เชียงราย

เชียงราย

ชมดอย ปั้นดิน มองเมืองโบราณ @ เชียงราย

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยว ณ ดินแดนเหนือสุดในสยาม นครหลวงก่อนการกำเนิดอาณาจักรล้านนา มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งด้านศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ บัดดี้ขอเริ่มต้นทริปนี้ด้วยจุดชมวิวสวยบริเวณชายแดน ที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาของเทือกเขาฝั่งเมียนมาสีเขียวหลายเฉดสลับซ้อนกัน พร้อมก้อนเมฆและท้องฟ้าที่มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ความพิเศษของจุดชมวิวนี้ คือการตั้งอยู่ในบริเวณฐานปฏิบัติการทางทหาร หน่วยกองกำลังป้องกันแนวชายแดน ซึ่งตั้งอยู่บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา มีอากาศเย็นสบายแทบทั้งปี ที่สำคัญมีร้านกาแฟให้บริการนักท่องเที่ยวสำหรับคนที่ต้องการนั่งพักหรือปล่อยอารมณ์ให้ลอยไปกับสายลมและวิวธรรมชาติเบื้องหน้า ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.https://maps.app.goo.gl/HUeMYRLc5YLasyUT9 หมู่บ้านผาฮี้ หลังจากชมวิวเสร็จ บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ขับรถประมาณ 2.5 กิโลเมตร มาที่หมู่บ้านผาฮี้ เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว ตอนขับต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ในอดีต ที่นี่เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยมาก่อน จนในปี พ.ศ. 2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น ทำให้ปัจจุบันหมู่บ้านผาฮี้กลายเป็นแหล่งปลูกและผลิตกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันหมู่บ้านผาฮี้มีการขยายตัวของหมู่บ้านออกไปอย่างมาก อย่างประตูผีแห่งนี้ที่เคยอยู่หน้าหมู่บ้าน ปัจจุบันกลับกลายเป็นตั้งอยู่กลางหมู่บ้านจากความเจริญที่งอกเงยมากขึ้น แต่ประเพณี ความเชื่อและวิถีชีวิตก็ยังคงอยู่จากการร่วมกันรักษาไว้ของคนทุกวัยในหมู่บ้าน หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมที่จะลองดื่มกาแฟหอม ๆ สักแก้ว หากถูกใจอย่าลืมซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือเป็นของขวัญให้ผู้ที่หลงใหลในเมล็ดคาเฟอีนคั่วดู รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงรายhttps://maps.app.goo.gl/VwyJb3Cm8JCut2ka6 บ้านดอยดินแดง นอกจากเชียงรายจะเป็นแหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อของประเทศไทยแล้ว เชียงรายยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานศิลปะ หนึ่งในแขนงงานศิลปะที่สวยงามและสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาชมวันนี้คือ “บ้านดอยดินแดง” บ้าน สตูดิโอและโรงงาน ของศิลปินนักปั้นดินมือเก๋า อ.สมลักษณ์ ปันติบุญ ผู้ผสานการปั้นดินในท้องที่เข้ากับศิลปะวิถีเซนของญี่ปุ่น ภายในบ้านดอยดินแดง มีเครื่องปั้นดินเผาให้ดูหลายสีหลายแบบ เพื่อน ๆ สามารถเดินชมความสวยงามที่กลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้างได้อย่างเพลินตาเพลินใจ ทั้งในและนอกตัวอาคาร หลายชิ้นที่บัดดี้สังเกตเห็นรอยตำหนิที่ช่วยทำให้ชิ้นงานสวยงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัวจนทำให้หยุดมองได้ยาก รู้ตัวอีกทีก็ใช้เวลาในการมองไปหลายนาทีแล้ว หากเพื่อน ๆ สนใจในงานเซรามิก เครื่องปั้นดินเผา ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยล่ะ เพราะมีทั้งชิ้นงานสวย ๆ ให้ดู มีสินค้าอย่างจาน ชามที่สามารถใช้งานได้จริงและยังเป็นของตกแต่งบ้านไปในตัวได้ด้วย แต่หากเพื่อน ๆ อยากทำเวิร์คชอป ต้องโทรติดต่อล่วงหน้า เพราะไม่ได้มีให้ทำทุกช่วง 49 หมู่ 6 บ้านป่าอ้อ ถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงรายเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)https://maps.app.goo.gl/J1j6cci2Pb5ipSLDA วัดพระธาตุผาเงา สถานที่ต่อไปคือวัดเก่าแก่และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มาอย่างยาวนาน โดยชื่อ “พระธาตุผาเงา” มาจากเงาของหินก้อนใหญ่ทรงคล้ายเจดีย์ เวลาพระอาทิตย์ส่องผ่านก้อนหินทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่นั่นเอง ภายในวัด มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และโบราณวัตถุ ที่มีการค้นพบมากมาย แถมปัจจุบันยังมีการสร้างสกายวอล์คที่เกิดจากความร่วมมือของทางวัด บริษัทเอกชน และชุมชน ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทย สปป.