน💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่ 80 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-ตัวเมืองกระบี่ 90 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง 150 บาท สอบถามข้อมูล: บริษัท พิเชษฐ์ ขนส่ง จำกัดโทร. 08 2468 2426, 08 2468 2426, 09 9282 1424 จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีขาว) สายสถานีขนส่งฯ – ตัวเมืองกระบี่ – หาดนพรัตน์ธารา – อ่าวนาง – อ่าวน้ำเมา ให้บริการตลอดทั้งวัน อัตราค่าโดยสาร 50 บาท ตลอดสาย ใครที่มาเที่ยวกระบี่ หากพักหรือเที่ยวในตัวเมืองก่อน สามารถมาขึ้นรถสองแถวสายนี้ที่บริเวณหัวมุมถนนมหาราช ซอย 8 ใกล้กับห้างโวค (Vogue Shopping Center) ในตัวเมืองกระบี่ เพื่อไปเที่ยวต่อที่อ่างนางหรือหาดนพรัตน์ธารา ที่พักโซนหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง มีที่พักเอกชนให้บริการมากมายหลายระดับราคา แต่ในบทความนี้ขอพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับที่พักราคาประหยัด ทำเลที่ตั้งและบรรยากาศดี คือ บ้านพักและจุดกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา บ้านพักอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา เพียงข้ามถนนไปก็เป็นชายหาดนพรัตน์ธารา มีบ้านพักแฝดประมาณ 10 หลัง ใน 1 หลัง แบ่งเป็นห้องพัก 4 ห้อง แต่ละห้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ราคาห้องละ 1,500 บาท ภายในประกอบด้วย เตียงนอน 2 เตียง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และห้องน้ำในตัว ถือว่าราคาสมเหตุสมผล และตั้งอยู่ในทำเลที่ดีด้วย 📌 พิกัดบ้านพักอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/5MGS1uVMMVL5aGFE8 ในส่วนของพื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ และโซนบ้านพักอุทยานฯ เดินประมาณ 150 เมตร ก็ถึงหาดนพรัตน์ธารา นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มากางเอง เสียค่าธรรมเนียมหลังละ 30 บาทต่อคืน หรือเช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอนของอุทยานฯ ก็ได้ ค่าเช่าเต็นท์ของอุทยานฯ หลังละ 225 บาท (นอนได้ 2-3 คน) เครื่องนอนชุดละ 60 บาท บริเวณเดียวกันนี้ยังเป็นที่จอดรถบ้านด้วย มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ พิกัดลานกางเต็นท์ของอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/RAUhyNPERczo7W2m9 📌 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ที่ 5 หาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 💸 อัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท *แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระอัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ อัตราพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะไม้ไผ่ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักและจุดกางเต็นท์ ร้านอาหารสวัสดิการ สามารถจองบ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php ☎️ สอบถามข้อมูลโทร. 0 7566 1145 (ที่ทำการอุทยานฯ)โทร. 0 7565 6150, 08 9871 1082 (บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ) 📌 หาดนพรัตน์ธารานักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่ลานจอดรถบริเวณที่ทำการอุทยานฯ และเดินเท้าผ่านแนวต้นสนทะเลมาประมาณ 50 เมตร ถึงหาดนพรัตน์ธารา หาดนพรัตน์ธาราอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ แต่การเดินเที่ยวชม พักผ่อน หรือเล่นน้ำที่หาดนี้ นักท่องเที่ยวไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา มีลักษณะเป็นชายหาดยาว ตอนเหนือของหาดติดกับปากคลองแห้ง เป็นจุดที่คลองแห้งไหลออกสู่ทะเล และบริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีด้วย ส่วนทางตอนใต้ของหาดมีพื้นที่ต่อเนื่องกับหาดอ่าวนาง ทางตอนเหนือของหาดนพรัตน์ธารา มีหาดทรายสีขาว เม็ดละเอียด น้ำทะเลสวยใส นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำและนอนอาบแดดกันบริเวณนี้ จุดนี้ทางอุทยานฯ ห้ามเรือทุกชนิดเข้ามาจอดที่หน้าหาด เพื่อเปิดพื้นที่ชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย บริเวณปลายแหลมทางตอนเหนือของหาด เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว จากหาดนพรัตน์ธารา สามารถเดินเท้าไปเที่ยวต่อยังอ่าวนางได้ เพราะชายหาดยาวต่อเนื่องกัน หรือหากใครไม่อยากเดิน จะมีรถสองแถว (สีขาว)

