ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤📍ถ่ายรูปบึงบัว #ทุ่งสามร้อยยอด📍ชมความงดงามของ #ถ้ำพระยานคร เมืองสามอ่าว เที่ยวสบาย มีธรรมชาติหลากหลายให้ได้ลองมาสัมผัส มาปักหมุดกันที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ในพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย สามารถมาเดินพักผ่อนชมบึงบัวทุ่งสามร้อยยอดในเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานชมทุ่งบัวที่ทอดยาวออกไปกลางน้ำ มีฉากหลังเป็นทิวเขาหินปูน ถ่ายรูปสวยมาก ๆ ใกล้ ๆ กันยังมีไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตในสามร้อยยอด ก็คือ “ถ้ำพระยานคร” ถ้ำบนเทือกเขาใหญ่เลียบทะเล มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ภายในถ้ำมีปล่องขนาดใหญ่ด้านบน ทำให้แสงสามารถสาดส่องลงมาถึงภายในกระทบกับ “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” พอดี เป็นภาพที่สวยสะดุดตา และงดงาม อลังการมากๆ ถ้าไปประจวบฯ ต้องห้ามพลาดเลยล่ะ ติดต่อ : อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่อยู่ : หมู่ 2 บ้านเขาแดง ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น. โทร : 032 – 821568 พิกัด : https://goo.gl/maps/iNh2T3hrsPtjFBph6 ชมรูปภาพเพิ่มเติมผ่าน Facebook ได้ที่ : https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/7094387910633228

🌈 เที่ยว #เมืองสามอ่าว #ประจวบฯ 🌤 อ่านเพิ่มเติม

✨6 พิกัด แหล่งพักผ่อนสุดฮิต @หัวหิน✨

สัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 แบบนี้ เพื่อน ๆ มีแพลนจะเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหนกันบ้างคะ.. ถ้ายังคิดไม่ออกว่าทริปปีใหม่นี้จะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนดี เราขอนำเสนอ “แหล่งท่องเที่ยวรับลมทะเลสุดชิว” ที่หัวหินค่ะ เราเชื่อว่าหลายคนอาจเคยไปสัมผัสบรรยากาศชายทะเลหัวหินกันมาแล้วบ้าง ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หัวหินก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมกับกิจกรรมใหม่ๆ ที่อยากให้ลองมาสัมผัสดูสักครั้ง และทุกคนจะได้พบกับประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษ แบบ “ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” อย่างแน่นอน เริ่มต้นที่ภาพบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดินบริเวณ “ชายหาดหัวหิน” หาดหัวหิน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตัวเมืองหัวหิน เริ่มต้นจากหาดทรายขาวไปจนถึงเขาตะเกียบ มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร เอกลักษณ์ของที่นี่คือชายหาดขาวสะอาด และบรรยากาศสุดชิวเหมาะแก่การพักผ่อนและตากอากาศริมทะเล ส่วนภาพนี้ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่อยู่คู่กับเมืองหัวหินมาอย่างยาวนาน ด้วยเอกลักษณ์ของป้ายซึ่งใช้สีขาวครีมตัดกับกรอบสีแดงที่สลักได้อย่างสวยงาม “สถานีรถไฟหัวหิน” จึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่ทุกคนต้องห้ามพลาด เมื่อได้เดินทางไปเยือนหัวหิน  หาดหัวหิน  ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีระยะทางจากกรุงเทพฯ – หัวหินประมาณ 200 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และยังมีกิจกรรมริมชายหาดต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลาย อาทิเช่น การเล่นน้ำทะเล ขี่ม้าริมชายหาด ฟุตบอลชายหาด และกิจกรรมทางน้ำ ได้แก่ การพาย Supboard และ Kiteboarding ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายอีกด้วย  ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://goo.gl/maps/LFkqgb6THCasAxBn9  Kiteboarding (ไคท์ บอร์ดดิ้ง)  กิจกรรมทางน้ำซึ่งได้รับความนิยมในผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและท้าทายบนพื้นที่ชายหาดหัวหิน เนื่องจากมีหาดทรายที่กว้างใหญ่ ทะเลน้ำตื้น ทิศทางลมที่เอื้ออำนวย หัวหินจึงกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ การเล่น “Kiteboarding” เป็นการผสมผสานทักษะด้านกีฬาหลายประเภท จากทั้งเซิร์ฟบอร์ด สเก็ตบอร์ด สโนว์บอร์ด และเวคบอร์ด พร้อมกับการเล่นว่าวขนาดใหญ่ ที่ออกแบบพิเศษให้มีกำลังที่จะส่งผู้เล่นให้เซิร์ฟบนผิวน้ำด้วยความเร็วสูง และลอยขึ้นไปบนอากาศได้ถึง 10 เมตร ทั้งยังสามารถแสดงลีลาท่าทางประกอบกลางอากาศได้อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเล่น “Kiteboarding” คือระหว่างเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม และยังมีโรงเรียนสอน Kiteboarding ให้บริการหลายแห่ง โดยจะเปิดสอนหลักสูตรพื้นฐานสำหรับ Kiteboarders มือใหม่ที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันแสนพิเศษและท้าทายอย่างแน่นอน สถานีรถไฟหัวหิน เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมวิกตอเรียน ซึ่งได้รับความนิยมมากในอังกฤษ ลักษณะหลังคาเป็นทรงปั้นหยา มุงด้วยกระเบื้องว่าว ตัวอาคารเป็นสีขาวครีมตัดกับสีแดง ป้ายสถานีมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งตัวอักษรและกรอบที่สลักอย่างสวยงาม ภายในสถานีรถไฟมี พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับพลาจตุรมุขสร้างขึ้นสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เดิมอยู่ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 การรถไฟฯ ได้ทำการก่อสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และตั้งชื่อใหม่ว่า พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บหัวรถจักรไอน้ำเก่าจากประเทศอังกฤษ ที่เคยผ่านการใช้งานแล้วในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2  ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ Google Maps https://goo.gl/maps/YgrceKaFwmGNR3Sp7 หาดเขาตะเกียบ มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของชายหาดหัวหินและทางตอนเหนือของหาดเขาเต่า มีหาดทรายสีขาวละเอียด ระดับน้ำทะเลไม่ลึกมาก เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ อาทิเช่น กิจกรรมพาย Supboard เล่นเรือยาง Banana Boat เป็นต้น ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://goo.gl/maps/MebPJYqunRjewss7A อ่างเก็บน้ำเขาเต่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งนับว่าเป็นโครงการตามพระราชดำริแห่งแรกของกรมชลประทาน อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีบรรยากาศเงียบสงบ มีทางเดินอันร่มรื่นจากเงาของต้นไม้ที่ปลูกไว้โดยรอบ  แลนด์มาร์กของที่นี่คือ พลับพลากลางน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมรูปของในหลวง รัชกาลที่ 9 และสามารถมองเห็นวิวแนวชายหาดเขาเต่าจากมุมสูงยาวไปถึงหาดเขาตะเกียบ หากนักท่องเที่ยวอยากสัมผัสกับความสวยงามของแสงแดดยามเย็นที่ส่องผ่านพลับพลากลางน้ำ หรืออยากเห็นไฟสีสันสวยงามที่เปิดไว้บริเวณพลับพลาในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แนะนำให้ลองมาท่องเที่ยวที่นี่เลยค่ะ แล้วจะตกหลุมรักกับวิวทิศทัศน์ที่สวยงามจกาสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน  ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์https://goo.gl/maps/2Fvdz9nC9ZeZX9gE8 วัดห้วยมงคล สถานที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ที่มาสักการะขอพรจากหลวงปู่ทวดเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงกราบไหว้บูชาขอโชคลาภจากรูปปั้น “ไอ้ไข่” ศิษย์ของหลวงปู่ทวด ซึ่งได้แกะสลักจากไม้ตะเคียนพันปี โดยตั้งให้นักท่องเที่ยวกราบไหว้ขอพรอยู่บริเวณด้านหน้าของหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่  วัดห้วยมงคล  ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น. https://goo.gl/maps/ehwqp3Dx5bkXA67m7

