กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

✨ Buddha & Pals @ Kanvela House ✨

วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มานั่งชิลที่คาเฟ่สวย ๆ ในตึกเก่ากัน ขอบอกว่า Mood ของร้านดีมาก สำหรับแอด นี่คือโมเม้นต์ “หยุดเวลาปัจจุบันไปดื่มด่ำกับเวลาในอดีต” เลยทีเดียว ลองตามไปดูกันว่าจะรู้สึกเหมือนแอดกันไหม ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนกรุงเกษม ใกล้วัดโสมนัส เป็นตึกแถวโบราณอายุกว่า 80 ปีที่เคยเปิดเป็นร้านรวงต่าง ๆ มามากมาย ก่อนจะกลายเป็นโฮสเทล Kanvela House และคาเฟ่ Buddha & Pals เช่นในปัจจุบัน เมื่อเปิดประตูร้านก้าวเข้าไปก็เห็นได้เลยว่าเป็นการรีโนเวทอาคารเก่าที่มีความประณีตมาก และยังคงรักษาเสน่ห์ของอาคารเก่าไว้ได้อย่างดี ภายในร้าน เราจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของวันเวลาในอดีต ผ่านการตกแต่งแนว Rustic และเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Vintage พร้อมกับพลังความสดชื่นมีชีวิตชีวาของธรรมชาติจากต้นไม้จริงที่จัดวางอยู่ตามมุมต่าง ๆ ในร้าน เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม แอดสั่ง Signature มาลอง 2 เมนู คือ Kanvela อเมริกาโนรสเข้ม ที่ผสมน้ำผึ้งเพิ่มความหวาน และใส่เลมอนเพิ่มความเปรี้ยวและความหอม สดชื่นสุด ๆ อีกเมนูคือ Recall ที่ทางร้านใช้ มะนาว เลมอน โซดาผสมชาเล็กน้อย กลิ่นหอมละมุนและเปรี้ยวหน่อย ๆ เหมาะกับการพักผ่อนมาก ๆ หลังจากเต็มอิ่มกับเครื่องดื่มและบรรยากาศในร้านแล้ว เพื่อน ๆ สามารถไปเดินเล่นต่อได้ที่ตลาดนางเลิ้ง ใกล้มาก ๆ ใช้เวลาเดินราว ๆ 5 นาทีเท่านั้น ในตลาดมีร้านอร่อยหลายร้านทั้งของคาวของหวาน จะแวะชิมหรือช้อปปิ้งติดมือกลับบ้านก็ไม่เลวเลย สำหรับผู้ที่ขับรถมา สามารถจอดรถหน้าร้านตลอดแนวถนนกรุงเกษม ตามเวลาที่กำหนด หรือจอดที่วัดโสมนัส (ชั่วโมงแรก 20 บาท ชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงละ 10 บาท) ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/WvdDNXLZZoevmcZLA เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ คาเฟ่เปิดเวลา 10:00 – 19:00 น. / บาร์เปิดเวลา 19:00 – 24:00 น. 06 1585 9293

✨ Buddha & Pals @ Kanvela House ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨Amazing Thailand ‘Discovering heart of Bangkok’ ✨

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ “Discovering Heart of Bangkok” โดยเข้าเยี่ยมชม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์และประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวไทยให้แก่นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ Seeds for the Future 2022 กว่า 120 คน จาก 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism)

✨Amazing Thailand ‘Discovering heart of Bangkok’ ✨ อ่านเพิ่มเติม

Open Ceremony of Seed for the Future 2022

✨📣✨บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด (ประเทศไทย) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมูลนิธิอาเซียน (Asean Foundation) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมโครงการ Seeds for the Future 2022 ✨📣✨ เช้าวันนี้ (19 สิงหาคม 2565) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด (ประเทศไทย) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมูลนิธิอาเซียน (Asean Foundation) เป็นเจ้าภาพในการจัดงานพิธีเปิดโครงการ Seeds for the Future 2022 ณ ห้อง The Grand Ballroom โรงแรม Park Hyatt Bangkok โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านไอที การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม อีกทั้งการนำเสนอภาพลักษณ์และประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวไทยให้แก่นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 120 คน จาก 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-27 สิงหาคม 2565 ณ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา ได้เข้าร่วมงานพิธีเปิดโครงการและให้เกียรติเป็นผู้มอบเข็มกลัด Amazing Thailand Ambassador แก่ตัวแทนเยาวชนทั้ง 16 ประเทศ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ “Discovering Heart of Bangkok” ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) อีกทั้งเชิญชวนให้เยาวชนร่วมโพสต์เรื่องราวความประทับใจและแชร์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อลุ้นชิงรางวัลสุดพิเศษซึ่งทาง ททท. จัดเตรียมเซอร์ไพรส์ให้แก่เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือก

Open Ceremony of Seed for the Future 2022 อ่านเพิ่มเติม

บ้านขนมปังขิง เรือนไทยเก่าแก่ย่านเสาชิงช้า ✨

วันหยุดที่ผ่านมา แอดมีโอกาสเดินเที่ยวเล่นแถวย่านเสาชิงช้าในกรุงเทพฯ และสะดุดตากับบ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง ชื่อว่า “บ้านขนมปังขิง” ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมภายนอก ใครผ่านไปผ่านมา ก็คงต้องแอบถ่ายรูปไว้แน่ วันนี้แอดเลยจะพาไปชมและไปชิมขนมไทยอร่อย ๆ ที่นี่กันค่ะ บ้านไม้เลขที่ 47 หลังนี้เป็นบ้านของขุนประเสริฐทะเบียน (ขัน ยุวะกนิษฐ) ที่ซื้อที่ดินเปล่าขนาด 47 ตารางวา และสร้างบ้านขนมปังขิงหลังนี้ขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2456 ซึ่งนับอายุแล้วก็กว่าร้อยปีเลยทีเดียว และมีสัญลักษณ์ประจำตัว แกะสลักลายไม้วงกลมเขียนว่า “ขัน” เหนือช่องลมประตูและหน้าต่างของตัวบ้าน ซึ่งที่มาของชื่อ “ขนมปังขิง” นั้นมาจากการที่ลวดลายเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับ “ขนมปังขิง” คุกกี้ของชาวยุโรปที่อบกินกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนั่นเอง สิ่งที่โดดเด่น คือ รูปแบบสถาปัตยกรรมในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ที่เรียกว่า “ขนมปังขิง” หรือ “Ginger Bread House” มีการตกแต่งลายฉลุตามส่วนต่าง ๆ ของตัวบ้านทั้งประตู กำแพง หน้าต่าง ฯลฯ มองจากข้างบน ก็มีที่นั่งใต้ต้นไม้ชิล ๆ  บ้านขนมปังขิง อยู่ในซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ เดินเข้าซอยมาแค่ 20 เมตรก็จะเห็นได้ไม่ยาก บ้านหลังนี้มี 2 ชั้น ตกแต่งสไตล์วินเทจ มีทั้งรูปภาพเก่า โต๊ะเก้าอี้สมัยเก่า หากนับอายุของตัวบ้านแล้วก็มีการซ่อมแซมอยู่หลายครั้งเพื่อรักษาสภาพของบ้านให้เหมือนเดิมมากที่สุด ปัจจุบันได้ปรับให้เป็นร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ มีสิ่งของเครื่องใช้สมัยโบราณที่คงสภาพดีให้เราได้ชมด้วย นอกจากนี้ ยังให้บริการเครื่องดื่ม ชา ขนมไทย ขนมเค้ก เลือกกันตามความชอบเลย  47 ซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ  เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น. โทร. 097 229 7021 https://goo.gl/maps/aSRShtp1FXC2

