กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨ภายใต้คอนเซปท์ 🔹สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด🔹 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ทั้ง 2 พระอารามหลวง จัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูปและก่อเจดีย์ทราย ระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย. 2565 เวลา 09.00-18.00 น.

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨

เข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครคิดแบบแอดบ้าง ที่นึกอยากจะกินข้าวแช่ขึ้นมาทุกครั้งไป ในฐานะคนชอบกินข้าวแช่ เลยอยากจะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับข้าวแช่ พร้อมแนะนำพิกัดร้านข้าวแช่แสนอร่อยมาฝากกัน ข้าวแช่แต่เดิมเป็นอาหารของชาวมอญ ในอดีตการหุงข้าวแช่เป็นพิธีกรรมในการบูชาเทวดาอย่างหนึ่ง นิยมทำในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ชาวมอญ เป็นโอกาสที่ญาติมิตรที่อยู่ห่างไกล ได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำข้าวแช่ไปทำบุญและตั้งศาลของบ้านขึ้นมาเพื่อเซ่นไหว้เทวดา และถือโอกาสนำข้าวแช่ไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและกราบไหว้ขอพร การทำข้าวแช่แบบมอญนั้น มีพิธีและขั้นตอนการทำมากมาย เริ่มตั้งแต่คัดข้าวสารเม็ดสวย มาซาวน้ำ 7 ครั้ง ให้สะอาด หุงโดยตั้งเตาไฟบนลานโล่ง ส่วนน้ำที่จะกินร่วมกับข้าวแช่ ต้องเป็นน้ำสะอาดต้มสุก เทลงหม้อดินเผาใบใหญ่ อบควันเทียนและดอกไม้หอม เช่น มะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา ทิ้งไว้หนึ่งคืน เครื่องเคียงข้าวแช่หลัก ๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแห้งป่น เนื้อเค็มฉีกฝอย หัวไชโป๊เค็มผัดไข่ ไข่เค็ม และกระเทียมดอง ต่อมาข้าวแช่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทย เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระนครคีรี ทรงโปรดปรานข้าวแช่สูตรเมืองเพชรเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ ลูกกะปิ ปลากระเบนผัดหวาน และผักกาดเค็มผัดหวาน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดทำข้าวแช่ เป็นข้าวแช่เสวยขึ้นถวาย ซึ่งมีการปรับสูตรเครื่องเคียงเป็นลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวาน รวมถึงผักสดแกะสลัก ร้อนนี้ ลองแวะไปหาข้าวแช่รับประทานกัน แอดมีพิกัดแนะนำหลายแห่ง เช่น เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นแหล่งรวมข้าวแช่ขึ้นชื่อหลายร้าน เช่น ร้านข้าวแช่คุณแดง (เปิดขายช่วงสงกรานต์) ร้านข้าวแช่ป้าสุดจิตร สูตรชาววัง ร้านข้าวแช่ลุงแดง เป็นต้น จังหวัดเพชรบุรี มีร้านข้าวแช่ชื่อดังหลายร้าน เช่น ข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี อยู่ตรงข้ามสถานีกาชาดที่ 8 อำเภอเมือง ร้านข้าวแช่แม่เล็ก สะกิดใจ อำเภอท่ายาง ในบริเวนเกาะรัตนโกสินทร์ มีข้าวแช่แม่ศิริ บางลำพู ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ถนนตะนาวนอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายร้านในกรุงเทพฯที่มีเมนูข้าวแช่ขายในช่วงหน้าร้อน ดูพิกัดของร้านแล้ว ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งนั้น ไปร้านข้าวแช่อย่างเดียวคงไม่พอ คงต้องเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยแล้วล่ะ

✨ ข้าวแช่…อาหารคลายร้อน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ คืนชีวิต ณ โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ✨

หากเพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวชมงาน Bangkok Design Week เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าสถานที่ที่จัดงานมีความหลากหลาย โดยเฉพาะโซนเมืองเก่าที่มีความสวยงามอลังการ หนึ่งในนั้นคือ “โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ” อดีตโรงพิมพ์แห่งแรกในประเทศไทยที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยเปิดเป็น Craftsman at Bamrungmueng คาเฟ่สุดเก๋ในอาคารเก่าแก่ที่ได้ปรับปรุงภายในให้สามารถเข้าไปนั่งชิลล์ ๆ สั่งเครื่องดื่ม กินของว่างใจกลางกรุงเทพฯ ในอดีต โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจคือโรงพิมพ์แห่งแรกของไทย โดยมี “หลวงดำรงธรรมสาร” ปลัดกรมอัยการ เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2438 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยรับพิมพ์หนังสือแบบเรียน หนังสือธรรมะ หนังสือที่ระลึกงานศพ และหนังสือราชการ รวมถึงราชกิจจานุเบกษาซึ่งเคยตีพิมพ์อยู่จนถึงปี พ.ศ 2504 หลังจากดำเนินกิจการมาจนถึงรุ่นที่ 4 โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจก็มีการขยับขยายและย้ายโรงพิมพ์ออกไปที่อื่น แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ตัวอาคารในปัจจุบันก็ยังคงมีความสมบูรณ์มาก Craftsman at Bamrungmueng Pop-Up Café ถือกำเนิดขึ้นภายในโรงพิมพ์แห่งนี้ ด้วยแนวคิดของเจ้าของคาเฟ่ผู้หลงรักอาคารเก่าที่ต้องการรักษาสภาพอาคารเดิมไว้มากที่สุด จึงปรับปรุงพื้นที่อย่างระมัดระวัง บอกได้เลยว่า ทำออกมาได้อย่างประณีต สวยงาม รักษากลิ่นอายความคลาสสิคไว้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ในส่วนของขนมอบ ก็มีการค้นคว้ามาอย่างดี ดึงกลิ่นอายขนมฝรั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 มาสร้างสรรค์เมนูอย่างน่าสนใจ ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็หลากหลาย มีทั้งกาแฟ ค็อกเทล และม็อกเทล แวะเวียนมาจิบกันได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อแน่นอน ขอกระซิบถึงเพื่อน ๆ สักนิดว่า คาเฟ่แห่งนี้จะเปิดให้บริการจนถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น หาเวลาว่างได้แล้วก็ไปกันเลยนะ ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 07.30 น.-18.00 น. และ วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 07.30-22.00 น. 085 820 4010 https://goo.gl/maps/JguCKKarVTrRvw629 https://www.facebook.com/craftsmanroastery การเดินทาง แนะนำให้ใช้รถไฟฟ้า MRT ไปลงสถานีสามยอด จากนั้นเดินมุ่งหน้าไปยังเสาชิงช้า แล้วเลี้ยวเข้าถนนบำรุงเมือง เดินต่อไปประมาณ 850 เมตร ร้านอยู่ถึงก่อนสี่กั๊กเสาชิงช้า หรือสามารถเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ค่าโดยสารประมาณ 20 บาท