✨6 พิกัด แหล่งพักผ่อนสุดฮิต @หัวหิน✨ อ่านเพิ่มเติม

หัวหิน x ปราณบุรี เที่ยวสองอำเภอติดชายทะเล

หลังจากสถานการณ์โควิด 19 เริ่มดีขึ้น แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ ทริปนี้แอดมินจะพาไปเที่ยวหัวหินและปราณบุรี อำเภอติดทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวชายหาดให้หายคิดถึง ไปกินอาหารทะเลให้หายอยากกัน วันที่ 1 1. For Art Sake – พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติสุดตื่นตา 2. หาดหัวหิน – ชายหาดสุดคลาสสิก มีกิจกรรมให้ทำเพียบ 3. เขาตะเกียบ – จุดชมวิว ไหว้พระขอพรและแวะชิมอาหารทะเลแสนอร่อย 4. ศูนย์ขทิรวัน มูลนิธิพันดารา – สัมผัสความเงียบสงบและเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมทิเบต 5. เขาหิน เหล็ก ไฟ – จุดชมวิวเมืองหัวหินแบบ 360 องศา 6. ตลาดแทมมารีน – แหล่งรวมความอร่อยยามค่ำคืน วันที่ 2 7. ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ – ร้านอร่อยคู่เมืองหัวหิน 8. วนอุทยานปราณบุรี – สำรวจป่าชายเลน ชมวิว 360 องศา 9. หาดปราณบุรี – แวะร้านอร่อยและชมชายหาดปราณบุรี วันที่ 1  For Art’s Sake มาชมความสวยงามและน่าทึ่งของภาพวาดที่พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติ แหล่งถ่ายภาพสุดแนวที่เราสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพวาดได้ ที่นี่มีภาพวาด 4 มิติกว่า 100 ภาพ เตรียมเคลียร์พื้นที่ในกล้องถ่ายรูปและมือถือเอาไว้ได้เลย เพราะจะได้ถ่ายรูปอย่างจุใจแน่นอน ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ โพสท่ากันให้เต็มเหนี่ยว ใส่อารมณ์ให้เต็มที่ ภาพที่ถ่ายออกมาจะยิ่งเหมือนจริง  22/141 ถนนเพชรเกษม อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.  08 9170 8330 https://goo.gl/maps/XaMG8UdgzoejEci48  ขอบคุณรูปภาพจาก For Art’s Sake  หาดหัวหิน หาดหัวหินเป็นชายหาดสุดคลาสสิก แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของชาวไทยและต่างชาติ ที่หาดหัวหินมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งการขี่ม้า พายซับบอร์ด พายเรือคายัค และเล่น kite boarding ถือเป็นชายหาดที่ไปเที่ยวกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ 🌐 https://goo.gl/maps/p4fC7xdosJHfTeYSA  เขาตะเกียบ จากชายหาดหัวหิน เราไปต่อกันที่เขาตะเกียบ บริเวณเชิงเขาเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่หันหน้าออกสู่ทะเล ส่วนบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดเขาตะเกียบ ภายในประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว และเป็นจุดชมวิวชายหาดหัวหินที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ บริเวณเขาตะเกียบยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลแสนอร่อยหลายร้าน ใครอยากกินอาหารทะเลสด ๆ กุ้งเป็น ปูเป็น ต้องแวะที่นี่เลยค่ะ 🌐 https://goo.gl/maps/nahFdf2LbvXsP5CH8  ศูนย์ขทิรวัน มูลนิธิพันดารา ใครชอบความเงียบสงบ ลองมาปลีกวิเวกที่ศูนย์ขทิรวัน ที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมทิเบตและหิมาลัย ภายใต้การดูแลของมูลนิธิพันดารา ที่นี้โอบล้อมด้วยภูเขา ร่มรื่นและเงียบสงบ จุดเด่นคือ สถูปมนตร์ซึ่งทำด้วยธงมนตรานับพันผืน ถึงจะไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม เพื่อน ๆ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศภายในศูนย์ฯ ได้ปัจจุบัน ศูนย์ขทิรวัน กำลังก่อสร้างพระศานติตารามหาสถูป สถูปขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นหอสมาธิ เป็นวิหารโพธิสัตว์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้พุทธศิลป์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ศูนย์ขทิรวันยังไม่เปิดให้เข้าชม แต่ถ้าใครสนใจปฏิบัติธรรมหรือฝึกสมาธิ สามารถลงเรียนคอร์สออนไลน์ได้ โดยเข้าไปติดตามข้อมูลข่าวสารที่เพจ Facebook: https://www.facebook.com/1000tara/  บ้านมะค่าสี่ซอง ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น. (ติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม) 083 300 8119 https://goo.gl/maps/L4X53irf5wufSLSQ8  ขอบคุณรูปภาพจาก มูลนิธิพันดารา  จุดชมวิว เขาหินเหล็กไฟ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองหัวหินได้แบบ 360 องศา ที่นี่มีจุดชมวิวถึง 6 จุด สามารถขึ้นมาชมวิวได้ทั้งวัน ไฮไลต์คือจุดชมวิวที่ 5 ที่มีวิวสวยที่สุด สามารถมองเห็นกว้างไกลไปถึงเขาตะเกียบเลย นอกจากนี้ ยังเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น ผู้คนนิยมมาออกกำลังกายและนั่งเล่นพักผ่อน บนเขามีน้องลิงค่อนข้างเยอะ เพื่อน ๆ ต้องระวังสัมภาระกันด้วยนะ  ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น. https://goo.gl/maps/ZV3nHjeFWvHEtkt6A  ตลาดแทมมารีน ตกเย็น ไปตามหาของอร่อยกันที่ตลาดแทมมารีน ตลาดนี้มีร้านอาหารหลากหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเล อาหารไทย อาหารฝรั่ง เครื่องดื่มและขนมหวาน ซึ่งอาหารแต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว  ซอยหัวหิน 87 ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00-14.00 น. และ 17.00 – 23.00 น.  088 611 1644 https://g.page/tamarindmarkethuahin?share  ขอบคุณรูปภาพจาก ตลาดแทมมารีน วันที่ 2 ตื่นแต่เช้าแล้วไปสูดอากาศที่ชายหาดหัวหินกันดีกว่า บรรยากาศยามเช้าของหาดหัวหินสวยงามไม่แพ้ช่วงเวลาอื่นเลย ที่สำคัญ อย่าลืมไปตักบาตรริมชายหาดกันนะ บริเวณชายหาดหัวหินยาวไปจนถึงชายหาดเขาตะเกียบ สามารถมารอตักบาตรกันได้ แต่ถ้าใครกลัวพลาด แอดมีพิกัดมาแนะนำค่ะ 1. ชายหาดเขาตะเกียบ ซอยตะเกียบ 1 https://goo.gl/maps/LEK4EVWQ6MbL9jrP7

