เชียงราย

เชียงราย

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿

สายดื่ม มารวมกันตรงนี้! อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะแอดหมายถึง สายดื่มชาต่างหาก “ชา” เป็นต้นพืชชนิดหนึ่ง ที่ใช้ส่วนของ “ใบ” มาผ่านกระบวนการที่ต่างกันจนออกมาเป็นชาต่าง ๆ โดยพันธุ์ชาที่นิยมปลูกในไทยมี 2 สายพันธุ์คือ ชาพันธุ์อัสสัมและพันธุ์ชาจีน ซึ่งชาที่ไทยนิยมปลูก สามารถนำเอามาทำเป็นชาประเภทต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 ประเภทตามกรรมวิธีที่ใช้ผลิต เช่น ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลงและชาดำ ชาขาว (White Tea) เป็นชาที่เก็บยอดอ่อนของต้นชา มาผ่านกระบวนการอบไอน้ำในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษารสชาติและกลิ่น โดยไม่ผ่านการหมักเหมือนชาชนิดอื่น ๆ ชาดำ (Black Tea) เป็นชาที่นำยอดอ่อนของใบชามานวดแล้วหมักจนได้กลิ่นที่หอม ก่อนที่จะนำไปอบแห้งอีกที ซึ่งใบชาที่ได้มานั้นจะมีสีเข้มและมีรสขมฝาดมากกว่าชาเขียว ชาเขียว (Green Tea) เป็นชาที่เก็บมาจากยอดอ่อนของชาแล้วนำไปอบแห้งทันที ไม่ผ่านการหมัก ทำให้ใบชายังมีสีเขียว รสชาติ สีและกลิ่นที่ยังใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ชาอู่หลง (Oolong Tea) เป็นชาที่ได้จากใบชาที่ถูกทิ้งให้สลด นำมานวดและบ่มเล็กน้อย ถือว่าเป็นชาประเภทกึ่งหมัก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสชาติเข้มข้นกว่าชาเชียวแต่ฝาดน้อยกว่าชาดำ เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบชาสามารถไปชิมชาที่แหล่งปลูกได้เลย ซึ่งไร่ชาส่วนใหญ่ของไทยมักจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย กระจายอยู่ตามภูเขาทางภาคเหนือ ถ้าสนใจ แอดมีลิสต์แหล่งท่องเที่ยวพร้อมไปจิบชาชิลล์ ๆ มาฝากกันด้วย จังหวัดเชียงราย ไร่ชาฉุยฟง 97 หมู่ 8 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5377 1563 GPS : https://goo.gl/maps/JEcp5znUyPNBGo7C7 สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) 99 หมู่ 1 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โทร. 0 5316 0636-7, 06 1387 7592, 09 1576 0374 GPS : https://goo.gl/maps/dkm1RxtZAs6DWxWw8 ไร่ชาหงษ์ฝู่ 133 หมู่ 1 บ้านสันติคีรี ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 0558 0066 GPS : https://goo.gl/maps/kqFHoxdS2ekxiPh78 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ชาหงษ์ฝู่ ดอยแม่สลอง ไร่ชา 101 63 หมู่ 6 ดอยแม่สลอง ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร. 08 8805 9391, 0 5371 0029 GPS : https://goo.gl/maps/YwK1UTpq6qpXS5ad8 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ไร่ชา101 ดอยแม่สลอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านรักไทย หมู่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน GPS : https://goo.gl/maps/6ZABHshTL5RQzmuZ6 จังหวัดเชียงใหม่ ไร่ชาลุงเดช 91/1 หมู่ 2 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 08 1163 3765 GPS : https://goo.gl/maps/TFivQ3dvj9qjFGzp8 จังหวัดน่าน บ้านศรีนาป่าน บ้านศรีป่าน ตำบลเรือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โทร. 06 2546 3294, 08 1180 5232 GPS : https://goo.gl/maps/2TSA6Pny9hZFLYm37 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ศรีนาป่าน

