ที่เที่ยวภาคอิสาน

ตามรอยบัดดี้ เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน

วันนี้บัดดี้ขอแชร์ไอเดียเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช 2 วัน 1 คืน กับเส้นทางท่องเที่ยวที่ชวนทุกคนให้ไปสัมผัสกับความโดดเด่นและความหลากหลายทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และอาหาร มาลองรู้จักกับโคราชตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบัน ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวนี้ดู รับรองว่าจะรู้จักกับโคราชมากขึ้นแน่นอน 📌 วันที่ 1– พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน (Thailand Tourism Awards)– อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี– วัดศาลาลอย– ปราสาทพนมวัน 📌 วันที่ 2– อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย– ไทรงาม

ตามรอยบัดดี้ เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราช เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นและมีความหลากหลายทั้งในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและอาหาร บัดดี้เลยจะพาเพื่อน ๆ ย้อนไปรู้จักกับโคราชตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนมาถึงปัจจุบัน กับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว แบบ 2 วัน 1 คืน ที่เที่ยวตามแล้วบอกเลยว่าจะรู้จักกับโคราชมากขึ้นแน่นอน 1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ บ้านโกรกเดือนห้า ตั้งอยู่บ้านโกรกเดือนห้า ถนนมิตรภาพ-หนองปลิง ตำบลสุรนารี เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศไทยและหนึ่งในเจ็ดแห่งของโลก ที่แสดงพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ อายุประมาณ 800,000–320 ล้านปี เป็นแหล่งเรียนรู้ของการเริ่มต้น Korat UNESCO Global Geopark ซึ่งคณะกรรมการบริหารยูเนสโก ประชุมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีวาระการพิจารณาเรื่องการรับรองจีโอพาร์คทั้ง 18 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งโคราชจีโอพาร์ค เป็นจีโอพาร์คโลกยูเนสโก หรือ UNESCO Global Geopark ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับการกำเนิดโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และไม้กลายเป็นหิน และยังมีพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ 8 สกุล จาก 42 สกุล ที่พบทั่วโลก ทั้งช้างสี่งา ช้างงาจอบ ช้างงาเสียม (อายุประมาณ 16-5 ล้านปีก่อน) รวมทั้งฟอสซิลสัตว์นานาชนิด เช่น เต่ายักษ์ ตะโขง เอป (ลิงไม่มีหางที่มีสายวิวัฒนาการใกล้เคียงกับมนุษย์) นอกจากนี้ยังมีสวนไม้กลายเป็นหินด้านนอกอาคารให้เดินชมอีกด้วย 📌 184 หมู่ 7 ถนนมิตรภาพ – หนองปลิง บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา: https://maps.app.goo.gl/fetPko99CWrbpDm67⏰ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 15.30 น.☎️ 0 4437 0739-40💸 อัตราค่าบริการในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์– นักเรียนอนุบาล-ปวช. 20 บาท– นักศึกษา ปวส.-ปริญญาตรี 30 บาท– ผู้ใหญ่ 50 บาท– เด็กต่างชาติ (Youth) 50 บาท– ชาวต่างชาติ (Foreigner) 120 บาท 2. อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวีรกรรมอันกล้าหาญของ “ย่าโม” อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนฐานสูง เหนือขึ้นไปเป็นประติมากรรมย่าโมในท่ายืน แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน มือขวาถือดาบ ปลายจรดลงพื้น หล่อด้วยทองแดงรมดำ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช และกวาดต้อนผู้คนรวมถึงคุณหญิงโมไปด้วย คุณหญิงโมได้คิดอุบายหาทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยถ่วงเวลารอให้กำลังมาสมทบ จากนั้นจึงได้ช่วยกันต่อสู้จนกองทัพแตกพ่ายและเลิกทัพกลับเวียงจันทน์ในที่สุด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเป็นที่ตั้งของประตูชุมพล ซึ่งเป็นประตูเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก มีลักษณะเป็นประตูทรงไทย ศิลปะอยุธยา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา เดิมประตูเมืองมีทั้งหมด 4 ประตู แต่ปัจจุบันเหลือประตูชุมพลเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ชาวโคราชเชื่อว่า หากลอดประตูชุมพลแล้วจะโชคดี ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/R56U4K1DhG9fgZFo7 3. วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2370 โดยท้าวสุรนารีและพระยาสุริยเดช ปลัดเมืองนครราชสีมา สามีของท่าน ชื่อวัดศาลาลอยนั้นมีที่มา หลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ที่ทุ่งสัมฤทธิ์แล้ว ท้าวสุรนารีก็ยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ระหว่างที่แวะพักบริเวณท่าตะโก ท่านได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาลอยไปตามลำตะคองเพื่อเสี่ยงทาย โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าแพรูปศาลานี้ลอยไปติดที่ไหน ก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ที่นั่น ปรากฎว่าแพลอยไปติด ณ ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยในปัจจุบัน ภายในวัดมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น อุโบสถหลังเก่า อุโบสถหลังใหม่ และเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม อุโบสถหลังเก่า เป็นอุโบสถขนาดเล็ก ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง และมีประตูเข้า-ออกทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว หรือที่เรียกว่า ‘โบสถ์มหาอุด’ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง ที่ท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรบชนะเจ้าอนุวงศ์ อุโบสถหลังใหม่สร้างใน พ.ศ. 2510 ผลงานการออกแบบของ รศ. ดร.วิโรฒ ศรีสุโร เป็นศิลปะไทยประยุกต์ ที่ออกแบบเป็นรูปสำเภา และใช้กระเบื้องดินเผา ของดีจากตำบลด่านเกวียนมาประดับตกแต่ง อุโบสถหลังนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2516 บริเวณหน้าอุโบสถหลังเก่ามีเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม และอนุสาวรีย์ย่าโมที่จำลองมาจากของจริงที่บริเวณลานย่าโมด้วย ซอยท้าวสุระ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาhttps://maps.app.goo.gl/2vWtVW6P2Mp8wKbK6 4. ปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในส่วนที่ตั้งปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่บนเนินดินสูงกว่าบริเวณโดยรอบ สร้างขึ้นเนื่องในลัทธิความเชื่อศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระอิศวร (ศิวะ) เป็นเทพสูงสุด ปราสาทประธาน ก่อสร้างด้วยหินทราย ศิลาแลงและอิฐ เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน หันด้านหน้าไปด้านทิศตะวันออก ปราสาทพนมวันและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมร มีลำดับอายุสมัยในการก่อสร้างตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-17 นอกจากนี้ยังพบหลักฐานการอยู่อาศัย ของชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยสำริด (3,400-2,500 ปีมาแล้ว) และสมัยเหล็ก (2,500-1,500 ปีมาแล้ว) อยู่ในพื้นที่ก่อนที่จะมีการก่อสร้างปราสาทพนมวันอีกด้วย ปัจจุบันภายในปราสาทประธาน มีการประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก้ไขดัดแปลงในสมัยอยุธยา แสดงให้เห็นว่าปราสาทพนมวันยังคงเป็นศาสนสถานที่ชุมชนในท้องถิ่นให้ความเคารพความศรัทธาสืบเนื่องมา 📌 บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา:

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน ฉบับย้อนเวลาตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน อ่านเพิ่มเติม

