17 จุดเช็กอิน…นราธิวาส
“ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน” “นราธิวาส” เดิมเป็นหมู่บ้านชื่อ “มะนาลอ” อยู่ในเขตปกครองเมืองสายบุรี ในปี พ.ศ. 2444 สมัยรัชกาลที่ 5 มีการจัดตั้งมณฑลปัตตานีขึ้น มีเมืองรวม 4 เมือง คือ เมืองปัตตานี เมืองยะลา เมืองสายบุรี และเมืองระแงะ หมู่บ้านมะนาลอรวมอยู่กับเมืองระแงะ ต่อมา ปี พ.ศ. 2450 มีการย้ายศาลาว่าการเมืองระแงะจากตำบลบ้านตันหยงมัส มาที่บ้านมะนาลอ อำเภอบางนรา และยกฐานะอำเภอบางนราขึ้นเป็นเมืองบางนรา ในปี พ.ศ. 2458 รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้ถึงเมืองบางนรา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมือง “บางนรา” เป็น “เมืองนราธิวาส” หมายถึง “ที่อยู่อันยิ่งใหญ่ของประชาชน” จังหวัดนราธิวาสมีสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นป่าและภูเขา พื้นที่ราบส่วนใหญ่อยู่ติดกับอ่าวไทย และเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำ 4 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำตากใบ และแม่น้ำสุไหงโก-ลก ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีภาษายาวีเป็นภาษาพูดและภาษาเขียนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากภาษามลายู ตามมาทำความรู้จัก 17 สิ่งที่ต้องห้ามพลาดของจังหวัดนราธิวาสกัน 1. หาดนราทัศน์ ชายหาดมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีทิวสนขึ้นเรียงรายตลอดแนวหาด ให้บรรยากาศร่มรื่น มีร้านค้าและร้านอาหารตลอดถนนเลียบชายหาด เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมของผู้คนในพื้นที่ ทางตอนใต้ของหาดไปสิ้นสุดที่ปากแม่น้ำบางนรา มีสะพานคอนกรีตจากชายฝั่งยื่นออกไปในทะเล ที่ปลายสะพานมีประภาคารตั้งอยู่ เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่ง นอกจากนี้ หาดนราทัศน์ยังได้ชื่อว่าเป็นชายหาดแรกของประเทศไทย ที่ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนพื้นที่อื่น ๆ และยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือกอและ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถสามล้อถีบ หรือรถสองแถวเล็กจากตัวเมืองนราธิวาส ข้ามสะพานปรีดานราทัศน์ไปยังหาดนราทัศน์ได้ ที่ตั้ง : ทางเหนือของปากแม่น้ำบางนรา ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NRmswM72EF8m9Vba6 2. ปากแม่น้ำบางนรา แม่น้ำบางนราถือเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดนราธิวาส พื้นที่ลุ่มน้ำขนานไปตามชายฝั่งทะเลตะวันออก มีความยาวของสายน้ำประมาณ 60 กิโลเมตร ไหลผ่านอำเภอเมืองนราธิวาสและอำเภอตากใบ มีปากน้ำไหลออกสู่ทะเล 2 จุด คือ ไหลออกอ่าวไทยตรงปากแม่น้ำที่อำเภอเมืองนราธิวาส และไหลลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ก่อนออกสู่ทะเลบริเวณอำเภอตากใบ ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย ปากแม่น้ำบางนราตอนบนซึ่งอยู่ทางใต้ของหาดนราทัศน์ เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงและสวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทิวสนทะเลขึ้นเรียงรายทั้งสองฝั่งของปากแม่น้ำ มีสวนหย่อมเล็ก ๆ ให้ประชาชนมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย ทั้งสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสะพานคอนกรีตซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคารหาดนราทัศน์ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถชมวิถีชีวิตชุมชนประมงพื้นบ้านบริเวณปากน้ำบางนราได้อย่างใกล้ชิด คือ บนสะพานปรีดานราทัศน์และสะพานวีระพัฒนา ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองโคกเคียน ลำคลองสาขาของแม่น้ำบางนราและอยู่ใกล้กับปากน้ำบางนรามากที่สุด บริเวณสองฝั่งคลองโคกเคียนเป็นบ้านเรือของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง จะพบเห็นเรือกอแระจอดเรียงรายมากมายและแล่นเข้าออกคลองตลอดทั้งวัน ที่ตั้ง : ทางใต้ของหาดนราทัศน์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2NtmupbHAGk67X3CA 3. ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ ศาลเจ้าแห่งแรกของจังหวัดนราธิวาส ตัวอาคารสร้างแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ศาลเจ้าแห่งนี้มีลักษณะแตกต่างจากศาลเจ้าแห่งอื่น คือ มีเจ้าที่หรือเจ้าศาลเป็นหัวมังกรคาบแก้ว ภายในศาลยังประดิษฐานรูปหล่อของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ และมีรูปปั้นเทพเจ้าให้สักการะมากมาย เช่น พระยูไล พระอรหันต์จี้กง เทพเจ้ากวนอู เจ้าพ่อเสือ องค์เห้งเจีย เจ้าแม่กวนอิม ตามฝาผนังมีภาพปูนปั้นฝีมือช่างชาวจีนในสมัยก่อน บอกเล่าเรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมจีนตามตำนานพงศาวดารจีน มีความวิจิตรงดงาม รวมทั้งเสามังกรปูนปั้นซึ่งเป็นงานฝีมือที่หาชมได้ยาก ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่จะจัดให้มีพิธีแห่พระลุยไฟในเดือนกรกฎาคม ของทุกปี เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ที่ตั้ง : ถนนพิพิธคีรี ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลนราธิวาส ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VGDywgnvw8gsaMqcA 4. เทวสถานองค์พระพิฆเนศ องค์พระพิฆเนศเป็นปูนปั้น มีความสูง 16 เมตร หน้าตักกว้าง 7 เมตร ประทับนั่งในท่าลลิตาสนะ (ท่านั่งพับขาซ้าย และห้อยขาขวาลงพื้นฐานดอกบัว) มีสี่กร พระหัตถ์ขวาบนถือดอกบัว พระหัตถ์ขวาล่างแสดงท่าประทานพร พระหัตถ์ซ้ายบนถือศัสตราวุธ พระหัตถ์ซ้ายล่างถือขนมโมทกะ เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง พระเศียรสวมศิราภรณ์เป็นมงกุฎประดับโมเสคแก้วหลากสี งวงเยื้องไปทางขวาแล้วเวียนกลับมาทางซ้ายขององค์ เหนือพระนาภีมีสายธุรำเป็นงูแผ่พังพานใต้พระถันด้านซ้าย ส่วนงาข้างซ้ายนั้นหักเพื่อให้นำสิ่งไม่ดีออกไป ผู้ริเริ่มการก่อสร้างคือเจ้าของร้านดีวรรณพาณิชย์ ผู้จำหน่ายผ้ารายใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพผู้มีความเมตตาและความสำเร็จ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูที่ต้องการจะให้เป็นความหวัง ให้ความสงบสุขกลับคืนมาในสามจังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทยที่ได้พำนักอาศัย ประกอบธุรกิจจนเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่น อีกทั้งต้องการให้เป็นที่สักการบูชาของประชาชนในพื้นที่ที่เลื่อมใสศรัทธา เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ที่ตั้ง : ถนนผดุงอาราม (มีพื้นที่ติดกับศาลเจ้าโก้วเล้งจี่และเยื้องกับวัดบางนรา) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7q7yYYV41c1dVjWY7 5. ชุมชนบ้านทอนและหาดบ้านทอน บ้านทอนเป็นหมู่บ้านชาวไทยมุสลิม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง จึงมีภูมิปัญญาและความเชี่ยวชาญในการสร้างเรือกอและ ซึ่งเป็นเรือประมงชายฝั่งขนาดเล็ก พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ปกติแล้วเรือกอและมีความยาวตั้งแต่ 20 ศอก 22 ศอก และ 25 ศอก ลักษณะการต่อเรือมีเอกลักษณ์ คือ ส่วนหัวและท้ายเรือจะสูงขึ้นจากลำเรือ ลวดลายบนลำเรือกอและมีความผสมผสานกันระหว่างลายมลายู ลายชวา และลายไทย โดยมีสัดส่วนของลายไทยอยู่มาก เช่น ลายกนก ลายบัวคว่ำบัวหงาย ลายหัวพญานาค หนุมานเหินเวหา รวมทั้งลายหัวนกในวรรณคดี เช่น บุหรงซีงอ หรือสิงหปักษี (ตัวเป็นสิงห์หรือราชสีห์ หัวเป็นนกคาบปลา เขียนไว้ที่หัวเรือ) เชื่อกันว่ามีฤทธิ์มาก […]
17 จุดเช็กอิน…นราธิวาส อ่านเพิ่มเติม