หัวหิน x ปราณบุรี เที่ยวสองอำเภอติดชายทะเล อ่านเพิ่มเติม

ส่องสัตว์ซาฟารีเมืองไทย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี 🐘🌿

มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ไม่ได้มีแค่ทะเล วันนี้แอดจะชวนเพื่อน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศเข้าป่ามาส่องสัตว์กันค่ะ “อุทยานแห่งชาติกุยบุรี” เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่า มีพรรณไม้หายาก และยังเป็นสวรรค์ของสายเที่ยว Wildlife เลยล่ะ เพราะเราจะได้เห็นสัตว์ป่าจำนวนมากท่ามกลางธรรมชาติแบบใกล้ชิด ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ยิ่งในสถานการณ์ช่วงนี้ นั่งทำงานกันอยู่บ้านกันนาน ๆ คงจะเบื่อกันใช่มั้ย แต่เราคงต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน แหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ก็ยังไม่เปิดให้บริการ แต่เพื่อน ๆ เก็บข้อมูลเส้นทางเหล่านี้ไว้ได้นะคะ รอให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้กลับมาเปิดต้อนรับเราอีกครั้ง ออกไปเปิดหูเปิดตากับธรรมชาติเขียว ๆ กันนะ หากใครยังไม่เคยมา ต้องลองไปเห็นกับตาดูสักครั้งบอกเลยว่า feel good มาก ๆ : ) สำหรับทริปนี้ เพื่อความสะดวก เพื่อน ๆ สามารถเริ่มต้นจากอำเภอหัวหิน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็จะถึงอุทยานแห่งชาติกุยบุรีแล้วค่ะ อุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี และอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรีค่าบริการเข้าอุทยานฯ: ผู้ใหญ่ 200 บาท อุทยานแห่งชาติกุยบุรี บ้านย่านซื่อ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร. 08 1776 2410, 0 3251 0453https://goo.gl/maps/e6V5B3n6zgrJiHuy7 ในอดีตพื้นที่ป่ากุยบุรี เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวพระราชดำริว่า ควรฟื้นฟูป่า สร้างแหล่งอาหารแหล่งน้ำให้ช้างป่า เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมาหาอาหารในเขตการเกษตรของชาวบ้าน “โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” จึงถือกำเนิดขึ้น และประสบความสำเร็จอย่างดี ช้างป่าเพิ่มจำนวน พืชไร่ของชาวบ้านปลอดภัย และผืนป่าก็กลับมาสมบูรณ์ กิจกรรมที่ห้ามพลาดคือ กิจกรรมชมช้างป่าและชมกระทิง ที่จะออกมาหากินเป็นฝูงแบบนี้ หากโชคดีอาจได้เห็น วัวแดง ที่อาศัยรวมอยู่ในฝูงกระทิงอีกด้วย แอดบอกเลยว่า หากใครเป็นสายถ่ายรูป Wildlife ต้องไม่พลาดที่นี่ คือดีงามสุด ๆ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี – Kui Buri National Park กิจกรรมชมสัตว์ป่าที่นี่จะอยู่ภายใต้การควบคุมความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด สำหรับการเดินทางเข้าไปชมสัตว์ ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปเอง เนื่องจากสัตว์ป่าภายในอุทยานฯ มีจำนวนมากและออกหากินกระจายในพื้นที่ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ หากไม่ชำนาญเส้นทาง นักท่องเที่ยวสามารถเหมารถของชมรมท่องเที่ยวอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ผ่านการอบรมและทำหน้าที่ร่วมกับอุทยานฯ พานักท่องเที่ยวเข้าไปชมสัตว์ตามจุดต่าง ๆ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี – Kui Buri National Park ข้อปฏิบัติในการเข้าชมสัตว์ป่า หากเจอสัตว์ป่าระหว่างทาง นักท่องเที่ยวต้องอยู่บนรถ ไม่ควรเข้าไปใกล้กับช้างป่าหรือสัตว์ป่าทุกชนิด ไม่ส่งเสียงดัง ใช้กล้องไม่เปิดแฟลช และไม่ควรให้อาหารสัตว์ป่า เนื่องจากทางอุทยานฯ จะทำแหล่งอาหารและแหล่งน้ำให้กับสัตว์ป่าอยู่แล้ว เช่น โป่งเทียม หรือการทำแปลงหญ้า ช่วงเวลาที่อนุญาตให้เข้าชมสัตว์ป่า คือ 14.00-17.00 น. ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงในการชม (ขึ้นอยู่กับการตกลงกันว่าจะชมนานแค่ไหน) กิจกรรมชมสัตว์ป่า นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ภายใน 1 วัน หรือหากอยากจะพักค้างคืนก็มีที่พักโฮมสเตย์ให้บริการ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี ค่าบริการรถเข้าชมรวมไกด์นำเที่ยว-คันละ 850 บาท นั่งไม่เกิน 8 คน ขอบคุณรูปภาพจากเพจ ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถชื่นชมธรรมชาติไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่าง ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ระยะทางประมาณ 800 เมตร ถึง 3,000 เมตร หนึ่งในเส้นทางที่น่าสนใจก็คือ การไปชมตอไม้จันทน์หอม ที่ใช้สร้างพระบรมโกศของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม้จันทน์หอม จัดเป็นไม้มีค่าและหายาก มีกลิ่นหอมทุกส่วนของลำต้น ตั้งแต่ แก่น เปลือก กระพี้ พบมากที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีนี่เอง อีกจุดที่แนะนำก็คือ น้ำตกแพรกตะคร้อ น้ำตกขนาดใหญ่ เป็นต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำปราณบุรี แตกแขนงเป็นลำธารไหลคดเคี้ยวไปทั่ว ทิวทัศน์สวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าทำให้น้ำตกแพรกตะคร้อมีน้ำใส ไหลเย็นตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูฝน แนะนำให้ใช้รถ 4WD ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี บ้านรวมไทยมีกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์หลายอย่าง หากสนใจลองติดต่อได้ค่ะโทร. 08 5266 1601 (พี่บัว) ช้างป่าโฮมสเตย์ค่าที่พัก คนละ 200 บาท ไม่รวมอาหารค่าที่พัก คนละ 750 บาท รวมอาหาร 2 มื้อ (พาขึ้นไปชมพระอาทิตย์ยามเช้า บริการชา กาแฟ) ขอบคุณรูปภาพจากเพจ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี – Kui Buri National Park

