น่าน

น่าน

สะปัน-ห้วยโทน-ห้วยหมี Nan in Green Season

เมื่อก้าวเข้าสู่ฤดูฝน เชื่อได้ว่าหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยว คือ จังหวัดน่าน ด้วยภาพจำอันโดดเด่นของภูเขาสูงชัน ทุ่งนาสีเขียว และสายน้ำชุ่มฉ่ำ ทำให้หลายต่อหลายคนหลงเสน่ห์เมืองน่านในช่วง Green Season บัดดี้ชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวน่านในเส้นทางบ้านสะปัน-บ้านห้วยโทน-บ้านห้วยหมี เป็นเส้นทางท่องเที่ยวแบบวงกลมตามเข็มนาฬิกา อาจจัดทริป 3 วัน 2 คืนก็ได้ เช่น นอนบ้านสะปัน 1 คืน จากนั้นไปนอนที่บ้านห้วยโทนหรือบ้านห้วยหมีอีก 1 คืน ในรีวิวยังมีข้อมูลการเดินทางทั้งรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หากต้องการเที่ยวเป็นวงกลม แนะนำให้เริ่มจากตัวเมืองน่าน-อ.ปัว-ทางหลวงหมายเลข 1256-จุดชมวิวดอยภูคา 1715-อ.บ่อเกลือ-บ้านสะปัน-บ้านห้วยโทน-บ้านห้วยหมี-ทางหลวงหมายเลข 1081-โค้งพับผ้า-ถนนเลข 3-ตัวเมืองน่าน การไปเที่ยวให้ครบทั้ง 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านสะปัน บ้านห้วยโทน และบ้านห้วยหมี ในทริปเดียว แนะนำให้เริ่มที่บ้านสะปันก่อน โดยอาจจัดทริปแบบนอนค้างที่บ้านสะปันสัก 1 คืน จากนั้นวันถัดมาค่อยขึ้นเขาไปเที่ยวและพักที่บ้านห้วยโทนหรือบ้านห้วยหมี รถยนต์ สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่าน อ.ท่าวังผา จนถึง อ.ปัว และจากสามแยก อ.ปัว ให้แยกไปทางขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 1256 ข้ามดอยภูคา ผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จนถึงสามแยก อ.บ่อเกลือ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1081 ตรงไปอีก 8 กิโลเมตร จะพบแยกขวามือเลี้ยวเข้าบ้านสะปัน ระยะทางรวมประมาณ 115 กิโลเมตร และตรงขึ้นเข้าในหมู่บ้านสะปันไปอีกประมาณ 5-10 กิโลเมตร จะถึงบ้านห้วยหมีและบ้านห้วยโทน เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1169 ผ่าน อ. สันติสุข ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1081 (ผ่านจุดชมวิวถนนหมายเลข 3) จนถึง อ. บ่อเกลือ (จุดนี้จะมาบรรจบกับเส้นทางที่ 1 ที่มาจากดอยภูคา) และเลยตัว อ.บ่อเกลือไปอีก 8 กิโลเมตร จะพบแยกขวามือเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสะปัน ระยะทางรวมประมาณ 95 กิโลเมตร และตรงขึ้นเข้าในหมู่บ้านสะปันไปอีกประมาณ 5-10 กิโลเมตร จะถึงบ้านห้วยหมีและบ้านห้วยโทน พิกัดบ้านสะปัน : https://maps.app.goo.gl/7LXbnuemGnkQjsSq5พิกัดบ้านห้วยโทน : https://maps.app.goo.gl/GD1CrA9WT8uuKPHt9พิกัดบ้านห้วยหมี : https://maps.app.goo.gl/STwDhrevnrbf88zY7 การเดินทางจากตัวเมืองน่าน-บ้านสะปัน โดยรถโดยสารประจำทาง (ต่อที่ 1 ตัวเมืองน่าน-อ.ปัว)จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดน่าน มีรถสองแถว (สีฟ้า) สายน่าน-ท่าวังผา-ปัว ให้บริการตั้งแต่เช้า 07.00 น. เป็นต้นไปจนถึงช่วงเย็น รถออกจาสถานีขนส่งฯ ทุก 30 นาที ค่าโดยสาร คนละ 50 บ. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง เพราะรถจะวิ่งจอดรับ-ส่งผู้โดยสารไปตลอดทาง ปลายทางรถสองแถวจะไปสุดสายที่ท่ารถซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1081 หลังตลาดเทศบาลปัวและข้างสนามกีฬา หากนั่งรถทัวร์มาจากกรุงเทพฯ แนะนำให้ซื้อตั๋วเลือกลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอปัว (เช่น สมบัติทัวร์, บขส.) จากนั้นนั่งจักรยานยนต์รับจ้าง หรือสองแถวจากตัวเมืองน่านที่จะแวะเข้าไปรับผู้โดยสารในสถานีขนส่งฯ มาลงยังท่ารถสองแถว (สีกรมท่า) สายปัว-บ่อเกลือ (ต่อที่ 2 อ. ปัว – อ.บ่อเกลือ)รถสองแถว (สีกรมท่า) สายปัว-บ่อเกลือ ท่ารถจอดอยู่ข้างกันกับท่ารถสองแถว (สีฟ้า) สายปัว-ท่าวังผา-น่าน ริมทางหลวงหมายเลข 1081 ด้านหลังตลาดเทศบาลปัว ส่วนท่ารถที่ตัว อ.บ่อเกลือ ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1081 เลยจากสามแยกตัว อ.บ่อเกลือ ไปทาง อ.เฉลิมพระเกียรติ ประมาณ 100 เมตร รอบเวลารถ ดังนี้ ปัว – บ่อเกลือเวลา 07.30 น./09.30 น./11.30 น.(รอบสุดท้ายอาจงดวิ่ง หากไม่มีผู้โดยสาร) บ่อเกลือ – ปัวเวลา 09.00 น./10.30 น./12.30 น.(รอบสุดท้ายอาจงดวิ่ง หากไม่มีผู้โดยสาร) ค่าโดยสาร ที่นั่งละ 80 บ.การเดินทางด้วยรถสองแถวจาก อ.ปัว – อ.บ่อเกลือ – บ้านสะปัน ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงเบอร์โทรรถสองแถว (สีกรมท่า) ปัว-บ่อเกลือ โทร. 08 0794 4893, 08 0913 3554, 08 9835 6884 ทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ช่วงที่เป็น “ถนนลอยฟ้า” คือเป็นช่วงที่ถนนตัดผ่านบนสันเขา สองข้างทาง มองเห็นทิวทัศน์สวยงาม มุมโดรนจะยิ่งเห็น ถนนลอยฟ้าได้ชัดเจน จุดนี้ (รูปกลาง) ถ้ามาจาก อ.ปัว จะอยู่ประมาณช่วงหลักกิโลเมตรที่ 22 ของทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงที่ถ่ายนี้ คือ กลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เพิ่งเข้าสู่ฤดูฝนได้ไม่นาน ภูเขาและต้นไม้ใบหญ้าจึงยังไม่เขียวเต็มพื้นที่ จุดชมวิว 1715 ดอยภูคา ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1256 เป็นจุดพักรถระหว่างทางจากปัว-บ่อเกลือ มีห้องน้ำให้บริการด้วย และบริเวณถนนอีกฝั่งของจุดชมวิวดอยภูคา