ลาว ประเทศเมียนมา และสามเหลี่ยมทองคำ โดยไม่มีอะไรมาบังอีกด้วย สำหรับขึ้นชมสกายวอล์ค เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถรับส่งของทางวัดได้ โดยมีค่าบริการคนละ 30 บาท หรือเพื่อน ๆ สามารถเลือกเส้นทางเดินเท้า ขึ้นทางบันไดนาค ข้างวิหารหลวงพ่อผาเงาได้ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ระยะทางประมาณ 600-700 เมตร โดยเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา หากเพื่อน ๆ ต้องการเข้าไปเดินบนสกายวอล์ค ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 40 บาท และสวมถุงเท้าที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้เพื่อรักษาสภาพของกระจกทางเดิน โดยจะจำกัดจำนวนคนให้เข้าไปได้ครั้งละไม่เกิน 100 คน สามารถเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 07.30-18.00 น. – เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. และผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป (แสดงบัตรประชาชน) เข้าชมฟรี– พระภิกษุสามเณร เข้าชมฟรี– ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปบนสกายวอล์ค สามารถนำฝากไว้ด้านนอกได้– ไม่อนุญาตให้นำวิลล์แชร์เข้าไปบนสกายวอล์ค เพราะล้อเหล็กของวิลล์แชร์อาจจะทำให้กระจกเสียหายแต่สามารถมาชมบริเวณรอบ ๆ ด้านนอกได้ 391 หมู่ที่ 5 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงรายเปิดทุกวันเวลา 06.00-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/63A6TMUuSFhHr1UR9 เมืองโบราณเชียงแสน สถานที่สุดท้ายสำหรับเส้นทางท่องเที่ยวนี้คือ เมืองโบราณเชียงแสน สถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของเวียงหิรัญนครเงินยาง ศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาในยุคแรก ๆ มีกำแพงเมืองและคูน้ำล้อมรอบตัวเมือง รวมถึงปัจจุบัน ยังมีการขุดค้นพบโบราณสถานมากมายทั้งในและนอกตัวเมืองกว่า 160 แห่ง ซึ่งบัดดี้ติดต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองเชียงแสนเพื่อขอจองรถรางและไกด์นำชม วัดแรกที่บัดดี้ไปก็คือ “วัดเจดีย์หลวง” วัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองเชียงแสน ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมือง แผนผังของเจดีย์เป็นรูปแปดเหลี่ยม ฐานกว้างด้านละ 9.50 เมตร สูงประมาณ 35.50 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า สร้างโดยพญาแสนพู ผู้ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพญามังราย ที่เสด็จจากเมืองเงินยางมาสร้างเมืองเชียงรายและยึดเมืองหริภุญชัยราวปี พ.ศ. 1836 จากนั้นไกด์นำชมขับรถรางพาบัดดี้ไปที่ “วัดป่าสัก” ตั้งอยู่ด้านนอกกำแพงเมืองเชียงแสนทางด้านทิศตะวันตก สันนิษฐานสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1875 หลังจากที่พญาแสนภูสร้างกำแพงเมืองเชียงแสนเสร็จสิ้นแล้ว 4 ปี มีต้นสักล้อมรอบวัดกว่า 300 ต้น เจดีย์ประธาน มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอด ผสมผสานศิลปะสุโขทัย พุกาม และหริภุญไชยเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลังจากนั้น การเที่ยวของบัดดี้จะเป็นการนั่งรถรางชมตัวเมืองเชียงแสน ที่มีโบราณสถานอยู่แทรกกับบ้านเรือนของชาวบ้าน มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าตื่นเต้นมากมายให้เรียนรู้ อย่างเช่นมีการนำอิฐของกำแพงเมืองเชียงแสนไปหาค่าอายุด้วยวิธีเทอร์โมลูมิเนสเซนส์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วพบว่าค่าอายุดินและอิฐของกำแพงเมืองเชียงแสนสมัยที่นำไปตรวจสอบมี 1,400-1,600 ปีมาแล้ว ปิดท้ายด้วยการชมวิวแม่น้ำโขง ณ ด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง สันนิษฐานว่าในอดีตมีกำแพงเมืองอยู่ แต่ปัจจุบันพังทลายไปจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงแล้ว แต่ปัจจุบันทางเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและชาวบ้านในพื้นที่ ได้พยายามรักษาสภาพเมืองเก่าเอาไว้ เพื่ออนุรักษ์เมืองล้านนาโบราณแห่งนี้เอาไว้ไม่ให้พังทลายไปมากกว่านี้ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย0 5377 7287 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอำเภอเชียงแสน)https://maps.app.goo.gl/3oX2x8M1NU3i5fFL6