บ้านขนมปังขิง เรือนไทยเก่าแก่ย่านเสาชิงช้า ✨ อ่านเพิ่มเติม

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ทำหน้าที่รักษาทิศทั้ง 4 ทิศในสวรรค์ชั้นแรก ชื่อว่าชั้นจาตุมหาราชิกา โดยท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ดูแลทิศเหนือ อีกสามองค์ คือ ท้าวธตรฎฐ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก เป็นผู้ดูแลทิศใต้ และท้าววิรูปักษ์ เป็นผู้ดูแลทิศตะวันตก เชื่อกันว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ผู้ที่บูชาท้าวเวสสุวรรณและประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมจะประสบความสำเร็จ ร่ำรวย มีโชคลาภ ยังเชื่อกันด้วยว่าท้าวเวสสุวรรณจะช่วยปกป้องผู้บูชาจากภูตผีและสิ่งชั่วร้าย เพื่อน ๆ พอจะรู้จักท้าวเวสสุวรรณกันบ้างแล้ว วันนี้แอดมี 5 พิกัดที่สามารถไปสักการะบูชาท้าวเวสสุวรรณมาฝากค่ะ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่บริเวณหลังพระอุโบสถ ที่วัดสุทัศน์จะมีคาถาอัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ โดยบทสวดนี้อัญเชิญมาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก และมีคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณภาษาบาลีที่ไม่เหมือนบทสวดในวัดอื่นๆอีกด้วย  เปิดทุกวัน 08.00-21.00 น. อุโบสถ 09:00-16:00 น.  : 146 ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร : 02 222 6932, 02 222 9635, 063 654 6829 https://goo.gl/maps/n7jb6RCCGtXgCJCD9 วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม ท้าวเวสสุวรรณที่นี่มีถึง 4 ปาง ได้แก่ ปางพรหมาสูติเทพ พระพักตร์แบบพรหม, ปางเทพบุตร พระพักตร์แบบเทวดามีลายพระโอษฐ์, ปางจาตุมหาราช พระพักตร์แบบยักษ์ และ ปางมนุษย์ พระพักตร์แบบเทวดาไม่มีลายพระโอษฐ์ : เปิดทุกวัน 06:00-24:00 น.  : 93 หมู่ 9 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม  : 081 845 0713 https://goo.gl/maps/m1zzJ7QeCiqmvMVz6 วัดสุทธาราม กรุงเทพมหานคร ที่วัดสุทธารามมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ องค์เล็กสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีคนเข้ามาทำบุญมากขึ้นจึงได้นำเงินมาสร้างเป็นองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในบริเวณเดียวกัน เจ้าอาวาสวัดสุทธารามแนะนำว่า ในการแก้บนให้นำข้าวสาร อาหารแห้งมาถวายทางวัดจะนำไปแจกให้กับคนในชุมชนต่อไป ถือว่าแก้บนได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้วก็ยังมอบสิ่งนั้นกลับให้คนที่ขาดแคลนอีกด้วย : เปิดทุกวัน 09:00-21:00 น.  : ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 19 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/suttharam9/ https://goo.gl/maps/dMaM9SPWWFY9utWw5 วัดจุกเฌอ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวัดจุกเฌอมีท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ เรียกกันว่าท้าวรุ่งเรืองมีกายสีม่วง และท้าวร่ำรวยมีกายสีแดง : เปิดทุกวัน  : ตำบลคลองจุกเฌอ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา  : 038 514 009 https://goo.gl/maps/UTrM25gxLBQZZGXx9 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ท้าวเวสสุวรรณที่วัดนี้เป็นท้าวเวสสุวรรณปางประทับนั่ง ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธชินราช สถิตถวายการอภิบาลอยู่ที่ฐานชุกชีรัตนบัลลังก์ข้างพระชานุด้านซ้ายขององค์พระพุทธชินราช : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.  : 92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก  : 055 258 966 https://goo.gl/maps/dBvNUVtEbUrFVGW3A

5 พิกัดสถานที่ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ อ่านเพิ่มเติม

