กาญจนบุรี

กาญจนบุรี

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨

กางปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ไปไหนดี? เรามาแจกปฏิทิน พร้อมแนะนำที่เที่ยว ทะเล ภูเขา ธรรมชาติ เที่ยวไทยไปได้ทั้งปี ใกล้จะหมดปีแล้ว คุณเป็นอย่างไรกันบ้างนะ ปี 2564 ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่า ถ้าใครยังไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนในปีนี้ หรือถ้าไปแล้ว แต่อยากกลับไปอีก เพราะความคิดถึง ต้องเตรียมแพลนรับปีใหม่ 2565 กันได้แล้วนะ เพราะในปี 2565 นี้ เราอยากจะชวนคุณออกไปเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้เที่ยวแบบเต็มที่มานาน โพสต์นี้เราแนะนำที่เที่ยวสวย อันซีน มาให้แล้ว พร้อมกับแจกปฏิทิน ให้คุณได้ดาวน์โหลดแบบฟรี ๆ งานนี้ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ไหน ช่วงเดือนอะไร ก็สามารถเตรียมแพลนล่วงหน้าไว้ได้เลย สามารถดาวน์โหลดภาพปฏิทิน และทำ E-Card ส่งต่อความสุขและความห่วงใยให้กับคนที่เรารัก ไปด้วยกัน โดยคลิกที่นี่ได้เลย >> https://tatcalendar.com/ นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชัน TAT CALENDAR ด้วยนะ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันแบบง่าย ๆ ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ดาวน์โหลดผ่านระบบ Android คลิก : https://bit.ly/3oU23br ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS คลิก : https://apple.co/3GHsjfq พิกัดในภาพ : เจดีย์พระธาตุโบอ่อง กาญจนบุรี ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก “ม่อนหมอกตะวัน” เป็นหุบเขาที่มีหมอกตลอดทั้งวัน ตั้งอยู่ที่บ้านป่าหวาย ธรรมชาติแห่งขุนเขายามเช้า ท่ามกลางสายหมอกพริ้วไหว และดอกเสี้ยน ฝรั่งสีบานเย็นสลับขาวที่ผลิดอกสะพรั่งบานเต็มทั่วทิวเขาหากใครที่เข้าไปชมธรรมชาติและสายหมอก ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อธรรมชาติจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วยนะทุกคน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ทะเลหมอก และดอกไม้ที่สวยงามตระการตา มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และบริการหมูกระทะ ทางขึ้นของที่นี่ค่อนข้างชัน เป็นถนนแบบคอนกรีตผสมลูกรัง ด้านบนมีลานกางเต็นท์ ค่ากางเต็นท์ เริ่มต้นหลังละ 200 บาท จะนอนกี่คนก็ได้ เพราะคิดราคาต่อหลัง มีห้องน้ำ มีห้องอาบน้ำแยก พิกัด : บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ. ตากGPS : https://goo.gl/maps/vqKcH9SVkRxJNrDD6 ชุมชนบ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา รับชมแสงสุดท้ายของวันทอประกายสีส้มระเรื่อลงมายังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เป็นภาพความงดงามในมุมสูงช่วงเวลาสนธยาของชุมชนประมงพื้นบ้านริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา เราสามารถไปบ้านหัวเขาได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ แต่เราเลือกที่จะไปทางเรือ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ที่ชาวสงขลาบอกว่า เป็นจุดที่สวยที่สุด การนั่งเรือไปบ้านหัวเขา สามารถใช้เรือจ้างที่ดัดแปลงมาจากเรือหาปลา แต่เพิ่มเสื้อชูชีพและการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย เมื่อมาถึงบ้านหัวเขา จะมีรถพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นมารับไปเที่ยวรอบชุมชน พิกัด : บ้านหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลาGPS : https://goo.gl/maps/TEmdirkeYi8V9dheA  ​​วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ที่นี่เป็นดินแดนของ องค์พญานาคเจ้าปู่ศรีมุกดา (พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทย ลำตัวเปล่งประกายด้วยสีน้ำเงินเข้มอมเขียว คดเคี้ยวเคียงคู่กับพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวที่สวยสง่า