ที่เที่ยวภาคใต้

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวหลายคนเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกระบี่อาจมองข้ามหรือผ่านเลยไป แต่ถ้าลองหาโอกาสแวะมาเที่ยวชมภายในอุทยานฯ ซึ่งมีทั้งป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตกสวย ๆ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็จะพบว่าที่นี่ถือเป็นสถานที่ฮีลใจ เป็นแหล่งโอโซน และบำบัดความเครียดได้เป็นอย่างดี อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ครอบคลุมท้องที่อำเภออ่าวลึก อำเภอเขาพนม และอำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เขาพนมเบญจาเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีไอหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ลำธาร น้ำตก ถ้ำต่าง ๆ และสัตว์ป่านานาชนิด มีเนื้อที่ประมาณ 31,325 ไร่ หรือ 50.12 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาที่เขียวชอุ่มสลับซับซ้อน มีหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วยเขาพนมและเขาพนมเบญจา เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอดจากเหนือจรดใต้ ซึ่งมียอดเขาสูงสุด คือ “ยอดเขาพนมเบญจา” มีความสูง 1,397 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นยอดเขาสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภาคใต้ เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำสายสำคัญที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในตัวเมืองกระบี่ ได้แก่ คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น คลองโตน คลองกระบี่น้อย คลองพอทาก ห้วยสะเค ห้วยส้าน และห้วยไผ่ ลักษณะภูมิอากาศ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาอยู่ในเขตมรสุมเมืองร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี ประกอบด้วย 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน และฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม จะมีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่อุทยานฯ มีดังนี้“น้ำตกห้วยโต้” น้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น ลงเล่นน้ำได้ 5 ชั้น ได้แก่ วังชก วังสามหาบ วังจงลอย วังปรงและวังเทวดา มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำตกห้วยโต้ ระยะทาง 3.87 กิโลเมตร เส้นทางผ่านจุดชมวิวและแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นน้ำที่นำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าถวายในพระราชพิธีต่าง ๆ “น้ำตกห้วยสะเค” น้ำตกขนาดเล็ก มีทั้งหมด 3 ชั้น สภาพป่าสองข้างทางขึ้นน้ำตกมีความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้นานาชนิด “ต้นสมพง” รุกขมรดกแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา ต้นสมพงต้นนี้ เป็นต้นไม้ที่หากวัดรอบโคนต้นจะมีความกว้างถึง 35 เมตร สูงกว่า 30 เมตร มีความสูงพอ ๆ กับตึก 10 ชั้น และมีอายุประมาณ 120 ปี นับเป็นรุกขมรดกหรือต้นไม้ใหญ่ที่ทรงคุณค่า สามารถใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกห้วยสะเค ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เพียงไม่กี่นาที ก็จะพบกับต้นสมพง สัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์หนึ่งแห่งผืนป่าเขาพนมเบญจา “ยอดเขาพนมเบญจา” หากว่าใครอยากวัดกำลังขาและความอึดของตัวเอง สามารถเดินป่าพิชิตยอดเขาพนมเบญจา มีระยะทางไป-กลับประมาณ 10 กิโลเมตร ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ท้าทาย โดยทางอุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินแค่ 1-2 กลุ่มต่อเดือนเท่านั้น จะเห็นได้ว่าตลอดทางเดินจะมีใบไม้ปกคลุมเยอะ การเดินทางขึ้นไปถึงยอดเรียกได้ว่าค่อนข้างลำบาก มีทางราบไม่ถึง 100 เมตร บวกกับทางเดินที่ชันถึง 45-60 องศาเลยก็ว่าได้ และบางช่วงเป็นหินที่จะต้องปีนป่าย แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างทางค่อนข้างร่มรื่น ระหว่างทางจะมีจุดให้เติมน้ำ จุดตั้งแคมป์จะตั้งอยู่ริมน้ำ สามารถผูกเปลและกางเต็นท์ได้ สัมภาระทุกอย่างจะต้องแบกเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าแดนใต้ที่มีความท้าทาย และอาจไม่เหมาะกับนักเดินป่ามือใหม่สักเท่าใดนัก นักท่องเที่ยวที่สนใจพิชิตยอดเขาพนมเบญจา จำเป็นต้องทำการจองกับทางอุทยานฯ ล่วงหน้า อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวก มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ บ้านพักรับรอง ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ ใครที่คิดว่ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาแล้วต้องสมบุกสมบัน เห็นทีต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว สอบถามข้อมูลการจองที่พักอุทยานแห่งชาติ☎️ โทร. 0 2562 0760 ถึง 3 หรือ 0 2561 0777 ต่อ 1743, 1744📌 https://maps.app.goo.gl/aXQ4LWAWc9HwyReR9

ชวนเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา’ จังหวัดกระบี่ อ่านเพิ่มเติม

