ที่เที่ยวภาคอิสาน

นาคกี้ ไอคอนสุดน่ารัก จังหวัดบึงกาฬ

“นาคกี้” คือผลงานสร้างสรรค์ที่ถือกำเนิดจากแรงศรัทธาต่อพญานาค ผสานกับแนวคิดร่วมสมัย ถูกออกแบบให้เป็นกระปุกออมสินพญานาคน้อย ที่เข้าถึงคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพื่อส่งเสริมวินัยการออมและสร้างรายได้เพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชน…ขับเคลื่อนสู่ Soft Power ของบึงกาฬ และเป็นเครื่องมือพัฒนาเด็ก เปลี่ยนกำลังเล็กให้มีพลังใหญ่ทั้งชุมชน เรื่องราวของ นาคกี้บึงกาฬ เริ่มต้นจากการที่วัดรับเด็ก ๆ จบ ป.6 มาบวชเรียน นักธรรมบาลี หรือบางคนส่งเรียนจนจบปริญญาตรี และในขณะเดียวกันเป็นเด็กกลุ่มเปราะบาง เมื่อจำนวนของเด็ก ๆ เริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 20 ชีวิต พระมหาศรายุทธ อคฺคธมฺโม พระนักพัฒนา เจ้าอาวาสวัดศรีสามัคคีธรรม ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ จึงริเริ่มแนวคิดช่วยชุมชนในการเลี้ยงเด็ก ๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของชุมชน ในเรื่องของ ค่าอาหาร ค่าเทอม โดยใช้องค์ความรู้เดิมของพระอาจารย์ในการออกแบบและทำ “กระปุกออมสินสามเณร” แทนซองผ้าป่า เพื่อให้ชาวบ้านร่วมออมเงินสนับสนุนเด็ก ๆ ในปี พ.ศ. 2565 “พญานาค” ได้รับการประกาศให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติในประเภทสัตว์ในตำนาน สะท้อนถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย ซึ่งได้รับการต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของประเทศอย่างกว้างขวาง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ทรงพลังของไทย ทำให้ต่อมา “กระปุกออมสินสามเณร” ได้พัฒนาแนวคิดเป็น “นาคกี้” โดยอ้างอิงตอนหนึ่งในพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าปราบพญานาคให้กลายเป็นตัวเล็กขดอยู่ในบาตร เพื่อสื่อถึงพลังศรัทธาที่แปรเปลี่ยนเป็นพลังสร้างสรรค์ ในกระบวนการสร้างสรรค์ “นาคกี้” เด็ก ๆ ที่บวชเรียนภาคฤดูร้อน ณ วัดศรีสามัคคีธรรม ได้ร่วมกันแสดงจินตนาการผ่านการวาดภาพพญานาคในแบบของตนเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแนวคิด โดยผลงานของเด็ก ๆ จะได้รับการนำมาต่อยอดและออกแบบร่วมกับอาจารย์ขาบ–สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ระดับแนวหน้าของไทย จนกลายเป็น “นาคกี้” พญานาคน้อยร่วมสมัย ที่มีรูปลักษณ์น่ารัก ใช้โทนสีพาสเทล ได้แก่ สีม่วง (สีประจำจังหวัดบึงกาฬ), สีเขียว (แทนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ), และสีขาว (แทนศาสนา) นาคกี้เปิดตัวครั้งแรกในงานสถาปนาจังหวัดบึงกาฬ ผ่านนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมสูติบัตรที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามรับรอง ได้รับการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งปูนปั้น เซรามิก ยางพารา และของฝาก จนกลายเป็น Soft Power และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบึงกาฬ เป็น “ของขวัญริมโขง” ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างกลมกลืน