1 วัน ชิม ชิล ชม @ พระโขนง-เอกมัย

หากเพื่อน ๆ อยู่ในสภาวะเบื่อ ๆ หมดไอเดีย ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน และอยากหากิจกรรมอะไรใหม่ ๆ ลองทำ แวะมาทางนี้ แอดมีไอเดียเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯที่จะพาไปชิมอะไรใหม่ ๆ เดินทางง่าย ๆ ชิลล์ ๆ แถวพระโขนง-เอกมัย ลองอ่านดู เผื่อเป็นไอเดียเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ได้เลย  โปรแกรมเที่ยว  1. เปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารพม่า ที่ร้านโมนา 2. อร่อยกับไอศกรีมหลากรส ที่ Rintaro 3. เพิ่มความรู้ทางดาราศาสตร์ ที่ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย 4. จิบกาแฟในร้านเครื่องเขียน Ve/la café  1. อาหารเมียนมา ร้านโมนา  มาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กันที่มื้อเช้าแบบเมียนมากัน ร้านโมนาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 71/1 เดินทางได้โดยนั่ง BTS มาลงที่สถานีพระโขนง ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร ร้านนี้เป็นร้านอาหารเมียนมาร้านแรกในย่านนี้ เปิดขายอยู่ในตลาดพระโขนงมาเกือบ 20 ปีแล้ว บรรยากาศรอบ ๆ ร้านมีทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชำ กลิ่นกำยานและเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารเมียนมา ผสมผสานกับเสียงพูดคุยเฮฮาในภาษาเพื่อนบ้าน ทำให้แอดรู้สึกแปลกใหม่เหมือนอยู่ต่างแดนมากทีเดียว อาหารเมียนมา ส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบเป็นพืชผักชนิดต่าง ๆ เช่น หอมแดง มันฝรั่ง มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ ถั่วนานาชนิด ใบเมี่ยง ใบชา ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊ว และกะปิเป็นหลัก เมนูแรกที่สั่งคือ “หม่อฮิงคา” (MO HIN GA) เป็นขนมจีนน้ำยาปลาใส่หยวกกล้วย ที่เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเป็นอาหารเช้าที่ชาวเมียนมานิยมกิน น้ำซุปอุ่น ๆ รสเค็มหวานอ่อน ๆ หอมกลิ่นปลาแห้ง ขิง ตะไคร้ ซดกับขนมจีนเส้นเล็ก ๆ คล่องคอดีเลย แอดลองบีบมะนาวลงไปก็อร่อยสดชื่นไปอีกแบบ หรือถ้าอยากให้รสจัดขึ้น แนะนำให้กินคู่กับผักดองรสเปรี้ยวเผ็ดของทางร้าน จานนี้คือ ถั่วพูอุ่น (TUA PU EUN) เป็นซุปข้นถั่วลูกไก่ ราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า โรยด้วยถั่วป่น รสชาติหวาน ๆ มัน ๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ เป็นอีกเมนูที่นิยมกินเป็นอาหารเช้าเช่นกัน อาหารว่างที่ขึ้นชื่ออีกเมนูก็คือ “ละเพะโตะ” (LA PAE TOH) หรือยำใบชา ส่วนผสมหลักคือ ใบชาหมัก คลุกเคล้ากับงาขาวคั่ว กุ้งแห้งทอด กระเทียมสด กระเทียมเจียว ขิงดอง มะพร้าวคั่ว พริกขี้หนู และมะเขือเทศ รสชาติเปรี้ยวนำคล้ายกับยำแหนมข้าวทอดบ้านเรา แต่จะเจือรสเฝื่อนนิด ๆ ของใบชา อร่อยไปอีกแบบ นอกจากเมนูอาหารเช้าแล้ว แอดยังได้ลองของทอดแบบพม่าด้วย ร้านอยู่ทางด้านซ้ายของร้านโมนา ชิ้นกลม ๆ คล้ายขนมไข่หงส์นั้น เป็นแป้งทอดชิ้นหนาเคี้ยวหนึบ ไส้ด้านในรสคล้ายขนมต้ม ส่วนอีก 2 ชิ้นคือ หอมแดงชุบแป้งทอด และใบบัวบกชุบแป้งทอด กรอบอร่อย กินเพลิน จิ้มกับน้ำจิ้มกะปิ อร่อยมาก อีกหนึ่งความพีคของแอดคือ การลองกินหมากครั้งแรก ซึ่งหมากพม่าจะใช้ใบพลูทาปูนขาวแทนปูนแดง โรยผงเครื่องเทศกลิ่นหอมของพม่าและน้ำผึ้งเป็นอันเสร็จ รสชาติจะออกหวานหอม เย็นนิด ๆ แต่พ่อค้าเตือนว่าหากไม่เคยกินหมาก ระวังจะเมาหมาก ให้แอดคายออกมาหลังจากลองเคี้ยวไปไม่กี่คำ สนนราคากล่องละ 20 บาท (คำละ 2 บาท)  MO.NA อาหารพม่า  : สุขุมวิท 10/32 ซอยสุขุมวิท 71/1 แขวง พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 : 07.00 – 20.00 น. : 06 2709 0665, 08 2329 5206  2. ร้านไอศกรีม Rintaro  จากร้านโมนา เดินย้อนกลับมาทาง BTS สถานีพระโขนง แอดจะพาไปกินไอศกรีม ร้าน Rintaro อยู่ในโครงการ W District เป็นร้านไอศกรีมเจลาโตเล็ก ๆ มีเก้าอี้ให้นั่งทานอยู่หน้าร้าน Rintaro เป็นร้านไอศกรีมจากจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายต้องการสนับสนุนให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลไม้ได้มากขึ้น ดังนั้น ทางร้านจึงเลือกใช้ผลไม้ตามฤดูกาลในพื้นที่มาเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งปัจจุบัน ผลิตเจลาโต้ออกมาแล้วกว่า 300 รสชาติ โดยจะหมุนเวียนนำมาขายตามฤดูกาล ในร้านมีตู้ไอศกรีมเจลาโตหน้าตาน่ากินให้เลือกเยอะไปหมด จนแอดต้องตั้งสติว่าจะเอารสไหนดี โดยทางร้านจะมีรสเบสิก 7 รสที่เหมือนกันทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น คือ ชาเขียว นมสด ชีส Camembert กับถั่ว กาแฟลาเต้ชีสเค้กอบ คุโรมิทสึผงถั่วคินาโกะ เบอร์รีโยเกิร์ต และโกโก้ แอดเลือกสั่งมา 4 รส ถูกใจทุกรส แม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ขอบอกว่า ทุกคำที่ได้กินเข้าไป รสชาติดีมากจริง ๆ เพราะทางร้านใช้วัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ ไม่ใช้ผลไม้แช่แข็ง ไม่ใช้สารเคมีในการทำไอศกรีม ความหวานที่ได้จะมาจากวัตถุดิบและน้ำผึ้งเท่านั้น แถมส่วนผสมในเนื้อไอศกรีมบางรสอย่างโมจิ ถั่วแดง รวมถึงแป้งต่าง ๆ ทางร้านก็ทำเองอีกด้วย แอดถือว่าคุ้มราคากับคุณภาพ รสชาติ และความปลอดภัย  ร้านไอศกรีม Rintaro  :

