เพื่อนร่วมทาง

ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี ตลาดน้ำกลางป่าบนน้ำตกแห่งแรกในเมืองไทย

ใครกำลังหาสถานที่พักผ่อน หรือพาครอบครัวไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ วันนี้บัดดี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยคลายร้อน อิ่มท้อง และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาแนะนำ นั่นก็คือ “ตลาดน้ำกวางโจว” “ตลาดน้ำกวางโจว” ตลาดน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นตลาดน้ำกลางป่าบนน้ำตกแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย บรรยากาศคือดีเลิศ เพราะมีร่มเงาไม้ใหญ่นานาพันธุ์ และยังมีแพริมน้ำไว้ให้นั่งเล่น นั่งรับประทานอาหารอีกด้วย ส่วนอาหารนั้นก็มีให้เลือกชิมหลากหลายในราคาหลักสิบ มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะช่วยคลายร้อนแล้วยังอิ่มท้องด้วย นอกจากนี้ที่ตลาดน้ำกวางโจวแห่งนี้ยังมีสวนดอกไม้ให้เราได้ถ่ายรูปสวย ๆ ด้วยนะ  ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี เปิดวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ค่าทำเนียมเข้าชมคนละ 25 บาท https://maps.app.goo.gl/ZocwmWankvNEK4di8

ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี ตลาดน้ำกลางป่าบนน้ำตกแห่งแรกในเมืองไทย อ่านเพิ่มเติม

เทศกาลปี๋ใหม่เมือง หม้อดอกกับ ชุมชนบ้านเหมืองกุง จังหวัดเชียงใหม่

“หม้อดอก” เป็นภาษาพื้นเมือง มาจากสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปหม้อน้ำทรงต่าง ๆ และปากหม้อมีเถาไม้เลื้อยออกมาทั้งสองข้าง ซึ่งมีลักษณะตรงกับคำว่า ปูรณฆฏะ (Purana kalasa)  จึงมีชื่อเรียกว่า “หม้อดอก หรือ หม้อปูรณฆฏะ” ในภาษาสันสกฤต หม้อดอกหมายถึง หม้อน้ำแห่งความอุดมสมบูรณ์และความเจริญงอกงาม ในล้านนาหม้อดอกเป็นพุทธสัญลักษณ์สำคัญแห่งล้านนา โดยถูกนำมาใช้ในทางพุทธศาสนา เพื่อเป็นเครื่องบูชา สักการะ พระรัตนตรัย โดยจะปรากฏหม้อดอกในสถาปัตยกรรมศาสนสถาน ตามจิตกรรมฝาผนัง  ในวิหารต่าง ๆ ในล้านนาสืบมา ในอดีตหม้อดอก กับเทศกาลปีใหม่เมือง คนล้านนาจะเปลี่ยนหม้อดอกในวันสังขานต์ล่อง ในหม้อจะใส่ทรายและน้ำ ก่อนนำใบหมากผู้หมากเมีย ดอกเอื้องผึ้งมาปักในหม้อดอก และประดับด้วยช่อตุงสีต่าง ๆ ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ในอดีตคงกระทำกันทุกบ้านหลังคาเรือนเพื่อสักการะ เพื่อเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงการเข้าสู่ ปีใหม่เมืองอีกครั้ง ซึ่งในจารีตดังกล่าวแทบจะสูญหายไปแล้วในสังคมคนรุ่นใหม่ ชุมชนบ้านเหมืองกุง ผู้เริ่มต้นในการรื้อฟื้นวัฒนธรรมการใช้หม้อดอกที่สูญหายให้กลับคืนมามีบทบาทและความสำคัญในช่วงปี๋ใหม่เมืองอีกครั้ง ในปี๋ใหม่เมืองปีนี้ ชุมชนบ้านเหมืองกุง ได้เป็นผู้ออกแบบรังสรรค์หม้อดอกด้วยลวดลายพญานาค 9 ลาย จำนวน 18 ใบ ในการประกอบพิธีอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แหล่ง เพื่อนำมาสรงน้ำพระธาตุและพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี  การรังสรรค์หม้อดอกด้วยลวดลายพญานาค ได้แรงบันดาลใจจากปีนักษัตร ผนวกกับลวดลายพญานาคตามสถาปัตยกรรม งานสิ่งทอ ของชาวล้านนา เนื่องจากปีนี้ตรงกับปีมะโรง ชาวจีนเรียกว่า ปีมังกรทอง แต่ในล้านนาจะใช้พญานาค ที่เชื่อว่าเป็นสัตว์วิเศษ บันดาลน้ำฝน ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์เป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามผนวกกับการอนุรักษ์ศิลปกรรมท้องถิ่นเชียงใหม่