ภูหลวง … สวนสวรรค์แดนอีสาน

บัดดี้พาไปเดินป่าที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน “ภูหลวง” อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย “ภูหลวง” มีความหมายว่า “ภูเขาที่สูงใหญ่” มีพื้นที่ประมาณ 530,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูหลวง อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ และอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงชัน มีความสูง 400 -1,571 เมตร จากระดับน้ำทะเล เทือกเขาด้านตะวันออกมีที่ราบบนสันเขา (หลังแป) ส่วนด้านตะวันตกเป็นภูเขาสูงซันสลับซับซ้อนเป็นลูกคลื่น ส่วนภูเขาทางทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันลาดลงสู่ทิศตะวันตก เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเลยและแม่น้ำป่าสัก ทริปนี้เป็นการเดินป่าระยะสั้นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ระยะทางเดิน 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินแบบไม่รีบร้อนประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและค้างแรม ความสวยงามของธรรมชาติบนเส้นทางนี้ ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสวรรค์ ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบสูง จึงมีอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 24 องศาเซลเชียส ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย 4-6 องศาเซลเซียส ฤดูกาลที่เหมาะกับการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติชมพรรณไม้บนภูหลวง คือ เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม โดยช่วงปลายธันวาคม-กลางมกราคม จะได้ชมใบเมเปิ้ลสีแดง ช่วงมกราคม-มีนาคม เป็นช่วงที่กุหลาบแดงและกุหลาบขาวบานสะพรั่ง รวมทั้งกล้วยไม้ป่านานาชนิด ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตั้งอยู่ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลยพิกัด: https://maps.app.goo.gl/z7G7LiUJeb5ZHdBr7 จุดท่องเที่ยวหลักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือ “หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา” ซึ่งตั้งอยู่กลางป่า ห่างจากที่ทำการเขตฯ ประมาณ 14 กิโลเมตรพิกัด: https://maps.app.goo.gl/3cZdZvS7YLaooMVF7 ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้ที่Facebook: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย06 4024 0743 การเดินทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 203 (ภูเรือ-เลย) ใช้เส้นทางฝั่งมุ่งหน้าไปตัวเมืองเลย ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงสามแยกโรงเรียนบ้านสานตม ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยด้านข้างโรงเรียน คือ ทางหลวงชนบท ลย. 2023 ตรงไปประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ณ ด่านตรวจบริเวณหน้าที่ทำการเขตฯอัตราค่าธรรมเนียมเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงชาวไทย: ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท รถยนต์สี่ล้อ 60 บาทรถยนต์หกล้อ 100 บาทจักรยานยนต์ 30 บาท ด่านจะเปิดให้รถขึ้นไปบนภูหลวงได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และด่านจะปิดไม่ให้รถขึ้นลงภูหลวงในเวลา 16.00 น. ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากอันตรายของสัตว์ป่าที่ออกหากินในช่วงเวลาเย็นจนถึงรุ่งเช้า จากด่านหน้าที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ขับรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของภูหลวง ตั้งแต่ปากทางถนนสายหลักจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ลักษณะถนนเป็นถนนลาดยางรถสวนกันสองเลน ช่วงจากด่านไปจนถึงโคกนกกระบาเป็นทางขึ้นเขา มีโค้งบ้าง แต่ไม่ค่อยชัน รถยนต์ทุกชนิดสามารถเดินทางได้ แนะนำไม่ควรขับรถเร็ว เพราะอาจมีสัตว์ป่าข้ามถนนได้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เมื่อเดินทางมาถึง แนะนำให้มาติดต่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ก่อน ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นกลุ่ม ๆ ละไม่เกิน 10 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ไม่เสียค่าใช้จ่าย บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา มีร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นอาหารตามสั่งแบบจานเดียว และมีเครื่องดื่มกับขนมขบเคี้ยวจำหน่าย ส่วนบริเวณลานจอดรถ กว้างขวาง และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมกุหลาบแดงบานอีกจุดหนึ่งด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มีบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยวสำหรับค้างแรมอยู่หลายหลัง ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา แต่ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์พักแรม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจากสัตว์ป่าในยามค่ำคืน ในกรณีต้องการค้างแรม ต้องสำรองบ้านพักล่วงหน้าในช่องทาง Message ของ Facebook page เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง-จังหวัดเลย รวมทั้งในกรณีที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวเดินป่าศึกษาธรรมชาติในเขตหน่วยพิทักษ์ป่าหน่วยอื่น ๆ แบบระยะไกล ก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะส่งรายละเอียดขั้นตอนการขออนุญาตต่าง ๆ ให้ในช่องทาง Message ของ Facebook page หรือ โทร. 06 4024 0743 ส่วนการเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า สามารถ walk in มาลงทะเบียนเที่ยวชมที่หน่วยพิทักษ์โคกนกกระบาได้เลย ณ หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ได้แก่1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 1 กิโลเมตร2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเสด็จ ระยะทาง 11.8 กิโลเมตร พวกเราเลือกเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใจดีพาเดินชม แนะนำพืชพรรณต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสุริยัน ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบเกือบตลอดทาง เดินผ่านป่าโปร่งที่มีต้นไม้ไม่สูงและทึบจนเกินไป แต่ไปเดินป่าช่วงฤดูหนาว แม้จะเจอแดดแต่อากาศก็เย็นสบาย อุปกรณ์ที่ควรมีเมื่อเดินป่า ได้แก่– หมวกกันแดด– เสื้อแขน กางเกงขายาว เพื่อป้องกันโดนกิ่งไม้ขีดข่วน– รองเท้าที่ดอกยางลึกกันลื่น กระชับข้อเท้า และใส่แล้วรู้สึกเดินสบาย– น้ำดื่ม– ยารักษาโรคประจำตัว– อุปกรณ์ถ่ายภาพ