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน

ชวนไปท่องเที่ยวจังหวัดชายฝั่งอันดามันที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลาย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวบนบก ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้กระบี่ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อได้อย่างกลมกลืน ความหลากหลายเช่นนี้ทำให้กระบี่มีรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและทุกวัยได้อย่างเหมาะสม วันที่ 1📌 ท่าปอม คลองสองน้ำ📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก วันที่ 2📌 หมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี📌 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ)📌 ลากูนเกาะห้อง (ทะเลใน)📌 เกาะเหลาลาดิง📌 เกาะผักเบี้ย📌 อ่าวนาง วันที่ 3📌 หาดนพรัตน์ธารา📌 อ่าวไร่เลย์📌 หาดไร่เลย์ตะวันตก📌 หาดไร่เลย์ตะวันออก📌 หาดถ้ำพระนาง📌 วัดถ้ำเสือ

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker

เกาะจำ เกาะใกล้ฝั่งของทะเลกระบี่ ที่เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนฮีลใจ และลองใช้ชีวิตแบบ Slow life เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวสายแบกเป้น่าจะชื่นชอบ บรรยากาศบนเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งน่ารักและใจดี 🥰 📌 เกาะจำ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ห่างจากฝั่งอำเภอเหนือคลองประมาณ 23 กิโลเมตร บนเกาะมี 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเกาะปู บ้านเกาะจำ และบ้านติงไหร จากคำบอกเล่าของชาวบ้านถึงความเป็นมาของเกาะ เมื่อราว 200 กว่าปีก่อน มีชาวพื้นเมืองมุสลิมอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะปู” ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาจากเกาะจำนุ้ยซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง รวมกับชาวจีนที่ทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานรวมกันทางตอนใต้ของเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะจำ” ดังนั้นเกาะแห่งนี้จึงมีชื่อเรียก 2 ชื่อ แต่ก็คือเกาะเดียวกัน เกาะจำ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นเกาะใกล้ชายฝั่ง แต่ช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ ฟ้าใส แดดดี และน้ำทะเลสวยน่าเล่น คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคม พิกัดแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ รอบเกาะ👉🏻 หาดช่องกิ่ว👉🏻 หาดลุโบ๊ะ👉🏻 Rock View Terrace👉🏻 ท่าเรือบ้านเกาะปู👉🏻 หาดติงไหร ชาวบ้านบนเกาะจำมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนยางพารา ทำเครื่องแกงและน้ำพริกจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะส่วนใหญ่เป็นชายหาด มีชายหาดสวยหลายแห่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ เช่น หาดช่องกิ่ว หาดลุโบ๊ะ หาดติงไหร ท่าเรือชุมชนบ้านเกาะปู เป็นต้น การเดินทางไปเกาะจำ ต้องไปขึ้นเรือโดยสาร ณ ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่📌 พิกัดท่าเรือแหลมกรวด: https://maps.app.goo.gl/a88vVK7LYnUzdzPJ7 การเดินทางไปท่าเรือแหลมกรวด 🚌1. รถยนต์จากตัวเมืองกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) จนถึงตัวอำเภอเหนือคลอง จากนั้นแยกไปทางขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4036 ตรงไปจนถึงท่าเรือแหลมกรวด รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือแหลมกรวด มีบริการรับฝากรถยนต์ คันละ 100 บาท/คืน 2. รถโดยสารประจำทางในตัวเมืองกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีฟ้า) สายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด จุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) รถจะผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ตัวอำเภอเหนือคลอง และไปจอดหน้าทางเข้าท่าเรือแหลมกรวด ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 60 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังท่าเรือแหลมกรวดประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลรอบเวลารถ โทร. 08 9970 8261 นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถสองแถว (สีฟ้า) สายกระบี่-เหนือคลอง ซึ่งมีจุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) ใกล้กับจุดจอดรถสองแถวสายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด ผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไปสิ้นสุดที่ตลาดในตัวอำเภอเหนือคลอง ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังตัวอำเภอเหนือคลองประมาณ 45 นาที ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลองมีเรือโดยสารเป็นเรือยนต์ให้บริการไปกลับเกาะจำ โดยท่าเรือบนเกาะจำ มี 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมูตู ท่าเรือบ้านเกาะจำ และท่าเรือบ้านเกาะปู ท่าเรือหลักสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางไปกลับเกาะจำ คือ ท่าเรือมูตู ส่วนท่าเรือบ้านเกาะจำและท่าเรือบ้านเกาะปูนิยมใช้ในการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือแหลมกรวด-ท่าเรือมูตู09.00 น. / 10.00 น. / 11.30 น. / 13.00 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 17.30 น. / 18.00 น. ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือมูตู-ท่าเรือแหลมกรวด06.30 น. / 07.00 น. / 08.00 น. / 08.30 น. / 10.30 น. / 13.30 น. / 14.30 น. / 16.00 น. 💸 อัตราค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวไทย 70 บาทนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 140 บาทชาวบ้านบนเกาะ 40 บาท ⏰ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40 นาที ท่าเรือมูตู ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะจำ ไม่มีสะพานท่าเรือ การขึ้นลงเรือจะใช้วิธีเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ บริเวณท่าเรือจะมีจุดจำหน่ายตั๋วเรือขากลับขึ้นฝั่ง มีรถกระบะและจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดรอให้บริการรับส่งไปยังที่พักและจุดต่าง ๆ บนเกาะ ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น จากท่าเรือมูตูไปยังที่พักหาดช่องกิ่วซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ ค่าบริการรถกระบะไปส่ง 200 บาท เป็นต้น และยังสามารถติดต่อเหมารถกระบะที่ท่าเรือให้พาไปเที่ยวรอบเกาะได้ ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมหาดทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ ที่พักส่วนใหญ่จะมีร้านอาหารของที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่แขกผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวระหว่างวัน ส่วนทางฝั่งตะวันออกและทางใต้ของเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนท้องถิ่นและท่าเรือ ลักษณะของที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นบังกะโลคล้ายบ้านเป็นหลัง ๆ และอยู่ริมชายหาด มีบางแห่งที่สร้างเป็นอาคารคล้ายตึกแต่ไม่สูงมาก บนเกาะจำมีที่พักไม่เยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ บนเกาะจำ

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (ฉบับไม่ลงทะเล)

หน้าร้อนนี้ “ภูเก็ต” คงเป็นจุดหมายที่อยากไปของใครหลาย ๆ คน เพราะมีที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน วันนี้บัดดี้ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ที่เพื่อน ๆ สามารถพาครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูง ไปเที่ยวได้อย่างจุใจ เที่ยวแบบครบรส จะไปที่ไหนได้บ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ ✨ Day 1📌 ซุปเปอร์ ติ่มซำ ภูเก็ต📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าฉัตรไชย Community Based Tourism📌 วัดพระทอง (พระผุด)📌 Thalang National Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง📌 Siam Niramit Phuket Day 2📌 โรตีน้ำแกงแถวน้ำ “ภูเก็ตมุสลิม”📌 มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket📌 ร้านวันจันทร์ One Chun Cafe n’ Restaurant📌 Hanuman World📌 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ Aquaria Phuket📌 ร้านน้ำย้อย Day 3📌 Juanhiang Dim sum Official – จ่วนเฮี้ยงติ่มซำ📌 Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ📌 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต Old Phuket town Community📌 ร้านคุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต

ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (ฉบับไม่ลงทะเล) อ่านเพิ่มเติม

ชวนน้องล่องใต้..เที่ยวนราธิวาส 3 วัน 2 คืน

นราธิวาส ดินแดนปลายด้ามขวานที่อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความหลากหลาย ทั้งด้านเชื้อชาติ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม ที่นี่ไม่เพียงแต่นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มคน แต่ยังเป็นการหลอมรวมความแตกต่างของพี่น้องชาวไทยมุสลิม พุทธ และจีนได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วันนี้บัดดี้ขอมาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว จ.นราธิวาส เมืองน่าเที่ยวที่มีความโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรม ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะลายผ้าปาเต๊ะที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นสุด ๆ จนทำให้ตัวศิลปินได้เลือกใช้ “ลายผ้าปาเต๊ะดอกบานบุรีเหลือง” ดอกไม้ประจำจังหวัด สัญลักษณ์ของโชคลาภและความสมหวัง ที่จะดูโดดเด่นมาก ๆ เมื่อลายนี้อยู่บนผ้าปาเต๊ะ มาเป็นแรงบันดาลใจของลายเสื้อผ้าบนตัว Art Toy น้อง Worldboy และน้อง HUUYAOW ในโครงการ Art Toy Journey Collection ลองตามมาอ่านกันว่าเส้นทางท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส จะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง บัดดี้อยากแนะนำเพื่อน ๆ ทุกคนให้ออกมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองนราธิวาส แบบ 3 วัน 2 คืน ในมุมมองใหม่ ๆ ซึ่งจะได้เพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สถาปัตยกรรมอันน่าค้นหา ชิมอาหารพื้นถิ่นชาวมุสลิม (Must Taste) และซื้อปลากุเลาเค็ม (Must Buy) กลับไปฝากคนที่พลาดทริปนี้ก็ได้เช่นกัน 📌 วันที่ 1• ชิมอาหารขึ้นชื่อของชาวนราธิวาส ณ ร้านไก่ฆอและวงเวียนนก ร้านเก่าแก่ที่เปิดขายมายาวนานกว่า 20 ปี ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน และเครื่องปรุงน้ำแกงสูตรเข้มข้น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าของจะหมด☎️ 08 1767 7929 • สักการะ ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ ศาลเจ้าแห่งแรกของชาวไทยเชื้อสายจีน ใกล้กันยังมี องค์พระพิฆเนศ ลักษณะเป็นเทวรูปประทับนั่งในท่าลลิตาสนะ นักท่องเที่ยวนิยมสักการะบูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.