สะท้อนถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวอีสานแห่งลุ่มน้ำโขง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนยอดเขามโนรมย์ และมีความเชื่อในการขอพรเกี่ยวกับด้านความโชคดี สุขภาพ ความปลอดภัย และความร่ำรวยเงินทอง บนยอดเขานั้น คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดมุกดาหารได้ ทั้งแม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดมุกดาหารที่ควรค่าแก่การมาเยือน พิกัด : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหารGPS : https://goo.gl/maps/NHU38NQm1SvgHL6aA  ถ้ำคลัง จังหวัดกระบี่ “ถ้ำคลัง” ผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างสรรค์กว่าพันปี ภายในโพรงถ้ำอันมืดมิด กลับเปล่งประกายด้วยสระน้ำใสสีมรกตและหินงอกหินย้อยประดับตกแต่งราวกับฉากหลังโรงละคร งดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งถ้ำหินปูนเมืองกระบี่ ภายในถ้ำมีโถง 13 ห้องด้วยกัน ด้านในมืดสนิทและเส้นทางซับซ้อน จำเป็นต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งก็คือชาวบ้านที่จะคอยบริการพาเราเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยมากมาย ผลึกแก้วสวยงามวาววับ และสระน้ำมรกตที่มีน้ำใสดั่งกระจกถึง 2 แห่งอยู่ภายในถ้ำ การเดินสำรวจถ้ำ สิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมไปคือ ไฟฉาย และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางให้ด้วย พิกัด : ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/McxxL13JTCZXiE9M6  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเลย พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ สะพานหินธรรมชาติในอ้อมกอดของผืนป่า ถูกปกคลุมด้วยพรมสีเขียวของเฟิร์นและมอส แต่งแต้มสีแดงด้วยใบเมเปิลที่ผลัดใบในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปไฮไลท์ของอุทยานฯ ที่มีให้ชมเพียงปีละหนึ่งครั้ง นอกจากจุดนี้แล้ว ในอุทยานฯ ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘ลานหินปุ่ม’ ที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน สวยแปลกตา ‘ผาชูธง’ เป็นจุดชมทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตก ‘น้ำตกผาลาด’ เป็นน้ำตกซึ่งไม่สูงนัก แต่มีน้ำมากตลอดปี เป็นต้น ที่อุทยานฯ ยังมีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย พิกัด : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์GPS : https://goo.gl/maps/kAHoDexZRypXpsDp6  เกาะไผ่ จังหวัดกระบี่ “เกาะไผ่” หรือเกาะไม้ไผ่ เกาะขนาดเล็กกลางทะเลกระบี่ ในวงล้อมของชายฝั่งสีเขียวมรกต หาดทรายขาวละเอียด ทางทิศใต้ของเกาะมีแนวปะการังทอดตัวเป็นวงโค้งสวยงามน่าอัศจรรย์ สมกับฉายาดงปะการังแสนไร่ สวรรค์น้อย ๆ ของคนรักกิจกรรมดำน้ำตื้น พิกัด : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่GPS : https://goo.gl/maps/E4sj5ZZrZo6qaNju8  วังผาเมฆ จังหวัดตรัง เตรียมกายและใจให้พร้อมขึ้นไปพิชิตยอดเขา จุดชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของผืนป่า แมกไม้ สายหมอกที่อาบไล้ด้วยแสงสีทองยามเช้า และภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของท้องทะเลจังหวัดตรัง วังผาเมฆตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสายควนและป่าอ้ายกลิ้ง บรรยากาศตอนเช้าตรู่จะเป็นทะเลหมอกขาวสะอาดปกคลุมไปทั่วผืนป่าและเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ยามเช้า จากหมอกขาวจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามอมส้ม เมื่อขึ้นมาสู่ยอดเขาจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ในขณะที่ทางด้านทิศตะวันตก สามารถมองเห็นปากอ่าวและชายหาดรวมทั้งหมู่เกาะต่าง ๆ บนท้องทะเลอันดามัน ในจังหวัดตรังได้ บริเวณเชิงเขาจัดสร้างประติมากรรมต่าง ๆ