ภูหลวง … สวนสวรรค์แดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม

ขอนแก่น Must Do! รวมร้านอาหารเด็ดต้องไปลอง จ.ขอนแก่น

บัดดี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ จ.ขอนแก่น และมีโอกาสไปตามรอย Must Do มาบางส่วน วันนี้เลยจะมาแชร์กับเพื่อน ๆ เผื่อใครมีโอกาสได้ไปขอนแก่นเร็ว ๆ นี้ จะได้ลองไปสัมผัส ขอนแก่น Must Do กันบ้าง บอกเลยว่าดี! อย่างที่เรา ๆ ชอบพูดกัน ว่าสำหรับคนไทยเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะไปไหนหรือเจอใคร คำถามติดปากคำถามแรก ๆ ที่มักจะถามกันก็ต้องเป็น กินอะไรมาหรือยัง? บัดดี้เลยขอพาเพื่อน ๆ มาเริ่มที่ Must Eat ของ จ.ขอนแก่น ที่บัดดี้ได้ไปลองมา โดยเมนูแรกก็คือ “อ๋อปลายอน” อ๋อปลายอน เป็นอาหารที่บัดดี้พึ่งเคยได้กินเป็นครั้งแรก ลักษณะเป็นแกงน้ำขลุกขลิก หอมผักชีลาวและปลาร้า มีปลายอนเนื้อละเอียดและไขมันเยอะ ทำให้ได้รสนุ่มละมุนลิ้น ถือเป็นอาหารที่ Rice Killer มาก ๆ เพราะยิ่งกินยิ่งอร่อย รู้ตัวอีกทีข้าวหมดจานแล้ว ซึ่งบัดดี้ได้ชิมเมนูนี้ที่ร้าน “มีกินฟาร์ม (Mekin Farm)” ร้านอาหารกึ่งฟาร์มสเตย์ที่เสิร์ฟอาหารด้วยวัตถุดิบสุดแสนจะธรรมดาแต่ผ่านการดูแลและคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ใครอยากกินอาหารที่ผ่านการใส่ใจในทุกคนตอน มาที่นี่ได้เลย 📌 114 ม.7 บ้านโคกกลาง ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.30 – 17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)📞 06 1695 9926🌐 https://maps.app.goo.gl/7MsQ3jbx8kN4mW5TA มาต่อกันอีก 1 เมนู Must Eat ของ จ.ขอนแก่น โจ๊กจั๊บเส้น ที่ร้าน “โจ๊ก ก๋วยจั๊บ ต้มเส้น บัตรคิว” ร้านรถเข็นดังในตัวเมืองที่ขายมานานกว่า 30 ปี มีทั้ง โจ๊ก ก๋วยจั๊บญวนเส้นสดซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมและต้มเส้นน้ำซุปสีน้ำตาลสวยกลิ่นหอมฟุ้ง แถมยังสามารถเพิ่มไก่ฉีก หมูยอ ไข่ลวก ตามความชอบได้อีกด้วย ร้านนี้มีทั้งลูกค้าขาประจำ ขาจรและไรเดอร์แวะเวียนมาไม่ขาดสาย หากมาช้าทางร้านจะแจกบัตรคิวให้สำหรับซื้อกลับบ้าน เป็นอีกหนึ่งร้านที่บัดดี้ไม่อยากให้พลาดหากมีโอกาสมาเที่ยวที่ จ.ขอนแก่น 📌 123/20 ถ.หน้าเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 17.30 – 21.00 น.📞 08 6406 2424🌐 https://maps.app.goo.gl/kvScERLrPLcZk8Hg7 ต่อมา บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ มาร่วม Must Seek ที่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ ที่จัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือของกรมทรัพยากรธรณี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธรณีวิทยา ธรรมชาติวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ เพื่อให้ความรู้และเป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชนรวมถึงผู้ที่สนใจ ภายในแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน คือ👉 โซนที่ 1 กำเนิดจักรวาล วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต และเรื่องราวของไดโนเสาร์ทั่วโลก ที่จะบอกเล่าถึงเรื่องเกี่ยวกับการกำเนิดจักรวาล การเกิดและสลายของหินรวมไปถึงการกำเนิดสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ👉 โซนที่ 2 ไดโนเสาร์ในแหล่งเทือกเขาภูเวียง จัดแสดงทั้งซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ชิ้นแรกในไทยและไดโนเสาร์ที่พบในไทย👉 โซนที่ 3 ห้องปฏิบัติการด้านซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยา เป็นห้องกระจกที่เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นห้องปฏิบัติการของนักธรณีวิทยา เป็นที่รวบรวมซากดึกดำบรรพ์ที่ขุดพบใน จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง👉 โซนที่ 4 สวนไดโนเสาร์ เป็นห้องที่จำลองบรรยากาศของป่าดึกดำบรรพ์ สองข้างทางก็จะมีไดโนเสาร์ที่สำรวจพบที่ภูเวียง บัดดี้ขอเตือนไว้ก่อนว่าไดโนเสาร์สามารถขยับได้ อย่าตกใจกันล่ะ👉 โซนที่ 5 ยุคเทอร์เชียรี เป็นส่วนที่ให้ความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากหินแร่ชนิดต่าง ๆ หลายแบบในปัจจุบัน ทั้งการนำหินแร่มาทำถ่าน เครื่องมือเครื่องใช้และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ 📌 ศูนย์ศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ภูเวียง กรมทรัพยากรธรณี ต.ในเมือง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริการปกติ)📞 0 4343 8204🌐 https://maps.app.goo.gl/YV4rruzioWiY5kab8 อีกหนึ่งสถานที่ Must See ของ จ.ขอนแก่น ที่บัดดี้มีโอกาสได้ไปก็คือ พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากว่า 200 ปีแล้ว แต่พระมหาธาตุแก่นนคร เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เนื่องในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เป็นพระธาตุ 9 ชั้น เพื่อน ๆ สามารถชมภายในพระมหาธาตุได้ทั้งหมด 9 ชั้น โดยไฮไลต์จะอยู่ที่ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและจุดชมวิว มีลมพัดเย็นสบาย มองวิวเมืองขอนแก่นได้สุดลูกหูลูกตา ในทุกวันสำคัญทางศาสนา พระมหาธาตุแก่นนครจะเปิดไฟในตอนกลางคืน สวยมาก ๆ เลยล่ะ 📌 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.📞 09 3460 8455🌐 https://maps.app.goo.gl/jxzEfxXdaRcnzNrMA Must สุดท้าย บัดดี้จะพามาชมของ Must Buy ที่ บ้านเฮง ร้านอาหารเช้าและร้านของฝาก ตัวร้านจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ มีที่นั่งเยอะ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส บริการรวดเร็ว อาหารรสชาติดี หากใครมาที่ขอนแก่นแล้วยังไม่มีที่ฝากท้องตอนเช้า

ขอนแก่น Must Do! รวมร้านอาหารเด็ดต้องไปลอง จ.ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม

ปักหมุด 50 จุดชมวิวฤดูหนาว

50 จุดชมวิวฤดูหนาว ที่เหมาะกับการชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และมวลหมู่ดาวในยามค่ำคืน จะมีที่ไหนบ้างตามมาชมกัน 1. ภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า มีความสูง 1,628 เมตร จากระดับทะเล บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นสันเขาและทุ่งหญ้า มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งลาว สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา มองเห็นทิวเขาอันสลับซับซ้อนได้ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ตกก็สวยงามไม่แพ้กัน บริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้ามีที่พักและร้านอาหารให้บริการหลายแห่ง และมีบริการรถกระบะรับส่งจากที่พักไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นยอดภู ระยะทางเดินเท้าประมาณ 700 เมตร หากต้องการขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้เผื่อเวลามาถึงจุดเริ่มเดินขึ้นภูชี้ฟ้าอย่างช้าไม่เกิน 05.30 น. พิกัดจุดจอดรถยนต์ส่วนตัวและจุดให้บริการรถกระบะขึ้นภูชี้ฟ้า (กรณีไม่ได้พักค้างคืนที่พักบริเวณนี้) : https://maps.app.goo.gl/tnyf1mqvQSBqzbu97ข้อแนะนำ คือ ควรใส่รองเท้าที่รัดกุมและกันลื่นได้ดี พกไฟฉายเพื่อใช้ส่องสว่างในการเดินขึ้นยอดภูตอนเช้ามืดหรือเดินลงช่วงหัวค่ำตั้งอยู่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/6r7e9UbxGPbKXUY57 2. ภูชี้ดาวภูชี้ดาวตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางจากภูชี้ฟ้าไปผาตั้ง โดยอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 12 กิโลเมตร การขึ้นไปยอดภูชี้ดาว ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าเหมาจากที่พักบริเวณใกล้เคียง เช่น ภูชี้ฟ้าหรือผาตั้ง นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ยังลานจอดรถตรงทางขึ้นภูชี้ดาว (ริมถนนทางหลวงหมายเลข 1093) จากนั้นใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นเพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นยอดภูชี้ดาว ระยะทาง 3 กิโลเมตร บริเวณจุดเริ่มเดินเท้ามีร้านค้าและมีห้องน้ำบริการ จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาระยะทาง 350 เมตร ถึงยอดภูชี้ดาว ลักษณะทางเดินขึ้นยอดภู ทางเดินชัดเจน แต่ค่อนข้างชัน พิกัดจุดจอดรถยนต์ส่วนตัวและจุดให้บริการรถกระบะขึ้นภูชี้ดาว : https://maps.app.goo.gl/iuj2WartBpNCGRLx8ยอดภูชี้ดาวมีความสูงประมาณ 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลักษณะเป็นสันเขาทอดตัวแนวยาวจากเหนือไปใต้ มีระเบียงไม้กั้นตลอดแนวทางเดินเพื่อป้องกันการพลัดตกลงไปหุบเขาด้านล่าง บริเวณจุดสูงสุดมีหลักกิโลเขตแดนไทยตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา เห็นทิวทัศน์ของทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกข้อแนะนำ คือ ควรใส่รองเท้าที่รัดกุมและกันลื่นได้ดี พกไฟฉายเพื่อใช้ส่องสว่างในการเดินขึ้นยอดภูตอนเช้ามืดหรือเดินลงช่วงหัวค่ำตั้งอยู่ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/MWzA6gCpiXeotmxM6 3. ภูชี้เดือนตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ดาวเพียง 1 กิโลเมตร มีความสูง 1,743 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนภูชี้เดือนสามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอก เห็นทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 1093 บริเวณทางแยกขึ้นภูชี้เดือน นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ไปถึงจุดเริ่มเดินเท้า จากนั้นก็ต้องเดินเท้าต่อไปอีก 5-10 นาที ถึงยอด ภูชี้เดือน สามารถจัดโปรแกรมเที่ยวภูชี้เดือนและภูชี้ดาวได้ภายในครึ่งวันเช้า เพราะทางขึ้นทั้งสองภูนั้นอยู่ใกล้ ๆ กัน พิกัดจุดขึ้นรถกระบะขึ้นภูชี้เดือน : https://maps.app.goo.gl/AYTfuMsXuDmtXaxj8ตั้งอยู่บ้านร่มฟ้าหลวง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/coWaEgZAu6e6nWvf8 