1 วัน ชิม ชิล ชม @ พระโขนง-เอกมัย อ่านเพิ่มเติม

ตำหนักจิตรลดา วังปารุสกวัน

วันนี้แอดมีสถานที่น่าชมในกรุงเทพฯ มาฝากค่ะ เหมาะกับวันว่างที่ไม่อยากออกเดินทางไปเที่ยวไกล ๆ นั่นก็คือตำหนักจิตรลดา วังปารุสกวัน แอดจะพาไปชมนิทรรศการ เรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงามของตำหนัก หากมีโอกาส เข้าไปชมและซึบซับบรรยากาศของประวัติศาสตร์กันได้นะคะ “ตำหนักจิตรลดา” เป็นอาคารเก่างดงามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเตรียมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยสร้างพร้อมกับตำหนักสวนปารุสกวัน เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ ปัจจุบัน ตำหนักจิตรลดาจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ ส่วนตำหนักสวนปารุสกวัน เป็นที่ตั้งของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เดียวกันที่เรียกว่า “วังปารุสกวัน”  ตำหนักจิตรลดา เป็นอาคารแบบอิตาเลียนวิลล่าสูง 2 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบ Stile Liberty ภายในอาคารทั้งกรอบประตู หน้าต่าง และผนังมีการประดับตกแต่งด้วยลายพรรณพฤกษาสไตล์อาร์ต นูโว (Art Nouveau Style) ขณะที่บางห้องมีศิลปะบาโรกและรอกโคโคที่ได้รับความนิยมในยุโรป ภายในตำหนักจิตรลดาจัดเป็นนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 8 ห้อง โดยจะมีผู้นำชมพาเราเดินชมแต่ละห้องพร้อมบรรยายถึงสถาปัตยกรรมสำคัญในตำหนักหลังนี้ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน นอกจากนี้ ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ตำรวจ (อาคารกระจก) เดิมเป็นที่ทำการของกองตำรวจสื่อสาร ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ความเป็นมา วัตถุสิ่งของต่าง ๆ และวิวัฒนาการของตำรวจไทย