✨ แจกปฏิทินเที่ยว ปี 2565 ✨ อ่านเพิ่มเติม

Stand Up Paddle Board

Stand Up Paddle Brord หรือ SUP Board กิจกรรมทางน้ำสุดฮิตที่ในหลายจังหวัดมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เปิดประสบการณ์การพาย SUP Board ชมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในจังหวัด และในจังหวัดกาญจนบุรี ก็มี SUP Board ให้ได้พายตามเส้นทางแม่น้ำแคว ชมความสวยงามของสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งก็สามารถเลือกได้ว่าจะพายรอบเช้าหรือรอบเย็น ไฮไลท์คือจุดสิ้นสุดเส้นทางที่จะได้ชมรถไฟแล่นผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควจากบน SUP Board ด้วยนะ และสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นกิจกรรมนี้หรือว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ต้องกลัวเลยค่ะเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยสอนวิธีการเล่นและดูแลอย่างใกล้ชิด อย่ารอช้ารีบตามแอดมินมาชมความสนุกกับการพาย SUP Board กันเลย! ใครไม่เคยพาย SUP Board ไม่ต้องกังวลนะจ้ะ ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วยนะ.การพาย SUP Board ที่กาญจนบุรีมีหลายเจ้าให้บริการ ซึ่งครั้งนี้เราใช้บริการของ SEDS Kanchaburi >>https://seds-kanchanaburi.com ก่อนลงไปพาย เจ้าหน้าที่จะให้ความรู้ สอนวิธีการพาย และการขึ้นบอร์ด กรณีตกน้ำเบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยว จุดเริ่มต้น ที่ท่าน้ำวัดน้ำตื้น เริ่ม!! การพาย SUP Board สามารถพายแบบยืนหรือจะนั่งพายก็ได้นะ ระหว่างพาย SUP Board มีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายภาพสวย ๆ ให้เราด้วย โพสท่ากันได้เต็มที่เลย วิวสองข้างทางสวยมาก ๆ เลยค่ะ บางคนถ้าเหนื่อยหรือเมื่อย ก็นั่งพักและพายไปเรื่อยได้นะ พาย SUP Board มาใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว วิวดี มุมดีมาก เหมาะกับการถ่ายภาพสุด ๆ จุดไฮไลท์ของทริปนี้แหละ นั่งมองรถไฟที่กำลังเคลื่อนตัวช้า ๆ ข้ามสะพานแม่น้ำแคว บรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน กับวิวสะพานข้ามแม่น้ำแคว สวยงามมาก ๆ เลยจ้า

Stand Up Paddle Board อ่านเพิ่มเติม

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

เนินช้างศึก หรือ ยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอิต่อง ที่นี่เป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ที่ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนไทย-พม่า บริเวณนี้มีเพียงที่พักเจ้าหน้าที่ ตชด. และห้องสุขา ไม่มีบ้านพัก ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ จากจุดชมวิวด้านทิศตะวันตกเราจะเห็นหมู่บ้านอิต่องที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล หากอยากพักค้างแรม ที่หมู่บ้านก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกหลายเจ้าเลยล่ะ เนินช้างศึกเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ของแนวเขาที่สลับซับซ้อนได้แบบ 360 องศา อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ทุ่งหญ้าบนเนินจะเปลี่ยนสีแตกต่างกันไปตามฤดูกาล สวยงามทุกฤดูเลย ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกด้วยนะ และในช่วงฤดูหนาวก็จะมีหมอกปกคลุมบริเวณยอดเขา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามและบรรยากาศดี แบบนี้ต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าไปเที่ยวแล้วล่ะ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีโทร. 034 511 200, 034 512 500 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 ธันวาคม 2562

