เพื่อนร่วมทาง

ป่าสนวัดจันทร์ เชียงใหม่

โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เป็นป่าสนที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอสะเมิง และบางส่วนของอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่กว่า 150,000 ไร่ สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะที่สุดคือ เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ที่นี่มีบ้านพักกว่า 30 หลัง และมีหลายแบบ พักได้ตั้งแต่ 2-10 คน ราคาหลังละ 800-2,000 บาท ค่าบริการเสริม– ค่าเช่าที่นอนเสริม (ราคา 200 บาท)– ค่าเช่าจักรยาน (ราคา 100 บาท/วัน/คัน)– ค่าอาหารเช้า (ราคา 100 บาท/คน)– ค่าอาหารกลางวัน (ราคา 120 บาท/คน)– ค่าอาหารเย็น (ราคา 150 บาท/คน) มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 300 หลัง แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง โดยมีค่าธรรมเนียม 50 บาท/คน/คืน และต้องนำอาหารมาเอง แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ก็สามารถแจ้งทางศูนย์ฯ ให้เตรียมอาหารให้ได้ค่ะ ไฮไลท์ของโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์คงจะหนีไม่พ้นป่าสนที่สวยงาม และบรรยากาศชิล ๆ ริมอ่างเก็บน้ำ หากไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว จะได้เห็นวิวอ่างเก็บน้ำและหมอกสวย ๆ ถ้าท้องฟ้าปลอดโปร่ง ในตอนกลางคืน เพื่อน ๆ จะได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้า บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ เหมาะกับการพาแฟนไปนั่งดูดาว แต่คนโสดก็ไม่ต้องกลัวเหงา พาแก๊งเพื่อนมาถ่ายรูปดาว รับรองได้รูปสวย ๆ กลับไปแน่นอน และที่นี่ยังมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากชาวบ้าน โมบายที่ทำจากไม้แกะสลัก ผ้าทอของชาวปกาเกอะญอ โปสการ์ด เสื้อยืด ฯลฯ อยู่กลางป่ากลางเขาก็ไม่ต้องกลัวหิว เพราะที่นี่เลี้ยงเราดีมากๆ อาหารแม้จะเป็นเมนูทั่วไป แต่รสชาติอร่อยจนต้องขอเติมรอบสอง กระซิบไว้หน่อยว่า ห้ามพลาดน้ำพริกกะปิ เพราะรสชาติจัดจ้าน เข้มขัน ทานกับผักสดและแคบหมูยิ่งอร่อย ที่ตั้ง : ต.บ้านจันทร์ กม.40 หมู่บ้านห้วยอ้อ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ พิกัด : https://goo.gl/maps/Mgf8gxcX67f9DWGMA เปิดทำการทุกวัน : 08.00 – 22.00 น. เบอร์โทรศัพท์จองที่พัก : 053 249 349 เบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ : 086 181 3388 Facebook : FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป.

ป่าสนวัดจันทร์ เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

เกาะคอเขา … เปิดมุมมองใหม่ทะเลพังงา

เกาะคอเขา เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง บริเวณชุมชนบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า บนเกาะมีสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ มีความเงียบสงบและยังคงความเป็นธรรมชาติ ทางทิศเหนือของเกาะ มีท่าเรือที่สามารถข้ามไปเกาะพระทอง ทางทิศตะวันออกของเกาะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มของชาวบ้าน ปลายแหลมทางทิศใต้คือท่าเรือหลักของเกาะ ที่ใช้ข้ามไปมาระหว่างเกาะคอเขา-บ้านน้ำเค็ม ทางทิศตะวันตกของเกาะเป็นแนวชายหาด เป็นที่ตั้งของที่พักและร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยว ร่มรื่นด้วยแนวต้นสนทะเลและต้นมะพร้าว หาดทรายยาวขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ และยังสามารถมองเห็น “เกาะผ้า” ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลและไม่ไกลจากเกาะคอเขามากนัก การคมนาคมบนเกาะสำหรับนักท่องเที่ยว แนะนำให้นำรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถยนต์หรือจักรยานยนต์จากบนฝั่งลงแพขนานยนต์เพื่อขับเที่ยวเองบนเกาะ หรือประสานที่พักที่จองไว้บนเกาะให้ช่วยจัดหารถรับส่งพาเที่ยวบนเกาะ การเดินทาง : ลงเรือข้ามไปเกาะคอเขาได้ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 12 กิโลเมตร มีเรือยนต์รับจ้างและแพขนานยนต์ให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. ค่าบริการนำรถยนต์ลงแพขนานยนต์ คันละ 200 บาท จักรยานยนต์ คันละ 50 บาท ผู้โดยสารคนละ 20 บาท ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที พิกัด (ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม) https://maps.app.goo.gl/Mrf784nEcx7e8d2K8พิกัด (ท่าเรือเกาะคอเขา) https://maps.app.goo.gl/LfRhc1znNs7LutB6A สอบถามรอบแพขนานยนต์ข้ามฟากและเรือข้ามฟากได้ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม โทร. 08 4841 2367