ชมดอย ปั้นดิน มองเมืองโบราณ @ เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย วัดสวยที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน

วัดห้วยปลากั้ง ถือเป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงใน จ.เชียงราย แต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ต่อมาสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประกาศแต่งตั้งขึ้นเป็นวัด โดยใช้ชื่อว่า “วัดห้วยปลากั้ง” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 โดยมีพระอธิการพบโชค ติสฺสวํโส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกจนถึงปัจจุบัน วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน ทั้ง “พบโชคธรรมเจดีย์” เจดีย์ทรงเหลี่ยม 9 ชั้น สีเหลืองตัดสลับกับหลังคาสีแดง แต่ละชั้นจะประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกัน เช่นเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอม หลวงปู่โต หลวงปู่ทวด พระสังกัจจายน์ พระอุโบสถสีขาว ที่ทางขึ้นเป็นบันไดนาคสวยงาม ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นทั้งหลัง ภายในประดิษฐานองค์พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ถือเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงประมาณ 79 เมตร  ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมสามารถขึ้นลิฟต์เพื่อชมวิวจากมุมสูงได้ ผนังด้านในเป็นลวดลายปูนปั้นสวยงาม *ภายในวัดมีบริการรถรางฟรี สามารถนั่งเพื่อไปยังจุดต่าง ๆ ได้ 📍หมู่ 3 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ⏰ เปิดทุกวันเวลา 07.00-21.00 น. / ลิฟต์เปิดให้บริการเวลา 07.00-18.00 น.📞  0 5315 0274, 08 6620 0647🌐 https://maps.app.goo.gl/pop4CxxrUWdFGwho8📱 https://www.facebook.com/wathuayplakang/

วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย วัดสวยที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและจีน อ่านเพิ่มเติม

 ชวนเที่ยว ทำกิจกรรม ที่ ชุมชนบ้านปางห้า จ.เชียงราย

หากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวเชียงราย บัดดี้ขอแนะนำหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมสนุก ๆ และรักษ์โลกให้ทำ ที่ ชุมชนบ้านปางห้า จ.เชียงราย บัดดี้ขอเรื่มจาก “จินนาลักษณ์กระดาษสา” เป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตกระดาษสาแบบวิธีดั้งเดิมที่เปิดมานานกว่า 20 ปี ที่นี่ผลิตกระดาษสาจากวัสดุธรรมชาติในชุมชนอย่าง ดอกไม้และเยื่อไม้ ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังมีการพัฒนาลวดลาย คุณภาพและผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งหากเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่นี่ นอกจากเพื่อน ๆ จะได้รู้เรื่องกระดาษสามากขึ้นแล้ว ยังสามารถลองทำกระดาษสาของตัวเองได้อีกด้วยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 👉  www.facebook.com/JinnaluckMiracleOfSaa นอกจากกระดาษสาแล้ว ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์เด่นอีก 1 อย่างนั่นก็คือ “มาส์กหน้าใยไหมทองคำ” ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ 2556 ที่มีการเก็บด้วยวิธีพิเศษที่ไม่ทำให้หนอนไหมตายเลยสักตัว แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% การันตีโดยเครื่องหมาย Earth Safe (มาตรฐานอินทรีย์วิถีไทย) แต่หากกลัวการเที่ยวไม่จุใจหรือไม่มีที่พัก เพื่อน ๆ สามารถติดต่อ “บ้านสวนอุ้ยคำ” โฮมสเตย์และคาเฟในชุมชน ที่สามารถรองรับทั้งคนโสด คนมีคู่ กลุ่มเพื่อนและครอบครัวได้ แถมยังสามารถพาเพื่อน ๆ ไปชมสวนของชาวบ้านได้ โดยคนนำชมสามารถพูดได้ทั้งภาษาไทย,อังกฤษและจีน ที่สำคัญคาเฟของที่นี่มักมีโปรโมชันน่ารัก ๆ มาเอาใจคนโสด เช่น หากแจ้งว่าเป็นแค่คนคุยหรือไม่มีแฟน ทางร้านจะลดราคาอาหารหรือเครื่องดื่มให้ 5% เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 👉 https://www.facebook.com/baansuanauykham/ ภายในชุมชนปางห้า ยังมีกิจกรรมโชว์การแสดงรำพื้นเมืองของเด็ก ๆ การทำพิซซ่าหน้าน้ำเงี้ยว หรืออาหารอื่น ๆ ในแต่ละช่วงแตกต่างกัน โดยสถานที่ทำกิจกรรมทั้งหมดจะอยู่ที่ จินนาลักษณ์กระดาษสา หากต้องการไปเที่ยว บัดดี้แนะนำให้เพื่อน ๆ ติดต่อทำกิจกรรมล่วงหน้า อย่างน้อย 2-3 วัน 🙏🏻💖 📍 235 หมู่ 1 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.00-18.00 น.📞 08 1883 9062,  08 4536 9324🌐 https://maps.app.goo.gl/JEQBohsPpNBpY2NNA

 ชวนเที่ยว ทำกิจกรรม ที่ ชุมชนบ้านปางห้า จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