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวป้อมปี่

ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ หลายคนคงนึกถึงอากาศหนาวเย็นและสายลมบางๆ ที่พัดผ่านมาสัมผัสผิวกาย รวมทั้งไอหมอกที่บ่งบอกว่าตอนนี้กำลังเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว…..และในช่วงที่อากาศเย็นสบายแบบนี้ การได้ไปกางเต็นท์นอนดูดาว รอชมพระอาทิตย์ตกนั้น ช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษไม่น้อยเลยทีเดียว.หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี แอดขอแนะนำที่นี่เลย “จุดชมวิวป้อมปี่” เพราะที่นี่มีทุกสิ่งที่เราต้องการ.จุดชมวิวป้อมปี่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีhttps://goo.gl/maps/cZEY9HPtHaCU7VJy9 . เกร็ดความรู้ : “ป้อมปี่” เพี้ยนมาจากคำว่า “เปอปี่” ซึ่งเป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า “ต้นอ้อ” “จุดชมวิวป้อมปี่” ตั้งอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ซึ่งเป็นสถานที่ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาที่เขียวขจีและผืนน้ำอันนิ่งสงบ บอกได้เลยว่าที่แห่งนี้นั้นเหมาะแก่การรับลมเย็นๆ และพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ค่าเข้าชม– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท.ค่าธรรมเนียมยานพาหนะ– รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน– รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน.ค่าที่พัก– เต็นท์ขนาดเล็กนอนได้ 2-3 คน ราคา 225 บาท/คืน– หากนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คืน.ปล.ที่นี่มีห้องน้ำรวมไว้ให้บริการ ส่วนไฟฟ้าเพื่อนๆ สามารถใช้ได้ที่ศูนย์อำนวยการค่ะ นอกจากเราจะได้นอนกางเต็นท์พร้อมชมธรรมชาติที่สวยงามแล้ว การทำอาหารด้วยตนเองแอดบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ เพราะเราจะได้โชว์ฝีมือการทำอาหาร อีกทั้งยังได้เรียนรู้การพึ่งพาตนเองอีกด้วย.หากใครที่ไม่ได้เตรียมเตาปิ้งย่างมาด้วย สามารถขอเช่าได้ที่ศูนย์อำนวยการ ราคาชุดละ 100 บาทค่ะ ทำอาหารเสร็จแล้ว เราก็มารอชมพระอาทิตย์ตกกันดีกว่าค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจุดชมวิวป้อมปี่นั้น เป็นสถานที่ที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามอีกจุดหนึ่งของกาญจนบุรีเลยทีเดียว.ที่นี่เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตค่อยๆ คล้อยต่ำลงและหายลับไป เหมือนกับว่าพระอาทิตย์กำลังตกน้ำยังไงยังงั้นเลยค่ะ นอกจากบรรยากาศยามเย็นจะสวยงามแล้ว บรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่ก็ฟินไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยค่ะ เพราะเราจะได้ชมดวงดาวนับร้อยนับพันที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งหากโชคดียังมีโอกาสได้ชมทางช้างเผือกอีกด้วย.ปล.แนะนำว่าอย่านอนดึกนะคะ เพราะหากตื่นสายเพื่อนๆ จะอดเห็นไอน้ำที่ดูคล้ายหมอก ที่ลอยอยู่เหนือบริเวณอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นความงดงามอีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้หลายคนเดินทางมายังจุดชมวิวป้อมปี่แห่งนี้นั่นเองค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 ตุลาคม 2562