ตำหนักจิตรลดา วังปารุสกวัน อ่านเพิ่มเติม

SiamScape : กรุงเทพฯ

ท่ามกลางตึกใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ มีอยู่แห่งหนึ่งที่แอดว่าแปลกตาและน่าสนใจมาก นั่นคือ SiamScape แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางเมืองย่านสยามสแควร์ น่าสนใจขนาดไหน ไปชมกันเลย.. อาคารนี้มีทั้งหมด 25 ชั้น มีทั้งออฟฟิศ คาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้ ร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม ธนาคาร รวมทั้ง co-working space เรียกว่ารองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเลย สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมถ่ายรูปชิค ๆ กับจุดไฮไลท์เด่น ๆ กันค่ะ การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว สามารถจอดได้ที่ Siam Scape ค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท BTS : ลงสถานีสยาม หรือ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ อาคารนี้มีทั้งหมด 25 ชั้น มีทั้งออฟฟิศ คาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้ ร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม ธนาคาร รวมทั้ง co-working space เรียกว่ารองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเลย สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมถ่ายรูปชิค ๆ กับจุดไฮไลท์เด่น ๆ กันค่ะ จุดที่เป็นไฮไลต์คือ Installation Art ชื่อผลงานว่า ILLUSCAPE ความสูงประมาณ 20 เมตร อยู่ที่โถงบันไดเลื่อน ชั้น 4 -7 มุมนี้ก็เป็นมุมฮอตฮิต มีคนสนใจมาถ่ายรูปกันเพียบ เป็นศิลปะฝาผนังคริสตัลสีเงิน สีทองแดง สีเทา เล่นกับแสงไฟ ระยิบระยับ ไม่ควรพลาดเช่นกัน! อีกจุดที่เป็นไฮไลต์ที่ใคร ๆ ต้องมา อยู่ที่ชั้น 10 สวนลอยฟ้า (Skyscape) เป็นพื้นที่กลางแจ้งจัดเป็นสวนสาธารณะบนดาดฟ้าและลานกิจกรรมนอกอาคาร สามารถยืนชมวิวกรุงเทพฯ ได้ 3 ทิศ คือ ฝั่ง MBK Center ฝั่งสยามสแควร์ และฝั่งจามจุรีสแควร์ หากใครอยากขึ้นมาชม ในช่วงกลางวันอาจจะร้อนสักหน่อย บรรยากาศช่วงเย็นจะดีกว่า หรือถ้าค่ำหน่อยก็จะสวยไปอีกแบบ เพราะทางสวนจะมีการเปิดไฟค่ะ