ส่องสัตว์ซาฟารีเมืองไทย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี 🐘🌿 อ่านเพิ่มเติม

✨ เขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ✨

เขาล้อมหมวกเป็นสถานที่ปีนเขาที่ไม่ได้เปิดตลอด 365 วัน โดยปกติจะเปิดเป็นรอบ ๆ ตามประกาศของกองบิน 5 ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมความงามของธรรมชาติ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เดินทางไปได้ยาก แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ มาปีนเขาทิพย์กันก่อน ตามมาปีนด้วยกันได้เลย 📍 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์⏰ เปิดให้เข้าชม เวลา 06.00-10.00 น. (สอบถามรอบวันขึ้นเขาได้จากหน่วยงานที่ดูแล)📞 0 3261 1017 ต่อ (60202)(60215) , 08 0373 1876🌐 https://goo.gl/maps/cPWrGC9aQ7sqSAEd9 อย่าลืมเช็คมาตรการในการเดินทางเข้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ที่ https://www.facebook.com/ssjpcko/ สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกเดินทาง สามารถอ่าน eBook จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ที่ https://www.amazingthailandebook.com/issue/32 หรือสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect/ ก่อนอื่นแอดขอแนะนำเขาล้อมหมวกสำหรับคนที่ไม่รู้จักก่อน เขาล้อมหมวก  ตั้งอยู่ในเขตกองบิน 5 ระหว่างอ่าวมะนาวและอ่าวประจวบ เป็นภูเขาหินปูนสูง 902 ฟุต บนยอดเขาสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา วิวอลังการสุด ๆ สามารถมองเห็นอ่าวของประจวบคีรีขันธ์ทั้งหมดได้แบบพาโนราม่าเลยล่ะ การเดินทาง แอดขอแนะนำรถยนต์ส่วนตัว สะดวกที่สุด จากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น (4-5 กิโลเมตรจากตัวเมือง) ขับเลาะทะเลมาเพื่อเข้าสู่กองบินที่ 5 ขับตามป้าย “เขาล้อมหมวก” มาเรื่อย ๆ จนถึงเต็นท์กองอำนวยการ แถว ๆ ลานกิจกรรมบริเวณศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ซึ่งเป็นจุดลงทะเบียนได้เลย ก่อนขึ้นเขาล้อมหมวก เพื่อน ๆ สามารถไปที่ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ศาลที่ชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ดูแลคุ้มครองพื้นที่แห่งนี้ สามารถเข้าไปสักการะภายในศาลได้เลย จะมีดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไว้ให้  หากพร้อมแล้ว เริ่มเดินกันได้เลยเส้นทางขึ้นสู่เขาล้อมหมวก แบ่งเป็น 8 จุดบริการ มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทุกจุด โดย 3 จุดแรก เป็นทางเดินแบบขั้นบันไดจำนวน 496 ขั้น (เดินง่ายแต่เหนื่อยมาก) ส่วนระยะทางที่เหลืออีก 5 จุดนั้น ต้องใช้มือและเท้าพยุงตัวไต่ไปตามแนวหิน ระดับความชันมีตั้งแต่ 45-90 องศา โดยจะมีเชือกให้เกาะไปตามเส้นทาง (เดินยากแต่สนุกมาก)  ระหว่างทางเดินขึ้นเขา เราจะพบกับฝูงค่างแว่นถิ่นใต้เป็นระยะ  เนื่องจากค่างเเว่นถิ่นใต้เป็นสัตว์ป่า จึงไม่ควรให้อาหาร เพราะอาจเกิดอันตราย และมีผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ได้  ขอบคุณรูปรูปภาพสวย ๆ จากช่างภาพ : ธเนศ งามสม  เมื่อเริ่มขึ้นสูงวิวก็ยิ่งสวย หลังจากใช้เวลาไปประมาณ 1.30 ชั่วโมง แอดก็มาถึงยอดเขา บอกเลยว่าสวยมาก วิวประทับใจคุ้มค่ากับความเหนื่อยจริง ๆ  หากสถานการณ์ดีขึ้น เพื่อน ๆ ที่สนใจ สามารถติดตามประกาศขึ้นเขาล้อมหมวก และข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/กิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวก  รายละเอียดการขึ้นยอดเขาล้อมหมวก– เปิดลงทะเบียน ณ จุดขึ้นเขา เวลา 06.00 – 10.30 น. (หากมาหลัง 10.30 น. จะไม่อนุญาตให้ขึ้นเขา)– ลงทะเบียนแล้วขึ้นได้เลยภายในเวลาที่กำหนด ไม่มีรอบ ไม่ต้องจองล่วงหน้า– ไม่จำกัดจำนวนคนขึ้นเขา– เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่จะให้ลงจากยอดเขาทุกคน– ไม่มีค่าใช้จ่าย– ขึ้นได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ– แจ้งขอรับใบประกาศนียบัตรที่ระลึกได้ มีค่าธรรมเนียม 40 บาท (ไม่บังคับ)– ขาขึ้นใช้เวลาประมาณ 40 นาที- 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย) ขาลงใช้เวลาประมาณ 20 – 40 นาที  สิ่งที่ต้องเตรียม– ฟิตร่างกายให้พร้อม– เตรียมน้ำดื่มไปจิบระหว่างทาง (แต่ต้องนำลงมาทิ้งข้างล่างด้วยนะ)– สวมถุงมือ (กันเชือกบาด) มีขาย 20 บาท บริเวณร้านค้าด้านล่าง– สวมชุดทะมัดทะแมง และรองเท้าผ้าใบ  ทั้งนี้แอดมีข้อแนะนำเพิ่มเติมคือ กิจกรรมนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจและโรคหอบหืด 

