เพื่อนร่วมทาง

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍

หน้าร้อนแบบนี้ ต้องจัดทริปเล่นน้ำคลายร้อนกันหน่อยแล้ว วันนี้แอดมีพิกัดน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ มาฝาก หากยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนดี ลองเปิดลิสต์ดูเป็นไอเดียได้เลยจ้า ก่อนเดินทาง อย่าลืมลงทะเบียนเข้าชมผ่านแอป QueQ ล่วงหน้ากันด้วยนะ  น้ำตกเอราวัณ – อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี แถมยังเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติด้วย เป็นน้ำตก 7 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมทิวทัศน์ และป่าผลัดใบที่สวยงาม น้ำตกแต่ละชั้นจะมีความสวยงามและพรรณไม้ที่แตกต่างกันออกไป หากเพื่อน ๆ ไปถึงชั้นที่ 7 จะสังเกตเห็นว่า ขณะน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้าง 3 เศียร จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปปรับลดค่าธรรมเนียมเป็น ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท รถบัส 100 -200 บาท หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 574 222 https://goo.gl/maps/Bo2NLdVvdjxppTqH6 น้ำตกไทรโยคน้อย – อุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค น้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นึกถึงเมื่อมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี มีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็ก ๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูน แม้จะชื่อน้ำตกไทรโยคน้อย แต่ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ไม่แผ่วเลยจริง ๆ สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี  ไม่มีค่าเข้าชม ตำบล ไทรโยค อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.  034 686 024 https://goo.gl/maps/XkC6yfwMraxYM6PB7  น้ำตกช่องลม – เขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ มีทั้งน้ำตกและลำธารไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ มีต้นน้ำมาจากน้ำตกเหวนรก ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ไหลมาเชื่อมต่อกับจุดนี้ เพื่อน ๆ สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปี เดินทางโดยเรือจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งจะมีให้บริการช่วง 8 โมงเช้าเป็นต้นไป ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง หากมาในช่วงนี้ แม้น้ำจะน้อย แต่ยังสามารถเล่นได้ แถมยังได้บรรยากาศทุ่งหญ้าสีเขียวขจีในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงตั้งแต่พฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงที่มีน้ำตกมาก สามารถล่องเรือเข้าไปใกล้น้ำตกแล้วเดินต่ออีกประมาณ 100 เมตรเท่านั้น  ไม่มีค่าเข้าชม ค่าบริการเรือ 1,500 บาท/ลำ หรือ 7-8 คนขึ้นไปคนละ 200 บาท (สามารถจับกลุ่มแล้วไปรวมกันได้)  ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก  เปิดทุกวัน 06.00-17.00 น.  037 384 192-3 (เขื่อนขุนด่านปราการชล) https://goo.gl/maps/D3ZmJJTWP8MUwpSNA  น้ำตกวังก้านเหลือง – สวนรุกขชาติวังก้านเหลือง น้ำตกแห่งนี้มีจุดกำเนิดที่ต่างจากที่อื่น ๆ และไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยในบ้านเรา คือ เกิดจากตาน้ำผุดจากลำห้วยมะกอก ไหลลงมารวมกันบริเวณสันหินปูน ทำให้เกิดเป็นน้ำตกกว้างขนาด 20 เมตร และไหลลดหลั่นกันไปเป็นชั้น ๆ ด้วยจุดกำเนิดจากแหล่งน้ำผุดทางธรรมชาตินี้เอง ทำให้น้ำตกวังก้านเหลืองมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ในบริเวณสวนรุกขชาติยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีที่นั่งปิกนิก ลานกางเต็นท์ และยังมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดได้ดีเลยล่ะ  หมู่ที่ 4 ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.  092 909 1669, 080 812 1895 https://goo.gl/maps/JfEKAcA2GPyB4yCV7  อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย หนึ่งในน้ำตกขึ้นชื่อของสระบุรี มีที่มาชื่อจากหมู่บ้านสาวน้อยมารวมกับน้ำตกแห่งนี้ที่มีขนาด 7 ชั้น จึงเป็นชื่อมาของชื่อ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” นั่นเอง น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่าโปร่ง และเป็นน้ำตกเตี้ย ๆ ที่มีระยะห่างกันไม่มาก ใช้เวลาเดินไม่นาน มีแอ่งน้ำตื้นให้ลงเล่นหลายจุด เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะมาก ๆ หากเพื่อน ๆ จะมาเล่นน้ำคลายร้อนกัน  ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท  ค่าจอดยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท  หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.  036 346 586 https://goo.gl/maps/wSP9ZZyM8iVfzB9t6