SiamScape : กรุงเทพฯ อ่านเพิ่มเติม

5 สะพานข้ามคลองรอบเกาะรัตนโกสินทร์

เมื่อมีการขุดคลอง ทำให้เมืองถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง จึงจำเป็นต้องมี “สะพาน” มาเชื่อมทั้งสองฝั่งให้สามารถสัญจรไปมาหาสู่กันได้ วันนี้แอดจะชวนไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากสะพานข้ามคลองใน #เกาะรัตนโกสินทร์กัน ค่ะ สะพานเจริญศรี 34  เป็นสะพานข้ามคลองบริเวณถนนบุญศิริ ตรงวัดบุรณศิริมาตยาราม สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2457 มีโครงสร้างและพื้นสะพานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะเด่นคือ หัวสะพานทั้ง 4 เสา จะประดิษฐ์เป็นรูปพานมีฐานเป็นเฟื่องอุบะ โดยพานจะมีสองพานเรียกว่า พานแม่พานลูก เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องด้วยทั้งสองพระองค์ทรงมีวัดพระราชสมภพวันเดียวกันคือ 1 มกราคม สาสะพานเขียนว่า 34 หมายถึงพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนเลข 4 หมายถึงสะพานนี้เป็นสะพานลำดับที่ 4 ที่สร้างในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สาเหตุที่ทรงโปรดเกล้าให้สร้างมีอยู่ 2 ประการ คือ เพื่ออุทิศเป็นสาธารณกุศล และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา : https://goo.gl/maps/d24JNqKqEGbg7pBJ8 สะพานช้างโรงสี  เป็นสะพานข้ามคลองบริเวณถนนบำรุงเมือง ตรงกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงกลาโหม สะพานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่เสาปลายราวสะพานมีรูปหัวสุนัข แต่เดิมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สะพานนี้เป็นสะพานไม้ซุง ใช้สำหรับให้ช้างเดินเข้าเขตพระนคร โดยสะพานที่ช้างใช้ข้ามเข้าพระนครจะมี 3 สะพานได้แก่ สะพานช้างวังหน้า ปัจจุบันเป็นที่ลาดเชิงสะพานปิ่นเกล้า สะพานช้างปากคลอง ปัจจุบันคือสะพานเจริญรัช และสะพานช้างโรงสี สันนิษฐานว่าชื่อสะพานมาจากบริเวณสะพานมีโรงสีข้าวอยู่จึงถูกเรียกว่าสะพานช้างโรงสี รูปหัวสุนัขที่สะพานและตัวหนังสือ ศก 129 มาจากปีที่สร้างสะพานเสร็จ นั่นก็คือ รัตนโกสินทร์ศก 129 ซึ่งตรงกับปีจอ : https://goo.gl/maps/bdtTK8a4XVT4E8jj8 สะพานปีกุน  เป็นสะพานเชื่อมถนนราชินีกับถนนอัษฎางค์ ตรงหน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และหน้าวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม สะพานนี้ทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นสะพานคนเดิน หัวเสาเป็นทรงถ้วยประดับมาลาเป็นช่อ ทำให้สะพานดูมีลวดลายที่สวยงาม สะพานนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เดิมเป็นสะพานไม้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงอุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เนื่องในวโรกาสเจริญมายุครบ 4 รอบ แต่ต่อมาเรียกว่าสะพานหมู หรือสะพานปีกุน เนื่องจากบริเวณเชิงสะพานฝั่งถนนอัษฎางค์มีอนุเสาวรียย์หมูอยู่ : https://goo.gl/maps/htCAR3QgMCXNVjyz5 สะพานหก  เป็นสะพานเชื่อมถนนราชินีกับถนนอัษฎางค์บริเวณซอยพระยาศรี สร้างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสะพานแบบฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) สามารถชักขึ้นชักลงให้เรือผ่านได้ ซึ่งในตอนนั้นมีสะพานลักษณะเดียวกันนี้ถึง 8 สะพาน แม้ในปัจจุบันจะได้เปลี่ยนเป็นสะพานให้คนเดินข้ามแล้วแต่ยังคงเรียกว่า สะพานหก เช่นเดิม : https://goo.gl/maps/QiHZn6ABych9Mi3K7 สะพานผ่านฟ้าลีลาศ  เป็นสะพานเชื่อมระหว่างถนนราชดำเนินกลางกับถนนราชดำเนินนอก จุดเด่นของสะพานคือเสาหินอ่อนประดับด้วยสำริดรูปเรือไวกิ้งที่กลางเสา ส่วนหัวเสาประดับด้วยสำริดหล่อรูปพวงมาลา ลูกกรงเหล็กราวสะพานเป็นเหล็กหล่อลวดลายดอกไม้ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยช่างจากต่างประเทศ เนื่องจากสะพานผ่านฟ้าตั้งอยู่บริเวณที่เป็นจุดทางแยกของถนนหลายสาย จึงทำให้ถูกแก้ไขดัดแปลงหลายครั้งแต่ก็ยังคงความสวยงามไว้อยู่ : https://goo.gl/maps/NyWtsMJ7ciY11r929