☎️ 08 4682 8666, 09 3624 6146 • แวะขอพร พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (วัดเขากง) พระพุทธรูปประทับนั่งประทานพรที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ • รับประทานมื้อเย็น ณ ร้านมังกรทอง ร้านอาหารไทย-จีนเก่าแก่คู่เมือง พร้อมชมบรรยากาศริมน้ำบางนรา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.☎️ 07 3511 835 • เดินเล่นในบรรยากาศยามค่ำคืน ณ ริมเขื่อนมาร์เก็ต แหล่งรวมร้านสตรีทฟู้ด อาหารพื้นเมือง ขนม ของหวานต่าง ๆ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 16.00-23.00 น. 📌 วันที่ 2• รับประทานมื้อเช้า ณ ร้านกะซะห์เนื้อย่าง ลิ้มรสข้าวราดแกงสไตล์มุสลิมทั้งเมนูเนื้อย่าง แกงมัสมั่นเนื้อ แกงไก่ และอื่น ๆ อีกมายมาย⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-15.30 น.☎️ 08 1478 6570 • เยี่ยมชม วัดชลธาราสิงเห วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยที่ใช้เป็นเครื่องต่อรองในการถูกยึดครองโดยอังกฤษในปี พ.ศ. 2441 • ชิมและชอป ปลากุเลาแดดเดียว (Must Buy) ของขึ้นชื่อของอำเภอตากใบ เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สามารถหาซื้อได้ในตัวอำเภอตากใบ มีหลายร้านที่จัดจำหน่าย • เติมพลังมื้อกลางวัน ณ ร้านอาคูว อาหารพื้นถิ่นของชาวมุสลิมที่ไม่ควรพลาด อาทิ เมนูนาซิดาแฆ (Must Taste) นาซิลือเมาะ ซาเต และข้าวบูคอรีแพะ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-22.00 น.☎️ 08 3505 1715 • เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและวัฒนธรรมของชาวมุสลิม ณ พิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน⏰ เปิดวันจันทร์-วันอาทิตย์ (ปิดวันศุกร์) เวลา 09.00-17.00 น☎️ 08 4973 5772 • ชมวิถีชีวิตชาวประมง ณ หาดบ้านทอน มี เรือกอและ สีสันสวยงามจอดเรียงรายริมชายหาด ชมฝีมือการต่อเรือและลงสีเรือกอและ หรือเลือกซื้อเรือกอและจำลอง ณ อู่ต่อเรือกอและบ้านทอนนาอีม (Must Buy)☎️ 08 4973 5772 • มื้อเย็น ณ ร้านสวนอาหารริมน้ำ ร้านอาหารเก่าแก่ โดดเด่นด้วยอาหารใต้รสจัดจ้าน และบรรยากาศผ่อนคลายริมแม่น้ำบางนรา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.☎️ 0 7351 1559 📌 วันที่ 3• ชมความสวยงามยามเช้าของทะเลฝั่งอ่าวไทย ณ หาดนราทัศน์ • รับประทานมื้อเช้า ณ ร้านน้ำชาต้นมะยม ด้วยเมนูอาหารเช้าหลากหลาย เช่น ติ่มซำ บักกุ๊ดเต๋ ข้าวต้ม ชา กาแฟ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-14.00 น.☎️ 08 8269 0989 • ลิ้มรสกรือโปะ (Must Taste) ของทานเล่นขึ้นชื่อจังหวัดนราธิวาส ณ ร้านข้าวเกรียบเมาะซู⏰ เปิดทุกวัน