✨ เขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว : ประจวบคีรีขันธ์

🌈 เหตุที่เรียกว่าเมืองสามอ่าว เนื่องจากพื้นที่บริเวณตัวเมืองประจวบประกอบไปด้วย อ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาว ตั้งเรียงต่อกันในแนวทิศเหนือ-ทิศใต้ มีพื้นที่ริมอ่าวประจวบเป็นศูนย์กลางความเจริญ เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ สถานีขนส่งรถประจำทาง สถานีรถไฟ ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 🌈 TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ขอนำเสนอ 5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว ได้แก่ เขาช่องกระจก สะพานสราญวิถี เขาตาม่องล่าย วัดอ่าวน้อย และอ่าวมะนาว ซึ่งหากใครมีโอกาสแวะเวียนไปเที่ยวตัวเมืองประจวบ แล้วไม่ได้ไปเช็กอินสถานที่เหล่านี้ ถือว่าพลาดอย่างมาก❗️ 🌈 ตามมาเก็บข้อมูลเตรียมวางแผนเที่ยวด้วยกันในรีวิวนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ค่อยออกเดินทางท่องเที่ยวกันนะคะ 😉 การเดินทาง (กรุงเทพฯ-ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์) รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามสอง) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม จนถึงทางต่างระดับวังมะนาว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี เข้าสู่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวมจากกรุงเทพฯ ประมาณ 293 กิโลเมตร รถโดยสารประจำทาง : มีให้บริการทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 หรือ www.transport.co.th รถตู้โดยสารประจำทาง : มีให้บริการทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-4.30 ชั่วโมง ท่ารถตู้สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 – ตัวเมืองประจวบ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โทร. 089-2547496, 089-2547495, 081-9428938 ท่ารถตู้สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ – ตัวเมืองประจวบ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โทร. 086-3111426, 092-8941454 *แนะนำให้ตรวจสอบรอบเวลารถก่อนเดินทาง* รถไฟ : ขบวนรถไฟสายใต้ทุกขบวนที่ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ จะผ่านสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th การเดินทางด้วยรถไฟมายังตัวเมืองประจวบ นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองประจวบ ห่างจากถนนเลียบอ่าวประจวบเพียง 500 เมตร เรียกได้ว่าพอลงจากรถไฟ สามารถเดินหาที่พักหรือเช็กอินเข้าที่พักซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบได้เลย จุดที่ 1 เขาช่องกระจก หากอยากมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองประจวบและอ่าวประจวบแบบ 360 องศา แนะนำให้ขึ้นไปบนยอดเขาช่องกระจก เขาช่องกระจก มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 245 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของวัดธรรมิการามวรวิหาร (วัดเขาช่องกระจก) จากเชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด มีบันไดปูนเดินขึ้นไปสู่ยอดเขา ยอดเขาช่องกระจกเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและองค์พระเจดีย์ซึ่งภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะกราบไหว้ ตำแหน่งที่ตั้งของเขาช่องกระจกอยู่จุดกึ่งกลางของโค้งอ่าวประจวบ โดยแบ่งอ่าวประจวบออกเป็น 2 ฝั่ง อ่าวประจวบทางเหนือ เริ่มจากปากคลองบางนางรมอยู่บริเวณเชิงเขาช่องกระจก มีหาดทรายขาวยาวต่อเนื่องไปทางเหนืออีก 4 กิโลเมตร จนถึงเขาตาม่องล่าย อ่าวประจวบทางใต้ จะเป็นศูนย์ราชการ ตลาด ชุมชน เรื่อยไปจนถึงเขาล้อมหมวกและอ่าวมะนาว จุดชมวิวบนยอดเขาช่องกระจก สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันออกของปากอ่าวในช่วงเช้า เรื่อยไปจนถึงแสงทไวไลท์ในยามเย็น อีกฟากฝั่งของจุดชมวิวยอดเขาช่องกระจก ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกลับหลังเทือกเขาตะนาวศรี และแสงไฟยามค่ำคืนของย่านชุมชนในตัวเมืองได้ด้วย จุดที่ 2 สะพานสราญวิถี ถือเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของตัวเมืองประจวบ เป็นสะพานปูนสีแดงโดดเด่นยื่นจากถนนริมอ่าวประจวบออกไปในทะเล  สะพานสราญวิถี แต่เดิมคือ สะพานปลาอ่าวประจวบ ต่อมาทางหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันบูรณะพัฒนาให้มีความสวยงามขึ้น ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สะพานสราญวิถี” ตามที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน โดยคำว่า “สราญวิถี” หมายถึง ความสุขสำราญ และยังได้พระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ มาประทับที่ป้ายชื่อของสะพานอีกด้วย  ในช่วงเวลาเช้าและเย็น ยามแดดร่มลมตก ชาวเมืองประจวบและนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูปกันที่นี่  จุดที่ 3 เขาตาม่องล่าย เขาตาม่องล่าย ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของโค้งอ่าวประจวบ ห่างจากเขาช่องกระจกประมาณ 4 กิโลเมตร ตลอดแนวหาดจะเป็นชุมชนบ้านเรือนสลับกับที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว และหมู่บ้านชาวประมงซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เชิงเขา แอบกระซิบว่า ใครต้องการซื้อหาอาหารทะเลสด ๆ ให้มาดักรอเรือของชาวประมงท้องถิ่นแถวชุมชนตาม่องล่าย ซึ่งเรือมักจะกลับเข้าฝั่งพร้อมกับอาหารทะเลสด ๆ ในช่วงเช้า  บริเวณเชิงเขาตาม่องล่ายเป็นที่ตั้งของ “วนอุทยานเขาตาม่องล่าย” ที่นี่มีจุดกางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย จากวนอุทยานฯ สามารถมองเห็นตัวเมืองประจวบซึ่งอยู่อีกฟากของโค้งอ่าวได้อย่างชัดเจน  หากเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติภายในวนอุทยานฯ จะพบจุดชมวิวเขาตาม่องล่าย ซึ่งมองเห็นเขาตาม่องล่ายและโค้งอ่าวประจวบได้ตลอดแนว รวมทั้งเขาล้อมหมวกด้วย  จุดที่ 4 วัดอ่าวน้อย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอ่าวน้อย เอกลักษณ์โดดเด่นของวัดคือ พระอุโบสถไม้สักทองสลักลวดลายไทยทั้งหลัง และมีรูปปั้นพญานาคคู่เลื้อยโอบล้อมกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถไว้  ในบริเวณวัดมีภูเขาหินตั้งอยู่ติดริมทะเล มีทางเดินขึ้นไปบนเขา บนเขาจะพบโถงถ้ำ ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ  ระหว่างทางเดินขึ้น-ลงเขา สามารถมองเห็นโค้งอ่าวซึ่งเชื่อมต่อกับชายหาดในเขตอำเภอกุยบุรี  จุดที่ 5 อ่าวมะนาว ชายหาดที่ตั้งอยู่ทางใต้ของอ่าวประจวบ มีเขาล้อมหมวกเป็นจุดแบ่งระหว่างอ่าวประจวบและอ่าวมะนาว  อ่าวมะนาวอยู่ในพื้นที่และความดูแลของกองบิน 5 กองทัพอากาศ แต่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปเที่ยวได้ การเข้าไปเที่ยวจะต้องผ่านจุดตรวจความปลอดภัยบริเวณทางเข้ากองบิน 5 เสียก่อน  ด้วยสภาพชายหาดที่มีความลาดชันน้อย สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย รวมถึงอยู่ในเขตทหาร มีการรักษาความสะอาดตลอดเวลา อ่าวมะนาวจึงเป็นชายหาดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่มักพาบุตรหลายมาพักผ่อนเล่นน้ำ  เมื่อโอกาสเหมาะและมีความพร้อมในการเดินทาง หากกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่แออัดจนเกินไป มีทั้งจุดชมวิวสวย ๆ วิถีชีวิตชาวเลเรียบง่าย อาหารทะเลสดอร่อยและไม่แพง

5 จุดเช็กอิน เมืองสามอ่าว : ประจวบคีรีขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

White Cafe @ Hua Hin

ปัจจุบันคาเฟ่โทนสีขาวสไตล์มินิมอล กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะฉากหลังสีขาวสบายตาถ่ายรูปคู่กับชุดไหนก็ปัง วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 คาเฟ่โทนสีขาวสุดฮิตในหัวหิน ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เผื่อหยุดยาวนี้ใครไปเที่ยว ก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปปังๆ ที่ 3 คาเฟ่นี้ได้จ้า แผนที่ลายแทงจ้า โซนเขาตะเกียบไปจนถึงเขากระโหลกนะ แต่ละที่ก็อยู่ไม่ไกลกันมาก เราสามารถไปกันได้ต่อเนื่องเลย เริ่มที่ Four Four Nine Cafe & Bistro คาเฟ่นี้ตั้งอยู่ใกล้ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ไปทางเดียวกันได้เลย ตั้งอยู่บนถนน Highway 1010 เป็นคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นาน สไตล์ฟิวชั่น มีฉากหลังอาคารสีขาวสไตล์ยุโรป เหมาะกับสายถ่ายรูป อาหารที่นี่ก็จะมีทั้งอาหารอิตาเลียน เครื่องดื่มและขนมหวาน เมนูยอดฮิตก็บิงชูสายไหม บิงชูที่นุ่มเหมือนสายไหม ละลายในปาก ต้องลองไปชิมกันนะ.พิกัด https://goo.gl/maps/TAKgqPgS2Q4pmzoD7 พิซซ่าเตาถ่าน ทำกันสด ๆ บรรยากาศในร้าน มีมุมถ่ายรูปเพียบ คาเฟ่ต่อไป Memory House Cafe ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ในซอยหัวหิน 101  ตัวคาเฟ่เป็นสีขาวสะอาดสไตล์โรงนา  อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวที่พริ้วไหว และยังมีฉากหลังเป็นอ่างเก็บน้ำและเขาเต่า ได้บรรยากาศที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร  ในคาเฟ่ก็ยังตกแต่งได้น่ารักสไตล์แคมปิ้ง มีมุมถ่ายรูปให้เลือกมากมายเหมาะกับสายถ่ายรูปแน่ๆ แวะไปตำกันได้  เครื่องดื่มและขนมก็มีให้เลือกเยอะ.พิกัด https://goo.gl/maps/qJ4W5kS47FJr2kAGA Demi Beach Cocept บีชคาเฟ่ริมหาด ที่ทั้งชิคและชิลมาก  คาเฟ่มินิมัล ที่ปราณบุรี ตั้งอยู่ริมหาด ก่อนถึงเขากระโหลก  ด้วยความที่อยู่ริมหาดก็เลยได้บรรยากาศความชิลริมทะเล นั่งจิบเครื่องดื่มมองทะเลได้อย่างสบาย มุมถ่ายรูปก็มีให้เลือกถ่ายได้เยอะแน่ๆ ที่นี่เมนูซิกเนเจอร์คือ เครื่องดื่มโกโก้สูตรต่างๆ โดยได้คัดสรรเมล็ด โกโก้ชั้นดี จากทั่วทุกมุมโลก คอโกโก้คงต้องมาลองชิมกันดูนะ เจ้าของร้านชอบเล่นเซิร์ฟสเก็ต ชวนไปเล่นกันที่ริมหาดปราณบุรีได้นะ ที่สวนรถไฟ บรรยากาศร่มรื่น อากาศบริสุทธิ์มาก ชั้น 2 เขามีแอร์ด้วยนะ ตกแต่งสไตล์มินิมอล พิกัด https://goo.gl/maps/5Gb9CM5nGcitXi6A7