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า

บัดดี้พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไปอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา หาดไร่เลย์ และหาดถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า เส้นทางนี้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย~ บทความยาว ๆ อ่านบทความเดียวก็เที่ยวตามได้เลย เพราะว่าเราจะบอกข้อมูลสำคัญครบ ได้แก่👉🏻 การเดินทางไปหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี👉🏻 มุมสวยหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง👉🏻 การเดินทางไปไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง👉🏻 มุมสวยไร่เลย์และหาดถ้ำพระนาง การเดินทางจากตัวเมืองกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนางที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีบริการรถบัสโดยสารปรับอากาศเข้าตัวเมืองกระบี่ เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง จุดจำหน่ายบัตรโดยสารและรอขึ้นรถ จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 15 เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงประตูทางออก ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยรถจะวิ่งถนนเส้นหลักเลียบแนวหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง สามารถแจ้งคนขับก่อนรถออกจากท่าว่าพักโรงแรมอะไรในเส้นทางนั้นได้ คนขับจะจอดส่งให้ลงริมถนนเส้นหลักที่ใกล้กับโรงแรมที่พักมากที่สุด ขากลับหากต้องการใช้บริการรถสายนี้จากอ่าวนางหรือหาดนพรัตน์ธาราไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แนะนำให้โทรจองที่นั่งล่วงหน้า 1 วัน ก่อนวันเดินทางกลับ เพราะบริษัทรถจะนัดเวลาให้มารอขึ้นรถริมถนนเส้นหลักที่รถจะผ่านและจอดแวะรับ โดยทางบริษัทรถจะนัดหมายเวลาขึ้นรถให้กับนักท่องเที่ยวตามข้อมูลเที่ยวบินของนักท่องเที่ยว เพื่อให้เดินทางไปทันขึ้นเครื่องบินต่อไป อัตราค่าโดยสาร เที่ยวไปและเที่ยวกลับราคาเดียวกัน💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่ 80 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-ตัวเมืองกระบี่ 90 บาท💸 ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่-หาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง 150 บาท สอบถามข้อมูล: บริษัท พิเชษฐ์ ขนส่ง จำกัดโทร. 08 2468 2426, 08 2468 2426, 09 9282 1424 จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีขาว) สายสถานีขนส่งฯ – ตัวเมืองกระบี่ – หาดนพรัตน์ธารา – อ่าวนาง – อ่าวน้ำเมา ให้บริการตลอดทั้งวัน อัตราค่าโดยสาร 50 บาท ตลอดสาย ใครที่มาเที่ยวกระบี่ หากพักหรือเที่ยวในตัวเมืองก่อน สามารถมาขึ้นรถสองแถวสายนี้ที่บริเวณหัวมุมถนนมหาราช ซอย 8 ใกล้กับห้างโวค (Vogue Shopping Center) ในตัวเมืองกระบี่ เพื่อไปเที่ยวต่อที่อ่างนางหรือหาดนพรัตน์ธารา ที่พักโซนหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง มีที่พักเอกชนให้บริการมากมายหลายระดับราคา แต่ในบทความนี้ขอพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับที่พักราคาประหยัด ทำเลที่ตั้งและบรรยากาศดี คือ บ้านพักและจุดกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา บ้านพักอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ ณ หาดนพรัตน์ธารา เพียงข้ามถนนไปก็เป็นชายหาดนพรัตน์ธารา มีบ้านพักแฝดประมาณ 10 หลัง ใน 1 หลัง แบ่งเป็นห้องพัก 4 ห้อง แต่ละห้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ราคาห้องละ 1,500 บาท ภายในประกอบด้วย เตียงนอน 2 เตียง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และห้องน้ำในตัว ถือว่าราคาสมเหตุสมผล และตั้งอยู่ในทำเลที่ดีด้วย 📌 พิกัดบ้านพักอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/5MGS1uVMMVL5aGFE8 ในส่วนของพื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ และโซนบ้านพักอุทยานฯ เดินประมาณ 150 เมตร ก็ถึงหาดนพรัตน์ธารา นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มากางเอง เสียค่าธรรมเนียมหลังละ 30 บาทต่อคืน หรือเช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอนของอุทยานฯ ก็ได้ ค่าเช่าเต็นท์ของอุทยานฯ หลังละ 225 บาท (นอนได้ 2-3 คน) เครื่องนอนชุดละ 60 บาท บริเวณเดียวกันนี้ยังเป็นที่จอดรถบ้านด้วย มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ พิกัดลานกางเต็นท์ของอุทยานฯ: https://maps.app.goo.gl/RAUhyNPERczo7W2m9 📌 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ที่ 5 หาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 💸 อัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท *แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระอัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ อัตราพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะไม้ไผ่ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักและจุดกางเต็นท์ ร้านอาหารสวัสดิการ สามารถจองบ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php ☎️ สอบถามข้อมูลโทร. 0 7566 1145 (ที่ทำการอุทยานฯ)โทร. 0 7565 6150, 08 9871 1082 (บ้านพักและจุดกางเต็นท์อุทยานฯ) 📌 หาดนพรัตน์ธารานักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่ลานจอดรถบริเวณที่ทำการอุทยานฯ และเดินเท้าผ่านแนวต้นสนทะเลมาประมาณ 50 เมตร ถึงหาดนพรัตน์ธารา หาดนพรัตน์ธาราอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ แต่การเดินเที่ยวชม พักผ่อน หรือเล่นน้ำที่หาดนี้ นักท่องเที่ยวไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา มีลักษณะเป็นชายหาดยาว ตอนเหนือของหาดติดกับปากคลองแห้ง เป็นจุดที่คลองแห้งไหลออกสู่ทะเล และบริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีด้วย ส่วนทางตอนใต้ของหาดมีพื้นที่ต่อเนื่องกับหาดอ่าวนาง ทางตอนเหนือของหาดนพรัตน์ธารา มีหาดทรายสีขาว เม็ดละเอียด น้ำทะเลสวยใส นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำและนอนอาบแดดกันบริเวณนี้ จุดนี้ทางอุทยานฯ ห้ามเรือทุกชนิดเข้ามาจอดที่หน้าหาด เพื่อเปิดพื้นที่ชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย บริเวณปลายแหลมทางตอนเหนือของหาด เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว จากหาดนพรัตน์ธารา สามารถเดินเท้าไปเที่ยวต่อยังอ่าวนางได้ เพราะชายหาดยาวต่อเนื่องกัน หรือหากใครไม่อยากเดิน จะมีรถสองแถว (สีขาว)

พาไปเที่ยวและแนะนำข้อมูลการเดินทางไป อ่าวนาง-หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แบบสบายกระเป๋า อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน

ชวนไปท่องเที่ยวจังหวัดชายฝั่งอันดามันที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลาย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวบนบก ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้กระบี่ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อได้อย่างกลมกลืน ความหลากหลายเช่นนี้ทำให้กระบี่มีรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและทุกวัยได้อย่างเหมาะสม วันที่ 1📌 ท่าปอม คลองสองน้ำ📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก วันที่ 2📌 หมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี📌 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ)📌 ลากูนเกาะห้อง (ทะเลใน)📌 เกาะเหลาลาดิง📌 เกาะผักเบี้ย📌 อ่าวนาง วันที่ 3📌 หาดนพรัตน์ธารา📌 อ่าวไร่เลย์📌 หาดไร่เลย์ตะวันตก📌 หาดไร่เลย์ตะวันออก📌 หาดถ้ำพระนาง📌 วัดถ้ำเสือ

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker

เกาะจำ เกาะใกล้ฝั่งของทะเลกระบี่ ที่เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนฮีลใจ และลองใช้ชีวิตแบบ Slow life เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวสายแบกเป้น่าจะชื่นชอบ บรรยากาศบนเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งน่ารักและใจดี 🥰 📌 เกาะจำ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ห่างจากฝั่งอำเภอเหนือคลองประมาณ 23 กิโลเมตร บนเกาะมี 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเกาะปู บ้านเกาะจำ และบ้านติงไหร จากคำบอกเล่าของชาวบ้านถึงความเป็นมาของเกาะ เมื่อราว 200 กว่าปีก่อน มีชาวพื้นเมืองมุสลิมอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะปู” ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาจากเกาะจำนุ้ยซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง รวมกับชาวจีนที่ทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานรวมกันทางตอนใต้ของเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะจำ” ดังนั้นเกาะแห่งนี้จึงมีชื่อเรียก 2 ชื่อ แต่ก็คือเกาะเดียวกัน เกาะจำ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นเกาะใกล้ชายฝั่ง แต่ช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ ฟ้าใส แดดดี และน้ำทะเลสวยน่าเล่น คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคม พิกัดแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ รอบเกาะ👉🏻 หาดช่องกิ่ว👉🏻 หาดลุโบ๊ะ👉🏻 Rock View Terrace👉🏻 ท่าเรือบ้านเกาะปู👉🏻 หาดติงไหร ชาวบ้านบนเกาะจำมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนยางพารา ทำเครื่องแกงและน้ำพริกจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะส่วนใหญ่เป็นชายหาด มีชายหาดสวยหลายแห่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ เช่น หาดช่องกิ่ว หาดลุโบ๊ะ หาดติงไหร ท่าเรือชุมชนบ้านเกาะปู เป็นต้น การเดินทางไปเกาะจำ ต้องไปขึ้นเรือโดยสาร ณ ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่📌 พิกัดท่าเรือแหลมกรวด: https://maps.app.goo.gl/a88vVK7LYnUzdzPJ7 การเดินทางไปท่าเรือแหลมกรวด 🚌1. รถยนต์จากตัวเมืองกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) จนถึงตัวอำเภอเหนือคลอง จากนั้นแยกไปทางขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4036 ตรงไปจนถึงท่าเรือแหลมกรวด รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือแหลมกรวด มีบริการรับฝากรถยนต์ คันละ 100 บาท/คืน 2. รถโดยสารประจำทางในตัวเมืองกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีฟ้า) สายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด จุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) รถจะผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ตัวอำเภอเหนือคลอง และไปจอดหน้าทางเข้าท่าเรือแหลมกรวด ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 60 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังท่าเรือแหลมกรวดประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลรอบเวลารถ โทร. 08 9970 8261 นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถสองแถว (สีฟ้า) สายกระบี่-เหนือคลอง ซึ่งมีจุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) ใกล้กับจุดจอดรถสองแถวสายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด ผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไปสิ้นสุดที่ตลาดในตัวอำเภอเหนือคลอง ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังตัวอำเภอเหนือคลองประมาณ 45 นาที ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลองมีเรือโดยสารเป็นเรือยนต์ให้บริการไปกลับเกาะจำ โดยท่าเรือบนเกาะจำ มี 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมูตู ท่าเรือบ้านเกาะจำ และท่าเรือบ้านเกาะปู ท่าเรือหลักสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางไปกลับเกาะจำ คือ ท่าเรือมูตู ส่วนท่าเรือบ้านเกาะจำและท่าเรือบ้านเกาะปูนิยมใช้ในการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือแหลมกรวด-ท่าเรือมูตู09.00 น. / 10.00 น. / 11.30 น. / 13.00 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 17.30 น. / 18.00 น. ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือมูตู-ท่าเรือแหลมกรวด06.30 น. / 07.00 น. / 08.00 น. / 08.30 น. / 10.30 น. / 13.30 น. / 14.30 น. / 16.00 น. 💸 อัตราค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวไทย 70 บาทนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 140 บาทชาวบ้านบนเกาะ 40 บาท ⏰ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40 นาที ท่าเรือมูตู ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะจำ ไม่มีสะพานท่าเรือ การขึ้นลงเรือจะใช้วิธีเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ บริเวณท่าเรือจะมีจุดจำหน่ายตั๋วเรือขากลับขึ้นฝั่ง มีรถกระบะและจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดรอให้บริการรับส่งไปยังที่พักและจุดต่าง ๆ บนเกาะ ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น จากท่าเรือมูตูไปยังที่พักหาดช่องกิ่วซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ ค่าบริการรถกระบะไปส่ง 200 บาท เป็นต้น และยังสามารถติดต่อเหมารถกระบะที่ท่าเรือให้พาไปเที่ยวรอบเกาะได้ ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมหาดทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ ที่พักส่วนใหญ่จะมีร้านอาหารของที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่แขกผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวระหว่างวัน ส่วนทางฝั่งตะวันออกและทางใต้ของเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนท้องถิ่นและท่าเรือ ลักษณะของที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นบังกะโลคล้ายบ้านเป็นหลัง ๆ และอยู่ริมชายหาด มีบางแห่งที่สร้างเป็นอาคารคล้ายตึกแต่ไม่สูงมาก บนเกาะจำมีที่พักไม่เยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ บนเกาะจำ

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (ฉบับไม่ลงทะเล)

หน้าร้อนนี้ “ภูเก็ต” คงเป็นจุดหมายที่อยากไปของใครหลาย ๆ คน เพราะมีที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน วันนี้บัดดี้ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ที่เพื่อน ๆ สามารถพาครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูง ไปเที่ยวได้อย่างจุใจ เที่ยวแบบครบรส จะไปที่ไหนได้บ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ ✨ Day 1📌 ซุปเปอร์ ติ่มซำ ภูเก็ต📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าฉัตรไชย Community Based Tourism📌 วัดพระทอง (พระผุด)📌 Thalang National Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง📌 Siam Niramit Phuket Day 2📌 โรตีน้ำแกงแถวน้ำ “ภูเก็ตมุสลิม”📌 มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket📌 ร้านวันจันทร์ One Chun Cafe n’ Restaurant📌 Hanuman World📌 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ Aquaria Phuket📌 ร้านน้ำย้อย Day 3📌 Juanhiang Dim sum Official – จ่วนเฮี้ยงติ่มซำ📌 Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ📌 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต Old Phuket town Community📌 ร้านคุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต

ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (ฉบับไม่ลงทะเล) อ่านเพิ่มเติม

ชวนน้องล่องใต้..เที่ยวนราธิวาส 3 วัน 2 คืน

นราธิวาส ดินแดนปลายด้ามขวานที่อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความหลากหลาย ทั้งด้านเชื้อชาติ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม ที่นี่ไม่เพียงแต่นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มคน แต่ยังเป็นการหลอมรวมความแตกต่างของพี่น้องชาวไทยมุสลิม พุทธ และจีนได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วันนี้บัดดี้ขอมาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว จ.นราธิวาส เมืองน่าเที่ยวที่มีความโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรม ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะลายผ้าปาเต๊ะที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นสุด ๆ จนทำให้ตัวศิลปินได้เลือกใช้ “ลายผ้าปาเต๊ะดอกบานบุรีเหลือง” ดอกไม้ประจำจังหวัด สัญลักษณ์ของโชคลาภและความสมหวัง ที่จะดูโดดเด่นมาก ๆ เมื่อลายนี้อยู่บนผ้าปาเต๊ะ มาเป็นแรงบันดาลใจของลายเสื้อผ้าบนตัว Art Toy น้อง Worldboy และน้อง HUUYAOW ในโครงการ Art Toy Journey Collection ลองตามมาอ่านกันว่าเส้นทางท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส จะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง บัดดี้อยากแนะนำเพื่อน ๆ ทุกคนให้ออกมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองนราธิวาส แบบ 3 วัน 2 คืน ในมุมมองใหม่ ๆ ซึ่งจะได้เพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สถาปัตยกรรมอันน่าค้นหา ชิมอาหารพื้นถิ่นชาวมุสลิม (Must Taste) และซื้อปลากุเลาเค็ม (Must Buy) กลับไปฝากคนที่พลาดทริปนี้ก็ได้เช่นกัน 📌 วันที่ 1• ชิมอาหารขึ้นชื่อของชาวนราธิวาส ณ ร้านไก่ฆอและวงเวียนนก ร้านเก่าแก่ที่เปิดขายมายาวนานกว่า 20 ปี ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน และเครื่องปรุงน้ำแกงสูตรเข้มข้น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าของจะหมด☎️ 08 1767 7929 • สักการะ ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ ศาลเจ้าแห่งแรกของชาวไทยเชื้อสายจีน ใกล้กันยังมี องค์พระพิฆเนศ ลักษณะเป็นเทวรูปประทับนั่งในท่าลลิตาสนะ นักท่องเที่ยวนิยมสักการะบูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.☎️ 08 4682 8666, 09 3624 6146 • แวะขอพร พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (วัดเขากง) พระพุทธรูปประทับนั่งประทานพรที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ • รับประทานมื้อเย็น ณ ร้านมังกรทอง ร้านอาหารไทย-จีนเก่าแก่คู่เมือง พร้อมชมบรรยากาศริมน้ำบางนรา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.☎️ 07 3511 835 • เดินเล่นในบรรยากาศยามค่ำคืน ณ ริมเขื่อนมาร์เก็ต แหล่งรวมร้านสตรีทฟู้ด อาหารพื้นเมือง ขนม ของหวานต่าง ๆ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 16.00-23.00 น. 📌 วันที่ 2• รับประทานมื้อเช้า ณ ร้านกะซะห์เนื้อย่าง ลิ้มรสข้าวราดแกงสไตล์มุสลิมทั้งเมนูเนื้อย่าง แกงมัสมั่นเนื้อ แกงไก่ และอื่น ๆ อีกมายมาย⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-15.30 น.☎️ 08 1478 6570 • เยี่ยมชม วัดชลธาราสิงเห วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยที่ใช้เป็นเครื่องต่อรองในการถูกยึดครองโดยอังกฤษในปี พ.ศ. 2441 • ชิมและชอป ปลากุเลาแดดเดียว (Must Buy) ของขึ้นชื่อของอำเภอตากใบ เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สามารถหาซื้อได้ในตัวอำเภอตากใบ มีหลายร้านที่จัดจำหน่าย • เติมพลังมื้อกลางวัน ณ ร้านอาคูว อาหารพื้นถิ่นของชาวมุสลิมที่ไม่ควรพลาด อาทิ เมนูนาซิดาแฆ (Must Taste) นาซิลือเมาะ ซาเต และข้าวบูคอรีแพะ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-22.00 น.☎️ 08 3505 1715 • เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและวัฒนธรรมของชาวมุสลิม ณ พิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน⏰ เปิดวันจันทร์-วันอาทิตย์ (ปิดวันศุกร์) เวลา 09.00-17.00 น☎️ 08 4973 5772 • ชมวิถีชีวิตชาวประมง ณ หาดบ้านทอน มี เรือกอและ สีสันสวยงามจอดเรียงรายริมชายหาด ชมฝีมือการต่อเรือและลงสีเรือกอและ หรือเลือกซื้อเรือกอและจำลอง ณ อู่ต่อเรือกอและบ้านทอนนาอีม (Must Buy)☎️ 08 4973 5772 • มื้อเย็น ณ ร้านสวนอาหารริมน้ำ ร้านอาหารเก่าแก่ โดดเด่นด้วยอาหารใต้รสจัดจ้าน และบรรยากาศผ่อนคลายริมแม่น้ำบางนรา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.☎️ 0 7351 1559 📌 วันที่ 3• ชมความสวยงามยามเช้าของทะเลฝั่งอ่าวไทย ณ หาดนราทัศน์ • รับประทานมื้อเช้า ณ ร้านน้ำชาต้นมะยม ด้วยเมนูอาหารเช้าหลากหลาย เช่น ติ่มซำ บักกุ๊ดเต๋ ข้าวต้ม ชา กาแฟ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-14.00 น.☎️ 08 8269 0989 • ลิ้มรสกรือโปะ (Must Taste) ของทานเล่นขึ้นชื่อจังหวัดนราธิวาส ณ ร้านข้าวเกรียบเมาะซู⏰ เปิดทุกวัน