สะปัน-ห้วยโทน-ห้วยหมี Nan in Green Season อ่านเพิ่มเติม

ชวนไปไหว้พระ 9 วัด ในเขตตัวเมืองน่าน

✨ ชวนไปไหว้พระ 9 วัด ในเขตตัวเมืองน่าน ที่สามารถเดินทางไปให้ครบได้ภายในวันเดียว บางวัดตั้งอยู่ใกล้กัน สามารถเดินถึงกันได้ บางวัดอาจต้องขับรถออกไปสักเล็กน้อย แต่ไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากตัวเมือง 📌 วัดภูมินทร์ เดิมวัดนี้ชื่อว่า “วัดพรหมมินทร์” ตามพงศาวดารของเมืองน่าน พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สร้างวัดภูมินทร์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2139 หลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2410 โดยพระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช สันนิษฐานว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงคงจะวาดขึ้นในสมัยที่มีการซ่อมแซมครั้งนี้ วัดภูมินทร์เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย มีประติมากรรมนาคสะดุ้งตัวใหญ่ 2 ตัวเทินพระอุโบสถไว้ ตัวอาคารเป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานจตุรทิศ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย 4 องค์ หันพระพักตร์ออกสู่ประตูทั้งสี่ทิศ ผนังด้านในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม (ฮูปแต้ม) เป็นภาพแสดงเรื่องชาดก ภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และภาพตำนานพื้นบ้านของชาวเมืองน่าน ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสมบูรณ์ หาดูได้ยาก และเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวัดภูมินทร์ ตั้งอยู่ถนนผากอง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านพิกัด : https://maps.app.goo.gl/VumLFJYN6ijxoZaZ7 📌 วัดศรีพันต้น สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่านแห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่านระหว่างปี พ.ศ. 1960-1969) บางสมัยเรียกว่า “วัดสลีพันต้น” คำว่า “สลี” หมายถึง ต้นโพธิ์ ซึ่งในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด ภายในวัดมีพระวิหารสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า มีสถาปัตยกรรมปูนปั้นที่สวยงาม โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดหน้าพระวิหาร สีทองเหลืองอร่ามสวยงามตระการตา เป็นฝีมือช่างเมืองน่าน ชื่อนายอนุรักษ์ สมศักดิ์ หรือ “สล่ารง” ภายในพระวิหารมีการเขียนภาพลายเส้นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าและประวัติการกำเนิดเมืองน่าน เป็นผลงานจิตรกรรมของช่างเมืองน่านเช่นกัน ตั้งอยู่ริมถนนเจ้าฟ้า ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านพิกัด : https://maps.app.goo.gl/TZA1cgroBUUFq1wT9 📌 วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เดิมเรียก “วัดหลวง” หรือ “วัดหลวงกลางเวียง” สร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง ราวปี พ.ศ. 1949 เป็นวัดหลวงในเขตนครน่าน สำหรับเจ้าผู้ครองนครใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ตามศิลาจารึกหลักที่ 74 ซึ่งถูกค้นพบภายในวัดกล่าวว่า พญาพลเทพฤๅชัย เจ้าเมืองน่าน ได้ปฏิสังขรณ์บูรณะวิหารหลวงเมื่อปั พ.ศ. 2091 ลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดพระธาตุช้างค้ำนี้สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย เช่น เจดีย์ทรงลังกา (ทรงระฆัง) รอบฐานองค์พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนและปั้นเป็นรูปช้างครึ่งตัว ด้านละ 5 เชือก และที่มุมทั้งสี่อีก 4 เชือก ดูคล้ายจะเอาหลังหนุน หรือ “ค้ำ” องค์พระเจดีย์ไว้ ลักษณะคล้ายวัดช้างล้อม จังหวัดสุโขทัย ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานเป็นปูนปั้นขนาดใหญ่ ศิลปะเชียงแสน ฝีมือสกุลช่างเมืองน่านที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่ง และใกล้กันยังมีอีกพระวิหารหนึ่ง ภายในประดิษฐาน พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางประทานอภัย สูง 1.45 เมตร อายุราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 19 ตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลาย ส่วนผสมของทองคำร้อยละ 65 พุทธลักษณะงดงามเช่นกัน ตั้งอยู่ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านพิกัด : https://maps.app.goo.gl/dfLuu2aq94sDQgh77 📌 วัดมิ่งเมือง ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน อยู่ในศาลาจัตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองมีความสูง 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์ มีชื่อว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2400 มีการพบเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ ต่อมาเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่านได้สถาปนาวัดขึ้นมาใหม่ และตั้งชื่อว่า “วัดมิ่งเมือง” ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า “เสามิ่งเมือง” ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 มีการรื้อถอนและสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เป็นแบบล้านนาร่วมสมัยดังที่ปรากฎในปัจจุบัน ลักษณะเด่นคือลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตรงดงามมาก ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน ฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน ตั้งอยู่ริมถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านพิกัด : https://maps.app.goo.gl/1Jr4cF8uxvv3FMMu9 📌 วัดหัวข่วง วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะราวปี พ.ศ. 2425 โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน และมีการบูรณะอีกครั้งราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่านองค์สุดท้าย จากนั้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาบูรณะเจดีย์วัดหัวข่วง และประกาศเป็นโบราณสถานของชาติ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ หอธรรมหรือหอไตร เป็นอาคารที่มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขใต้ถุนก่อทึบทรงสี่เหลี่ยมยอดเป็นรูปเต้าสลักลายลงรักปิดทองประดับกระจก ใช้เป็นสถานที่เก็บคัมภีร์โบราณและพระไตรปิฏก พระเจดีย์วัดหัวข่วง ลักษณะของเจดีย์เป็นทรงเรือนธาตุแบบศิลปะล้านนา มีการดัดแปลงของช่างฝีมือของชาวน่าน จากลักษณะสถาปัตยกรรมพออนุมานได้ว่าน่าจะสร้างขึ้นในประมาณปี พ.ศ. 2200 พระวิหารของวัด เป็นอาคารทรงจั่วมีหน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษา ประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นคล้ายกับใบผักกาด มีการเรียนแบบศิลปะตะวันตก แสดงให้เห็นว่าอดีตนครน่านก็มีการติดกับกลุ่มชาวตะวันตกทำให้วิหารที่นี่ค่อนข้างแตกต่างกับที่อื่น ๆ นอกจากนี้ภายในวิหารยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะพุทธศิลป์แบบล้านนา และยังเป็นพระประธานเบี่ยงซ้ายแห่งเดียวในประเทศไทยด้วย ตั้งอยู่ริมถนนมหาพรหม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านพิกัด : https://maps.app.goo.gl/om6Ezqn7qUosXDrR9 📌 วัดสวนตาล วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี เมื่อปี พ.ศ. 1770 ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1992 เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีงานนมัสการและสรงน้ำองค์พระเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านหลังพระวิหารมีองค์พระเจดีย์ มีสัณฐานงดงาม ชั้นล่างมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ จากภาพถ่ายในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รูปเจดีย์วัดสวนตาลก่อนการบูรณะในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ (ตรงกับรัชกาลที่