เกาะคอเขา … เปิดมุมมองใหม่ทะเลพังงา อ่านเพิ่มเติม

 ดอยเสมอดาว น่าน

ดอยเสมอดาว สวยในทุกฤดู…ประโยคนี้ไม่เกินจริงค่ะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาหลาย ๆ ครั้งเพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ดอยเสมอดาวถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่มองเห็นดาว ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทยเลย ความสุขในทริปนี้ ไม่ใช่แค่การได้เดินทาง แต่อยู่ที่ว่าเราไปกับใคร จะเป็นกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ไปกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน ชมทะเลหมอกยามเช้า บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย ใครสายถ่ายรูป ต้องชอบแน่นอนเพราะอาจจะได้เห็นทางช้างเผือกด้วยนะ ในบริเวณเดียวกันยังมี “ผาหัวสิงห์” หน้าผามีรูปร่างหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศาเลยค่ะ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เพื่อน ๆ ยืนชมอยู่ไกล ๆ กันนะคะ ดอยเสมอดาวเป็นดอยที่มีการเดินทางสะดวก ไม่ต้องปีนป่าย นักท่องเที่ยวสามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณที่ลาดจอดใกล้กับจุดกางเต็นท์ดอยเสมอดาวได้เลย ใครไปมาแล้ว เอารูปสวย ๆ มาอวดบัดดี้กันได้นะคะ อัตราค่าบริการ – ลานกางเต็นท์: คนละ 30 บาท คน/คืน (ดอยเสมอดาว, ผาชู้)– ค่าเช่าเต็นท์อุทยาน/เต็นท์โดม: เริ่มต้นที่ 270 บาท นอนได้สูงสุด 3 คน– บ้านพัก อยู่ที่ดอยผาชู้: เริ่มต้นที่ 1,000 บาท วันธรรมดาลด 30% บ้านสำหรับ 6 คนนอน และ 2 คนนอน สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้โดยตรง หรือหากเพื่อน ๆ มีเต็นท์อยู่แล้ว สามารถจองพื้นที่กางเต็นท์ได้ในระบบจองบ้านพักออนไลน์ และ Walk in ได้เลยค่ะ เว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่านตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน09 3242 2914 https://web.facebook.com/profile.php?id=100093421155533 https://goo.gl/maps/Ya3oE6tULZ42