ชวนน้องล่องใต้..เที่ยวนราธิวาส 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “หาดใหญ่-ยะลา” ในวันฟ้าใส 3 วัน 2 คืน

✨ เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่าง และทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ ✨อากาศเริ่มเย็น ฟ้าฝนเริ่มห่างไป บัดดี้เลยอยากพาเพื่อน ๆ มาชมไอหมอก..หยอกอรุณ ‘เที่ยวหาดใหญ่-ยะลา’ ในวันฟ้าใส บัดดี้มีเส้นทางแนะนำมาฝากเพื่อน ๆ ทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวใต้ ก็ไปนอนกอดหมอกได้เหมือนกันนะ โดยมาเริ่มต้นด้วยการบินไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่กันเลย จากนั้นต่อรถเข้าตัวเมืองยะลา จะนั่งรถโดยสารประจำทางก็ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ค่าโดยสารหลักสิบถึงหลักร้อยเท่านั้น หรือถ้ามากันหลายคน จะเหมารถไปเที่ยวกันเลยก็สะดวกเหมือนกัน…เริ่มกันเลยยยยยยยยย เส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน หาดใหญ่-ยะลา 📌 วันที่ 1: หาดใหญ่-ยะลา• 08.00 น. ออกเดินทางจากหาดใหญ่-ยะลา ถึงตัวเมืองยะลา แวะรับประทานอาหารเช้าร้านดาริสติ่มซำ สาขา 2 (Must taste)📞 09 8798 2255⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.30 – 13.30 น. • 09.30 น. แวะสักการะศาลหลักเมือง บริเวณวงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดเดินทางไปชมความงามของมัสยิดดารุสสลาม ตัวเมืองยะลา แวะถ่ายภาพหน้ามัสยิด (การเที่ยวชมมัสยิด ควรแต่งการสุภาพและเหมาะสม)• 10.30 น. เดินทางไปวัดคูหาภิมุขปูชนียสถานสำคัญของภาคใต้ ซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย บริเวณวัดร่มรื่น มีธารน้ำไหลผ่าน บันไดขึ้นไปยังปากถ้ำ มีรูปปั้นยักษ์ ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเขา” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484 ภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ดัดแปลงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำ ยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงาม• 12.00 น. แวะรับประทานอาหารกลางวันร้านชวนชิม ยะลา ในตลาดยะลา 📞 07 3213 3263• 13.30 น. แวะเที่ยวชมสะพานรถไฟ-สะพานดำ จุดถ่ายภาพยอดฮิตของชาวยะลาและนักท่องเที่ยว เพราะสะพานเหล็กสีดำแห่งนี้เปรียบเสมือนเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองยะลา ด้านล่างเป็นแม่น้ำปัตตานี• 14.30 น. แวะพักเหนื่อย ณ คาเฟยอดฮิตเมืองยะลา ร้านตู้กาแฟ ถนนสิโรรส📞 07 321 1459 ⏰ เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.30 น.• 16.00 น. แวะไปเยี่ยมชมอุทยานการเรียนรู้ยะลา อุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะใจกลางเมือง • 17.30 น. เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมทัศนียภาพและถ่ายภาพ ณ สวนขวัญเมือง• 18.30 น. รับประทานอาหารเย็น บริเวณตลาดเก่า วงเวียนหอนาฬิกาหลังจากนั้น เดินเล่นย่านชอปปิงบริเวณหอนาฬิกา ถ่ายรูปไฟตกแต่งหอนาฬิกาและบริเวณใกล้เคียง• 20.00 น. เข้าที่พัก ณ LaiLa Residence หรือใกล้เคียง 📌 วันที่ 2: ยะลา-เบตง• 08.00 น. ออกเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า ณ ร้านนั่ง เมืองยะลา ถนนธนวิถี อาหารมุสลิม อาหารตามสั่งและอาหารเช้า📞 08 2849 9373⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.30-18.30 น.• 09.00 น. ออกเดินทางไปอำเภอเบตง• 11.30 น. เดินทางถึงอำเภอเบตง แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านบ้านคุณชาย📞 08 4692 8074⏰ เปิดทุกวันเวลา 10.00-20.00 น.• 13.00 น. ออกเดินทางไปสักการะวัดพุทธาธิวาส (วัดพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ) พระอารามหลวง ตั้งอยู่ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมืองเบตง มีพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศอยู่ด้านบน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเบตงได้ มีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (Must seek)• 14.30 น. แวะเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายภาพ ณ บ้านปิยะมิตร ลอดอุโมงค์ ชมต้นไม้พันปี• 15.30 น. แวะอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใน ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 80 องศา และมีบริเวณของน้ำเดือด รอบ ๆ มีธรรมชาติที่สวยงดงาม เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจสุด ๆ (Must try)• 17.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านใบหยก ร้านดั้งเดิม บริการอาหารไทยจีนมากว่า 30 ปีเมนูแนะนำ : แกงส้มยอดมะพร้าว📞 08 6964 4692⏰ เปิดทุกวันเวลา 10.00-20.00 น.• 18.30 น. เดินชมบรรยากาศเมืองเบตงยามค่ำคืน ถ่ายรูปตู้ไปรษณีย์สูงที่สุดในโลก และหอนาฬิกาเบตง• 19.30 น. เข้าที่พัก ณ แกรนด์แมนดารินเบตง ถนนภักดีดำรง หรือใกล้เคียง 📌 วันที่ 3: เบตง-ที่พัก• รับประทานอาหารเช้าและกลางวัน ณ ร้านไทซีฮี้ ติ่มซำ ติ่มซำคู่เมืองเบตงกว่า 80 ปี📞 07 323 0479⏰ เปิดทุกวันเวลา 04.00-12.00น.•