จุดชมวิวป้อมปี่ อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– RAVI RIVA Café– เมืองมัลลิกา ร.ศ.124– The For Rest Resort วันที่ 2– สถานีรถไฟน้ำตก– ถ้ำกระแซ– สะพานข้ามแม่น้ำแคว– ต้นจามจุรียักษ์– BRAME Tea & Taste RAVI RIVA Café.กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แอดขอเริ่มต้นการเดินทางที่คาเฟ่ริมน้ำ “ราวี รีวา” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นร้านกาแฟสไตล์สวนอังกฤษ วินเทจเบา ๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ สำหรับคนรักการถ่ายรูป บอกเลยว่าถูกใจแน่นอน ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนเรือนกระจกและโซนริมน้ำ สำหรับโซนเรือนกระจกมีประมาณ 3 หลัง แต่ละหลังตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด รวมไปถึงของสะสมหลากหลายชิ้น มีทั้งเซรามิก แก้ว จาน ชามแนววินเทจตั้งโชว์อย่างสวยงาม สำหรับโซนริมน้ำจะติดกับแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งจะแยกออกมาจากตัวร้านและข้ามถนนมาอีกฝั่ง จะเป็นมุมถ่ายรูปที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว มีทั้งเก้าอี้ไม้ เปลตาข่าย ที่เราสามารถไปนั่งแช่เท้ากันได้อย่างชิล ๆ บอกเลยว่าชุดต้องจัดเต็มนะคะ สวยทุกมุมจริง ๆ เมนูอาหารมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารจานเดียว ของกินเล่น เบเกอรีและเครื่องดื่มก็มีพร้อมเสิร์ฟทุกเมนู เลือกกันได้ตามชอบเลย.ที่ตั้ง 87/2 หมู่ 2 ท่าแค ซอย 3 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 09 0909 8950 เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เมืองมัลลิกา เป็นเมืองจำลองย้อนยุคในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ร.ศ.124 ที่ยกมาทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ อีกทั้งยังมีอาหารและขนมโบราณหากินยากให้เราได้ลิ้มลองกันอีกด้วย ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดสุดคือ การเลิกทาส ภายในเมืองมัลลิกามีจุดที่น่าสนใจให้เราได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านการค้า สะพานหัน หอชมเมือง เรือนคหบดี เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนแพ โรงครัว ลานมะลิ และห้องเล่าเรื่อง ในย่านค้าขายภายในเมืองจะใช้ “เงินรู” เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นเงินตราที่ใช้กันในสมัยโบราณทั้งสมัยสุโขทัยและอยุธยา ไฮไลต์ห้ามพลาดคือการแต่งชุดไทย ห่มสไบให้เข้ากับบรรยากาศ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดไทยได้ที่จุดบริการเช่าชุดไทย หรือใครจะแต่งมาเองก็ได้เช่นกัน เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่เมืองมัลลิกาแต่งชุดไทยกันทุกร้าน แม้แต่ภาษาที่ใช้สื่อสารจะลงท้ายด้วยขอรับและเจ้าค่ะ เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังให้บริการอาหารไทยโบราณแบบบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็นสำหรับช่วงเย็นจะมีการแสดงนาฏศิลป์ด้วยนะคะ หากใครซื้อบัตรอาหารเย็นพร้อมชมการแสดง ก็จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เลย**สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน** ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 200 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 100 บาทบัตรเข้าชม+ชุดไทย 350 บาทบัตรเข้าชม+อาหารกลางวัน(บุฟเฟต์) 450 บาทบัตรเข้าชม+อาหารกลางวัน(บุฟเฟต์)+ชุดไทย 600 บาท.168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 17.00 น.)โทร. 034 540 884, 063 221 4564 The For Rest Resort.สำหรับเย็นวันนี้เราเดินทางมาที่ The For Rest Resort ตั้งอยู่ที่อำเภอไทรโยค ริมน้ำแคว หากใครเหนื่อยล้าจากการทำงาน อยากพักผ่อนชิล ๆ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจท่ามกลางป่าเขาและสายน้ำ บรรยากาศดีสุด ๆ ยิ่งได้มากับแก๊งค์เพื่อนยิ่งสนุกเลยละ ที่นี่เป็นที่พักแบบแพริมน้ำแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ห้องธรรมดา ห้อง Sweet Rooms และห้อง VIP Rooms ซึ่งทุกห้องจะมีระเบียงชมวิวส่วนตัว รวมถึงเปลตาข่ายที่เป็นจุดเด่นของแพริมน้ำแห่งนี้ด้วยราคาเริ่มต้น 1,200 – 1,500 บาท ราคานี้รวมอาหารเย็น อาหารเช้า(บุฟเฟต์) และล่องแพเรียบร้อย.นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายไม่ว่าเป็น สระว่ายน้ำ จุดจำหน่ายของใช้ส่วนตัวและขนมต่าง ๆ สำหรับไฮไลต์ห้ามพลาด คือกิจกรรมยอดฮิตอย่างล่องแพเปียก บอกเลยว่าใครไปแล้วต้องห้ามพลาด ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึงนะ สำหรับการล่องแพนักท่องเที่ยวจะต้องสวมชูชีพเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง แพจะถูกลากไปตามแม่น้ำ ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที จนถึงจุดปล่อยให้นักท่องเที่ยวโดดน้ำกันได้อย่างสนุกสนาน ว่ายน้ำลอยคอกลับรีสอร์ทกันเอง สำหรับรอบล่องแพมีทั้งหมด 3 รอบรอบที่ 1 เวลา 15.30 น.รอบที่ 2 เวลา 16.30 น.รอบที่ 3 เวลา 17.30 น. บรรยากาศระหว่างทางบอกได้เลยว่าดีมาก มองทางไหนก็สดชื่นไปหมด แล้วสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่หากไปในช่วงฤดูฝนจะมีหมอกยามเช้าสวยงามไม่แพ้ฤดูหนาวเลยละ.99/15 หมู่ 8 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน 08.00-22.00 น.โทร. 06 1545 7887, 09 5526 4478 สถานีรถไฟน้ำตก.แวะถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ “สถานีรถไฟน้ำตก” เดิมชื่อ “สถานีท่าเสา” ซึ่งมาจากชื่อของหมู่บ้าน สร้างในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเปลี่ยนจากชื่อ สถานีท่าเสาเป็นสถานีน้ำตก เนื่องจากเป็นชื่อที่คล้องกับสถานีรถไฟท่าเสา ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และเพื่อให้คล้องกับสถานที่ใกล้เคียงของสถานีรถไฟน้ำตก คือน้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง)