📍5 พิกัดเล่นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ📍 อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวสบายใกล้กรุง 1 Day Trip Nakhon Nayok ✨

สำหรับคนที่มีเวลาเพียงแค่ 1 วันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และอยากไปเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามใกล้ ๆ กรุงเทพฯ แอดมีตัวเลือกหนึ่งมาแนะนำ นั่นก็คือจังหวัดนครนายก เดินทางจากกรุงเทพฯเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และเนื่องจากช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าว แอดก็จะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่น เย็นสบาย เพื่อช่วยคลายร้อนกัน ไปดูว่าทริปนี้เราไปไหนบ้าง 1. เขื่อนขุนด่านปราการชล – ชมวิวบนสันเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก 2. วัดจุฬาภรณ์วนาราม – ไหว้พระ เช็คอินถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นไผ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 3. วัดเลขธรรมกิตต์ – ชม “โบสถ์เก่าโพธิ์ปรก” สถาปัตยกรรมจากธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา เขื่อนขุนด่านปราการชล  เริ่มต้นทริปกันที่เขื่อนขุนด่านปราการชลกันค่ะ เขื่อนนี้สร้างตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในนครนายกและจังหวัดใกล้เคียงที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนและขาดแคลนน้ำในช่วงแล้ง เขื่อนสร้างเสร็จและเริ่มเก็บกักน้ำเมื่อ พ.ศ. 2548 ถือเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก คือ ยาวรวม 2,720 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำที่มีความจุถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร บริเวณสันเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นจุดชมวิวที่ห้ามพลาด เพราะด้านหน้าเขื่อนคือทิวทัศน์อันงดงามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนด้านหลังเขื่อนจะเป็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาของตัวเมืองนครนายก เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกที่หนึ่งที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด ถนนขึ้นสันเขื่อนยังเป็นเส้นทางที่นักปั่นจักรยานชื่นชอบ เพราะมีความชันไม่มาก ปั่นไม่ยากเกินไป แต่ถ้าใครไม่ชอบปั่นจักรยาน ที่นี่ก็มีรถรางชมวิวให้บริการ นั่งได้ไม่เกิน 30 คน ค่าบริการคนละ 30 บาท ใช้เวลาไปกลับประมาณ 20 นาที ติดต่อซื้อตั๋วได้ที่จุดบริการรถราง บริเวณลานจอดรถบนสันเขื่อน  ถ้ามาท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่น้ำมากพอจะล่องเรือชมธรรมชาติในเขื่อน  และเที่ยวน้ำตก 3 แห่ง ได้แก่ น้ำตกผางามงอน น้ำตกคลองคราม และ น้ำตกช่องลม ระยะเวลาเที่ยวรวมไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามราคาได้ที่จุดให้บริการเรือท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถ  บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก  เปิดทุกวัน 06.00-17.00 น.  037 384 192-3 https://goo.gl/maps/SnFQcjATe9FZq3kT9 วัดจุฬาภรณ์วนาราม  วัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระชนมายุครบ 50 พรรษา เมื่อวัดสร้างแล้วเสร็จ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้ทรงพระราชทานชื่อว่า “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” และทรงพระราชทานตราสัญลักษณ์ จฬ เป็นตราประจำวัด จุดเด่นของที่นี่คือ “อุโมงค์ป่าไผ่” หน้าวัด  ที่มีความยาวกว่า 500 เมตร ต้นไผ่ที่เห็นนี้ทางวัดปลูกไว้ตั้งแต่ตอนสร้างวัด หลังจากที่โตเต็มที่ ยอดไผ่ค่อย ๆ โน้มเข้าหากันตามธรรมชาติ กลายเป็นอุโมงค์ป่าไผ่ที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นที่มีแสงอาทิตย์ลอดผ่านต้นไผ่ ให้บรรยากาศที่งดงามมาก ความร่มรื่นและสวยงามของอุโมงค์ป่าไผ่นี้ ถึงขั้นมีคนเปรียบเทียบว่าบรรยากาศคล้ายกับป่าไผ่อาราชิยาม่า ที่ประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว จึงเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด  ด้านในอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย (สมัยสุโขทัย) ทรงเครื่องครึ่งยศ ส่วนรอบ ๆ บริเวณวัดนั้นเต็มไปด้วยพรรณไม้มากมายหลายชนิด ร่มรื่นมาก นอกจากจะได้ทำบุญและชื่นชมธรรมชาติแล้ว ยังสามารถซื้อหาสินค้าเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนำมาขายในวัดได้ด้วย  ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จ.นครนายก  เปิดทุกวัน 07.00 – 17.00 น.  080 011 3791 https://goo.gl/maps/jzvTg6FJBCrd1NQe9 วัดเลขธรรมกิตต์  เป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านนา แอดอยากพามาเที่ยววัดนี้เพราะมีบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย และเป็นวัดเก่าแก่ที่มีจุดเช็คอินถ่ายรูปที่น่าสนใจ วัดนี้คาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อวัดบางอ้อนอก มีความโดดเด่นที่โบสถ์เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ก่อด้วยอิฐที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงผนังบางส่วนและซุ้มประตูโบสถ์ ปกคลุมด้วยรากและต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ช่วยยึดโครงสร้างไว้ จนเป็นที่มาของชื่อ “โบสถ์เก่าโพธิ์ปรก” และกลายเป็นสถาปัตยกรรมจากธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา ซุ้มประตูและผนังโบสถ์เพียงด้านเดียวที่เหลืออยู่ ถือเป็นจุดถ่ายภาพไฮไลต์ของที่นี่ ใครอยากได้รูปสวย ๆ ไว้ลงโซเชียล ห้ามพลาดเด็ดขาด บริเวณกลางโบสถ์มีศาลาขนาดเล็ก ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งเราเข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกันได้ ที่นี่แม้จะเป็นวัดเล็ก ๆ แต่ก็นับว่าสวยงามมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่สงบ เดินถ่ายภาพกันได้แทบทุกจุด แอดแนะนำว่าให้มาเที่ยวช่วงบ่ายแก่ ๆ จะมีแสงส่องมากระทบประตูพอดี ให้ความรู้สึกสวยงามลึกลับ ปัจจุบันแม้ทางวัดจะมีพระอุโบสถและวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ “โบสถ์เก่าโพธิ์ปรก” ที่สวยงามนี้เอง  ตําบลบางอ้อ อําเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.  081 383 7896 https://goo.gl/maps/NtkSuxkaBfLXD19R6

✨ เที่ยวสบายใกล้กรุง 1 Day Trip Nakhon Nayok ✨ อ่านเพิ่มเติม

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿

“ชะคราม” ผักชื่อแปลกที่หลายคนอาจจะคุ้นหู แต่แอดเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับผักที่น่าสนใจชนิดนี้มาฝาก ชะครามเป็นพืชที่เติบโตได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่จะมียอดอ่อนขึ้นให้เก็บกินได้เยอะ ต้นอ่อนชะครามจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลอมแดงไปจนถึงแดงเรื่อ พบได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็ม อย่างป่าชายเลน พื้นที่ริมชายฝั่ง ตลอดจนแถบนาเกลือ จึงไม่น่าแปลกใจที่แหล่งชะครามจะอยู่แถบสมุทรสงครามและสมุทรสาคร ส่วนด้านรสชาติ ชะครามจะมีรสเค็ม มัน กรอบ และมีกลิ่นของน้ำทะเลนิด ๆ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งแกง ยำ กินแกล้มน้ำพริก หรือผสมไข่เจียวก็อร่อย หากเพื่อน ๆ รู้สึกสนใจอยากลอง หรือเคยกินแล้วติดใจอยากกินอีก แต่ไม่สะดวกออกไปกินที่ร้าน ปัจจุบันสามารถหาซื้อชะครามทางออนไลน์ได้แล้ว แต่ตอนปรุง อย่าลืมนำชะครามไปต้มและล้างน้ำเปล่าเพื่อกำจัดความเค็มออกสัก 2-3 รอบก่อนล่ะ จะได้กินอย่างอร่อยสมกับความอยาก

🌿 พืชรสเค็ม…ชะคราม 🌿 อ่านเพิ่มเติม

💦 หน้าร้อนไปนอนอาบแดดที่เกาะผ้า จ.พังงา🏝

💦 หน้าร้อนไปนอนอาบแดดที่เกาะผ้า จ.พังงา อันซีนเกาะสวยกลางทะเลอันดามัน 🏝 เกาะผ้า จุดเช็คอินใหม่ จ.พังงา 1 ใน 25 Unseen New Series ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน แต่เดิมเคยเป็นเกาะที่มีต้นไม้ใหญ่ พื้นที่ราว ๆ 5 ไร่ นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาพักผ่อน แต่เมื่อเกิดสึนามิขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ทุกอย่างก็ถูกซัดหายไปไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนั่นเอง เกาะนี้พิเศษตรงที่จะเห็นได้ตอนน้ำทะเลลดลงต่ำเท่านั้น เป็นเกาะเล็ก ๆ รวม 3 เกาะ แต่วันไหนที่น้ำทะเลลดลงต่ำสุดก็จะกลายเป็นเกาะเดียวที่มีขนาดเกือบ 1 ตารางกิโลเมตร สวยโดดเด่นท่ามกลางน้ำทะเลใสแจ๋ว และอีกจุดเด่นอีกอย่างคือการเกิดปรากฎการณ์คล้ายทะเลแหวกเมื่อน้ำทะเลลดต่ำจนเห็นสันทรายของเกาะ ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างยกให้เป็นมัลดีฟส์เมืองไทยเลยทีเดียว เป็นใครก็อยากมาเช็คอิน โดยกิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น การมานั่งชมวิวชิลล์ ๆ นอนอาบแดดบนหาดทรายสีขาวละเอียด พายคายัค หรือจะมาดำน้ำชมปะการัง ตั้งแคมป์นอนพักผ่อนสักคืนบริเวณเกาะคอเขาที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ได้ พิกัด : https://goo.gl/maps/bSdeipYbeVZCPV549 ท่าเรือให้บริการไปเกาะผ้า ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เลือกใช้บริการเรือประมงพื้นบ้านแบบเหมาลำหรือเรือของเอกชนก็ได้ โดยใช้เวลาเดินทางไปประมาณ 30 นาที

💦 หน้าร้อนไปนอนอาบแดดที่เกาะผ้า จ.พังงา🏝 อ่านเพิ่มเติม

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨

ผ้าไทยนับเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน แต่ละถิ่นก็จะมีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากศิลปะการทอผ้าแล้ว การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบในการทอผ้า และย้อมผ้าก็เป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งด้วยเช่นกัน หากอยากรู้กันแล้วว่าสีผ้าต่าง ๆ ที่เราเห็นนั้นมาจากอะไร ไปดูกันเลยค่ะ ฝาง ไม้ยืนต้นขนาดกลางให้สีสันสดใสด้วย “แก่นต้น” โดยนำมาผ่าซีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แช่ค้างคืนก่อนจะนำไปต้มเพื่อสกัดสี ทำให้ได้น้ำสกัดสีแดง ส้ม น้ำตาลแดง นอกจากนี้ ฝักของฝางก็สามารถนำมาย้อมให้สีได้ด้วยเช่นกัน สีที่ได้คือสีน้ำตาลกะปิ ฝาง เป็นพืชที่หาได้ไม่ยาก พบได้ในหลายภูมิภาค สามารถย้อมได้ทั้งผ้าฝ้าย ไหม มัดหมี่ ดอกบัวแดง นอกจากจะนำมาทำเป็นอาหารรสเลิศแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุให้สีที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะในการย้อมแต่ละแบบ จะให้สีที่ต่างกัน เช่น ดอกบัวสดที่นำมาย้อมเย็น ให้สีชมพู ม่วง ส่วนการย้อมแบบร้อน คือนำบัวไปต้ม จะให้สีน้ำตาลทอง นอกจากนี้ สายบัวก็ยังให้สีที่ต่างออกไปอีกคือ สีเทาเงิน กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เป็นกลุ่มอาชีพที่รื้อฟื้นการทอผ้าหลังจากหยุดไปกว่า 20 ปีจนเกือบจะสูญหายไปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมีจุดเด่นที่การย้อมด้วยบัวแดง จนชุมชนมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หากเพื่อน ๆ อยากไปชมการย้อมผ้าด้วยบัวแดง สามารถไปได้ตามพิกัดนี้ 63 หมู่ 18 บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 093 547 8255, 061 942 8808 เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. https://goo.gl/maps/efpC6uc93VS2AmLt8 คราม เป็นไม้พุ่มตระกูลถั่ว ให้สีที่สวยงาม ขั้นตอนการทำสีจากครามคือ จะเก็บเกี่ยวทั้งลำต้นมามัดเป็นฟ่อน นำไปแช่น้ำอย่างน้อย 1 คืน จากนั้นเก็บชิ้นส่วนครามออกให้หมด เหลือแต่น้ำไว้เพื่อเตรียมไปทำเนื้อครามต่อไป สีที่ได้จากครามมีหลายเฉดตั้งแต่สีฟ้า น้ำเงิน น้ำเงินเข้ม น้ำเงินออกม่วง การย้อมผ้าครามแพร่หลายมากในแถบภาคอีสาน โดยเฉพาะสกลนคร มีหลายหมู่บ้านหลายกลุ่มที่เป็นแหล่งผลิตผ้าย้อมคราม และงานหัตถกรรมจากผ้าย้อมคราม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ห้อม หรือฮ่อม พืชอีกหนึ่งชนิดที่ให้สีน้ำเงินเช่นเดียวกับต้นคราม โดยใช้ส่วนของใบมาสกัดสีก่อนนำไปย้อมผ้า เรามักได้ยินชื่อผ้านี้บ่อย ๆ ว่า “ผ้าหม้อห้อม” ผ้าทอมือสินค้าพื้นเมืองประจำจังหวัดแพร่ นอกจากสีสันที่สวยงามแล้ว ลายผ้ายังมีความหลากหลายสวยงาม หากเพื่อน ๆ มีโอกาสไปจังหวัดแพร่ แนะนำเลยว่าควรซื้อติดมือกลับมาด้วย ปิ้งขาว ไม้พุ่มขนาดกลาง พบได้ตามบริเวณดอยหรือป่าที่มีอากาศชื้นสูงอย่างทางภาคเหนือ การสกัดสีจะใช้ผลของปิ้งขาว แม้ผลจะมีสีน้ำเงินออกม่วง แต่กลับได้สีที่น่าทึ่ง คือสีเขียวน้ำทะเล หรือหรือเขียวอมฟ้านั่นเอง ทางภาคเหนือ แอดมีแหล่งชมและซื้อผ้าย้อมสีจากปิ้งขาวมาแนะนำ 2 แหล่งได้แก่ 1 ม่อนทรายคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าฝ้าย ใยกัญชง แถมใครอยากซื้อไปถักโครเชต์ งานปักก็ได้เช่นกันนะ สั่งซื้อออนไลน์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thakthorcraft/ 2 บ้านห้วยตองก๊อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุมชนชาวปกาเกอะญออายุกว่า 200 ปีตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าเบญจพรรณ เป็นพื้นที่ราบเชิงเขาล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ใกล้ริมห้วยปูลิง สัมผัส แลกเปลี่ยน เรียนรู้วิถีชีวิต รวมถึงชมการย้อมผ้าสีธรรมชาติภายในชุมชนเล็ก ๆ น่ารักแห่งนี้ได้ ติดต่อ https://web.facebook.com/cbt.huaytongkor/ มังคุด ผลไม้ไทยเนื้อขาวรสหวานอมเปรี้ยว เมื่อรับประทานเนื้อแล้วยังสามารถนำเปลือกที่เหลือทิ้งมาใช้ย้อมสีต่อได้ สามารถใช้ได้ทั้งเปลือกสดและเปลือกแห้ง สกัดสีแล้วจะให้สีน้ำตาล น้ำตาลแกมแดง ที่หมู่บ้านคีรีวง มีกิจกรรม Work Shop ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำผ้ามัดย้อมและเพ้นท์ลายผ้าจากสีธรรมชาติด้วย ซึ่งสีต่าง ๆ ที่ใช้ก็ทำจากพืชหลากหลายชนิด รวมทั้งมังคุดที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของหมู่บ้านคีรีวงด้วย หากเพื่อน ๆ มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว สามารถไปแวะชมหรือทำกิจกรรมกันได้นะ หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช https://goo.gl/maps/vWST3phxEPU7m6Bc7

✨ ผ้าไทยจากสีสันธรรมชาติ ✨ อ่านเพิ่มเติม

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨ภายใต้คอนเซปท์ 🔹สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด🔹 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ทั้ง 2 พระอารามหลวง จัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูปและก่อเจดีย์ทราย ระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย. 2565 เวลา 09.00-18.00 น.

ภาพบรรยากาศ ✨ เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ✨ อ่านเพิ่มเติม

เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย

วันนี้เอาใจเพื่อน ๆ สายอาร์ต พาไปเสพงานศิลป์ที่ ✨ เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย ✨ ใครที่ชอบเครื่องปั้นเซรามิก ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้โอกาสซื้อหาเครื่องปั้นดินเผางานแฮนด์เมดแล้ว ยังสามารถเรียนรู้วิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผาจากที่นี่อีกด้วย 🥣 เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง เป็นทั้งสตูดิโอแสดงผลงาน แกลเลอรี่ ร้านจำหน่าย และโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยอาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินเซรามิกชาวเชียงราย ที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อาจารย์สมลักษณ์มีโอกาสไปศึกษาการปั้นเครื่องปั้นดินเผากับ มาสเตอร์นากาซาโตะ ทารุเอมอน ที่เมือง Karatsu เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น แหล่งที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นมานานกว่า 400 ปี ก่อนจะกลับมาก่อตั้ง “เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง” ชื่อดอยดินแดง มาจากลักษณะดินในพื้นที่ซึ่งมีสีแดง และมีสภาพเหมาะกับการใช้ทำเซรามิก นอกจากนี้ เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดงยังใช้ไม้ แกลบ ใบไม้ ขี้เถ้าฟาง ขี้เถ้าไม้ไผ่มาเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำเคลือบผิวให้เกิดสีสันต่าง ๆ ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดง เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะดั้งเดิมกับศิลปะแบบวิถีเซนของญี่ปุ่น คอนเซ็ปต์หลัก คือการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติในท้องถิ่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์การใช้งาน รวมทั้งยังเน้นลักษณะสีและพื้นผิวที่มีความโดดเด่น เป็นศิลปะร่วมสมัยที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงและตกแต่งบ้านได้อย่างกลมกลืน  วิธีการปั้นเป็นแบบขึ้นรูปบนแป้นหมุน แล้วปั้นด้วยมือซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้แบบที่ต้องการตามความชำนาญของช่างปั้น  จากนั้นจึงวาดลายลงบนเครื่องปั้นแต่ละชิ้น ด้วยสีจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น แล้วเคลือบผิวให้เงางามด้วยน้ำขี้เถ้า หรือที่เรียกกันว่าน้ำเคลือบ โดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ นอกจากห้องสตูดิโอที่ใช้แสดงผลงาน แกลเลอรี่ และร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาแล้ว เรายังสามารถเข้าไปชมการปั้นเครื่องปั้นดินเผาในโรงงานผลิตได้ด้วย โดยช่างปั้นที่นี่ล้วนเป็นช่างในท้องถิ่นทั้งสิ้น  เครื่องปั้นดินเผาดอยดินแดง   49 หมู่ 6 บ้านป่าอ้อ ถนนพหลโยธิน ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย  เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)  053 705 291 https://goo.gl/maps/ZXVCubbku8VBpPTg9 เว็บไซต์ www.dddpottery.com  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงรายออกไปราว 14 กิโลเมตร เมื่อผ่านสามแยกสนามบิน ตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางสู่ดอยดินแดง

เครื่องปั้นดินเผา ดอยดินแดง จังหวัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

🌊 One full day at Ko Samaesan – a paradise island in Chon Buri 🌊

Ko Samaesan in Chon Buri’s Sattahip district is a great one-day excursion from Bangkok. Beautiful, clean sandy beaches and clear water are guaranteed thanks to the regulations imposed by the Royal Thai Navy, which has jurisdiction over the island…

🌊 One full day at Ko Samaesan – a paradise island in Chon Buri 🌊 อ่านเพิ่มเติม

🌊 เที่ยว 1 วัน ทะเลสวย น้ำใส@เกาะแสมสาร 🌊

ในช่วงวันหยุดสั้น ๆ ถ้าเพื่อน ๆ นึกอยากแวบไปเที่ยวที่สวย ๆ สักแห่ง แอดขอแนะนำที่นี่เลย“เกาะแสมสาร” เกาะสวย น้ำใส เหมาะกับการไปรับ Vitamin Sea สุด ๆ ส่วนรายละเอียดของทริปตามไปดูกันเลย เกาะแสมสาร เป็น 1 ใน 9 เกาะที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ (รู้จักกันในนามของ อพ.สธ.) ที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แถมยังมีกิจกรรมอย่างดำน้ำ ดูปะการัง นั่งเรือท้องกระจก ให้เราได้สัมผัสทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาวละเอียดกันอย่างเต็มที่อีกด้วย ปัจจุบัน การเดินทางไปเกาะแสมสาร เพื่อน ๆ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://www.samaesarnisland.com/index.php/booking/ โดยไปรับตั๋วที่อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (หากใครไม่สะดวกจองออนไลน์ สามารถมาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน) แล้วขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ซึ่งอยู่ห่างพิพิธภัณฑ์ไม่ถึง 100 เมตร เอาล่ะ มาดูรอบเรือกัน รอบเรือเที่ยวไป 09.00 / 10.00 / 11.00 / 12.00 และ 13.00 น. รอบเรือเที่ยวกลับ 11.30 / 12.30 / 13.30 / 15.30 และ 16.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ 16.30 น.) ค่าโดยสาร (ปัจจุบันจำกัดจำนวนผู้โดยสาร รอบละประมาณ 70 คน) ชาวไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 220 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 600 บาท *เพื่อน ๆ สามารถใช้ตั๋วเรือไปเกาะแสมสารเข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยได้ด้วย โดยสามารถดูรีวิวของพิพิธภัณฑ์ได้ที่ลิงก์นี้ : https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/4965301590208548 เกาะแสมสารเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หาดที่เปิดให้เที่ยวชมมี 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม (อ่านว่า ลูก-ลม) จากท่าเรือเราใช้เวลานั่งเรือไปเกาะแสมสารราว 10 นาที โดยเรือจะจอดที่หาดเทียน จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะให้ฟัง ที่นี่หาดทรายขาวละเอียดมาก สามารถเริ่มถ่ายรูปอวดโซเชียลได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยล่ะ จากนั้นจะเป็นการนั่งรถรางต่อไปที่หาดลูกลม ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที หรือจะเดินไปก็ได้เหมือนกัน ที่นี่เป็นหาดที่รวมกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย จะมีเต็นท์ลงชื่อสำหรับทำกิจกรรมอยู่ ใครสนใจกิจกรรมไหนก็สามารถลงชื่อจองได้เลย นอกจากนี้ ที่หาดลูกลมยังมีร้านขายขนมและเครื่องดื่มให้บริการด้วยนะ ปล.รถรางนั่งฟรีไม่เสียเงินนะเพื่อน ๆ แอดขอเริ่มแนะนำที่กิจกรรมพายเรือคายัค (1 ลำ นั่งได้ 3 คน) ราคาชั่วโมงละ 100 บาท พายชมเกาะชมทะเลก็เพลินไม่น้อย อ้อ มีเรือแคนูใสให้พายด้วยนะ ราคาเท่ากันเลย กิจกรรมดำน้ำ คนละ 50 บาท รวมค่าอุปกรณ์ และวิทยากรที่คอยให้คำแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยดำน้ำมาก่อน โดยจะมีเรือมารับไปยังจุดดำน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งไปราว ๆ 400 เมตร สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเห็นโลกใต้น้ำแต่ไม่อยากเปียก แอดแนะนำกิจกรรมนี้เลย นั่นคือ นั่งเรือท้องกระจกศึกษาระบบนิเวศในแนวปะการัง คนละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 20 นาที นั่งได้ลำละประมาณ 6 คน นอกจากนี้ บนเกาะยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 450 เมตร สามารถเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวได้ ซึ่งจากจุดชมวิวนี้มองลงไปที่หาดลูกลมก็สวยไม่น้อยเลย อ้อ…อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนลืมเวลากลับล่ะ เพราะเรือรอบสุดท้ายจะออกจากเกาะเวลา 16.00 น. หลังจากสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ถ้าอยากล้างเนื้อล้างตัวก็สามารถใช้บริการได้ที่ห้องน้ำบริเวณหาดลูกลม แต่ถ้าไม่ทัน สามารถกลับไปใช้บริการที่ห้องน้ำบริเวณท่าเรือเขาหมาจอก่อนกลับบ้านก็ได้ ระหว่างรอเรือกลับที่ท่าเรือหาดเทียน ถ้าหิวสามารถสั่งอาหารที่ร้านค้าสวัสดิการได้ กฎระเบียบเกาะแสมสาร 1. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดข้ามไป 2. ห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดข้ามไปบนเกาะ 3. ห้ามนำกล่องโฟมทุกชนิดข้ามไป 4. ชาวต่างชาติไม่สามารถข้ามเกาะแสมสารได้ หากไม่มีคนไทยไปด้วย ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ เกาะแสมสารเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่แอดว่าน่าสนใจมาก ๆ เหมาะที่จะมาพักผ่อนเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ตัวเอง ก่อนเดินทาง อย่าลืมเช็คสภาพอากาศ วางแผนการเดินทาง และเผื่อเวลากันให้ดีด้วย เพราะทางเจ้าหน้าที่แจ้งแอดว่า วันหยุดคนจะเยอะมาก เพราะเป็นเกาะที่สวย มีกิจกรรมเยอะ และเดินทางง่ายนั่นเอง จึงไม่แปลกใจที่ใครไปแล้วก็กลับไปเที่ยวซ้ำอยู่บ่อย ๆ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  เปิดทุกวันเวลา 09.00-16.00 น. โทร. 0 3843 2475, 0 3843 2473, 0 3843 2475 (ฝ่ายประชาสัมพันธ์เกาะแสมสาร) https://goo.gl/maps/Dag5TjbhVYW38Sx26