ชวนไปไหว้พระ 9 วัด ในเขตตัวเมืองน่าน อ่านเพิ่มเติม

ชวนไปไหว้พระ 9 วัด เมืองน่าน

ชวนไปไหว้พระ 9 วัด ในเขตตัวเมืองน่าน ที่สามารถเดินทางไปให้ครบได้ภายในวันเดียว บางวัดตั้งอยู่ใกล้กัน สามารถเดินถึงกันได้ บางวัดอาจต้องขับรถออกไปสักเล็กน้อย แต่ไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากตัวเมือง ใครที่กำลังจะไปเที่ยวจังหวัดน่าน และวางแผนแวะเที่ยวในตัวเมืองน่าน อย่าลืมหาโอกาสตามรอยนะคะ 📌 วัดภูมินทร์ เดิมวัดนี้ชื่อว่า “วัดพรหมมินทร์” ตามพงศาวดารของเมืองน่าน พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สร้างวัดภูมินทร์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2139 หลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2410 โดยพระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช สันนิษฐานว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงคงจะวาดขึ้นในสมัยที่มีการซ่อมแซมครั้งนี้ วัดภูมินทร์เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย มีประติมากรรมนาคสะดุ้งตัวใหญ่ 2 ตัวเทินพระอุโบสถไว้ ตัวอาคารเป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานจตุรทิศ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย 4 องค์ หันพระพักตร์ออกสู่ประตูทั้งสี่ทิศ ผนังด้านในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม (ฮูปแต้ม) เป็นภาพแสดงเรื่องชาดก ภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และภาพตำนานพื้นบ้านของชาวเมืองน่าน ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสมบูรณ์ หาดูได้ยาก และเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวัดภูมินทร์ 📌 ถนนผากอง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านhttps://maps.app.goo.gl/VumLFJYN6ijxoZaZ7 📌 วัดศรีพันต้น สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่านแห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่านระหว่างปี พ.ศ. 1960-1969) บางสมัยเรียกว่า “วัดสลีพันต้น” คำว่า “สลี” หมายถึง ต้นโพธิ์ ซึ่งในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด ภายในวัดมีพระวิหารสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า มีสถาปัตยกรรมปูนปั้นที่สวยงาม โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดหน้าพระวิหาร สีทองเหลืองอร่ามสวยงามตระการตา เป็นฝีมือช่างเมืองน่าน ชื่อนายอนุรักษ์ สมศักดิ์ หรือ “สล่ารง” ภายในพระวิหารมีการเขียนภาพลายเส้นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าและประวัติการกำเนิดเมืองน่าน เป็นผลงานจิตรกรรมของช่างเมืองน่านเช่นกัน 📌 ริมถนนเจ้าฟ้า ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านhttps://maps.app.goo.gl/TZA1cgroBUUFq1wT9 📌 วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เดิมเรียก “วัดหลวง” หรือ “วัดหลวงกลางเวียง” สร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง ราวปี พ.ศ. 1949 เป็นวัดหลวงในเขตนครน่าน สำหรับเจ้าผู้ครองนครใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ตามศิลาจารึกหลักที่ 74 ซึ่งถูกค้นพบภายในวัดกล่าวว่า พญาพลเทพฤๅชัย เจ้าเมืองน่าน ได้ปฏิสังขรณ์บูรณะวิหารหลวงเมื่อปั พ.ศ. 2091 ลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดพระธาตุช้างค้ำนี้สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย เช่น เจดีย์ทรงลังกา (ทรงระฆัง) รอบฐานองค์พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนและปั้นเป็นรูปช้างครึ่งตัว ด้านละ 5 เชือก และที่มุมทั้งสี่อีก 4 เชือก ดูคล้ายจะเอาหลังหนุน หรือ “ค้ำ” องค์พระเจดีย์ไว้ ลักษณะคล้ายวัดช้างล้อม จังหวัดสุโขทัย ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานเป็นปูนปั้นขนาดใหญ่ ศิลปะเชียงแสน ฝีมือสกุลช่างเมืองน่านที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่ง และใกล้กันยังมีอีกพระวิหารหนึ่ง ภายในประดิษฐาน พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางประทานอภัย สูง 1.45 เมตร อายุราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 19 ตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลาย ส่วนผสมของทองคำร้อยละ 65 พุทธลักษณะงดงามเช่นกัน 📌 ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านhttps://maps.app.goo.gl/dfLuu2aq94sDQgh77 📌 วัดมิ่งเมือง ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน อยู่ในศาลาจัตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองมีความสูง 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์ มีชื่อว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2400 มีการพบเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ ต่อมาเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่านได้สถาปนาวัดขึ้นมาใหม่ และตั้งชื่อว่า “วัดมิ่งเมือง” ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า “เสามิ่งเมือง” ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 มีการรื้อถอนและสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เป็นแบบล้านนาร่วมสมัยดังที่ปรากฎในปัจจุบัน ลักษณะเด่นคือลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตรงดงามมาก ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน ฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน 📌 ริมถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านhttps://maps.app.goo.gl/1Jr4cF8uxvv3FMMu9 📌 วัดหัวข่วง วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะราวปี พ.ศ. 2425 โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน และมีการบูรณะอีกครั้งราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่านองค์สุดท้าย จากนั้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาบูรณะเจดีย์วัดหัวข่วง และประกาศเป็นโบราณสถานของชาติ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ หอธรรมหรือหอไตร เป็นอาคารที่มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขใต้ถุนก่อทึบทรงสี่เหลี่ยมยอดเป็นรูปเต้าสลักลายลงรักปิดทองประดับกระจก ใช้เป็นสถานที่เก็บคัมภีร์โบราณและพระไตรปิฏก พระเจดีย์วัดหัวข่วง ลักษณะของเจดีย์เป็นทรงเรือนธาตุแบบศิลปะล้านนา มีการดัดแปลงของช่างฝีมือของชาวน่าน จากลักษณะสถาปัตยกรรมพออนุมานได้ว่าน่าจะสร้างขึ้นในประมาณปี พ.ศ. 2200 พระวิหารของวัด เป็นอาคารทรงจั่วมีหน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษา ประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นคล้ายกับใบผักกาด มีการเรียนแบบศิลปะตะวันตก แสดงให้เห็นว่าอดีตนครน่านก็มีการติดกับกลุ่มชาวตะวันตกทำให้วิหารที่นี่ค่อนข้างแตกต่างกับที่อื่น ๆ นอกจากนี้ภายในวิหารยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะพุทธศิลป์แบบล้านนา และยังเป็นพระประธานเบี่ยงซ้ายแห่งเดียวในประเทศไทยด้วย 📌 ริมถนนมหาพรหม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านhttps://maps.app.goo.gl/om6Ezqn7qUosXDrR9 📌 วัดสวนตาล วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี เมื่อปี พ.ศ. 1770 ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1992 เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีงานนมัสการและสรงน้ำองค์พระเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านหลังพระวิหารมีองค์พระเจดีย์ มีสัณฐานงดงาม ชั้นล่างมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ จากภาพถ่ายในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

