เพื่อนร่วมทาง

พักผ่อน…พัทลุง

#พัทลุง เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะแก่การไปพักผ่อนอย่างยิ่ง วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปพักผ่อน…ที่พัทลุงกันค่ะ ไปเช็คอินแกรนด์แคนยอน ชมทะเลหมอกหน้าฝนที่ควนตาน้อย คั่วกาแฟโรบัสต้าขึ้นชื่อของภาคใต้ และปิดท้ายด้วยช้อป ชิม ชิลล์ ที่หลาดใต้โหนด 🔸วันที่ 1 ชมความสวยงามของภูเขาหิน แกรนด์แคนยอนพัทลุง เกาะนางคำ คั่วกาแฟด้วยตัวเองที่ โรงคั่วกาแฟ เขาสวนไผ่ 🔸วันที่ 2 ชมทะเลหมอกบน ควนนกเต้น ช้อป ชิม ชิลล์ ที่หลาดใต้โหนด ตลาดสีเขียวรักโลกเมืองพัทลุง 🚗การเดินทางนอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้ว สามารถเดินทางได้ดังนี้ รถไฟ : มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ – พัทลุงรถโดยสารประจำทาง : มีบริการรถจากกรุงเทพฯ – พัทลุง ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (ถนนบรมราชชนนี สายใต้ใหม่) บริษัท ศรีสุเทพทัวร์ จำกัด โทร. 0 2894 6167, 0 2894 6166 บริษัท ปิยะทัวร์ จำกัด โทร.0 2894 6330, 0 2894 6331เครื่องบิน : จังหวัดพัทลุงไม่มีสนามบิน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบินไปลงจังหวัดตรังหรือจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นนั่งรถต่อมายังจังหวัดพัทลุง สายการบินนกแอร์ สายการบินแอ เอเชีย การเดินทางภายในจังหวัด แอดแนะนำให้ติดต่อเหมาหรือเช่ารถค่ะ เนื่องจากสถานที่แต่ละแห่งมีระยะทางค่อนข้างห่างกัน วันที่ 1 หากมาตามเส้นทางที่แอดแนะนำนี้ เพื่อน ๆ สามารถหาที่พักค้างคืนที่อำเภอเมืองพัทลุงได้เลยค่ะ สถานที่แรกที่เราจะไปคืออำเภอปากพะยูน ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร โดยเราจะข้ามสะพานเกาะหมาก-ปากพะยูน ไปยังเกาะนางคำ ตำบลเล็กๆ ที่เป็นเกาะในทะเลสาบสงขลา จุดหมายของเราก็คือ “แกรนด์แคนยอน” หลาย ๆ คนคงรู้จักลักษณะของแกรนด์แคนยอนกันบ้างแล้ว ซึ่งในประเทศไทยเราก็มีอยู่หลายจังหวัด ที่พัทลุงเองก็มีเหมือนกัน และถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเลยก็ว่าได้ มาพัทลุงทั้งทีก็ต้องมาเช็คอินกันหน่อย ทิวทัศน์โดยรอบเป็นผาหินทรงสูง รูปร่างแปลกตา เดิมนั้นเป็นพื้นที่ทำเหมืองเพื่อขุดดินไปขาย แต่หลังจากมีชาวโซเชียลแชร์รูปออกไป ใคร ๆ ก็อยากมาแวะมาชมกัน ที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ หลายมุม ช่วงกลางวันจะร้อนสักหน่อย แนะนำให้มาช่วงเช้ากับช่วงเย็น บรรยากาศกำลังดีเลย การเดินทางเข้ามาที่นี่ ต้องขับขี่กันอย่างระมัดระวังสักหน่อย เนื่องจากเส้นทางบางช่วงยังเป็นถนนลูกรังอยู่ https://goo.gl/maps/obd9dEfSuf3YfGDT9 เทศกาลว่าวนานาชาติ ประจำปี 2565 ณ แกรนด์แคนยอน เกาะนางคำ จังหวัดพัทลุง ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ชอบร้านกาแฟ บรรยากาศธรรมชาติ แอดขอแนะนำ “โรงคั่วกาแฟสวนไผ่” ร้านกาแฟในสวนไผ่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟ ซึ่งที่นี่ใช้กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 100% จากจังหวัดระนอง  ภายในร้านจัดบรรยากาศไว้น่าสบาย ทั้งในสวนไผ่รับลมเย็น ๆ และในร้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายอบอุ่น ซิกเนเจอร์ของร้านนี้คือ การได้คั่วบดกาแฟเอง ซึ่งทางร้านจัดเป็นจุดแบบนี้เลยล่ะ หรือถ้าไม่ถนัดคั่วบดเองก็สามารถสั่งเมนูเครื่องดื่มได้ตามชอบ อร่อยทุกอย่าง นอกจากนี้ ยังมีบริการโฮมสเตย์อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า เหมาะที่จะมาชาร์จแบตให้กับตัวเองได้อย่างดีเลย เยื้องวัดป่าขอม ตำบลปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง  เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น. (ปิดวันพุธ)  09 6836 2249 https://goo.gl/maps/KfzDgjDHGLcazrtu6 วันที่ 2 เช้าตรู่นี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปขึ้นเขาชมหมอกกัน ฟังไม่ผิดค่ะ…ถึงที่นี่จะเป็นจังหวัดพัทลุงก็มีทะเลหมอกให้เราได้ชม จากอำเภอเมืองไปอำเภอกงหรา ระยะทาง 25 กิโลเมตร เราจะไปชมหมอกกันที่ควนนกเต้น “ควน” เป็นภาษาใต้ หมายถึง ภูเขาเล็ก ๆ ด้านบนเป็นจุดชมวิวภูเขาสลับซับซ้อนตามแนวเทือกเขาบรรทัด มีร้านกาแฟและขนมให้บริการ แต่ไฮไลท์คือตอนเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ควนนกเต้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสหมอกหน้าฝนแบบฟิน ๆ เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นมาที่ลานจอดรถและใช้บริการรถ 4WD ขึ้นไปที่ควนนกเต้น เนื่องจากทางค่อนข้างชันมาก ไม่สามารถขับขึ้นไปเองได้ ราคาคนละ 60 บาท (ไป-กลับ) ที่นี่ยังมีที่พักให้บริการหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นที่พักหลักร้อย แต่ได้วิวหลักล้าน หรือใครจะนำเต็นท์ไปเองก็ได้เช่นกัน แอดแนะนำให้สอบถามราคาที่พักโดยตรงก่อนเข้าพักค่ะ ควนนกเต้น หมู่ที่ 4 ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง  เปิดให้ขึ้นชมวิว เวลา 05.00 – 19.00 น. https://goo.gl/maps/qKGp7VWAgdhmR3Vm7 แวะมาชอปกันที่ หลาดใต้โหนด…คำว่า “หลาด” ภาษาใต้แปลว่า “ตลาด” หลาดใต้โหนดก็คือตลาดใต้โหนดนั่นเอง หากใครมาเที่ยวพัทลุงตรงกับวันอาทิตย์ แอดแนะนำว่าต้องไปเดินชมกันสักครั้ง ที่นี่แตกต่างจากตลาดอื่นตรงที่จะใช้ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากพลาสติกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังมีคอนเซ็ปต์ที่เก๋ไก๋น่าไปเที่ยวมากคือ “ของกิน ของใช้ งานศิลป์ บ้านบ้าน” ภายในตลาดมีทั้งอาหารพื้นเมือง การแสดงและสินค้าแฮนด์เมดของคนในท้องถิ่น ที่สำคัญราคาน่ารักมาก : )  หมู่ 4 บ้านศาลาม่วง ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง  เปิดวันอาทิตย์ เวลา 07.00 – 17.00 น.  โทร. 0 7467 3616 https://goo.gl/maps/4aWTrZaCxzHkHVCCA

พักผ่อน…พัทลุง อ่านเพิ่มเติม

🌳 ป่าพรุโต๊ะแดง หนึ่งเดียวในไทย 🌳

ป่าในชายแดนภาคใต้ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีความชื้นสูง ทำให้ป่ามีความเขียวขจีตลอดทั้งปี ในจำนวนป่าภาคใต้ทั้งหมด ป่าที่มีความพิเศษที่แอดอยากจะแนะนำก็คือ “ป่าพรุโต๊ะแดง” ป่าพรุโต๊ะแดง หรือ ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร เป็นป่าพรุผืนสุดท้ายที่ยังมีความสมบูรณ์แห่งเดียวในไทย ครอบคลุมถึง 3 อำเภอใน #จังหวัดนราธิวาส เป็นป่าที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีพรรณไม้และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด สำหรับนักเดินทางแล้ว การได้ไปยังสถานที่ที่มีสิ่งหาชมได้ยาก นับเป็นเรื่องตื่นเต้นและคุ้มค่าที่จะไป ป่าพรุเป็นป่าดิบชื้นที่มีลักษณะพิเศษคือ มีแอ่งน้ำจืดไหลอาบผืนป่าตลอดทั้งปี โดยใต้น้ำมีการสะสมของซากพืชต่าง ๆ ย่อยสลายกลายเป็นดินพีท (peat) หรือดินอินทรีย์ และยังมีการสะสมระหว่างดินพีทกับดินตะกอนทะเลสลับชั้นกัน เนื่องจากน้ำทะเลเคยมีระดับสูงขึ้นจนท่วมป่าพรุ เกิดการสะสมของดินตะกอนทะเล ต้นไม้ในป่าพรุมีการทยอยตายไป และเกิดป่าชายเลนแทนที่ และเมื่อระดับน้ำทะเลลดลง มีฝนตกลงมาสะสม น้ำที่ขังอยู่จึงจืดลง และเกิดป่าพรุขึ้นอีกครั้ง  ด้วยลักษณะของป่าพรุ ทำให้พรรณไม้ต่าง ๆ ต้องปรับตัวตามสภาพผืนป่าเพื่อความอยู่รอด ที่นี่มีพรรณไม้มากกว่า 400 ชนิด รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิดอีกมากมาย “นกเงือกดำ” 1 ใน 13 สายพันธุ์นกเงือกที่มีอยู่ในไทย เป็นสายพันธุ์หายากที่พบในป่าพรุแห่งนี้เพียงแห่งเดียว หากเดินทางมาที่นี่แล้วได้เห็นกับตา ก็น่าจะเป็นความประทับใจที่ดีเลยล่ะ  นักท่องเที่ยวสามารถเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติไปบนสะพานไม้ระยะทาง 1,200 เมตร ที่ทอดยาวในป่า และชื่นชมกับความร่มรื่นของผืนป่ากันได้ทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่าง “พายเรือคายัก”  หากเพื่อน ๆ สนใจพายคายัก ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า โดยมีค่ากิจกรรมคนละ 50 บาท หากเพื่อน ๆ มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดนราธิวาส #ป่าพรุโต๊ะแดง ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด  📍 ตำบลปูโย๊ะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. (กรณีเที่ยวชมวันเสาร์-อาทิตย์ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่) 📞 098 010 5736 (อาจติดต่อยากบางเวลาเนื่องจากติดภารกิจ) 🌐 https://goo.gl/maps/DVPpdhWDHP2x61Bt8

🌳 ป่าพรุโต๊ะแดง หนึ่งเดียวในไทย 🌳 อ่านเพิ่มเติม

ผาช่อ #อุทยานแห่งชาติแม่วาง ⛰️🍃

🌅 ธรรมชาติสร้างสรรค์ #ผาช่อ มหัศจรรย์ทางธรรมชาติ Unseen น่าไป จ.เชียงใหม่ หน้าผาขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30 เมตร ที่ได้รับขนานนามว่า #แกรนด์แคนยอนเมืองไทย สันนิษฐานว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ซึ่งเป็นเส้นทางของสายน้ำปิงเมื่อหลายพันปีมาแล้วได้เปลี่ยนทิศทางไป ตะกอนเกิดการก่อตัวเป็นชั้น ๆ บวกกับถูกลมฝนกัดเซาะชะล้างหน้าดินผ่านวันเวลามาอย่างยาวนาน ทำให้มีรูปทรงสวยงามแปลกตา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดว๊าวที่ต้องลองมาชมด้วยตัวเองสักครั้ง ⛅ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มา จากลานจอดรถจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 500-800 เมตร ผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีทั้งดิน หิน สลับกับขั้นบันได เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกอุปกร์กันแดดกันฝน น้ำดื่ม และรองเท้าที่เหมาะกับการเดินด้วยน้าา 🌄 ราคาบัตรค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติแม่วาง🔹 ชาวไทย ผู้ใหญ่ ราคา 20 บาท / เด็ก ราคา 10 บาท🔹 ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท / เด็ก ราคา 50 บาท🔹 รถยนต์ ราคา 30 บาท🔹 รถจักรยานยนต์ ราคา 20 บาท พิกัด : อุทยานแห่งชาติแม่วาง ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ 50160 https://goo.gl/maps/Xwd7LyHnsbyBAx1Y6 Facebook : ผาช่อ – อุทยานแห่งชาติแม่วาง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 5310 6759

ผาช่อ #อุทยานแห่งชาติแม่วาง ⛰️🍃 อ่านเพิ่มเติม

หอศิลป์ ณ หออัครศิลปิน ✨

หออัครศิลปิน เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว ใครที่ยังไม่รู้จักหออัครศิลปิน ตามมาทำความรู้จักกัน ดูว่าอาคารสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยแห่งนี้น่าสนใจอย่างไร หออัครศิลปินคือหอศิลปะที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในฐานะที่ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน นับเป็นหอศิลปะที่น่าเข้าชมมาก ใครยังไม่เคยไป อยากให้ลองหาโอกาสไปชมสักครั้ง 👉นอกจากนี้ ภายในหอฯ ยังมีส่วนนิทรรศการที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม และพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทรงเป็น “วิศิษฏศิลปิน” รวมทั้งมีห้องนิทรรศการที่จัดแสดงประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ สาขาวรรณศิลป์ สาขาทัศนศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง🌟 🔸ห้องนิทรรศการ “อัครศิลปิน” ห้องอัครศิลปิน จัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปะ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รวมถึงจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ หนังสือพระราชนิพนธ์ วาทศิลป์ ดุริยางคศิลป์ หัตถศิลป์และงานออกแบบ ห้องนิทรรศการ วิศิษฏศิลปิน วิศิษฏศิลปิน แปลว่า ผู้เป็นเลิศทางศิลปะ ห้องนิทรรศการนี้ ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยพระองค์ทรงมีพระอัจริยภาพในงานศิลปะหลายสาขา ภายในจัดแสดงทั้งพระราชนิพนธ์ร้อยแก้ว ร้อยกรอง งานแปล การถ่ายภาพ และจิตรกรรม ห้องนิทรรศการศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ภายในจัดแสดงประวัติผลงานและเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมของศิลปินแห่งชาติ เพื่อก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน นักเขียน และผู้ที่ชื่นชอบในงานวรรณศิลป์ ห้องนิทรรศการศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ภายในจัดแสดงประวัติและผลงานสาขาทัศนศิลป์ ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม หัตถศิลป์ ภาพพิมพ์ ภาพถ่ายศิลปะ และสื่อผสม ห้องนิทรรศการศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ภายในห้องจัดแสดงผลงานในด้านเพลงไทยลูกทุ่ง เพลงไทยสากล และดนตรีไทย ด้านการแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น หนังตะลุง โนรา กลองสะบัดชัย รวมถึงการแสดงนาฏศิลป์ เช่น โขน หุ่นกระบอก หุ่นละครเล็ก ลิเก นาฏศิลป์สากล และดุริยางคศิลป์ เป็นต้น สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่หากจะเข้าชมเป็นหมู่คณะ กรุณาแจ้งล่วงหน้านะคะ หออัครศิลปิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-16.00 น. (ปิดวันจันทร์) โทร. 09 3095 9665, 08 4199 2721 https://goo.gl/maps/FkaoN1kYjSUtETTQ6

หอศิลป์ ณ หออัครศิลปิน ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨ เที่ยวเมืองโบราณริมโขง ชมสองวัฒนธรรมไทยลาว ณ หนองคาย ✨

#หนองคาย เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคอาณาจักรขอม อาณาจักรล้านช้าง จนถึงเมืองใหม่ในปัจจุบัน โดยเห็นได้จากโบราณสถานและวัดวาอารามมากมายที่ส่งต่อประวัติศาสตร์เหล่านั้นมาให้คนรุ่นปัจจุบันอย่างเราได้ชื่นชม ทริปนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ คติความเชื่อ และชมบรรยากาศริมโขงยามเย็นกัน  วันที่ 1 1. สักการะพระคู่บ้านคู่เมือง ณ วัดโพธิ์ชัย 2. ไหว้พระธาตุกลางน้ำ ณ พระธาตุหล้าหนอง 3. ชมประติกรรมผสมผสานขนาดใหญ่ ณ ศาลาแก้วกู่ 4. รับลมริมโขง ชมอาทิตย์ตกดิน ณ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1  วันที่ 2 5. สักการะอัฐิหลวงปู่เทสก์ ณ วัดหินหมากเป้ง 6. เลาะถ้ำใต้ดิน ณ วัดถ้ำศรีมงคล 7. ชมวิวโขงบนสกายวอล์ก ณ วัดผาตากเสื้อ การเดินทาง   รถโดยสารประจำทาง : ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต สอบถามรายละเอียด ตารางเดินรถของบริษัทต่าง ๆ ได้ที่เบอร์โทร. 02 936 2852 หรือสอบถามได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดหนองคาย โทร. 042 412 679  รถไฟ : มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ – หนองคาย ทุกวัน สอบถามรายละเอียด โทร. 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย  เครื่องบิน : ไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังหนองคาย แต่สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี แล้วต่อด้วยรถโดยสารหรือเช่ารถขับไป ระยะทาง 51 กิโลเมตร สายการบินไทยสมายล์ สอบถามโทร. 02 118 8888, 1181 หรือจองออนไลน์ https://www.thaismileair.com/ สายการบินนกแอร์ สอบถามโทร. 1318 หรือจองออนไลน์ https://www.nokair.com/ สายการบินแอร์เอเชีย สอบถามหรือจองออนไลน์ https://www.airasia.com/th/th สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ สอบถามโทร. 02 529 9999 หรือจองออนไลน์ https://www.lionairthai.com/th/ สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ สอบถามโทร. 02 089 1909 หรือจองออนไลน์ https://th.vietjetair.com/  วันที่ 1 วัดโพธิ์ชัย  เริ่มต้นทริปด้วยการไปไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองกันที่ “วัดโพธิ์ชัย” วัดเก่าแก่ของจังหวัดหนองคาย เดิมชื่อ “วัดผีผิว” เป็นวัดร้างและใช้เป็นสถานที่เผาศพ จนกระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ มีการบูรณะวัดขึ้นมาและยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ด้านหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์พระธาตุอรหันต์องค์สีขาว ประดับปูนปั้นรูปหน้ายักษ์สีทองเด่น จึงเรียกพระธาตุองค์นี้กันว่า “พระธาตุยักษ์” ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างในสมัยที่อาณาจักรล้านช้างปกครองพื้นที่แถบนี้ หล่อด้วยทองสีสุก คือโลหะสัมฤทธิ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นทองคำ  ตามตำนานกล่าวว่า พระธิดาทั้ง 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ ได้แก่ “พระสุก พระเสริม และพระใส” ประดิษฐานอยู่นครเวียงจันทน์ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญมาที่หนองคายด้วยแพไม้ไผ่ ระหว่างทาง แพของพระสุกแตกและหายไปในแม่น้ำโขง ส่วนพระเสริมและพระใส ได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดโพธิ์ชัยแห่งนี้ จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 4 ได้อันเชิญพระเสริมไปที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ภายในพระอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามมาก เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ เทพชุมนุม ตำนานพื้นบ้านต่าง ๆ รวมถึงประวัติพระสุก พระเสริม พระใส และประเพณีฮีตสิบสอง (ประเพณี 12 เดือนที่เกี่ยวเนื่องกับหลักทางพุทธศาสนา และความเชื่อของชาวอีสาน)  ถนนประจักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.  042 461 123, 042 411 128 https://goo.gl/maps/LaQAGpkFc74zFrKT6 ใกล้ ๆ กับวัดมีลานพญานาคสีเขียว 2 ตนหันหน้าเข้าหากัน เปรียบดั่งประตูสู่ฝั่งโขง นับเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ช่วงเย็น บริเวณนี้จะครึกครื้น ผู้คนออกมาเดินเล่นรับลม และออกกำลังกายกัน  ตรงข้ามวัดลำดวน ซอยริมโขง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย https://goo.gl/maps/9KswKUWW6YyXKhtB6 พระธาตุหล้าหนอง  ถัดมา แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางแม่น้ำโขงที่ “พระธาตุหล้าหนอง” หรือพระธาตุกลางน้ำแห่งเมืองหนองคาย สันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวนที่มีการค้นพบว่าสร้างในสมัยนั้น พระธาตุหล้าหนองแห่งนี้ แต่เดิมตั้งอยู่ที่วัดธาตุ ชุมชนวัดธาตุ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2390 องค์พระธาตุได้พังทลายและเอียงล้มลงจากการถูกน้ำกัดเซาะ ปัจจุบัน เหลือเพียงองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนที่จมอยู่กลางแม่น้ำโขง จะปรากฏให้เห็นในช่วงที่น้ำลด การชมพระธาตุหล้าหนอง สามารถชมได้ในระยะไกลจากฝั่ง หรือจะนั่งเรือไปชมและสักการะใกล้ ๆ ก็ได้ โดยจะมีเรือให้บริการ 200 บาท/ลำ นั่งได้ 10-15 คน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที  ปัจจุบันมีการสร้างพระธาตุหล้าหนององค์จำลองไว้บนฝั่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากองค์จริงมากนัก ยอดปลีฉัตรเป็นรูปดอกบัว 9 ชั้น ประดับประดาด้วยอัญมณีมงคลอย่างสง่างาม และได้มีการบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงไว้ข้างใน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้  ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย https://goo.gl/maps/8cJtrqiXFXRAjSVF8 ในตัวเมือง มีร้านอาหารมากมายให้เลือก ทั้งอาหารไทย-อีสาน และอาหารเวียดนาม มาถึงหนองคายทั้งที อย่าพลาดโอกาสที่จะลองอาหารถิ่นกันนะ  ศาลาแก้วกู่  ถัดมา แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอุทยานเทวาลัย “ศาลาแก้วกู่” หรือ วัดแขก

✨ เที่ยวเมืองโบราณริมโขง ชมสองวัฒนธรรมไทยลาว ณ หนองคาย ✨ อ่านเพิ่มเติม

✨พญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร✨

เจ้าเซื่อเรื่องพญานาคบ่ ? ความเชื่อและความศรัทธาเกี่ยวกับพญานาคมีมายาวนาน โดยเฉพาะในจังหวัดริมแม่น้ำโขง จังหวัดมุกดาหารก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ติดแม่น้ำโขงและมีความศรัทธาเกี่ยวกับพญานาค แต่ที่พิเศษมากกว่านั้นคือ ที่นี่มีพญานาค 3 พิภพที่บังเอิญตั้งอยู่บนแนวเส้นลองจิจูดเดียวกันที่ตำแหน่ง 104 องศา 43 ลิปดา เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่าพญานาค 3 พิภพคืออะไร วันนี้แอดจะพาไปรู้จักพร้อม ๆ กัน จุดแรกคือ “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” หรือพญานาคดิน (ปฐพีพิภพ) เป็นพญานาคสีขาวมุก ตั้งอยู่บริเวณแก่งกะเบา ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ ตามความเชื่อคือหากมาสักการะจะทำให้ชีวิตมั่นคง ร่ำรวย แก่งกะเบาเป็นแก่งหินที่ยาวตามลำน้ำโขง โดนน้ำกัดเซาะทำให้เกิดรูปร่างที่สวยงาม ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม น้ำจะลดจนมองเห็นเกาะแก่งกลางน้ำและหาดทราย สวยกว่าฤดูอื่น ๆ บนฝั่งแก่งกะเบามีการปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสวนสาธารณะ ทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว https://goo.gl/maps/Bw9GWJFe1Hhkfzd57 จุดที่สองคือ “พญาอนันตนาคราช” หรือพญานาคน้ำ (บาดาลพิภพ) เป็นพญานาคสีดำเลื้อยพันรอบเสาและหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง ตามความเชื่อ หากได้มาสักการะจะทำให้ร่มเย็น ชีวิตราบรื่น ในช่วงเย็นจะมีนักท่องเที่ยวมานั่งชมวิวทิวทัศน์กันในบริเวณนี้ ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว https://goo.gl/maps/GLa8rW9bVuhbKnR59 จุดสุดท้ายคือ “พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” หรือ พญานาคฟ้า (สวรรค์พิภพ) ถือเป็นรูปปั้นพญานาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สีเขียวอมฟ้าหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บนภูเขาสูงในพื้นที่ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง รูปปั้นองค์พญานาคนี้มีลักษณะเหมือนกำลังเลื้อย ทำให้เกิดช่องคล้ายซุ้มประตู ผู้ที่สักการะจะลอดท้องพญานาคให้ครบ 7 ซุ้มเพื่อความเป็นสิริมงคล ความเชื่อคือ หากมาสักการะจะทำให้เจริญรุ่งเรือง ได้เลื่อนตำแหน่ง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้วย https://goo.gl/maps/KNtSuUaTzTdxj9Ra6

✨พญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร✨ อ่านเพิ่มเติม

🌷 ฤดูกาลชมดอกกระเจียว : ชัยภูมิ 🌷

🌿 ฝนฉ่ำๆ แบบนี้ พาร่างกายตัวเองมาสัมผัสหมอก ชมดอกกระเจียวเบ่งบาน ความสวยงามอลังการรับหน้าฝนกัน ☔ ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคมของทุกปี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ จะเริ่มมีดอกกระเจียวบานสีชมพูสีขาวเต็มพื้นที่อุทยานไปหมด สีสันสดใส ถ่ายรูปสวยมาก ๆ ใครชอบท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พักผ่อนชมบรรยากาศชิลล์ ๆ ชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน อยู่ใกล้ชิดป่าเขาห้ามพลาดเลย แนะนำให้ทุกคนมาตอนเช้าน๊าา หมอกกำลังหนา ๆ ปังมาก ฟีลดีที่สุด 🍃 🌷 พิกัด : ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ https://goo.gl/maps/R5CcfW7F92jQ7dqu5 🌷 Facebook : อุทยานแห่งชาติไทรทอง Sai Thong National Park 🌷 สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. 08 9282 3437 🌷 พิกัด : ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อยู่ในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ https://goo.gl/maps/nBMWZRbcZAEUrqPs6🌷 Facebook : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม Pa Hin Ngam National Park🌷 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 4405 6141 💡 ภาพถ่ายนี้เป็นเทคนิคการถ่ายมุมภาพกดให้ต่ำลงเพื่อเน้นบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียว จึงทำให้มองไม่เห็นทางเดิน ทางช่างภาพไม่ได้ลงไปในบริเวณที่มีป้ายเตือนว่าห้ามลง แต่ถ่ายอยู่บนทางเดินที่ทางอุทยานฯ ได้กำหนดไว้

🌷 ฤดูกาลชมดอกกระเจียว : ชัยภูมิ 🌷 อ่านเพิ่มเติม

SiamScape : กรุงเทพฯ

ท่ามกลางตึกใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ มีอยู่แห่งหนึ่งที่แอดว่าแปลกตาและน่าสนใจมาก นั่นคือ SiamScape แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางเมืองย่านสยามสแควร์ น่าสนใจขนาดไหน ไปชมกันเลย.. อาคารนี้มีทั้งหมด 25 ชั้น มีทั้งออฟฟิศ คาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้ ร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม ธนาคาร รวมทั้ง co-working space เรียกว่ารองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเลย สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมถ่ายรูปชิค ๆ กับจุดไฮไลท์เด่น ๆ กันค่ะ การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว สามารถจอดได้ที่ Siam Scape ค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท BTS : ลงสถานีสยาม หรือ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ อาคารนี้มีทั้งหมด 25 ชั้น มีทั้งออฟฟิศ คาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้ ร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม ธนาคาร รวมทั้ง co-working space เรียกว่ารองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเลย สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมถ่ายรูปชิค ๆ กับจุดไฮไลท์เด่น ๆ กันค่ะ จุดที่เป็นไฮไลต์คือ Installation Art ชื่อผลงานว่า ILLUSCAPE ความสูงประมาณ 20 เมตร อยู่ที่โถงบันไดเลื่อน ชั้น 4 -7 มุมนี้ก็เป็นมุมฮอตฮิต มีคนสนใจมาถ่ายรูปกันเพียบ เป็นศิลปะฝาผนังคริสตัลสีเงิน สีทองแดง สีเทา เล่นกับแสงไฟ ระยิบระยับ ไม่ควรพลาดเช่นกัน! อีกจุดที่เป็นไฮไลต์ที่ใคร ๆ ต้องมา อยู่ที่ชั้น 10 สวนลอยฟ้า (Skyscape) เป็นพื้นที่กลางแจ้งจัดเป็นสวนสาธารณะบนดาดฟ้าและลานกิจกรรมนอกอาคาร สามารถยืนชมวิวกรุงเทพฯ ได้ 3 ทิศ คือ ฝั่ง MBK Center ฝั่งสยามสแควร์ และฝั่งจามจุรีสแควร์ หากใครอยากขึ้นมาชม ในช่วงกลางวันอาจจะร้อนสักหน่อย บรรยากาศช่วงเย็นจะดีกว่า หรือถ้าค่ำหน่อยก็จะสวยไปอีกแบบ เพราะทางสวนจะมีการเปิดไฟค่ะ

SiamScape : กรุงเทพฯ อ่านเพิ่มเติม

🧶 ทอแสง คอตตอน วิลเลจ 🧶

ที่พูดกันว่าสายน้ำคือชีวิต น่าจะเป็นจริง เพราะพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำมักเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปลูกอะไรก็เจริญงอกงามไปหมด อย่างแม่น้ำโขงที่แอดมีโอกาสไปเยือนก็เป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ ทั้งทรัพยากรในน้ำและรอบ ๆ ที่อุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้พืชผลมากมายเติบโตโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใด ๆ และกลายเป็นพื้นที่ทำกินสำคัญของคนในพื้นที่ วันนี้แอดจะพาไปรู้จัก“ทอแสง คอตตอน วิลเลจ” ที่ #อำเภอโขงเจียม #จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหมู่บ้านฝ้ายที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้และเป็นแหล่งอนุรักษ์การปลูกฝ้ายและการทอฝ้ายแบบดั้งเดิม พร้อมบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของคนในชุมชน ความผูกพันกับแม่น้ำโขง แถมยังมีกิจกรรมให้เพื่อน ๆ ได้สนุกอีกด้วย ทอแสง คอตตอน วิลเลจ  เป็นศูนย์การเรียนรู้แบบครบวงจร ที่เราจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นี่ ตั้งแต่การปลูกฝ้าย ย้อมสี ไปจนถึงการทอผ้า ปัจจุบัน ต้นฝ้ายลดจำนวนลงและหายาก ผู้จัดตั้งหมู่บ้านฝ้ายแห่งนี้จึงมีแนวคิดที่ต้องการจะอนุรักษ์ฝ้ายและการทอผ้าตามแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป รวมทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อีกด้วย การปลูกฝ้ายริมแม่น้ำโขง ต้องอาศัยช่วงที่น้ำลด คือช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงราวเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม หมู่บ้านฝ้าย ไม่เพียงแค่เก็บเกี่ยวฝ้ายที่ปลูกภายในหมู่บ้านมาใช้ แต่ยังรับเส้นใยฝ้ายจากหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียงด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนใกล้เคียงและเป็นการพึ่งพากันและกัน  เมื่อได้ใยฝ้ายมาแล้ว ชาวบ้านก็จะนำไป ”เข็นฝ้าย” หรือปั่นเส้นใยฝ้าย โดยใช้วิธีโบราณตามแบบภูมิปัญญาดั้งเดิม เพื่อน ๆ ที่สนใจก็สามารถทดลองทำได้นะ ขั้นตอนต่อไปคือการย้อมสี ซึ่งทางหมู่บ้านฝ้ายจะใช้วัตถุดิบให้สีที่หาได้จากธรรมชาติ เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ต่าง ๆ ซึ่งในป่าข้าง ๆ หมู่บ้าน มีต้นหมากรากไม้ขึ้นอยู่มากมาย นอกจากนี้ ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงก็ยังมีทุ่งคราม ไม้พุ่มชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาสกัดสี ได้เป็นสีน้ำเงินหรือสีคราม  เมื่อได้วัตถุดิบให้สีมาแล้ว ก็จะนำมาสกัดสี แล้วนำเส้นฝ้ายไปย้อมให้เกิดสีสันต่าง ๆ  จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือการทอผ้า ที่นี่ยังทอผ้าด้วยกี่ตามวิธีแบบภูมิปัญญาดั้งเดิม ผ้าแต่ละผืน ล้วนมาจากฝีมือช่างทอที่มีความชำนาญ มีลวดลายที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  ลาย “แม่น้ำสองสี” เป็นลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง “จุดชมวิวแม่น้ำสองสี” ในอำเภอโขงเจียม ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลที่มีสีต่างกันนั่นเอง มาถึงแหล่งทอฝ้ายทั้งที ก็ต้องมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ทำกันแน่นอน  กิจกรรมแรกคือ กิจกรรมเส้นทางฝ้าย ให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับฝ้ายทุกกระบวนการ ได้ทดลองย้อมผ้าเช็ดหน้า และทดลองทอผ้าด้วยกี่จิ๋วน่ารัก ๆ  ส่วนอีกกิจกรรมคือการมัดย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ โดยเลือกได้ว่าจะย้อมบนอะไร เช่น กระเป๋า เสื้อ หรือ ผ้าพันคอ ย้อมแล้วก็นำผลงานกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย ก่อนหน้านี้ เพื่อน ๆ ได้ชมผ้าลายแม่น้ำสองสีไปแล้ว ระหว่างที่รอผ้าแห้ง แอดขอพาไปชมบรรยากาศแม่น้ำสองสีของจริง จุดชมวิวแม่น้ำที่สวยงามแปลกตาแห่งนี้ เป็นจุดที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน นั่นคือ แม่น้ำโขงที่มีสีปูนแดง และแม่น้ำมูลที่มีสีฟ้าคราม ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจนถึงสีสันที่ต่างกันของสายน้ำทั้งสองสาย  นอกจากจะครบเครื่องเรื่องฝ้าย และจุดชมวิวบรรยากาศสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ครบถ้วนด้วยนะ เพราะมีทั้งร้านอาหาร ร้านของฝาก และที่พักให้บริการพร้อมสรรพ ใครที่สนใจสามารถติดต่อได้เลย  ทอแสง คอตตอน วิลเลจ   ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี  เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.  045 210 324, 095 825 8696 https://g.page/TohsangCottonVillage?share

🧶 ทอแสง คอตตอน วิลเลจ 🧶 อ่านเพิ่มเติม

✨ฆูนุงซีลีปัต จ.ยะลา ✨

ฆูนุงซีลีปัต จุดชมทะเลหมอกใน #เบตง ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว ว่าแต่เคยไปเยือนบ้างหรือยังคะ มาค่ะ วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมหมอกแบบ 360 องศาที่ ฆูนุงซีลีปัต ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย 📍 ที่ตั้ง : ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา🌐 พิกัด : https://goo.gl/maps/4pCbUmsLeHeJ9SSW9 ฆูนุงซีลีปัต เป็นภาษามาเลเซีย แปลว่า ภูเขาหินทรงสามเหลี่ยม  ตั้งอยู่ที่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีความสูง 607 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ที่นี่มีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี แถมยังเป็นการชมหมอกแบบ 360 องศาเหมือนกับว่าเราถูกโอบกอดด้วยหมอกที่ลอยเต็มไปหมด ในการเดินทางขึ้นฆูนุงซีลีปัตมีสองเส้นทาง เส้นทางที่ 1 นั่งรถโฟร์วีลขึ้นไป 3 กิโลเมตรและเดินเท้าต่ออีก 2 กิโลเมตรไปยังจุดกางเต็นท์ โดยรถโฟร์วีลจะมารอรับที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกะลาในหมู่บ้าน ที่พิกัด กม.28 (https://goo.gl/maps/MfVasb7y1wYa6JiN9) ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบท้าทายกำลังขาของตัวเองสามารถเลือกเส้นทางนี้ได้นะคะ ส่วนเส้นทางที่ 2 จุดขึ้นรถอยู่บริเวณด่านความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่พิกัด กม.23 (https://g.page/gunungsilipatprakytipcamping?share) จะมีรถโฟร์วีลมารับเราขึ้นไปยังจุดที่จอดรถ และเดินต่ออีก 400 เมตรก็ถึงจุดกางเต็นท์ เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ค้างคืนข้างบนสามารถเลือกเส้นทางที่ 2 ได้ค่ะ เนื่องจากที่นี่สามารถดูดาวและทางช้างเผือกได้ด้วย แอดเลยเลือกจองทริป 2 วัน 1 คืนค่ะ ไปถึงจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถโฟร์วีลประมาณ 16:00 น. ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาทีก็ถึงจุดกางเต็นท์ สตาฟจะกางเต็นท์ไว้รอเราเลย จากจุดกางเต็นท์ไปยังยอดฆูนุงซีลีปัต ระยะทางประมาณ 300 เมตร มาถึงฆูนุงซีลีปัตทั้งที แอดก็อยากจะเห็นทั้งพระอาทิตย์ตก ดาวเต็มฟ้าในยามกลางคืน และพระอาทิตย์ขึ้น จากจุดที่เรากางเต็นท์ไปถึงยอดฆูนุงซีลีปัต ช่วงแรกก็จะเดินแบบสบาย ๆ และจะเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะบริเวณไหนที่ชันมาก ๆ ก็จะมีเชือกไว้ให้ดึงเพื่อพยุงตัวขึ้นไป เมื่อเดินขึ้นมาถึงยอด รู้สึกเหมือนนักกีฬาได้เหรียญทองเลยค่ะ เพราะวิวสวยมาก มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนได้ 360 องศาตามที่สตาฟบอกไว้จริง ๆ ฆูนุงซีลีปัตที่ไม่มีหมอกก็สวยไปอีกแบบใช่ไหมล่ะคะ ชมพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วลงมารับประทานอาหารที่ทางสตาฟได้จัดไว้ให้แถมยังมีลูกชิ้นและน่องไก่ที่หมักโดยสตาฟ เขาแอบกระซิบว่าเป็นสูตรลับของเขาค่ะ รสชาติคล้าย ๆ ต้มยำอร่อยมากเลย จากนั้นก็ได้เวลาดูดาว สตาฟจะแจ้งว่าควรจะขึ้นไปกี่โมง ส่วนเต็นท์ไม่สามารถกางเพื่อพักแรมได้ แต่สามารถนำมากางเพื่อถ่ายรูปและหลบน้ำค้างชั่วคราวได้ ที่นี่เหมาะแก่การดูดาวและทางช้างเผือกมาก เพราะพื้นที่บริเวณนี้ไม่ค่อยมีบ้านคน ไม่มีแสงไฟรบกวนเวลาดูดาวแน่นอนค่ะ กลางคืนดูดาวผ่านไปแล้ว เช้ามาเราก็ขึ้นมาอีกรอบเพื่อมาดูหมอกค่ะ มาฆูนุงซีลีปัตครั้งนี้ เจอทั้งฆูนุงซีลีปัตตอนเย็น ตอนกลางคืน และตอนเช้า สวยทุกเวลาจริง ๆ ลองมาสัมผัสด้วยตาของตัวเองดูสักครั้ง รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ค่าใช้จ่าย  5 คนขึ้นไป ราคาคนละ 800 บาท น้อยกว่า 5 คน ราคาคนละ 1,000 บาท (ราคารวม รถโฟร์วีลขึ้น-ลง, อาหารเย็น 1 มื้อ, อาหารว่าง 2 มื้อ, น้ำดื่ม, เต็นท์และหมอน, ค่าธรรมเนียมจุดกางเต็นท์) สิ่งที่ต้องเตรียม คือ ไฟฉาย ยากันยุง เสื้อกันฝน และผ้าห่มหรือถุงนอน บริเวณจุดกางเต็นท์มีห้องน้ำแต่ไม่สามารถอาบน้ำได้นะคะ เนื่องจากน้ำข้างบนจะน้อยค่ะ จองทริปหรือสอบถามข้อมูล ท่องเที่ยวชุมชนทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต โทร. 081 093 8549 (เฮง), 082 265 6900 (ซู) *แนะนำให้โทรจองล่วงหน้านะคะ*

✨ฆูนุงซีลีปัต จ.ยะลา ✨ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top