 ดอยเสมอดาว น่าน อ่านเพิ่มเติม

Rosemary House นครราชสีมา

คงจะดีไม่ใช่น้อยหากเราได้ตื่นเช้าช่วงวันหยุดในสถานที่ที่เงียบสงบ มองวิวไปรอบ ๆ เห็นธรรมชาติที่สวยงาม บางพื้นที่อากาศเย็นลงอีกด้วย ครั้งนี้ เราจะพาไปเปลี่ยนห้องนอนกันที่ Rosemalicious By Rosemary House อีกทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรสฉบับโฮมเมด ที่นี่ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอปากช่อง เป็นทั้งที่พักและร้านอาหารบนพื้นที่เล็ก ๆ อัดแน่นไปด้วยต้นไม้หลากชนิด ไม้ดอกที่สวยงาม พืชสวนต่าง ๆ ปลูกเรียงกันอย่างสวยงาม ด้วยสภาพอากาศและทำเลที่ตั้งเหมาะสมในการปลูกให้เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นไอเดียของ ‘ป้าติ๋ม’ สาวสวยจากกรุงเทพฯ ที่ตราตรึงกับความสวยงามของปากช่องและย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่กว่า 10 ปี แรกเริ่มนั้น ป้าติ๋มปลูกไม้ดอก ต่อมาจึงหันมาปลูกโรสแมรี่ ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจำนวนมาก กลิ่นสมุนไพรของโรสแมรี่หอมอบอวลไปทั่ว นอกจากนี้ยังปลูกลาเวนเดอร์ รัสเซียนเสจ ซึ่งเป็นสมุนไพร และอื่น ๆ ได้แก่ กุหลาบ สนเกรวิลเลีย อะโวคาโด โอลีฟอีกจำนวนมาก เพื่อแบ่งปันสัมผัสดี ๆ แบบนี้ ป้าติ๋มจึงเริ่มทำโฮมสเตย์ ให้ผู้ที่อยากจะใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางสวนสไตล์อังกฤษ บนพื้นที่ 2 แปลง คือ Rosemary House Homestay และ ภายใน Rosemalicious By Rosemary House ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มากนัก นอกจากบรรยากาศดีแล้ว เรื่องอาหารของที่นี่ก็ไม่เป็นรอง หากใครไม่ได้มาพัก แต่อยากมาชิมอาหาร ก็ติดต่อจองมาได้เช่นกัน ป้าติ๋มจะจัดเตรียมอาหารตามจำนวนคนที่มา เป็นเมนูสไตล์ยุโรป-อิตาเลียนและทำสดใหม่ อาจจะใช้เวลารอหน่อย แต่อร่อยแน่นอน ทั้งนี้ ไส้กรอก เครื่องเคียงและผักดอง แยมรสต่าง ๆ ที่นี่ก็ทำเองด้วยนะ และที่ห้ามพลาด ตบท้ายด้วยไอศกรีมบลูเบอร์รี่โฮมเมด อร่อยสุด ๆ เล่ามาทั้งหมดนี้คงไม่หนำใจหากเพื่อน ๆ ไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตนเอง 218 หมู่ 14 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 08 2164 2859 https://maps.app.goo.gl/e912xrS9ZmoBxB7i9 (ปักหมุดว่า Rosemalicious By Rosemary House นะคะ)

Rosemary House นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

อะกิปุ เชียงใหม่

ว่ากันว่า ดอยหลวงเชียงดาวนั้นมีมนต์ขลังที่ทำให้ผู้ที่พบเห็นถูกสะกด และที่แห่งนี้จะยิ่งทำให้คุณตกหลุมรักดอยหลวงเชียงดาวมากขึ้นกว่าเดิม ครึ่งทางบนทางหลวงสาย 1322 ที่ลัดเลาะภูเขาสูงมากมายจากอำเภอเชียงดาวมุ่งหน้าสู่อำเภอชายแดนอย่างเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ในเขตบ้านเลาวู หมู่บ้านเล็ก ๆ อันเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่งดงามที่สุดที่หนึ่ง มีคาเฟ่และที่พักเล็ก ๆ ชื่อ “อะกิปุ” ตั้งอยู่ริมถนนคอยต้อนรับผู้สัญจรไปมาให้หยุดแวะพักชิมกาแฟชั้นดีของบ้านเลาวูที่คุณวุฒิและคุณหมัด เจ้าของอะกิปุเป็นผู้รังสรรค์ขึ้น หรือหากใครที่อยากจะสัมผัสวิวดอยหลวงเชียงดาวในมุมพิเศษ ก็สามารถใช้ที่นี่ซึ่งมีทั้งโฮมสเตย์และจุดแคมปิ้งให้บริการเป็นจุดแวะพักค้างแรมได้เช่นกัน หากเลือกมาพักที่อะกิปุ โฮมสเตย์หรืออะกิปุแคมปิ้ง หนึ่งในกิจกรรมที่ทางคุณวุฒิและคุณหมัดภูมิใจนำเสนอคือการพานักท่องเที่ยวขึ้นรถชุมชนเดินทางเข้าไปยัง “อะกิปุนีตีกลู” มุมลับ ๆ ที่ต้องบอกว่าสวยจริงไม่จกตา มุมนี้จะสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของดอยหลวงเชียงดาวที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมชมพระอาทิตย์ตกในมุมต่าง ๆ มีอาหารพื้นบ้านสุดแสนอร่อยรวมไว้ให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากวิวสวย ๆ แล้ว ด้วยความที่คุณวุฒิและคุณหมัดถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ จึงมีกิจกรรมดริฟกาแฟให้นักท่องเที่ยวชิมอีกด้วย เรียกว่ามาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบเต็มอิ่ม ทั้งรูปของดอยหลวงเชียงดาว รส กลิ่นของกาแฟชั้นดี เสียงของนก ลม ใบไม้ที่อยู่รอบตัวเรา รวมถึงเสียงการสนทนาของเราและคุณวุฒิคุณหมัดที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ การเดินทางมาอะกิปุ บ้านเลาวู อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถเดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาว แล้วใช้ทางหลวงสาย 1322 มุ่งหน้าสู่บ้านเลาวูได้ รวมระยะเวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง และจากอำเภอเชียงดาวประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือสามารถใช้บริการรถตู้เชียงดาว-เวียงแหงก็ได้เช่นกัน โดยลงที่หน้าอะกิปุคาเฟ่ได้เลย สำหรับบริการที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทาง Facebook : Akipu camping อะกิปุแคมป์ปิ้ง และ Akipu Homestay อะกิปุ โฮมสเตย์ เพื่อสอบถามรายละเอียดได้โดยตรง พิกัด อะกิปุ : https://maps.app.goo.gl/saZH9WravmeCWvri9