ชวนน้องล่องใต้..เที่ยวนราธิวาส 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “หาดใหญ่-ยะลา” ในวันฟ้าใส 3 วัน 2 คืน

✨ เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่าง และทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ ✨อากาศเริ่มเย็น ฟ้าฝนเริ่มห่างไป บัดดี้เลยอยากพาเพื่อน ๆ มาชมไอหมอก..หยอกอรุณ ‘เที่ยวหาดใหญ่-ยะลา’ ในวันฟ้าใส บัดดี้มีเส้นทางแนะนำมาฝากเพื่อน ๆ ทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวใต้ ก็ไปนอนกอดหมอกได้เหมือนกันนะ โดยมาเริ่มต้นด้วยการบินไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่กันเลย จากนั้นต่อรถเข้าตัวเมืองยะลา จะนั่งรถโดยสารประจำทางก็ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ค่าโดยสารหลักสิบถึงหลักร้อยเท่านั้น หรือถ้ามากันหลายคน จะเหมารถไปเที่ยวกันเลยก็สะดวกเหมือนกัน…เริ่มกันเลยยยยยยยยย เส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน หาดใหญ่-ยะลา 📌 วันที่ 1: หาดใหญ่-ยะลา• 08.00 น. ออกเดินทางจากหาดใหญ่-ยะลา ถึงตัวเมืองยะลา แวะรับประทานอาหารเช้าร้านดาริสติ่มซำ สาขา 2 (Must taste)📞 09 8798 2255⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.30 – 13.30 น. • 09.30 น. แวะสักการะศาลหลักเมือง บริเวณวงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดเดินทางไปชมความงามของมัสยิดดารุสสลาม ตัวเมืองยะลา แวะถ่ายภาพหน้ามัสยิด (การเที่ยวชมมัสยิด ควรแต่งการสุภาพและเหมาะสม)• 10.30 น. เดินทางไปวัดคูหาภิมุขปูชนียสถานสำคัญของภาคใต้ ซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย บริเวณวัดร่มรื่น มีธารน้ำไหลผ่าน บันไดขึ้นไปยังปากถ้ำ มีรูปปั้นยักษ์ ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเขา” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484 ภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ดัดแปลงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำ ยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงาม• 12.00 น. แวะรับประทานอาหารกลางวันร้านชวนชิม ยะลา ในตลาดยะลา 📞 07 3213 3263• 13.30 น. แวะเที่ยวชมสะพานรถไฟ-สะพานดำ จุดถ่ายภาพยอดฮิตของชาวยะลาและนักท่องเที่ยว เพราะสะพานเหล็กสีดำแห่งนี้เปรียบเสมือนเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองยะลา ด้านล่างเป็นแม่น้ำปัตตานี• 14.30 น. แวะพักเหนื่อย ณ คาเฟยอดฮิตเมืองยะลา ร้านตู้กาแฟ ถนนสิโรรส📞 07 321 1459 ⏰ เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.30 น.• 16.00 น. แวะไปเยี่ยมชมอุทยานการเรียนรู้ยะลา อุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะใจกลางเมือง • 17.30 น. เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมทัศนียภาพและถ่ายภาพ ณ สวนขวัญเมือง• 18.30 น. รับประทานอาหารเย็น บริเวณตลาดเก่า วงเวียนหอนาฬิกาหลังจากนั้น เดินเล่นย่านชอปปิงบริเวณหอนาฬิกา ถ่ายรูปไฟตกแต่งหอนาฬิกาและบริเวณใกล้เคียง• 20.00 น. เข้าที่พัก ณ LaiLa Residence หรือใกล้เคียง 📌 วันที่ 2: ยะลา-เบตง• 08.00 น. ออกเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า ณ ร้านนั่ง เมืองยะลา ถนนธนวิถี อาหารมุสลิม อาหารตามสั่งและอาหารเช้า📞 08 2849 9373⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.30-18.30 น.• 09.00 น. ออกเดินทางไปอำเภอเบตง• 11.30 น. เดินทางถึงอำเภอเบตง แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านบ้านคุณชาย📞 08 4692 8074⏰ เปิดทุกวันเวลา 10.00-20.00 น.• 13.00 น. ออกเดินทางไปสักการะวัดพุทธาธิวาส (วัดพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ) พระอารามหลวง ตั้งอยู่ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมืองเบตง มีพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศอยู่ด้านบน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเบตงได้ มีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (Must seek)• 14.30 น. แวะเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายภาพ ณ บ้านปิยะมิตร ลอดอุโมงค์ ชมต้นไม้พันปี• 15.30 น. แวะอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใน ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 80 องศา และมีบริเวณของน้ำเดือด รอบ ๆ มีธรรมชาติที่สวยงดงาม เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจสุด ๆ (Must try)• 17.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านใบหยก ร้านดั้งเดิม บริการอาหารไทยจีนมากว่า 30 ปีเมนูแนะนำ : แกงส้มยอดมะพร้าว📞 08 6964 4692⏰ เปิดทุกวันเวลา 10.00-20.00 น.• 18.30 น. เดินชมบรรยากาศเมืองเบตงยามค่ำคืน ถ่ายรูปตู้ไปรษณีย์สูงที่สุดในโลก และหอนาฬิกาเบตง• 19.30 น. เข้าที่พัก ณ แกรนด์แมนดารินเบตง ถนนภักดีดำรง หรือใกล้เคียง 📌 วันที่ 3: เบตง-ที่พัก• รับประทานอาหารเช้าและกลางวัน ณ ร้านไทซีฮี้ ติ่มซำ ติ่มซำคู่เมืองเบตงกว่า 80 ปี📞 07 323 0479⏰ เปิดทุกวันเวลา 04.00-12.00น.•