นาคกี้ ไอคอนสุดน่ารัก จังหวัดบึงกาฬ อ่านเพิ่มเติม

ศรัทธาแห่งบึงโขงหลง : เกาะดอนโพธิ์-เกาะดอนแก้ว จังหวัดบึงกาฬ

วันนี้บัดดี้ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังแห่งความเชื่อและความสวยงามทางธรรมชาติ หากใครสนใจสถานที่ที่อยู่ในเรื่องเล่าจากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น ที่ถูกบ่มด้วยควันไฟแห่งศรัทธาและจุดประกายด้วยความเชื่อจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ลองตามมาอ่านกันได้เลย 🙏 บึงโขงหลง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ มองจากด้านบนจะมีลักษณะรูปทรงคล้ายเขาวัวแคบ ๆ ต้นน้ำของบึงโขงหลง เกิดจากภูวัวและภูลังกาไหลมารวมกันลง ถือเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของโลก อันดับที่ 1,098 (Wetland of International Importance) ในปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน บึงโขงหลงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายมู โดยเฉพาะผู้ที่มีความศรัทธาต่อปู่อือลือ พญานาคผู้ทรงฤทธิ์ ที่เชื่อว่าสามารถดลบันดาลความสำเร็จในด้านต่าง ๆ และโชคลาภแก่ผู้ที่มากราบไหว้ได้ จุดขอพรปู่อือลือ คือ เกาะดอนโพธิ์และเกาะดอนแก้ว เพื่อน ๆ สามารถไปได้ด้วยการนั่งเรือ ทั้งจากผู้ประกอบการรอบ ๆ บึงโขงหลงที่มีอยู่หลายเจ้า หรือแม้แต่ที่พักหลายที่ก็มีบริการนั่งเรือนำเที่ยวไปไหว้ขอพรปู่อือลือเช่นกัน เกาะดอนโพธิ์ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กลางสายน้ำ เป็นที่ตั้งของศาลพ่อปู่อือลือขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมดวงด้านการเงิน การค้าขาย การเดินทางและโชคลาภ บริเวณนี้มีพราหมณ์นำสวด หากใครสนใจสามารถแจ้งได้เลย ควรเตรียมของไหว้บูชา เช่น บายศรีดอกไม้ ธูป เทียน มาให้พร้อม นอกจากเกาะดอนโพธิ์แล้ว เพื่อน ๆ ก็สามารถไปไหว้ขอพรได้ที่เกาะดอนแก้วเช่นกัน ตั้งอยู่ห่างจากเกาะดอนแก้วเพียง 3-4 นาที บนเกาะมีรูปเคารพของปู่อือลือนาคราชให้กราบไหว้เช่นกัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม☎️ 09 8852 4195🌐 Facebook: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ศรัทธาแห่งบึงโขงหลง : เกาะดอนโพธิ์-เกาะดอนแก้ว จังหวัดบึงกาฬ อ่านเพิ่มเติม