เทศกาลปี๋ใหม่เมือง หม้อดอกกับ ชุมชนบ้านเหมืองกุง จังหวัดเชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัดเที่ยวรอบเกาะ “ภูเก็ต”

“ภูเก็ต” เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งท้องทะเลอันดามัน เนื่องจากความสวยงามของชายหาดและหมู่เกาะต่าง ๆ หาดทรายสีขาว น้ำทะเลใส และด้วยเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้มีการผสมผสานแนวคิดและวิถีความเป็นอยู่ผ่านสถาปัตยกรรมบ้านเรือน อาหารพื้นเมืองหลากหลาย จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก รีวิวนี้จะพาไปเที่ยวรอบเกาะภูเก็ต ทั้งหาดทราย ชายทะเล ย่านเมืองเก่า วัดวาอาราม และจุดชมวิวสวย ๆ พร้อมปักหมุดพิกัดการเดินทางให้ด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ สะพานสารสิน สะพานแรกที่สร้างเพื่อข้ามไปมาระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เชื่อมต่อบ้านท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และบ้านท่านุ่น ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ตามทางหลวงหมายเลข 402 เปิดใช้สัญจรเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 เป็นสะพานขนาดสองช่องจราจรมีความยาว 360 เมตร โดยชื่อของสะพานตั้งตามนามสกุลของนายพจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติในขณะนั้น ในเวลาต่อมา ได้มีการสร้างสะพานอีกสองแห่งในบริเวณเดียวกัน ขนานกันไปกับสะพานสารสิน คือ “สะพานท้าวเทพกระษัตรี” และ “สะพานท้าวศรีสุนทร” และใช้ในการสัญจรของรถยนต์แทนสะพานสารสิน เนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรมลง โดยได้มีการปรับปรุงสะพานสารสินให้เป็นสะพานลอยคนเดินข้ามและศาลาพักผ่อนชมทิวทัศน์ ออกแบบให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมแบบชิโน-ยูโรเปียน ผสมผสานกับอาคารหลังคาทรงปั้นหยาแบบภาคใต้ที่มีความสวยงามดังที่เห็นในปัจจุบันพิกัด : https://maps.app.goo.gl/B2JSGaG5oLbbJtVz7 ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ครอบคลุมบริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนกระบี่ และซอยรมณีย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นย่านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในอดีตจะมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ได้แก่ จีน อินเดีย ยุโรป มุสลิม เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ประกอบอาชีพค้าขาย และได้สร้างบ้านเป็นตึกแถว มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบ “ชิโน-ยูโรเปียน” (Sino-European) ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่กิจการเหมืองแร่ดีบุกเจริญรุ่งเรือง ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์เป็นพิพิธภัณฑ์ บางอาคารดัดแปลงเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกพิกัด : https://maps.app.goo.gl/LAdMjJJDC8JiREFx6 ถนนคนเดินหลาดใหญ่ จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. บนถนนถลางในย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นถนนคนเดินที่สามารถสัมผัสกลิ่นอายความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมของภูเก็ตได้เป็นอย่างดีพิกัด : https://maps.app.goo.gl/1Xni8Xk1kcRafWvB7 พิพิธภัณฑ์ เพอรานากัน ภูเก็ต ตั้งอยู่ถนนเทพกษัตรี ตำบลศรีสุนทร “เพอรานากัน” เป็นคำที่มาจากภาษามลายู มีความหมายว่า “เกิดที่นี่” ใช้เรียกชาวจีนที่มีเชื้อสายผสม เมื่อชายต่างถิ่นแต่งงานกับหญิงชาวท้องถิ่น ลูกหลานพวกเขาก็คือบรรพบุรุษของชาวเพอรานากัน เช่น ชุมชนยาวีเพอรานากันเป็นลูกหลานของชาวอินเดีย ชุมชนบาบ๋าเป็นลูกหลานของกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยน เป็นต้น ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ มีการจำลองบรรยากาศบ้านสไตล์ชิโนยูโรเปียน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต มีการจัดแสดงชุดเครื่องแต่งกายบาบ๋า-ย่าหยา เครื่องประดับเพอรานากัน