5 สะพานข้ามคลองรอบเกาะรัตนโกสินทร์ อ่านเพิ่มเติม

✨ แนะนำร้านอาหารอินเดีย ย่านสีลม-บางรัก ✨

ช่วงที่ผ่านมา กระแสจากภาพยนต์เรื่องคังคุไบฮ็อตเอามาก ๆ จนหลายคนหันมาสนใจเรื่องราวของอินเดียกันมากขึ้น ทั้งดารา แฟชั่นเครื่องแต่งกาย ฯลฯ แอดเลยขอถือโอกาสนี้แนะนำร้านอาหารอินเดียในย่านสีลม-บางรักให้เพื่อน ๆ รู้จักสัก 2-3 ร้าน เผื่อจะมีใครสนใจนึกอยากลองไปสัมผัสรสชาติอาหารอินเดียกันบ้าง  Haji Ali Taste of Mumbai  ร้าน Street food สไตล์มุมไบ ที่มีทั้งของหวาน อาหารว่าง รวมทั้งแซนด์วิชรสชาติแปลกใหม่ให้ลอง ทุกเมนูทำจากผักผลไม้สด ๆ เมนูเด็ดของทางร้านคือ Fruit Falooda ขนมอินเดียที่หน้าตาคล้ายลอดช่องสิงคโปร์ ประกอบด้วยนม เม็ดแมงลัก เยลลี ไซรัปหลากชนิดเพิ่มความหอม อร่อย ด้านบนท้อปด้วยไอศกรีมวานิลลา ผลไม้แห้ง ถั่วสับ กินเรียกความสดชื่นได้ดี รสชาติคล้าย Milk shake + หวานเย็น Dahi Sev Puri เป็นของว่างทานเล่นที่ทำจากแป้ง puri ข้างในใส่ซอสมะขาม โยเกิร์ต ถั่วชิคพี ผงพริก โรยด้วย sev(มาม่าอินเดีย) และมีผักชีเพิ่มความหอม รสชาติเมนูนี้จะเปรี้ยวนำ จากนั้นจะได้รสและกลิ่นหอมของโยเกิร์ต ตามด้วยความกรอบของถั่ว อาจดูแปลกสำหรับบางคน แต่เชื่อเถอะว่าเป็นเมนูดังของทางร้านที่ใครไปก็ต้องลองสักครั้ง Cocktail Juice แม้ชื่อจะเป็นค็อกเทล แต่อย่าลืมว่านี่เป็นร้านฮาลาล ไม่มีแอลกอฮอล์ขาย เมนูนี้อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือน้ำผลไม้รวมปั่น ที่ทางร้านนำแอปเปิ้ล สับปะรด องุ่นและทับทิม มาปั่นรวมกัน สดชื่นมาก  : ร้านอยู่โครงการบ้านสีลม ซอยสีลม 19 (อยู่หลัง Starbucks บ้านสีลม)  : เปิดทุกวัน 10.30-22.30 น. (วันศุกร์มีช่วงปิดกลางวันเวลา 12.30-13.30 น.)  : 0 2635 0500  : https://goo.gl/maps/w8KXmzgn76iWDPfN7 Tamil nadu restaurant  หากใครมองหาร้านอาหารอินเดียมุสลิม ที่มีเนื้อให้เลือกหลากหลาย รสชาติและกลิ่นไม่จัดมาก เจ้าของร้านเฮฮาเป็นกันเอง แอดขอแนะนำร้านนี้เลย  ส่วนเมนูแนะนำคือ อาหารชุดแกงไก่มาซาล่า รสชาติดี ยิ่งกินกับโรตีของทางร้าน ยิ่งฟิน เมนูแนะนำอีกเมนูคือ ไก่ทอด 65 โดยทางร้านจะใช้ไก่อายุ 65 วันมาหมักเครื่องแกงแล้วนำไปทอด รสชาติเค็ม ๆ หอม ๆ กินง่ายกินเพลิน เผลอแป๊บเดียวมีหมดจาน  : 11 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500  : เปิดทุกวัน 09:30-21:30 น.  : 0 2235 6336  : https://goo.gl/maps/DCSPQr4WrgrZDapA8  Sugam bangkok Taste of happiness  ร้านอินเดียใต้มังสวิรัติย่านวัดแขกร้านนี้มีแนวคิดว่า “อยากให้ลูกค้ามีความสุข กินเยอะ ๆ จ่ายเงินน้อย ๆ” แค่ได้ยินก็น่าสนใจแล้วใช่ไหม เมนูยอดฮิตของร้านนี้คือ Unlimited Thali ในราคา 119 บาท ซึ่งเป็นชุดอาหารมังสวิรัติ 12 อย่าง มีทั้งข้าว จาปาตี แกงต่าง ๆ รวมทั้งขนมด้วย ขายเฉพาะวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-15.00 น.  อีกหนึ่งเมนูที่แอดอยากแนะนำก็คือชุด Plain Dosa With Coconut Chutney and Sambhar แป้งโดซาหมักที่มีรสเปรี้ยวนิด ๆ จิ้มกับซอสมะพร้าวและมะเขือเทศก็อร่อย หรือจะจิ้มกับซัมบาร์ (สตูว์ผักที่ทำจากถั่วเลนทิลปรุงด้วยน้ำมะขาม) ก็อร่อยเพลินไม่เบา  : 131 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500  : 11:00-15:00 น. / 18:00-21:00 น.  : 09 9119 4546  : https://g.page/Sugamrestaurant?share

✨ แนะนำร้านอาหารอินเดีย ย่านสีลม-บางรัก ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top