ทำความรู้จัก “ชา” ในประเทศไทย🌿 อ่านเพิ่มเติม

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅

อลังการความงามของธรรมชาติทั้งปี หมอกสวย วิวอลัง การเดินทางสุดมันส์ บรรยากาศเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง เริ่ม !! ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปี 2565 ด้วยพิกัดเที่ยว “ตามล่าหาทะเลหมอก” ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย เราขอแนะนำที่เที่ยว ชวนไปสัมผัสอากาศหนาวกันบ้าง พาไปชมทะเลหมอกขาว ท่ามกลางธรรมชาติ ดูแสงแรกยามเช้า รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งแต่ละสถานที่นั้น สวยไม่แพ้กันเลย เอาใจสายรักหมอกมาก ๆ เพราะธรรมชาติเมืองไทย มีให้เราไปเจอได้แบบไม่สิ้นสุด แถมยังเที่ยวได้ทั้งปีอีกด้วย คุณลองหลับตา และจินตนาการถึงสายหมอก สายลมเย็นเหนือขุนเขาที่พัดผ่านผิวกาย สองเท้าย่ำไปบนผืนดิน สูดรับออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าปอด และมองดูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น แล้วความสุขของการท่องเที่ยวและพักผ่อน บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นจะกลับมา และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณ สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยว หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ได้เลย https://tatcalendar.com/ สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง.. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ คลิก เปลี่ยนข้อความ คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ Social Media, E-mail เป็นต้น นอกจากมีเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq ม่อนหมอกตะวันจังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยนฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขา เป็นความงดงามที่เพิ่งถูกค้นพบและกลายเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดตาก ที่นี่ มีบริการลานกางเต็นท์ บ้านพัก ให้ตื่นมาพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น กับทะเลหมอก รวมทั้งดอกไม้ที่สวยงามตระการตา กับบรรยากาศที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ขับรถระวัง ๆ กันด้วยนะ พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ดอยผาตั้งจังหวัดเชียงราย จุดชมวิวบนดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในช่วงหน้าหนาว เพราะนอกจากอากาศที่หนาวสะท้านไปถึงกระดูกแล้ว ยังได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกขาวโพลนอีกด้วย บรรยากาศดีมาก ซึ่งจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์บนดอยแห่งนี้ มีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ป่าหินยูนนาน’ แนวโขดหินริมหน้าผา ไปนั่งเท่ ๆ ถ่ายภาพคู่กับวิวทะเลหมอกได้ หรือจุดชมวิว ‘ช่องเขาขาด’ เป็น landscape ที่โดดเด่น มีช่องเขาที่มองเห็นทะเลหมอกกับวิวภูเขาฝั่ง สปป.ลาวเป็น background ‘เนิน102’ อยู่ถัดจากช่องเขาขาดไปเล็กน้อย เดินขึ้นง่ายไม่เหนื่อย เป็นจุดที่มองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา ด้านหนึ่งจะเห็นยอดเขาแหลมฝั่งลาวที่สวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ใกล้เคียงอีกด้วย แต่ว่าต้องเดินไกลหน่อย รวมไปถึงมีที่พักไว้บริการด้วยนะ พิกัด : ดอยผาตั้ง อ. เวียงแก่น จ. เชียงรายGPS : ‭https://goo.gl/maps/nHvzsZDLD7z ดอยตาปังจังหวัดชุมพร “ดอยตาปัง” อยู่ในพื้นที่ของเขาทะลุ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก สุดฟินแห่งภาคใต้ เพราะมีหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เป็นดอยที่ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันผลักดันจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของชุมพร ที่นี่จะมองเห็นทะเลหมอกทอดผ่านแนวทิวเขาสวยงามไม่แพ้ทางเหนือ เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้น มีลานกางเต็นท์ให้บริการ การเดินทางจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากข้างบนเป็นพื้นที่แคบ แนะนำให้ใช้การบริการรถจากชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องถนนหนทางพาขึ้นไปดีกว่านะ พิกัด : ดอยตาปัง อ.สวี จ.ชุมพรGPS : https://goo.gl/maps/21FgYFpJorMSBPhq9 และช่วงเวลาแบบนี้ เราถือโอกาสบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้คุณด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพปฏิทินสวย ๆ พร้อมคำแนะนำงานประเพณี กิจกรรมดีดี หรือดาวน์โหลดปฏิทิน ทำ E-Card ด้วยตัวเอง เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนที่เรารักและห่วงใย สามารถคลิกที่นี่ https://tatcalendar.com/ หรือสแกน QR Code ในภาพได้เลย นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23brดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq  และนี่ก็คือตัวอย่าง E-Card ที่เราทำ ซึ่งสามารถใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือเปลี่ยนข้อความเป็นคำอวยพรในสไตล์ของตัวเองได้เลย สำหรับการทำ E-Card ด้วยตัวเองก็ง่ายมาก เราขอชวนคุณมาร่วมทำไปด้วยกัน เพียง..1. คลิกเลือก E-card แบบรูปภาพหรือวิดีโอ2. ใช้คำอวยพรเดิมที่มีให้ หรือพิมพ์ข้อความใหม่ ความยาวไม่เกิน 30 ตัวอักษร ลงในช่องกรอกข้อความ3. คลิก เปลี่ยนข้อความ4. คลิกขวาเพื่อบันทึกรูปภาพพร้อมข้อความ สำหรับ PC หรือแตะที่รูปค้างไว้แล้วเลือก บันทึกรูปภาพ สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต5. นำภาพหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ ส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ

⛅ Unseen 12 จุดชมหมอกเมืองไทย ⛅ อ่านเพิ่มเติม

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨

หากพูดถึงจุดชมทะเลหมอกในจังหวัดเชียงราย จุดที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปสักครั้งก็คือ ดอยผาตั้ง เพราะนอกจากทะเลหมอกหนา ๆ น่าชมแล้วก็ยังมีวิวขุนเขาแบบ 360 องศา รวมทั้งวิวลำน้ำโขงที่แบ่งอาณาเขตไทย-ลาว บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 053 602 742 (องค์การบริหารส่วนตำบลปอ) https://goo.gl/maps/fTxLADxkxcZEXM8BA ดอยผาตั้ง นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ชาวม้ง และชาวเย้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนฮ่อ โดยชาวจีนกลุ่มนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงหน้าหนาว ก็เตรียมฟินกับบรรยากาศหมอกได้เลยค่ะ  หากเพื่อน ๆ เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงรายในช่วงนี้ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยล่ะ บนดอยผาตั้ง มีจุดท่องเที่ยวให้ไปชมหลายจุดด้วยกัน แถมยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน แต่ละช่วงก็จะได้ชมความงดงามที่แตกต่างกันไป จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ “ผาบ่อง” ประตูรักแห่งขุนเขา จุดแรกคือผาบ่อง เป็นหน้าผาที่มีช่องเขาให้เดินลงไป มองเห็นทัศนียภาพของฝั่งลาวได้อย่างสวยงาม เป็นที่รู้จักกันว่า “ประตูรักแห่งขุนเขา” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโครงการ “เขาเล่าว่า” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “เขาเล่าว่า…ประตูรักแห่งขุนเขา ที่เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา” เล่ากันมาแบบนี้ เห็นทีคงต้องพาหวานใจไปด้วยแล้ว  ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่  เป็นศาลาทรงเก๋งจีนที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่นายพลหลี่ อดีตผู้นำทางทหารจีนคณะชาติ แห่งกองพล 93 นับเป็นสถาปัตยกรรมเล็ก ๆ ที่โดดเด่นบนขุนเขาแห่งนี้ เดินต่อไปประมาณ 5 นาที เพื่อน ๆ ก็จะเจอ “พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ” ประดิษฐานอยู่บนเขาด้วยเช่นกัน ไปแวะสักการะกันได้ค่ะ 🙏 เดินมาอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะพบกับ “ป่าหินยูนาน”  มีหินจำนวนมากกองอยู่บริเวณนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันป่าหินในจีน มีทางเดินขึ้นมาด้านบนให้เราได้ชมวิวกว้าง ๆ พร้อมกับทะเลหมอกกันด้วยนะ  “ช่องเขาขาด”  ผาหินบริเวณนี้มีลักษณะเป็นหินที่ขาดแยกจากกัน มองทะลุไปได้ ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เพื่อน ๆ จะได้ชมทัศนียภาพฝั่งลาว และเส้นแม่น้ำโขงที่ทอดตัวยาว   ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก คุณสาธิต บัวเทศ ก่อนจะไปที่จุดถัดไป แวะชมทุ่งดอกบัวตองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับป่าหินกันก่อน ซึ่งช่วงนี้ก็บานเต็มที่แล้ว เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก  มองจากมุมนี้ จะเห็นได้ว่า ป่าหิน ช่องเขาขาด และทุ่งดอกบัวตองตั้งเรียงลำดับกันเลย เดินใกล้มาก ๆ ทางเดินที่นี่เป็นพื้นดินค่อนข้างเรียบ เดินง่าย สลับกับทางเดินขึ้นบันไดปูน มีราวกั้นเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณทางลาด สามารถเดินได้อย่างอุ่นใจ  จากนี้ ทางเดินจะเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ แวะพักจนหายเหนื่อยแล้ว แอดก็จะพาไปชมต่อที่ “จุดชมวิวเนิน 102” ซึ่งห่างไปประมาณ 300 เมตร เนิน 102 เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาที่เพื่อน ๆ สามารถชมทะเลหมอก  และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงาม  เดินต่อไปอีกราว ๆ 300 เมตร จะเป็น “เนิน 103” ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขาอีกลูกของดอยผาตั้ง ตรงจุดนี้นับว่าเป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกในมุมกว้างได้สวยงามมาก  ไหน ๆ ก็มาเที่ยวแล้ว ขอเก็บให้ครบเลยแล้วกันนะ ต่อไปก็คือ “เนิน 104” ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยและกว้างที่สุดของดอยผาตั้ง  สำหรับจุดนี้ จะอยู่อีกฝั่ง เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถโฟร์วีลไปถึงจุดชมวิว เนิน 104 ได้ มีจุดให้บริการรับ-ส่ง ราคาเหมาคันละ 500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 380 เมตรก็จะถึงด้านบนสุด มองเห็นสันเขา ทะเลหมอก และหมู่บ้านระแวกใกล้เคียงได้กว้างขวางเลยล่ะ

✨ แอ่วเจียงฮาย ผ่อ “ผาตั้ง” ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย มาฝาก ประเพณีโล้ชิงช้า เป็นงานเทศกาลปีใหม่ของชาวอาข่า จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร ให้มีความเจริญงอกงาม และถือเป็นการให้เกียรติสตรี ซึ่งหญิงสาวชาวอาข่าจะใช้เวลาทั้งปีตระเตรียมชุดเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ในงานประเพณีโล้ชิงช้า (แย้ขู่อ่าเผ่ว) จะประกอบด้วยการโล้ชิงช้าอันเป็นจุดเด่นในเทศกาล พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ การเลี้ยงฉลองและการเต้นรำ ซึ่งแต่ละชุมชนจะจัดไม่ตรงกัน ผู้นำชุมชนแต่ละชุมชนจะกำหนดวันจากความเหมาะสมของชุมชน โดยจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน งานจะมีทั้งหมด 4 วัน ดังนี้ วันที่ 1 ″จ่าแบ”ครอบครัวจะส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้หญิง แต่งกายสวยงามด้วยชุดประจำเผ่า ออกไปตักน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ นอกจากนี้ แต่ละครอบครัวจะตำข้าวปุ๊ก (ห่อถ่อง) เพื่อใช้ในพิธีไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งข้าวปุ๊กนี้จะเป็นการนำข้าวเหนียวไปนึ่ง แล้วนำมาตำกับงาดำและเกลือ วันที่ 2 วันสร้างชิงช้าคนในชุมชนจะมารวมตัวกันที่บ้านของ “โจ่วมา” ผู้นำศาสนาของชุมชน โจ่วมาจะแบ่งงานให้ทุกคนช่วยกันสร้างชิงช้าใหญ่ของชุมชน วันนี้จะไม่มีการฆ่าสัตว์หรือทำพิธีใด ๆ หลังจากสร้างชิงช้าใหญ่เสร็จแล้ว จะมีการโล้ชิงช้าเปิดพิธีโดยโจ่วมา จากนั้นทุกคนก็สามารถโล้ชิงช้าได้ หลังจากนั้นทุกคนก็จะไปสร้างชิงช้าเล็กไว้หน้าบ้านเพื่อให้ลูกหลานของตนได้เล่น วันที่ 3 “ล้อดา อ่าเผ่ว”เป็นวันพิธีใหญ่ มีการเลี้ยงฉลองกันทุกครัวเรือน มีการเชิญผู้อาวุโสหรือแขกต่างหมู่บ้านมาร่วมรับประทานอาหารในบ้านของตน มีการอวยพรให้กับเจ้าบ้านจากผู้อาวุโส วันที่ 4 “จ่าส่า”จะมีการโล้ชิงช้าจนตะวันตกดิน (ประมาณ 18.00 น.) โจ่วมา จะทำการเก็บเชือกของชิงช้า โดยการมัดเชือกสำหรับโล้ชิงช้าติดกับเสา หลังอาหารค่ำจะมีการเก็บเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ถือเป็นการเสร็จสิ้นประเพณีโล้ชิงช้า 👉 รายชื่อหมู่บ้านอาข่า บ้านศรีวิเชียร จ.เชียงราย บ้านแม่จันใต้ อ.แม่สรวย บ้านแสนใจพัฒนา อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านอาข่าป่ากล้วย ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง บ้านผาหมี-บ้านผาฮี้ อ.แม่สาย บ้านสามแยก อ.แม่ฟ้าหลวง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม📞: 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 (ททท.สำนักงานเชียงราย)📞: 0 5391 8415 (ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 12 จ. เชียงราย)📞: 0 5371 4250, 08 1952 2179 (สมาคมอาข่า)