ชวนจิบกาแฟ ชมวิวหมอก ที่ ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย

ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย รายล้อมด้วยภูเขาสูง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่ต้องไปให้ถึงเมื่อมีโอกาสมาที่เชียงราย ชาวบ้านบนดอยผาฮี้ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าอาข่า มูเซอ ที่ยังประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกชาและกาแฟเป็นหลักอยู่ ทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนในปี พ.ศ. 2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น ปัจจุบันดอยผาฮี้ เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งของประเทศไทย มีสายพันธุ์กาแฟชื่อดังไปทั่วโลกนั่นคือ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ ทำให้บริเวณนั้นมีร้านกาแฟเปิดหลายเจ้า นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบต่างได้มาลิ้มลองรสกาแฟแท้ ๆ จากต้นกำเนิดแหล่งเพาะปลูก แถมได้นั่งชมทิวทัศน์บนดอยผาฮี้อีกด้วย กาแฟดอยผาฮี้ มีความโดดเด่นกว่ากาแฟที่อื่นตรงที่มีกลิ่นหอมติดหวานคล้ายผลไม้ แต่รสเข้มกลมกล่อม มีการนำกาแฟมาแปรรูปเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟเคลือบช็อกโกแลต เมล็ดกาแฟสำเร็จรูป พิซซ่า ฯลฯ บรรยากาศแต่ละช่วงบนดอยผาฮี้จะแตกต่างกันไปอย่างในช่วงฤดูฝน จะได้เห็นหมอกหนาจัดพาดผ่านแนวเขา ในฤดูหนาวก็จะมีอากาศหนาวและลมเย็น เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนก็จะสดใส ปลอดโปร่งแต่ยังมีอากาศเย็นอยู่ค่ะ เส้นทางขึ้นไปบ้านผาฮี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ด้วยนะคะ เมื่อขึ้นมาถึงบนดอยแล้ว เพื่อน ๆ จะเห็นป้าย “บ้านผาฮี้” ขนาดใหญ่มีภาพวาดแปลกตา ที่นี่ได้นำเอาภาพจุดเด่น 4 อย่างของชุมชนมาใส่ไว้ด้วย นั่นก็คือ ประตูผี เมล็ดกาแฟ ชิงช้าอาข่า และใบชา ค่ะ หมู่บ้านผาฮี้ ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/vNGNqPrJ6XoGMdX49

ชวนจิบกาแฟ ชมวิวหมอก ที่ ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

✨แนะนำโปรแกรมเที่ยว 3 วัน 2 คืน✨

☁️ เหนือสุดในสยาม … เชียงราย ☁️ “เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง” #เชียงราย … จังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพฯ 829 กิโลเมตร มีพื้นที่ 11,678 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีที่ราบอุดมสมบูรณ์ริมฝั่งแม่น้ำหลายสาย เป็นหนึ่งในศูนย์กลางอารยธรรมล้านนา ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เชียงรายมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัยที่มนุษย์สร้างขึ้น รีวิวนี้บัดดี้จะมาแนะนำโปรแกรมเที่ยวเชียงรายแบบ 3 วัน 2 คืน ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลตลอด 365 วัน รับรองว่าเมื่ออ่านจบ สามารถเก็บกระเป๋าตามรอยได้ทันที วันที่ 1– วัดพระแก้ว– อาข่า ฟาร์มวิลล์– จุดชมวิวยอดดอยช้าง– ครัวอาข่า– คืนที่ 1 ที่พักบนดอยช้าง/ตัวอำเภอแม่สรวย/ตัวเมืองเชียงรายวันที่ 2– อะบอนโซ คอฟฟี่– จุดชมวิว กม. 5 ดอยช้าง– จุดชมวิวเขื่อนแม่สรวย– อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง)– อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน– คืนที่ 2 ที่พักบนดอยตุง/บ้านผาฮี้/บ้านผาหมี/ตัวอำเภอแม่สายวันที่ 3– บ้านผาฮี้– ฐานปฏิบัติการทหารดอยช้างมูบ– วัดพระธาตุดอยตุง– สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง– สวนคุณปู่ Life Museum วัดพระแก้ว ที่ตั้ง : ถนนไตรรัตน์ (ตรงข้ามโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค) ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พิกัด : https://goo.gl/maps/GHft3L4yYcm7ALAv5 เป็นวัดที่มีการค้นพบพระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร) ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ เกิดฟ้าผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายใน ต่อมารักที่เคลือบไว้กะเทาะออก จึงได้พบว่าเป็นพระแก้วมรกต ภายหลังได้มีการอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานคร ชาวเชียงรายจึงได้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ขึ้นแทน เรียกว่า “พระหยกเชียงราย” หรือ “พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล” พระอุโบสถของวัด มีสถาปัตยกรรมแบบเชียงแสน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2433 ภายในประดิษฐานพระประธานของพระอุโบสถ คือ “พระเจ้าล้านทอง” พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปในสกุลช่างศิลปะปาละที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศไทย ภายในบริเวณวัดยังมี “โฮงหลวงแสงแก้ว” เป็นอาคาร 2 ชั้น ทรงล้านนาประยุกต์ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกบไม้สักทั้งภายในและภายนอก สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ เช่น พระพุทธสิหิงค์ (จำลอง) พระเจ้าทันใจ พระโปรดโลก พระพุทธศรีเชียงราย รวมทั้งแสดงศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่ทันสมัย เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. อาข่า ฟาร์มวิลล์ (Akha Farmville) ที่ตั้ง : ริมทางหลวงชนบท ชร. 5047 กิโลเมตรที่ 5+475 (ถนนสายหลักบนดอยช้าง) ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย พิกัด : https://goo.gl/maps/XdSV5MUJjJoDqMzT9 ที่นี่เป็นฟาร์มแกะและร้านอาหาร มีแกะสายพันธุ์คอร์ริเดล (Corriedale) จากนิวซีแลนด์ ประมาณ 40 ตัว ที่ทางฟาร์มจะปล่อยมาเดินโชว์ความน่ารักบนเนินหญ้าสีเขียวที่สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบทิศ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปกับแกะและซื้ออาหารป้อนแกะ (ถาดละ 30 บาท คือ แครอทและอาหารเม็ด) ส่วนอาหารหลักของแกะที่ทางฟาร์มจะต้องให้ประจำอยู่แล้วตามหลักโภชนาการ คือ หญ้าสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น หญ้ารูซี่ หญ้าแพงโกล่า ทางร้านจำหน่ายทั้งอาหารจานเดียว อาหารรับประทานเล่น ขนมเค้ก ชา กาแฟ และเครื่องดื่มต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากขนแกะ เช่น ตุ๊กตาแกะ พวงกุญแจ เป็นต้น เปิดทุกวัน วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 07.30-17.30 น. วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.30-18.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 100 บาท (สามารถนำบัตรไปแลกเครื่องดื่มได้คนละ 1 แก้ว) เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร ไม่เสียค่าเข้าชม การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (เชียงราย-พะเยา) จนถึงอำเภอแม่ลาว และเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 118 (แม่ลาว-แม่สรวย) และก่อนถึงตัวอำเภอแม่สรวย จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาเข้าใช้ทางหลวงชนบท ชร. 3037 ตรงไปจนพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าใช้ทางหลวงชนบท ชร. 5047 และตรงขึ้นดอยไป 5 กิโลเมตร จะพบอาข่า ฟาร์มวิวตั้งอยู่ริมถนนทางขวามือ โทร. 09 3815 0646 จุดชมวิวยอดดอยช้าง ที่ตั้ง : บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย พิกัด : https://goo.gl/maps/R7QSdtGoJNeXz8ZH9 ดอยช้างเป็นภูเขาที่มีความสูง 1,485 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เป็นแหล่งปลูกและผลิตกาแฟชั้นเยี่ยม ตามเส้นทางถนนขึ้นดอยช้าง (ทางหลวงชนบท ชร. 5047) มีแหล่งท่องเที่ยว จุดชมทิวทัศน์ ที่พัก ร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการตลอดเส้นทาง และเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ซึ่งมีจุดกางเต็นท์ให้บริการ