อะกิปุ เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวเรียนรู้ ดูชีวิตช้างไทย ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นโรงพยาบาลช้าง และจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศเรียนรู้วิถีช้าง วิถีควาญ ได้แก่ การชมช้างอาบน้ำ การแสดงช้าง การนั่งช้างชมวิถีธรรมชาติ การฝึกควาญช้าง บริการบ้านพักแบบอาคารที่พักศูนย์การเรียนรู้ แบบรีสอร์ต แบบโฮมสเตย์และลานกางเต็นท์ การดูแลรักษาช้างเจ็บ การเยี่ยมลูกและแม่ช้าง การผลิตกระดาษจากมูลช้าง รวมทั้งการเยี่ยมชมพลายศักดิ์สุรินทร์ มีบริการร้านอาหาร ที่จอดรถ ห้องน้ำ รถรางอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเยือน นักท่องเที่ยวสามารถชมและถ่ายภาพกับช้างได้อย่างใกล้ชิด แต่มีข้อควรระวังเช่นกัน คือ ไม่ควรเข้าหาช้างขณะที่ควาญช้างไม่อยู่ ไม่ใช้แฟลชถ่ายภาพ ไม่เข้าหาช้างทางด้านหลัง ไม่หลอกล่อช้างขณะให้อาหาร ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ช้าง ไม่ส่งเสียงดังทำให้ช้างตกใจ ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่กับช้างเพียงลำพัง ไม่เข้าไปในเขตแนวราวกั้น หากพบปัญหาให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และอย่าลืมรักษาความสะอาดด้วยนะคะ ค่าธรรมเนียมการเข้าชมกิจกรรม1. นั่งรถบริการ– ชาวไทย ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท เด็ก ราคา 50 บาท2. นำรถเข้าพื้นที่– ชาวไทย ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท เด็ก ราคา 50 บาท– ค่านำรถเข้าพื้นที่ ราคา 50 บาท*ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้สูงอายุ ช่วงนี้มีโปรโมชัน “บัตรเดียว เที่ยวทุกที่” โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพียงซื้อบัตรราคา 199 บาท สามารถรับส่วนลดในการเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวได้ถึง 14 แหล่ง บัตร 1 ใบ สามารถใช้ได้ 2 ท่านต่อวัน/สถานที่ท่องเที่ยว สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 รายละเอียดเพิ่มเติม https://thailandelephant.org/onecard/ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 0 5482 9322, 0 5482 9333 e-mail : info@thailandelephant.org Website : www.thailandelephant.org พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DY3oV5XteLP962Di8

เที่ยวเรียนรู้ ดูชีวิตช้างไทย ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวกิ่วลม แม่ฮ่องสอน

