สมุทรสงคราม

สมุทรสงคราม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย

วันนี้บัดดี้ขอแนะนำ 6 ตลาดน้ำ เพื่อเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ตามรอยบ้าง ออกไปสัมผัสวิถีชีวิต กินอาหารชุมชน พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ วางแผนแล้วไปกัน อย่าลืม ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มแยมทักทาย ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวนะคะ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ตลาดน้ำยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2.30 ชั่วโมง พ่อค้า แม่ค้าขายสินค้าทั้งบนเรือและบนฝั่ง เริ่มค้าขายตั้งแต่เวลา 07.00 น. ไปจนถึงช่วงประมาณ 13.00 น. มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งอาหาร ขนมหวาน มีบริการล่องเรือไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงทั้งแบบเรือพาย นั่งไม่เกิน 5 ท่านและเรือยนต์ นั่งไม่เกิน 6 ท่าน เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. สอบถามข้อมูล– ท่าเรือยุวันดา โทร. 08 5222 7470– ท่าเรือหญิงกอล์ฟ โทร. 08 0237 5199– ท่าเรือแป๊ะ โทร. 08 7111 1624– ท่าเรือประเมศฐ์ โทร. 08 5186 3361https://maps.app.goo.gl/NtruRwaxrbdrjK7r8 ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำที่นี่ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นตลาดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างเข้ามาสัมผัส ด้วยเสน่ห์ของเรือนแถวไม้ริมน้ำกับการสัญจรทางน้ำ และการค้าขายด้วยเรือจนเป็นภาพชินตา เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบนบกและบนเรือ ช่วงค่ำนั่งเรือชมหิ่งห้อย นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเรือท่องเที่ยวได้ที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือติดต่อผ่านที่พักและโฮมสเตย์ โดยเรือจะล่องไปตามลำน้ำแม่กลองหรือคลองย่อยต่าง ๆ เปิดบริการทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.30 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 3433 5613https://maps.app.goo.gl/RHs6vynSbKVi9tSJ8 ตลาดน้ำดอนหวาย จังหวัดนครปฐม ตลาดน้ำใกล้กรุงอีกแห่งที่แนะนำ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่มีของกินมากมาย อร่อยทุกร้าน และเป็นอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมอีกด้วย เช่น เป็ดพะโล้ ต้มเค็มปลาทู ต้มเค็มปลาตะเพียน ขนมจีนน้ำยากะทิ น้ำยาป่า ห่อหมกปลาช่อน ทอดมันปลากรายแท้ และขนมไทยโบราณ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักกินโดยแท้ ยังมีผักและผลไม้ที่ส่งตรงมาจากสวนชาวบ้านให้เลือกซื้อกันอีก บรรยากาศก็โดนใจกับกลิ่นอายย้อนยุค ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่ตามแพและเรือนริมน้ำ สามารถล่องเรือแม่น้ำท่าจีนชมวิวสองฝั่ง วิถีบ้านริมน้ำได้ ตลาดเปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. เรือศรีสวัสดิ์ย้อนยุค โทร. 08 1448 8876, 08 1659 5805https://maps.app.goo.gl/gRwg4c4WwTqSUwUf6 ตลาดน้ำขวัญเรียม รามคำแหง กรุงเทพฯ ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่เดินทางได้ง่าย ที่นี่เป็นตลาดน้ำกลางกรุงที่จำลองวิถีชีวิตริมน้ำผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ ได้แก่ การตักบาตรทางเรือ และงานทอดผ้าป่าทางน้ำ พร้อมเลือกชิมอาหารคาวและขนมหวานจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งบนฝั่งและนั่งเรือ เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 1357 1545https://maps.app.goo.gl/cNq5sH4mEJVGqwDj8 ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เป็นตลาดน้ำยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำหน่ายอาหารและขนมไทยหลายชนิด อีกทั้งของตกแต่งบ้าน ของใช้ประเภทต่าง ๆ เสื้อผ้า และเครื่องปั้นดินเผา และมีกิจกรรมล่องเรือคลองบางระมาด เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนโดยรอบตลาดน้ำ และล่องเรือไปบ้านขนมไทยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความอร่อย และเลือกซื้อเป็นของฝาก เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 0 2422 4270https://maps.app.goo.gl/eR7cGmLfNgXtfyZt6 ตลาดน้ำคลองบางหลวง ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีการนำเสนอเอกลักษณ์วิถีชุมชน ซึ่งยังสะท้อนภาพชุมชนดั้งเดิมได้จากเรือนแถวไม้ค้าขายสินค้าสองฟากถนนและเรือนแถวไม้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ แก่ผู้ที่มาท่องเที่ยวชื่นชมบรรยากาศริมน้ำ นอกจากนี้ยังมีบ้านศิลปินคลองบางหลวง บ้านไม้ทรงมะนิลา ตัวเรือนลักษณะเป็นรูปตัวแอล มีเจดีย์เก่าแก่อยู่ภายในพื้นที่บ้าน สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์กำหนดหนึ่งในสี่ทิศของวัดกำแพงบางจาก บ้านศิลปินเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะมากมาย ชั้นบนเป็นแกลเลอรี จัดแสดงภาพวาด ภาพถ่าย ชั้นล่างจำหน่ายของที่ระลึก โปสการ์ดแนวศิลปะต่าง ๆ และมีกิจกรรมงานฝีมือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ บ้านศิลปินเปิดทุกวัน ตลาดเปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 09 8097 0468https://maps.app.goo.gl/cBS8HZEZov2U4euP7