ด้วยเทคโนโลยีการนำเสนอที่ทันสมัยและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และบริการถ่ายภาพชุดแต่งกายพื้นเมืองด้วย เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาทสอบถามข้อมูล โทร. 0 7631 3556, 0 7631 3031www.peranakanphuketmuseum.comพิกัด : https://maps.app.goo.gl/NtkmpimqvmgPPTj6A วัดพระทอง (วัดพระผุด) ตั้งอยู่ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเทพกระษัตรี ภายในวัดมี “พระผุด” พระพุทธรูปปิดทองเหลืองอร่ามสวยงาม ผุดขึ้นมาจากพื้นเพียงครึ่งองค์ เป็นที่เคารพของชาวพุทธในพื้นที่เป็นอย่างมาก และยังมี “พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง” ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ตในยุคแรก ๆ เช่น จังชุ่ย ซึ่งเป็นเสื้อกันฝนที่มีความคงทนต่อการสวมใส่ทำงานในเหมืองแร่ดีบุก รองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีน ที่ต้องมัดเท้าเพื่อให้มีขนาดเล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้นพิกัด : https://maps.app.goo.gl/nycrcs37mh5qsLfSA วัดฉลอง หรือวัดไชยธาราราม ตั้งอยู่ถนนเจ้าฟ้า ตำบลฉลอง เป็นวัดที่หลอมรวมความศรัทธาของชาวพุทธในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง ในอดีตเป็นที่จำพรรษาของ “หลวงพ่อแช่ม” พระภิกษุผู้เชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานและวิชาแพทย์แผนไทย อีกทั้งยังมีหลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ซึ่งมีความรู้ความชำนาญในการปรุงยาสมุนไพรรักษาโรคได้เช่นกัน แม้ภิกษุทั้งสามรูปมรณภาพแล้ว แต่ยังมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากไปกราบรูปหล่อของท่านที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารของวัดฉลองอย่างสม่ำเสมอ ภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของ “พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ” ซึ่งบรรจุพระสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ และยังมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของพระอริยะสงฆ์อีกหลายท่านประดิษฐานอยู่ในเรือนไทยหลังใหญ่พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JehpWNGTRmFcW6pL6 พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี (พระใหญ่เมืองภูเก็ต) ตั้งอยู่ ณ พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ตำบลฉลอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นศิลปะแบบร่วมสมัย หน้าตักกว้าง 25.45 เมตร สูง 45 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก องค์พระเป็นหินอ่อนหยกขาว “สุริยกันต” (สุริยะกันตะ) จากเมียนมา น้ำหนักเฉพาะหินอ่อนหยกขาวประมาณ 135 ตัน บริเวณปริมณฑลรอบฐานองค์พระ จัดเป็นพุทธอุทยานที่รวบรวมธรรมะในชีวิตประจำวันและยังมีจุดชมทิวทัศน์ของอ่าวฉลองได้จากด้านหน้าองค์พระ ส่วนด้านหลังมองเห็นหาดกะตะ หาดกะรน และหาดใกล้เคียงพิกัด : https://maps.app.goo.gl/bAMqxzmv8NXtpLHAA ท่าเรืออ่าวฉลอง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ชายหาดเป็นแนวโค้งยาวไม่เหมาะสำหรับเล่นน้ำ เนื่องจากเป็นหาดโคลนและเป็นท่าเทียบเรือสำราญ เรือยอร์ช และเรือโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะเฮ เกาะราชาใหญ่ หมู่เกาะพีพี จึงเป็นบริเวณที่มีการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวันพิกัด : https://maps.app.goo.gl/PRTcRkTQsYS3TNwv5 หาดราไวย์ เป็นที่ตั้งชุมชนชาวเลและเป็นท่าเทียบเรือ มีเรือประมงและเรือท่องเที่ยวจอดเรียงรายตามชายหาด สามารถจ้างเหมาเรือของชาวบ้านเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะโหลน เกาะเฮ เกาะบอน เกาะราชาใหญ่ และเกาะแก้วพิสดาร ตลอดแนวชายหาดมีที่พักและร้านอาหารทะเลสด ๆ ให้บริการพิกัด : https://maps.app.goo.gl/nbNGTJcZvAZ9abxA9 แหลมพรหมเทพ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุด ใกล้กันเป็นที่ตั้งของ “ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ”