🌊 เที่ยว 1 วัน ทะเลสวย น้ำใส@เกาะแสมสาร 🌊 อ่านเพิ่มเติม

🚣‍♀️ไปพาย SUP Board ที่ตราดกัน!!!

หากใครกำลังมีแพลนมาเที่ยวจังหวัด #ตราด อย่าพลาดกิจกรรมพาย SUP Board หรือ Stand Up Paddle Board เพื่อไปชมพระจมน้ำที่อ่างเก็บน้ำเขาระกำ 1 ใน Unseen New Series กันนะคะ ชาวแอดเวนเจอร์สายธรรมชาติที่ไปมาแล้ว เอารูปมาอวดกันหน่อยน้า😎 พระจมน้ำ หรือพระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีขนาดสูงกว่า 5 เมตร ตั้งอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขาระกำ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นสำนักสงฆ์เขาระกำ ซึ่งได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านมาก จึงได้ช่วยกันสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา ต่อมา กรมชลประทานเห็นว่ามีความต้องการใช้น้ำในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้ขยายพื้นที่กักเก็บน้ำออกไป ส่งผลให้พื้นที่บริเวณสำนักสงฆ์เขาระกำถูกน้ำท่วม ทำให้พระพุทธสิริภูวดลมงคลชัยจมอยู่ใต้น้ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  วิวมุมสูงของอ่างเก็บน้ำเขาระกำ  ไฮไลต์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ท้าทาย และตื่นตาตื่นใจ คือ การพายซับบอร์ดไปชมพระจมน้ำ หรือพระพุทธสิริภูวดลมงคลชัยในอ่างเก็บน้ำเขาระกำนั่นเอง โดยผู้พายจะต้องทรงตัวไปบนผิวน้ำ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง ระยะทางจากสันเขื่อนมาถึงองค์พระพุทธรูปประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาพายไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง หากไม่สะดวกพายซับบอร์ด นักท่องเที่ยวสามารถพายคายัค หรือนั่งเรือเที่ยวชมได้ และในบางปีถ้าน้ำแห้ง เราสามารถลงเดินไปยังองค์พระได้เลย ช่วงเวลาน้ำขึ้นสูง : กลางเดือนกันยายน-ปลายเดือนมีนาคมช่วงเวลาน้ำลง : ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ราคาเช่าซับบอร์ด 700 บาทต่อคน คายัค ลำละ 700 บาท พายได้ 2 คน นั่งเรือเที่ยว ลำละ 1,200 บาท นั่งได้ 8 คน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานตราด โทร.0 3959 7259-60 ชมรมซัพบอร์ดตราด โทร. 095 782 2895 บรรยากาศยามเย็นหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็สวยไปอีกแบบ 

🚣‍♀️ไปพาย SUP Board ที่ตราดกัน!!! อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top