✨ ประเพณีโล้ชิงช้าอาข่า จ.เชียงราย ✨ อ่านเพิ่มเติม

จินนาลักษณ์ : D.I.Y. กระดาษสา

โรงงานจินนาลักษณ์ตั้งอยู่ใน “ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ได้รับการยกระดับให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จินนาลักษณ์ เป็นโรงงานและฐานเรียนรู้การผลิตกระดาษสาทำมือ จุดเด่นของกระดาษสาที่ทำให้แตกต่างจากกระดาษสาทั่วไปคือ การใช้วัสดุธรรมชาติในชุมชน อย่างเช่น ต้นกล้วย เปลือกระเทียม หญ้าแฝก มาผลิตจนได้กระดาษสาที่มีลวดลายตามเส้นใยของพืช แต่งแต้มสีสัน เติมลวดลายน่ารัก ๆ ด้วยดอกไม้และใบไม้จากธรรมชาติ กระดาษสาของที่นี่ มีความเหนียวและทนทาน สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้หลายชนิด ที่สำคัญ ยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในไทยและระดับโลก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าของไทยที่มีคุณภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทางชุมชนได้ปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง แต่เพื่อน ๆ ยังสามารถสั่งชุด D.I.Y. กระดาษสามาลองทำดูที่บ้านได้เลย มีอุปกรณ์ให้ครบเซ็ต.สั่งซื้อผลิตภัณฑ์กระดาษสา และสินค้าอื่น ๆ ของชุมชนได้หลายช่องทางดังนี้โทร. 081 883 9062Line ID : jinna0818839062Facebook https://www.facebook.com/panghahomestay.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากจินนาลักษณ์

จินนาลักษณ์ : D.I.Y. กระดาษสา อ่านเพิ่มเติม

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร

“พระบรมธาตุเจดีย์” เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ คือ อัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า โดยมีการอัญเชิญและสร้างเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน ณ สถานที่ต่าง ๆ และจัดพิธีสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา เชื่อว่าการสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุเสมือนการได้ “ชุธาตุ” หรือกราบไหว้บูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีคติความเชื่อว่า “นามเปิ้ง” คือนามของสัตว์ที่เป็นพาหนะในการนำมาเกิดตามราศี จึงกำหนดพระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตร เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลในการสักการบูชา พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตรส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาคเหนือ และมีหนึ่งแห่งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑. พระธาตุประจำปีเกิด ปีชวด (ปีหนู) ธาตุน้ำ“พระธาตุศรีจอมทอง” วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระธาตุศรีจอมทอง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า โดยพระบรมสารีริกธาตุนี้มิได้ถูกบรรจุฝังไว้ใต้ดินเช่นที่อื่น แต่ถูกบรรจุไว้ในพระโกศห้าชั้น ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวงซึ่งอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุเจดีย์ศรีจอมทอง และในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ (เหนือ) หรือก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ (ประมาณเดือนมิถุนายน) ของทุกปี ที่วัดจะมีการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุศรีจอมทอง.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด จนถึงตัวอำเภอจอมทอง จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถเมล์และรถสองแถว สายเชียงใหม่-จอมทอง วิ่งผ่านหน้าวัด สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ ๒. พระธาตุประจำปีเกิด ปีฉลู (ปีวัว) ธาตุดิน“พระธาตุลำปางหลวง” วัดพระธาตุลำปางหลวง ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย จากตำนานกล่าวว่า วัดอยู่บนซากเมืองโบราณลัมพกัปปะนคร พระนางจามเทวีได้เสด็จมาโปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ มีพระธาตุเจดีย์ทรงลังกาบุทองเหลืองฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้แก่ พระเกศาธาตุ (ผม) พระนลาฏ (หน้าผาก) ข้างขวา และส่วนพระศอด้านหน้าและด้านหลังของพระพุทธเจ้า การสักการบูชามักจัดให้มีขึ้นในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา.การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ (ลำปาง-เถิน) จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าตัวอำเภอเกาะคา และข้ามแม่น้ำวัง จะพบที่ว่าการอำเภอเกาะคา ให้เลี้ยวขวาและตรงไป ๓ กิโลเมตร ถึงวัด ๓. พระธาตุประจำปีเกิด ปีขาล (ปีเสือ) ธาตุไม้“พระธาตุช่อแฮ” วัดพระธาตุช่อแฮ ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม) ของทุกปี ทางวัดจะจัด “งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่ แห่ตุงหลวง” มีริ้วขบวนเครื่องสักการะ ผ้าห่มพระธาตุ ๑๒ ราศี ตุง ๑๒ ราศี และเทศน์มหาชาติ.การเดินทาง : จากสี่แยกบ้านทุ่งในตัวเมืองแพร่ ไปตามถนนช่อแฮ รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ ๙ กิโลเมตร ๔. พระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ (ปีกระต่าย) ธาตุน้ำ“พระธาตุแช่แห้ง” วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงติ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนข้อมือซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๑-๑๕ ค่ำ และ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม) จะมีการจัด “งานนมัสพระธาตุแช่แห้ง” โดยมีการแห่ตุงถวายพระบรมธาตุ และจุดบอกไฟ (ลักษณะเดียวกับบั้งไฟ ประทัด หรือดอกไม้ไฟ) ถวายเป็นพุทธบูชา.การเดินทาง : จากตัวเมืองน่าน ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๖๘ ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร ๕. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะโรง (ปีงูใหญ่) ธาตุดิน“พระมหาธาตุเจดีย์ หรือ พระธาตุหลวง” วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารลายคำ ซึ่งภายในประดิษฐาน “พระสิงห์” (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระวิหารลายคำนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น เพราะมีลวดลายปิดทองล่องชาด เทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธานและเสากลางพระวิหาร เสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง สังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่นมีความงดงามมาก.การเดินทาง : วัดพระสิงห์อยู่ใกล้บริเวณคูเมืองด้านใน ตรงบริเวณจุดบรรจบระหว่างถนนสามล้าน ถนนสิงหราช และถนนราชดำเนิน หรือใช้บริการรถโดยสารสองแถวแดงที่ให้บริการในตัวเมืองเชียงใหม่ ๖. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) ธาตุน้ำ“พระเจดีย์เจ็ดยอด” วัดโพธารามมหาวิหาร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจดีย์เจ็ดยอด จำลองแบบจากมหาวิหารเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สร้างสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงให้แบ่งหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสงฆ์สิงหลนิกายลังกาวงศ์นำมาจากลังกาแล้วปลูกไว้ที่เชิงดอยสุเทพ ให้นำมาปลูกไว้ใกล้กับพระเจดีย์เจ็ดยอดด้วย จึงมีสองสิ่งสำคัญในการเป็นที่สักการะประจำปีเกิดปีมะเส็ง คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระมหาเจดีย์เจ็ดยอด.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนห้วยแก้วจนถึงสี่แยกรินคำ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่-ลำพูน) ตรงไปประมาณ ๑ กิโลเมตร จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ ๗. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเมีย (ธาตุไฟ)พระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีตำนานกล่าวถึงสถานที่ตั้งของพระบรมธาตุเจดีย์ว่า สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่แห่งนี้ และตรัสว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วให้นำพระเกศาธาตุมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ต่อมาจึงมีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้น โดยภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๙ เหนือ (ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน) ของทุกปี

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร อ่านเพิ่มเติม

ดอยสะโง้ : Go local อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ดอยสะโง้ มีจุดชมวิวที่มองเห็นภูมิประเทศโดยรอบได้เกือบ 360 องศา และเห็นได้ถึง 3 ประเทศคือ ไทย เมียนมา และลาว นอกจากนี้ยังสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้า และชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นได้ในจุดเดียวกัน ในตอนกลางคืนที่นี่ยังเหมาะเป็นสถานที่ดูดาว เพราะไม่มีแสงไฟมารบกวน ทำให้มองเห็นดาวได้เต็มฟ้าเลย สำหรับใครที่ขึ้นมาชมทะเลหมอกแต่เช้าตรู่แล้วยังไม่ได้ทานอาหาร ด้านบนก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการด้วย สามารถเลือกซื้อเลือกทานได้เลย บนดอยสะโง้ มีที่พักให้บริการ 2 แบบแบบที่ 1 คือ เต็นท์ อัตราค่าที่พัก– เต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 300 บาท– หากนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ คนละ 100 บาท มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ แบบที่ 2 คือ บ้านพักแบบโฮมสเตย์ อัตราค่าที่พักบ้านพักสำหรับ 1-3 คน ราคา 1,500 บาทบ้านพักสำหรับ 3-5 คน ราคา 2,500 บาทบ้านพักสำหรับ 10-12 คน ราคา 6,500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้ว ชาวบ้านบนดอยสะโง้มีอาชีพปลูกดอกเก๊กฮวยเพื่อนำไปขาย ทำให้บริเวณรอบๆ ดอยสะโง้ มีดอกเก๊กฮวยกระจายอยู่ทั่วบริเวณเลย ดอยสะโง้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นวิถีชุมชนค่อนข้างมาก เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนบริหารจัดการกันเอง ไม่มีหน่วยงานอื่นมาสนับสนุน ทำให้อาจจะยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปบ้าง แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมหรือหลงใหลในวัฒนธรรมท้องถิ่น แอดแนะนำว่าต้องมาที่นี่เลย ดอยสะโง้ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ติดต่อจองที่พักและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 092 263 6394Facebook : Doisango ดอยสะโง้ การขึ้นไปบนดอยสะโง้ต้องจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่หมู่บ้าน (บริเวณพื้นที่ของชุมชนจอดฟรี ส่วนพื้นที่ของเอกชนต้องเสียค่าบริการตั้งแต่ 80-100 บาท) จากนั้นใช้บริการรถของชุมชน ราคาเที่ยวละ 100 บาท นั่งได้ 1-7 คน การเดินทางจาก อ.เชียงแสน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1290 ก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 1 กิโลเมตร ให้สังเกตป้ายบอกทางไปบ้านสะโง้ทางซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้าย ขับไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปโครงการหลวงสะโง้ ขับเลยทางเข้าโครงการหลวงไปอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านสะโง้ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 ธันวาคม 2562