✨ คืนชีวิต ณ โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ✨

วันนี้แอดอยากชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ นั่นคือ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดสวยบนเกาะรัตนโกสินทร์ที่นอกจากจะมีศิลปกรรมที่งดงามแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสที่เราจะได้ท่องเที่ยวไปพร้อมกับทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเวลาเดียวกัน เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร 1 ใน 6 ของไทย ที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2350 เพื่อให้เป็นวัดใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์เปรียบดังเช่นวัดพนัญเชิงวรวิหาร ของกรุงศรีอยุธยา ก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ใช้เวลาในการก่อสร้างรวม 40 ปี และยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 🌟 พระวิหารหลวง 🌟 สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เพื่อประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)” ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) ถือเป็นองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบหล่อสำริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย และที่ใต้ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์ของพระศรีศากยมุนี บรรจุพระบรมราชสรีรังคารของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ภายในพระวิหารหลวงมีจิตรกรรมฝาผนังต้นแบบสัตว์หิมพานต์ที่งดงาม รวมถึงจิตรกรรมฝาผนัง เปรตวัดสุทัศน์ ที่โด่งดัง ซึ่งเป็นภาพเปรตตนหนึ่งนอนพาดกายอยู่ โดยมี พระสงฆ์กำลังยืนพิจารณาสังขาร ใครอยากเห็นภาพจิตรกรรมที่ขึ้นชื่อนี้ ต้องเดินไปด้านหลังพระประธาน โดยภาพจิตรกรรมดังกล่าวอยู่ที่เสาด้านขวา นอกจากนี้ ด้านหลังขององค์พระศรีศากยมุนี ยังเป็นที่ตั้งของ “แผ่นศิลาจำหลักสมัยทวารวดี” สลักเรื่องพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาติหาริย์ 🌟 พระสุนทรีวาณี 🌟 พระสุนทรีวาณี คือรูปเปรียบพระธรรม ที่สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) ดำริสร้างขึ้นด้วยการผูกลักษณาการจากบทปณามคาถาบูชา พระธรรมที่ปรากฎในบานแพนกของคัมภีร์สุโพธาลังการ สัททาวิเสส มีลักษณะเป็นเทพธิดาประทับนั่ง บนดอกบัว ยกพระหัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก เทพธิดาเปรียบเหมือนพระธรรม ดอกบัวเปรียบเหมือนพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า อาการกวักเปรียบเหมือนเชิญน้อมเข้ามาสู่ตน พระสุนทรีวาณี (ลอยองค์) ประดิษฐานภายในพระวิหารหลวง เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะได้ ส่วนภาพพระสุนทรีวาณี ประดิษฐานภายในตำหนักสมเด็จพระสังฆราช (แพ) (ไม่เปิดให้เข้ากราบสักการะ)  พระอุโบสถ  ถูกจัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ภายในเป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติฝีมือช่างในรัชสมัยเดียวกัน ด้านในประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดให้สร้างอสีติมหาสาวก จำนวน 80 องค์ นั่งพนมมือฟัง พระบรมพุทโธวาทเบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้า ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระกริ่งใหญ่ และท้าวเวสสุวรรณ พระกริ่งใหญ่นี้ ใช้ในพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ถือเป็นพระกริ่งที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่วนองค์ท้าวเวสสุวรรณ ถือเป็นเทวดาที่มีบารมี มีนักท่องเที่ยวให้ความศรัทธา เดินทางมาขอพรอย่างไม่ขาดสาย  พระพุทธเสรฏฐมุนี หรือ พระกลักฝิ่น  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ ศาลาการเปรียญ หล่อจากกลักฝิ่นที่ทำจากทองแดง ทองเหลือง ในยุคปราบฝิ่น พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุณี” แปลว่า พระผู้ประเสริฐสุด มีความหมายว่า ผู้ติดสิ่งเสพติดทั้งหลาย สามารถกลับใจเป็นคนดีได้เสมอ ย่อมสว่างรุ่งเรือง เหมือนพระพุทธรูปที่ทรงสร้าง อันจะเป็นพลัง แข็งแกร่งชนะจิตใจให้เหินห่างสิ่งเสพติด ได้ ถือเป็นพระกลักฝิ่นที่มีเพียงองค์เดียวในโลกปัจจุบันมีผู้ศรัทธามาสักการะเป็นจำนวนมาก ด้วยมีความเชื่อว่า สามารถขอถอนคำอธิษฐาน คำสัญญา คำสาบาน และแก้กรรมได้  สัตตมหาสถาน  คือการจำลองเหตุการณ์พระพุทธเจ้าทรงเสวย วิมุตติสุขหลังตรัสรู้ ในสถานที่สำคัญ 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่วัดสุทัศน์ฯ เป็นวัดที่ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่นๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ นั่นเอง   พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8  ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของพระวิหารหลวง มีเรื่องเล่าว่า ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ยังทรงพระเยาว์และได้เสด็จฯมายังวัดสุทัศน์ ฯ นั้น ได้ตรัสว่า เป็นวัดที่เงียบสงบ น่าอยู่ หลังเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรังคาร มาบรรจุที่ใต้ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี ในพระวิหารหลวง ซึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี จะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคคต  ประชาชนผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมทำวัตรที่วัดสุทัศน์ฯได้ทุกวัน  พระอุโบสถ ทำวัตรเช้า 8.30 น. ทำวัตรเย็น 16.00 น.  พระวิหารหลวง ทำวัตรกลางวัน 12.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ 13.00 น.) ทำวัตรค่ำ 18.30 น. การเดินทาง : รถประจำทางสาย 10 ,12, 19 ,35 ,42 รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงที่สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อประมาณ 600 เมตร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.00 น.  02 222 6932, 02 222 9635 https://goo.gl/maps/hJTz7fU7oJm

