#กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายประเภท วันนี้แอดจะชวนมาปักหมุดเส้นทางเที่ยว #ทองผาภูมิ ในหน้าฝนที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ให้เพื่อน ๆ ได้ไปซึมซับกับธรรมชาติ กลิ่นอายสายฝน สายหมอก แถมยังเอาใจคอกาแฟอีกด้วย จะไปไหนกันบ้าง ไปดูกัน เส้นทางท่องเที่ยวในอำเภอทองผาภูมิ เพื่อน ๆ สามารถเที่ยวได้ทั้งแบบ 2 วัน 1 คืน หรือหากมีเวลามากหน่อย ก็สามารถเที่ยวแบบชิล ๆ 3 วัน 2 คืนได้ 1 ชม “บ้านสวนลุงยี” แหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าภาคกลาง (Ko-Yee Organic Farm) 2 ล่องแพ ชมวิว ที่ “เขื่อนวชิราลงกรณ” 3 ชมธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก ที่ “อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ” 4 สัมผัสเมืองหมอก ณ “หมู่บ้านอีต่อง-ปิล็อก” 5 ชมวิวสุดเขตแดนสยาม บน “เนินเสาธง” 6 ชมวิวแบบ 360 องศา ที่ “เนินช้างศึก” การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอทองผาภูมิ แนะนำให้เดินทางโดยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือสามารถนั่งรถโดยสารสาธารณะได้ดังนี้ รถโดยสารปรับอากาศจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – กาญจนบุรี (อำเภอเมือง) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ท่ากรุงเทพฯ 065 552 5145 ท่ากาญจนบุรี 034 514 572, 089 836 6463 รถตู้ รถมินิบัสขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต และขนส่งสายใต้ใหม่ สายกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี (อำเภอเมือง) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมอชิต โทร. 098 739 8034 สายใต้ใหม่ โทร. 086 311 1426 กาญจนบุรี โทร. 064 409 4706 รถไฟมีรถไฟเที่ยวพิเศษเส้นทาง กรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) – ผ่านอำเภอเมืองกาญจนบุรีแล้วสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ให้บริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งขาไปและขากลับวันละ 1 เที่ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 การเดินทางจากอำเภอเมือง ไปทองผาภูมิ สามารถต่อรถประจำทาง ที่ผ่านอำเภอทองผาภูมิ โดยลงที่หน้าตลาดอำเภอทองผาภูมิ มีทั้งรถตู้ และรถบัสพัดลมให้บริการดังนี้– รถตู้และรถมินิบัส กาญจนบุรี – ด่านเจดีย์สามองค์– รถบัสพัดลม (บัสแดง) สายกาญจนบุรี-สังขละบุรี (เบอร์รถ 8203)เมื่อถึงหน้าตลาดทองผาภูมิแล้ว สามารถเช่ารถสองแถวเที่ยวภายในอำเภอได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางของเส้นทางท่องเที่ยว บ้านสวนลุงยี ศูนย์เรียนรู้การปลูกกาแฟภาคกลาง เริ่มกันที่บ้านสวนลุงยี ในอำเภอทองผาภูมิ ไร่กาแฟภาคกลางที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นกาแฟคั่วใหม่ เจ้าของไร่วัยเกษียณเล่าว่า อดีตเคยทำธุรกิจในต่างประเทศ เมื่อตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเรียบง่าย จึงมองหาสิ่งที่สนใจเมื่อกลับมาอยู่ไทย จนกระทั่งมีโอกาสได้เรียนรู้และศึกษาข้อมูลการปลูกกาแฟจนประสบความสำเร็จ ที่นี่ปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา ด้วยวิธีแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้กาแฟไร้สารเคมีปนเปื้อน ไม่เพียงแค่นั้น ที่นี่ยังคั่วและจำหน่ายเมล็ดกาแฟเองอีกด้วย เพื่อน ๆ จะได้ชิมกาแฟคั่วหอม ๆ จากแหล่งปลูกเลยล่ะ บ้านสวนลุงยี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมและทำกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บผัก ให้อาหารไก่ เพราะนอกจากจะเป็นไร่กาแฟแล้ว ที่นี่ยังทำเกษตรผสมผสานด้วย เรียกได้ว่า หาหยิบเก็บเอาจากในรั้วเลยล่ะ นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังจะได้ชิมขนมปังโฮมเมดที่อบใหม่จากฟาร์ม กินคู่กับกาแฟแล้วเข้ากันสุด ๆ หากสนใจพักค้าง ที่นี่ก็มีที่พักให้บริการ แถมตื่นเช้ามายังสามารถมาใส่บาตรให้อิ่มใจได้ด้วย หรือจะไปนั่งเล่นริมลำธารที่ติดกับสวนกาแฟก็ได้ เพื่อน ๆ ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายมาสัมผัสความสงบ บ้านสวนลุงยีตอบโจทย์มาก ๆ แนะนำให้ติดต่อสอบถามรายละเอียดกิจกรรมและค่าบริการล่วงหน้า และที่ต้องแจ้งเพื่อน ๆ อีกเรื่องคือ ที่นี่จะมีสัญญาณโทรศัพท์ค่อนข้างอ่อน อาจทำให้การติดต่อมีติดขัดบ้าง ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 081 587 8600, 081 829 0696 https://goo.gl/maps/LLvMEYQtM7i21qhK9 เขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) วันที่สอง แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมเขื่อนวชิราลงกรณกัน แนะนำให้มาเช้า ๆ นะ อากาศกำลังดี เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์ที่กั้นลำน้ำแควน้อย มีความสูงถึง 92 เมตร โอบล้อมด้วยขุนเขาที่ทอดยาวสุดสายตา อยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขณะท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อน อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานที่กันนะคะ จุดแรกคือ “เขาแหลม สกายวอล์ก” เป็นสะพานทางเดินกระจกใส ระยะทาง 34 เมตร มองเห็นวิวธรรมชาติได้อย่างกว้างขวาง แถมด้านข้างสกายวอล์กมีเนินสนามหญ้าและมีอุปกรณ์สไลเดอร์ให้เพื่อน ๆ ได้เล่นกันด้วย หากรู้สึกหิว สามารถแวะรับประทานอาหารในร้านที่อยู่ติดกับสกายวอล์กได้ เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00-20.00 น. และในช่วงหยุดยาว ก็มักจะมีกิจกรรมออกร้านขายผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรอีกด้วย สุดขอบทางเดินสกายวอล์กมีม่านน้ำตกอันสวยงาม ถ้ามาที่นี่ในยามค่ำคืน เพื่อน ๆ ก็จะได้ชมไฟที่ประดับรอบ ๆ สกายวอล์กด้วย หากนึกภาพไม่ออก แอดมีภาพบรรยากาศตอนค่ำ ๆ มาให้ชมกัน ถัดมาแอดจะพาไปปั่นจักรยานเล่นที่สันเขื่อน ซึ่งอยู่ห่างจากสกายวอล์กไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถนนสันเขื่อนนี้กว้างถึง 10 เมตร