ดอยสะโง้ : Go local อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

ป่าสนวัดจันทร์ Go Green

ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ไปสัมผัสบรรยากาศอันเขียวขจีและชุ่มฉ่ำที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ จังหวัดเชียงใหม่กันดีกว่า ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนกายและใจเป็นที่สุด.โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)  ที่ตั้ง : ต.บ้านจันทร์ กม.40 หมู่บ้านห้วยอ้อ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่พิกัด : https://goo.gl/maps/Mgf8gxcX67f9DWGMAเปิดทำการทุกวัน : 08.00 – 22.00 น.เบอร์โทรศัพท์จองที่พัก : 053 249 349เบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ : 086 181 3388Facebook : FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป..การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง 1. จากขนส่งอาเขต นั่งรถสายเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน รถออกเวลา 07.00 น. / 09.00 น. / 10.30 น. / 12.30 น. / 14.30 น. และ 16.00 น. (สำหรับค่าโดยสารสามารถสอบถามได้ที่ บ.เปรมประชา โทร.053 304 748) จากนั้นนั่งรถสองแถวบริเวณตลาดแสงทอง อ.ปาย ไปที่บ้านวัดจันทร์ รถมีวันละ 1 เที่ยว เวลา 13.00 น 2. จาก บขส.(ช้างเผือก) นั่งรถสองแถวป้ายบ้านวัดจันทร์ (รถสีเหลือง) รถออกเวลา 09.00 น. และ 11.00 น. ราคาคนละ 150 บาท ถ้าให้ส่งที่ อ.อ.ป. คิดเพิ่มคนละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง  โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เป็นป่าสนที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอสะเมิง และบางส่วนของอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่กว่า 150,000 ไร่.สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะที่สุดคือ เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ถ้ามาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ จะได้พบกับความเขียวขจีและสดชื่นในแบบกรีนซีซั่น แต่ถ้ามาช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์จะเป็นช่วงใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีสวยงาม เหมาะสำหรับถ่ายภาพมากๆ เลยล่ะ ที่นี่มีบ้านพักกว่า 30 หลัง และมีหลายแบบ พักได้ตั้งแต่ 2 – 10 คน ราคาหลังละ 800 – 2,000 บาท.ค่าบริการเสริม– ค่าเช่าที่นอนเสริม (ราคา 200 บาท)– ค่าเช่าจักรยาน (ราคา 100 บาท/วัน/คัน)– ค่าอาหารเช้า (ราคา 100 บาท/คน)– ค่าอาหารกลางวัน (ราคา 120 บาท/คน)– ค่าอาหารเย็น (ราคา 150 บาท/คน) มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 300 หลัง แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง โดยมีค่าธรรมเนียม 50 บาท/คน/คืน และต้องนำอาหารมาเอง แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ก็สามารถแจ้งทางศูนย์ฯ ให้เตรียมอาหารให้ได้ค่ะ ไฮไลท์ของโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์คงจะหนีไม่พ้นป่าสนที่สวยงาม และบรรยากาศชิลๆ ริมอ่างเก็บน้ำ ถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว จะได้เห็นวิวอ่างเก็บน้ำและหมอกสวยๆ แบบนี้ สะพานไม้ท่ามกลางป่าสนเป็นอีกจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด ถ้าท้องฟ้าปลอดโปร่ง ในตอนกลางคืน เพื่อนๆ จะได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้า บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เหมาะกับการพาแฟนไปนั่งดูดาว แต่คนโสดก็ไม่ต้องกลัวเหงา พาแก๊งเพื่อนมาถ่ายรูปดาว รับรองได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน ที่นี่ยังมีร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึก ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากชาวบ้าน โมบายที่ทำจากไม้แกะสลัก ผ้าทอของชาวปกาเกอะญอ โปสการ์ด เสื้อยืด ฯลฯ.ขอบคุณรูปภาพจาก เพจ FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป. อยู่กลางป่ากลางเขาก็ไม่ต้องกลัวหิว เพราะที่นี่เลี้ยงเราดีมากๆ อาหารแม้จะเป็นเมนูทั่วไป แต่รสชาติอร่อยจนต้องขอเติมรอบสอง กระซิบไว้หน่อยว่า ห้ามพลาดน้ำพริกกะปิ เพราะรสชาติจัดจ้าน เข้มขัน ทานกับผักสดและแคบหมูยิ่งอร่อย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 ตุลาคม 2562