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Go 5 Adventures

Go 5 Adventures.ปีนผา อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่.สำหรับกิจกรรมปีนผาเป็นอะไรที่ท้าทาย โดนใจวัยรุ่น และเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนอกจากจะได้ท้าทายความสูงแล้ว ยังได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกายเลยนะ แถมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ อีกด้วย ซึ่งที่อ่าวไร่เลย์นี้ก็นับว่ามีแนวหินปูนสวยงามที่เหมาะแก่การปีนผาเป็นอย่างยิ่ง มีนักท่องเที่ยวมาท้าทายความสูงที่นี่กันอย่างมากมายเลยล่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพีค ที่ไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้าเป็นสถานที่ล่องแก่งที่ตื่นเต้นและสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ลำน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ลำน้ำว้าตอนบน ตอนกลางและตอนล่าง สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าแต่ละช่วงจะมีฤดูการล่องแก่งที่แตกต่างกัน มีระดับความยากตั้งแต่ระดับ 3 – 5 หากใครยังไม่เคยมาลอง ครั้งหน้าอย่าพลาดนะ รับประกันความมันแน่นอน ขับรถ ATV จังหวัดนครนายก.สายลุย สายผจญภัย ต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้! กับการขับรถ ATV บนพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีครบทุกรสชาติ เพื่อนๆ จะได้ลุยโคลน ลงคลอง ผ่านหลุมขรุขระ ทั้งแนวราบและแนวสูงชัน สนุกสนานเต็มที่แน่นอน บอกไว้ก่อนเลยว่าตลอดเส้นทางมีทั้งความตื่นเต้นและความเสียวปะปนกันไป และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดนะคะ ขี่ช้าง สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี.มาดูโหมดผจญภัยเบาๆ กันบ้างค่ะ การขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่ง เพราะเราจะได้ใกล้ชิดกับช้างท่ามกลางธรรมชาติ ได้ข้ามลำห้วย บุกป่า ขึ้นเขาผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งเราจะได้อยู่บนหลังช้างประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยล่ะ Tree Top Adventure Park กิจกรรมสุดท้ายกลางป่าใหญ่ เป็นกิจกรรมที่ให้เราได้ปืนป่ายไปบนสะพานแขวนแคบๆ ซึ่งจะพาเราลัดเลาะไปตามยอดไม้ โดยมีสายรัดตัวที่ใช้ล็อกกับลวดสลิงเพื่อความปลอดภัยให้สวมใส่ อาจจะดูหวาดเสียวแต่ไม่น่ากลัวเลย ถ้าเราปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ นอกจากเราจะได้ความตื่นเต้นแล้ว ยังได้ชมวิวจากมุมสูงอีกด้วยนะ หวาดเสียวคูณสองไปเลย สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายแล้ว เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน Tree Top Adventure Park มีให้บริการอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ตราด(เกาะช้าง) และกระบี่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กันยายน 2562

Go 5 Adventures อ่านเพิ่มเติม

แต่งไทยไปย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จังหวัดกาญจนบุรี

เมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคที่จำลองวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ร.ศ.124 ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้เป็นไทก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป ต้องออกมาทำมาหากินด้วยตนเอง เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต กลายเป็นรากเหง้าที่สำคัญของคนไทยในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดไทยได้ที่จุดบริการเช่าชุดไทย หรือใครจะแต่งมาเองก็ได้เช่นกันค่ะ ภายในเมืองมัลลิกามีจุดที่น่าสนใจให้เราได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านการค้า สะพานหัน หอชมเมือง เรือนคหบดี เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนแพ โรงครัว ลานมะลิ และห้องเล่าเรื่อง ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 พ่อค้าแม่ค้าที่เมืองมัลลิกาจะแต่งชุดไทยกันทุกร้านเลยค่ะ ภาษาที่ใช้จะลงท้ายด้วยขอรับและเจ้าค่ะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคจริงๆ ในย่านค้าขายภายในเมืองจะใช้ “เงินรู” เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นเงินตราที่ใช้กันในสมัยโบราณทั้งสมัยสุโขทัยและอยุธยา นอกจากนี้ยังมีบริการ “รถลาก” หรือรถเจ๊ก ซึ่งเป็นรถที่ใช้คนลากไปรอบเมือง ราคา 50 บาท/เที่ยว จุดนี้เรียกว่า “สะพานหัน” เดิมสร้างเป็นสะพานไม้แผ่นเดียวพาดข้ามคลอง ปลายข้างหนึ่งตรึงแน่นกับที่ ส่วนอีกข้างไม่ตอกติด สำหรับจับหันไปมาเพื่อให้เรือแล่นผ่านได้ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 สร้างใหม่เป็นสะพานโครงเหล็กพื้นไม้ และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนทำเป็นสะพานไม้โค้งขนาดใหญ่ ที่สองฟากของสะพานมีห้องแถวเล็กๆ ให้ขายของ ส่วนตรงกลางเป็นทางเดิน แบบเดียวกับสะพานริอัลโต เมืองเวนิส และสะพานปองเตเวกคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เดินข้ามสะพานหันก็มีพ่อค้าแม่ค้าขายของหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ขนมโบราณ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ผลไม้แห้งก็มี ผลไม้แช่อิ่มก็มา หากใครเดินมาถึงบริเวณเรือนไทย ก็จะเห็นว่าโดยรอบมีการจำลองการทำไร่ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก สีข้าว ทอผ้า และจักสาน เพื่อแสดงถึงวิถีของชาวบ้านในสมัย ร.ศ.124 มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบเลยค่ะ ชุดไทยสวยๆ กับเรือนไทยงามๆ เข้ากันสุดๆ  นอกจากนี้ที่นี่ยังให้บริการอาหารไทยโบราณแบบบุฟเฟ่ต์ มีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น สำหรับช่วงเย็นจะมีการแสดงนาฏศิลป์ด้วยนะคะ หากใครซื้อบัตรอาหารเย็นพร้อมชมการแสดง ก็จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เลย **สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน** การแสดงมีทั้งหมด 6 ชุด นอกจากโขนแล้วยังมี รำกินรีร่อน ระบำศรีชัยสิงห์ กระบี่กระบอง รำซัดชาตรี และประทีปรัตนโกสินทร์ แผ่นดินมัลลิกา ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนกันไป สำหรับในภาพนี้เป็นการแสดงโขน ชุดทศกัณฐ์รบพระราม (ยกรบ) ค่ะ และที่เราเห็นสูงๆ นั่นคือหอชมเมืองค่ะ จำลองมาจากหอคอยในคุก ที่ใช้สำหรับตรวจตราป้องกันไม่ให้นักโทษหนีนั่นเอง เมืองมัลลิกาใช้หอคอยนี้เป็นหอชมเมือง ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กันยายน 2562