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย อ่านเพิ่มเติม

ครัวคุณจ๋า สมุทรสงคราม

หากพูดถึงตำบลยี่สาร จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูกัน เนื่องจากเป็นตำบลที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองเป็นอย่างมาก แต่อยากจะบอกว่าที่นี่มีของเด็ดที่ทุกคนห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสมาเยือนนั่นก็คือ “กะปิคลองโคน” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเคยตาดำ กะปิคลองโคน หรือเคยตาดำ มีกรรมวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์มาจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน และยังมี ชะคราม พืชท้องถิ่นที่ถูกยกให้เป็นผักแห่งเมือง 3 น้ำ บ่งบอกความเป็นยี่สารได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยจะขึ้นเฉพาะสภาพพื้นที่ที่เป็นป่าชายเลนเท่านั้น วันนี้เลยอยากพาทุกคนไปชิมของดีของอร่อยจากการนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปประกอบอาหารที่ร้าน “ครัวคุณจ๋า” ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการทำอาหารพื้นบ้านแห่งวัดเขายี่สาร โดยเมนูที่ทุกคนห้ามพลาดเมื่อมาถึงร้านนี้ คือ น้ำพริกกะปิของร้าน (ซึ่งอยากกระซิบบอกว่า กะปิคลองโคนของที่นี่ขึ้นชื่ออร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ) โดยเสิร์ฟมาคู่กับใบชะครามลวกราดน้ำกะทิ เป็นเมนูที่ให้ความรู้สึกถึงรสชาติความกลมกล่อมของน้ำพริกกะปิที่ตัดด้วยความหวานนุ่มของใบชะครามลวก เมื่อกินกับข้าวสวยร้อน ๆ รับกับลมเย็น ๆ ให้ความรู้สึกถึงการกินอยู่อย่างยี่สาร นอกจากเมนูที่แนะนำอยากให้ลองชิมกันแล้ว ทางร้านยังมีเมนูอร่อย ๆ ที่ทำจากวัตถุดิบอาหารทะเลสด ๆ ในพื้นที่อีกมากมาย ทั้งปลาหมอเทศแดดเดียว ปลาทูทอดน้ำปลา แกงส้มใบชะคราม ปลาหมึกนึ่งมะนาว  กุ้งแช่น้ำปลา บอกได้เลยว่าหากได้มาจังหวัดสมุทรสงคราม อย่าลืมมาแวะร้าน “ครัวคุณจ๋า” กันนะคะ เพื่อน ๆ จะติดใจจนอยากกลับมาอีกครั้ง ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม 08 1808 2701 Facebook ร้านครัวคุณจ๋า วัดเขายี่สาร

ครัวคุณจ๋า สมุทรสงคราม อ่านเพิ่มเติม

 เส้นทางเบญจภาคีไหว้พระ 5 วัด

ใครกำลังหาที่ทำบุญไหว้พระ บัดดี้จะพาไปไหว้พระใกล้กรุง 5 องค์ 5 จังหวัด หรือที่เรียกกันว่า “เส้นทางเบญจภาคีวารีปาฏิหารย์” เชื่อกันว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ เป็นพี่น้องกัน จากตำนานหลากหลายเรื่องราวที่เล่าต่อ ๆ กันมา แต่ไม่ว่าจะตำนานไหน ปัจจุบันเส้นทางนี้ก็เป็นที่นิยมที่ผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ แม้มีโอกาสได้กราบไหว้บูชาเพียงครั้งหนึ่ง ย่อมถือว่าเป็นการสร้างบุญมงคล บารมี อันจะนำความสุขความเจริญครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิต บัดดี้ขอแนะนำทริป 2 วัน 1 คืน ในการตามรอยเส้นทางนี้ ได้ไหว้พระมากกว่า 5 วัดอีกนะ ได้กินอาหารอร่อย ๆ ตามบัดดี้มาเลย วันที่ 1 กรุงเทพฯ-เพชรบุรี-สมุทรสงคราม-นครปฐม เดินทางไปจังหวัดเพชรบุรี รับประทานอาหารเช้าตามเส้นทางสมุทรสงคราม-เพชรบุรี ไหว้พระหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย สุนทรภู่ได้กล่าวไว้ในนิราศเมืองเพชรมีใจความว่า ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะคริวสวาท มีอาวาสวัดวามหาเถรมะพร้าวรอบขอบเขตที่บริเวณ พอจวนเพลพักร้อนผ่อนสำราญกับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้ ขึ้นไปไหว้พระสำฤทธิ์พิษฐานเขานับถือลือมาแต่บุราณ ใครบนบานพระก็รับช่วยดับร้อนฯ มีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องโชคลาภ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่สมัครเรียน สมัครงาน ฯลฯ จากนั้น เดินทางไปไหว้พระหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสมุทรสงคราม หล่อด้วยทองเหลือง แสดงอิริยาบถประทับยืน ปางอุ้มบาตร ส่วนใหญ่ขอพรในเรื่องความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน แคล้วคลาด ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง แล้วไปเดินเล่นตลาดร่มหุบ แวะรับประทานอาหารกลางวันบริเวณริมทางรถไฟสถานีแม่กลองได้ รถไฟจะเข้าสถานีเวลา 8.30 น. 11.10 น. 14.30 น. 17.40 น. ออกจากสถานีเวลา 06.20 น. 9.00 น. 11.30 น. 15.30 น. จากนั้น เดินทางไปไหว้พระปฐมเจดีย์และเดินเล่นตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ รับประทานอาหารเย็นในตลาดโต้รุ่ง หรือร้านใกล้เคียง นอนที่จังหวัดนครปฐม 1 คืน มีที่พักให้เลือกหลายรูปแบบ วันที่ 2 นครปฐม-ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ รับประทานอาหารเช้าที่จังหวัดนครปฐม แล้วเดินทางไปไหว้พระหลวงพ่อวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม หลวงพ่อจะช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อนคลายความทุกข์ให้หมดไป เดินทางต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา รับประทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไปวัดหลวงพ่อโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขอพรเรื่องการมีบุตร โชคลาภ ธุรกิจ การรักษาพยาบาลและอื่น ๆ ปิดท้ายด้วยไหว้หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขอพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เพราะเชื่อว่าท่านสามารถขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บให้หายในเร็ววัน และสามารถคุ้มครองให้ผู้ไปกราบไหว้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตราย ชมวิวที่หอชมเมืองสมุทรปราการได้ถึง 17.00 น. รับประทานอาหารเย็น บรรยากาศดีดี แถวปากน้ำ-บางปู และเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 เส้นทางเบญจภาคีไหว้พระ 5 วัด อ่านเพิ่มเติม