ป่าสนวัดจันทร์ Go Green อ่านเพิ่มเติม

มืองแห่งขุนเขา-เชียงราย

“ลัดเลาะเมืองแห่งขุนเขา เที่ยวเชียงราย 2 วัน 1 คืน” วันที่ 1สวนแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ อำเภอแม่สายหมู่บ้านผาฮี้ อำเภอแม่สายหมู่บ้านผาหมี อำเภอแม่สาย.วันที่ 2ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จันวัดร่องเสือเต้น อำเภอเมืองวัดพระแก้วเชียงราย อำเภอเมือง จุดแรกที่เราจะไปก็คือ สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนักดอยตุง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร.“ดอยตุง” ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ฟ้าหลวง มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ในอดีตเคยเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เนื่องจากชาวบ้านถางป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำกินและปลูกฝิ่น จนสมเด็จย่าทรงรับสั่งให้ปลูกป่า จึงทำให้ดอยตุงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง.สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยตุง แบ่งเป็น 4 จุดหลักๆ คือ พระตำหนักดอยตุง หอแห่งแรงบันดาลใจ สวนแม่ฟ้าหลวง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ดอยช้างมูบ ซึ่งคราวนี้ เราจะไปเที่ยวที่สวนแม่ฟ้าหลวงกัน สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาดอยตุง มีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ภายในเป็นสวนดอกไม้นานาชนิด อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด สำหรับคนที่ชื่นชอบกล้วยไม้ต้องถูกใจแน่ ๆ เพราะที่นี่จัดพื้นที่ให้กล้วยไม้รองเท้านารีเป็นพิเศษ เป็นรองเท้านารีพันธุ์หายากที่หน่วยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของทางสวนเพาะขึ้นเพื่อขยายพันธุ์ สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ หลายพันธุ์ได้รางวัลระดับประเทศมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมใหม่น่าสนุกที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองสัมผัส นั่นคือ Doi Tung Tree Top Walk ทางเดินเรือนยอดไม้ ยาว 295 เมตร และสูงกว่า 30 เมตร ที่อยู่ท่ามกลางป่าอันแสนร่มรื่น แต่ไม่ต้องกลัว เพราะที่นี่มีอุปกรณ์เซฟตี้ให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี.สวนแม่ฟ้าหลวงตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.30-18.00 น.โทร. 053 767 015-7 จากนั้นเราไปต่อกันที่ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ห่างจากสวนแม่ฟ้าหลวง ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ตั้งอยู่บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา มีหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดนไทย-เมียนมาประจำการอยู่ตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นี่จะเป็นผู้คอยดูแลและให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ดอยช้างมูบแห่งนี้ เป็นจุดชมทิวทัศน์และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในเชียงราย เพราะจากจุดนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้านในฝั่งเมียนมาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ มีจุดกางเต็นท์ พร้อมห้องน้ำและห้องสุขาให้บริการ สามารถมาได้เลยโดยไม่ต้องโทรจองล่วงหน้า แต่ต้องนำเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ มาเอง.นอกจากนี้ยังอนุญาตให้นำอุปกรณ์ขึ้นมาประกอบอาหารด้านบนได้ด้วย เพราะที่นี่ไม่มีร้านอาหาร มีเพียงร้านค้าสวัสดิการเล็กๆ เท่านั้น.เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ในเขตทหาร แอดแนะนำว่าให้พกบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย เพื่อสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้เมื่อมีการเรียกตรวจ.ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ชมวิวเสร็จแล้วไปต่อกันที่ดอยผาฮี้ ห่างจากฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่.ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่สาย ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนใน พ.ศ.2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น.ปัจจุบัน ดอยผาฮี้กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สายพันธุ์ที่ปลูกกันที่นี่และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า.ชาวบ้านบนดอยผาฮี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า มูเซอแดง และมูเซอดำ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกชาและกาแฟเป็นหลัก จุดที่ดีที่สุดในการชมวิวของที่นี่ก็คือ”ลานโล้ชิงช้า” ที่ตั้งชิงช้าเผ่าอาข่าประจำหมู่บ้านนี่เอง.ในช่วงปลายสิงหาคม – ต้นกันยายนของทุกปี ลานนี้จะกลายเป็นสถานที่จัดงานโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองต้อนรับฤดูเก็บเกี่ยวที่มาถึง ในงานหญิงชาวอาข่าจะแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าและเครื่องประดับต่างๆ อย่างสวยงาม ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยเมล็ดกาแฟและใบชาที่ชาวบ้านนำมาตากแดดให้แห้งเพื่อรอนำไปคั่ว สมกับเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกกาแฟจริงๆ ร้านที่แอดไปใช้บริการก็คือ ร้านกาแฟผาฮี้ จุดเด่นอยู่ที่ร่มสีแดงนี่แหละ และหากใครเริ่มหิวทางร้านก็มีบริการอาหารตามสั่ง เพื่อน ๆ สามารถสั่งอาหารมาทานพร้อมกับนั่งชมวิวสวย ๆ แบบนี้ได้เลย.ในเมื่อดอยผาฮี้ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ แน่นอนว่าจะต้องมีร้านกาแฟให้เราได้นั่งชิลและลองลิ้มชิมรสกาแฟแท้ๆ จากต้นกำเนิดแหล่งเพาะปลูก.กาแฟดอยผาฮี้ มีความโดดเด่นกว่ากาแฟที่อื่นตรงที่มีกลิ่นหอมติดหวานคล้ายผลไม้ แต่รสเข้มกลมกล่อม.ร้านกาแฟผาฮี้ มีโฮมสเตย์ให้บริการด้วยนะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 089 431 7479.หมู่บ้านผาฮี้ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จากนั้นไปต่อกันที่ ดอยผาหมี ห่างจากดอยผาฮี้ประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่.ดอยผาหมี เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด.แต่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ มายังหมู่บ้าน และมีพระราชดำรัสให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาปลูกกาแฟแทนฝิ่น ดอยผาหมีจึงค่อย ๆ กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของประเทศไทย ที่หมู่บ้านผาหมีมีร้านอาหารและร้านกาแฟหลายร้านทีเดียวที่เรียกได้ว่า เป็นร้านกาแฟหลักร้อยวิวหลักล้าน ถ้าไปเที่ยวที่นี่แล้วไม่ควรพลาด ถึงไม่สั่งอาหาร ไปนั่งพักจิบกาแฟสักครู่ก็รื่นรมย์แล้ว นอกจากนี้ ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการหลายที่ ราคาไม่แพง และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูลรายชื่อที่พักได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 053 717 433.หมู่บ้านผาหมีตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เริ่มวันที่ 2 กันที่ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน ห่างจากดอยผาหมีประมาณ 35 กิโลเมตร.ไร่ชาฉุยฟง เป็นไร่ชาชื่อดังของเชียงรายที่มีมานานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี และยังเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ในไร่ชาฉุยฟง เราจะเห็นแปลงชาที่ปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขาอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้แวะจอดรถลงไปถ่ายรูปกันตลอดทาง ภายในไร่ชามีร้าน “ฉุยฟง ที คาเฟ่” ที่มีเมนูขนมและเครื่องดื่มให้ได้เลือกซื้อเลือกทานกัน สามารถนั่งชิลได้ทั้งโซนเปิดโล่ง (Open air) โซนห้องแอร์ และดาดฟ้า ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิวไร่ชาและถ่ายภาพสวยๆ ได้.ไร่ชาฉุยฟงตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายโทร. 053 771 563เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.30 น. จากไร่ชาฉุยฟง เดินทางต่อไปอีก 39 กิโลเมตร มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อไปชมความสวยงามของวัดร่องเสือเต้นกันต่อ.วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมกก อำเภอเมือง