ชวนไปไหว้พระ 9 วัด เมืองน่าน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ

หน้าฝนปีนี้ เพื่อน ๆ เตรียมตัวออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างคะ หลายคนอาจจะคิดว่าฝนตกแบบนี้เที่ยวไหนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าฝนบ้านเรา มีเสน่ห์ไม่แพ้หน้าร้อนเลยนะ ธรรมชาติจะเขียวขจี อากาศเย็นสบาย น้ำตกไหลแรง ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว ถ่ายรูป และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ วันนี้บัดดี้มีภาพสวย ๆ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสความสดชื่นกันค่ะ 1. ชมนาขั้นบันไดป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ชมไร่ชาบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย 3. นอนฟังเสียงฝน ตื่นมาชมผาช้างน้อย จังหวัดพะเยา 4. ถ่ายรูปกับถนนลอยฟ้า จังหวัดน่าน 5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ จังหวัดพิษณุโลก 6. เที่ยวป่าเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 7. ชมทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 8. ค้นหาหินโลมา ที่ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ 9. ชมวิวภูป่าเปาะ จังหวัดเลย 10. เล่นน้ำตกแสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี 11. เดินป่าระยะทางสั้น ๆ ที่ เขาช่องลม จังหวัดนครนายก 12. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี 13. แช่น้ำเย็น ที่ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี 14. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง 15. เที่ยวใกล้กรุง ที่ บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ  16. ชมวาฬบรูดา ได้ที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี 17. เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี 18. เช็กอินชมวิวสวย ที่ ดงตาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี 19. ชมวิวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 20. พายซัพบอร์ด ที่ อ่างเก็บน้ำท่าเคย จังหวัดราชบุรี 21. แช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย ที่ จังหวัดระนอง 22. สัมผัสวิถีชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง 23. ชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 24. หลีกหนีความวุ่นวาย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 25. ล่องแก่งหนานมดแดง ที่ จังหวัดพัทลุง ข้อแนะนำเพิ่มเติม*ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง*เตรียมเสื้อผ้า ร่ม รองเท้า ให้เหมาะสมกับการเที่ยวหน้าฝน*พกยาประจำตัว ยากันยุง*เลือกที่พักที่ปลอดภัย สะดวกสบาย*เที่ยวอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เที่ยวหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ อ่านเพิ่มเติม