✨ อัมพวา-บางคนที : สมุทรสงคราม ✨

เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไป มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสายมู สายรักธรรมชาติ ชอบแบบสโลว์ไลฟ์ หรือจะชอบแบบครึกครื้น ก็มีให้เลือกได้ไม่อั้น แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ไปเที่ยววันเดียวก็ไปได้ บัดดี้มีเส้นทางท่องเที่ยวในอำเภอบางคนที และอำเภออัมพวา มาแนะนำเพื่อน ๆ ด้วย ไปชมกันเลย จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางมายังจังหวัดสมุทรสงคราม ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง  หรือถ้าหากใครมาโดยรถโดยสารสาธารณะ สามารถใช้บริการรถตู้และรถมินิบัส ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ มาลงที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือใครจะไปขึ้นรถไฟ  ก็สามารถขึ้นได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่มาลงที่สถานีมหาชัย จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม ลงปลายทางที่สถานีแม่กลอง สอบถามตารางเดินรถ โทร. 1690 หรือเว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย www.railway.co.th การเดินทางท่องเที่ยวในภายในพื้นที่ สามารถเดินทางได้โดยรถตุ๊กตุ๊ก หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม สักการะวัดดังอำเภอบางคนที ขอพรเสริมสิริมงคล  เรียนรู้การทำเครื่องเบญจรงค์ หัตถศิลป์อันงดงามจังหวัดสมุทรสงคราม  ชิมอาหารจาก “ใบชะคราม” ผักท้องถิ่นริมนาเกลือในจังหวัดสมุทรสงคราม  พาเพื่อน ๆ มาทำกิจกรรมแบบชิล ๆ ในบรรยากาศยามเช้าที่ “ชุมชนบ้านบางพลับ” เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัน มีกิจกรรมให้เราได้เรียนรู้และร่วมทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน  ภายในชุมชน มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีทั้งสวนมะพร้าวและสวนส้มโอ เป็นผลไม้ขึ้นชื่อในจังหวัดสมุทรสงคราม อีกทั้งฐานกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและทดลองทำร่วมกับชาวบ้านได้ ได้แก่  การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว โดยเก็บน้ำหวานจากช่อดอกมะพร้าว นำมาเคี่ยว แปรรูปเป็นน้ำตาลปึก ชมสวนส้มโอ สวนเกษตรอินทรีย์ การแช่อิ่มผักผลไม้ โดยเฉพาะผักรสขมที่นำมาแช่อิ่มจนมีรสหวาน รับประทานง่าย การทำถ่านจากผลไม้ หากกลายเป็นขยะไปก็คงใช้เวลาย่อยสลายนาน เอามาทำเป็นถ่านให้ใช้งานต่อไปได้ หากเพื่อน ๆ อยากมาทำกิจกรรม แนะนำให้ติดต่อแจ้งทางชุมชนไว้ล่วงหน้า  บรรยากาศภายในชุมชนบ้านบางพลับ มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง เพื่อน ๆ สามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวในชุมชนได้  ค่าเช่าจักรยาน 30 บาท/คน  ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 09.00-17.00 น. 08 1274 4433https://goo.gl/maps/gozEEVX4ufF2 ออกเดินทางมายังอีกฝั่งของแม่น้ำแม่กลอง พาเพื่อน ๆ ไปไหว้พระพุทธรูปที่ “วัดบางกุ้ง” ✨ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์พลิกชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี มีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก ในอดีต คือ “ค่ายบางกุ้ง” ที่สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์โปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่าย โดยมีวัดแห่งนี้อยู่ตรงกลาง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหาร จุดเด่นของวัดบางกุ้งคือโบสถ์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีต้นไม้ปกคลุมบนโบสถ์ถึง 4 ชนิด นั่นคือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง มีความเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี 🌳 ภายในโบสถ์ ประดิษฐาน “หลวงพ่อนิลมณี” พระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นิยมมากราบไหว้ขอพรและโชคลาภ หากใครเดินทางมาที่วัดบางกุ้งในช่วงนี้ อาจจะต้องวางแผนเผื่อเวลากันสักนิด