4. จุดชมวิวดอยผาหม่นดอยผาหม่นเป็นเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว บริเวณจุดชมวิวดอยผาหม่นสามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา ทิศตะวันออกเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวเขาฝั่งลาว และยังมองเห็นแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวไปตามร่องเขาเบื้องล่าง ส่วนทิศตะวันตกเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทิวเขาฝั่งไทย ทางด้านทิศเหนือสามารถมองเห็นยอดดอยผาหม่นตั้งเด่นตระหง่านโดยมีปลายยอดเฉียงชี้ขึ้นฟ้า ส่วนทางด้านทิศใต้มองเห็นสันเขาเป็นแนวยาว ซึ่งตามแนวสันเขานี้มีจุดชมทิวทัศน์ตลอดแนว ได้แก่ ภูชี้เดือน ภูชี้ดาว และภูชี้ฟ้า บริเวณจุดชมวิวดอยผาหม่น ไม่มีที่พักและไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้เนื่องจากลมแรงมาก แต่มีจุดกางเต็นท์ของชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการ จากถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข 1093 (ผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า) ไปยังจุดชมวิวเป็นทางวิบาก ระยะทาง 3 กิโลเมตร ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปยังจุดชมวิว ทางชุมชนไม่อนุญาตให้รถยนต์ภายนอกพื้นที่ขับขึ้นไปเอง จุดขึ้นรถโฟร์วีลจุดหลักอยู่บ้านร่มฟ้าผาหม่น ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1093 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 83 (เส้นทางผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า) เมื่อนั่งรถโฟร์วีลไปถึงลานจอดรถบนดอย ต้องเดินเท้าขึ้นเนินเขาระยะทาง 50 เมตร ถึงจุดชมวิวดอยผาหม่น หากจะไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ควรขึ้นรถโฟร์วีลก่อน 05.30 น. พิกัดจุดขึ้นรถโฟร์วีลขึ้นดอยผาหม่นhttps://goo.gl/maps/Jb7CR8Bb7Jp1LPM87ตั้งอยู่บ้านร่มฟ้าผาหม่น ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย (ห่างจากบ้านผาตั้ง 6 กิโลเมตร)พิกัด : https://goo.gl/maps/GwEhyoCrq98eLPZb6 5. ดอยผาตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 25 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1093 ดอยนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ปัจจุบันชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ แอปเปิล และชา ดอยผาตั้งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็นทิวเขาทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว มีจุดชมวิวที่ชื่อว่า “ช่องผาบ่อง” ลักษณะเป็นช่องหินขนาดใหญ่ จุดนี้มองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว หากเดินเท้าต่อไปอีก 1 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิวเนิน 103 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอก ตั้งอยู่บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/QdjiG8uAVMvE86BGA 6. เนิน 104 ดอยผาตั้งลักษณะเป็นสันเขาโล่ง ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าสลับก้อนหินขนาดใหญ่ สามารถชมทัศนียภาพได้รอบทิศ 360 องศา ทางทิศตะวันออกมองเห็นทิวเขาฝั่งลาวและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ทางฝั่งทิศตะวันตกมองเห็นทิวเขาฝั่งไทยและบ้านผาตั้ง และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่ง หากไปช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม มีโอกาสพบทะเลหมอกในยามเช้า บริเวณเนิน 104 ดอยผาตั้ง ไม่มีที่พักและไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ ที่พักใกล้เคียงจะอยู่ในหมู่บ้านผาตั้ง จากบ้านผาตั้ง ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อไปยังเนิน 104 เพราะเป็นถนนขรุขระ ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าตามสันเขาซึ่งเป็นทางราบและทุ่งหญ้าประมาณ 350 เมตร ต่อด้วยปีนป่ายก้อนหินอีกประมาณ 50 เมตร ถึงจุดชมวิวเนิน 104 นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ ณ โรงเรียนบรรพตวิทยา และนัดหมายรถขับเคลื่อนสี่ล้อให้มารับ หรือจะให้รถไปรับ-ส่งยังที่พักในหมู่บ้านผาตั้งก็ได้