ปักหมุดเที่ยวรอบ ‘เขาใหญ่’ จังหวัดนครราชสีมา

Green Season นี้ บัดดี้ชวนเพื่อน ๆ มาเที่ยว มาสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด ปล่อยกายปล่อยใจไปกับบรรยากาศสุดชิลกันที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” อุทยานแห่งชาติแห่งแรกและเป็น “อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน” หนึ่งในมรดกโลกของประเทศไทยที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก เพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดฮิตอย่างการพายคายักตามลำคลองน้ำใสที่มองเห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมา และปิดท้ายด้วยการพาเพื่อน ๆ มาลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ ทั้งร้านที่เสิร์ฟเมนูเพื่อสุขภาพอย่างผักสด ๆ จากสวนผักออร์แกนิก และร้านที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเที่ยวด้วยกันเลย! 🌿💚 ปักหมุด Khao Yai All Around📌 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่– จุดชมวิว กม.30– อ่างเก็บน้ำสายศร– น้ำตกเหวสุวัตร– น้ำตกเหวนรก– หอดูสัตว์หนองผักชี📌 บ่อน้ำผุดธรรมชาติบ้านท่าช้าง📌 ร้านอาหารแนะนำ– สวนผักลุงฤทธิ์– ร้านเป็นลาว มาเริ่มต้นกันที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” หนึ่งในมรดกโลก UNESCO และได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 (Thailand Tourism Awards) รางวัล Gold Awards ประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ปี 2566 จากการท่องเที่ยวประเทศไทย อุทยานมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 4 จังหวัด คือ จังหวัดนครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก และสระบุรี ภายในอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ซึ่งถ้าใครชอบเที่ยวสายธรรมชาติ บัดดี้บอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่แล้วเพื่อน ๆ จะประทับใจ และถ้าอยากได้ฟิลธรรมชาติแบบเต็ม ๆ บัดดี้แนะนำให้นอนค้างสัก 1-2 คืน ไม่ว่าจะลองมากางเต็นท์หรือเลือกพักบ้านพักอุทยานฯ พอตื่นเช้ามาก็จะได้สัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย ฟังเสียงธรรมชาติ รับรองจะฟินไปอีกแบบ 🌿 นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอีกมากมาย ทั้งดูนก ดูดาว เดินป่าศึกษาธรรมชาติ หรือกิจกรรมส่องสัตว์ยามค่ำคืนเพื่อสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ก็ถือเป็นไฮไลต์อีกอย่างของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อน ๆ สามารถแพลนทริปและเลือกที่เที่ยวที่น่าสนใจตามไลฟสไตล์ของเพื่อน ๆ ได้เลย ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท🏡 ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก จุดกางเต็นท์ เต็นท์และเครื่องนอนให้เช่า มีร้านอาหาร และร้านค้าสวัสดิการให้บริการ☎️ สอบถามข้อมูล ที่ทำการอุทยานฯ โทร. 08 6092 6527 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร. 08 6092 6529🌐 เว็บไซต์ www.khaoyainationalpark.com จุดชมวิว กม.30 จุดเช็กอินยอดฮิตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ได้แบบพานอรามา ถ้าโชคดีก็อาจได้เห็นทะเลหมอกลอยอยู่ตามแนวเขาสลับซับซ้อนในยามเช้า และที่นี้ยังมีแท่นหินสลักสัญลักษณ์ผืนป่ามรดกโลกตั้งอยู่ด้วย 🌿 อ่างเก็บน้ำสายศร เป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้อุปโภคและบริโภคภายในอุทยานฯ ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่า แต่เดิมเรียกว่าอ่างเก็บน้ำมอสิงโต ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอ่างเก็บน้ำสายศร เพื่อเป็นเกียรติแก่นายบุญเรือง สายศร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่คนแรก ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกจัดตั้งอุทยานฯ และดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ที่นี่มีมุมถ่ายภาพสวย ๆ เต็มไปหมด และยังเป็นสถานที่ปิกนิกยามแดดร่มลมตกที่น่านั่งพักผ่อนอีกด้วย 🌿 น้ำตกเหวสุวัตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลตกลงมาจากหน้าผาสูงราว 20 เมตร บริเวณด้านล่างน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร มีจุดชมน้ำตกจากระยะไกลในมุมสูง จึงมองเห็นความสวยงามของตัวน้ำตกได้ทั้งหมด 🌿 น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น ความสูงของน้ำตกประมาณ 150 เมตร ลักษณะการไหลตกของน้ำจากหน้าผาเป็นแนวดิ่งลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง สายน้ำแรงและอันตรายมาก ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะฤดูฝน แต่แค่มาชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปเช็กอินก็ฟินอิ่มใจสุด ๆ แล้ว 🌿 หอดูสัตว์หนองผักชี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินอยู่ริมถนนธนะรัชต์ กิโลเมตรที่ 33 และต้องเดินเท้าตัดเข้าสู่ป่าดิบแล้งที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นเรียงรายอยู่ทั่วไป ผ่านกลุ่มต้นยางเสียน ต้นไทรใหญ่ รังนกเงือก ออกสู่ทุ่งหญ้า ผ่านโป่งสัตว์ริมหนองน้ำจนถึงหอดูสัตว์หนองผักชี บนหอดูสัตว์หนองผักชีจะมองเห็นทัศนียภาพของผืนป่าและทุ่งหญ้าได้รอบทิศ รวมทั้งหนองผักชีซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของสัตว์ป่าในบริเวณนั้น จากหอดูสัตว์เดินตามถนนลูกรังออกสู่ถนนธนะรัชต์ กิโลเมตรที่ 35 รวมระยะทางเดินประมาณ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว 2-3 ชั่วโมง 🌿 น้ำผุดธรรมชาติบ้านท่าช้าง แหล่งท่องเที่ยวตามกระแสโซเชียลที่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน ด้วยความที่น้ำใสบวกกับภาพบรรยากาศร่มรื่น และมีกิจกรรมคูล ๆ อย่างพายเรือคายักล่องตามลำคลอง จึงทำให้ที่นี่กลายมาเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของชาวโซเชียล 🌿 น้ำผุดเป็นตาน้ำธรรมชาติเกิดจากน้ำฝนที่ตกลงมาไหลผ่านชั้นหินลงไปยังชั้นใต้ดิน และต่อมาก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาเป็นตาน้ำ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี น้ำที่นี่สีฟ้าอมเขียวคล้ายกับสระมรกตที่กระบี่ น้ำมีคุณสมบัติความเป็นด่าง เพื่อน ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณโซนที่จัดให้ลงเล่นน้ำ ยกเว้นบริเวณตาน้ำ หากใครต้องการพายเรือคายักไปตามสายน้ำลำตะคองก็สามารถเช่าเรือคายักได้บริเวณลานจอดรถ ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.💸 ค่าบริการพายคายัก– 30 นาที คนละ 100 บาท– 1 ชั่วโมง คนละ 150 บาท ร้านเป็นลาว ร้านอาหารอีสานรสแซ่บ ตั้งอยู่ก่อนถึงทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ถนนธนะรัชต์) ประมาณ 700 เมตร ตกแต่งร้านด้วยเครื่องจักรสานนานาชนิดอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์อีสาน เสิร์ฟความอร่อยแบบอีสานแท้ ๆ พร้อมวัตถุดิบคุณภาพดี โดยคัดสรรมาจากเกษตรกรจากชุมชน การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน

ปักหมุดเที่ยวรอบ ‘เขาใหญ่’ จังหวัดนครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จ.นครราชสีมา

