เชียงใหม่

เชียงใหม่

 วัดต้นเกว๋น เชียงใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เราได้ชมละครหรือภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งแล้ว ได้เห็นสถานที่สวย ๆ ชุดสวย ๆ แล้วเราจะอยากไปเที่ยวตามรอยรวมถึงใส่ชุดสวย ๆ แบบเดียวกันกับตัวละครในเรื่องนั้น ๆ ใส่ วันนี้ บัดดี้เลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ละครหลาย ๆ เรื่องเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ นั่นก็คือ วัดอินทราวาส หรือ วัดต้นเกว๋น จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง ซึ่งนอกจากการไปเที่ยวชมวัดแล้ว ยังสามารถเช่าเครื่องแต่งกายแบบล้านนาที่ครบชุด ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม ให้กลายเป็นแม่หญิงแสนงามแห่งเมืองล้านนากันไปเลย วัดต้นเกว๋น บ้านต้นเกว๋น ซอย 3 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 0 5324 8607https://maps.app.goo.gl/d794NyWcmc1odFV18

 วัดต้นเกว๋น เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

ห้วยตึงเฒ่า เชียงใหม่

บัดดี้จะมาแนะนำสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย และยังมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปอีกเพียบ นั่นก็คือที่ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า นั่นเอง อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า เดิมเป็นศูนย์เกษตรกรรมทหาร จังหวัดทหารบกเชียงใหม่ (จทบ.ช.ม.) เมื่อปี พ.ศ. 2523 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเยี่ยมศูนย์ฯ และทราบถึงปัญหาของการขาดแคลนน้ำที่จะนำมาใช้ทางการเกษตร จึงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น โดยกำหนดชื่อว่า อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของราษฎรในพื้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ให้มาอยู่รวมกันบริเวณด้านทิศใต้ของอ่างเก็บน้ำ และได้จัดตั้งโครงการจัดหมู่บ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาส่งเสริมอาชีพและความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 กองทัพบกได้มีนโยบายให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทหาร จึงได้มีการพัฒนา ปรับปรุงพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เองและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางเข้าไปเที่ยวชม พักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสาย กิจกรรมภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า – ถ่ายรูปสวย ๆ กับเหล่าสัตว์นานาชนิดที่ทำมาจากฟาง เช่น คิงคอง สิงโต ช้าง กระทิง เป็นต้น – ถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมให้อาหารแกะ – ปั่นจักรยานน้ำ พายเรือแคนนู และกิจกรรมอื่น ๆ – รับประทานอาหารบนแพ ริมอ่างเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า 283 หมู่ 3 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-18.00 น. ค่าเข้าพื้นที่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 0 5312 1119 https://maps.app.goo.gl/Bjr6fG2rbJD4yNWp8

ห้วยตึงเฒ่า เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

 ตะลุยสวนส้ม แม่ริม จ.เชียงใหม่

วันนี้นอกจากบัดดี้จะพาไปเที่ยวสัมผัสอากาศเย็นสบาย ชมทิวเขาที่สวยงามแล้ว บัดดี้อยากแนะนำให้ไปเที่ยว “สวนส้มในจังหวัดเชียงใหม่” ด้วยนะ นอกจากจะได้ชิมส้มสด ๆ จากสวนแล้ว หลาย ๆ ที่ยังจัดมุมสวย ๆ ให้เราได้โพสท่าถ่ายรูปกันแบบจุก ๆ เอามาลงโซเชียลอวดเพื่อน ๆ กันได้แบบรัว ๆ เลย แล้วก็ยังสามารถซื้อส้มติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วยนะ บัดดี้มีมาแนะนำ 4 สวน ได้แก่ 1. สวนส้มในฝัน ดอยม่อนแจ่ม สวนส้มในฝัน ดอยม่อนแจ่ม: https://www.facebook.com/profile.php?id=100068079919559 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น. ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท https://maps.app.goo.gl/Nv4AaYSQxvNpy6wg9 2. สวนส้มเปาเปา โฮมสเตย์ เชียงใหม่ สวนส้มเปาเปา โฮมสเตย์ เชียงใหม่: https://www.facebook.com/paopao.farm  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น. ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็กอายุ 5-10 ปี 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าฟรี https://goo.gl/maps/h4jkLrFXWxdKKphH7 3. สวนของฉัน My garden – ม่อนแจ่ม สวนของฉัน My garden – ม่อนแจ่ม: https://www.facebook.com/MygardenMonjam  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็ก 40 บาท https://maps.app.goo.gl/tXg4MQnpj7tkpATe8 4. สวนดอกไม้ ป้างฮวา&สวนส้ม สวนดอกไม้ ป้างฮวา&สวนส้ม: https://www.facebook.com/profile.php?id=100065421252761 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น. ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็ก 40 บาท https://goo.gl/maps/GQbs5AnWikypkesz6