✨ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ATT 19 ✨ อาร์ตสเปซย่านเจริญกรุง

หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชื่นชอบและเพลิดเพลินไปกับงานศิลปะ ของสะสมเก่าแก่ นิทรรศการต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้เบื่อแล้วล่ะก็ แอดมีสถานที่หนึ่งในย่านเจริญกรุงมาแนะนำค่ะ ATT 19 เป็นอาร์ตสเปซที่ไม่ได้มีเพียงห้องแสดงผลงาน หรือจัดวางของสะสมไว้ในตู้ในแบบพิพิธภัณฑ์ แต่เป็นการแบ่งสัดส่วนและจัดแสดงงานศิลปะต่าง ๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา น่าชมมาก หลังเดินผ่านประตูซุ้มต้นไม้เข้ามา ก็จะพบกับอาคารเก่าแก่ 2 ชั้น อายุกว่า 120 ปีตรงหน้า เดิมที่นี่เคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีน ก่อนจะถูกปรับปรุงให้กลายเป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการศิลปะที่สวยงาม มีการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว ไม่แออัด อาคารแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนนิทรรศการศิลปะ และโซนคาเฟ่ แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมงานศิลปะก่อนแล้วค่อยพาไปกินของอร่อยนะคะ  ก่อนจะมาเป็น ATT 19 เดิมทีเป็นธุรกิจร้านขายศิลปวัตถุและของสะสมมาก่อน จนกระทั่งย้ายมาตั้งอยู่ที่อาคารโรงเรียนเก่าแห่งนี้ และปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแกลเลอรี่ โดยมีแนวคิดที่อยากให้คนรักงานศิลปะรุ่นใหม่สามารถเสพงานศิลป์ได้อย่างเพลิดเพลินและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้มากขึ้น เมื่อเข้ามาด้านในอาคาร ชั้นแรกจะเป็นงานดีไซน์สวย ๆ มีทั้งเครื่องใช้ เซรามิก เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ซึ่งข้าวของที่เห็นภายใน ATT 19 แห่งนี้ ถ้าเพื่อน ๆ ชมแล้วถูกใจก็สามารถซื้อกลับไปได้นะ ชั้นที่สอง เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน โดยจะจัดแสดงนิทรรศการละ 1-2 เดือน มีทั้งผลงานของศิลปินอาชีพ นิสิตนักศึกษา รวมถึงนิทรรศการของทาง ATT 19 เอง  หลังจากชื่นชมงานศิลปะกันแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับ เพราะร้านกาแฟในแกลเลอรี่แห่งนี้บรรยากาศดีน่านั่งมาก  ATT 19 Café มีทั้งโซน In door ตากแอร์เย็นฉ่ำ และ Out door ใกล้ชิดธรรมชาติ เลือกนั่งได้ตามชอบ บรรยากาศดีไม่แพ้กัน เมนูมีทั้งเครื่องดื่มร้อนเย็น ขนมอบ ของว่าง ไปจนถึงมื้ออิ่ม เลือกได้ตามระดับความหิวเลยค่ะ  หากมีโอกาสหรือผ่านมาแถวนี้ ที่นี่เป็นอีกแห่งหนึ่งเลยที่แอดอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ มาชมด้วยตัวเอง  19 เจริญกรุง 30 (ตรอกกัปตันบุช) แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร  เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 11.00-19.00 น.  062 887 6161 https://goo.gl/maps/M2PFWR4yy81Feq228 ATT 19  หากไม่ได้ขับรถมา สามารถเดินทางโดย 1. BTS ลงสถานีสะพานตากสิน แล้วต่อแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์มาที่ ATT 19 ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร 2. MRT ลงสถานีหัวลำโพง ใช้ทางออก 4 แล้วต่อแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์มาที่ ATT 19 ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร

✨ ATT 19 ✨ อาร์ตสเปซย่านเจริญกรุง อ่านเพิ่มเติม

✨ เดินลุย 1 วัน ร้านเก่ายังเก๋าอยู่ @เยาวราช ✨

เดือนนี้นอกจากจะมีเทศกาลตรุษจีนแล้ว ยังมีวันแห่งความรักอีกด้วย เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ ไป “เยาวราช” ชุมชนวัฒนธรรมจีนที่มีชื่อเสียงในไทย ใครมีเพื่อนชวนเพื่อน มีคนรักชวนคนรักไปเดินเที่ยวง่าย ๆ ใน 1 วันกับแอดกัน พิกัด 1. เดินชมบรรยากาศตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ไหว้ศาลเจ้าสวยกลางตลาด 2. ลุยกินร้านเก่า รสชาติอร่อย ราคาถูกใจ 3. ซื้อของฝาก จากซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ลิ้มเฮียงฮะช้อป 4. เดินเยาวราชกลางคืน จัดเต็ม Street Food 1.เดินชมบรรยากาศตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ไหว้ศาลเจ้าสวยกลางตลาด แอดจะพาไปเริ่มต้นด้วยการสัมผัสกับบรรยากาศแบบเยาวราชสุด ๆ ที่ตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ไปไม่ยาก แนะนำให้เริ่มต้นจาก MRT สถานีวัดมังกร ทางออกที่ 3 เดินตรงมาทางซอยเจริญกรุง 16 หรือที่เรียกกันว่า ตรอกเล่งบ๊วยเอี๊ยะ แต่ถ้ามาจากถนนเยาวราช ก็สามารถเข้าตรอกเล่งบ๊วยเอี๊ยะได้จากทางซอยเยาวราช 6 ตลาดนี้คึกคักไม่เป็นรองตลาดไหน ภายในซอยมีร้านรวงมากมาย มีทั้งของสด ของแปรรูป เครื่องเทศ อุปกรณ์ชงชาและใบชา ถั่วชนิดต่าง ๆ ผลไม้อบแห้งหลากหลาย ซื้อหาได้ในราคาค่อนข้างน่ารัก หลังจากเดินชมตลาดมาจนประมาณกลางซอย เราก็จะมาถึงตรอกย่อยที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ก่อนเข้าไปไหว้เจ้า แอดมีร้านแนะนำให้แวะ อยู่ตรงหน้าทางเข้าเลย นั่นคือร้านฉั่งแปะ ที่ขายเครื่องดื่ม สมุนไพรจีนโบราณ ที่เด่น ๆ เลยก็คือ นมอัลมอนด์แบบจีนดั้งเดิมที่เมื่อดื่มแล้วจะเย็น ๆ ชุ่มคอ พอเดินเข้ามาในตรอกปุ๊บ แอดต้องร้องว้าวเลยล่ะ เพราะไม่คิดว่าภายในซอยที่คึกคักหนาแน่นไปด้วยร้านค้าจะมีที่กว้าง ๆ และมีศาลเจ้าจีนใหญ่ขนาดนี้ ตามประวัติ ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เป็นศาลเจ้าแต้จิ๋วเก่าแก่ซึ่งเป็นที่นับถือศรัทธา และกราบไหว้บูชาเพื่อความเจริญก้าวหน้าในกิจการค้าขาย สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เห็นได้จากป้ายจารึกของศาลเจ้าที่เขียนเป็นภาษาจีนว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2201 ภายในศาลเจ้า มีแท่นบูชารูปเทพเล่งบ๊วยเอี๊ยะและภรรยาเป็นประธาน ฝั่งซ้ายมือเป็นแท่นเทพเจ้ากวนอู ส่วนฝั่งขวามือเป็นแท่นประทับราชินีแห่งสวรรค์ ใครที่มีความเชื่อเกี่ยวกับปีชง ก็มาไหว้ฝากดวงกันได้ ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 17.00 น. 2. ลุยกินร้านเก่า รสชาติอร่อย ราคาถูกใจ หลังจากไหว้เจ้าเสร็จก็ถึงเวลาอร่อย วันนี้แอดรวบรวมร้านเก่าแก่หลายร้านมาให้เพื่อน ๆ ได้เป็นไอเดียไปลองเลือกอร่อยกัน ร้านแรกก็คือ “ร้านกาแฟเอี๊ยะแซ” ที่เปิดมานานกว่า 90 ปี และยังคงเสิร์ฟกาแฟโบราณมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากกาแฟโบราณ ก็ยังมีโอเลี้ยง โอวัลติน และน้ำสมุนไพรอย่างเก๊กฮวย กระเจี๊ยบอีกด้วย ร้านนี้เหมือนสภากาแฟย่อม ๆ เพราะจะมีอากงอาม่ามานั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คุณลุงคนชงกาแฟบอกว่า ที่นี่ก็เหมือนจุดนัดพบของคนสมัยก่อน หลายคนเป็นแฟนกันเพราะเครื่องดื่มร้านนี้แหละ  : 103, 105 ถ. เยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100  : เปิดทุกวัน 04.00 น.-19.00 น.  : 0 2221 0549 ต่อจากกาแฟ เราจะไปต่อที่ร้าน “กู่หลงเปา” ซึ่งเดินจากร้านเอี๊ยะแซ มาทางถนนเจริญกรุงประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ใกล้ ๆ แยกหมอมี ซึ่งซาลาเปาร้านนี้เป็นสูตรโบราณที่คงความดั้งเดิมมากว่า 90 ปีเลยล่ะ จุดเด่นคือ เป็นซาลาเปาที่ปั้นด้วยมือทุกลูก สูตรแป้งที่นี่จะผสมมันเทศเข้าไปด้วย ทำให้มีความเหนียวหนึบ ไม่นุ่มฟู ข้อดีที่แอดชอบคือกินแล้วเศษแป้งไม่ติดฟัน มีไส้หมูสับไข่เค็ม ถั่วหวานงา เผือกกวน, เเละหมั่นโถว ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท/ลูก  : 660, 662 ถ.เจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100  : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)  : 09 5797 5747 มีซาลาเปาแล้วก็ต้องมีขนมจีบ ร้านต่อไปที่แอดจะแนะนำมีชื่อว่า “ขนมจีบแป๊ะเซี้ย” อยู่แถว ๆ ถนนแปลงนาม เป็นร้านรถเข็นอยู่บริเวณหน้าวัดมงคลสมาคม เปิดมาแล้วกว่า 105 ปี โดยอาแป๊ะเซี้ย เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ขนมจีบราคาลูกละ 3 บาท โดยอาแป๊ะเซี้ยจะทำเองทุกขั้นตอนยันต้มจิ๊กโฉ่วเลย ยิ่งถ้าได้กินตอนร้อน ๆ แอดบอกเลยว่ายิ่งฟิน ไฮไลท์ที่ยิ่งกว่าขนมจีบก็คืออาแป๊ะเซี้ยนี่แหละ น่ารักมาก ชวนคุยอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง เหมือนญาติผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งเลย  : ถนนแปลงนาม แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100  : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 น. (ประมาณบ่าย 2 ของก็หมดแล้ว แนะนำให้เพื่อน ๆ รีบมา ถ้าอยากลองรสชาติขนมจีบสูตร 100 ปี)  : 08 1726 0777 ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าร้านที่แนะนำมาแล้วนี้เป็นแค่ของว่าง ยังไม่อิ่ม ต่อไปแอดจะแนะนำร้านที่เป็นจานหลักละนะ นั่นก็คือ “ร้านข้าวมันไก่ไหหลำไท้เฮง” ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2463 ร้านนี้อยู่ใน ซอยเยาวราช 8 ตรงข้ามกับวัดบำเพ็ญจีนพรต (วัดย่งฮกยี่) โดยตัวร้านจะมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่งสำหรับนั่งกิน กับฝั่งทำอาหาร