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาสำรวจพื้นที่สงวนชีวมณฑล (Sakaerat biosphere reserve) แห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจาก UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2519 ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้อยู่ใต้การดูแลของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอนำเสนอความสวยงามและความหลากหลายทางชีววิทยาของสถาบันวิจัยแห่งนี้ ที่เหมาะกับทั้งผู้ชอบธรรมชาติ ผู้ต้องการหาความรู้ใหม่ ๆ ผู้ชอบเดินป่า หรือแม้แต่ผู้ที่อยากพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศที่เงียบสงบ เอาล่ะ…ตามบัดดี้มาสำรวจสถาบันวิจัยแห่งนี้ได้เลย สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 ปกคลุมด้วยป่าไม้สำคัญ 2 ชนิด คือ ป่าดิบแล้ง (Dry Evergreen forest) และป่าเต็งรัง (Dry Dipterocarp forest) มีพันธุ์ไม้และสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและห้องปฏิบัติการธรรมชาติสำหรับนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงนักวิจัยจากหลายประเทศ ไฮไลต์แรกของที่นี่ คือ กระรอกขาว ที่จะอยู่บริเวณศูนย์อำนวยการของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช มีครอบครัวหมูป่าวิ่งไปมาดูน่ารักมาก ๆ กิจกรรมต่อมาที่บัดดี้อยากนำเสนอ คือ การนั่งรถรางชมธรรมชาติ ตลอดเส้นทาง 2.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จะอธิบายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนใจ แถมยังพาไปดูต้นตะเคียนหินอายุ 557 ปี ที่มีอายุเท่ากับ จ.นครราชสีมา รวมไปถึงต้นน้ำของป่าบริเวณนี้ และไฮไลต์ของเส้นทางนี้ การดูนกประจำชาติไทย “ไก่ฟ้าพญาลอ” การจะชมไก่ฟ้าพญาลอ ต้องมาก่อนเวลา 16.00 น. เมื่อมาถึงจุดชมไก่ฟ้าพญาลอ เจ้าหน้าที่จะเลียนแบบเสียงของไก่ฟ้าพญาลอพร้อมกับชี้ให้ดูจุดที่พบอยู่เป็นประจำ บัดดี้ยืน ๆ นั่ง ๆ อยู่ไม่นานเจ้าไก่ฟ้าพญาลอก็โผล่ออกมาโชว์ตัวให้ดูแล้วล่ะ มื้อเย็นของที่นี่ จะบริการเป็นแบบบุฟเฟต์ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าอาหารที่นี่อร่อย ซึ่งบัดดี้ต้องขอคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริง หลังจากกินแล้ว เพื่อน ๆ ต้องล้างจานเอง ซึ่งทางสถานีวิจัยฯ ก็เตรียมพื้นที่ล้างจานไว้ให้แล้วเป็นอย่างดี กิจกรรมยามฟ้ามืดของที่นี่คือการดูดาว เจ้าหน้าที่จะพาเพื่อน ๆ เดินไปตามเส้นทางประมาณ 7-10 นาทีจนถึงลานกว้าง เพื่อน ๆ สามารถชมกับดักแมลงที่ทางเจ้าหน้าที่นำผ้าขาวมาขึงกับไม้แล้วส่องไฟเพื่อล่อแมลงได้อย่างใกล้ชิด หากหิวเพื่อน ๆ ก็สามารถปิ้งข้าวโพด ปิ้งข้าวจี่ และข้าวเกรียบว่าวกินได้ เมื่อถึงเวลา ลานกว้างจะถูกปิดไฟจนมืดสนิท เมื่อเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าจะเห็นดาวเต็มท้องฟ้า ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะชี้ให้ดูกลุ่มดาวที่เห็นชัดเจนในตอนนั้น หากใครมาในช่วงเดือนตุลาคม จะเห็นทางช้างเผือกด้วยนะ บัดดี้มีนัดทำกิจกรรมต่อไปในเช้าวันรุ่งขึ้น นั่นก็คือ “การส่องนก” เจ้าหน้าที่จะแจกกล้องส่องทางไกลและพจนานุกรมนก ตลอดเส้นทาง เจ้าหน้าที่จะชี้ให้ดูตลอดว่านกอยู่ตรงไหน นกพันธุ์อะไร รู้ตัวอีกทีเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว ใครอยากขมวดปมความรู้และความเป็นมาของสถานีวิจัยฯ สามารถเดินขึ้นไปที่ชั่น 2 ของศูนย์อำนวยการได้ จะมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ สถานที่รวบรวมตัวอย่างพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์มากมายในบริเวณนี้เอาไว้ ถือเป็นการปิดจบและสรุปความรู้ที่บัดดี้ได้รับมาตั้งแต่มาเยือนที่แห่งนี้ได้ดีเลยทีเดียว หากใครยังคิดว่าไม่จุใจ สามารถสอบถามไปยังสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชได้ เพราะที่นี่ยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่มีให้เลือกหลายเส้นทางตั้งแต่เส้นทางที่ใช้เวลาเดิน 1 ชั่วโมงครึ่งไปจนถึง 3 ชั่วโมง มีที่พักรับรองหลายห้อง หากได้มาสักครั้งรับรองเลยว่าต้องได้รับประสบการณ์ดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน 📌 สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช 1 หมู่ 9 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. / เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00 น.☎️ 0 4476 0110-2, 09 8219 5570📱 www.tistr.or.th/sakaerat📱 สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช📍 https://maps.app.goo.gl/fJ1drrYB78XFKbaJ9

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จ.นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