แต่งไทยไปย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จังหวัดกาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

Safari Park กาญจนบุรี

ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์คนส่วนใหญ่มักจะใช้ช่วงเวลานี้หากิจกรรมทำร่วมกับคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือเพื่อน ๆ ซึ่งบางคนก็เลือกที่จะใช้เวลาอยู่บ้าน บางคนก็เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วเพื่อน ๆ ละคะ เลือกทำกิจกรรมแบบไหนในวันหยุด? . หากเพื่อน ๆ คนไหนเลือกที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวให้มารวมตัวกันตรงนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มาแนะนำ รับรองได้ว่าจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน . สถานที่ท่องเที่ยวที่ว่าก็คือ Safari Park & camp นั่นเองค่ะ สถานที่แห่งนี้เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกและแห่งเดียวของจังหวัดกาญจนบุรี ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม เนื่องจากภายในสวนสัตว์แห่งนี้มีสัตว์หลากหลายชนิดและกิจกรรมถ่ายรูปเก๋ ๆ กับเจ้ายีราฟอย่างใกล้ชิด ค่าเข้าชม – แบบธรรมดาผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท – แบบ Private พร้อมถ่ายรูปคู่กับยีราฟราคาคนละ 1,000 บาท(แบบ Private จะมีทั้งหมดวันละ 13 รอบรอบแรกเริ่มเวลา 09.00 น. รอบสุดท้ายเวลา 15.30 น. ใช้เวลารอบละประมาณ 30 นาที). ต้องจองล่วงหน้าผ่าน Facebook เท่านั้น https://www.facebook.com/SafariparkOpenZoo/ ค่าอาหารป้อนสัตว์ชุดละ 100 บาท (จะซื้อหรือไม่ก็ได้) หากใครซื้อบัตรแบบธรรมดา ก็สามารถเลือกได้ว่าจะขับรถยนตร์ส่วนตัวเข้าไปเอง หรือนั่งรถมินิบัสนำชมที่ทาง Safari Park & camp จัดไว้ให้.หากเลือกนั่งรถมินิบัสนำชม นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นตอนถ่ายรูป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั่นเองค่ะ ก่อนจะเดินทางเข้าไปภายในสวนสัตว์ เจ้าหน้าที่จะประกาศกฎที่สำคัญ คือ หากขับผ่านช่วงที่มีเสือโคร่ง เสือดาว และสิงโต รถทุกคันต้องปิดกระจก เพื่อความปลอดภัยของทุกคนค่ะ ภายใน Safari Park & camp มีสัตว์มากมายให้เราได้ชม ไม่ว่าจะเป็นกวาง เสือดาว สิงโต นกกระจอกเทศ ม้าลาย ยีราฟ เป็นต้น.สำหรับกวาง ม้าลาย และยีราฟ เราสามารถป้อนอาหารที่เราซื้อมาจากจุดซื้อตั๋วได้ด้วยตัวเองแบบใกล้ชิดเลยค่ะ และไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำลายว่าจะสกปรกหรือมีแบคทีเรียนะคะ เพราะทางสวนสัตว์ดูแลอย่างดี มีแพทย์เข้ามาตรวจสุขภาพของสัตว์ทุกตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง . Safari Park & camp ที่ตั้ง: 40/2 หมู่ 5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.โทร. 0 3467 8225, 08 6300 0667พิกัด: https://goo.gl/maps/XtXtSyFf6UCyxyzs6 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 31 กรกฎาคม 2563