 ตะลุยสวนส้ม แม่ริม จ.เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวเหยียบเมฆา กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่

วันนี้บัดดี้มีโอกาสได้ไปเยือนอำเภอกัลยานิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ อีกครั้ง… เพราะตั้งใจไปเช็กอินที่ “จุดชมวิวเหยียบเมฆา” หนึ่งในเส้นทางตามรอยหนังเรื่อง สุขสันต์วันโสด ใครทันดูเรื่องนี้บ้างนะ แค่ชื่อก็น่าสนใจไม่น้อย… “จุดชมวิวเหยียบเมฆา” เป็นจุดชมวิว 360 องศา ณ บ้านแม่แดด หมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางขุนเขา เป็นจุดชมวิวระหว่างทางที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างต้องแวะ สองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เส้นทางคดเคี้ยวตลอดทาง รวมถึงดอกไม้สวย ๆ ตามไหล่เขาให้ชมกันด้วย ทำให้จุดชมวิวแห่งนี้เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมเลยก็ว่าได้ หากใครออกเดินทางผ่านเส้นเชียงใหม่-แม่ริม-สะเมิงไปจนถึงกัลยานิวัฒนา อย่าลืมแวะที่นี่กันนะคะ หากใครต้องการค้างพักแรม บริเวณใกล้ ๆ จุดชมวิวก็มีโฮมสเตย์อยู่หลายแห่ง หรือจะมากางเต็นท์ก็ได้เช่นกันค่ะ ตำบลแม่แดด อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ https://goo.gl/maps/KzG9B2f3SruyTquB9

จุดชมวิวเหยียบเมฆา กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

🐏อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า⛰️

วันนี้ บัดดี้จะมาแนะนำสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย และยังมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปอีกเพียบ นั่นก็คือที่ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า นั่นเอง อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า เดิมเป็นศูนย์เกษตรกรรมทหาร จังหวัดทหารบกเชียงใหม่ (จทบ.ช.ม.) เมื่อปี พ.ศ. 2523 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเยี่ยมศูนย์ฯ และทราบถึงปัญหาของการขาดแคลนน้ำที่จะนำมาใช้ทางการเกษตร จึงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น โดยกำหนดชื่อว่า อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของราษฎรในพื้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ให้มาอยู่รวมกันบริเวณด้านทิศใต้ของอ่างเก็บน้ำ และได้จัดตั้งโครงการจัดหมู่บ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาส่งเสริมอาชีพและความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 กองทัพบกได้มีนโยบายให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทหาร จึงได้มีการพัฒนา ปรับปรุงพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เองและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางเข้าไปเที่ยวชม พักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสาย กิจกรรมภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า– ถ่ายรูปสวย ๆ กับเหล่าสัตว์นานาชนิดที่ทำมาจากฟาง เช่น คิงคอง สิงโต ช้าง กระทิง เป็นต้น– ถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมให้อาหารแกะ– ปั่นจักรยานน้ำ พายเรือแคนนู และกิจกรรมอื่น ๆ– รับประทานอาหารบนแพ ริมอ่างเก็บน้ำ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่เคยไปเที่ยวมาแล้วมีรูปสวย ๆ เอามาคอมเม้นอวดบัดดี้ได้ใต้โพสเลยนะ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า 283 หมู่ 3 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดทุกวัน เวลา 06.30-18.00 น. ค่าเข้าพื้นที่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 0 5312 1119 https://maps.app.goo.gl/Bjr6fG2rbJD4yNWp8

🐏อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า⛰️ อ่านเพิ่มเติม

🌸สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง🌸

ใครเตรียมตัวไปเที่ยว #สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ช่วงนี้ บอกเลยว่าใจฟูมาก เพราะเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานเต็มที่ สวยสุด ๆ มีจุดแวะให้ถ่ายรูปกับบรรยากาศของดอยอ่างขางได้ฟิน ๆ เลย นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีดอกซารุกระญี่ปุ่นอีกด้วย ใครอยากไปชม รีบจัดกระเป๋าเลย เพราะดอกไม้ที่นี่จะบานไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะ💵 ค่าเข้าชม คนละ 50 บาท💵 รถยนต์คันละ 50 บาท Facebook สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง The Royal Agricultural Station Angkhang เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น. บริเวณริมถนนตรงข้ามแปลงบ๊วย ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ชมดอกซากุระญี่ปุ่น สีสันสดใสมาก แต่ใครไปหลังจากนี้ต้องรีบหน่อยนะ เพราะว่าฝนพึ่งจะตกเลยทำให้ดอกซากุระร่วงโรยไปแล้วบางส่วน  บริเวณริมถนน ตรงข้ามแปลงบ๊วยhttps://maps.app.goo.gl/MEQsk6vDK5WJAMUr8 อีกหนึ่งจุดที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์ของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คือ ‘โรงงานผลิตชาอินทรีย์ โครงการหลวง’ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ‘ไร่ชา 2000’ ชมดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสลับกับสีขาวสวยสุด ๆ แถมช่วงนี้ยังบานสะพรั่งเต็มต้นเลยล่ะ ที่นี่จะอยู่ห่างจากที่ทำการฯ ไปทางทิศเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร  ไร่ชา 2000 (โรงงานผลิตชาอินทรีย์ โครงการหลวง)https://maps.app.goo.gl/p1Q775ZLMDGKPYbr6 ชมวิวภูเขาและไร่ชามุมสูงได้อย่างเพลิดเพลิน แนะนำให้มาช่วงเช้า ๆ อากาศเย็นสบาย แสงสวยมาก  ไร่ชา 2000 (โรงงานผลิตชาอินทรีย์ โครงการหลวง)https://maps.app.goo.gl/p1Q775ZLMDGKPYbr6  ไร่ชา 2000 (โรงงานผลิตชาอินทรีย์ โครงการหลวง)https://maps.app.goo.gl/p1Q775ZLMDGKPYbr6 บริเวณสวน 80 สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยไม่น้อยหน้ากว่าจุดอื่น ๆ จะแวะเที่ยวขาไปหรือขากลับจากไร่ชา 2000 ก็ได้นะ เพราะจุดนี้จะเป็นทางผ่านพอดีเลย  สวน 80 สถานีเกษตรหลวงอ่างขางhttps://maps.app.goo.gl/2ysoX8z68TjmCqYz8 จุด Check-in ถ่ายภาพ  สวน 80 สถานีเกษตรหลวงอ่างขางhttps://maps.app.goo.gl/2ysoX8z68TjmCqYz8  บริเวณริมถนนตรงข้ามแปลงบ๊วยhttps://maps.app.goo.gl/MEQsk6vDK5WJAMUr8  ไร่ชา 2000 (โรงงานผลิตชาอินทรีย์ โครงการหลวง)https://maps.app.goo.gl/p1Q775ZLMDGKPYbr6