ปักหมุด 50 จุดชมวิวฤดูหนาว อ่านเพิ่มเติม

รวมข้อมูลงานสงกรานต์ 5 ภาค

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลงานสงกรานต์ 5 ภาค สงกรานต์นี้ ใครมีแพลนไปเที่ยวที่ไหนหรือยัง? วันนี้บัดดี้มีข้อมูล “งานเทศกาลสงกรานต์ 2567” จาก 5 ภาคมานำเสนอ ใครอยากไปงานไหน เตรียมตัววางแผนเก็บกระเป๋าออกไปเล่นน้ำท้าแดดในเทศกาลปีใหม่ของไทยกันได้เลย ส่วนเพื่อน ๆ ที่ยังรอข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามกันเลย บัดดี้จะนำข้อมูลมาอัปเดตอีกเรื่อย ๆ

รวมข้อมูลงานสงกรานต์ 5 ภาค อ่านเพิ่มเติม

ชวนใช้รถสาธารณะ นั่งรถไฟเที่ยวไทย ไปที่ไหนได้บ้าง? 🚞

ชวนเพื่อน ๆ นักเดินทาง #ลดมลพิษ หันมาใช้รถสาธารณะเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วไทย ซึมซับบรรยากาศ และความสวยงามของประเทศไทย ด้วยการนั่ง #รถไฟ ไปเที่ยวด้วยกัน แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะยังรู้สึกงงกันอยู่ หากเราต้องการนั่งรถไฟไปเที่ยวนั้น สรุปแล้วต้องไปขึ้นที่ไหน? หัวลำโพงยังเปิดอยู่ไหม? หรือย้ายไปที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์หมดแล้ว? แชร์ไว้เลยโพสต์นี้มีคำตอบให้ค่ะ ตอนนี้หากเราต้องการจะนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด สามารถขึ้นได้ทั้งที่ #สถานีหัวลำโพง และ #สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์​ (สถานีกลางบางซื่อ) เลยค่ะ แต่ต้องดูว่าเราจะไปภาคไหน เพราะตอนนี้สายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ย้ายไปอยู่ที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์แล้วนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ใครที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในทริปสั้น ๆ เช่น ไปนครปฐม ไปกาญจนบุรี ไปชุมพร ก็สามารถขึ้นรถไฟที่ #สถานีธนบุรี ได้อีกด้วยค่ะ 😊 สถานีรถไฟหัวลำโพงยังไม่ปิด ยังคงให้บริการขบวนรถไฟชานเมือง ขบวนรถธรรมดา ขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถไฟสายตะวันออก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีกลางบางซื่อ ให้บริการสำหรับขบวนรถไฟทางไกล กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ และรถด่วนรถเร็ว สายเหนือ ใต้ และอีสาน สถานีธนบุรี ให้บริการสำหรับขบวนรถพิเศษชานเมือง และรถธรรมดา เหมาะสำหรับทริปท่องเที่ยวไม่ไกลกรุงฯ

ชวนใช้รถสาธารณะ นั่งรถไฟเที่ยวไทย ไปที่ไหนได้บ้าง? 🚞 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top