เพราะมีผู้คนหลั่งไหลกันไปกราบไหว้กันตลอดทั้งวันทั้งคืน  หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.https://goo.gl/maps/Rzp2yhQuEEbQS3eQ7 พักเที่ยวมากินของอร่อยที่ “ร้านข้าวใหม่ปลามัน”  ใช้เวลาเดินทางมาจากวัดบางกุ้งราว ๆ 30 นาที  เดินเข้ามาก็ต้องรู้สึกว้าวกับบรรยากาศภายในร้านมาก ๆ เพราะตัวร้านใช้วัสดุในการก่อสร้างด้วยไม้ไผ่แบบพื้นบ้าน  แต่ตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นจนสวยงาม ดีไซน์จากอัตลักษณ์ความเป็นแม่กลองได้อย่างลงตัว  ที่นี่เสิร์ฟอาหารพื้นบ้านแบบไทย ๆ แถมยังตั้งอยู่ในแหล่งวัตถุดิบชั้นดี เพราะว่าสมุทรสงครามนั้น ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล ผักพื้นบ้านหายาก ผลไม้น้ำดี บอกเลยว่ามื้อนี้ได้กินอาหารแบบสดใหม่กันอย่างจุใจแน่นอน  ร้านข้าวใหม่ปลามัน  ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 10.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือน) 06 3824 9996https://maps.app.goo.gl/GELqtkkSLGYyQNrC7 อิ่มอร่อยกันแล้ว พาไปชมต่อที่ “ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์”  ที่นี่เป็นแหล่งผลิตเครื่องเบญจรงค์แบบโบราณในจังหวัดสมุทรสงคราม มีลวดลายอ่อนช้อย สีสันสดใส สวยงามมาก ที่สำคัญ ยังมีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเครื่องเบญจรงค์เหล่านี้จึงมีคุณค่ามาก  ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ก่อตั้งโดยคุณครูวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ ซึ่งมีความสนใจในศิลปะโบราณวัตถุ และมีความชำนาญจากการซ่อมเครื่องปั้นดินเผาโบราณ จึงได้ริเริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพัฒนาการทำเครื่องปั้นดินเผา การเคลือบ และการเขียนลายลงสีตามแบบวิธีดั้งเดิม จนกลายเป็นเครื่องเบญจรงค์ที่งดงาม เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญระดับประเทศ ไม่เพียงแค่นั้นคุณครูวิรัตน์ ยังถ่ายทอดแก่ผู้คนในชุมชนให้มีฝีมือเพื่อสร้างอาชีพอีกด้วย  ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ มีกิจกรรม Workshop สาธิตการเขียนลายแก้วเซรามิก วันจันทร์-เสาร์ หากเพื่อน ๆ สนใจ บัดดี้แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าด้วยนะคะ  นอกจากเครื่องถ้วยชามแล้ว ที่ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ยังมีการนำมาทำเป็นเครื่องประดับและสิ่งของอื่น ๆ ได้อีกด้วย  32/1 หมู่ที่ 7 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. Workshop สาธิตการเขียนลายแก้วเซรามิก เปิดวันจันทร์-เสาร์ (แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้า) 0 3475 1322, 08 9136 6059https://goo.gl/maps/6GxWwgJM5gEUREsy6 ก่อนเดินทางกลับ หากเพื่อน ๆ เริ่มหิว หรืออยากแวะซื้อของอร่อยไปฝากคนที่บ้าน แนะนำให้มาที่ ”ตลาดน้ำอัมพวา”  ตลาดน้ำยามเย็นที่มีคลองอัมพวาตัดผ่ากลาง มีบ้านเรือนและร้านค้าขนาบข้างทั้งสองฝั่ง พ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายของกันในคลองอย่างคึกคัก ในอดีต อัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แม้ที่นี่จะเคยได้รับผลกระทบจากการพัฒนาการคมนาคมทางบก จนทำให้ตลาดน้ำอัมพวาเริ่มถูกลดความสำคัญลง แต่ก็ได้หน่วยงานรัฐบาลและความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ และกลับมาเป็นตลาดน้ำที่มีชีวิตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน  ที่ตลาดน้ำอัมพวา มีร้านอาหารและของกินเล่นมากมาย ทั้งคาวและหวาน มีวางขายในร้านบนฝั่ง และพายเรือขายตามแบบวิถีดั้งเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีวัตถุดิบพื้นบ้าน ผักและผลไม้ที่ชาวบ้านในละแวกนี้นำผลผลิตจากสวนมาขาย  ใครมองหาของที่ระลึกและข้าวของเครื่องใช้ ก็มีให้เลือกซื้อตลอดแนว  ตลาดน้ำอัมพวา  ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-21.00 น. 08 3433 5613https://goo.gl/maps/R5Sw6sFRZ7KNsD5JA