ชวนเที่ยว “หาดใหญ่-ยะลา” ในวันฟ้าใส 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน

ปัตตานี หนึ่งในจังหวัดสามชายแดนใต้ เมืองพหุวัฒนธรรม ที่รวมความศรัทธาของทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน สะท้อนผ่านความเชื่อ ศาสนสถาน และอาหาร ที่มีความหลากหลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปัตตานีที่ไม่ว่าใครจะมาเยือน ก็จะได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาได้เป็นอย่างดี วันนี้บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ล่องใต้ ไปเที่ยวจังหวัดปัตตานี ไปชิมเมนู Must Taste ชมสถานที่ Must Seek และเที่ยวชุมชน Must Try แบบจัดเต็ม 3 วัน 2 คืน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามบัดดี้มาเลย วันที่ 1 📌 เริ่มต้นมื้อเช้า ณ ร้านโรตีบังหนูด ลิ้มรสโรตี ชาชัก เมนู Must Taste แบบฉบับชาวปัตตานี⏰ เปิดวันจันทร์-วันอาทิตย์ (ปิดวันศุกร์) เวลา 06.30-19.00 น.☎️ 09 8980 4843 📌 สักการะ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.☎️ 07 333 2851 📌 เดินเล่น ถ่ายภาพสวย ๆ ชมเมืองเก่าปัตตานี ณ ย่านกือดาจีนอ (Must Seek) 📌 ทานมื้อเที่ยง ณ ร้าน มิตรไมตรี Dining Cafe’ ร้านอาหารฮาลาลระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยเมนูสเต็กเนื้อ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.☎️ 06 6109 5110 📌 ชม มัสยิดกรือเซะ (Must Seek) มัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 450 ปี 📌 เยี่ยมชม หลุมฝังศพของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตั้งอยู่ติดกับมัสยิดกรือเซะ มื้อเย็น ล่องเรือกอและพร้อมชิมเมนูพื้นบ้าน นาสิอีแดกำปง และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ อ่าวปัตตานี☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม 09 3580 2702 วันที่ 2 📌 มื้อเช้า ณ ร้าน Roti de Forest ที่มีเมนูอาหารทั้งคาวหวานให้เลือกทาน⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-23.00 น.☎️ 09 5462 2792 📌 เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านการเยี่ยมชม วังยะหริ่ง (Must Seek)⏰ เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-16.30 น.☎️ 06 1234 9537 📌 อร่อยมื้อเที่ยง ณ สะเต๊ะศรีเมือง ร้านสะเต๊ะเก่าแก่ในปัตตานี เปิดมานานกว่า 50 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.☎️ 08 7277 0182 📌 เดินทางเข้าชม เมืองโบราณยะรัง (Must Seek) ชุมชนสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น. 📌 ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามของ มัสยิดกลางปัตตานี ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิม⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น. 📌 ลิ้มรสเมนู Must Taste นาสิกาบู (ข้าวยำ) และตูปะตูซง ณ ร้านกะมา ข้าวยำราชา⏰ เปิดทุกวัน เวลา 15.00-22.00 น.☎️ 08 1543 7501 วันที่ 3 📌 ชมเที่ยวตลาดเช้า พร้อมรับประทานอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ แบบฉบับคนโลคัล ณ ตลาดเทศวิวัฒน์ 📌 นั่งรถจี๊บโบราณสำรวจ ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว (Must Try) ชุมชนสองวัฒนธรรมไทย-มุสลิม☎️ สอบถามข้อมูล ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว 08 9737 9553 📌 นมัสการ หลวงปู่ทวด วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้)  (Must Seek) วัดเก่าแก่กว่า 300 ปี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

เที่ยวปัตตานี เมืองพหุวัฒนธรรม 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

ชวนเดินเที่ยวย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต

เมื่อพูดถึง “จังหวัดภูเก็ต” แล้ว เพื่อน ๆ นึกถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนกันคะ บ้างก็นึกถึงเกาะที่มีจุดชมวิว หาดทราย ชายทะเลรายล้อมมากมาย นึกถึงอาหารทะเลอร่อย ๆ จุใจ รวมทั้งเป็นพื้นที่ ๆ ที่จัดงานระดับโลกมากมาย ✨ ทำให้เมืองภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็น “เมืองเทศกาลโลก” (World Festival and Event City) ประจำปี 2024 และงานประเพณีถือศีลกินผัก ได้รางวัล Grand Pinnacle Award ที่เป็นรางวัลสูงสุด ยังไม่หมดแค่นี้ งาน Phuket Peranakan Festival 2024 ก็ได้รับรางวัล Gold Pinnacle Awards สาขา Best Parade จากสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA) ด้วย และรางวัลที่น่าภูมิใจล่าสุด คือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศรับรองให้ “เคบายา” ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ประเภทวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567 ร่วมกับ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย 👏🎉 เคบายา/ย่าหยา/เพอรานากัน เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของหญิงชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเอกลักษณ์ สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ รุ่นสู่รุ่น วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ตามหาเสื้อเคบายา และเที่ยวชมเมืองเก่าภูเก็ต ช่วงเช้าพาเพื่อน ๆ ไป Workshop ระบายสีถ้วยเซรามิค ช่วงบ่ายจะพาเดิน พากิน ย่านเมืองเก่า โดยวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ได้รับรางวัล Tourism Awards ประจำปี 2566 ประเภท การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainbility) อย่าลืมถ่ายรูปกับตึกสไตล์ชิโน-ยูโรเปี้ยน เอกลักษณ์ตึกสวยงามของที่นี่ บอกได้เลยว่าชุมชนท่องเที่ยว พาชม พากิน พาเที่ยว พร้อมให้ข้อมูลได้ดีมาก ๆ สนใจเที่ยวกับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต สามารถติดต่อไปที่📌 Facebook: วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต Old Phuket town Community☎️ โทร. 08 4305 3960 👉 Workshop ระบายสีด้วยเซรามิค ที่ Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ ที่นี่มีชื่อว่า Sitao Studio (ซิเทา สตูดิโอ) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ตึกสีเหลืองสวยเด่น เป็นสตูดิโอเรียนรู้ศิลปะเกี่ยวกับการปั้นดิน-ระบายสี แบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้น 1 เป็นโซนคาเฟ่ ชั้น 2 เป็นโซนระบายสีบนกระดาษ และชั้น 3 เป็นโซนระบายสีลงเซรามิค เปิดมากว่า 8 ปีแล้ว ผู้ใช้บริการมีทุกรุ่น ทุกวัย ร้านน่ารักมาก ๆ วันนี้ บัดดี้ เลือกระบายสีบนถ้วยเซรามิค เริ่มต้น 150-800 บาท เลือกแก้วได้ตามใจชอบ พนักงานจะมาแนะนำการลงสี จากนั้น ทำตามจินตนาการของตัวเองได้เล้ยยยยยยย เป็นงานชิ้นเดียวในโลก ของแท้ ลงสีเสร็จแล้วทางร้านจะนำไปเคลือบและเผาให้สีติดทนนานตลอดไป และจัดส่งให้ถึงที่บ้านรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ Sitao Studio ซิเทาสตูดิโอ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 | วันอาทิตย์ เวลา 10.00-22.00 น.☎️ โทร. 06 2025 6713📌 พิกัด https://maps.app.goo.gl/bwLbrbJw5MfRDSkt8 👉 เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองภูเก็ต ที่ มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket จบจาก Workshop แล้ว เรามีนัดกับพี่มัคคุเทศก์จากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่ Museum Phuket เดินจากซิเทาสตูดิโอ ไม่ไกลนัก ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่การสร้างเมือง วิถีชีวิตชาวเพอรานากัน รวมทั้งรวบรวมประวัติชุดเคบาย่ามาไว้ที่นี่ด้วย ชุดเคบายา (Kebaya) ชุดพื้นเมืองของสตรีทางภาคใต้ มี 3 รูปแบบ คือ แบบบีกู ปักลูกไม้ฉลุลงไปในเนื้อผ้า มีเพียงสีเดียว แบบลินดา ปักลูกไม้เชื่อมต่อกัน แบบผ่าหน้า และแบบซูแลม ปักฉลุลงไปในผ้า มีหลากหลายสี ที่ขึ้นทะเบียนยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในประเทศไทย พบได้ในจังหวัดภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง สตูล ประเทศเพื่อนบ้านทางใต้เรา บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ก็สวมใส่ชุดนี้เช่นเดียวกัน โดยจะใส่ร่วมงานที่สำคัญต่าง ๆ ใครมาชมที่นี่ สามารถเปลี่ยนชุดเคบายา ใส่ถ่ายรูปได้นะ มิวเซียมภูเก็ต Museum Phuket⏰ เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.30 น. | วันอาทิตย์ เวลา 13.00-20.30 น.☎️ โทร. 09 4807 7873💸 ไม่เสียค่าเข้าชม📌 พิกัด https://goo.gl/maps/MoZEJKHXt1mH7rbA6 👉 กินหมี่ฮกเกี้ยนจากเชฟชุมชน

ชวนเดินเที่ยวย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต อ่านเพิ่มเติม

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล

ถ้าพูดถึง ‘จังหวัดกระบี่’ บัดดี้เชื่อว่าเพื่อน ๆ มักจะนึกถึงทะเล  แต่วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกระบี่มุมมองใหม่ พักกาย พักใจ แบบให้ธรรมชาติเยียวยา บอกเลยว่ากระบี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลแน่นอน 💚🤗 สำหรับทริป ‘พักกาย พักใจ ให้ธรรมชาติเยียวยา’ ในครั้งนี้ บัดดี้ขอพาไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอันสวยงามของ ‘จังหวัดกระบี่’ กับ 4 สถานที่หลัก ๆ ที่รับรองว่ามาถึงแล้วสบายกาย สบายใจ แน่นอนค่ะ 💚 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช📌 เขาขนาบน้ำ📌 ชุมชนเกาะกลาง📌 AMATAYA Wellness 📌 องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากชาวกระบี่มีความศรัทธาในพญานาคมาก เพราะเชื่อว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และอุดมสมบูรณ์ โดยรูปปั้นพญานาคที่ตั้งอยู่บริเวณลานพระอาทิตย์ หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่นั้น จะหันหน้าเข้าหาปากแม่น้ำกระบี่ทางทิศตะวันตก รับแสงอาทิตย์ตกยามอัสดง ราวกับว่าได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ 🙏 ที่นี่สามารถขอพรได้ทุกเรื่องตามใจปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ ใครที่จะมาขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช วันนี้บัดดี้มีทริกในการไหว้ขอพรให้ปังมาแจกค่ะ ✨1. ให้ไปไหว้หลวงปู่ทวดที่ศาลาเล็ก ๆ บริเวณทางด้านขวามือขององค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราชก่อน โดยสามารถไหว้มือได้เลยไม่ต้องจุดธูป หลังจากไหว้เสร็จแล้วแนะนำให้ใช้สองมือลูบลูกแก้วบนตักหลวงปู่ทวดแล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนา2. กลับมาไหว้องค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช บริเวณลานพระอาทิตย์ โดยจะไหว้มือ หรือจุดธูปไหว้ 9 ดอก ก็ได้เช่นกัน แล้วอธิฐานขอพรตามใจปรารถนาได้เลย 📌 ลานพระอาทิตย์ หากมาไหว้ขอพรกับองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช เสร็จแล้ว บัดดี้แนะนำให้เดินมายัง ‘ลานพระอาทิตย์’ บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (จากองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช ให้เดินมาทางซ้ายมือ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตา) จะเจอกับลานกว้าง ๆ จากนั้นก้มหน้ามองอิฐบนพื้นเลยค่ะ หาจุดศูนย์กลางของพื้น จากนั้นให้ลองไปยืนตรงนั้นแล้วปรบมือดูค่ะ เราจะได้ยินเสียงปรบมือที่ก้องขึ้น 👏 ชาวบ้านเชื่อกันว่า จุดนี้เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานที่ดีทั้งหมด และยังมีความเชื่ออีกว่าในวันที่พระจันทร์เต็มดวง หากไปยืนอยู่ตรงจุดนั้น จะได้รับพลังงานที่ดีให้กับชีวิตนั่นเอง 👍 📌 เขาขนาบน้ำ เขาขนาบน้ำ เป็นเขาหินปูน 2 ลูก ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งขนานกันอยู่สองฝั่งแม่น้ำกระบี่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่เลยก็ว่าได้ บัดดี้บอกเลยว่าจุดนี้สวยมาก ๆ เลยค่ะ ใครเป็นสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป ถูกใจแน่นอน แนะนำให้เช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือท่าเรือปูดำ ล่องเรือไปชมแบบใกล้ ๆ และแวะชมถ้ำที่เขาขนาบน้ำนะคะ 🏞️ บริเวณเขาขนาบน้ำ จะมีบันไดให้ขึ้นไปยังถ้ำที่เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากหลักฐานภายในถ้ำที่ขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2542 ใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์ บัดดี้บอกเลยว่าบริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะปากถ้ำจะแสดงผลงานศิลปะของ Tu Wei Cheng ศิลปินชาวไต้หวัน ส่วนภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย ปล่องภูเขาที่มีแสงสว่างส่องลงมาด้านล่าง ทำให้ในถ้ำนั้นระบายอากาศได้ดี มีลมพัดเย็น ๆ เล็กน้อยตลอดการเดินชมถ้ำ ใครแข็งแรงหน่อยก็สามารถปีนเชือกขนาดใหญ่ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ นอกจากนี้ยังมีมุมจำลองแหล่งพักพิงของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ด้วย ✨ เปิดทุกวัน เวลา 8.30-16.00 น.✨ อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 200 บาท | ชาวต่างชาติ 500 บาท (ใช้เวลาเข้าชมภายในถ้ำประมาณ 1.30 ชม.) 📌 ชุมชนเกาะกลาง ใครชอบเที่ยวแบบสไลว์ไลฟ์ สัมผัสกับวิถีชุมชน ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ แถมมาที่นี่มีกิจกรรมให้ได้เข้าร่วมหลากหลายเลยค่ะ 💚 การมาเที่ยวชม ‘ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่’ หนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดเลย คือการเข้าชมการสาธิตจากกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในชุมชนค่ะ ครั้งนี้บัดดี้ได้เข้าชม 3 กลุ่มอาชีพด้วยกัน คือ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด, กลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง และกลุ่มการทำผ้าบาติก ส่วนใครที่ชมสาธิตจากชาวบ้านแล้วอยากอุดหนุนสินค้าชุมชน ก็สามารถติดต่อซื้อสินค้ากับชาวบ้านในแต่ละกลุ่มได้เลยนะคะ 🛍️ 📌 กิจกรรมท่องเที่ยวบนเกาะกลาง– ชมการสาธิตจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด– ชมการสาธิตจากกลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง– ชมการสาธิตจากกลุ่มการทำผ้าบาติก– เดินเที่ยว ปั่นจักรยาน เช่าจักรยานยนต์ หรือสามล้อพ่วงข้าง ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวบ้านรอบเกาะ 📌 AMATAYA Wellness ต้องบอกก่อนเลยว่า อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็มหนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 แห่งของโลกด้วย 😲♨ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญเลยก็ว่าได้ โดยบ่อหลักที่เกิดจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าชายเลน มีลักษณะเป็นบ่อน้ำที่ผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็ม เกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโพล่ขึ้นมาบนพื้นดินนั่นเอง อุณหภูมิของน้ำในบ่อนั้นจะไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ที่ประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส แต่เดิมชาวบ้านมาแช่เพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อต่าง ๆ และเพื่อผ่อนคลาย แต่จากคุณสมบัติของแร่ธาตุที่มีในบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้น สามารถช่วยพื้นฟูร่างกายจากโรคต่าง ๆ และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย พร้อมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระยะยาวด้วย ♨️ AMATAYA Wellness เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องของ ‘คลองท่อมเฮอริเทจ’ มีพื้นที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม (Salt Hot Spring) ที่มีคุณสมบัติของแร่ธาตุและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูและช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ♨️ AMATAYA Wellness ในปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 รูปแบบ คือ AMATAYA Rehabilitation Hospital ที่ให้บริการดูแล ฟื้นฟู ผู้ป่วยจากโรค Stroke และโรคอื่น ๆ ด้วยการใช้ ‘น้ำพุร้อนเค็ม’ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และ AMATAYA Holistic Medical Treatment

กระบี่ … พักกาย พักใจ ฉบับไม่ลงทะเล อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top