✨ เดินลุย 1 วัน ร้านเก่ายังเก๋าอยู่ @เยาวราช ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ JODD FAIRS : จ๊อดแฟร์ ✨

หลังจากทำงานเหนื่อยกันมาตลอดสัปดาห์ เย็นวันศุกร์แบบนี้ เราไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจแถมอิ่มพุงกันเถอะ วันนี้แอดมีตลาดฮิป ๆ เก๋ ๆ ที่มีความชิลล์ระดับ 10 มานำเสนอ ชื่อว่า JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์) จ๊อดแฟร์ เป็นตลาดนัดที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ตัวตลาดอยู่ระหว่างตึก G Tower และ Unilever เดินทางง่ายมาก โดยเดินจาก MRT สถานีพระราม 9 (ทางออกที่ 2) ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง  นี่เปรียบเสมือนงานแฟร์เล็ก ๆ ที่รวบรวมสินค้าไว้หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า งานแฮนด์เมดเก๋ ๆ เครื่องประดับ และอาหาร ในตลาดแบ่งโซนอย่างชัดเจน เป็นระเบียบ ทางเดินกว้างขวาง บริเวณทางเข้าตลาดมีจุดวัดอุณหภูมิและสแกน QR Code ก่อนเข้าตลาด เพื่อน ๆ อย่าลืมปฏิบัติตามกันด้วยนะ  ทุกล็อกจะมีโต๊ะให้นั่งฟรี (มีแผงพลาสติกใสกั้น) มีเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือหลายจุด มีถังขยะแบบปิดฝา มีพนักงานเดินเก็บขยะและคอยทำความสะอาดตลอดเวลา ทำให้ไม่ค่อยมีเศษขยะให้เห็น ตลาดแบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ โซนลานกิจกรรม เป็นจุดหลักที่ทางตลาดจะตกแต่งบรรยากาศให้เป็นธีมเทศกาลต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสันและเป็นจุดถ่ายรูปสนุก ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นจุดตั้งเวที บางวันก็มีนักร้องมาร้องเพลงคลอบรรยากาศในช่วงแดดร่มลมตก เพิ่ม VIBE ที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวา ยิ่งพอฟ้ามืดและเริ่มเปิดไฟประดับสวย ๆ น่าถ่ายรูปไม่น้อยเลย  โซนถัดมาเป็นโซนร้านค้าแนวแฟชั่น มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ดีไซน์สวยงาม ราคาเป็นมิตร ใครอยากชอปปิ้งก็เดินดูได้เลย โซนสุดท้ายคืออาหารการกิน ย้ำเลยว่าราคาน่ารัก มีให้เลือกหลายประเภท หลัก ๆ ก็จะเป็น Street Food ซึ่งขนมาให้เลือกทั้งไทยทั้งเทศ ซึ่งมีทั้งร้านแบบกินเล่นเบา ๆ และกินจริงจังเป็นมื้อหลักแบบหนักท้องเลยล่ะ  แต่ละเมนูของที่นี่น่ากินมาก ๆ จนต้องหาโอกาสกลับมาอีกเลยล่ะ เท่าที่แอดสังเกต ที่นี่มีหลายร้านเลยที่สามารถจ่ายเงินด้วยการสแกน QR Code ได้ นอกจากจะลดการสัมผัสกับคนอื่นแล้ว ยังรวดเร็วอีกด้วย ใครอิ่มเมนูคาวแล้วอยากหาของหวานกินต่อ ก็เดินดูได้เลย มีให้เลือกเยอะจริง ๆ ลองมาเดินดูกันได้ เพลินมาก ๆ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเหมือนตลาดนัด และมีพนักงานคอยทำความสะอาด แต่ที่แอดขอชื่นชมก็คือ ธรรมเนียมปฏิบัติของตลาดนี้ ที่หลังจากกินเสร็จแล้วจะหยิบขยะไปทิ้งที่ถังขยะ เพราะฉะนั้น หากเพื่อน ๆ แวะเวียนมา กินเสร็จแล้ว ก็ อย่าลืมเอาขยะไปทิ้งที่