✨ อัมพวา-บางคนที : สมุทรสงคราม ✨ อ่านเพิ่มเติม

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ทำหน้าที่รักษาทิศทั้ง 4 ทิศในสวรรค์ชั้นแรก ชื่อว่าชั้นจาตุมหาราชิกา โดยท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ดูแลทิศเหนือ อีกสามองค์ คือ ท้าวธตรฎฐ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก เป็นผู้ดูแลทิศใต้ และท้าววิรูปักษ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันตก เชื่อกันว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ผู้ที่บูชาท้าวเวสสุวรรณและประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมจะประสบความสำเร็จ ร่ำรวย มีโชคลาภ ยังเชื่อกันด้วยว่าท้าวเวสสุวรรณจะช่วยปกป้องผู้บูชาจากภูตผีและสิ่งชั่วร้าย เพื่อน ๆ พอจะรู้จักท้าวเวสสุวรรณกันบ้างแล้ว วันนี้แอดมี 5 พิกัดที่สามารถไปสักการะบูชาท้าวเวสสุวรรณมาฝากค่ะ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่บริเวณหลังพระอุโบสถ ที่วัดสุทัศน์จะมีคาถาอัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ โดยบทสวดนี้อัญเชิญมาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก และมีคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณภาษาบาลีที่ไม่เหมือนบทสวดในวัดอื่นๆอีกด้วย  เปิดทุกวัน 08.00-21.00 น. อุโบสถ 09:00-16:00 น.  : 146 ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร : 02 222 6932, 02 222 9635, 063 654 6829 https://goo.gl/maps/n7jb6RCCGtXgCJCD9 วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม ท้าวเวสสุวรรณที่นี่มีถึง 4 ปาง ได้แก่ ปางพรหมาสูติเทพ พระพักตร์แบบพรหม, ปางเทพบุตร พระพักตร์แบบเทวดามีลายพระโอษฐ์, ปางจาตุมหาราช พระพักตร์แบบยักษ์ และ ปางมนุษย์ พระพักตร์แบบเทวดาไม่มีลายพระโอษฐ์ : เปิดทุกวัน 06:00-24:00 น.  : 93 หมู่ 9 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม  : 081 845 0713 https://goo.gl/maps/m1zzJ7QeCiqmvMVz6 วัดสุทธาราม กรุงเทพมหานคร ที่วัดสุทธารามมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ องค์เล็กสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีคนเข้ามาทำบุญมากขึ้นจึงได้นำเงินมาสร้างเป็นองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในบริเวณเดียวกัน เจ้าอาวาสวัดสุทธารามแนะนำว่า ในการแก้บนให้นำข้าวสาร อาหารแห้งมาถวายทางวัดจะนำไปแจกให้กับคนในชุมชนต่อไป ถือว่าแก้บนได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้วก็ยังมอบสิ่งนั้นกลับให้คนที่ขาดแคลนอีกด้วย : เปิดทุกวัน 09:00-21:00 น.  : ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 19 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/suttharam9/ https://goo.gl/maps/dMaM9SPWWFY9utWw5 วัดจุกเฌอ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวัดจุกเฌอมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ เรียกกันว่าท้าวรุ่งเรืองมีกายสีม่วง และท้าวร่ำรวยมีกายสีแดง : เปิดทุกวัน  : ตำบลคลองจุกเฌอ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  : 038 514 009 https://goo.gl/maps/UTrM25gxLBQZZGXx9 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ท้าวเวสสุวรรณที่วัดนี้เป็นท้าวเวสสุวรรณปางประทับนั่ง ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธชินราช สถิตถวายการอภิบาลอยู่ที่ฐานชุกชีรัตนบัลลังก์ข้างพระชานุด้านซ้ายขององค์พระพุทธชินราช : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.  : 92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก  : 055 258 966 https://goo.gl/maps/dBvNUVtEbUrFVGW3A