หากมีโอกาสเดินทางบนถนนสาย 1095 สู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อเดินทางออกจากตัวอำเภอปายประมาณครึ่งชั่วโมง จะพบกับจุดแวะข้างทางที่มีวิวทิวทัศน์งดงามที่สุดจุดหนึ่งบนถนนสายนี้ ที่นี่คือ “จุดชมวิวกิ่วลม” ที่ตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างอำเภอปายกับอำเภอปางมะผ้า เป็นสถานที่ที่นักท่องเทียวที่ใช้เส้นทางสายนี้จะต้องหยุดแวะพัก เนื่องจากมีความสะดวกสบายเพราะอยู่ติดริมถนน และยังมีร้านค้า ห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ไฮไลต์สำคัญที่สุดของที่นี่ แน่นอนว่าคือวิวสวย ๆ อลังการจากทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยเฉพาะช่วงเช้าในช่วงปลายปีที่บนดอยมีอากาศเย็นแบบนี้จะมีโอกาสได้เจอกับทะเลหมอกกว้างไกลสุดสายตาแบบในภาพได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าเป็นวิวหลักล้านที่อยู่ข้างถนน สามารถไปชมได้อย่างง่ายดาย การมาชมวิวที่จุดชมวิวกิ่วลมมีข้อควรระวังเล็กน้อย เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ติดถนนที่มีการจราจรตลอดเวลา การข้ามถนนเพื่อไปชมวิวต้องระมัดระวัง และไม่กีดขวางการสัญจรของรถยนต์  นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต้องรักษาความสะอาดของสถานที่ให้เรียบร้อยและสวยงามแบบนี้ไปนาน ๆ  พิกัด : https://maps.app.goo.gl/naoLEWhdcFL4LC1V7

จุดชมวิวกิ่วลม แม่ฮ่องสอน อ่านเพิ่มเติม

ชวนจิบกาแฟ ชมวิวหมอก ที่ ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย

ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย รายล้อมด้วยภูเขาสูง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่ต้องไปให้ถึงเมื่อมีโอกาสมาที่เชียงราย ชาวบ้านบนดอยผาฮี้ส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าอาข่า มูเซอ ที่ยังประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกชาและกาแฟเป็นหลักอยู่ ทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนในปี พ.ศ. 2531 โครงการพัฒนาดอยตุงได้เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น ปัจจุบันดอยผาฮี้ เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งของประเทศไทย มีสายพันธุ์กาแฟชื่อดังไปทั่วโลกนั่นคือ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ ทำให้บริเวณนั้นมีร้านกาแฟเปิดหลายเจ้า นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบต่างได้มาลิ้มลองรสกาแฟแท้ ๆ จากต้นกำเนิดแหล่งเพาะปลูก แถมได้นั่งชมทิวทัศน์บนดอยผาฮี้อีกด้วย กาแฟดอยผาฮี้ มีความโดดเด่นกว่ากาแฟที่อื่นตรงที่มีกลิ่นหอมติดหวานคล้ายผลไม้ แต่รสเข้มกลมกล่อม มีการนำกาแฟมาแปรรูปเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟเคลือบช็อกโกแลต เมล็ดกาแฟสำเร็จรูป พิซซ่า ฯลฯ บรรยากาศแต่ละช่วงบนดอยผาฮี้จะแตกต่างกันไปอย่างในช่วงฤดูฝน จะได้เห็นหมอกหนาจัดพาดผ่านแนวเขา ในฤดูหนาวก็จะมีอากาศหนาวและลมเย็น เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนก็จะสดใส ปลอดโปร่งแต่ยังมีอากาศเย็นอยู่ค่ะ เส้นทางขึ้นไปบ้านผาฮี้ค่อนข้างคดเคี้ยว โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ด้วยนะคะ เมื่อขึ้นมาถึงบนดอยแล้ว เพื่อน ๆ จะเห็นป้าย “บ้านผาฮี้” ขนาดใหญ่มีภาพวาดแปลกตา ที่นี่ได้นำเอาภาพจุดเด่น 4 อย่างของชุมชนมาใส่ไว้ด้วย นั่นก็คือ ประตูผี เมล็ดกาแฟ ชิงช้าอาข่า และใบชา ค่ะ หมู่บ้านผาฮี้ ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/vNGNqPrJ6XoGMdX49

ชวนจิบกาแฟ ชมวิวหมอก ที่ ดอยผาฮี้ หรือหมู่บ้านผาฮี้ จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อุบลราชธานี