มืองแห่งขุนเขา-เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

ด อ ย ผ า ห มี : เ ชี ย ง ร า ย

ดอยผาหมี ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประชากรในชุมชนเป็นชาวอาข่าที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยือนประชาชน ณ ที่แห่งนี้ด้วย หมู่บ้านผาหมี เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก มีโฮมสเตย์ราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้านให้บริการหลายแห่ง ซึ่งที่แอดไปพักก็คือ บูซอ โฮมสเตย์ บูซอ โฮมสเตย์ ให้บริการที่พักและลานกางเต็นท์ รวมทั้งยังมีเต็นท์ให้เช่าด้วย ลานกางเต็นท์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ส่วนที่ 1 บริเวณลานวัฒนธรรมของหมู่บ้าน อัตราค่าบริการเต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 350 บาทนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ 200 บาท ที่นี่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ แต่ไม่มีอาหารเช้า โดยสามารถหาซื้อได้ที่บูซอ โฮมสเตย์ ซึ่งในตอนเช้านั้น แอดบอกเลยว่า อากาศดีมากกกก แค่ตื่นมานั่งมองดวงอาทิตย์ขึ้นก็ฟินจนบอกไม่ถูกแล้ว บริเวณลานวัฒนธรรมของหมู่บ้าน มีชิงช้าแบบอาข่าให้โล้ด้วย จุดกางเต็นท์ที่ลานวัฒนธรรมมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน และยังจำกัดจำนวนคน ทำให้ไม่แออัด ดังนั้นหากใครสนใจจะไปพัก ต้องโทรไปจองล่วงหน้านะ ส่วนที่ 2 บนดาดฟ้าของบูซอ โฮมสเตย์อัตราค่าบริการเต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 450 บาท (รวมอาหารเช้า) สามารถใช้ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำของโฮมสเตย์ได้เลย วิวบนดาดฟ้าของบูซอ โฮมสเตย์ ก็สวยไม่แพ้กับที่ลานวัฒนธรรมเลยล่ะ นอกจากการมากางเต็นท์นอนแล้ว บนดอยผาหมียังมีร้านกาแฟหลายร้าน ให้เราไปนั่งจิบชากาแฟ ชมวิวชิลๆ ได้อีกด้วย หนาวนี้ใครที่นึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหน แอดแนะนำให้ลองไปดอยผาหมีดูนะ บูซอ โฮมสเตย์ที่ตั้ง : บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พิกัด : https://goo.gl/maps/17qa9ZbAnFRPDmZcA การเดินทางจากตัวเมืองเชียงรายใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) มุ่งหน้าไปยัง ต.เวียงพางคำ ระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร จากนั้นให้สังเกตทางซ้ายมือ จะพบป้ายโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 5 และป้ายบอกทางไปยังหมู่บ้านผาหมี ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย ขับตรงเข้าไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านผาหมี จากนั้น ขับรถขึ้นเขาไปอีกเล็กน้อย ทางค่อนข้างแคบและคดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562

ด อ ย ผ า ห มี : เ ชี ย ง ร า ย อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top