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ อ่านเพิ่มเติม

บางคนที…สมุทรสงคราม

วันนี้แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามมาแนะนำ ใครมีแพลนเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แอดแนะนำเลยว่าลองไปใช้เวลา 1 วัน สัมผัสบรรยากาศชิลล์ ๆ ที่อำเภอนี้ดู แล้วจะรู้ว่าบางคนทีก็มีดีไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน วันที่ 1 ชมโบสถ์ปรกโพธิ์ ณ วัดบางกุ้ง เที่ยวชุมชนบ้านบางพลับ ทำกิจกรรมวิถีชาวบ้าน วันที่ 2 เก็บมะม่วงหาวมะนาวโห่ ที่สวนมะนาวโห่ลุงศิริ ชมของเก่าโบราณที่ พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ (บ้านไหพันใบ) แวะเก็บรูปสวย ๆ ที่อาสนวิหารพระแม่บังเกิด การเดินทาง รถไฟ : จากสถานีวงเวียนใหญ่มาลงที่สถานีมหาชัย จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม ลงปลายทางที่สถานีแม่กลอง สอบถามตารางเดินรถ โทร. 1690 หรือเว็บไซต์ของการรถไฟ www.railway.co.th รถตู้ : รถตู้สายปิ่นเกล้า-แม่กลอง / รถตู้สายหมอชิต-แม่กลอง วัดบางกุ้ง สำหรับไฮไลท์ที่นี่คือ โบสถ์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นโบสถ์ที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมบนหลังคาโบสถ์ถึง 4 ชนิดด้วยกัน นั่นคือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง หรือที่รู้จักชื่อว่า “โบสถ์ปรกโพธิ์” นั่นเอง  ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ประดิษฐาน “หลวงพ่อนิลมณี” เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและความศรัทธา วัดบางกุ้ง  บ้านค่าย หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. https://goo.gl/maps/Rzp2yhQuEEbQS3eQ7 ชุมชนบ้านบางพลับ อิ่มอกอิ่มใจจากการทำบุญแล้ว ถัดมาแอดจะพาทุกคนไปเที่ยวชุมชนบ้านบางพลับ ชุมชนเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และผู้คนที่น่ารัก ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็ทำให้เราได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปด้วย  ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม  เปิดทุกวันเวลา 09.00-17.00 น.  โทร. 08 1274 4433 https://goo.gl/maps/gozEEVX4ufF2 กิจกรรมแรกที่ต้องห้ามพลาดคือการทำน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปึก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำน้ำตาลเก็บไว้เพื่อประกอบอาหารหรือทำขนม แต่ก่อนที่จะออกมาเป็นน้ำตาลมะพร้าวได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ  เริ่มจากเข้าสวนมะพร้าวเพื่อไปเก็บน้ำหวานจากดอกมะพร้าว เมื่อได้น้ำหวานแล้วก็นำมาเคี่ยว ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องใช้เวลาสักพักเลยล่ะ เพราะต้องค่อย ๆ เคี่ยวน้ำตาลจากสีน้ำตาลเข้มจนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและเหนียว เมื่อน้ำตาลเป็นสีอ่อนก็ตักใส่พิมพ์และรอให้จับตัวเป็นก้อน เท่านี้เราก็จะได้น้ำตาลปึกไปใช้ได้แล้ว ถ้าสนใจต้องการชมกิจกรรมทำน้ำตาล แนะนำให้ติดต่อสอบถามล่วงหน้า เพราะไม่ได้มีการสาธิตทุกวัน อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจของชุมชน โดยกลุ่มสตรีเกษตรพัฒนา คือการนำผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ มาแช่อิ่ม เช่น มะกรูด ตะลิงปลิง เปลือกส้มโอ ซึ่งเรียกกันว่า “ผลไม้กลับชาติ” ไฮไลต์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ คือ การแช่อิ่มผักรสขมอย่างบอระเพ็ด มะระ ซึ่งเมื่อผ่านการแช่อิ่มแล้วแทบไม่เหลือรสขมเลยล่ะ กลับมีรสชาติหวานและอร่อยมาก ลองไปชิมกันค่ะ ที่นี่มีสวนส้มโอปลอดสารพิษด้วยนะ ลูกใหญ่มาก ๆ เพราะในชุมชนจะทำเกษตรแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี จนได้คัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบพึ่งตนเองดีเด่น ชุมชนเข้มแข็งเขียวขจีดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถึง 5 สมัยเลยทีเดียว วันที่ 2 สวนมะนาวโห่ลุงศิริ เราจะไปลุยสวนกันค่ะ!! สวนมะนาวโห่ลุงศิริ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีพื้นที่กว่า 40 ไร่ จากเดิมที่ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่เป็นสมุนไพรรักษาสุขภาพ ก่อนจะพัฒนามาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย ที่นี่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่เดินเที่ยวชมสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ เก็บภาพสวย ๆ มุมต่าง ๆ พร้อมทั้งศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมะม่วงหาวมะนาวโห่จากป้ายความรู้ต่าง ๆ ในสวน ทราบไหมว่า มะม่วงหาวมะนาวโห่ พืชสมุนไพรที่มีผลสีแดงชมพูไปจนสีม่วงเข้มนี้มีประโยชน์มากมายเลย มีสรรพคุณทางยาในการบำรุงร่างกายเพียบ แถมใช้ได้ตั้งแต่ส่วนราก ผล ไปจนถึงใบเลยทีเดียว ตามธรรมชาติ ผลมะนาวโห่นั้นมีรสเปรี้ยวฝาด แต่ทางสวนได้นำมาแปรรูปได้อย่างหลากหลายและน่ารับประทานมาก เพื่อน ๆ เลือกชิม ชม และช้อปติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้เลย : ) นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม workshop ให้นักท่องเที่ยวได้สนุก โดยมีมะนาวโห่เป็นวัตถุดิบหลัก ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ / มะนาวโห่ คนละ 100 บาท ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ทำแยมมะนาวโห่ คนละ 150 บาท ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที Sirisompong Farm&Café สนุกกับกิจกรรมแล้ว แวะมาดับร้อนกันหน่อยที่คาเฟ่ในสวน Sirisompong Farm&Café เราจะได้ชิมเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มสุขภาพจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ แต่ละเมนูน่าทานมาก ๆ Sirisompong Farm&Café  29/8 หมู่ 2 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม  เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) https://g.page/sirisompong-farm-cafe?share พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ (บ้านไหพันใบ) ผู้ที่สนใจวัตถุโบราณควรแวะที่นี่เลยค่ะ พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ หรือบ้านไหพันใบ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก มีรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงรัตนโกสินทร์ที่งมได้จากแม่น้ำแม่กลอง นอกจากนี้ยังมีคันฉ่องไม้สัก ถาดนิเกิล เรือบดไม้สัก เตาเชิงกราน และโบราณวัตถุที่หายากอีกหลายชนิด เปิดให้เข้าชมฟรี  120 หมู่ที่ 8 ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-15.00 น. https://goo.gl/maps/NiiDnHnuHav อาสนวิหารพระแม่บังเกิด ปิดท้ายทริปที่อาสนวิหารพระแม่บังเกิด เป็นอาสนวิหารสร้างด้วยอิฐเผาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นโบสถ์คริสต์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง โบสถ์หลังนี้มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบโกธิคของฝรั่งเศส ภายในประดับด้วยกระจกสีสีสันสดใส และมีรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติตามคัมภีร์ไบเบิลอีกด้วย  ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามhttps://goo.gl/maps/3V3nKcPkeFR2

บางคนที…สมุทรสงคราม อ่านเพิ่มเติม

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก”

เมื่อร่างกายต้องการความหวาน จะมี “น้ำตาล” ชนิดไหนบ้างมาช่วยเติมความอร่อยลงในอาหารแต่ละมื้อของเรา ในบ้านเรามีกระบวนการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาทำเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำตาลปึก” เป็นการนำน้ำหวานจากธรรมชาติมาเคี่ยวให้เหนียวและข้นจนเป็นสีเหลือง-น้ำตาลอ่อน ๆ จับให้เป็นก้อน แล้วพักไว้ให้เย็น เป็นภูมิปัญญาเรื่องอาหารที่ส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันก็ยังมีการใช้น้ำตาลปึกในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำน้ำตาลปึกให้มีคุณภาพเพื่อจำหน่าย และช่วยให้เกิดอาชีพในชุมชน น้ำตาลจากภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นจะผลิตจากวัตถุดิบใดบ้าง ไปดูกัน อ้อย พืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้ชุมชน สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้หลายรูปแบบ รวมถึงน้ำตาลปึก โดยคั้นเอาน้ำจากลำตัน นำไปเคี่ยวจนเหนียวหนึบ แล้วนำมาหยอดเป็นก้อนกลม ปัจจุบันมีเหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังผลิตน้ำตาลอ้อยแบบโบราณกันอยู่ หาซื้อได้ที่ นครสวรรค์ และกาญจนบุรี เป็นต้น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสรรพสิ่งบ้านนากลาง ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ 086 351 2633 วิสาหกิจชุมชนน้ำตาลทรายแดง บ้านวังหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 081 008 3965 มะพร้าว พืชตระกูลเดียวกับปาล์ม สามารถเก็บน้ำตาลได้จากช่อดอกมะพร้าว โดยการตัดปลายช่อออก แล้วนำกระบอกมารองน้ำตาลที่จะไหลออกมา ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะได้น้ำตาลจากมะพร้าวเต็มกระบอก เพื่อน ๆ สามารถหาชมการทำน้ำตาลปึกจากมะพร้าวได้ในบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น กลุ่มน้ำตาลมะพร้าวตาหลวง หมู่ 6 ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 081 014 8345, 083 026 3005, 090 437 8831, 085 393 9499 บ้านเตาไทยเดิม หมู่ 4 ตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 087 321 1288, 089 770 7541 ตาลโตนด การเก็บน้ำหวานจากตาลโตนด มีวิธีการคล้ายกับการเก็บน้ำตาลมะพร้าว แต่จะนิยมเก็บน้ำตาลจากต้นตัวผู้ เนื่องจากทำง่ายกว่า ใช้ “ไม้คาบ” อุปกรณ์สำหรับการนวดจั่นตาล (งวงดอกตาล) นวดวันละ 1 ครั้งไป 3-4 วัน จากนั้นตัดปลายจั่นแล้วเอากระบอกรองเก็บน้ำตาล ก็จะได้น้ำตาลจากตาลโตนด สามารถกินเป็นน้ำตาลสด หรือเอาไปทำน้ำตาลปึกได้ ตาลโตนดที่ขึ้นชื่ออยู่ที่เพชรบุรี นอกจากนี้ก็ยังมีที่อื่น ๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก เป็นต้น สวนตาลลุงถนอม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี 087 800 7716 วิสาหกิจชุมชนบ้านปากคลองเกยไชย ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 084 657 7227, 098 549 9974 ต้นจาก อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่เกือบสูญหาย คือการทำน้ำตาลจากต้นจาก พืชตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำไปทำน้ำตาลปึกได้ การเก็บน้ำตาล ทำโดยการตัดเอาจาก “งวงจาก” คือส่วนก้านของผลจากที่มี 30 ผลขึ้นไป ลอกกาบออก ตัดปลายงวงที่มีทะลายจากออก ทำซ้ำเป็นเวลา 3 วัน แล้ววันที่ 4 จึงสามารถเก็บเกี่ยวน้ำหวานได้ นำกระบอกที่เจาะรูด้านข้างไว้เพื่อเสียบงวงจากได้ ทิ้งไว้ 1 คืนก็จะได้น้ำตาล ส่วนมากทำกันในแถบภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นจากจำนวนมาก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง เป็นต้น วิสาหกิจแปรรูปน้ำตาลจาก “ขนาบนาก” หมู่ 5 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 095 682 4343 วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่จากอำเภอกันตัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 083 088 4978

ภูมิปัญญาไทยในการทำ “น้ำตาลปึก” อ่านเพิ่มเติม

💕 ชวนคนรักเที่ยวใกล้กรุงที่…“ตลาดน้ำอัมพวา” 💕

ในช่วงเดือนแห่งความรักนี้ ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาสถานที่ออกเดทที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แอดมีตัวเลือกที่น่าสนใจมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ “ตลาดน้ำอัมพวา” จังหวัดสมุทรสงคราม ทริปนี้นอกจากจะชวนไปหาของอร่อย ๆ แล้ว ถ้าไม่รีบร้อน มีเวลาชิลๆ จะพักค้างสักคืน ก็เป็นไอเดียที่ดี เพราะจะได้มีโอกาสตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมยามเช้า และสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นของชุมชนคลองอัมพวา การเดินทาง 🚗 จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร 🚌 มีรถโดยสารประจำทางออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี สายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ถึงตลาดน้ำอัมพวา สอบถามรายละเอียดเที่ยวรถได้ที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่ตลาดน้ำ บนบกริมสองฝั่งคลองอัมพวาก็มีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ไปจนถึงสินค้าที่ระลึกต่างๆ นอกจากพืชผลทางการเกษตรจำพวกผักผลไม้แล้ว สิ่งที่ทำให้ตลาดน้ำอัมพวามีชีวิตชีวาก็คืออาหารอร่อยๆ ที่พ่อค้าแม่ค้านำใส่เรือมาปรุงขายกันสดๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ อาหารทะเล ปลาหมึกสดย่างกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด หอยทอด ผัดไทย กาแฟ โอเลี้ยง และขนมหวานต่างๆ เป็นต้น เมื่อพูดถึงคลองอัมพวา ภาพที่คุ้นเคยที่สุดน่าจะเป็นภาพบรรยากาศคึกคักของตลาดน้ำ แต่แอดจะบอกว่าคลองอัมพวาก็มีมุมสงบด้วยเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสมาพักค้างสักคืน ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้า และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่เรียบง่าย ที่นี่มีที่พักหลากสไตล์ให้เลือก ทั้งรีสอร์ท โรงแรม ห้องพักริมน้ำ และโฮมสเตย์ เช้าตรู่ได้ตื่นมาตักบาตรริมน้ำแบบนี้ ให้ความรู้สึกอิ่มใจไปได้ทั้งวันเลย ซึ่งที่พักริมน้ำหลายแห่งก็จะเตรียมอาหารคาวหวาน ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่บาตรยามเช้ากันด้วย 📍 ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ⏰ เปิดทุกวันศุกร์ -เสาร์ – อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 21.00 น. 📞 08 3433 5613 🌐 https://g.page/amphawa?share