✨ JODD FAIRS : จ๊อดแฟร์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ ทริปเพิ่มพลัง ลุยไม่ยั่น เดินสามย่าน-บรรทัดทอง ✨

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ แอดมีเส้นทางเดินเที่ยวกรุงเทพฯ อย่าง “สามย่าน-บรรทัดทอง” มาแนะนำ เพื่อน ๆ ที่รู้สึกเบื่อ ๆ ไม่รู้จะไปไหนดี ตามลิสต์ของแอดไปได้เลย นอกจากจะเป็น 1 day trip ที่เดินทางสะดวก อยู่กลางเมืองสุด ๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มพลังให้เราด้วยนะ เพิ่มพลังยังไงบ้าง ลองตามไปอ่านกัน เส้นทางเดินเที่ยว 1. ไหว้พระที่วัดหัวลำโพง 2. เพิ่มความรู้รอบตัวที่สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย 3. เพิ่มลิสต์จุดถ่ายรูปที่ Dragon Town 4. เติมออกซิเจนให้ปอดที่อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5. อิ่มอร่อยสุขภาพดีที่ร้านน้ำเต้าหู้เจ้วรรณ  1. ไหว้พระที่วัดหัวลำโพง  จุดแรกของวันนี้คือ วัดหัวลำโพง เดินทางสะดวกมาก เรียกว่าพอพ้นประตูทางออกที่ 1 ของ MRT สามย่าน เราก็เจอวัดทันที กิจกรรมทำบุญที่คนนิยมมาทำกันมากก็คือ การบริจาคโลงศพให้ศพไร้ญาติที่มูลนิธิร่วมกตัญญูซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดหัวลำโพงนั่นเอง เพื่อน ๆ สามารถเข้ามาบริจาคได้ 24 ชั่วโมงเลย นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีเทพยดาฟ้าดิน (ทีกง) เจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อเสือ หรือหากใครไม่สบายใจเพราะเป็นปีชง ก็มาไหว้ได้เช่นกัน ในบริเวณวัด เพื่อน ๆ จะเจอเทพมากมาย ทั้งเทพจีน เทพฮินดู รวมทั้งจุดทำบุญสะเดาะเคราะห์ ไถ่ชีวิตโคกระบือ ฯลฯ เรียกว่าถ้าเกิดความไม่สบายใจ อยากไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อปลอบประโลมใจ เลือกทำตามความสบายใจได้ที่นี่ อีกจุดที่แอดอยากแนะนำคือ ขึ้นไปไหว้พระในอุโบสถที่อยู่บนชั้น 2 คนไทยสามารถขึ้นไปได้ฟรี แต่ชาวต่างชาติต้องซื้อตั๋ว ราคา 40 บาท เมื่อเดินขึ้นมา เพื่อน ๆ จะพบกับพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ ภายในพระอุโบสถ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อ พระพุทธมงคล ตามความเชื่อหากขอพรกับพระพุทธรูปปางมารวิชัย จะช่วยปกป้องภัยจากศัตรู ช่วยให้การงานราบรื่น บนชั้น 2 นี้ เพื่อน ๆ สามารถซึมซับความสงบ และชมวิวเมืองที่อยู่ท่ามกลางตึกสูงของสามย่านได้ แม้การทำบุญจะไม่ได้เห็นผลทันตา แต่ก็ได้ความสบายใจทันทีที่ทำ ต้นปีแบบนี้ เพิ่มพลังใจกันหน่อยก็น่าจะดีนะแอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาที่นี่ก่อนนั่นเอง หลังทำบุญแล้ว หากใครอยากหาที่นั่งพักสักครู่ แอดแนะนำให้เข้าไปที่ “ซอยหน้าวัดหัวลำโพง” ที่นี่มีสวนสาธารณะเล็ก ๆ ชื่อ สวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์ เปิดบริการ 05.00-20.00 น. ลองมาดูกันได้นะ  : 728 ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ  : 0 2233 8109 2. เพิ่มความรู้รอบตัวที่สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย จุดต่อไป แอดจะพาไปสภากาชาดไทย ไม่ได้พามาบริจาคเลือด แต่จะพามาดูงู!! ซึ่งจริง ๆ แอดเป็นคนที่กลัวงูมาก ๆ แต่ที่อยากมาก็เพราะอยากมาเรียนรู้ และได้ยินมาว่ากลัวอะไรให้ลองเผชิญหน้าดู ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรให้เราเรียนรู้บ้าง จากวัดหัวลำโพง ใช้ทางลอดใต้ถนน MRT เดินไปทางจามจุรีสแควร์ ระยะทางประมาณ 750 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนอื่นแอดขอแนะนำสวนงู สถานเสาวภาสักนิด ที่นี่ทำงานเกี่ยวกับงูหลายด้าน หลักๆที่เรารู้กันดีก็คือผลิตเซรุ่มแก้พิษงู และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงงูพิษเพื่อเอามาทำเซรุ่ม นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องงูที่ถูกต้อง มีการทำวิจัยเรื่องงูและพิษงู รวมทั้งมีการเพาะเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์อีกด้วย หลังจากซื้อตั๋วแล้ว แอดก็แอบหวั่น ๆ แต่พอเข้าไปในสวนงูแล้ว แต่ละส่วนจัดพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้แอดรู้สึกปลอดภัยเบาใจไปได้เยอะเลย โดยในสวนงูจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วน indoor และ ส่วน outdoor โซน outdoor บรรยากาศร่มรื่นมาก ตามทางเดินจะมีป้ายให้ความรู้เป็นระยะ ตั้งแต่แหล่งที่อยู่อาศัยของงู รวมถึงประเภทของงู ส่วนลานข้างหน้าจะเป็นเวทีโชว์งูพร้อมให้ความรู้ ซึ่งบอกเลยว่าพิธีกรเก่งมาก พูดจาลื่นไหล พาให้บรรยากาศสนุกสนาน ใครมีเพื่อนต่างชาติก็พาไปได้ เพราะเขาพูดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย พิธีกรกำลังสอนว่าเจองูเห่าให้อยู่นิ่ง ๆ อย่าขยับมาก เดี๋ยวมันก็ไปเอง หลังจบโชว์ จะมีน้องงูหลามเผือกที่ทางสวนงูเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กมาให้ถ่ายรูปด้วย ไม่เสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากสนับสนุนกิจกรรมที่นี่ก็สามารถไปหย่อนตู้บริจาคได้เลย ส่วนโซน indoor อยู่ที่อาคารสี่มะเสง จะมีโชว์รีดพิษงูในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 น. ส่วนอาคารชั้น 2 จะเป็นส่วนให้ความรู้ มีการจัดแสดงซากงูนานาชนิดในขวดโหล แถมยังจัดแสดงโครงกระดูกงูอีกด้วย แอดเดินชมเพลินจนลืมกลัวไปเลยล่ะ โครงกระดูกงู ที่นี่ได้รับตรา SHA ปลอดภัยหายห่วง แถมยังมีห้องน้ำและทางลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็นด้วย สำหรับแอดแล้ว ถือเป็นแหล่งที่ทำให้แอดได้ความรู้รอบตัวหลายเรื่องเลย บางเรื่องที่เคยรู้เคยลืมก็กลับมาจำได้ใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความรู้ ความตื่นเต้น และยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทุกวัยอีกด้วย  ค่าเข้าชม  คนไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท | นักเรียน-นักศึกษา 20 บาท | เด็ก 10 บาท ต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท | เด็ก 50 บาท ตารางการแสดง จันทร์ – ศุกร์ 11.00 น.