Safari Park กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

“หมู่บ้านอีต่อง” จ.กาญจนบุรี

หมู่บ้านอีต่อง เดิมเป็นเหมืองแร่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ต่อมาได้ปิดตัวลงเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจ หมู่บ้านอีต่องถือเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีและบริสุทธิ์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญยังมีอากาศเย็นตลอดทั้งปีอีกด้วยค่ะ ในยามเช้าเพื่อนๆ จะได้พบกับไอหมอกจางๆ ลอยตัดกับแสงแดด ณ บริเวณบ่อน้ำกลางหมู่บ้าน นับเป็นภาพบรรยากาศที่ติดตาตรึงใจสุดๆ เลยละค่ะ เมื่อเดินเล่นไปเรื่อยๆ เราก็จะได้พบกับมุมถ่ายรูปยอดฮิต ก็คือ ราวสะพานที่มีป้ายไม้มากมายห้อยไว้เต็มไปหมด.ป้ายไม้เหล่านี้เป็นป้ายที่ผู้มาเยือนได้เขียนข้อความต่างๆ และนำมาแขวนไว้ ไม่ว่าจะเป็นความประทับใจที่ได้เดินทางมาที่นี่ ชื่อของตัวเองและคนรัก หรือแม้กระทั่งขอพรก็ยังมี เมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวเนินช้างศึก เพราะนอกจากความสวยงามของดวงอาทิตย์ที่กำลังอัสดงแล้ว เพื่อนๆ ยังจะได้ชมทิวทัศน์ของชายแดนไทย-พม่าอีกด้วยค่ะ ความวุ่นวายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ หากเราจมอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากจะหาทางแก้ไขไม่ได้แล้วยังทำให้เกิดความเครียดอีกด้วย การได้ออกเดินทางท่องเที่ยว หลีกหนีความวุ่นวายไปสูดอากาศบริสุทธิ์ แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้เราแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่จะทำให้เราได้หยุดคิดพิจารณา และสุดท้ายเราอาจพบว่าปัญหาต่างๆ ไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดก็เป็นได้… เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 29 มกราคม 2562

“หมู่บ้านอีต่อง” จ.กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

Kan Machi Cafe กาญจนบุรี

ถ้าพูดถึงร้านกาแฟในเมืองกาญจนบุรีตอนนี้ Kan Machi Cafe คงเรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่มาแรงแซงทุกทางโค้งเลยก็ว่าได้ ด้วยสไตล์การตกแต่งแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จึงทำให้มีผู้คนแวะเวียนกันมาเป็นจำนวนมาก Kan Machi Cafe มีที่มาจากความชอบและหลงใหลในร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นของเจ้าของร้าน จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดร้านในแนวที่ตนเองชื่นชอบนั่นเองค่ะ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ว่าจะโซนในร้านหรือด้านนอกก็เก๋ไก๋ไปหมด อย่างกับอยู่ญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย ขนาดบริเวณหน้าห้องน้ำก็ยังเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเลยนะจะบอกให้ ถ้าใครอยากมาทานอาหารและถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ แอดแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ นะคะ เพราะช่วงเที่ยงโดยเฉพาะวันหยุด คนจะเยอะมาก ที่นี่ให้บริการทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ซึ่งเครื่องดื่มก็จะเป็นพวกชากาแฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวมัทชะ นมเย็น ชานมไข่มุก กาแฟ โกโก้ เป็นต้น มาดูขนมหวานกันบ้าง แอดขอแนะนำนี่ “ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี” ลูกใหญ่มากๆ บอกเลยว่าใครได้ลองจะต้องติดใจ  ที่ตั้ง 55/55 หมู่ 2 ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีเปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00 – 19.00 น.โทร 094 592 6553พิกัด https://goo.gl/maps/TKee2trkbU6kVDPTA

Kan Machi Cafe กาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม