กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

รถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)

บัดดี้ได้ร่วมเดินทางกับขบวนทดลองที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดขึ้น ก่อนที่จะเริ่มให้บริการเดินรถเที่ยวแรกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 นี้ อยากบอกว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายมาก ๆ ถึง สปป.ลาว แล้วสามารถไปเที่ยวต่อได้ง่าย ๆ แบบไม่เหนื่อยเลยล่ะ บัดดี้เลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่สนใจเดินทางกับเส้นทางนี้มาไว้ให้ในโพสต์เดียวเลย หรือใครที่ยังมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ Facebook: ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย วิธีการซื้อตั๋วโดยสาร สามารถซื้อจาก 4 ช่องทาง ดังนี้1. Mobile Application : SRT D-Ticket (Android/IOS)2. Website D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th3. เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสาร ณ สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ4. SRT Call Center โทร. 1690**ผู้ที่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า สูงสุด 180 วัน ขบวนรถเร็วที่ 133 และ 134 มีราคาตั๋วโดยสาร 3 ประเภท1. รถนั่ง ชั้น 3 พัดลม จำนวน 2 ตู้ ราคา 281 บาท2. รถนั่ง ชั้น 2 ปรับอากาศ จำนวน 1 ตู้ ราคา 574 บาท3. รถนอน ชั้น 2 ปรับอากาศ จำนวน 1 ตู้ เตียงล่าง ราคา 874 บาท เตียงบน ราคา 784 บาท เวลาและเส้นทางเดินรถ เที่ยวไป : ขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)– ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น.– ถึงสถานีรถไฟหนองคาย เวลา 07.55 น. ลงจากขบวนรถเพื่อดำเนินพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สถานีหนองคาย จากนั้นกลับขึ้นขบวนเดิม และออกจากสถานีฯ เวลา 08.35 น.– ถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เวลา 09.05 น.*ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 11 ชั่วโมง 40 นาที เที่ยวกลับ : ขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – กรุงเทพอภิวัฒน์– ออกจากสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เวลาออก 18.25 น.– สถานีรถไฟหนองคาย เวลาถึง 18.55 น. ลงจากขบวนรถเพื่อดำเนินพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สถานีหนองคาย และออกจากสถานีฯ เวลา 20.15 น.– ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลาถึง 07.30 น.*ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 13 ชั่วโมง 5 นาที บัดดี้มีโอกาสได้ร่วมขบวนทดลองเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ฯ-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ซึ่งบัดดี้นั่งรถนอน ชั้น 2 ปรับอากาศ เลยอยากเล่าถึงความประทับใจในการเดินทางครั้งนี้ ตู้นอนล็อคละ 4 เตียง แบ่งเป็นชั้นล่าง 2 เตียง ชั้นบน 2 เตียง อีกฝั่งเป็นทางเดิน มีหน้าต่างให้เราชมวิวสวย ๆ ตลอดการเดินทาง เตียงนอนกว้างขวาง สะอาด มีหมอน ผ้าห่ม ปลั๊กไฟ และม่านกั้นส่วนตัวในแต่ละเตียง เวลาประมาณ 22.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่มาปูที่นอนให้ แต่หากเพื่อน ๆ คนไหนง่วงหรือต้องการให้ปูเร็วขึ้น ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเลยนะ สำหรับขบวน 133 และ 134 จะไม่มีรถตู้เสบียง ตั้งแต่ต้นทาง (กรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์) หลังจากนั้นจะแยกตู้ขบวนเหลือแค่ 4 ตู้ที่สถานีหนองคายเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ภายในตู้นอนมีห้องน้ำและอ่างล้างหน้า แต่จะไม่มีห้องอาบน้ำให้บริการ เมื่อเดินทางถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ดำเนินพิธีตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้า สปป.ลาว ตามขั้นตอน พิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สำหรับผู้เดินทางชาวไทยสามารถใช้หนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ได้ บัดดี้แนะนำให้ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ในการข้ามเขตแดน เนื่องจากในการทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) จะต้องไปทำเอกสาร ณ สำนักงานออกเอกสารผ่านแดนชั่วคราว และใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวตัวจริงในการข้ามเขตแดน ซึ่งใช้เวลาในการทำเอกสาร ทำให้ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ณ สถานีหนองคาย สิ่งอำนวยความสะดวกสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ภายในสถานีฯ มีร้านค้า ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำให้บริการ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เปิดบริการโรมมิ่ง ที่สถานีฯ มีจุดขายซิมการ์ดสำหรับใช้ใน […]

รถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) อ่านเพิ่มเติม

ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ฝั่งธนบุรี

วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ ไปตะลุยกินของอร่อยกันที่ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ของชาวฝั่งธนบุรี แหล่งรวมความอร่อยทั้งคาวหวานให้เพื่อน ๆ ได้กินกันตลอดทั้งวัน ประเดิมร้านแรกกันที่ “ร้านเต็กเฮง (หมี่กรอบจีนหลี)” หรือที่ชาวฝั่งธนฯ เรียกกันว่า หมี่กรอบ ร.5 เมนูหมี่กรอบขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครผสมผสานของรสชาติหวาน มัน เค็ม พร้อมเครื่องโรย อย่างพริกสด บีบมะนาวนิดหน่อย และกลิ่นของผิวส้มซ่าที่ขูดมาบาง ๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งเป็นเมนูโปรดของรัชกาลที่ 5 สมัยครั้งที่ท่านเสด็จประพาสต้นผ่านมาที่คลองบางหลวงและได้กลิ่นหอมของหมี่กรอบโชยไปทั่วคลองจึงมีรับสั่งให้มหาดเล็กไปซื้อมาตั้งเครื่องเสวย พระองค์ทรงโปรดจนพระราชทานนามให้ว่า “หมี่กรอบเสวยสวรรค์” ร้านเต็กเฮง (หมี่กรอบจีนหลี) 26-330 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-14.00 น. / 16.00-21.00 น.เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. 08 9488 1538https://maps.app.goo.gl/g1GfCU61djK6at158 ต่อด้วย “ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ตลาดพลู” ร้านเก่าแก่อีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำให้แวะมาลองกินกัน อร่อยยืนหนึ่งเรื่องของลูกชิ้นหมู เนื้อแน่นหนึบ เนื้อหมูเน้น ๆ ทำเองสดใหม่ทุกวัน ใส่ในน้ำซุปรสหวานที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้รสที่กลมกล่อมจะกินกับเส้นอะไรก็อร่อย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ตลาดพลู 911 ริมทางรถไฟ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวัน เวลา 11.00-17.00 น. 0 2465 0732https://maps.app.goo.gl/FhKPz8hGdAQE6aFY9 อิ่มอร่อยกับของคาวกันไปแล้ว บัดดี้ขอพาไปเปลี่ยนบรรยากาศกินของหวานกันต่อที่ “ร้านประชา” คาเฟ่ลับ ที่ได้รีโนเวทโรงพิมพ์เก่าอย่างโรงพิมพ์แสงประชามาเป็นพื้นที่คาเฟ่สไตล์วินเทจ นอกจากนี้เมนูของที่นี่จะเน้นขายขนมแบบจีน ๆ สมัยก่อนทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศสมัยเด็ก ๆ  อย่างขนมสามสหายที่มี 3 อย่าง ได้แก่ ขนมเปี๊ยะ ดอกจอก และตุ๊บตั๊บ หรือจะเป็นขนมข้าวแต๋น สั่งมาทานคู่กับเครื่อมดื่มเย็น ๆ อย่างน้ำแอปเปิ้ลโซดาก็ถือได้ว่าลงตัวเข้ากันเป็นอย่างดี ร้านประชา ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อพระเพลิง 103 ซอยเทอดไท 20 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวันพุธ – จันทร์ เวลา 10.30-19.30 น. 06 2290 2582https://maps.app.goo.gl/SA685AcGiWLzdf4W9 แต่เดี๋ยวก่อน หากเพื่อน ๆ รู้สึกยังกินไม่จุใจ บัดดี้แนะนำให้แวะซื้อของกินเล่นอย่าง “กุยช่ายตลาดพลู” ของขึ้นชื่อที่นี่ หรือจะเป็น “เปาะเปี๊ยะสด” เจ้าอร่อยร้านดังใต้สะพานตลาดพลู ถือติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้ และจบทริปด้วยการเดินเล่นชมบรรยากาศวิถีชีวิตชุมชนเก่าย่านตลาดพลูริมทางรถไฟ และอย่าลืมแวะไปถ่ายภาพบริเวณสถานีรถไฟตลาดพลูเป็นที่ระลึกตามรอยภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” กันด้วยนะคะ

ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ฝั่งธนบุรี อ่านเพิ่มเติม

 4 สวนในกรุง ใกล้รถไฟฟ้า

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาสวนสาธารณะใกล้รถไฟฟ้า ที่เดินทางง่ายแสนง่าย จะไปเที่ยว ไปเดินเล่น ไปสูดอากาศหรือออกกำลังกายก็สามารถทำได้แล้วแต่ใจอยาก…เอาล่ะ ตามมาดูกันว่าบัดดี้จะมีสวนไหนมานำเสนอบ้าง 1. สวนเบญจกิติสวนเบญจกิติ เปรียบเสมือนป่าใหญ่ใจกลางกรุง ที่มีการสร้างส่วนขยายและออกแบบปรับภูมิทัศน์เพื่อรองรับผู้คนทุกกลุ่ม ทั้งผู้พิการทางสายตา ผู้ที่ใช้บริการรถเข็น (Wheelchair) ผู้สูงอายุ ไปจนถึงกลุ่มคนรักสัตว์ ที่นี่แบ่งเป็น 2 โซน คือ สวนน้ำและสวนป่า บริเวณรอบสวนน้ำ เป็นจุดที่หลาย ๆ คนมักจะมาวิ่งออกกำลังกาย หากใครชอบปั่นจักรยานก็มีเส้นทาง Bike Lane สำหรับปั่นจักรยานด้วยนะ โซนสวนป่า ประกอบไปด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์ อาคารแสดงศิลปะ หอสมุด ลานกิจกรรมกลางแจ้ง เส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางวิ่ง รวมไปถึงสกายวอล์ก ที่มีการเชื่อมกับสกายวอล์กเดิมที่มาจากสวนลุมพินี (สะพานเขียว) นอกจากนี้ยังมีการจำลองระบบนิเวศ ที่สร้างเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wet Land) มีการปลูกพันธุ์ไม้หายากเพื่อการอนุรักษ์ การเดินทางMRT : สถานีสุขุมวิท ทางออก 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น. 0 2254 1263, 08 6337 2741https://goo.gl/maps/rRQDNYDSDjtD2rza6 2. สวนลุมพินีสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า สวนลุม เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 ภายในมีต้นไม้ขนาดใหญ่ สวนปาล์ม สระน้ำขนาดใหญ่ ถือเป็นจุดนัดพบของคนรักสุขภาพ ยอดฮิตของทั้งชาวกรุงเทพฯ และชาวต่างชาติ การเดินทางMRT : สถานีสีลม ทางออก 1 และ สถานีลุมพินี ทางออก 3BTS : สถานีศาลาแดง ทางออก 5 ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 04.30-21.00 น.https://goo.gl/maps/GYSQJeuGvLoBZkwMA 3. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า สวนรถไฟ เป็นสวนสาธารณะใจที่ในอดีตเคยเป็นสนามกอล์ฟรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต่อมามีการสร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป ภายในมีสวนป่าใหญ่ในเมือง ที่รวบรวมพันธุ์ไม้หลายชนิด มีการจำลองระบบนิเวศของป่าเพื่อการเรียนรู้ มีเลนจักรยานที่มีความยาว 3 กิโลเมตร มีศูนย์กีฬาที่มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ฟิตเนส สนามเด็กเล่น ให้คนที่มาได้เลือกกิจกรรมที่สนใจได้ตามสะดวก การเดินทางMRT : สถานีจตุจักร ทางออก 1 และ 2BTS : สถานีหมอชิต ทางออก 1 และ 3 ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น. 0 2537 9221https://goo.gl/maps/GRBRfcp2PJs6Ax2e9 4. สวนจตุจักรสร้างขึ้นโดย พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ซึ่งเกิดจากการรถไฟแห่งประเทศไทยได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน 100 ไร่ เพื่อสร้างสวนสาธารณะตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 4 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2518 เมื่อสร้างสวนเสร็จ สวนแห่งนี้ได้รับพระราชทานนามว่า “สวนจตุจักร” และต่อมาถูกใช้เป็นชื่อของเขต และชื่อของแขวงที่เป็นที่ตั้งของสวน ภายในสวนจตุจักร มีหอนาฬิกาสูงเด่น นาฬิกาดอกไม้ สระน้ำ และลู่วิ่งออกกำลังกายเบา ๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณริมถนนพหลโยธินด้านข้างของสวนจตุจักร แถมยังใกล้แหล่งชอปปิงสุดฮิต “ตลาดนัดจตุจักร” อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสวนที่น่าสนใจไม่น้อย การเดินทางMRT : สถานีจตุจักร ทางออก 1 และ 2BTS : สถานีหมอชิต ทางออก 1 และ 3 ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 04.30-21.00 น.https://goo.gl/maps/CFJPxGFAhzw

 4 สวนในกรุง ใกล้รถไฟฟ้า อ่านเพิ่มเติม

เยาวราช ย่านสีสันแห่งกรุงเทพฯ

หลังจากที่บัดดี้เห็นภาพทีเซอร์และ MV เพลง ROCKSTAR จากค่าย LLOUD ของลิซ่าแล้ว บอกได้เลยว่าตื่นเต้นมาก เพราะใน MV มีการถ่ายทำที่ถนนเยาวราช ซึ่งมีการเปิดเผยว่าทีมงานได้ถ่ายทำในช่วงเวลาตี 2 เป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะปล่อยเพลงเต็มในวันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมานี้ เวลา 07.00 น. วันนี้บัดดี้ขออุ่นเครื่องโดยการนำภาพบรรยากาศกลางคืนสวย ๆ ของย่านเยาวราชและร้านอาหารบางร้านที่บัดดี้เคยไปทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนมาแชร์กับเพื่อน ๆ และหากใครมีร้านไหนที่อยากแนะนำบัดดี้หรือเพื่อน ๆ ก็สามารถโพสต์บอกได้เลยในช่องคอมเมนต์ ร้านเอี๊ยะแซ กาแฟโบราณร้านนี้เหมือนสภากาแฟย่อม ๆ เพราะจะมีอากงอาม่ามานั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ที่สำคัญเปิดมานานกว่า 90 ปีแล้ว ทางร้านยังคงเสิร์ฟกาแฟแบบโบราณมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากกาแฟโบราณ ทางร้านก็มีอีกหลายเมนูเครื่องดื่มสุดคลาสสิกอย่างโอเลี้ยง โอวัลตินและน้ำสมุนไพรอย่างเก๊กฮวย กระเจี๊ยบให้สั่งอีกด้วย 103, 105 ถ. เยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 เปิดทุกวันเวลา 04.00-19.00 น. 0 2221 0549https://maps.app.goo.gl/z7HRTxHryPS58ZUu9 ร้านไท้เฮงข้าวมันไก่ร้านอาหารเก่าแก่อีกร้านของย่านเยาวราชที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2463 ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยเยาวราช 8 ตรงข้ามกับวัดบำเพ็ญจีนพรต (วัดย่งฮกยี่) โดยตัวร้านจะมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่งสำหรับนั่งกิน กับฝั่งทำอาหาร เมนูชูโรงของทางร้านคือข้าวมันไก่ ตัวข้าวมันเม็ดเรียงสวย กลิ่นหอม ไก่ดูภายนอกเหมือนจะแห้ง แต่พอชิมแล้ว เนื้อนุ่มชิ้นใหญ่ไม่กระด้าง กินได้เต็มปากเต็มคำ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสหวานเปรี้ยว โดยมีราคาเริ่มที่จานละ 40 บาทเท่านั้น หากใครไม่อยากกินข้าวบัดดี้ขอแนะนำสุกี้ ซึ่งทางร้านก็ทำได้อร่อยไม่แพ้กัน ซอยเยาวราช 8 ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) 02 222 6791https://maps.app.goo.gl/XiSEYGahj5dL3ykx5 กู่หลงเปาตัวร้านตั้งอยู่ใกล้ ๆ แยกหมอมี โดยซาลาเปาร้านนี้เป็นสูตรโบราณที่คงความดั้งเดิมมากว่า 90 ปี แถมยังปั้นด้วยมือทุกลูก แป้งซาลาเปาของร้านนี้จะผสมมันเทศเข้าไปด้วย ทำให้มีความเหนียวหนึบ กินแล้วเศษแป้งไม่ติดฟัน มีไส้หมูสับไข่เค็ม ถั่วหวานงา เผือกกวนเเละหมั่นโถว ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท/ลูก 660, 662 ถ.เจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) 09 5797 5747https://maps.app.goo.gl/Qo2W2auRS7hXWTcv8 ปาเฮ่าเถียนมี่ พุดดิ้งร้านของหวานในใจที่หลายคนโดนตกจากเมนูพุดดิ้งในสไตล์จีน พุดดิ้งที่ร้านมีหลายแบบให้เราเลือกกินตามความชอบ วัตถุดิบที่นำมาเป็นท็อปปิงก็หาได้ในย่านเยาวราช ไม่ว่าจะเป็น ชา ใบบัวบก งาดำ หมูหย็อง เก๋ากี้ เป็นต้น 8 ถ.ผดุงด้าว แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. 09 7995 4543https://maps.app.goo.gl/tbFRwxhw98ghYGXh6

เยาวราช ย่านสีสันแห่งกรุงเทพฯ อ่านเพิ่มเติม

ฟาร์มเอ๋ย ฟาร์มรัก เที่ยวสายกรีนไม่ไกลกรุง

บัดดี้ขอนำเสนอ แหล่งท่องเที่ยวแบบสวนแบบฟาร์มที่ไม่ไกลกรุง ที่จะมอบความอิ่มใจจากธรรมชาติ ที่เกิดความรักและสามัคคีให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ลองตามมาอ่านกันว่าฟาร์มเอ๋ย ฟาร์มรัก วันนี้มีที่ไหนบ้าง 1. ฟาร์มลุงรีย์ลุงรีย์ เจ้าของฟาร์มเกษตรในกรุงเทพฯ ที่มีไม่มากนัก สิ่งที่น่าสนใจของฟาร์มลุงรีย์มีทั้งโรงเรือนปลูกผักห้องปลูกเห็ดสายพันธุ์มิลค์กี้ คอนโดไส้เดือนสำหรับย่อยเศษอาหารเพื่อใช้เป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ โรงเลี้ยงสัตว์ระบบปิด ที่มีทั้ง หมู เป็ด ไก่และเต่า ภายในฟาร์มลุงรีย์ มีการใช้เทคโนโลยีระบบ Smart Farm แพลตฟอร์มฟาร์มอัจฉริยะแบบ 4.0 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ให้มาช่วยกำหนดความชื้น ความเข้มแสง ระบบน้ำอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดีและประหยัดเวลาได้ดีสุด ๆ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านคาเฟ่เล็ก ๆ “Lessplasticable” ที่จำหน่ายสินค้าเพื่อลดการใช้พลาสติก เช่นของใช้และน้ำยาต่าง ๆ แบบรีฟิล เพื่อน ๆ สามารถเตรียมภาชนะจากบ้านไปเติมได้เลย แถมที่นี่ยังมีอุปกรณ์อย่าง Bio Trash ที่เป็นการแยกขยะ กำจัดเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ด้วยการนำเศษอาหารใส่กับตัวสตาร์ทเตอร์หมักไว้ประมาณ 45 วันก็นำมาใช้งานได้แล้ว สำหรับใครที่สนใจทำกิจกรรม Workshop การปลูกผัก สามารถติดต่อล่วงได้เลย เพราะที่นี่รับจำนวนจำกัดต่อวัน ฟาร์มลุงรีย์19/31 ซอยเพชรเกษม 46 แยก 11 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯฟาร์ม เปิดวันอาทิตย์ เวลา 10.00-12.00 น.ร้านอาหาร เปิดวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.06 1414 5242, 09 6654 2654https://maps.app.goo.gl/pb8kKsVsH6ba7Bn99 2. ริเช่ฟาร์ม (Riche’ Farm) จ.ชัยนาทเป็นวิสาหกิจชุมชนของ จ.ชัยนาท มีทั้งที่พักและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนเนื้อที่โดยรวมกว่า 107 ไร่ ที่พักมีทั้งแบบเป็นบ้านหลังใหญ่ เป็นห้องแยกและแบบพูลวิลล่า พร้อมกิจกรรมมากมายให้ทำภายในฟาร์มแห่งนี้ เช่นการเดินเล่นในฟาร์ม ขับรถ ATV ปั่นจักรยาน ปลูกผักและกิจกรรม DIY ต่าง ๆ ด้านหน้าของฟาร์ม มีคาเฟสวย ๆ อย่าง ร้านกาแฟ 168 Riche Farm ร้านประจำของฟาร์มที่นำผลผลิตจากฟาร์มมาทำจำหน่าย มีขายทั้งขนม อาหาร ผักผลไม้ปลอดสารพิษ น้ำเคลปั่น Welcome Drink ที่กินแล้วสดชื่นมาก ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติของผักอยู่เลย ใครไม่กินผักกินแก้วนี้ได้ 100% ใกล้ ๆ กันมีสวนครูเอียด ที่มีของว่างอร่อย ๆ ผลไม้ตามฤดูกาลให้กิน ช่วงที่บัดดี้ไปมีเมี่ยงคำที่อร่อยมาก ๆ แถมยังมีมะยงชิดลูกโต ๆ ชมพู่หวาน ๆ กรอบ ๆ ให้อีกด้วยหากใครแวะมาที่ริเช่ฟาร์ม อย่าลืมแวะมาที่นี่กันด้วยล่ะ (สามารถแจ้งที่ริเช่ฟาร์มได้เลย ว่าจะไปสวนครูเอียด ทางฟาร์มจะพาไป) หมู่ที่ 1 ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. 06 1979 7254, ททท.สำนักงานลพบุรี โทร. 0 3677 0096-7https://maps.app.goo.gl/q2ziqBTwxPAzVasUA 3. ไร่อารีย์โรจน์ จ.ชัยนาทอารีย์โรจน์ฟาร์ม ปัจจุบันเป็นฟาร์มที่มีร้านอาหารกึ่งคาเฟตั้งอยู่ โดยพี่โอ๋ เจ้าของไร่อารีย์โรจน์บอกกับบัดดี้ว่า จุดเริ่มต้นคือการทำขนมปังให้ลูกกินตอนเช้า ต่อมาเพื่อนลูกอยากให้ทำขายเลยเริ่มจากการพรีออเดอร์และขยับขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแบบที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากโทสต์ต่าง ๆ และโชคุปังทำแบบวันต่อวันที่อร่อยมาก ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารที่รสชาติดีมาก ๆ และผลไม้ที่ทางไร่ปลูกเอง อย่างช่วงที่บัดดี้ไปมีมะม่วงขาวนิยม อร่อยจนอยากจะซื้อกลับไปเยอะ ๆ เลยล่ะ โดยที่นี่เปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์และจะหยุดทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท 17130 เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน) 08 1532 3956https://maps.app.goo.gl/XURNuQWCycnDs2qEA 4. ไออุ่นขุนเขา ออร์แกนิกฟาร์มสเตย์ จ.ราชบุรีฟาร์มเกษตรอินทรีย์ในรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ดื่มด่ำไปกับวิวสวย ๆ พร้อมร่วมทำกิจกรรมปลูกผัก ผลไม้และเลี้ยงสัตว์แบบอินทรีย์แบบครบวงจร นอกจากกิจกรรมที่บัดดี้ได้บอกไปตอนข้างต้น ที่นี่เพื่อน ๆ ยังสามารถชมฟาร์มองุ่นและมัลเบอร์รี่ และเรียนรู้กระบวนการทำงานภายในฟาร์ม ไปจนถึงขั้นตอนการแปรรูปผลผลิตจากฟาร์มแห่งนี้ รวมไปถึงการอุดหนุนสินค้าอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ร่มเย็นได้อีกด้วย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เปิดทั้งวัน 08 1685 8329https://maps.app.goo.gl/4ZE8ywtdptGZu5TF6 5. บ้านสวนพาฝัน (The Story of Coconut at Ban Phaeo) จ.สมุทรสาครคาเฟริมน้ำลับ ๆ กลางสวน ที่มีบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย เนื่องจากตั้งอยู่กลางสวนมะพร้าวที่ล้อมรอบด้วยคลองสองห้อง ทำให้คาเฟแห่งนี้มีกิมมิคที่ไม่เหมือนใคร คือ นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือหางยาวเพื่อเข้ามายังคาเฟเท่านั้น โดยสามารถจอดรถได้ที่วัดหนองสองห้อง และขึ้นเรือจากท่าวัดหนองสองห้องมายังคาเฟซึ่งใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น ภายในร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ โซน Indoor และ โซน Outdoor มีอาหารคาวหวาน รวมถึงเครื่องดื่มสูตรเฉพาะพร้อมเสิร์ฟให้แก่ผู้มาเยือน เช่น ซี่โครงหมูอบโรสแมรี่ ไก่ทรอปิคอลล่องเรือ สลัดพาฝันกุ้งยูซุ กาแฟมะพร้าว สาคูมะพร้าวนมสด ชีสเค้กทุเรียน และเมนูอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้ทุกคนมาลิ้มลองด้วยตัวเอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นใกล้กรุงเทพ หากจะเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันนักขัตฤกษ์

ฟาร์มเอ๋ย ฟาร์มรัก เที่ยวสายกรีนไม่ไกลกรุง อ่านเพิ่มเติม

ตามรอยพิกัด ‘หลานม่า’ ย่านตลาดพลู

ภาพยนตร์ไทยชื่อดังที่กำลังมาแรง เรื่อง ‘หลานม่า’ เรื่องราวสุดซึ้งกินใจของ ‘อาม่า’ และ ‘เอ็ม’ เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เผยให้เห็นบรรยากาศในย่านเก่าแก่อย่าง ’ตลาดพลู‘ เป็นย่านที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินว่าเป็นถิ่นอร่อย มีร้านอาหารและของหวานขายอยู่หลายชนิด แต่ที่นี่ก็มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานด้วยเช่นกัน ตลาดพลูเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทั้งจีน และมุสลิม ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่นับร้อยปี “ตลาดพลู” ถูกตั้งชื่อตามรูปแบบวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น โดยชาวมลายูทำสวนหมากและพลู ปลูกอยู่มากในแถบคลอง ตั้งแต่คลองสำเหร่ คลองบางสะแก และคลองบางน้ำชน ซึ่งเป็นคลองใกล้ ๆ กับตลาดพลู ในสมัยนั้นหมากและพลูได้รับความนิยมอย่างมาก ชาวสวนนำหมากและพลูมาวางขายริมคลอง จนเป็นศูนย์กลางของการค้าหมากพลู และกลายเป็นชื่อเรียกที่เข้าใจกันว่า ที่นี่คือ ‘ย่านตลาดพลู’ เล่าประวัติมาพอสังเขปแล้ว บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปตามรอยพิกัดในภาพยนตร์เรื่องหลานม่า พร้อมปักหมุดของอร่อย ๆ รสดีเด็ดให้เพื่อน ๆ จดลิสต์ไว้กัน สถานีรถไฟตลาดพลูเป็นสถานีที่ยังใช้งานอยู่ มีรถไฟวิ่งให้บริการทุกวัน สายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย หากเพื่อน ๆ ต้องการเดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีนี้ สามารถสอบถามตารางการเดินรถไฟได้ที่เบอร์ 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทยบรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟตลาดพลูสุดคลาสสิกนี้ เป็นหนึ่งในฉากถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/h1Ziga4HPtwRMMHA8 บัดดี้เริ่มสำรวจบ้านเรือนและอาคารรอบ ๆ สถานีรถไฟ เดินออกไปไม่ไกลมากนัก มีอาคารไม้หลังเก่า ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องหลานม่านั้น บริเวณข้าง ๆ ที่เห็นในภาพ เป็นที่ตั้งร้านโจ๊กของอาม่า ซึ่งจริง ๆ แล้วตรงนี้เป็นร้าน ‘กระเพาะปลาน้ำขัน’ หรือ ‘กระเพาะปลาขันโค้ก’ ซึ่งเปิดขายมานานหลายสิบปี ร้านกระเพาะปลาน้ำข้น เสิร์ฟกระเพาะปลาสูตรเด็ดของร้าน วัตถุดิบเน้น ๆ ที่นี่จะใส่ข้อไก่ด้วยนะ รสชาติเบา ๆ สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ราคาหลักสิบเท่านั้น พร้อมเสิร์ฟน้ำมาในขันสไตล์โบราณ ดื่มแล้วสดชื่นสุด ๆ นอกจากเมนูกระเพาะปลาแล้ว ที่ร้านยังขายก๋วยเตี๋ยวหลอดอีกด้วย ใครมาถึงแล้วลองมาแวะชิมกันได้นะ เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 10.00-14.00 น. โทร. 08 7078 8238 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LJRJiduz4uVVE2tJ7 บรรยากาศฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟตลาดพลูเป็นอาคารแถวสองชั้น เป็นทั้งที่อยู่อาศัยของคนในย่านตลาดพลู และยังเป็นร้านขายของอีกด้วย เดินไปบนถนนเลียบทางรถไฟ เป็นเส้นทางที่อาม่าและเอ็ม ตัวละครในเรื่อง ใช้เส้นทางนี้เดินจากสถานีรถไฟกลับบ้านเป็นประจำ บัดดี้เดินตามไปบนถนนเส้นทางนี้ เห็นบรรยากาศของการดำเนินชีวิตของที่นี่เป็นไปอย่างเรียบง่าย ตรงหัวมุมซอยโรงเจนี้ คือร้าน ป.เจริญ เป็นร้ายขายของชำ ซึ่งในเรื่อง อาม่าและเอ็มมาแวะที่ร้านนี้กันด้วย ตัวร้านเป็นอาคารไม้เก่าสองชั้น ดูคลาสสิกสุด ๆ เดินเลียบทางรถไฟมาเจอซุ้มเฟื่องฟ้าสวย ๆ ต้นสูงใหญ่ อยู่ตรงช่วงสะพานข้ามคลองสำเหร่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ปรากฏในฉากของภาพยนตร์หลานม่า ระหว่างที่อาม่าและเอ็มเดินด้วยกัน ใครเดินผ่านมาเจอตรงนี้แวะถ่ายรูปกันได้นะ ทั้งนี้ ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเล็ก เพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวชมแถวนี้อย่าลืมระมัดระวังรถกันด้วยนะ อย่างที่บอกว่าย่านตลาดพลูมีแต่ของอร่อย แม้แต่เอ็มก็ยังซื้อของกินจากย่านนี้ไปฝากอาม่า นั่นก็คือเกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ‘ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ’ บัดดี้สั่งเป็นเกาเหลาใส่ทุกอย่าง ที่ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เสิร์ฟเครื่องเน้น ๆ เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้น อร่อยสุด ๆ กลิ่นพริกไทยหอมมาก บังเอิญได้นั่งโต๊ะที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ในเรื่องหลานม่าพอดี ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เป็นร้านในคูหาเล็ก ๆ มีที่นั่งไม่เยอะมากนัก บางช่วงอาจจะต้องรอคิวนิดนึง แต่อดใจรอแปบหนึ่ง ก็จะได้กินของอร่อยแน่นอน ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. โทร. 06 5117 1117 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Wx6ECxagnSsbacXTA ติดกับร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เป็นร้านขนมหวานตลาดพลูเจ้าเก่า ‘แม่เจ็ง’ ขายขนมไทยหลากหลายชนิดในราคาเบา ๆ จะซื้อแบบชิ้นหรือยกกล่องก็มีให้เลือก ส่วนเรื่องรสชาตินั้น หวาน หอม อร่อย และไม่หวานโดดเกินไป กินง่าย โดยหลัก ๆ แล้ว ที่ร้านจะขายขนมหวานและขนมไทยมงคล มีทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น ถั่วกวน ตะโก้ วุ้น ขนมหม้อแกง บอกเลยว่าลูกค้าเดินเข้าร้านไม่ขาดสาย เพื่อน ๆ คนไหนอยากกิน แนะนำในรีบมา เพราะบางอย่างจะหมดเร็วมาก เปิดทุกวัน เวลา 09.30-20.00 น. โทร. 0 2472 6305 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/D2gPk5qAc8zNAuMi8 นอกจากนี้ ย่านตลาดพลู ยังมีของอร่อยอยู่อีกมาก ตั้งแต่หัวมุมซอยเลียบทางรถไฟ ใต้สะพานสี่แยกตลาดพลู ไปจนถึงฝั่งซอยเทอดไท 29 มีทั้งอาหารคาว ขนมอร่อย ๆ และคาเฟ่อีกมาก หากใครนึกถึงย่านของกิน ‘ตลาดพลู’ ก็เป็นอีกย่านที่แนะนำ

ตามรอยพิกัด ‘หลานม่า’ ย่านตลาดพลู อ่านเพิ่มเติม

แนะนำพิพิธภัณฑ์น่าเที่ยวช่วงหยุดยาว

ช่วงหยุดยาวนี้ ใครกำลังวางแผนพักผ่อน หาสถานที่ที่ไม่วุ่นวายมากนัก พาครอบครัวไปพักผ่อน หรือหากิจกรรมทำเงียบ ๆ บัดดี้ถือโอกาสมาแนะนำ “พิพิธภัณฑ์น่าเที่ยว” ในช่วงวันหยุดนี้ จากหลายจังหวัดในไทย ที่จะได้ทั้งหลบร้อน หลบฝน และได้ความรู้ ลองตามมาดูกัน ว่าจะมีที่ไหนบ้าง 1. มิวเซียมสยาม กรุงเทพมหานคร มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ความเป็นไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ใช้สื่อสร้างสรรค์ทันสมัย ที่ให้ความรู้พร้อมกับความสนุกสนาน ทั้งความเป็นมาของประเทศไทย ทั้งด้านเชื้อสาย ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและวิถีชีวิต แถมการเดินทางก็แสนง่ายเพราะอยู่ติดกับ MRT สถานีสนามไชย ทางออกที่ 1 ขึ้นบันไดเลื่อนมาปุ๊บ ก็ถึงปั๊บเลย ค่าเข้าชม : นักศึกษา 50 บาท | ผู้ใหญ่ (คนไทย) 100 บาท | ผู้ใหญ่ (ชาวต่างชาติ) 200 บาท | นักเรียน นักศึกษา (อายุมากกว่า 15 ปี) ราคา 25 บาท | ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าเข้าชม ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) 0 2225 2777https://maps.app.goo.gl/xZcts74WZLqrTDvt8 2. องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จ.ปทุมธานี องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (อพวช.) เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อตั้งในวันที่ 30 มกราคม 2538 มีเนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ ภายในประกอบไปด้วย1. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์2. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา3. พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ4. พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เป็นอาคารที่มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ 3 ลูกเชื่อมติดกัน ภายในมี 6 ชั้น จัดแสดงเรื่องราวความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผ่านสื่อมัลติมีเดียและแบบจำลองสามมิติ เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย หากพาเด็ก ๆ ไปก็จะได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ หากผู้ใหญ่ไปก็อาจจะได้ทั้งความรู้ใหม่ ๆ และความรู้หลาย ๆ เรื่องที่เคยรู้และหลงลืมไป พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง แถมยังเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญอีกด้วย นิทรรศการหลัก ๆ คือ เรื่องราวการกำเนิดโลก และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาจนปัจจุบัน ผ่านการนำเสนอหลากหลายวิธี ทั้งมัลติมีเดีย แบบจำลอง รวมถึงการจัดแสดงสัตว์สตัฟฟ์และโครงกระดูกจริง ที่ช่วยให้เราเข้าใจเรื่องธรรมชาติวิทยาได้ดียิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความสำคัญของการสื่อสาร ที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำความเข้าใจเรื่องคอมพิวเตอร์ เบื้องหลังการทำงาน และวิวัฒนาการของภาษาคอมพิวเตอร์ แถมยังมีกิจกรรมจำลองเสมือนจริงของการ X-ray, MRI, Ultrasound ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปัจจุบันมีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อย ๆ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เสนอหลักการคิด และวิธีการทรงงานตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แก้ปัญหาให้กับพสกนิกรในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ภายในมีการจำลองป่าและน้ำตกสูงประมาณตึก 4-5 ชั้น มาไว้ภายในอาคาร เพื่อแสดงถึงระบบนิเวศวิทยา ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะแบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บ้านของเรา (Our Home) นำเสนอเรื่องราวของกำเนิดจักรวาล ระบบสุริยะ และโลก ไปจนถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ จนกระทั่งกำเนิดมนุษย์ ชีวิตของเรา (Our Life) นำเสนอเรื่องราวการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมในแบบต่าง ๆ เช่น Antarctica, Arctic, Tundra, Taiga, Desert, Temperate และ Tropical ในหลวงของเรา (Our King) นำเสนอพระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ หลักคิด และหลักปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้เป็นแนวทางในการดำรงอยู่ของมนุษย์กับโลกใบนี้อย่างยั่งยืน ค่าเข้าชม (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ)– ผู้ใหญ่ 200 บาท– เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าชมฟรีสามารถ Walk-in ได้ หากมาหลายคนสามารถจองเข้าชมล่วงหน้าได้ที่ : https://nsm.welovebooking.net/onecampus ระบบจะตัดรอบจองล่วงหน้า 1 วัน ตอนเที่ยง เทคโนธานี ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ที่นี่เปิดให้บริการเหมือนเดิม หยุดเฉพาะวันจันทร์– วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.30-16.00 น.– วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30-17.00 น. 0 2577 9999 ต่อ 2122-2123https://maps.app.goo.gl/hosqpsRWG5m5uhdi9 3. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน จ.นครราชสีมา สำหรับภาคอีสาน บัดดี้มีอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์มานำเสนอ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ที่นี่ยังเป็น 1 ใน 8 พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินของโลก ซึ่งภายในจะแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน2. พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์3. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน จัดแสดงไม้กลายเป็นหินจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสาน แต่ส่วนใหญ่จะเน้นของ จ.นครราชสีมา ซึ่งไม้กลายเป็นหินของจริงสวยมาก เช่น ไม้กลายเป็นหินเนื้ออัญมณี ไม้กลายเป็นหินตระกูลปาล์มและไม้กลายเป็นหินหลากหลายอายุ ที่มีความสวยเฉพาะตัวสุด

แนะนำพิพิธภัณฑ์น่าเที่ยวช่วงหยุดยาว อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางเดินเที่ยว-กินย่านถนนพระอาทิตย์

พระนครที่เต็มไปด้วยของอร่อยหลายร้าน อีกทั้งชมงานศิลป์ เดินชมสถาปัตยกรรมย้อนยุคที่เรียงแถวไปตามแนวถนนอย่างเพลิดเพลิน แถมวันนี้ บัดดี้และเพื่อน ๆ พกแก้วน้ำกันมาเอง เพื่อช่วยลดจำนวนการใช้แก้วพลาสติกที่เราใช้ใส่เครื่องดื่มกันในแต่วันอีกด้วย หากใครมีแก้วที่สามารถใช้ซ้ำได้ แนะนำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเพื่อน ๆ กันนะ ว่าแล้วก็ไปชมกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง เตรียมจดลิสต์ไว้ได้เลย Maesalong Croissant หากพูดถึงครัวซองต์เจ้าดังย่านพระอาทิตย์ ในราคาย่อมเยา คงต้องยกให้ร้านนี้ ‘แม่สลองครัวซอง’ ซึ่งเดิมทีนั้นเปิดตัวในอาคารเก่าโรงพิมพ์ศรีหงส์ย่านถนนสามเสน แถมยังได้รับความนิยมอย่างมาก และปัจจุบันร้านได้ย้ายมาตั้งอยู่ริมถนนพระอาทิตย์ และยังมีสาขาอื่น ๆ ได้แก่ อารีย์ ราชดำริ ครัวซองต์แม่สลอง ก่อตัวขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด โดยเจ้าของได้ไปเรียนทำครัวซองต์มาจากแม่สลอง จังหวัดเชียงราย เมื่อประสบความสำเร็จ จึงได้กลับมาเปิดร้านครัวซองต์ในกรุงเทพฯ ชื่อ ‘ครัวซองต์แม่สลอง’ นั่นเอง ทางร้านจะอบใหม่ทุกวัน แค่เดินผ่านหน้าร้าน กลิ่นครัวซองต์และเนยหอม ๆ ที่อบอวลอยู่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชมพร้อมกับลิ้มลองครัวซองต์อร่อย ๆ ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ทางร้านยังมีเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ชา น้ำผลไม้ เป็นต้น ใครมองหาครัวซองต์อร่อย ๆ แนะนำที่นี่เลย 64 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. 09 2601 2345https://maps.app.goo.gl/huXKjMzULBjpyeQHA คุณแดง ก๋วยจั๊บญวน หากพูดถึงก๋วยจั๊บญวนชื่อดังย่านถนนพระอาทิตย์ คงไม่พลาดร้าน ‘คุณแดงก๋วยจั๊บญวน’ ความอร่อยวัดได้จากจำนวนลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แวะเวียนเข้าออกตลอดทั้งวัน แถมยังได้รับกระแสนิยมมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ร้านนี้ปรากฏในซีรีส์เกาหลีชื่อดังเรื่อง King the Land เมนูของร้านหลัก ๆ มีก๋วยจั๊บญวน สั่งได้ทั้งแบบธรรมดา หรือจะเพิ่มไข่ก็มีนะ ของกินเล่นก็มีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น หมูยอพริกไทยดำเนื้อเน้น ๆ หมูยอหนัง เปาะเปี๊ยะทอด ยำหมูยอ ใครชื่นชอบหอมเจียว สามารถสั่งแยกมาได้ โรยบนก๋วยจั๊บญวนแบบแน่น ๆ อร่อยสุด ๆ เนื่องจากร้านเป็นร้านเล็ก ๆ อาจจะใช้เวลารอคิวนานหน่อย แต่ถ้าได้ลองกินแล้วจะติดใจไปตาม ๆ กัน 68-70 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 09.30-20.30 น. 08 5246 0111https://maps.app.goo.gl/Jppo7Lw8c8WUFLHy7 Pulse เรียกว่าเป็นคาเฟ่แห่งใหม่ในย่านถนนพระอาทิตย์ ที่มีสาขาแรกอยู่ที่บางขุนเทียน ถอดคอนเซ็ปต์จากร้านแรกมาตั้งอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์ในตึกเล็ก ๆ ชั้นที่สอง ดีไซน์ของคาเฟ่ให้กลิ่นอายความคลาสสิก สงบ เรียบง่าย มองเห็นธรรมชาติกลางกรุงได้อย่างน่าสนใจ เครื่องดื่มของทางร้านอย่างเมนูกาแฟ จะเสิร์ฟแบบคั่วกลาง ดื่มง่าย และใครที่ไม่ดื่มกาแฟ บัดดี้ก็มีเมนูอื่น ๆ มาแนะนำ อย่างเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ ‘Sunbeam’ โดยมีชั้นล่างเป็นมิกซ์น้ำผลไม้หลายชนิด และท็อปด้วยครีมมัทฉะหอม ๆ เมื่อดื่มเข้าไปมีทั้งความรู้สึกสดชื่น สัมผัสนุ่ม ๆ ถือเป็นเมนูเด่นสมชื่อ เพราะเมื่อดื่มเข้าไปแล้วสดชื่นเหมือนได้สัมผัสแสงแรกในยามเช้าเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ที่ร้านจะมีขนมเค้กให้เลือกหลายอย่าง สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเข้ากันสุด ๆ 100/6 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.30 น. 08 2836 4204https://maps.app.goo.gl/drNN9iBuwmtWdx8c6 โคโคนัท คัลเจอร์ ลงมาที่ชั้นหนึ่ง ตึกเดียวกันกับ Pulse ยังมีร้านไอศกรีมมะพร้าวที่เหมือนยกสวนมะพร้าวบ้านแพ้วมาไว้ในร้าน ด้านหน้ามีบาร์ไอศกรีม 20 รสชาติ จะสับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน และที่สำคัญ คนที่แพ้นมวัวหรือกลูเต็นสามารถกินได้ เพราะไอศกรีมร้านนี้ไม่มีส่วนผสมของนมวัวและกลูเต็น เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Super Coconut & Butter Grilled Corn เสิร์ฟไอศกรีมรสมะพร้าวบนทองม้วนในรูปแบบวาฟเฟิล วางทอปปิงด้วยเนื้อมะพร้าวชิ้นโต มะพร้าวกระฉีก และข้าวโพดย่างหอม ๆ กินแล้วเข้ากันดีมาก แนะนำเลย 100/6 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. 09 8903 4714https://maps.app.goo.gl/drNN9iBuwmtWdx8c6 Sueb Goongob – สืบ กุ้งอบ ร้านอาหารซีฟู้ดขนาดเล็ก พิกัดถนนพระอาทิตย์ ตกแต่งภายในร้านบรรยากาศเหมือนเราไปเที่ยวทะเล โดยมีทางร้านมาต้อนรับอย่างอบอุ่น จำหน่ายอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกชิม เมนูแนะนำของร้านคือเมนูอบวุ้นเส้น บัดดี้สั่งยกทะเลอบวุ้นเส้นมาชิม รสชาติเข้มข้น กุ้ง หมึก ปู ชิ้นโต ๆ หวานฉ่ำมาก ส่วนเมนูอื่น ๆ ก็รสชาติจัดจ้านไม่แพ้กัน แอบบอกเลยว่าใครหิวจนตาลายสั่งมาเยอะ ได้ห่อกลับบ้านแน่นอน เพราะจานใหญ่ ปริมาณเยอะสุด ๆ ใครมองหาร้านอาหารทะเลแซ่บ ๆ ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านแนะนำ 100 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. 09 0985 2849https://maps.app.goo.gl/drNN9iBuwmtWdx8c6 อศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา Arts Gallery at Ban Chao Phraya พักกิน ชมงานศิลป์ที่ ‘หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา’ อาคารโบราณทรงปั้นหยา ในอดีตเคยเป็นตำหนักในวังของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเนาวรัตน์ กรมหมื่นสถิตธำรงสวัสดิ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

เส้นทางเดินเที่ยว-กินย่านถนนพระอาทิตย์ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย

วันนี้บัดดี้ขอแนะนำ 6 ตลาดน้ำ เพื่อเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ตามรอยบ้าง ออกไปสัมผัสวิถีชีวิต กินอาหารชุมชน พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ วางแผนแล้วไปกัน อย่าลืม ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มแยมทักทาย ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวนะคะ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ตลาดน้ำยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2.30 ชั่วโมง พ่อค้า แม่ค้าขายสินค้าทั้งบนเรือและบนฝั่ง เริ่มค้าขายตั้งแต่เวลา 07.00 น. ไปจนถึงช่วงประมาณ 13.00 น. มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งอาหาร ขนมหวาน มีบริการล่องเรือไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงทั้งแบบเรือพาย นั่งไม่เกิน 5 ท่านและเรือยนต์ นั่งไม่เกิน 6 ท่าน เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. สอบถามข้อมูล– ท่าเรือยุวันดา โทร. 08 5222 7470– ท่าเรือหญิงกอล์ฟ โทร. 08 0237 5199– ท่าเรือแป๊ะ โทร. 08 7111 1624– ท่าเรือประเมศฐ์ โทร. 08 5186 3361https://maps.app.goo.gl/NtruRwaxrbdrjK7r8 ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำที่นี่ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นตลาดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างเข้ามาสัมผัส ด้วยเสน่ห์ของเรือนแถวไม้ริมน้ำกับการสัญจรทางน้ำ และการค้าขายด้วยเรือจนเป็นภาพชินตา เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบนบกและบนเรือ ช่วงค่ำนั่งเรือชมหิ่งห้อย นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเรือท่องเที่ยวได้ที่ตลาดน้ำอัมพวา หรือติดต่อผ่านที่พักและโฮมสเตย์ โดยเรือจะล่องไปตามลำน้ำแม่กลองหรือคลองย่อยต่าง ๆ เปิดบริการทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.30 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 3433 5613https://maps.app.goo.gl/RHs6vynSbKVi9tSJ8 ตลาดน้ำดอนหวาย จังหวัดนครปฐม ตลาดน้ำใกล้กรุงอีกแห่งที่แนะนำ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่มีของกินมากมาย อร่อยทุกร้าน และเป็นอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมอีกด้วย เช่น เป็ดพะโล้ ต้มเค็มปลาทู ต้มเค็มปลาตะเพียน ขนมจีนน้ำยากะทิ น้ำยาป่า ห่อหมกปลาช่อน ทอดมันปลากรายแท้ และขนมไทยโบราณ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักกินโดยแท้ ยังมีผักและผลไม้ที่ส่งตรงมาจากสวนชาวบ้านให้เลือกซื้อกันอีก บรรยากาศก็โดนใจกับกลิ่นอายย้อนยุค ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่ตามแพและเรือนริมน้ำ สามารถล่องเรือแม่น้ำท่าจีนชมวิวสองฝั่ง วิถีบ้านริมน้ำได้ ตลาดเปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. เรือศรีสวัสดิ์ย้อนยุค โทร. 08 1448 8876, 08 1659 5805https://maps.app.goo.gl/gRwg4c4WwTqSUwUf6 ตลาดน้ำขวัญเรียม รามคำแหง กรุงเทพฯ ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่เดินทางได้ง่าย ที่นี่เป็นตลาดน้ำกลางกรุงที่จำลองวิถีชีวิตริมน้ำผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ ได้แก่ การตักบาตรทางเรือ และงานทอดผ้าป่าทางน้ำ พร้อมเลือกชิมอาหารคาวและขนมหวานจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งบนฝั่งและนั่งเรือ เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 08 1357 1545https://maps.app.goo.gl/cNq5sH4mEJVGqwDj8 ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เป็นตลาดน้ำยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำหน่ายอาหารและขนมไทยหลายชนิด อีกทั้งของตกแต่งบ้าน ของใช้ประเภทต่าง ๆ เสื้อผ้า และเครื่องปั้นดินเผา และมีกิจกรรมล่องเรือคลองบางระมาด เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนโดยรอบตลาดน้ำ และล่องเรือไปบ้านขนมไทยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความอร่อย และเลือกซื้อเป็นของฝาก เปิดบริการทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 0 2422 4270https://maps.app.goo.gl/eR7cGmLfNgXtfyZt6 ตลาดน้ำคลองบางหลวง ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีการนำเสนอเอกลักษณ์วิถีชุมชน ซึ่งยังสะท้อนภาพชุมชนดั้งเดิมได้จากเรือนแถวไม้ค้าขายสินค้าสองฟากถนนและเรือนแถวไม้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ แก่ผู้ที่มาท่องเที่ยวชื่นชมบรรยากาศริมน้ำ นอกจากนี้ยังมีบ้านศิลปินคลองบางหลวง บ้านไม้ทรงมะนิลา ตัวเรือนลักษณะเป็นรูปตัวแอล มีเจดีย์เก่าแก่อยู่ภายในพื้นที่บ้าน สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์กำหนดหนึ่งในสี่ทิศของวัดกำแพงบางจาก บ้านศิลปินเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะมากมาย ชั้นบนเป็นแกลเลอรี จัดแสดงภาพวาด ภาพถ่าย ชั้นล่างจำหน่ายของที่ระลึก โปสการ์ดแนวศิลปะต่าง ๆ และมีกิจกรรมงานฝีมือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ บ้านศิลปินเปิดทุกวัน ตลาดเปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 09 8097 0468https://maps.app.goo.gl/cBS8HZEZov2U4euP7

