กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

Unseen Thailand รวม 20 พิกัดวัดสวยสุดอันซีน 🙏

🤗 แอดรวมมาให้แล้ว สายธรรม สายมู ชอบไหว้พระทำบุญปักหมุดเลย 20 วัดสวยทั่วไทยน่าไปเช็กอิน ไว้สำหรับเพิ่มแต้มบุญกลางปี ให้เดือนที่เหลือพ.ศ. 2565 นี้ มีแต่ความเฮง ความปังตลอดไป และสำหรับใครที่ยังไม่ว่างก็จดลิสต์กดแชร์กันไว้ก่อน วันหยุดเมื่อไหร่ ทริปไหว้พระทำบุญต้องมาแล้วน๊าา ปักหมุด 20 วัดสวยทั่วไทย ไหว้พระเสริมดวงได้ตลอดทั้งปี 👏 🏵 วัดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี 🏵 วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร นครพนม 🏵 วัดหลวงพี่แซม ชลบุรี 🏵 วัดเขาวันชัยนวรัตน์ นครราชสีมา 🏵 วัดสามพราน นครปฐม 🏵 วัดถ้ำแสงธรรม ขอนแก่น 🏵 วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์ 🏵 วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย 🏵 วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่ 🏵 วัดแสงธรรมวังเขาเขียว นครราชสีมา 🏵 วัดพระธาตุเขาน้อย น่าน 🏵 วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพชรบูรณ์ 🏵 วัดร่องขุ่น เชียงราย 🏵 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร 🏵 วัดศรีชุม สุโขทัย 🏵 วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี 🏵 วัดถ้ำผาเกิ้ง ขอนแก่น 🏵 วัดพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี 🏵 วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี 🏵 วัดร่องเสือเต้น เชียงราย #วัดสามพราน นครปฐม วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ อยู่แค่นครปฐมนี่เอง ภายในวัดบรรยากาศร่มรื่น ไฮไลท์คือตึกทรงกลมสีชมพู มีมังกรทะยานฟ้าโอบล้อมรอบตึก สูงประมาณ 80 เมตร 16 ชั้น มีอุโมงค์ที่เป็นทางเดินขึ้นไปสักการะองค์พญามังกร และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “หลวงพ่อพุทโธภาวนา” ใครเดินถึงยอดจะได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยน้าา ถึงจะเหนื่อย มีขาสั่นบ้าง แต่คุ้มแน่นอน  Maps : วัดสามพราน 92 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม https://goo.gl/maps/wG4b9gnjDtHyPJuQ7 #วัดพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี อลังการพระบรมธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ เจดีย์สีขาวตัดกับสีทอง ถูกจำลองมาจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2500 ภายในใช้เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานพระพุทธปฏิมากร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุบลราชธานี อีกทั้งยังมีท่านปู่กริชกรกชนาคราช และ ท่านย่ากลีบมณีเกตุนาคิณี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พญานาคฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า มีความเชื่อว่าเหล่าพญานาคจะปกป้อง รักษาพระพุทธศาสนาไว้ ทำให้หลาย ๆ คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลนั่นเอง  Maps : วัดพระธาตุหนองบัว ถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี https://goo.gl/maps/jAbyvpT4iE3GbbmQ9 #วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ปักหมุดไหว้พระขอพร ที่ #วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ #วัดแจ้ง วัดโด่งดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ชมสถาปัตยกรรมสวยโดดเด่น พร้อมเดินชิล เดินเล่น ถ่ายรูปคู่กับพระปรางค์ ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสวยงาม ตั้งโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอย่าลืมแวะสักการะพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลกภายในพระอุโบสถ สักการะพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร และพระอรุณ หรือพระแจ้ง พระพุทธศิลป์แห่งลานช้างภายในวิหารหลวง และเข้าโบสถ์น้อย ลอดแท่นบรรทมสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อความเป็นสิริมงคล  Maps : วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/owAfE5GC46CeneDY7 #วัดเขาวันชัยนวรัตน์ นครราชสีมา Unseen วัดสวยบนยอดเขา วิวอลังการมาก ๆ ที่นี่เรียกว่าเป็นอุโบสถหินลายไม้หนึ่งเดียวในไทย ซึ่งทุกส่วนของโบสถ์จะทำจากหิน ทั้งประตู หน้าต่างทุกบาน รวมไปถึงสิ่งของบางอย่างสร้างมาจากหินทรายลายไม้ทั้งหมด ส่วนด้านในจะมีพระพุทธรูปสีทองอร่ามประดิษฐานอยู่ สวยงามล้ำค่า มากล้นด้วยความศรัทธามาก ๆ และบริเวณรอบ ๆ โบสถ์ยังมีสระน้ำสีฟ้าล้อมรอบ ยิ่งทำให้พระอุโบสถดูงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก  Maps : วัดเขาวันชัยนวรัตน์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา https://goo.gl/maps/QYUSYVRVSp3K7mJ #วัดหลวงพี่แซม ชลบุรี วัดหลวงพี่แซม วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ ความงดงามที่โดดเด่นเป็นไฮไลท์ก็คือ ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ ที่ถูกเนรมิตด้วยฝีมือมนุษย์ ถัดมาภายในโถงกลางของวัด จะมี “องค์อนันตนาคราช 7 เศียร” อยู่กลางบ่อน้ำ อลังการมาก ๆ นอกจากนี้ภายในภายนอกยังมีอุโบสถที่เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงหรือหลวงพ่อยิ้มเปิดฟ้า เชื่อกันว่าหากใครได้มากราบไหว้สักการะจะพบกับความสุขและความสำเร็จอีกด้วย  Maps : วัดหลวงพี่แซม 51 หมู่ 10 ทางหลวงหมายเลข 331 ตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี https://goo.gl/maps/bW3J1cMfuvK2 #วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์ วัดทางสายตั้งอยู่บนภูเขาสูง บรรยากาศเงียบสงบ หลาย ๆ คนนิยมมาสักการะพระพุทธกิติสิริชัย หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ หันพระพักตร์ออกทะเล และพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ หรือ พระมหาเจดีย์เก้ายอด พระปรางค์ จัตุรมุขสูงสามชั้น สามารถมองเห็นได้แต่ไกล หากขึ้นไปถึงบริเวณฐานยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของชายหาดบ้านกรูดในมุมสูง กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สวยมาก ๆ ลมพัดเย็นสบาย ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินคืองดงามมากจริง ๆ  Maps : วัดทางสาย ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน

Unseen Thailand รวม 20 พิกัดวัดสวยสุดอันซีน 🙏 อ่านเพิ่มเติม

✨ ตุ๊กตาอับเฉา ✨

หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปวัดเก่าแก่ใน กรุงเทพฯ อย่างวัดเทพธิดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม ฯลฯ คงเคยเห็นรูปปั้นหินศิลปะจีนกันมาบ้าง แต่รู้ไหมว่า รูปปั้นเหล่านี้ที่เรียกว่า “ตุ๊กตาอับเฉา” มีที่มาที่ไปยังไง วันนี้แอดจะมาแชร์เกร็ดความรู้นี้ให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน “ตุ๊กตาอับเฉา” หรือ “อับเฉาเรือ” ในสมัยรัชกาลที่ 3 ประเทศไทย (สยาม) มีการค้าขายกับประเทศจีน ผ่านเรือสำเภา ซึ่งตอนขนส่งสินค้าไทยไปจีน เรือจะบรรทุกสินค้าไปเต็มเรือ แต่ในตอนกลับ เรือไม่สามารถเดินทางกลับด้วยลำเรือเปล่า ๆ ได้ เนื่องจากเรือสมัยโบราณใช้ไม้ที่มีน้ำหนักเบา เมื่อเจอคลื่นลมแรงอาจล่มได้ จำเป็นต้องมีของถ่วงน้ำหนัก ไม่ให้เรือเบาเกินไป จึงเป็นที่มาของการใช้หิน แกะสลักเป็นของใช้ รูปปั้น หรือตุ๊กตาตามที่มีคนต้องการ ใส่ไว้ในห้องใต้ท้องเรือ ซึ่งเมื่อถึงไทย ก็จะมีการนำอับเฉาเหล่านี้มาตั้งตกแต่งวัดวาอาราม พระราชวัง หรือบ้านผู้มียศศักดิ์ ประเภทของอับเฉานั้นมีหลากหลายมาก ยกตัวอย่างได้ดังนี้ 1. ตุ๊กตาหินที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายสวยงามเต็มยศอย่างขุนนางจีน มีทั้งฝ่ายบู๊ มือถืออาวุธ หน้าตาดุดันใส่เสื้อเกราะ ไปจนถึงฝ่ายบุ๋น หน้าตาอมยิ้ม สวมหมวกทรงสูงแบบนักปราชญ์ มือถือหนังสือเป็นนักปกครอง นักวางแผนแห่งราชสำนัก ซึ่งอับเฉาชนิดนี้เรียกว่า ลั่นถัน 2. รูปคนต่าง ๆ เช่น นักบวช ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก เซียน เทพ ฝรั่ง ซึ่งมีเครื่องแต่งกายแตกต่างกันตามช่างแกะหินจะจินตนาการ 3. รูปสัตว์ มีทั้งสัตว์ในจินตนาการเช่น มังกร หงส์ กิเลน และสัตว์ทั่ว ๆ ไปอย่าง เต่า ม้า ลิง เสือ สิงโต 4. สิ่งของเครื่องใช้ เช่น แท่นบูชา เสามังกร กระถางหิน เจดีย์จีน 5. สิ่งประกอบโครงอาคาร เช่น ขอบกั้นระเบียง บันได พื้นปูใบเสมา  เอาล่ะ ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็รู้ความเป็นมาคร่าว ๆ ของตุ๊กตาอับเฉาแล้ว หากใครอยากเห็นของจริงสามารถตามไปดูได้หลายวัดเลย เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)  2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.30 น.  0 83057 7100 https://goo.gl/maps/T4X37K8R4yCqPgk27 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  146 ถ.บำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-20.30 น.  0 2622 2819, 06 3654 6829 https://goo.gl/maps/KxFR89jWkDvniPnr7 วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)  158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น.  0 2891 2185 https://goo.gl/maps/vUWQN7PKVdY4DdYv6 วัดเทพธิดารามวรวิหาร  70 ถ.มหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.  0 2225 7425, 0 2621 1178 https://goo.gl/maps/2nus2ngSZjYgJP7u5 วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  258 ซอยเอกชัย 4 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.  0 2893 7274 https://goo.gl/maps/kAtcZdRdztXC73tj9 ถือเป็นการไปดูตุ๊กตาหินสวย ๆ และแวะทำบุญไปในตัวพร้อมกันเลย 

✨ ตุ๊กตาอับเฉา ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ป้อมปราการเก่าในกรุงเทพฯ ✨

สมัยก่อนในการสร้างเมือง จะมีการสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการไว้เพื่อป้องกันเมืองจากข้าศึก และยังเป็นการแบ่งเขตพื้นที่ภายในพระนครและนอกพระนครไปด้วยพร้อมกัน ปัจจุบัน กำแพงเมืองและป้อมปราการในกรุงเทพฯได้สูญหายไปเกือบหมด คงหลงเหลือให้เห็นเพียง 2 ป้อมปราการจาก 14 ป้อมปราการ แอดจะพาไปดูนะคะว่าป้อมปราการเก่าอยู่ที่ไหน และในอดีตทั้ง 14 ป้อมอยู่ตรงไหนบ้าง กำแพงเมืองพระนครนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยนำอิฐจากกำแพงกรุงศรีอยุธยามาสร้าง ครอบคลุมเขตเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีป้อมปราการ 14 ป้อมตามแนวกำแพง มีป้อมพระสุเมรุเป็นป้อมปราการทิศเหนือ ส่วนอีก 13 ป้อม ได้แก่ ป้อมยุคนธร (ตรงหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ปัจจุบันเหลือแต่กำแพงและประตูเมืองเท่านั้น) ป้อมมหาปราบ (ระหว่างสะพานเฉลิมวันชาติกับแยกผ่านฟ้าลีลาศ ตรงหัวโค้งถนนพระสุเมรุ) ป้อมมหากาฬ (เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ) ป้อมหมู่ทะลวง (ใกล้หัวถนนหลวง ตรงข้ามสวนรมณีนาถ) ป้อมเสือทะยาน (อยู่ใกล้สะพานดำรงสถิต [สะพานเหล็กบน] ตรงโรงแรมมิรามา) ป้อมมหาไชย (หัวถนนเยาวราช แถวสะพานหัน) ป้อมจักรเพชร (อยู่ตรงปากคลองรอบกรุง เชิงสะพานพุทธยอดฟ้า) ป้อมผีเสื้อ (ปากคลองคูเมืองเดิมด้านใต้ ฝั่งปากคลองตลาด) ป้อมมหาฤกษ์ (อยู่ในบริเวณโรงเรียนราชินี) ป้อมมหายักษ์ (อยู่บริเวณท่าเตียน) ป้อมพระจันทร์ (ปัจจุบันคือท่าพระจันทร์) ป้อมพระอาทิตย์ (ปัจจุบันคือเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า) ป้อมอิสินธร (ปัจจุบันคือพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตรงข้ามซอยชนะสงคราม ทางลัดเข้าวัดชนะสงคราม) ป้อมปราการทั้ง 14 ป้อมนี้ มีเพียง 2 ป้อมที่ยังคงสภาพให้เราได้เห็นในปัจจุบัน ป้อมแรกคือ ป้อมพระสุเมรุ ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนพระอาทิตย์ต่อกับถนนพระสุเมรุ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2326 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นป้อมรูปแปดเหลี่ยมตั้งอยู่บนฐานสูง 2 ชั้น ฐานชั้นแรกมีบันไดทางขึ้นจากพื้น 2 ทาง กำแพงรอบฐานชั้น 2 ทำเป็นรูปใบเสมา ประตูหน้าต่างเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม ในปัจจุบันบริเวณโดยรอบป้อมถูกจัดให้เป็นสวนสาธารณะ โดยให้ชื่อว่าสวนสันติชัยปราการ ป้อมที่สองคือ ป้อมมหากาฬ ตั้งอยู่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ติดกับถนนมหาไชย เป็นป้อมปราการทิศตะวันออก สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เช่นเดียวกัน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นรูปแปดเหลี่ยม มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น ป้อมมหากาฬนี้ยังคงเห็นแนวกำแพงเมืองยาวไปทางถนนมหาไชย เป็นกำแพงเมืองที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ในปัจจุบันบริเวณโดยรอบได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธาณะเช่นเดียวกับป้อมพระสุเมรุ

✨ ป้อมปราการเก่าในกรุงเทพฯ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨One day trip…ลัดเลาะรอบวังหลวง 🚶‍♀️

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ แฟนเพจทุกคน วันนี้แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวที่เดิมที่ไม่เหมือนเดิมมาฝาก สถานที่แห่งนี้อยู่กลางเมืองเลยค่ะ นั่นก็คือรอบ ๆ วังหลวงหรือ #วัดพระแก้ว ของเรานั่นเอง ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ไม่เหมือนเดิม การเดินทางครั้งนี้แอดเลือกนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสนามไชย สะดวกมาก โดยจุดหมายแรกของเราคือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ วัดนี้เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ไฮไลท์สำคัญคือ “พระพุทธไสยาสน์” หรือ “พระนอน” ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ และนับเป็นพระนอนที่งดงามองค์หนึ่งของไทย อีกจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ พระมหาเจดีย์สี่องค์ ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1-4 โดยแต่ละองค์จะประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีที่แตกต่างกัน และล้วนแต่มีลักษณะงดงามทั้งสิ้น ค่าเข้าชม คนไทยฟรี ต่างชาติ 200 บาท  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.  02 226 0335, 02 226 0369  ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/KAH7BsJc6av8KG8a9 หลังจากไหว้พระแล้ว แอดจะพาไปแวะที่คาเฟ่ขนมไทย ชื่อร้านเห่ชม อยู่บริเวณตึกเก่าหลังวัดโพธิ์ ภายในร้านตกแต่งเรียบง่าย ที่พิเศษคือสามารถมองเห็นวัดโพธิ์จากในร้านได้เลย บรรยากาศดีมากค่ะ เมนูของร้านมีทั้งขนมไทยยอดนิยม และขนมไทยโบราณที่หารับประทานยาก เช่น ดาราทอง เสน่ห์จันทน์ สัมปันนี และอื่น ๆ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบขนมไทย ทางร้านก็มีเค้กมะพร้าวอ่อนที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้านให้เลือกอร่อยได้ แต่ละวัน อาจมีขนมไม่เหมือนกัน ก่อนแวะไป เพื่อน ๆ โทรสอบถามเมนูในแต่ละวันก่อนได้น ร้านเห่ชม วันพุธ – อาทิตย์ เวลา 11:00 – 18:00 น.  099 239 9246  320 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/roeQo7Z9aCQNmbGd8 เติมพลังขนมหวานกันแล้ว เราก็ออกเดินกันต่อ ลัดเลาะรอบวังกันไปจนถึงท่าช้าง เดิมย่านนี้เรียกกันว่าท่าช้างวังหลวง เนื่องจากในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เหล่าคชบาลหรือคนเลี้ยงช้างได้นำช้างพระที่นั่ง และช้างในวังมาอาบน้ำบริเวณนี้ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านเรียกแถวนี้ว่า ท่าช้างวังหลวง ปัจจุบันท่าช้างมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ ทั้งตึกโดยรอบและบริเวณท่าเรือ สวยงามขึ้นมากทีเดียว โดยมีสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ก็คือ อุโมงค์มหาราช อุโมงค์มหาราช เป็นอุโมงค์ลอดจากท่าช้างไปยังประตูสุนทรทิศาของวังหลวง ที่สร้างอุโมงค์ขึ้นมาก็เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการข้ามถนน ซึ่งก่อนหน้านี้จะต้องรอข้ามกันนานทีเดียว เนื่องจากย่านนี้มีรถสัญจรไปมาอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย และยังมีห้องสุขาไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะคะ ภายในอุโมงค์มีนิทรรศการภาพเก่าเล่าอดีตของย่านท่าช้าง ประวัติการก่อตั้งเมือง และยังมีการจำลองกำแพงเมืองในอดีตไว้ด้วยค่ะ อุโมงค์จะเปิดให้สัญจรเวลา 08:00 – 18:00 น. เท่านั้นนะคะ ในบริเวณนี้ ยังมีวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นวัดยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะเป็นวัดที่สวยงามมาก เป็นเพียงวัดเดียวที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง และเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ส่วนคนไทยนั้น แอดเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักวัดพระแก้ว หลายคนอาจจะเคยมากราบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต แต่อาจยังไม่เคยเดินชมส่วนอื่น ๆ มาครั้งหน้าต้องมาชมให้ได้นะคะ ภายในวัดพระแก้วมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจหลายจุด เช่น พระระเบียง พระระเบียงรอบวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ มีทั้งหมด 178 ภาพ โดยภาพแรกจะเริ่มจากด้านหน้าพระวิหารยอดและนับภาพต่อไปด้วยการเวียนไปทางขวามือ แม้ภาพวาดภายในพระระเบียงจะถูกบูรณะ ลบแล้ววาดใหม่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังคงความสวยงามไว้เช่นเดิม ค่าเข้าชม คนไทยฟรี ต่างชาติ 500 บาท ทุกวัน เวลา 08:30 – 15:30 น.  02 623 5500 ต่อ 3100, 02 224 3290  ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/d3456G77cHn4ufVW8 จากวัดพระแก้ว เดินไปทางถนนกัลยาณไมตรีตรงกระทรวงกลาโหม เพื่อน ๆ อาจเคยเห็นตึกสีเหลืองนี้ในละครมาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นละครย้อนยุค อาคารนี้เป็นสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกแบบนีโอปัลลาเดียน สูง 3 ชั้น ด้วยตัวอาคารเป็นลักษณะยาวเลียบเคียงกับถนนไปทำให้ดูว่าอาคารนี้ยาวไปจนสุดลูกหูลุกตา จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกับอาคารนี้อยู่เสมอ แม้อาคารจะเก่าแต่ก็ยังสวยงามและคลาสสิกมากทีเดียว ถัดจากกระทรวงกลาโหม เพื่อน ๆ จะเห็นอาคารสีส้มสวยงามที่อยู่ข้าง ๆ นั่นคือ พระราชวังสราญรมย์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 พระราชวังแห่งนี้เคยใช้เป็นอาคารศาลาว่าการต่างประเทศ และใช้รับพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศอีกด้วย สถาปัตยกรรมเดิมนั้นสร้างแบบนีโอปัลลาเดียน แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณะและผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบวิลล่าอิตาลีเข้าไป ทำให้พระราชวังสราญรมย์สวยงามอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน เรามาจบ one day trip ด้วยการรอชมพระอาทิตย์ตกดินโดยมีฉากข้างหน้าเป็นวังหลวงกันเถอะ สวยงามจริง ๆ เลยค่ะ

✨One day trip…ลัดเลาะรอบวังหลวง 🚶‍♀️ อ่านเพิ่มเติม

✨ เสน่ห์กรุงเก่า เสน่ห์ท่าเตียน ✨

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีเวลาสั้น ๆ แบบนี้ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่รู้จะไปไหนดี แอดมีสถานที่น่าเดินเล่นมาฝากค่ะ อยู่กลางกรุงเทพฯ ไม่ต้องเดินทางไกล ๆ อีกด้วย นั่นก็คือ #ท่าเตียน #ท่าเตียน เป็นย่านเก่าแก่ในเขตพระนครที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งตลาดเก่า ย่านการค้าดั้งเดิม ตึกเก่าสไตล์ยุโรป วัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งร้านรวงของคนรุ่นใหม่ที่ผสมผสานอยู่ร่วมกันในย่านเก่า ทำให้ที่นี่เป็นย่านที่น่าเดินเล่น น่าถ่ายรูปชมเมืองมาก ๆ ชุมชนท่าเตียน มีเรื่องเล่ากันมาอยู่หลายเรื่อง ตำนานปรำปราเล่าว่า ยักษ์วัดแจ้งและยักษ์วัดโพธิ์ ซึ่งอยู่ในวัดที่ตั้งขนาบสองข้างของชุมชนท่าเตียนเกิดสู้รบกัน จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นที่โล่งเตียน และเป็นที่มาของชื่อ #ชุมชนท่าเตียน ในทางประวัติศาสตร์มีบันทึกว่า ย่านนี้เคยเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บริเวณนี้โล่งเตียนจนคนทั่วไปใช้เป็นที่หมาย และเรียกกันตามความเข้าใจว่า “ท่าเตียน” อีกประการหนึ่งคือ มีผู้สันนิษฐานว่าท่าเตียน เป็นชื่อเรียกที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ฮาเตียน” ซึ่งเป็นชื่อเมืองหนึ่งในประเทศญวน ในอดีต ชาวญวณได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย รวมถึงบริเวณนี้ และได้เห็นว่าบริเวณนี้คล้ายคลึงกับเมืองฮาเตียนที่เคยอาศัยมาก่อน จุดเด่นที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ “ท่าเตียน” ก็คืออาคารแถวที่อยู่ริมถนนมหาราช สร้างในราว ๆ สมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 มีลักษณะเป็นตึก 2 ชั้น สไตล์ยุโรป ปัจจุบัน เป็นทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหารเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ตึกเก่าย่านท่าเตียน”  ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ผังอาคารเป็นรูปตัว U มีมุขกลางทั้ง 3 ด้าน เปิดเป็นทางเดินเข้าสู่โรงตลาดตรงกลาง  กรมศิลปากร ได้ประกาศให้อาคารอนุรักษ์แห่งนี้เป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2544 ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงและจัดระเบียบบริเวณนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อน ๆ สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว  นำไปจอดที่ใกล้ที่สุดได้แก่ วัดโพธิ์ ราชนาวีสโมสร หรือไปจอดที่วัดอรุณฯ แล้วนั่งเรือข้ามฟากมาที่ท่าเตียนได้ ทั้งนี้ เพื่อน ๆ ที่เดินทางมาโดยเรือ  สามารถนั่งเรือด่วนธงสีส้ม ฟ้า ทอง และเรือที่ไม่มีธง ไปลงท่าวัดอรุณฯ แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปท่าเตียนได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถเดินทางด้วยรถประจำทางไปลงป้ายท่าเตียน  หรือจะนั่งรถไฟฟ้า MRT  ไปลงที่สถานีสนามไชย แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาทีก็จะถึง ท่าเตียน มีร้านรวงต่าง ๆ ทั้งใหม่ทั้งเก่าให้เราได้ไปสัมผัส และมีร้านอาหาร คาเฟ่มากมายในแถบนี้ มีทั้งอาหารไทย ร้านริมทาง อาหารนานาชาติ ขนมหวานอร่อย ๆ ให้เลือกอีกเยอะ  วันนี้แอดก็มีร้านหนึ่งที่น่าสนใจแถมยังเป็นร้านที่มีชื่อพ้องกับเรื่องเล่าของย่านนี้ “ฮาเตียน” เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ในตึกเก่า 3 ชั้น อยู่ถัดไปจากตึกเก่าท่าเตียน เป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจที่สะท้อนถึงความเป็นท่าเตียน เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในคาเฟ่ก็ล้วนเป็นของสะสมของเจ้าของร้านที่นำมาบรรจงตกแต่งร้าน เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศความคลาสสิก  เมนูต่าง ๆ ทั้งขนมและเครื่องดื่มดูน่ากินไปหมด เลือกเมนูไหนก็ไม่ผิดหวังแน่นอน แอดลองสั่ง “บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก” ของทางร้านมากิน ต้องบอกเลยว่าเป็นเค้กที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม หอม ละมุน ท็อปหน้าเค้กด้วยบลูเบอร์รี่สด รสชาติลงตัวมาก ๆ  ฮาเตียน คาเฟ่   4 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)  081 302 0651 https://goo.gl/maps/tr3HS3nD8XHw9QeU7

✨ เสน่ห์กรุงเก่า เสน่ห์ท่าเตียน ✨ อ่านเพิ่มเติม

🔸 วัดกัลยาณมิตร (Wat Kalayanamitr) 🔸

วัดกัลยาณมิตร หรือชื่อเต็มคือ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (With English Translation) ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ซอยอรุณอมรินทร์ 6 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ วัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ ‘พระวิหารหลวง’ ซึ่งภายในประดิษฐาน ‘พระพุทธไตรรัตนนายก’ (หลวงพ่อโต) พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน และพากันเรียกขานท่านว่า ‘ซำปอฮุดกง’ หรือ ‘ซำปอกง’ ในบริเวณวัดยังมี ‘พระอุโบสถ’ ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลยก์) และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราวพุทธประวัติและวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีต

🔸 วัดกัลยาณมิตร (Wat Kalayanamitr) 🔸 อ่านเพิ่มเติม

✨ ศิลปะจีนในวัดไทย วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ✨

หากหลับตานึกถึงวัดไทย ภาพในจินตนาการของเพื่อน ๆ คงจะเป็นอุโบสถที่หน้าบันมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ตามแบบฉบับวัดไทย แต่วันนี้แอดจะพาไปชมวัดที่อุโบสถไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แถมยังมีการผสมผสานศิลปะจีนเข้ามาอย่างงดงามอีกด้วย วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดจอมทอง มีบันทึกว่า เมื่อ พ.ศ. 2363 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3) ทรงยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางทรงหยุดพักที่วัดจอมทอง และทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม พร้อมทรงอธิษฐานขอให้ได้ชัยชนะ ปรากฏว่าไม่มีทัพพม่ายกเข้ามา เมื่อยกทัพกลับพระนคร พระองค์โปรดฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดจอมทองขึ้นใหม่ทั้งวัดเสมือนสร้างใหม่ และถวายเป็นพระอารามหลวงแด่รัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นผู้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดราชโอรส ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกสั้น ๆ จากชื่อเต็มว่า วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ซึ่งหมายถึงวัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนา ลักษณะเด่นของวัดราชโอรส คือการสร้างพระอุโบสถโดยไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 เรียกว่า แบบนอกอย่างหรือวัดนอกอย่าง หมายถึงสร้างโดยนอกแบบประเพณีไทยดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีเสาพาไลรองรับน้ำหนักหลังคา ทำให้อุโบสถวัดนี้ใหญ่กว่าวัดที่สร้างในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนหน้าบันของพระอุโบสถก็งดงามมาก ประดับด้วยกระเบื้องสี ชั้นบนแต่งเป็นแจกันดอกเบญจมาศ มีรูปสัตว์มงคลตามคติของจีน คือ มังกร หงส์ และนกยูง ชั้นล่างเป็นภาพทิวทัศน์มีบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ภูเขา ต้นไม้ ตามขอบหลังคาประดับกระเบื้องสี และถ้วยชามโดยรอบ อีกทั้งหน้าประตูพระอุโบสถมีทวารบาลศิลปะแบบจีนสร้างจากกระเบื้องเคลือบตั้งไว้รอบ ๆ พระอุโบสถมีซุ้มเสมาทรงเกี้ยวที่ทำคล้ายเรือนเกี้ยวหามของประเทศจีน ยังมีจุดสำคัญอื่นภายในวัดที่ถูกสร้างในแบบศิลปะจีนอีก เช่น ถะ หรือเจดีย์แบบจีน ลักษณะเป็นทรงเหลี่ยมซ้อนกัน 5 ชั้น ยอดเป็นรูปทรงน้ำเต้าก่ออิฐถือปูนปิดทึบ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ที่ภายนอกคล้ายกับอุโบสถ กลางหน้าบันมีวงกลม ภายในวงกลมเป็นรูปไก่ ซึ่งเป็นปีพระราชสมภพของรัชกาลที่ 3 วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เลขที่ 258 ซอยเอกชัย 4 ถนนเอกชัย แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 02 893 7274 https://goo.gl/maps/qVowVZoCDiBSQPeP8 สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของวัด

✨ ศิลปะจีนในวัดไทย วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨วิถีชีวิตริมคลอง จอมทอง-บางประทุน✨