White Cafe @ Hua Hin อ่านเพิ่มเติม

Hua Hin Surf

“หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย​“ แต่ตอนนี้นอกจากจะมีหอยที่ทะเลแล้ว ก็ยังมีชาว Surfer อยู่เต็มทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอนเต็มไปหมดเลยจ้า กีฬาทางน้ำยอดนิยมสุดฮิตที่ตอนนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก และอยากลองพิชิตกัน ก็คือ Surf นั่นเอง โดยปกติคนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าประเทศไทยสามารถเซิร์ฟได้ที่ฝั่งอันดามันเท่านั้น นั่นเกิดจากที่ช่วง พ.ค.-ต.ค. อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ก่อเกิดมวลคลื่นจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของไทย จึงทำให้จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้รับคลื่นเพราะอยู่ติดกับทะเลฝั่งอันดามัน และยังส่งผลให้จังหวัดที่อยู่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้รับคลื่นลม นั่นก็คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี ซึ่งก็มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟด้วย แต่ในช่วงเดือน พ.ย.- ก.พ. ลมมรสุมได้เปลี่ยนทิศ เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากฝั่งทะเลจีนใต้พัดเข้ามา จึงทำให้เกิดคลื่นเข้ามายังอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นั่นก็คือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา (ก็น่าจะมีอีกหลายจังหวัดที่ได้รับคลื่นถ้าดูตามแผนที่แล้วนะ แต่ที่สามารถเล่นเซิร์ฟได้ชัวร์และมีคนเคยลองเล่นจริง ๆ ก็จังหวัดตามนี้เลย) หัวหินหนึ่งในพื้นที่สุดฮ็อตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเป็นจุดหมายของเหล่านักเซิร์ฟเข้ามาโต้คลื่นกันมากเพราะอยู่ใกล้ กทม. เดินทางสะดวก ที่พักพร้อม อาหารการกินเพียบ แต่การมาเซิร์ฟที่นี่ต้องคอยเช็คคลื่นให้ดี เดี๋ยวนี้มีตัวช่วยเพิ่มคือการดูพยากรณ์คลื่นผ่านแอพต่าง ๆ แต่เอาให้ชัวร์ก็ลองถามกับทางพื้นที่กันก่อน เพราะคลื่นที่หัวหินไม่ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง เวลาคลื่นมาหัวหินก็จะได้รับปลาย ๆ เพราะมีประเทศเวียดนามกับกัมพูชากั้นเอาไว้ก่อนจึงทำให้ไม่ได้รับคลื่นเต็ม ๆ ต้องอาศัยช่วงที่มีลมมรสุมหรือพายุกำลังแรงจริง ๆ พัดเข้ามาจากทางทะเลจีนใต้ ที่จะทำให้หัวหินได้รับคลื่น และอาจจะเป็นจุดสปอตที่ดีเลยในช่วงพายุ เพราะตรงทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอน มีเขาตะเกียบคอยกั้นลมไว้ให้ จึงทำให้เห็น swell สวย ๆ และคลื่นก็มีลักษณะนุ่มนวล ไม่ครอบง่าย อยากเจอของดีก็ต้องรอกันหน่อย อีกอย่างด้วยจำนวนคนที่ไปเล่นเยอะมากขึ้น อยากให้ระวังกันและกัน ก่อนจับคลื่นมองซ้าย มองขวา ไม่มีใครกำลังมา แล้วเราก็ไม่ได้ Drop in (ไปแย่งคลื่น) เขานะ จะได้ไม่ชนกัน และคอยดูแลบอร์ดตัวเองให้ดีดี อย่าให้หลุดจากตัวบ่อยเพราะมันอาจจะไปชนเอาคนข้าง ๆ หรือคนที่กำลังเล่นกันได้ ถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่น่าจะต้องคำนึงถึงเวลาไป surf ในที่คนเยอะ ๆ จ้า ถ้าใครอยากจะลองเรียน ลองโต้คลื่นที่หัวหิน ที่นี่ก็มีโรงเรียนเปิดให้เช่าบอร์ดและสอนเซิร์ฟเบื้องต้น สามารถติดตาม และสอบถามได้ที่ Weekend Surf Club Logger’s Paradise Hua Hin Surf Club ถ้าจะให้ดีควรสอบถามก่อนและจองเช่าบอร์ดล่วงหน้านะ ถามกันรายสัปดาห์ไปเลย ถ้า walk-in เข้าไปบอร์ดอาจจะมีไม่เพียงพอ