เที่ยว ชม ชิม ของดีถิ่นอีสาน 3 วัน 2 คืน ที่ ขอนแก่น

วันนี้บัดดี้มีเส้นทางท่องเที่ยวที่จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว ชม ชิม ของดีถิ่นอีสาน 3 วัน 2 คืน ที่ จ.ขอนแก่น มหานครแห่งภาคอีสาน ที่มีทั้งการกินของอร่อย การชมชุมชนสุดน่ารัก การชมแลนด์มาร์กสวย ๆ และการท่องแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ หากใครกำลังวางแผนเที่ยววันหยุดอยู่ ลองพิจารณาเส้นทางท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น ที่บัดดี้นำเสนอไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกดู รับรองเลยว่าเที่ยวตามได้ไม่ผิดหวัง ✨ 📌 Day 11. สวนสัตว์ขอนแก่น (TTA)2. มีกินฟาร์ม (Mekin Farm)3. พระมหาธาตุแก่นนคร 📌 Day 21. ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ (TTA)2. โจ๊กจั๊บเส้น 📌 Day 31. บ้านเฮง2. ชุมชนสาวะถี

เที่ยว ชม ชิม ของดีถิ่นอีสาน 3 วัน 2 คืน ที่ ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม

เปิดแล้ว!! เทศกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ

เทศกาลท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าฝน ที่นักท่องเที่ยวทุกคนรอคอย ดอกกระเจียวสีชมพูสีขาวสวย ออกดอกบานสะพรั่งท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม และหากโชคดีในช่วงเช้าจะมีสายหมอกแวะมาทักทายให้ร่างกายได้สัมผัสความหนาวเบา ๆ เพื่อเป็นการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ บัดดี้เลยอยากจะขอความร่วมมือเพื่อน ๆ เดินชมดอกกระเจียวในบริเวณทางเดินที่อนุญาตเท่านั้น จะได้มีดอกกระเจียวสวย ๆ หญ้าเขียว ๆ ให้เพื่อน ๆ ชมไปได้นาน ๆ สามารถท่องเที่ยวชมดอกกระเจียวได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 โดยคาดว่าจะบานเต็มทุ่งกลางเดือนมิถุนายน 📌 อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/Ve4fF7pwCsJ6TYW49 📌 อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/Ve4fF7pwCsJ6TYW49

เปิดแล้ว!! เทศกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว Art Toy Journey ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจก Art Toy ฟรี 300 ตัว!!

📣 สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวในจังหวัดเมืองน่าเที่ยวของ “ภาคอีสาน“ ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568 นี้ รับฟรี! Art Toy Journey จำกัด 300 สิทธิ์เท่านั้น สำหรับ 2 คนแรกที่ทำตามกติกาถูกต้อง ครบถ้วน รับ Voucher ที่พักจังหวัดนครพนมเพิ่มไปเลย! บัดดี้ขอชวนมาร่วมสนุกกับกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ Art Toy Journey “เด็กหญิงหูยาว (Huuyaow)” และ “เวิลด์บอย (World Boy)” จาก ททท. 🎉 นอกจากนี้ สำหรับ 2 ท่านแรก ที่เข้าร่วมกิจกรรมและทำตามกติกาถูกต้อง รับไปเลย Voucher ที่พักในตัวเมืองนครพนม ท่านละ 1 ใบ 📌 กติกาการร่วมสนุก 1. เข้าพักกับโรงแรม/ที่พักต่าง ๆ ในจังหวัดเมืองน่าเที่ยวของภาคอีสาน (จังหวัดชัยภูมิ นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี) โดยต้องเป็นโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) กับ ททท. เท่านั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อที่พักได้ที่ https://taturl.org/S1cdt2. มีค่าใช้จ่ายการเข้าพักกับโรงแรม/ที่พักต่าง ๆ ในจังหวัดเมืองน่าเที่ยวตามที่ระบุในข้อที่ 1 มูลค่ามากกว่า 3,500 บาท/ใบเสร็จ3. กดไลค์และกดติดตาม Facebook: 1672 Travel buddy และแชร์โพสต์กิจกรรมเป็นสาธารณะ4. สแกน QR Code ที่อยู่ใน Banner เพื่อลงทะเบียนรับ Art Toy Journey หรือคลิกลิงก์ https://eform.tourismthailand.org/public/arttoyjourney จากนั้นเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ-สกุล/เบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่ปัจจุบัน (สถานที่จัดส่ง Art Toy Journey)/ภูมิภาคที่เข้าร่วมกิจกรรม/จังหวัดที่เข้าพักในภูมิภาคนั้น/ชื่อโรงแรมที่พัก/วันที่และจำนวนวันเข้าพัก และแนบหลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พักต่าง ๆ ได้แก่ โฟลิโอโรงแรม (Folio) หรือ ใบเสร็จ ลงในช่องที่กำหนดให้5. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียงภูมิภาคละ 1 ตัว/ท่าน/ครั้ง/สิทธิ์/Folio หรือใบเสร็จ เท่านั้น6. หลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พักต่าง ๆ ในเมืองน่าเที่ยว 1 ใบ สามารถนำมาลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียง 1 ท่านเท่านั้น ไม่สามารถให้ผู้อื่นนำมาใช้ซ้ำได้ แม้ว่าจะมีชื่อเข้าพักในห้องเดียวกันก็ตาม7. ในกรณีที่นักท่องเที่ยวเป็นคนไทย จะต้องเข้าพักกับโรงแรม/ที่พักในเมืองน่าเที่ยว ที่ไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบัน/สถานที่จัดส่ง Art Toy Journey8. ททท. ขอสงวนสิทธิ์ในการสุ่มแจก Art Toy Journey โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่สามารถเลือก Art Toy ได้ และไม่สามารถนำ Art Toy มาแลกหรือนำมาเปลี่ยนแปลงได้9. ททท. ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของกิจกรรมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 📅 ระยะเวลาร่วมสนุกกับกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ที่ผ่านมาและในอนาคต ททท. จัดกิจกรรมแบ่งเป็นช่วงละ 1 ภูมิภาค รวม 5 ภูมิภาค ได้แก่– ภาคตะวันออก: ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 ✅ (จบแล้ว)– ภาคกลาง: ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2568 ✅ (จบแล้ว)– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน): ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568– ภาคเหนือ: ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 15 กันยายน 2568 🔜– ภาคใต้: ระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2568 🔜 👉 โดยขอสงวนสิทธิ์ในการแจก Art Toy Journey ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมภูมิภาคละไม่เกิน 300

เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว Art Toy Journey ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจก Art Toy ฟรี 300 ตัว!! อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวสกลนคร 3 วัน 2 คืน ไปกับน้อง Worldboy และน้อง Huuyaow

หลังจากที่น้อง HUUYAOW และ WorldBoy พาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวภาคอื่นมาแล้ว วันนี้ถึงคิวของ ‘ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ’ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ภาคอีสาน นั่นเอง ซึ่งรอบนี้น้อง ๆ จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวจังหวัดสกลนคร และเพื่อให้เข้ากับบรรยายกาศความเป็นสกลนคร น้องทั้งสองมาในชุดสีคราม ซึ่งเป็นการย้อมผ้าด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพิ่มความสวยงามด้วยลวดลาย “ผ้าทอลายต้นสน” ลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นภาคอีสานเหนือ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพืชพรรณในท้องถิ่น กลายเป็นความสวยงามและน่ารักที่ลงตัว แบบที่เห็นก็รู้เลยว่า นี่แหละ Art Toy ประจำจังหวัดสกลนคร ✨ นอกจากจะโดดเด่นเรื่องผ้าครามแล้ว สกลนครยังเต็มไปด้วยที่เที่ยว ที่กิน จุดถ่ายรูปเช็กอิน ฟิน ๆ หลายจุด จนเที่ยววันเดียวไม่หมด บัดดี้เลยรวบรวมสถานที่ที่น่าสนใจ จัดเต็มแบบ 3 วัน 2 คืน ให้เพื่อน ๆ ได้มาสัมผัสความเป็นสกลนครที่น่ารัก จนเพื่อน ๆ จะหลงรักจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้แน่นอน 💚 Day 1 เริ่มต้นมื้อเช้าด้วยร้านอาหารเช้าชื่อดัง เลิศรสไข่กระทะ ที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้ม ขนมปัง ไข่กระทะ และอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม เช่น ก๋วยจั๊บญวน กาแฟเวียดนาม ฯลฯ 📌 620, 2 ถนนสุขเกษม ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/HHzoKFGD8Dy1ZaAo7⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-13.00 น.☎️ 0 4271 3949 อิ่มท้องแล้วต้องอิ่มใจ บัดดี้เลยพาเพื่อน ๆ ไปต่อกันที่ วัดถ้ำผาแด่น วัดสวยที่ตั้งอยู่บนเขา ภายในบริเวณวัดร่มรื่น ประดิษฐานพญานาคสีทองสวยให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้สักการะ 📌 2339 ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/Mcqh1tv5MnZq62BX6⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.☎️ 08 3626 3353 แวะรับประทานอาหารกลางวันสุดอร่อย ณ ร้านฟาร์มฮัก ที่มีทั้งอาหารอีสาน อาหารไทย ให้เลือกรับประทาน และมีน้องแกะสุดน่ารักรอต้อนรับทุกคนที่มาเยือน 📌 263 หมู่ 10 ถ.สกลนคร-นาแก ตำบลโนนหอม อำเภอเมืองสกลนคร จ.สกลนคร: https://maps.app.goo.gl/FLEPpqbSG1dJEopu7⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.☎️ 09 8929 3565 มาสกลนครทั้งที ต้องเรียนรู้เรื่องการทำผ้าย้อมครามแบบรู้ลึกและรู้จริง ณ สวนแมน ที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าย้อมคราม ตั้งแต่การปลูกคราม การย้อมคราม ตลอดจนการทอผ้า ที่ทุกขั้นตอนล้วนปราศจากสารเคมี และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม 📌 ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/LWXPLpWu1BtR2qKRA⏰ เปิดให้บริการ วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-16.30 น.☎️ 08 1055 6301 Day 2 ปากหม้อปารีส ร้านปากหม้อเก่าแก่ชื่อเก๋ ที่อร่อยและทานง่าย มีเมนูปากหม้อหลากหลายแบบให้เลือก เพื่อน ๆ สามารถไปลิ้มลองรสชาติและหาคำตอบที่มาของชื่อร้านกันได้ 📌 1588/5 ถนนเปรมปรีดา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/w1ArNvNiFngG5zDK8⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.30-18.30 น. (หยุดทุกวันพุธ)☎️ 0 4271 3796 ออกไปชมธรรมชาติ เรียนรู้การย้อมผ้าจากวัตถุดิบที่มีรอบตัว และรับประทานเมนูพื้นบ้านสุดอร่อย ณ ผ้าย้อมมูลควายบ้านนาเชือก ที่ไม่น่าเชื่อว่ามูลควายจะนำมาย้อมผ้าจนกลายเป็นมูลค่าได้ 📌 4 บ้านนาเชือก ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/kf2AYUoGfU9iJJjy7⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น.☎️ 08 7222 5256 สักการะพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรุป หลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร 📌 1255 ตำบลพระธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร: https://maps.app.goo.gl/3GNjnyA7xSGhS9Kb7⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-22.00 น.☎️ 08 9941 3972 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ถนนบริเวณหน้าวัด จะแปรเปลี่ยนเป็น ถนนคนเดินผ้าคราม มีสินค้าที่ทำจากผ้าครามมาจำหน่ายในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อมาแต่งตัวเหมือนน้อง ๆ Huuyaow และ WorldBoy ได้ 📌 ถนนเรืองสวัสดิ์ ตำบลธาตุเชิงชุม บริเวณหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม: https://maps.app.goo.gl/9G77sa82xKQpMFSu9⏰ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-22.00 น. Day 3 วันสุดท้าย บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว ชุมชนท่าแร่ ชุมชนชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในชุมชนยังคงมีอาคารบ้านเรือนเก่า ๆ สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมเวียดนามที่สวยงามเรียงรายอยู่สองข้างทางถนนสายหลักของหมู่บ้าน เช่น คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ที่ปัจจุบันได้รีโนเวทเป็นคาเฟ่ @UDD Udomdetwat Café and Bistro