ใน 1 วันไม่ไกล #กรุงเทพฯ วันนี้ แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมวิถีชีวิตชาวบ้านคลองบางประทุน เขตจอมทอง ฝั่งธนบุรี ที่ยังมีพื้นที่สีเขียวมากมาย มีลำคลองหลายสาย ชาวบ้านประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก และเป็นที่ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยแวะเวียนไป แน่นอนว่า…วันนี้เราจะพาไปนั่งเรือเที่ยวคลองกันค่ะ 🥰บอกเลยว่าเพื่อน ๆ จะหลงรักธรรมชาติและความเป็นอยู่ตามวิถีชีวิตชาวคลองแบบดั้งเดิมแบบแอด เอาล่ะ…เราไปรู้จักและสัมผัสวิถีริมคลอง #บางประทุน เริ่ม!! วิถีริมคลอง จอมทอง-บางประทุน นั่งเรือชมสวน วิถีชีวิตชาวบ้านบางประทุน ลิตเติลแอมะซอน เดินทอดน่องในสวนมะพร้าวสวนพี่โม่ง ชิมขนมใส่ไส้โบราณ บ้านลุงเปี๊ยก ชมวิธีทำตะลิงปลิงแช่อิ่มและกล้วยบ่มโบราณ บ้านป้าหน่วน ชิลล์ในสวนร่มรื่นที่ภูมิใจการ์เด้น การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) ลงที่สถานีวุฒากาศ แล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 8-9 กิโลเมตร มาลงที่วัดบางประทุนนอก รถไฟ ใช้บริการรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ลงที่สถานีจอมทอง ซึ่งตั้งอยู่หลังวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหารแล้วต่อรถแท็กซี่ประมาณ 8-9 กิโลเมตร มาลงที่วัดบางประทุนนอก หรือลงที่สถานีวัดไทร แล้วเดินไปที่วัดบางประทุนนอก ระยะทางประมาณ 800 เมตร รถยนต์ สามารถนำมาจอดได้ที่ วัดไทร วัดบางประทุนนอก และภูมิใจการ์เด้น  พิกัด : https://goo.gl/maps/PsT7QE4mtUZeuMG89 คลองบางประทุน คลองสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างคลองภาษีเจริญและคลองด่าน (คลองมหาชัย) เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรโดยเรือ เดิมชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวสวน แม้ปัจจุบันจะลดลงไปมาก เนื่องจากมีความเจริญของเมืองเข้ามามากขึ้น แต่ชีวิตริมคลองบางประทุนก็ไม่ได้เลือนหายไปค่ะ ยังมีพื้นที่สีเขียวอยู่มาก จนชาวบ้านเรียกกันว่าเป็น ลิตเติลแอมะซอน ทริปนี้เราจะล่องเรือไปตามคลองบางประทุน โดยใช้บริการเรือรับจ้างของพี่หลิม ชาวบ้านบางประทุนตัวจริงเสียงจริง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนเดินทางให้กับเราเลยค่ะ ถ้าใครอยากไปเส้นทางที่แอดพาชมในวันนี้ แนะนำให้ติดต่อพี่หลิม เพื่อประสานกับชาวบ้าน ไม่อย่างนั้นอาจจะได้นั่งเรือชมอย่างเดียว ระยะเวลานั่งเรือขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราไปชมกันค่ะ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าน้ำบางประทุนนอก ราคาเที่ยวละ 40 บาท แต่ถ้าต้องการเหมาเรือทั้งวัน ติดต่อสอบถามได้โดยตรงเลยค่ะ ติดต่อสอบถามได้ที่เรือรับจ้างคลองบางประทุน โทร. 08 6783 7555 (พี่หลิม) ระหว่างทางจะได้เจอกับสวนมะพร้าวที่ยังยืนต้นเติบโตเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่ไม่น้อย สวนที่พี่หลิมพาไปชมคือสวนพี่โม่ง ชาวสวนที่เกิดและเติบโตในบางประทุน ที่นี่ยังคงมีมะพร้าวหนาแน่น เติบโตให้ผลผลิตมาก สามารถนำไปขายได้สม่ำเสมอ ลูกค้าบางรายก็ติดต่อมาซื้อถึงสวนกันเลยก็มี จากสวนมะพร้าว มาชมการทำขนมที่บ้านลุงเปี๊ยก ว่ากันว่าทีเด็ดคือ ขนมใส่ไส้ ซึ่งมีเอกลักษณ์และอร่อยไม่เหมือนใคร ลุงเปี๊ยกใช้วัตถุดิบจากมะพร้าวอ่อนจากสวน ใครอยากลองลิ้มรสความอร่อย แนะนำให้สั่งล่วงหน้าหรือสามารถแวะไปชิมกันที่ตลาดนัดวัดไทรได้เช่นกัน ไปต่อกันที่บ้านป้าหน่วน ขึ้นชื่อเรื่องตะลิงปลิงแช่อิ่ม แอดยืนยันเลยว่า อร่อยจริง ๆ ค่ะ แวะบ้านนี้ยังจะชมการบ่มกล้วยหอม กล้วยน้ำว้าแบบโบราณในโอ่งที่หาชมได้ยากอีกด้วย ล่องเรือชมสวนกันไปแล้ว ไม่ไกลกันมากนัก แอดจะชวนไปนั่งคาเฟ่ในสวนย่านบางขุนเทียนที่ ภูมิใจการ์เด้น พื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ มีผลไม้อย่างลิ้นจี่อายุนับร้อยปี และไม้พื้นถิ่นอื่น ๆ ที่เจ้าของภูมิใจการ์เด้นดูแลรักษาอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นสวนที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดต่อล่องเรือพี่หลิม จะใช้บริการเรือที่ภูมิใจการ์เด้นก็ได้ ราคา 500-1,000 บาท นั่งได้ 10 คน จะบริการนำเที่ยวโดยรอบ แต่อาจจะไม่ได้เข้าถึงตามคลองชาวบ้าน เนื่องจากจะเป็นเรือลำใหญ่กว่าค่ะ : ) ในบริเวณภูมิใจการ์เด้น ยังมี Natura Garden Cafe คาเฟ่เก๋ ๆ ริมน้ำให้นั่งเล่น มีเมนูทั้งคาวหวาน น่ารับประทานมาก โดยเฉพาะสายหวาน ต้องไม่พลาดชิมเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรีจากผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ลิ้นจี่ ตะลิงปลิง มะยงชิด มะพร้าว ฯลฯ  9,3 หมู่ 6 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ  เปิดทุกวันเวลา 10.00-18.00 น.  โทร. 08 5123 1386 https://goo.gl/maps/2DxrvtYivexZJyyW8

✨วิถีชีวิตริมคลอง จอมทอง-บางประทุน✨ อ่านเพิ่มเติม

One day trip … บึงหนองบอน ⛵️

สวัสดีเพื่อน ๆ แฟนเพจ วันนี้แอดมีสถานที่น่าสนใจเหมาะกับการคลายร้อนของคนกรุงเทพฯมาฝาก นั่นคือ ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนที่เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจและเล่นกีฬาทางน้ำกันได้ โดยที่ไม่ต้องไปไกลถึงทะเล น่าสนใจใช่ไหม สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยไป ตามมาหาข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนได้เลย ร้านกาแฟ มีวนา  แต่ก่อนจะไปบึงหนองบอน แอดจะชวนแวะดื่มกาแฟให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ากันก่อน ร้านนี้ชื่อ มีวนา ที่แปลว่า มีป่า เป็นร้านกาแฟที่ร่มรื่นมาก โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ ในร้านตกแต่งโทนสีน้ำตาล โปร่งโล่งเพราะเพดานสูงและติดกระจกรอบร้าน ทำให้สามารถนั่งจิบกาแฟและชื่นชมสีเขียวของต้นไม้และสนามหญ้าด้านนอกได้อย่างสบายตา เมล็ดกาแฟของมีวนาเป็นกาแฟที่ปลูกภายใต้แนวคิดกาแฟออร์แกนิก บนพื้นที่กว่า 7,800 ไร่ในบริเวณป่าต้นน้ำสำคัญของจังหวัดเชียงราย โดยสมาชิกเกษตรกรจากหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งทำงานร่วมกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน เป็นการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว และรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ไปพร้อมกัน เรียกว่ามาดื่มกาแฟที่นี่ก็ช่วยรักษาป่าต้นน้ำได้เหมือนกันนะ  เลขที่ 1 คอร์เปอเรทปาร์ค อาคารพรีเมียร์ ซอย 2 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เปิดทุกวันเวลา 07:30-17:30 น.  065 728 9952 https://goo.gl/maps/ruh3ypzp3r9chmBm8 หลังจากดื่มกาแฟหอม ๆ ปลุกร่างกายให้ตื่นกันแล้ว ตามแอดไปที่ “ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน” ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟมีวนา มีเนื้อที่เกือบ 700 ไร่ เป็นบึงในโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เพื่อเอาไว้รองรับน้ำจากฝั่งตะวันออก แก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ บึงหนองบอนมีกิจกรรมทางน้ำให้เล่นมากมายไม่ว่าจะเป็นซับบอร์ด เรือใบ วินด์เซิร์ฟ เรือแคนู เรือคายัก ฯลฯ โดยต้องลงทะเบียนจองคิวก่อนใช้บริการ ส่วนเพื่อน ๆ ที่อยากเข้าร่วมแต่เล่นไม่เป็น ที่นี่ก็มีบริการสอนให้ โดยจะมีสอนทุกวัน แบ่งเป็น 2 รอบ คือ 13:00 น. และรอบ 16:00 น. โดยต้องลงทะเบียนจองคิววันต่อวัน (สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน หรือตรวจสอบข้อมูลที่หน้าเพจ ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการเข้าใช้บริการได้) ในการเรียนหรือเล่นกีฬาทางน้ำ เพื่อน ๆ ต้องสมัครสมาชิกกันก่อน วิธีการไม่ยากเลย เตรียมเอกสาร คือ บัตรประชาชน หรือ passport (สำหรับชาวต่างชาติ) และรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 1 นิ้วหรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป เท่านี้ก็มาสมัครสมาชิกได้แล้ว นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกเล่น เช่น วิ่งรอบบึง ปั่นจักรยาน ตะกร้อลอดห่วง บาสเก็ตบอล ฟุตซอล surf skate เป็นต้น สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่สายกิจกรรม จะชิลด้วยการนั่งปิกนิก หรือปูเสื่อผูกเปลนอนก็ได้นะ ที่สำคัญที่บึงหนองบอนนี้เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเดินเล่นได้ แต่ต้องมีสายจูงน้อง ๆ และจัดการเก็บอึของน้องไปทิ้งให้เรียบร้อยด้วย ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 นี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการพาน้องเข้ามาเที่ยว อย่าลืมสอบถามล่วงหน้ากันนะคะ  การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว  ขับมาทางถนนศรีนครินทร์ จนเจอแยกศรีอุดม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ขับเลยสวนหลวง ร.9 มานิดเดียว สังเกตทางซ้ายมือ จะเจอซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 เข้าไปจนสุดซอยจะเจอกับ ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน ด้านในมีทั้งที่จอดรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รถสาธารณะ  BTS ลงสถานีอุดมสุข ทางออกปากซอยอุดมสุข นั่งรถตู้สายประเวศ ลงปากซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 43 ต่อรถสองแถวสีขาว สายราม 2-สวนหลวง สองแถวจะจอดหน้าศูนย์กีฬาบึงหนองบอน หรือจาก BTS สถานีอุดมสุข นั่งรถสองแถวสีแดง สาย 1014 อุดมสุข-ประเวศ ลงหน้าสวนหลวง ร.9 ต่อรถสองแถวสีขาว สายราม 2-สวนหลวง เข้ามาศูนย์กีฬาบึงหนองบอนได้ รถเมล์สาย 206 จะมาถึงปากซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 จากนั้นต่อรถสองแถวสีขาว สายราม 2-สวนหลวง เข้าไปได้ง่ายๆ  ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน ซอย 43 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร  เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-เสาร์ 08.30 a.m. – 7.30 p.m. / วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.30-19.30 น.  02 328 0236 https://goo.gl/maps/U2TuK2ujG3zigBQdA

One day trip … บึงหนองบอน ⛵️ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวกินไหว้หลากสไตล์ @ ห้วยขวาง ✨

หากใครกำลังเบื่อ ๆ ไม่รู้จะทำอะไร วันนี้แอดมีเส้นทางเดินเล่นกลางกรุงเทพฯ มาแนะนำ เป็นเส้นทางย่านห้วยขวาง เพื่อน ๆ อาจนึกไม่ออกว่ามีอะไรน่าสนใจ แต่ตามแอดมา แอดจะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งความรู้ใหม่และอาหารรสชาติแปลกใหม่ พร้อมแล้ว นั่ง MRT สายสีน้ำเงินไปด้วยกันเลย ตารางเที่ยว 1. เรียนรู้เรื่องการลงทุนที่ Investory พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน 2. เปิดประสบการณ์ลิ้นกับอาหารเชียงตุงที่ ร้านใบบัว 3. ชิลล์ในบรรยากาศสบาย ๆ เคล้ากลิ่นกาแฟที่ Oasis coffee 4. ลิ้มลองรสชาติของอาหารจีนยูนนานที่ ร้านกินเส้นจุ้ยซิน 5. ไหว้ศาลพระพิฆเนศ ขอพร ขอกำลังใจ  Investory พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)  เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆ คนคงเริ่มมองหาช่องทางการสร้างรายได้อื่น ๆ นอกจากการทำงานประจำกันมากขึ้น การลงทุนก็เป็นสิ่งที่แอดคิดว่าสามารถช่วยสร้างรายได้เสริม ให้เรามีความมั่นคงมากขึ้น แถมยังมีเงินไว้ไปช้อปปิ้งท่องเที่ยวได้อีกด้วย แอดจึงอยากพาเพื่อน ๆ มาเรียนรู้หาข้อมูลที่นี่ INVESTORY เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559 เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการวางแผนการเงิน และการลงทุนในรูปแบบ Interactive Self-Discovery ให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจการลงทุนเข้ามาศึกษา โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครสมมติ เพื่อน ๆ จะได้รับบัตรประจำตัวที่เรียกว่า Hero card ซึ่งใช้เก็บข้อมูลของเรา ทั้งลักษณะการใช้จ่าย อายุ ฯลฯ รวมถึงข้อมูลการเรียนรู้ของเราตลอดเส้นทางในนิทรรศการ เพื่อเรียนรู้วิธีการต่อสู้กับ Money Monsters ซึ่งเจ้า Money Monsters ก็คือศัตรูทางการเงิน ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างค่าบริการโทรศัพท์รายเดือน ค่าเสื้อผ้า ค่าเดินทาง ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากันนั่นเอง จุดเด่นของที่นี่ คือจะมี SET Heroes ที่เป็นตัวแทนของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหลักทรัพย์แต่ละประเภท คือ Captain S ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น (Stocks) Guardian B ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตราสารหนี้ (Bonds) Pro M ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกองทุนรวม (Mutual Funds) และ Lady D ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอนุพันธ์ (Derivatives) มาช่วยอธิบายว่าการลงทุนแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ใครเหมาะกับอะไร ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจง่ายและสามารถทดลองปฏิบัติจริง เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก เข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ห้องถัดมา เพื่อน ๆ จะพบกับ SET Ecosystem ที่บอกเล่าโครงสร้างตลาดทุนไทย โดยมีตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนทุนที่มีอยู่ในระบบให้เกิดการหมุนเวียน นอกจากนี้ ยังมีวิดีโอตามรอยประวัติศาสตร์การพัฒนาการ 40 ปี ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จากอดีตถึงปัจจุบันอีกด้วย สิ่งที่แอดชอบมากก็คือ การที่ที่นี่มีการจำลองหาสัดส่วนการลงทุนตามผลการประเมินที่เราให้ข้อมูลไว้ ซึ่งที่นี่จะใช้ข้อมูลจริงของตลาดหุ้นในรอบ 5 ปีมาประกอบ โดยเพื่อน ๆ สามารถจำลองพอร์ตการลงทุนได้ตามใจ ที่สำคัญยังสามารถทดลองเทรดหุ้นเสมือนจริง หรือหากไปกันเป็นกลุ่มก็สามารถเทรดแข่งกับเพื่อนได้เลย ซึ่งหลังจากเล่นเสร็จ จะมีการส่งข้อมูลหุ้นนี้ไปทางอีเมล์ เพื่อน ๆ สามารถนำไปเป็นไกด์ในการซื้อขายจริงได้เลยล่ะ  ขอบคุณภาพจาก Investory พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน  กิจกรรมนี้ใช้เวลาราว ๆ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ได้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพียบ เดินทางง่ายมาก ใช้รถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทางออก 3 เดินต่อประมาณ 5 นาทีก็จะถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตรงไปที่ชั้นใต้ดินได้เลย นอกจากพิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุนแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถหาความรู้เรื่องการเงินการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ห้องสมุดมารวย ที่อยู่ใกล้ ๆ กันได้ด้วย อัตราค่าเข้าชม– ค่าเข้าชม ราคา 100 บาท (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ)– บุคคลที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าชมฟรี– เด็ก นักเรียน นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี) ที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี*** แต่งเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรนักเรียน นักศึกษา– ผู้สูงอายุ (ชาวไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป) ภิกษุ สามเณร และผู้พิการ*** แสดงบัตรประชาชน– ผู้เข้าชมแบบกลุ่ม (ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป)*** ต้องยื่นหนังสือขอเข้าชมจากหน่วยงานต้นสังกัด : ชั้นใต้ดิน อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เลขที่ 93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400: เปิดทุกวัน 09:30 – 17:00 น. (หยุดวันจันทร์): 0 2009 9000 ต่อ 3566  ร้านใบบัว  จากสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปที่สถานีห้วยขวาง หนึ่งในย่านที่มีร้านอาหารมากมายและหลากหลาย ซึ่งร้านที่แอดจะมาแนะนำก็คือ ร้านใบบัว ร้านใบบัวเป็นร้านอาหารเชียงตุง หากเพื่อน ๆ นึกภาพไม่ออกว่าเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงอาหารเหนืออย่างพวกข้าวซอย น้ำเงี้ยว ลาบคั่ว แต่ที่พิเศษก็คือ ที่นี่มีเมนูข้าวแรมฟืนขายด้วย ร้านใบบัวเป็นตึก 2 คูหา แต่มีเมนูให้เลือกเยอะมากถึง 40 เมนูต่อวันเลยทีเดียว ทุกเมนูรสชาติจัดจ้าน ปรุงแบบจัดเต็ม เมนูที่แอดอยากให้เพื่อน ๆ

✨ เที่ยวกินไหว้หลากสไตล์ @ ห้วยขวาง ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top