🌸สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง🌸 อ่านเพิ่มเติม

🌦ตะลุย “ป่าเมฆ” ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่🌦

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปสัมผัสกับความงดงามราวสรวงสวรรค์ท่ามกลางป่าเมฆ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สูงที่สุดของเมืองไทย🌳✨ ด้วยความสูงกว่า 2,565 เมตร ทำให้ยอดดอยอินทนนท์คือยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย สูงกว่ายอดเขาอันดับ 2 อย่างยอดดอยผ้าห่มปกที่มีความสูง 2,285 เมตร และด้วยความสูงระดับนี้ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศวิทยาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แม้กระทั้งในฤดูร้อนที่อากาศบนพื้นราบพุ่งสูงทะลุ 30 องศา แต่บนยอดดอยอินทนนท์กลับหนาวเย็นด้วยอุณหภูมิระดับ 10 องศา แล้วยังมีสายพันธุ์พืช และสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ ทั้งหมดล้วนทำให้สถานที่แห่งนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย🌿🌤 👉วันนี้ เราจะมาแนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น 2 เส้นทางที่ทั้งน่าสนใจ และเดินง่ายเหมาะกับผู้คนทุกเพศทุกวัยมากฝากกัน😎 1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สูงที่สุดของเมืองไทย เป็นเส้นทางเดินระยะสั้น ยาวประมาณ 150 เมตร ผ่านป้ายสูงสุดแดนสยาม มุมมหาชนของนักท่องเที่ยวที่ใครมาก็ต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมถึงกู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 พระราชบิดาของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังมีหมุดหลักฐานจุดสูงสุดแดนสยามที่ระบุความสูงที่ 2,565.3341 เมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายให้ได้อ่านเป็นระยะ ช่วยให้มองเห็นภาพความพิเศษของสภาพแวดล้อมในบริเวณนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น และอีกหนึ่งความพิเศษคือสถานที่แห่งนี้คือป่าเมฆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความสูงเกินกว่า 2,000 เมตรขึ้นไป และเมืองไทยมียอดเขาที่สูงขนาดนี้เพียง 6 แห่งเท่านั้น ที่ความสูงระดับนี้เป็นความสูงที่เมฆลอยต่ำจะลอยมาปกคลุมป่าได้โดยไม่ต้องรอให้เกิดหมอกเหมือนป่าที่อยู่ระดับต่ำกว่านี้ พิกัด (ลานจอดรถยอดดอยอินทนนท์) – https://goo.gl/maps/iUF1Qz3gx4byYZgRAการเตรียมตัว – ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. (ด่าน 2) เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เพียงข้ามถนนจากจุดสิ้นสุดเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยอินทนนท์ จะพบกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกเส้นหนึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญในเชิงนิเวศของประเทศไทย เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าพรุภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ดูนกยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบการดูนกอีกด้วย บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 320 เมตร นอกจากอากาศที่เย็นสบายแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้สัมผัสคือเสียงนกนานาชนิดที่เปล่งเสียงประสานกันอย่างไพเราะราวกับเป็นวงดนตรีที่เติมสีสันให้กับผืนป่า นกหายากหลายชนิดสามารถพบได้อย่างง่ายดายที่นี่ นอกจากนี้ อ่างกายังมีความน่าสนใจอีกมากมาย ทั้ง ข้าวตอกฤๅษี พืชจำพวกมอสที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทำหน้าที่เป็นฟองน้ำคอยกักเก็บน้ำให้กับผืนป่า ที่ถึงแม้จะตายแต่เศษซากของข้าวตอกฤๅษีก็ยังสามารถดูดซับน้ำไว้ได้เป็นจำนวนมาก นอกจากข้าวตอกฤๅษีแล้ว ด้วยความที่ดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ทำให้มีพืชที่น่าสนใจอีกมากมายให้เห็นตลอดเส้นทาง และหากเดินทางมาในช่วงปลายฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม จะได้พบกับดอกไม้ที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งอินทนนท์” อย่างกุหลาบพันปีที่ผลิบานอวดความงามอย่างใกล้ชิดอีกด้วย พิกัด (จุดจอดรถ) – https://goo.gl/maps/8Aqq2n6mrTtstpZFAการเตรียมตัว – ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม และหากใครอยากจะมาดูนกหลากหลายสายพันธุ์ แนะนำให้พกกล้องส่องทางไกลหรือกล้องถ่ายรูปที่ติดเลนซ์ซูมมาด้วยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. (ด่าน 2)

🌦ตะลุย “ป่าเมฆ” ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่🌦 อ่านเพิ่มเติม

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨

หากใครกำลังเล็งหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวรักษ์โลก บัดดี้อยากให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยว ฟาร์มสเตย์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 🍃 บัดดี้ขอชี้พิกัด 6 ฟาร์มสเตย์ น่าเที่ยวทั่วไทย หัวใจสีเขียว📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น การไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ นอนโฮมสเตย์ ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะมีกิจกรรมดี ๆ น่าทำแตกต่างกันไปในแต่ละที่ รวมถึงมีข้อดี ที่ดีต่อใจมาก ๆ อีกด้วย เช่น 📌 บ้านเกอลิโกล จ.เชียงใหม่ – ชวนสัมผัสอากาศหนาวกับบ้านไม้ไผ่กลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทานอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย พอตกเย็นอากาศหนาวหมอกลง ชวนนั่งปิกนิกข้างกองไฟ ในยามเช้านั่งชมบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ ที่หน้าระเบียงบ้าน 📌 บ้านโคกไคร จ.พังงา – หมู่บ้านริมทะเลที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ชิมอาหารทะเลที่ชาวประมงหามาเอง เช่น ปลาตัวใหญ่ ๆ นำมาปรุงอาหารอร่อย ๆ ให้เราได้ชิม มีกิจกรรมสปาโคลนแสนผ่อนคลายกับน้ำทะเลอุ่น ทรายร้อน บรรยากาศเงียบสงบ มองออกไปไกล ๆ ขอบทะเลมีภูเขาลูกเล็ก ๆ มากมายเรียงรายสลับกันอยู่ 📌บ้านสวนเส จ.ชัยภูมิ – ฟาร์มสเตย์สวนผักแบบผสมผสาน สนุกกับกิจกรรมปั่นจักรยานชมสวน เก็บไข่ในเล้ามาทำอาหาร ลงนาปลูกข้าว ใช้ชีวิตแบบพอเพียง 📌 ไออุ่นขุนเขา จ.ราชบุรี – มาสร้างสุขภาพดีที่ฟาร์มออร์แกนิก มีผักแทบทุกชนิดไม่ต้องซื้อ สามารถเก็บในสวนมาทำกินได้เลย บรรยากาศเงียบสงบ จำลองการเป็นชาวสวนย่อม ๆ ปลูกผัก เก็บไข่ และได้รับออกซิเจนจากภูเขารอบข้าง 📌 Bamboo Pink House บ้านผาหมอน จ.เชียงใหม่ – ขึ้นดอยชมนาขั้นบันไดสีเขียว เต็มไปด้วยความงามของต้นกล้า เรียนรู้วิถีชาวบ้าน แนะนำให้นอนโฮมสเตย์บนดอย เปิดหน้าต่างรับแสงอาทิตย์หลังเขาสุดโรแมนติก 📌 MEKIN FARM จ.ขอนแก่น – สวนเล็กแสนธรรมดากับความสุขในการทำเกษตรอินทรีย์ ลองนอนกระท่อมปลายนา ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าพักผ่อน ชิมอาหารพื้นบ้านที่อร่อยอย่าบอกใคร