เที่ยวสกลนคร 3 วัน 2 คืน ไปกับน้อง Worldboy และน้อง Huuyaow อ่านเพิ่มเติม

ตามรอยบัดดี้ เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน

วันนี้บัดดี้ขอแชร์ไอเดียเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช 2 วัน 1 คืน กับเส้นทางท่องเที่ยวที่ชวนทุกคนให้ไปสัมผัสกับความโดดเด่นและความหลากหลายทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และอาหาร มาลองรู้จักกับโคราชตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบัน ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวนี้ดู รับรองว่าจะรู้จักกับโคราชมากขึ้นแน่นอน 📌 วันที่ 1– พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน (Thailand Tourism Awards)– อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี– วัดศาลาลอย– ปราสาทพนมวัน 📌 วันที่ 2– อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย– ไทรงาม

ตามรอยบัดดี้ เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราช เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นและมีความหลากหลายทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและอาหาร บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ย้อนไปรู้จักกับโคราชตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบัน กับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว แบบ 2 วัน 1 คืน ที่เที่ยวตามแล้วบอกเลยว่าจะรู้จักกับโคราชมากขึ้นแน่นอน 1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ บ้านโกรกเดือนห้า ตั้งอยู่บ้านโกรกเดือนห้า ถนนมิตรภาพ-หนองปลิง ตำบลสุรนารี เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศไทยและหนึ่งในเจ็ดแห่งของโลก ที่แสดงพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ อายุประมาณ 800,000–320 ล้านปี เป็นแหล่งเรียนรู้ของการเริ่มต้น Korat UNESCO Global Geopark ซึ่งคณะกรรมการบริหารยูเนสโก ประชุมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีวาระการพิจารณาเรื่องการรับรองจีโอพาร์คทั้ง 18 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งโคราชจีโอพาร์ค เป็นจีโอพาร์คโลกยูเนสโก หรือ UNESCO Global Geopark ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับการกำเนิดโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และไม้กลายเป็นหิน และยังมีพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ 8 สกุล จาก 42 สกุล ที่พบทั่วโลก ทั้งช้างสี่งา ช้างงาจอบ ช้างงาเสียม (อายุประมาณ 16-5 ล้านปีก่อน) รวมทั้งฟอสซิลสัตว์นานาชนิด เช่น เต่ายักษ์ ตะโขง เอป (ลิงไม่มีหางที่มีสายวิวัฒนาการใกล้เคียงกับมนุษย์) นอกจากนี้ยังมีสวนไม้กลายเป็นหินด้านนอกอาคารให้เดินชมอีกด้วย 📌 184 หมู่ 7 ถนนมิตรภาพ – หนองปลิง บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา: https://maps.app.goo.gl/fetPko99CWrbpDm67⏰ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 15.30 น.☎️ 0 4437 0739-40💸 อัตราค่าบริการในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์– นักเรียนอนุบาล-ปวช. 20 บาท– นักศึกษา ปวส.-ปริญญาตรี 30 บาท– ผู้ใหญ่ 50 บาท– เด็กต่างชาติ (Youth) 50 บาท– ชาวต่างชาติ (Foreigner) 120 บาท 2. อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวีรกรรมอันกล้าหาญของ “ย่าโม” อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนฐานสูง เหนือขึ้นไปเป็นประติมากรรมย่าโมในท่ายืน แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน มือขวาถือดาบ ปลายจรดลงพื้น หล่อด้วยทองแดงรมดำ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช และกวาดต้อนผู้คนรวมถึงคุณหญิงโมไปด้วย คุณหญิงโมได้คิดอุบายหาทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยถ่วงเวลารอให้กำลังมาสมทบ จากนั้นจึงได้ช่วยกันต่อสู้จนกองทัพแตกพ่ายและเลิกทัพกลับเวียงจันทน์ในที่สุด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเป็นที่ตั้งของประตูชุมพล ซึ่งเป็นประตูเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก มีลักษณะเป็นประตูทรงไทย ศิลปะอยุธยา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา เดิมประตูเมืองมีทั้งหมด 4 ประตู แต่ปัจจุบันเหลือประตูชุมพลเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ชาวโคราชเชื่อว่า หากลอดประตูชุมพลแล้วจะโชคดี ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/R56U4K1DhG9fgZFo7 3. วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2370 โดยท้าวสุรนารีและพระยาสุริยเดช ปลัดเมืองนครราชสีมา สามีของท่าน ชื่อวัดศาลาลอยนั้นมีที่มา หลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ที่ทุ่งสัมฤทธิ์แล้ว ท้าวสุรนารีก็ยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ระหว่างที่แวะพักบริเวณท่าตะโก ท่านได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาลอยไปตามลำตะคองเพื่อเสี่ยงทาย โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าแพรูปศาลานี้ลอยไปติดที่ไหน ก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ที่นั่น ปรากฎว่าแพลอยไปติด ณ ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยในปัจจุบัน ภายในวัดมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น อุโบสถหลังเก่า อุโบสถหลังใหม่ และเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม อุโบสถหลังเก่า เป็นอุโบสถขนาดเล็ก ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง และมีประตูเข้า-ออกทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว หรือที่เรียกว่า ‘โบสถ์มหาอุด’ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง ที่ท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรบชนะเจ้าอนุวงศ์ อุโบสถหลังใหม่สร้างใน พ.ศ. 2510 ผลงานการออกแบบของ รศ. ดร.วิโรฒ ศรีสุโร เป็นศิลปะไทยประยุกต์ ที่ออกแบบเป็นรูปสำเภา และใช้กระเบื้องดินเผา ของดีจากตำบลด่านเกวียนมาประดับตกแต่ง อุโบสถหลังนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2516 บริเวณหน้าอุโบสถหลังเก่ามีเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม และอนุสาวรีย์ย่าโมที่จำลองมาจากของจริงที่บริเวณลานย่าโมด้วย ซอยท้าวสุระ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/2vWtVW6P2Mp8wKbK6 4. ปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในส่วนที่ตั้งปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่บนเนินดินสูงกว่าบริเวณโดยรอบ สร้างขึ้นเนื่องในลัทธิความเชื่อศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระอิศวร (ศิวะ) เป็นเทพสูงสุด ปราสาทประธาน ก่อสร้างด้วยหินทราย ศิลาแลงและอิฐ เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน หันด้านหน้าไปด้านทิศตะวันออก ปราสาทพนมวันและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมร มีลำดับอายุสมัยในการก่อสร้างตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-17 นอกจากนี้ยังพบหลักฐานการอยู่อาศัย ของชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยสำริด (3,400-2,500 ปีมาแล้ว) และสมัยเหล็ก (2,500-1,500 ปีมาแล้ว) อยู่ในพื้นที่ก่อนที่จะมีการก่อสร้างปราสาทพนมวันอีกด้วย ปัจจุบันภายในปราสาทประธาน มีการประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก้ไขดัดแปลงในสมัยอยุธยา แสดงให้เห็นว่าปราสาทพนมวันยังคงเป็นศาสนสถานที่ชุมชนในท้องถิ่นให้ความเคารพความศรัทธาสืบเนื่องมา 📌 บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา:

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top