✨ ทริปเพิ่มพลัง ลุยไม่ยั่น เดินสามย่าน-บรรทัดทอง ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌳 พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ความงดงามใจกลางเมืองหลวง 🌳

ใจกลางเมืองหลวง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราจะชวนไปหลบร้อน ชมหมู่เรือนไทยโบราณเก่าแก่ ที่รวบรวมโบราณวัตถุและของสะสมมีค่าให้เราได้ชื่นชมและเรียนรู้ น่าสนใจใช่ไหม ตามแอดมาได้เลยค่ะ “พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด” เดินทางสะดวกมากๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS ซึ่งจะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน และช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศไปด้วยในคราวเดียวกัน พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด หรือ วังสวนผักกาด ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พญาไท ประมาณ 450 เมตร แต่เดิมเคยเป็นสวนผักกาดของชาวจีน ก่อนที่พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ) จะสร้างเป็นตำหนักที่ประทับ และย้ายเข้ามาประทับอยู่เป็นการถาวรพร้อมชายา คือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในพ.ศ. 2495 หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ ได้เปิดวังสวนผักกาดให้บุคคลภายนอกมีโอกาสเข้าชมศิลปะและโบราณวัตถุที่ท่าน และเสด็จในกรมฯสะสมไว้ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้านเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม ในขณะที่เจ้าของบ้านยังคงใช้เป็นที่พำนัก ภายในพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ 8 หลัง เรือนหลังที่ 1-4 เป็นหมู่เรือนไทยที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี โดยเรือนหลังแรกมีสะพานเชื่อมไปสู่เรือนหลังที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ตามลำดับ ส่วนเรือนหลังที่ 5 – 8 ปลูกอยู่ห่างกันทางทิศตะวันตก และมีหอเขียนอยู่ทางทิศใต้ ทุกเรือนมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ และของสะสมมีค่า แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน น่าชมทุกเรือน ตั้งแต่เรือนพิพิธภัณฑ์โขน ห้องดนตรีไทย ห้องจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เครื่องถ้วยเบญจรงค์ เครื่องชามสังคโลก ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เรือนต้อนรับ และส่วนจัดแสดงเรือพระที่นั่ง เป็นต้น ในเรือนไทยหลังที่ 1 เป็นการจัดแสดงโบราณวัตถุในยุคต่างๆ รวมทั้งพระพุทธรูป เทวรูปพระอุมา และเทวรูปพระอรรธนารีศวร ตะลุ่มและเตียบประดับมุก ตลับงาช้าง และขวดน้ำหอมจากต่างประเทศ ทุกชิ้นสวยงาม จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 2 โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยวัฒนธรรมบ้านเชียง จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 5 ในเรือนไทยหลังที่ 6 เป็น“พิพิธภัณฑ์โขน” มีเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการแสดงโขน รวมทั้งหัวโขน หุ่นละครเล็ก และตุ๊กตาดินเผาจากเรื่องรามเกียรติ์ เครื่องชามสังคโลกจากสุโขทัย เครื่องถ้วยจีน เครื่องเคลือบสีเขียว ของสะสมหายาก จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 7 เครื่องใช้ส่วนพระองค์ ทั้งที่เป็นเครื่องแก้วลายทอง เครื่องแก้วคริสตัล เครื่องเงิน และเครื่องลายครามจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแจกันรูปผักกาดที่เป็นสัญลักษณ์ของวัง จัดแสดงอยู่บนเรือนไทยหลังที่ 8 หอเขียน ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด และเป็นเรือนที่สวยที่สุดในพิพิธภัณฑ์ฯ โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต นำโครงเรือนมาจาก หอไตรเก่าที่วัดบ้านกลิ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2501 กำหนดอายุราวช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อนจะนำมาอนุรักษ์ซ่อมแซมจนสำเร็จ เพื่อมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่ชายาของท่าน เนื่องในวันครบรอบอายุ 50 ปี ภายในหอเขียน มีภาพเขียนลายรดน้ำ สมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นเรื่องราวหลักๆ 2 เรื่อง คือพุทธประวัติและรามเกียรติ์ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่ยังหลงเหลือให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาต่อไป ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด อยู่ภายใต้การดูแลของ มูลนิธิจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์ ซึ่งก่อตั้งโดยหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร  การเดินทาง BTS : สถานีพญาไท รถโดยสารประจำทางสาย 14, 17, 72, 74, 77, 159, 164, 204, 536, 539  พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด   ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -16.00 น.  0 2246 1775-6 ต่อ 229, 0 2245 4934 https://goo.gl/maps/EbgXwiv2NDcPY7LE8  ขอบคุณรูปภาพจากเพจ พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด

🌳 พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ความงดงามใจกลางเมืองหลวง 🌳 อ่านเพิ่มเติม

1 วันดีๆ ที่ชุมชนหัวตะเข้🐊

วันหยุดสุดสัปดาห์ มีใครมองหาที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯบ้างไหม แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวชานเมืองมาแนะนำ นั่นคือ “ชุมชนหัวตะเข้” ค่ะ ไปเดินชมบรรยากาศย้อนยุค บ้านไม้ริมน้ำอายุกว่าร้อยปี รวมถึงย้อนอดีตของตลาดโบราณ พายเรือชมบรรยากาศริมคลองสองฝั่ง และชมกราฟิตี้เท่ ๆ ในชุมชนกัน ชุมชนหัวตะเข้ แป็นชุมชนเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีตลาดเก่าริมน้ำและเป็นเหมือนศูนย์กลางชานเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกนั่นเอง รวมถึงเป็นจุดตัดทางน้ำ 3 คลอง คือ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองลำปลาทิวและคลองจระเข้ หากย้อนกลับไปในอดีตชุมชนแห่งนี้ถือว่าเป็นชุมชนที่รุ่งเรืองและคึกคักเป็นอย่างมากทั้งการค้าขาย การขนส่ง บรรยากาศในชุมชนเก่าหัวตะเข้ ยังคงเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นมุงหลังคาสังกะสีริมน้ำ กลิ่นอายบรรยากาศเก่า ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ปัจจุบัน ทางชุมชนได้กลับมาอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จนตอนนี้ทำให้ชุมชนหัวตะเข้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าสนใจและมีเสน่ห์มาก ๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ ชุมชนยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ชิค ๆ ร้านโชห่วยของเก่า เกสต์เฮาส์ริมคลอง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีถิ่นหัวตะเข้ บ้านเรือนของคนในชุมชนที่ยังความคลาสสิกไว้อยู่ ชุมชนจัดกิจกรรม workshop งานศิลปะ งานไม้ต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ คนรักชุมชนหัวตะเข้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือพายเรือคายัคชมบรรยากาศริมน้ำ แต่เราจะได้เก็บขยะในคลองกันได้ด้วยนะ : ) สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ ฮั่วฮง คายัค คลับ/HuaHong Kayak Club โทร. 09 7097 0863 ค่าบริการเรือ ชั่วโมงละ 350 บาท/คน กรณีเก็บขยะจากในคลองขึ้นมาเกิน 10 ชิ้นขึ้นไป จะได้รับส่วนลดเหลือ ชั่วโมงละ 100 บาท/คน จุดเช็คอินของคนคูล ๆ กราฟิตี้บนกำแพงอยู่หลายจุดมีให้เราถ่ายรูป ใครเดินมาเรื่อย ๆ ตรงร้านสี่แยกหัวตะเข้ ตรงนี้มีสะพานนี้ข้ามคลอง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปและชมพระอาทิตย์ตกกันด้วย การเดินทาง Airport Rail Link ลงสถานีลาดกระบัง จากนั้นนั่งรถสองแถวสาย 333 มาลงที่ปากซอยลาดกระบัง 17 ราคา 8 บาท จากนั้นเดินเข้ามาสุดซอย รถยนต์ส่วนตัว ขับรถมาที่ซอยลาดกระบัง 17 จะผ่านตลาดสดเข้าไปสุดทาง มีบริการที่จอดรถ รถไฟสายตะวันออก ต้นทางสถานีหัวลำโพงลงที่สถานีหัวตะเข้ จากนั้นเดินเลาะริมคลองตาม google map หรือนั่งรถจักรยานยนต์มาที่ตลาดหัวตะเข้ได้ ตลาดหัวตะเข้  ซอยลาดกระบัง 17 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. https://goo.gl/maps/AyebeED52Ww5iggi9

1 วันดีๆ ที่ชุมชนหัวตะเข้🐊 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top