Hua Hin Surf อ่านเพิ่มเติม

ปอดแห่งปากน้ำปราณ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ศูนย์ฯ สิรินาถราชินี เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จฯ อำเภอปราณบุรี พ.ศ.2539 ภายในมีเส้นทางเดินชมป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 850 เมตร.ก่อนเข้าไป เราจะได้รับบัตรผู้เยี่ยมชมจากพี่ยามบริเวณทางเข้า ให้นำบัตรไปลงทะเบียนเพื่อเข้าชมที่อาคารต้อนรับก่อน จุดแรกที่เราจะได้เจอคือ บ้านแมลง เป็นการนำเศษวัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว เช่น เศษไม้ เศษอิฐต่างๆ มาวางเรียงกันเป็นชั้นๆ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของแมลง ซึ่งบ้านแมลงมีประโยชน์กับระบบนิเวศของป่าชายเลนมากมาย เช่น เป็นที่อยู่อาศัยของแมลง ทดแทนที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ และช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงสร้างสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ด้วย ระหว่างทางเราจะได้พบกับต้นโกงกางที่มีรากขนาดใหญ่หลายต้น ซึ่งต้นโกงกางเหล่านี้ไม่ได้ถูกตัดออกไปในช่วงที่มีการทำนากุ้ง จึงคาดว่าน่าจะมีอายุมากกว่า 60 ปี แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนแห่งนี้ ภายในศูนย์ฯ สิรินาถราชินี จะมีสะพานเป็นทางเดินยาว เพื่อให้เราเดินสำรวจป่าชายเลนได้ทั่ว ซึ่งระหว่างทางจะมีจุดให้ความรู้เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับป่าชายเลน เช่น พันธ์ุไม้ในป่าชายเลน และระบบรากของพันธ์ุไม้แต่ละชนิด.อย่างจุดนี้ จะให้ความรู้เกี่ยวกับการทำประมงของชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีการจัดแสดงเครื่องมือทำการประมง เช่น แห แร้วจับปู และชะเนาะ เป็นต้น ระหว่างทางเพื่อนๆ จะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นของป่าชายเลน และจะได้เห็นน้องปู น้องปลาตีนยักษ์ ด้วยล่ะ.จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือ ลานศึกษาปูทะเล ที่ให้ความรู้ว่าปูทะเลมีกี่ชนิด กี่สี และมีการจำลองลอบดักปูยักษ์ ให้เราเข้าไปถ่ายรูปเล่นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีจุดเรียนรู้ระบบห่วงโซ่อาหารและสายใยอาหารในป่าชายเลน แถมมีเครื่องเล่นให้เราลงไปถ่ายรูปสนุกๆ ได้อีกด้วย หอชะคราม เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของศูนย์ฯ สิรินาถราชินีได้แบบ 360 องศา โดยหอมีความสูง 3 ชั้น ตัวหอมีบันไดเวียนสลับ คล้ายการเรียงตัวเป็นชั้นของใบต้นชะคราม ซึ่งที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้.รู้หรือไม่ ? หอชะครามมีบันไดทั้งหมด 97 ขั้น ใครเดินไปถึงชั้นบนสุด จะได้สลายแคลอรี่ไปถึง 20.37 กิโลแคลอรี่เลยนะ สุดท้ายก่อนกลับ อย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปด้วยล่ะ.ผลิตภัณฑ์ของศูนย์ฯ สิรินาถราชินี มีทั้งยานวดสมุนไพร ยาหม่อง และสบู่ ที่ทำจากพืชป่าชายเลนต่างๆ ได้แก่ สำมะง่า ขลู่ และเบญจมาศน้ำเค็ม มีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนัง แก้ผื่นคัน ส่วนสารภีทะเล ช่วยรักษาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก.โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุน “โครงการเพื่อน้อง” เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลปากน้ำปราณ ที่มีผลการเรียนและความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์.ดูสิ มาเที่ยวนอกจากได้ความรู้ ได้ของมีประโยชน์กลับบ้าน แล้ว ก็ยังได้บุญอีกด้วย ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ที่ตั้ง : ถ.โยธาธิการ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์พิกัด : https://goo.gl/maps/UTvNJqUTbYfi2RGc7เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.โทร. 032 632 255 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 21 มิถุนายน 2562

ปอดแห่งปากน้ำปราณ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อ่านเพิ่มเติม

น้ำตกป่าละอู

คำว่า “ละอู” เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า “ต้นไผ่” “ป่าละอู” จึงแปลว่า “ป่าไผ่” เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีต้นไผ่อยู่มากนั่นเอง น้ำตกป่าละอู เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงถึง 15 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณชั้นที่ 1-5 ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ ไม่แนะนำให้ขึ้นไปชั้นที่สูงกว่านี้ เนื่องจากเส้นทางยากลำบาก อาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้ ในช่วงฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำแบบนี้ เราจะได้จะเห็นสีเขียวๆ ของธรรมชาติที่สวยงามตลอดเส้นทางเดินไปน้ำตกเลย อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ในช่วงเดือนเมษายน – กรกฎาคม ก็คือ การเฝ้ารอชมผีเสื้อนับร้อยตัวที่ออกหากินตามโป่งดินและลำธาร นอกจากนี้เรายังมีโอกาสเห็นสัตว์ป่าและนกหายากหลายชนิดอีกด้วย ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท หากใครหิวอยากเติมพลังก่อนลุยน้ำตก บริเวณด้านหน้าทางเข้ามีร้านค้าสวัสดิการอยู่ด้วย หรือหากอยากจะพักค้างแรม ทางอุทยานฯ ก็มีบริการบ้านพักและเต็นท์ให้เช่าด้วยนะ ติดต่อจองที่พัก– ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน้ำตกป่าละอู โทร. 032 646 294, 087 161 2922– ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 032 459 293– กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.02 562 0760, 02 561 0777 ต่อ 724, 725 การเดินทาง จากตลาดหัวหิน ใช้ทางหลวงหมายเลข 3218 ประมาณ 58 กิโลเมตร ผ่านอ่างเก็บน้ำป่าละอู จากนั้นขับตรงไปอีก 6 กิโลเมตร จะเจอทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ 3 (ห้วยป่าเลา) เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 10 มิถุนายน 2562

น้ำตกป่าละอู อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top