💕 ชวนคนรักเที่ยวใกล้กรุงที่…“ตลาดน้ำอัมพวา” 💕 อ่านเพิ่มเติม

✨ แวะคาเฟ่ ✖️เสพงานศิลป์ถิ่นแม่กลอง ✨

สุดสัปดาห์นี้ หากใครยังไม่มีแพลนทริปไปเที่ยวไหน หรือไม่อยากขับรถไปเที่ยวไกล ๆ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง มีโปรแกรมแบบ Half day trip จ.สมุทรสงคราม มาฝากกันค่ะ แหล่งท่องเที่ยวทริปนี้แบ่งเป็นสองแหล่งสองสไตล์ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองออกเดินทางเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่น่าสนใจของจังหวัดสมุทรสงคราม จุดหมายแรกจะพาไปเยี่ยมชมความสวยงามของศิลปะในการผลิตเครื่องเบญจรงค์ที่ “ปิ่นสุวรรณ เบญรงค์” ซึ่งเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ โรงงานผลิต และสถานที่จำหน่ายเครื่องเบญจรงค์ จากนั้นไปนั่งชิวกันต่อที่ Salt Lake De Maeklong คาเฟ่และแหล่งเรียนรู้การทำนาเกลือแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศ อาหารและเครื่องดื่ม ที่พิเศษไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน  ปิ่นสุวรรณ เบญจรงค์  ตั้งอยู่ 32/1 หมู่ที่ 7 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม https://goo.gl/maps/6GxWwgJM5gEUREsy6 🚗 การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามสอง) และขึ้นสะพานต่างระดับวนเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) จนถึงช่วงกิโลเมตรที่ 36-37 พอข้ามสะพานข้ามคลองอัมพวา จะพบแยกให้เลี้ยวซ้าย (ฝั่งตรงข้ามคือวัดจุฬามณี) ตรงเข้าไป 300 เมตร ปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ตั้งอยู่ทางขวามือ ปิ่นสุวรรณ เบญจรงค์ เป็นพิพิธภัณฑ์และโรงงานผลิตเครื่องเบญจรงค์แบบโบราณแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่อยู่คู่กับอัมพวามานานหลายสิบปี ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นของเครื่องถ้วยเบญจรงค์ ซึ่งได้เลียนแบบศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 2 ที่มีลวดลายละเอียดอ่อนช้อย สีสัน งดงาม ที่นี่ก่อตั้งมานานกว่า 50 ปี โดย คุณวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ ผู้ที่มีความสนใจพิเศษในสีสันอันสวยงามของเครื่องเบญจรงค์ ท่านยังได้ถ่ายทอดความรู้และภูมิปัญญาในการผลิตเครื่องเบญจรงค์ ให้กับคนในชุมชนอัมพวา เป็นการส่งเสริมอาชีพ ให้มีรายได้ มีความรู้ความสามารถ และสืบทอดมีความรู้เรื่องเครื่องเบญจรงค์ต่อไป ขั้นตอนการผลิตเครื่องเบญจรงค์ของที่นี่มีความละเอียดปราณีตพิถีพิถัน ใช้พู่กันในการลงสีแทนการลงสีแบบนูน จึงทำให้กระบวนการในการผลิตใช้เวลานาน แต่คุ้มค่ากับการได้สร้างสรรค์เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ให้มีคุณภาพดีและใกล้เคียงกับของโบราณมากที่สุด ควรค่าแก่การซื้อหาเป็นของฝากหรือของตกแต่งบ้านที่ทรงคุณค่า นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแหล่งผลิตและเลือกซื้อเครื่องเบญจรงค์ได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. และติดต่อล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมทำ Workshop สาธิตการเขียนลายแก้วเซรามิค (เฉพาะวันจันทร์-เสาร์ในเวลาทำการ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3475 1322, 08 9136 6059 หมายเหตุ : เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แนะนำให้โทรติดต่ออัพเดทวันและเวลาเปิด-ปิด กับทางร้านก่อนเดินทางค่ะ  ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง (Salt Lake De MaeKlong)  คาเฟ่สุดชิค ท่ามกลางบรรยากาศนาเกลือของแม่กลอง ที่ตั้ง : ริมทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) กิโลเมตรที่ 58+400 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ก่อนถึงตลาดกลางบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม https://goo.gl/maps/YiexoMZs5tu ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยร้านตั้งอยู่ริมนาเกลือซึ่งนำเสนอความเป็นท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรสงครามได้อย่างชัดเจน บรรยากาศโดยรอบมองเห็นวิวนาเกลือได้ 360 องศา และสัมผัสกับวิถีชีวิตการทำนาเกลือได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่บอกเล่าขั้นตอนในการทำนาเกลือไว้อย่างครบถ้วน ที่นี่มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ โดยนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมารังสรรค์เมนูอาหารซิกเนเจอร์ของทางร้าน เช่น ข้าวน้ำพริกปลาทูแม่กลอง สูตรน้ำพริกคลองโคนรสเด็ด สปาเก็ตตี้ชะครามกุ้งแม่น้ำ โดยใช้ผักชะครามที่เป็นพืชนาเกลือรสเค็มมาเป็นส่วนประกอบ หรือขนมปังปิ้งหน้ามะพร้าวคั่ว ที่ใช้ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอแม่กลอง รวมถึงเมนูเครื่องดื่มอีกมากมายที่ใช้วัตถุดิบจากนาเกลือของทางร้านเองนั่นก็คือ “ดอกเกลือ” ทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติกลมกล่อมและสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน อาทิเช่น กาแฟนาเกลือ นมสี่สาวลุ่มแม่น้ำแม่กลอง และวิปครีมนาเกลือ นอกจากนี้ ทางร้านยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนาเกลือ อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ดอกเกลือ, เกลือสปาแช่เท้า, โลชั่นดอกเกลือ ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการช้อปของที่ระลึกไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย ร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูลร้าน โทร. 08 9894 6535

✨ แวะคาเฟ่ ✖️เสพงานศิลป์ถิ่นแม่กลอง ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top