 ดอยเสมอดาว น่าน

ดอยเสมอดาว สวยในทุกฤดู…ประโยคนี้ไม่เกินจริงค่ะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาหลาย ๆ ครั้งเพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ดอยเสมอดาวถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่มองเห็นดาว ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทยเลย ความสุขในทริปนี้ ไม่ใช่แค่การได้เดินทาง แต่อยู่ที่ว่าเราไปกับใคร จะเป็นกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ไปกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน ชมทะเลหมอกยามเช้า บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย ใครสายถ่ายรูป ต้องชอบแน่นอนเพราะอาจจะได้เห็นทางช้างเผือกด้วยนะ ในบริเวณเดียวกันยังมี “ผาหัวสิงห์” หน้าผามีรูปร่างหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศาเลยค่ะ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เพื่อน ๆ ยืนชมอยู่ไกล ๆ กันนะคะ ดอยเสมอดาวเป็นดอยที่มีการเดินทางสะดวก ไม่ต้องปีนป่าย นักท่องเที่ยวสามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณที่ลาดจอดใกล้กับจุดกางเต็นท์ดอยเสมอดาวได้เลย ใครไปมาแล้ว เอารูปสวย ๆ มาอวดบัดดี้กันได้นะคะ อัตราค่าบริการ – ลานกางเต็นท์: คนละ 30 บาท คน/คืน (ดอยเสมอดาว, ผาชู้)– ค่าเช่าเต็นท์อุทยาน/เต็นท์โดม: เริ่มต้นที่ 270 บาท นอนได้สูงสุด 3 คน– บ้านพัก อยู่ที่ดอยผาชู้: เริ่มต้นที่ 1,000 บาท วันธรรมดาลด 30% บ้านสำหรับ 6 คนนอน และ 2 คนนอน สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้โดยตรง หรือหากเพื่อน ๆ มีเต็นท์อยู่แล้ว สามารถจองพื้นที่กางเต็นท์ได้ในระบบจองบ้านพักออนไลน์ และ Walk in ได้เลยค่ะ เว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่านตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน09 3242 2914 https://web.facebook.com/profile.php?id=100093421155533 https://goo.gl/maps/Ya3oE6tULZ42

 ดอยเสมอดาว น่าน อ่านเพิ่มเติม

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️

💕 เดือนกุมภาพันธ์ อบอวลด้วยความรักและเทศกาลพิเศษที่หลาย ๆ คนมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมอบความพิเศษให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรู้ใจ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะจะเดินทางอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศยังมีช่วงที่อากาศเย็นสบาย ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันปลอดมรสุม และที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาจำกัดอีกด้วย  Bangkok Design Week 2023 กรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ก็มีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ในธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ที่จะสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ในแต่ละย่านให้กลายเป็นเมืองที่น่ารัก เป็นมิตร ด้วยศิลปะและงานกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างเต็มที่ BKKDW จะจัดขึ้นในวันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2566 ในย่านหลัก ๆ ได้แก่ โซนพระนคร ปากคลองตลาด เจริญกรุง-ตลาดน้อย เยาวราช สามย่าน-สยามอารีย์-ประดิพัทธ์ วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู คลองสาน บางโพ พร้อมพงษ์ และ ม.เกษตรฯ เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรืออยากจะดูว่ามีกิจกรรมที่ไหนบ้าง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2023/program  เบญจมาศบานในม่านหมอก ประจำปี 2566 จ.นครราชสีมา ชวนคนรักไปสูดอากาศบริสุทธิ์กลางทุ่งดอกไม้ใน งานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก 2566  เนรมิตพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศขุนเขาให้กลายเป็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายสายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมการออกร้าน จำหน่ายสินค้า OTOP จำหน่ายผักปลอดสาร และชมนิทรรศการของส่วนต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อน ๆ สามารถชมได้ตั้งแต่ วันที่ 5-25 กุมภาพันธ์ 2566  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ถ้าถามว่า ทะเลกระบี่สวยที่สุดช่วงไหน ก็คงตอบได้เลยว่าช่วงต้นปีนี่แหละเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย และมักจะได้รับผลกระทบจากมรสุมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หากใครที่มากระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ก็เป็นจุดหมายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ภายในอุทยานฯ มีชายหาดสวยงาม หมู่เกาะน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอนถ้ำไวกิ้ง อ่าวต่าง ๆ เช่น อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวมาหยาอ่าวปิเละ เป็นต้น และยังมีกิจกรรมทางทะเล ได้แก่ ล่องเรือชมเกาะต่าง ๆ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ปีนผาชมวิวมุมสูงที่อ่าวไร่เลย์ ชมทะเลแหวกอัตราค่าบริการท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัท หรือแล้วแต่ตกลงกับทางผู้นำเที่ยวว่าต้องการจะไปที่ไหนบ้าง และหากใครที่อยากนอนพักบนเกาะ สามารถไปพักได้ที่เกาะพีพีดอน ซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการหลายแห่ง  79 หมู่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 0 7566 1145 Facebook อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://goo.gl/maps/3s19gU2bBwJ81s6E8  เกาะพยาม จ.ระนอง  เกาะพยาม  เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมากแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงนี้ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดินทางไปเที่ยว บนเกาะมีอ่าวอยู่หลายแห่ง มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง บนเกาะ มีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานเพลิดเพลินหลายอย่าง เช่น ชมพระอาทิตย์ตกบน “อ่าวใหญ่” ชมพระอาทิตย์ขึ้นบน “อ่าวแม่หม้าย” พายเรือคายักชม “ป่าโกงกาง” กลางเกาะ สัมผัสวิถีชีวิตของคนใน “หมู่บ้านมอแกน” เป็นต้น  การเดินทางมายังเกาะพยาม ต้องนั่งเรือจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่ เรือธรรมดาและเรือสปีดโบต มีหลายบริษัทและผู้ให้บริการหลายเจ้า ราคาประมาณ 250-400 บาท  ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนองโทร. 09 3582 4507 (อบต.เกาะพยาม)​https://goo.gl/maps/eqFYfNNiNaS2  อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน ทางภาคเหนือ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์อย่าง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ที่หากใครมีโอกาส อยากจะลองไปชมสักครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เหมาะมาก ๆ มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนจุดชมทิวทัศน์ 1715 ชมวิวสันเขาและหมอกหนาบนยอดดอยภูแว นอนดูดาว กางเต็นท์พักแรม นอกจากบรรยากาศจะดีมากแล้ว ยังจะได้ชมพืชพรรณต่าง ๆ ของอุทยานฯ อย่างเช่น ก่วมแดง ที่มีในลักษณะคล้ายเมเปิ้ล ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานเต็มที่ เตรียมต้อนรับฤดูที่เบ่งบานของดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัยที่ปัจจุบันในไทยพบเพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2566 นี้ ดอกชมพูภูคาจะบานช้ากว่าปกติเล็กน้อย ใครที่วางแผนจะไปชมดอกชมพูภูคา สามารถติดตาม อัปเดตทางหน้าเพจอุทยานฯ ได้โดยตรง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอุทยานฯ ร้านค้าสวัสดิการ เปิดทุกวัน เวลา 07.30-18.30 น. บ้านพักและลานกางเต็นท์ จองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานฯ  ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อัตราค่าบริการชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท 08 2194 1349 Facebook อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – Doi Phu Kha National Parkhttps://goo.gl/maps/aUL4NDdrfu9K3PqS7

ปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ 🗓️ อ่านเพิ่มเติม

🌸พิกัดสุดปัง ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง🌸

พิ่งผ่านปีใหม่มาไม่นาน วันนี้ขอยกให้คอนเทนต์นี้ให้มีแต่สีชมพู…สำหรับช่วงนี้ยังมีลมหนาว พัดเย็นสบาย ๆ ทำให้ดอกไม้สีชมพูอย่าง นางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ใครที่รอคอยความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบาน เตรียมแพ็กกระเป๋าไปชมกันได้แล้วนะคะ แต่ขอบอกว่าต้องรีบไปนะ เพราะสวยเกินต้านแบบนี้ #ดอกนางพญาเสือโคร่ง มีกำหนดบานที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในพื้นที่นั้น ๆ แนะนำให้เช็กข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทางนะคะ จะมีที่ไหนบ้างดูกันเลย 😃👇 ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2565

🌸พิกัดสุดปัง ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง🌸 อ่านเพิ่มเติม

Unseen Thailand รวม 20 พิกัดวัดสวยสุดอันซีน 🙏

🤗 แอดรวมมาให้แล้ว สายธรรม สายมู ชอบไหว้พระทำบุญปักหมุดเลย 20 วัดสวยทั่วไทยน่าไปเช็กอิน ไว้สำหรับเพิ่มแต้มบุญกลางปี ให้เดือนที่เหลือพ.ศ. 2565 นี้ มีแต่ความเฮง ความปังตลอดไป และสำหรับใครที่ยังไม่ว่างก็จดลิสต์กดแชร์กันไว้ก่อน วันหยุดเมื่อไหร่ ทริปไหว้พระทำบุญต้องมาแล้วน๊าา ปักหมุด 20 วัดสวยทั่วไทย ไหว้พระเสริมดวงได้ตลอดทั้งปี 👏 🏵 วัดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี 🏵 วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร นครพนม 🏵 วัดหลวงพี่แซม ชลบุรี 🏵 วัดเขาวันชัยนวรัตน์ นครราชสีมา 🏵 วัดสามพราน นครปฐม 🏵 วัดถ้ำแสงธรรม ขอนแก่น 🏵 วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์ 🏵 วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย 🏵 วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่ 🏵 วัดแสงธรรมวังเขาเขียว นครราชสีมา 🏵 วัดพระธาตุเขาน้อย น่าน 🏵 วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพชรบูรณ์ 🏵 วัดร่องขุ่น เชียงราย 🏵 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร 🏵 วัดศรีชุม สุโขทัย 🏵 วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี 🏵 วัดถ้ำผาเกิ้ง ขอนแก่น 🏵 วัดพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี 🏵 วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี 🏵 วัดร่องเสือเต้น เชียงราย #วัดสามพราน นครปฐม วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ อยู่แค่นครปฐมนี่เอง ภายในวัดบรรยากาศร่มรื่น ไฮไลท์คือตึกทรงกลมสีชมพู มีมังกรทะยานฟ้าโอบล้อมรอบตึก สูงประมาณ 80 เมตร 16 ชั้น มีอุโมงค์ที่เป็นทางเดินขึ้นไปสักการะองค์พญามังกร และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “หลวงพ่อพุทโธภาวนา” ใครเดินถึงยอดจะได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยน้าา ถึงจะเหนื่อย มีขาสั่นบ้าง แต่คุ้มแน่นอน  Maps : วัดสามพราน 92 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม https://goo.gl/maps/wG4b9gnjDtHyPJuQ7 #วัดพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี อลังการพระบรมธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ เจดีย์สีขาวตัดกับสีทอง ถูกจำลองมาจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2500 ภายในใช้เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานพระพุทธปฏิมากร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุบลราชธานี อีกทั้งยังมีท่านปู่กริชกรกชนาคราช และ ท่านย่ากลีบมณีเกตุนาคิณี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พญานาคฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า มีความเชื่อว่าเหล่าพญานาคจะปกป้อง รักษาพระพุทธศาสนาไว้ ทำให้หลาย ๆ คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลนั่นเอง  Maps : วัดพระธาตุหนองบัว ถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี https://goo.gl/maps/jAbyvpT4iE3GbbmQ9 #วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ปักหมุดไหว้พระขอพร ที่ #วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ #วัดแจ้ง วัดโด่งดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ชมสถาปัตยกรรมสวยโดดเด่น พร้อมเดินชิล เดินเล่น ถ่ายรูปคู่กับพระปรางค์ ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสวยงาม ตั้งโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอย่าลืมแวะสักการะพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลกภายในพระอุโบสถ สักการะพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร และพระอรุณ หรือพระแจ้ง พระพุทธศิลป์แห่งลานช้างภายในวิหารหลวง และเข้าโบสถ์น้อย ลอดแท่นบรรทมสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อความเป็นสิริมงคล  Maps : วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/owAfE5GC46CeneDY7 #วัดเขาวันชัยนวรัตน์ นครราชสีมา Unseen วัดสวยบนยอดเขา วิวอลังการมาก ๆ ที่นี่เรียกว่าเป็นอุโบสถหินลายไม้หนึ่งเดียวในไทย ซึ่งทุกส่วนของโบสถ์จะทำจากหิน ทั้งประตู หน้าต่างทุกบาน รวมไปถึงสิ่งของบางอย่างสร้างมาจากหินทรายลายไม้ทั้งหมด ส่วนด้านในจะมีพระพุทธรูปสีทองอร่ามประดิษฐานอยู่ สวยงามล้ำค่า มากล้นด้วยความศรัทธามาก ๆ และบริเวณรอบ ๆ โบสถ์ยังมีสระน้ำสีฟ้าล้อมรอบ ยิ่งทำให้พระอุโบสถดูงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก  Maps : วัดเขาวันชัยนวรัตน์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา https://goo.gl/maps/QYUSYVRVSp3K7mJ #วัดหลวงพี่แซม ชลบุรี วัดหลวงพี่แซม วัดสวยใกล้กรุงเทพฯ ความงดงามที่โดดเด่นเป็นไฮไลท์ก็คือ ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ ที่ถูกเนรมิตด้วยฝีมือมนุษย์ ถัดมาภายในโถงกลางของวัด จะมี “องค์อนันตนาคราช 7 เศียร” อยู่กลางบ่อน้ำ อลังการมาก ๆ นอกจากนี้ภายในภายนอกยังมีอุโบสถที่เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงหรือหลวงพ่อยิ้มเปิดฟ้า เชื่อกันว่าหากใครได้มากราบไหว้สักการะจะพบกับความสุขและความสำเร็จอีกด้วย  Maps : วัดหลวงพี่แซม 51 หมู่ 10 ทางหลวงหมายเลข 331 ตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี https://goo.gl/maps/bW3J1cMfuvK2 #วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์ วัดทางสายตั้งอยู่บนภูเขาสูง บรรยากาศเงียบสงบ หลาย ๆ คนนิยมมาสักการะพระพุทธกิติสิริชัย หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ หันพระพักตร์ออกทะเล และพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ หรือ พระมหาเจดีย์เก้ายอด พระปรางค์ จัตุรมุขสูงสามชั้น สามารถมองเห็นได้แต่ไกล หากขึ้นไปถึงบริเวณฐานยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของชายหาดบ้านกรูดในมุมสูง กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สวยมาก ๆ ลมพัดเย็นสบาย ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินคืองดงามมากจริง ๆ  Maps : วัดทางสาย ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน

Unseen Thailand รวม 20 พิกัดวัดสวยสุดอันซีน 🙏 อ่านเพิ่มเติม

🏠 Green Season เที่ยว 12 หมู่บ้านหน้าฝน

🏠 Green Season #เที่ยวหมู่บ้านหน้าฝน 🍃 นอนชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ตื่นเช้ามาดูหมอก อากาศดี ชุ่มฉ่ำ คือฟินสุด ๆ 🌧💦 หน้าฝนนี้มาปักหมุดหมู่บ้านน่าเที่ยวกันดีกว่า ต้อนรับความชุ่มฉ่ำ เขียวขจี สดชื่นเย็นสบาย ออกไปชาร์จพลังด้วยการมาใช้ชีวิตช้า ๆ สงบและเรียบง่ายกับชาวบ้านที่น่ารัก ลิ้มลองอาหารพื้นบ้านรสเด็ด สัมผัสวิวทิวทัศน์อันสวยงามท่ามกลางป่าเขา รับรองว่าได้สูดอากาศดี ๆ กันแบบเต็มปอดเลยทีเดียว 12 หมู่บ้านน่าเที่ยว ชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านดอยสกาด อ.ปัว จ.น่าน หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หมู่บ้านแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช หมู่บ้านมอญ จ.กาญจนบุรี หมู่บ้านเชียงคาน จ.เลย หมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย หมู่บ้านเนินมะปราง จ.พิษณุโลก บ้านป่าปงเปียง จ.เชียงใหม่  หมู่บ้านมอญ จ.กาญจนบุรี หมู่บ้านมอญ สังขละบุรี เป็นหมู่บ้านที่มีชาวมอญอาศัยอยู่ อีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีเสน่ห์มากมาก ๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอญ ไทย กะเหรี่ยง ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และที่สำคัญบรรยากาศดี อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำและภูเขา ทำให้ช่วงวันหยุดยาวที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คนนิยมมาเที่ยวกัน คึกคักมาก ๆ  Maps : หมู่บ้านมอญ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี https://goo.gl/maps/PNfCwxp2PPQoG1Jy7  บ้านป่าปงเปียง จ.เชียงใหม่ พักผ่อนชิลล์ ๆ ท่ามกลางวิวหลักล้าน เพราะที่บ้านป่าปงเปียงมีวิวนาขั้นบันไดที่สวยอลังการมาก ๆ ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกดินยิ่งสวย เรียกว่าเป็นอีก 1 หมู่บ้านที่พลาดไม่ได้เลย ถึงแม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่มาก ไม่ค่อยมีไฟฟ้าใช้ แต่ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน เยียวยาหัวใจ สูดอากาศดี ๆ พร้อมชมวิวทุ่งนาและภูเขาสูงใหญ่ ดีงามมาก ๆ เลยล่ะ   Maps : บ้านป่าปงเปียง ต.ช้างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ https://goo.gl/maps/iXU6gYtSJKEPoFtAA  หมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย  หมู่บ้านผาฮี้ หนึ่งในหมู่บ้านที่ธรรมชาติสวยไม่แพ้ใคร ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาสูง มีผืนป่าสีเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ปกคลุมไปทั่ว แถมยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีของจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ที่สำคัญมีชาวอาข่าอาศัยอยู่ทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตื่นเช้ามาจิบกาแฟ ชมวิวดี ๆ แค่นี้ก็ได้ชาร์จพลังกลับไปเต็มเปี่ยมแล้ว  Maps : หมู่บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย https://goo.gl/maps/vNGNqPrJ6XoGMdX49  บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี บ้านอีต่อง เรียกว่าเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาติดกับชายแดนไทย-พม่า อากาศดีตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงอากาศหนาวจะเย็นสบายมาก ๆ ส่วนในหน้าฝนก็ได้ชมหมอกกันทั้งเช้าทั้งเย็นเลย แถมมีกิจกรรมให้ทำด้วยนะ เช่น แขวนชื่อบนสะพานไม้ ตื่นเช้ามาใส่บาตร กินหมูกะทะท่ามกลางหมอก ถ่ายรูปกับเหมืองแร่เก่าหรือจะท่องเที่ยวโซนใกล้เคียง บริเวณอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ก็ได้   Maps : บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี https://goo.gl/maps/2E6PGEi9X8BdGLZX6  บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย  บ้านนาต้นจั่นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น นอนโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปั่นจักรยานชมหมู่บ้าน นั่งรถอีแต๊ก ลิ้มลองมะนาวน้ำผึ้ง อาหารพื้นบ้าน อาหารถิ่นขันโตก และข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ ดูหมอกยามเช้าที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ ชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้สวย ๆ ที่สะพานนา สะพานไม้ไผ่ ชมสาธิตการทอผ้า วิธีการทำผ้าหมักโคลน ตักบาตรตอนเช้า ฯลฯ ซึ่งราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยเท่านั้น  Maps : บ้านนาต้นจั่น ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 64130 https://goo.gl/maps/yAgoGmJ99kinAxSb8  สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08 8495 7738  Facebook : โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย  หมู่บ้านดอยสกาด จ.น่าน หมู่บ้านดอยสกาดเรียกว่าเป็นเมืองในหุบเขาที่มีร้านคาเฟ่วิวอลังการน่ามาเที่ยวเต็มไปหมด เพราะที่นี่นอกจากวิวสวยปังแล้วยังนิยมปลูกกาแฟอีกด้วย ซึ่งมีชาวไทยภูเขาชนเผ่าลั๊วะอาศัยอยู่ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย บรรยากาศเงียบสงบ ยังคงความเป็นธรรมชาติมาก ๆ เลยล่ะ ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้มาจิบกาแฟท่ามกลางสายหมอกคือที่สุด  Maps : หมู่บ้านดอยสกาด ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน https://goo.gl/maps/SucuqYR9vHz3bdD79  หมู่บ้านแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน อยากหาที่เที่ยวสงบ ๆ หมู่บ้านแม่ลาน้อยเป็นอีกหนึ่งในลิสต์เที่ยวได้เลย ที่นี่มีแต่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยป่าเขา ทุ่งนาเขียวขจี ชาวบ้านใช้ชีวิตเรียบง่าย มีกิจกรรมและที่เที่ยวหลากหลายด้วย เช่น เที่ยวชมโครงการหลวงแม่ลาน้อย ชิมผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่างกาแฟสด ถั่วเหลือง ช้อปผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่จากขนแกะบ้านห้วยห้อม ฯลฯ และถึงแม้ทุกวันนี้แม่ลาน้อยจะเป็นที่รู้จักกว่าแต่ก่อน แต่เสน่ห์ของแม่ลาน้อยก็ไม่มีลดลงเลย น่ามาพักผ่อนพักใจเช่นเคยจ้า  Maps : หมู่บ้านแม่ลาน้อย ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน https://goo.gl/maps/8wBhq4mFQVGdyM29A  หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี มีน้ำตกและธารน้ำไหลผ่านบ้าน อากาศเย็นสบาย แถมชาวบ้านก็น่ารัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายใต้ชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งบ้านพัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร คาเฟ่ ยิ่งฝนตกแบบนี้ ตื่นมาชมหมอกแบบปัง