มัดรวมฟาร์มสเตย์ 🐓ท่องเที่ยวแนวใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ 🏨 อ่านเพิ่มเติม

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟

หากวันนี้รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด อยากหาที่พัก ผ่อนคลาย ให้สบายใจ บัดดี้ขอแนะนำให้ทุกท่านมาบำบัดอาการเหล่านั้นด้วยการแช่น้ำแร่ดูค่ะ เพราะจะทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โลหิตไหลเวียนสะดวก อาการฟกช้ำหายเร็วขึ้น รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ สุขภาพผิวก็ยังดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน😍 🌿น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาผ่อนคลาย ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ การอักเสบในหลอดลม อาการปวดตามข้อ และยังช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง ส่วนโซเดียม โพแทสเซียม และคลอรีน ช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในและภายนอกเซลล์ให้อยู่ในภาวะที่สมดุล สำหรับซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สามารถชะลอการเสื่อมของข้อต่อ ซ่อมแซมกระดูกอ่อน ผิวหนังและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังได้😊 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 ✨บริเวณบ่อน้ำแร่อบอวลด้วยไอน้ำร้อนและกลิ่นกำมะถัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบหายใจ และเห็นรุ้งกินน้ำได้บ่อย ๆ เพราะน้ำร้อนที่พุ่งจากพื้นดินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เกิดละอองน้ำและการหักเหของแสงอยู่ตลอด เด็ก ๆ ชอบนักเชียว💦 พื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่ แบ่งเป็นสัดส่วนแยกชาย-หญิง มีทั้งแบบตักอาบและลงแช่ มีสระน้ำขนาดใหญ่แยกชาย-หญิงและเด็ก พร้อมทั้งจัดพื้นที่สำหรับแช่เท้าแยกต่างหาก ช่วงนี้มีโปรโมชันสุดคุ้ม มีส่วนลดถึงเดือนกันยายนไปเลย นอกจากได้มาแช่น้ำแร่ผ่อนคลายแล้ว ยังมีอีกหลายหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การต้มไข่ในน้ำแร่ การันตีได้เลยว่าอร่อยกว่าไข่ต้มธรรมดาแน่นอน เพราะได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แถมได้กลิ่มหอมจากธรรมชาติด้วย วิธีลวกไข่ นำใส่ในชะลอม ต้องการความสุกแบบไข่ลวก ใช้เวลา 3-5 นาที แบบไข่ต้มยางมะตูม ใช้เวลา 6-8 นาที หรือแบบไข่ต้มสุก ใช้เวลา 10-15 นาที🌻 ✨อีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลย คือ งานวิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2566 ชมการแสดงเลเซอร์ผ่านม่านน้ำพุร้อนที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตจากอดีต สู่ปัจจุบัน ของกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพงภายใต้คอนเซปต์ “Springs of Life น้ำพุแห่งชีวิต” นำเสนอสีสันแห่งเส้นแสงพร้อมกันทั้ง 10 จุด ในช่วงเวลา 17.00-22.00 น. มีบริการรถรับ-ส่ง ฟรีจากบิ๊กซี ดอนจั่น–น้ำพุร้อนสันกำแพง👉รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://thai.tourismthailand.org/Arti…/vijitr-chiangmai-th นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการที่พักแบบเต็นท์ บ้านพัก และเรือนหลังใหญ่ มีห้องประชุม ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และบริการด้านสุขภาพอื่น ๆ พร้อมกับจำหน่ายสินค้าที่ระลึกด้วย😊 💵ค่าธรรมเนียมคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ⏰เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.📞สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ โทร. 08 7659 1791📲https://www.facebook.com/skponsen/🌐https://goo.gl/maps/DBoS5tSt9eoD3KYH7

🌟น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่🌟 อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top