เที่ยวตลาดน้ำ…ชมวิถีไทย อ่านเพิ่มเติม

ตามรอยโลเคชั่นหนังรัก

ไหน ๆ ก็ผ่านวันแห่งความรักไปแล้ว บัดดี้ขอถือโอกาสนี้นำเสนอโลเคชั่นหนังรักในไทย มานำเสนอเพื่อน ๆ หลายเรื่องหลากสไตล์ ทั้งสนุก สุข เหงา เศร้า ตลก ลองตามมาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง 1. The Letter จดหมายรัก (2004) – สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ The Letter จดหมายรัก เป็นหนังที่มอบทั้งความสุขสุดโรแมนติกและความเศร้าของการจากลา จนน้ำตาร่วงผ่านการเขียนจดหมายตามชื่อเรื่อง โดยใช้สถานที่ถ่ายทำเป็นสถานีเกษตรอ่างขาง จ.เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าหนาว ที่นี่มีทั้งแปลงพืชผลทางการเกษตรและสวนดอกไม้เมืองหนาวให้ชม ยิ่งช่วงเดือนมกราคมจะมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมสวยให้ชมทั่วทั้งบริเวณ หมู่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น. 05 3969 4768 ต่อ 114https://maps.app.goo.gl/wECr81PsEXnGohjZ9 2. รักจัง (2006) – น้ำตกผาดอกเสี้ยว จ.เชียงใหม่ รักจังหนังรักโรแมนติก-คอมเมดี้ เกี่ยวกับเรื่องราวความรักของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อและปาปารัซซี่สาว โดยหนึ่งในสถานที่ถ่าย ที่หลายคนน่าจะจำได้ก็คือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จนหลายคนเรียกกันติดปากว่า “น้ำตกรักจัง” นอกจากน้ำตกที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยวที่จะมีไกด์ท้องถิ่นเดินนำทาง หากใครไปแล้ว จะได้สัมผัสกับธรรมชาติสีเขียว ความสดชื่นและวิวสวย ๆ แถมยังมีจุดให้ลองชิมกาแฟต้มถ่านที่ปลายเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย น้ำตกผาดอกเสี้ยว ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.https://maps.app.goo.gl/xyjLUBFMNKDwMa5z9 3. Low Season สุขสันต์วันโสด (2020) – กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ หนังที่บอกเล่าช่วงชีวิตสุดจะ LOW ของเหล่าคนอกหัก รักคุด ที่ต่างก็หนีไปพักใจที่โฮมสเตย์กลางหุบเขา จ.เชียงใหม่ ซึ่งหนังเรื่องนี้ นำเสนอทั้งความหลากหลายของอาการอกหัก ความรัก ความสวยงามของกิ่วแม่ปาน ที่มีทั้งทะเลหมอก ขุนเขา ความเขียวที่สดชื่น จนตัวละครในเรื่องเปลี่ยนฤดู LOW เป็นฤดูเราเลยล่ะ กิ่วแม่ปาน ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 06.00-16.00 น.https://maps.app.goo.gl/CMUUvyyuhYyPSnE97 4. One For The Road วันสุดท้ายก่อน…บายเธอ (2022) – ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ หนังที่มีทั้งมิตรภาพ ความรักและดราม่า ที่ได้ผู้กำกับระดับตำนาน “หว่อง กาไว” มาเป็นผู้อำนวยการสร้าง และไปคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award จาก Sundance Film Festival 2021 ภายในเรื่องบอกเล่าเรื่องราวของอู๊ด ผู้ป่วยโรคร้ายที่มีเวลาอยู่ได้อีกไม่นาน และบอส เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นเจ้าของบาร์ใน New York ซึ่งจะพาผู้ชมร่วมย้อนเรื่องราวในอดีตและกลับไปเจอเหล่าคนสำคัญในชีวิตของอู๊ด เพื่อกล่าวลาและขอโทษเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งอาจทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องที่หลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่อู๊ดทำเรียกว่าความเห็นแก่ตัวไหมแล้ว ทุกฉากของหนังเรื่องนี้ละเมียดมาก ทั้งเสื้อผ้า เพลงประกอบหนัง บรรยากาศ รวมไปถึง ประตูท่าแพ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลย ถ.ท่าแพ ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เปิดทุกวันเวลา 24 ชั่วโมงhttps://maps.app.goo.gl/iwYNwRLeufu9HShz9 5. The Melody รักทำนองนี้ (2012) – ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน หนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ วิน นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ที่อยู่ในช่วงขาลงจนเขาต้องหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอนและบังเอิญพบกับหมอก นักเปียโนสาวสวยฝีมือดี ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาจนกลายเป็นแรงบันดาลใจและความอบอุ่นของกันและกันท่ามกลางบรรยากาศหนาวบนดอย ถึงแม้ท้ายที่สุดหมอกจะจากไปแบบไม่มีวันกลับด้วยโรคร้าย แต่ความรักและแรงบันดาลใจในดนตรีที่มอบให้วินก็ยังอยู่ในใจของเขาตลอดกาล พูดถึงสถานที่ถ่ายทำ ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มอบความสวยงามให้คนที่ได้ดูเรื่องนี้ประทับใจไม่น้อย ยิ่งฉากที่เห็นดอกสีเหลืองทั่วทั้งหุบเขาท่ามกลางอากาศเย็น ๆ ยิ่งอยากให้ทุกคนไปเห็นของจริงด้วยตัวเอง หากใครว่างช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม บัดดี้แนะนำให้มาที่นี่เป็นอันดับแรก ๆ ดอยแม่อูคอ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น. 0 5361 2983 ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน 0 5361 5987 องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอhttps://maps.app.goo.gl/jnkgcFBaLiest3z6A 6. ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2014) – เชียงคาน จ.เลย เรื่องราวที่เล่าผ่านความทรงจำตั้งแต่เด็กของ “ตุ๊กแก” เด็กชายที่เติบโตมากับการคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังและวาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง “เพชรเชียงคาน” และได้สิทธิพิเศษที่สามารถดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังแห่งนี้ จนเขาได้มาเรียนที่ กรุงเทพฯ และได้มาช่วยรุ่นพี่ในกองถ่ายและได้พบกับ “แป้ง” ลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับตุ๊กแก ที่คาแรกเตอร์เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน จนตุ๊กแกต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แป้งคนเดิมกลับมา ในด้านของสถานที่ถ่ายทำ หากใครได้ดูเรื่องนี้ จะเห็นกับเสน่ห์ของ เชียงคาน ได้อย่างจุใจ ทั้งบรรยากาศของชุมชน ถนนคนเดินและวิวแม่น้ำโขง ที่สวยและเรียบง่ายชวนให้อยากไปเยือนสุด ๆ ต.ชายโขง อ.เชียงคาน จ.เลย เปิดทุกวันเวลา 16.00-22.00 น.https://maps.app.goo.gl/w7kM6x5du9bbJjuF8 7. รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2009) – ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2009) หนึ่งในหนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ในตำนานของไทย ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “เหมยลี่” พนักงานบริษัทสาวโสดวัย 30 ปี ที่พบรักกับ “ลุง” วิศวกรรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มาช่วยดูเครื่องยนต์รถที่สตาร์ตไม่ติดให้ และมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดจากความไม่บังเอิญที่ทำให้ ลุง ได้เจอกับเหมยลี่อยู่เรื่อย ๆ

ตามรอยโลเคชั่นหนังรัก อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top