หากใครได้มาเที่ยวชมที่จังหวัดอุบลราชธานี จะเห็นได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีวัดวาอารามมากมายน่าไปเยี่ยมชมและสักการบูชา มีทั้งวัดพระอารามหลวง ปูชนียสถานที่สำคัญตามความเชื่อทางพุทธศาสนาและความเชื่อของภาคอีสาน ที่จริงแล้ว จังหวัดอุบลราชธานี ยังมีวัดที่มีพุทธศิลป์แตกต่างออกไป เราเรียกว่า “ศิลปะแบบช่างญวน” บัดดี้พาเพื่อน ๆ เดินทางมาชมวัดราษฎร์ประดิษฐ์ เป็นวัดที่ก่อสร้างโดยความร่วมมือของชาวบ้านในชุมชนบ้านกระเดียน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2370 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะแบบช่างญวนและพื้นถิ่นอีสาน ภายในวัด มีสิ่งที่น่าสนใจหลายจุด อีกทั้งยังมีความเก่าแก่และงดงามอย่างมาก ตามมาอ่านรีวิวในแต่ละภาพได้เลยค่ะ วัดราษฎร์ประดิษฐ์ ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี https://maps.app.goo.gl/8YXJTUaVhrXCSTUT7 หอแจก หรือศาลาการเปรียญ วัดราษฎร์ประดิษฐ์ ซึ่งเป็นจุดที่เก่าแก่ที่สุด สร้างก่อนจะมีการสร้างอุโบสถของวัด เมื่อปี พ.ศ. 2468 ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน ส่วนหลังคาทำด้วยไม้แกะสลัก เชิงชายตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก และฉลุลวดลายที่สวยงาม ในภาคอีสานบางพื้นที่เรียกศาลาการเปรียญว่า ‘หอแจก’ เพราะถือเป็นอาคารที่ใช้บำเพ็ญกุศลแจกบุญ แจกทาน แจกข้าวและน้ำ รวมถึงการอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย ด้านหน้าหอแจกวัดราษฎร์ประดิษฐ์ ตกแต่งราวบันไดด้วยประติมากรรมปูนปั้นพื้นถิ่นอีสาน ส่งผ่านโดยฝีมือช่างญวน ซึ่งในสมัยนั้นมีความชำนาญด้านปูนปั้น แต่ด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกัน การสื่อสารอาจไม่ตรงกันและสร้างตามคติของช่างญวน ทำให้รูปแบบศิลปะในวัดค่อนข้างต่างจากวัดอื่น ๆ แต่ทำออกมาได้อย่างงดงามมากทีเดียว ด้านหลังหอแจกวัดราษฎร์ประดิษฐ์ ตกแต่งราวบันไดด้วยปูนปั้นลายมกรคายนาค (มะ-กอน : สัตว์ป่าหิมพานต์ในตำนาน) ที่ฐานของราวบันได ยังปรากฏรูปสัตว์คล้ายเสืออีกด้วย ภายในหอแจก มีธรรมาสน์เก่าแก่ เป็นศิลปะผสมระหว่างศิลปะอีสานกับศิลปะญวน ตรงฐานเป็นอิฐฉาบปูนตกแต่งด้วยลวดลายพรรณพฤกษาหลากสี องค์ธรรมาสน์ทำด้วยไม้ฉลุลายและทาสีด้วยสีจากธรรมชาติ จัดเป็นโบราณวัตถุที่หาดูได้ยากนักในปัจจุบัน อีกอาคารที่อยู่ข้างหอแจก คือ อุโบสถ หรือ ‘สิม’ ในภาษาอีสาน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2478 เป็นอุโบสถก่อด้วยอิฐ ฉาบปูนเรียบทั้งสองด้าน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยก่ออิฐถือปูน ศิลปะไทยอีสาน และเป็นที่รวบรวมพระพุทธรูปบูชาปางต่าง ๆ มีทั้งที่แกะจากไม้และหล่อด้วยโลหะ สะดุดตากับหน้าบัน มีลวดลายคล้ายมังกรพ่นน้ำเป็นศิลปะแบบช่างญวนเช่นเดียวกัน เมื่อสองวัฒนธรรมร่วมกันสร้าง ทำให้พุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาแปลกตาแต่งดงามไม่ใช่น้อย บันไดทางขึ้นก็มีศิลปะปูนปั้นเป็นรูปคล้ายพญานาคผสมมังกร เหนือบานประตูทางเข้ามีภาพวาดพระพุทธรูปด้วย ในส่วนบริเวณด้านหลังอุโบสถ หน้าบันเป็นรูปหัสดีลิงค์ในป่าหิมพานต์ ลวดลายงดงาม หากมาชมด้วยตาตัวเองต้องประทับใจสุด ๆ เดินมาด้านหลังอุโบสถ มีกุฏิลายตั้งอยู่ 2 หลังติดกัน จากในรูปฝั่งซ้าย ด้านหน้าจั่วและฝาผนังกุฏิมีการติดประดับด้วยกระจกเพื่อให้เกิดความสวยงาม แกะสลักเป็นลายลูกฟักและทาสีได้อย่างสวยงาม สะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาและฝีมือเชิงช่างพื้นบ้านอีสาน ส่วนทางด้านขวาจากในรูป มีลักษณะโล่ง หน้าจั่วประดับด้วยไม้ลวดลายดวงอาทิตย์ฉายแสงอย่างวิจิตรสวยงาม แม้จะชำรุดและเสียหายลงไปมาก แต่ภายหลังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรแล้ว ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2556

วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อุบลราชธานี อ่านเพิ่มเติม

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน

ช่วงนี้ทุกที่ในไทยถูกอาบไปด้วยแสงแดดของหน้าร้อนแล้ว หลายคนคงวางแผนไปเที่ยวทะเลสวย ๆ ต้อนรับ Summer Vibe กันแน่ บัดดี้เลยถือโอกาสมาแนะนำทะเลที่หากเพื่อน ๆ ไปแล้ว นอกจากจะได้ทั้งเล่นน้ำทะเลใส ๆ ได้ภาพสวย ๆ ปัง ๆ มาลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวกันหลายภาพแน่ หากทะเลไหนที่บัดดี้นำเสนอวันนี้สวยกระแทกใจ เพื่อน ๆ ก็เตรียมวางแผนไปกระแทกคลื่นกันได้เลย 1. หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ห่างจาก จ.กระบี่ ประมาณ 40 กิโลเมตร แต่เดิมลูกทะเลหลายคนจะเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” โดยคำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ ส่วนคำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลจำพวกแสมและโกงกาง ที่ต่อมาเรียกกันว่า “ต้นปีปี” และเพี้ยนเสียงเป็น “พีพี” ในที่สุด หมู่เกาะพีพี จะประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล มีลักษณะเป็นเวิ้งโค้ง หาดทรายขาวสวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด ที่เกาะพีพีดอนจะมีทั้งที่พัก ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2 เกาะใหญ่นี้ จะมีเกาะเล็ก ๆ รายรอบ คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก เกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะจะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ถ่ายรูปได้รัว ๆ สำหรับการเดินทางไปเกาะพีพี คือการไปกับเรือโดยสารขนาดใหญ่ (เรือเฟอร์รี่) ซึ่งสามารถเดินทางไปเกาะพีพีได้ทั้งจากท่าเรือคลองจิหลาดจ.กระบี่ และท่าเรือรัษฏา จ.ภูเก็ต ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง หากใครต้องการการเดินทางที่เร็วขึ้น สามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทได้ทั้งจาก จ.ภูเก็ต หรือ จ.กระบี่ ได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 60 นาที มีหลายบริษัทให้บริการบริเวณท่าเรือ 0 7566 1145 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีhttps://maps.app.goo.gl/3VRptYfQA76PoX1s8 2. เกาะระยั้ง จ.ตราด สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว บัดดี้ขอแนะนำ หมู่เกาะระยั้ง (ประกอบไปด้วยเกาะระยั้งในและเกาะระยั้งนอก) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะหมาก ที่เกาะนี้มีความเงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวาย หาดทรายนุ่มขาวสะอาด น้ำทะเลใส ที่สำคัญบนเกาะมีที่พักแห่งเดียวซึ่งเป็นบ้านเพียง 3 หลัง ตั้งอยู่บนเกาะระยั้งนอก ส่วนเกาะระยั้งใน ไม่มีหาดทราย ไม่มีที่พัก แต่เป็นจุดดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่สวยมาก ถึงแม้ที่นี่จะเป็นอีกเกาะที่หลายคนบอกว่าโอกาสได้มาค่อนข้างน้อยเพราะต้องจองล่วงหน้าแล้วที่นี่ก็เต็มไวเสียเหลือเกิน แต่ถ้าได้มาแล้วคุ้มค่าสุด ๆ ทั้งได้พักผ่อน ได้อยู่กับความสงบท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ได้ดำน้ำชมปะการัง จนอยากกลับมาซ้ำกันแทบทุกคน สำหรับการเดินทางไป เกาะระยั้ง เพื่อน ๆ ต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือ แหลมงอบ-เกาะหมาก เพราะทางที่พักบนเกาะระยั้งจะส่งมารับที่เกาะหมากเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาโดยรวมจากท่าเรือแหลมงอบไปเกาะระยั้งประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด 09 0948 4849https://maps.app.goo.gl/ozNJwHMEH8NNGvmC9 3. เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อีกหนึ่งเกาะสวยในใจของหลายคน ที่นอกจากทะเลสวย น้ำใสแล้ว หาดทรายขาวนุ่มละเอียดเดินได้สบายเท้าแล้ว ยังมีที่พักต่าง ๆ ให้เลือกตั้งแต่ บังกะโลไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว มีร้านอาหารและคาเฟให้เลือกฝากท้องมากมาย แถมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการดำน้ำชมปะการัง พายคายัก ตกหมึก ตกปลา พายเรือคายัก ดูการแสดงโชว์ Fire Man Show นวดผ่อนคลาย เรียกได้ว่าการมาที่นี่ทั้งได้สนุก และพักผ่อนครบจบเลยล่ะ การเดินทางไป เกาะเสม็ด เพื่อน ๆ สามารถเลือกขึ้นเรือได้จากหลายท่า ซึ่งแต่ละท่าเรือมีให้บริการทั้งเรือโดยสารธรรมดาและเรือสปีดโบ๊ท แล้วแต่ว่าเพื่อน ๆ อยากลงที่หาดไหน เช่น– ท่าเรือบ้านเพ สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวหวาย อ่าวช่อ อ่าวปะการัง– ท่าเรือนวลทิพย์ 1 สามารถลงได้ที่ หาดทรายแก้ว และอ่าวน้อยหน่า– ท่าเรือลุงหวัง อยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาล เรือจะจอดที่อ่าวลุงหวัง– ท่าเรือเสรีบ้านเพ เรือจอดที่ อ่าวพร้าว หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน หน้าด่าน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว– ท่าเรือโชคมานะ จอดตามหาด ตามที่ลูกค้าต้องการ ต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 0 3865 3034 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดhttps://maps.app.goo.gl/U6feeEaRthxV9JbBA 4. ถ้ำมรกต จ.ตรัง หนึ่งในถ้ำสวยที่เป็นผลงานแสนงามจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เป็นส่วนหนึ่งของเกาะมุก โดยถ้ำมรกต ถือเป็นถ้ำทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปข้างในได้จากโพรงถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ช่วงที่น้ำลดสามารถนั่งเรือเล็ก ๆ เข้าไปได้ แต่ถ้าช่วงน้ำขึ้นจะต้องลงน้ำ ดึงตัวไปตามเชือกเพื่อเข้าไป หลังจากผ่านถ้ำทะเลไปประมาณ 80 เมตร ก็จะเจอทางออกของอีกด้าน ที่มีโพรงขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเขียวใสและหน้าผาสูง สวยมาก ๆ เลยล่ะ การเดินทางไป ถ้ำมรกต เพื่อน ๆ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือหาดปากเมง และ ท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือหลายเจ้าคอยให้บริการ หากมาเป็นกลุ่มสามารถเหมาลำได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรือหากอยากให้คุ้ม สามารถซื้อทัวร์เที่ยวเกาะแบบวันเดย์ ที่จะมีคนนำเที่ยวได้แบบหายห่วง ซึ่งมีหลายเจ้าในเมืองตรังให้เลือก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง 08 0572

รวมจุดรับ Vitamin SEA ต้อนรับหน้าร้อน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top