✨แนะนำโปรแกรมเที่ยว 3 วัน 2 คืน✨ อ่านเพิ่มเติม

ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย

ช่วงเดือนสุดท้ายของปี หากหลายคนกำลังมองหาที่เที่ยวในภาคเหนือ บัดดี้ขอแนะนำ ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถชมหมอก ชมดาว พระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้จากบนยอดเขา ลองตามมาอ่านรายละเอียดกันดู ว่าแต่ละที่มีรายละเอียดอะไรบ้าง ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) เป็นหน้าผาสูงตั้งอยู่บนแนวเขาดอยผาหม่น ทอดยาวไปตามชายแดนไทย-ลาว ที่ปลายยอดเขาเป็นแหลมลักษณะคล้ายนิ้วมือชี้ขึ้นไปบนฟ้า 45 องศา จึงเป็นที่มาของชื่อว่า ภูชี้ฟ้า หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้าในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม จะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบริเวณทางขึ้นเขา แต่หากมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะมีเห็นดอกเสี้ยวสีขาวบานบริเวณเชิงเขา ยิ่งในช่วงฤดูหนาว หากเพื่อน ๆ ขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณยอดเขา จะพบกับทะเลหมอกสุดสวย ที่ลอยโอบรอบยอดเขา สวยจนลืมไม่ลงเลยล่ะ เพื่อน ๆ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวกันได้จาก 2 เส้นทางคือ1. จากวนอุทยานภูชี้ฟ้า ห่างจากยอดภูชี้ฟ้าประมาณ 760 เมตร2. จากหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ห่างจากยอดภูชี้ฟ้า ประมาณ 400 เมตร ใกล้กันกับบริเวณภูชี้ฟ้ามีลานกางเต็นท์ค้างคืนได้ เดินทางมาได้ทั้งจากรถยนต์ส่วนตัวโดยใช้ Google Map และบริการขนส่งสาธารณะจากตัวเมืองเชียงราย สายเชียงราย-เทิง-เชียงของ ไปลงที่ อ.เทิง (รถออกทุก ๆ 30 นาที ค่ารถโดยสารประมาณ 33 บาท). วนอุทยานภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย 0 5379 5345 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ว่าการอำเภอเทิง เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 04.30-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/KdCro1stcfFmxUvH8 ภูชี้ดาว อีกหนึ่งภูสวย ที่ตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่ในความดูแลของ อบต.ตำบลปอ อ.เวียงแก่น เป็นภูที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา โดยไม่มีอะไรมาบดบังวิว สามารถมองเห็นยอดดอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแบบไกล ๆ วิวของแม่น้ำโขงและเส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ ในการเดินทางไปจุดชมวิวควรใช้รถโฟร์วีล เนื่องจากทางค่อนข้างชัน แคบและต้องลุยพอสมควร หากใครไม่มีรถหรือไม่สะดวกขับสามารถจ้างรถของชาวบ้านให้ขึ้นไปส่งได้ ค่าบริการไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ถึงจุดจอดรถ เดินต่ออีกไม่เกิน 300 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิว ด้านบนไม่มีที่พักและร้านอาหาร บัดดี้แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มและยาดมไปด้วย นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมคือ สเปรย์หรือถุงเท้ากันทาก เพราะทางค่อนข้างชื้น อาจเจอตัวทากได้. ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 0 5360 2742 องค์การบริหารส่วนตำบลปอ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 05.00-18.00 น.https://maps.app.goo.gl/BfE1QSZhUSnaBiFT7 ภูชี้เดือน ตั้งอยู่บนเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นภูที่สามารถชมวิวทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและตกได้แบบ 360 องศา การขึ้นไปชมวิวที่ยอดภูชี้เดือน ต้องนั่งรถโฟร์วีลของชาวบ้านขึ้นไปประมาณ 15 นาที แล้วเดินเท้าขึ้นไปตามสันเขาประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้ว เพื่อน ๆ สามารถเหมารถได้คันละ 500 บาท นั่งได้ 5 คน แต่หากมีคนเพิ่มคิดราคาเพิ่มคนละ 100 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน ด้านบนของภูชี้เดือนมีลักษณะเป็นยอดดอยยื่นออกมาจากตัวภูเขา เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ทางขวามือและยังมองเห็นผาตั้งที่อยู่ทางซ้ายมือได้จากยอดเขา. บ้านร่มฟ้าหลวง หมู่ 12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 0 5360 2742 องค์การบริหารส่วนตำบลปอ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 05.00-21.00 น.https://maps.app.goo.gl/unb8jnE3LhJyo6qZ9

ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

🌥🌬ลมหนาวเริ่มมาเยือน เลยอยากจะชวนทุกคนเดินทางขึ้นเหนือ แล้วแวะมาจิบชาให้ร่างกายอบอุ่นกัน ที่ “Sawanbondin Tea House & Experience”✨

ร้านชาชื่อเก๋แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ตัวร้านสีขาวขนาดกะทัดรัด ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นแถมยังได้กลิ่นหอมของชาทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ชาที่นี่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้งชามะลิ ตะไคร้ เก๊กฮวย ชาเขียว หรือจะเป็นชาชื่อแปลก ๆ อย่าง ชานมัสการ ชาภาวนา และ “ชาขนมไทย” ที่เราเลือกชิมในครั้งนี้ สิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือความหอมของชา และเมื่อได้ลิ้มรส ก็รู้สึกเหมือนกับกำลังรับประทานขนมไทย ที่ประกอบด้วยกะทิ ใบเตย และกลิ่นอบควันเทียน แต่ส่วนประกอบที่จริงนั้นมีแค่ใบชาอู่หลง ชาเขียว และข้าวคั่ว เท่านั้น เป็นการเบลนด์ชาที่ได้รสชาติแปลกใหม่ ที่อร่อยมากจริง ๆ ไม่เพียงแค่เมนูชาร้อนเท่านั้นยังมีไอศกรีมหลายรสให้ได้เพิ่มความสดชื่น โดยเฉพาะ อัญชันแมคคาเดเมีย ที่เราการันตีว่าอร่อยสุด ๆ ตบท้ายด้วยชาเขียวลาเต้ รสชาตินุ่ม ๆ สักแก้ว ถือเป็นการปิดจบการดื่มชาที่มีความสุขมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกมากมาย หากใครตัดสินใจไม่ได้ เพราะน่ารับประทานไปทุกเมนู สามารถขอคำแนะนำจากพนักงานที่ร้านได้เลย ที่นี่ยังมีน้องแมว ที่รอต้อนรับทุกคนที่มาด้วยนะ เป็นหนึ่งในร้านชาของเชียงรายที่ห้ามพลาดถ้าได้มาเยือน

🌥🌬ลมหนาวเริ่มมาเยือน เลยอยากจะชวนทุกคนเดินทางขึ้นเหนือ แล้วแวะมาจิบชาให้ร่างกายอบอุ่นกัน ที่ “Sawanbondin Tea House & Experience”✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨

สวัสดีทุกคน วันนี้บัดดี้จะมาแนะนำวัดจากหลายจังหวัด ที่มีสีสันสวยโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นทั้งสถานที่ทำบุญและสถานที่ท่องเที่ยว แถมบางวัดยังกลายเป็น Land Mark สำคัญของจังหวัดไปเลยด้วย ลองตามมาอ่านกันดู ว่าวันนี้บัดดี้มีวัดไหนมานำเสนอบ้าง สีขาว 1. วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังของไทย ที่สร้างขึ้นจากปณิธานและแรงศรัทธา ด้วยงานศิลปะงดงามสีขาว ทั้งลวดลายปูนปั้น การประดับกระจกและจิตรกรรรมปูนปั้นหลายจุด แรงบันดาลใจในการสร้างวัดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือการอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ ที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสัมผัสได้ ซึ่งหลายจุดในวัด มีการสร้างเป็นสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา อย่างทางเข้าด้านหน้าจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีสะพานเป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ครึ่งวงกลมเล็กหมายถึงโลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู เปรียบเหมือนกิเลสในใจ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านเข้าไปนั่นเอง ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี นั่นก็คือ “ถ้ำศิลป์วัดร่องขุ่น” เป็นผลงานประติมากรรมของอาจารย์เฉลิมชัย ภายในถ้ำ มีรูปทรงหินงอกหินย้อย พระพุทธรูปทุกขภูมิ ขุมนรกและประตูพระนิพพาน มีเพลงบรรเลงประกอบแสงสีเสียงตลอดเส้นทาง โดยมีค่าเข้าชม 50 บาท/คน มีเวลาประมาณ 10-15 นาที ต่อรอบ รายละเอียด ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.30 น.วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น. วัดร่องขุ่น 0 5367 3579, ททท.สำนักงานเชียงราย 0 5371 7433, ศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย 0 5371 5690https://goo.gl/maps/sQZ7Q2qq9cyRJhs79เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดร่องขุ่น 2. วัดข่อย จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการใช้รูปแบบของยันต์ฉิมพลีมาประกอบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวอาคาร มี 3 ชั้นประกอบด้วยชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ คือพระพุทธเศรษฐีมิ่งมงคล พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ และพระสิวลีมหาลาภชั้นที่ 2 ผนังด้านนอกเป็นลายอักขระยันต์ฉิมพลี มีฉัตรทองเหลืองดุนลาย 9 ยอด 4 ทิศ ด้านในเป็นไม้สักแกะสลักลวดลายยันต์โภคทรัพย์ชั้นที่ 3 เป็นซุ้มเรือนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในบุษบก 5 ยอดลงรักปิดทอง ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ  ถ.คีรีรัถยา ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. 06 1061 7868, 08 9052 7874https://goo.gl/maps/NQSr5AkQEyy9pvQE7เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ-วัดข่อย สีน้ำเงิน 3. วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย วัดแห่งนี้ในอดีตราว ๆ 80-100 ปีก่อน เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ามาอาศัย โดยเฉพาะเสือที่มีอยู่มาก และชอบกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ร่องเสือเต้น ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมา จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดร่องเสือเต้น” เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน  สิ่งก่อสร้างโดดเด่นที่สุดในวัดนี้ คือ วิหารสีน้ำเงิน ที่สร้างโดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2548 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นผู้ประทานให้  ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 08 2026 9038 เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.https://goo.gl/maps/ne1JD21wNp12 4. วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่ “โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน” ซึ่งมีที่มาจาก โบสถ์หลังเก่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการผุกร่อนมาก เนื่องจากวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมกันรื้อโบสถ์หลังเก่าและสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 ประตูโบสถ์ด้านในทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ด้านนอกบานประตูและหน้าต่างมีการลงลายมุข ภาพเทพทวารบาล พื้นผนังด้านในพระอุโบสถมีการประดับภาพลงสีในพื้นเซรามิกเกี่ยวกับวรรณคดีชาดกและพระมหาชนก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว  ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://goo.gl/maps/imZW46D6sfUbZFDN9 สีเหลือง 5. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จ.อยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะลอย เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เลียนแบบโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ด้านหน้าบริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ จะมีมุขเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่าง เป็นลักษณะปลายแหลมแบบโกธิก ด้านหลังพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดม

✨ รวม 10 วัดหลากสีสัน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ✨

เดือนพฤษภาคม บางพื้นที่เริ่มมีฝนพรำ แต่ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็เที่ยวได้ เพื่อน ๆ คนไหนยังไม่ได้วางแผนหรือยังไม่มีไอเดียว่าจะไปไหนดี มาชมแหล่งท่องเที่ยวตามพิกัดนี้กันได้เลย  เทศกาลชมผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว  เมื่อมาเที่ยวจังหวัดสระแก้วช่วงเดือนพฤษภาคม คงไม่มีใครอยากพลาดชมสีสันแห่งปางสีดาอย่างผีเสื้อป่านับร้อยที่กระพือปีกบินอวดโฉมไปทั่วอุทยานฯ โดยจุดที่นิยมไปชมฝูงผีเสื้อนั้นคือบริเวณ ลานน้ำตกปางสีดา และโป่งผีเสื้อ ช่วงที่เหมาะแก่การชมผีเสื้อ คือช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม อย่ารอช้า รีบ ๆ มาชมกันนะ อัตราค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว 0 3724 7948, 08 1862 1511  ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้วhttps://goo.gl/maps/vVYQAna5zocCh9dv5  เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  พักผ่อนหย่อนใจแบบชิล ๆ กันที่เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ของภาคใต้ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และกักเก็บน้ำเพื่อทำการเกษตร รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดอีกด้วย เดิมเขื่อนนี้ชื่อว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” และภายหลังก่อสร้างเสร็จ จึงได้รับพระราชทานชื่อใหม่จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”  กิจกรรมท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา นอนแพกลางน้ำ เล่นน้ำเหนือเขื่อน นั่งเรือหางยาวชมทะเลสาบ ล่องแพไม้ไผ่ชมป่าสีเขียว และสัตว์ป่าหายาก เช่น กระทิง กวาง หมูป่า นกเงือก สมเสร็จ เป็นต้น พายเรือคายักกลางธรรมชาติ เดินป่าชมความงามของถ้ำปะการัง ระยะทางประมาณ 1.5 กม. และล่องแพไม้ไผ่อีก 15 นาที ไปยังถ้ำปะการัง  เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางน้ำ แนะนำให้สวมชูชีพตลอดเวลาขณะลงเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์แค่บางจุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสก (บริการที่พัก) 0 7739 5154-5การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บริการเรือเที่ยวชม) 0 7724 2560-1  หมู่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีhttps://goo.gl/maps/wtvxgpPXZeD2  บ้านสลักคอก  พาเพื่อน ๆ มาล่องเรือชมป่าชายเลน สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงที่ชุมชนหมู่บ้านสลักคอก หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบ มีลักษณะเป็นเวิ้งขนาดใหญ่คล้ายคอกสัตว์ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน รอบ ๆ รายล้อมไปด้วยแนวป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่ทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน และยังเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ  นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือมาด หรือ กอนโดลา  เพื่อชมบรรยากาศของป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเงียบสงบ พร้อมรับประทานอาหารบนเรือแบบชิล ๆ ค่าบริการล่องเรือมาด ลำละ 800 บาท นั่งได้ 4 คน ใช้เวลาล่องเรือราว ๆ 40 นาที นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ พายเรือคายัก : อัตราค่าบริการ 200 บาท / 2 คน / 1 ชั่วโมง พายซับบอร์ด : อัตราค่าบริการ 600 บาท / 1 คน / 2 ชั่วโมง (มีเจ้าหน้าที่ของชมรมคอยติดตาม) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ 08 7748 9497  ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราดhttps://goo.gl/maps/FdCnNVFfniCmEkqB7  น้ำตกขุนกรณ์ จังหวัดเชียงราย  เข้าสู่เดือนฝนพรำ น้ำตกก็เริ่มมีน้ำมากแล้ว ที่น้ำตกขุนกรณ์ เป็นน้ำตกซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดเชียงราย นักท่องเที่ยวที่มาเชียงรายจะนิยมมาที่น้ำตกแห่งนี้เพราะเป็นน้ำตกที่ลำธารใสสะอาด น้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร สองข้างทางเดินเป็นป่าร่มรื่น มีที่พักเหนื่อยเป็นระยะ บางช่วงจะค่อนข้างชันแนะนำให้เดินด้วยความระมัดระวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก 08 3764 6475  ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/fpVvuj6Bce4ZZ7fv5  ฤดูกาลชมวาฬบรูดา ทะเลอ่าวไทย  วาฬบรูดา พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลไทย อาศัยอยู่ทั่วบริเวณน่านน้ำอ่าวไทย มีลักษณะตัวสีเทาเข้มออกดำอมน้ำเงิน รูปร่างเพรียวยาวกว่า 15 เมตร กินปลาเล็กจำนวนมากเป็นอาหาร ในช่วงนี้ เหล่าวาฬบรูดาก็จะออกมาเผยโฉมอันมหึมาให้เราได้ชมเป็นระยะ ๆ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ช่วงเวลาที่พบบ่อยคือช่วงเดือนเมษายน – กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลากะตักและกุ้งเคยอุดมสมบูรณ์ และเป็นอาหารมื้อใหญ่ของเจ้าวาฬบรูดา กิจกรรมในการไปชมวาฬบรูดานั้น เพื่อน ๆ จะต้องนั่งเรือออกไปกลางทะเล ในบริเวณที่มีวาฬบรูดากำลังหม่ำปลาน้อย ๆ กันอย่างอิ่มอกอิ่มใจ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่มีมรสุม เป็นช่วงที่ไม่เหมาะแก่การออกไปล่องเรือกลางทะเล ดังนั้น หากเพื่อน ๆ อยากไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและศูนย์นำเที่ยวชมวาฬบรูดาก่อน พิกัดจุดล่องเรือทะเลอ่าวไทยชมวาฬบรูดา ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 08 1488 8618คลองประมง จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 09 8589 2550 (ร้านครัวบ้านประมง), 09 8795 4563 (ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล)บ้านบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0 3258 1233, 08 9796 5506, 08 2499 9993 (บางตะบูนเบย์)ชมรมวาฬบรูด้าแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โทร. 08 1865 4939 

✨ ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top