🏠 Green Season เที่ยว 12 หมู่บ้านหน้าฝน อ่านเพิ่มเติม

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨

หลายคนอาจพอได้ยินเรื่องพระธาตุประจำปีเกิด และเคยไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของตนเองมาแล้ว แต่เคยสงสัยไหมว่า พระธาตุประจำปีเกิดถูกกำหนดขึ้นอย่างไร แอดสงสัยค่ะ จึงไปหาความรู้มาฝาก ชุธาตุ หรือพระธาตุประจำปีเกิด เป็นความเชื่อของชาวล้านนาในเรื่องการบูชาพระธาตุเจดีย์องค์สำคัญในวัฒนธรรมล้านนา ชาวล้านนามีความเชื่อว่า ก่อนที่มนุษย์จะมาเกิดในครรภ์มารดา ดวงจิตได้เคยสถิตอยู่กับต้นไม้ ซึ่งมีภูตผีหรือสัตว์รักษาอยู่ แต่ด้วยความไม่เหมาะสม ที่ดวงจิตของมนุษย์จะอยู่กับอมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย ดวงจิตของมนุษย์ก่อนกำเนิด จึงได้ลาไปจากต้นไม้ดังกล่าว เพื่อไปสถิตกับพระธาตุที่ต่างกันไป ตามที่สัตว์ประจำนักษัตรพาไปพัก เพื่อรอการถือกำเนิดขึ้น ความเชื่อเหล่านี้ทำให้ชาวล้านนามีความผูกพันกับพระธาตุประจำปีนักษัตรของตน และเชื่อว่าการได้ไปสักการะจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต โดยพระธาตุประจำปีเกิดอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้ 🌟 คนเกิดปีชวด สักการะ พระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีฉลู สักการะ พระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง 🌟 คนเกิดปีขาล สักการะ พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ 🌟 คนเกิดปีเถาะ สักการะ พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน 🌟 คนเกิดปีมะโรง สักการะพระธาตุวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีมะเส็ง สักการะ พระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธยาประเทศอินเดีย หรือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิพุทธคยา วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจดีย์เจ็ดยอด) จังหวัดเชียงใหม่ แทน 🌟 คนเกิดปีมะเมีย สักการะ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า หรือ พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดตาก แทน 🌟 คนเกิดปีมะแม สักการะ พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีวอก สักการะ พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม 🌟 คนเกิดปีระกา สักการะ พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน 🌟 คนเกิดปีจอ ให้ปล่อยโคมเพื่อสักการะพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือ สักการะพระธาตุวัดเกต จังหวัดเชียงใหม่ 🌟 คนเกิดปีกุน สักการะ พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลจากพระธาตุประจำปีเกิดของตน ไม่สะดวกเดินทาง ก็สามารถหารูปภาพพระธาตุประจำปีเกิดมากราบไหว้ที่บ้านได้ และเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เมื่อเดินทางไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตกันแล้ว ก็อย่าลืมแวะท่องเที่ยวระหว่างทาง เสาะหาอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ และซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ

✨ ความเชื่อเรื่องชุธาตุของชาวล้านนา ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top