ชวนเที่ยว “หาดใหญ่-ยะลา” ในวันฟ้าใส 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน

ปัตตานี หนึ่งในจังหวัดสามชายแดนใต้ เมืองพหุวัฒนธรรม ที่รวมความศรัทธาของทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน สะท้อนผ่านความเชื่อ ศาสนสถาน และอาหาร ที่มีความหลากหลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปัตตานีที่ไม่ว่าใครจะมาเยือน ก็จะได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาได้เป็นอย่างดี วันนี้บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ล่องใต้ ไปเที่ยวจังหวัดปัตตานี ไปชิมเมนู Must Taste ชมสถานที่ Must Seek และเที่ยวชุมชน Must Try แบบจัดเต็ม 3 วัน 2 คืน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามบัดดี้มาเลย วันที่ 1 📌 เริ่มต้นมื้อเช้า ณ ร้านโรตีบังหนูด ลิ้มรสโรตี ชาชัก เมนู Must Taste แบบฉบับชาวปัตตานี⏰ เปิดวันจันทร์-วันอาทิตย์ (ปิดวันศุกร์) เวลา 06.30-19.00 น.☎️ 09 8980 4843 📌 สักการะ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.☎️ 07 333 2851 📌 เดินเล่น ถ่ายภาพสวย ๆ ชมเมืองเก่าปัตตานี ณ ย่านกือดาจีนอ (Must Seek) 📌 ทานมื้อเที่ยง ณ ร้าน มิตรไมตรี Dining Cafe’ ร้านอาหารฮาลาลระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยเมนูสเต็กเนื้อ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.☎️ 06 6109 5110 📌 ชม มัสยิดกรือเซะ (Must Seek) มัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 450 ปี 📌 เยี่ยมชม หลุมฝังศพของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตั้งอยู่ติดกับมัสยิดกรือเซะ มื้อเย็น ล่องเรือกอและพร้อมชิมเมนูพื้นบ้าน นาสิอีแดกำปง และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ อ่าวปัตตานี☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม 09 3580 2702 วันที่ 2 📌 มื้อเช้า ณ ร้าน Roti de Forest ที่มีเมนูอาหารทั้งคาวหวานให้เลือกทาน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-23.00 น.☎️ 09 5462 2792 📌 เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านการเยี่ยมชม วังยะหริ่ง (Must Seek)⏰ เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-16.30 น.☎️ 06 1234 9537 📌 อร่อยมื้อเที่ยง ณ สะเต๊ะศรีเมือง ร้านสะเต๊ะเก่าแก่ในปัตตานี เปิดมานานกว่า 50 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.☎️ 08 7277 0182 📌 เดินทางเข้าชม เมืองโบราณยะรัง (Must Seek) ชุมชนสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น. 📌 ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามของ มัสยิดกลางปัตตานี ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิม⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น. 📌 ลิ้มรสเมนู Must Taste นาสิกาบู (ข้าวยำ) และตูปะตูซง ณ ร้านกะมา ข้าวยำราชา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 15.00-22.00 น.☎️ 08 1543 7501 วันที่ 3 📌 ชมเที่ยวตลาดเช้า พร้อมรับประทานอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ แบบฉบับคนโลคัล ณ ตลาดเทศวิวัฒน์ 📌 นั่งรถจี๊บโบราณสำรวจ ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว (Must Try) ชุมชนสองวัฒนธรรมไทย-มุสลิม☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว 08 9737 9553 📌 นมัสการ หลวงปู่ทวด วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้)  (Must Seek) วัดเก่าแก่กว่า 300 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top