แจกพิกัดเที่ยวรอบเกาะ “ภูเก็ต” อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวชุมชนบางกอบัว จ.สมุทรปราการ

เพื่อน ๆ หลายคนคงรู้จัก “บางกะเจ้า” หนึ่งในพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ถูกรักษาเอาไว้ เพื่อเป็นแหล่งอากาศบริสุทธิ์ให้กับเมืองหลวงของไทยและพื้นที่ใกล้เคียง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” กันมาบ้างแล้ว วันนี้บัดดี้เลยขอมาแนะนำ “ชุมชนบางกอบัว” ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งที่ ที่สามารถตอบโจทย์แก่ผู้ที่กำลังมองหาการท่องเที่ยวที่ไม่สร้างผลกระทบในทางลบให้แก่สิ่งแวดล้อม จนได้ชื่อว่าเป็น “แหล่งท่องเที่ยวชุมชนคาร์บอนต่ำ” อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จนปัจจุบันที่นี่ได้รับรางวัล “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” (Thailand Tourism Awards) หรือรางวัลกินรี ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 จาก ททท. ด้วย รางวัลยอดเยี่ยม (กินรีทอง) ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน และรางวัลดีเด่น (กินรีเงิน) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มาครอบครองแล้วล่ะ กิจกรรมของที่นี่มีมากมายให้เลือกทำ ทั้งการนั่งเรือ สัมผัสวิถีชุมชนบางกอบัว ผ่านสายน้ำคลองแพ ที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะพายเรือคายักด้วยตัวเอง หรือนั่งเรือไม้ล่องแม่น้ำ โดยจะมีฝีพายวัยเก๋าคอยพายเรือให้พร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมาและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของที่นี่ให้ฟังอย่างเป็นกันเอง (เรือไม้นั่งได้ 4 คน) โดยไฮไลต์สำคัญของที่นี่ คือ อุโมงค์ต้นจาก *ลงเรือแล้วอย่าลืมใส่เสื้อชูชีพกันด้วยนะ กิจกรรมต่อมาที่บัดดี้ได้ทำคือ เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรสด ที่ป้าดา วิทยากรใจดีจะมาแนะนำตั้งแต่ชื่อของสมุนไพร สรรพคุณทางยา ไปจนถึงวิธีการห่อลูกประคบสมุนไพรให้ออกมาสวยดูดี แถมถ้าทำเสร็จแล้วยังสามารถนำกลับไปนวดคอ บ่า ไหล่ หลัง ที่บ้านเองได้ด้วย ส่วนประกอบของลูกประคบมีหลายอย่าง เช่น เกลือ พิมเสน การบูร ไพล ใบมะขาม ฯลฯ ซึ่งป้าดาก็สอนอย่างเป็นกันเอง สนุกและได้ความรู้เยอะมาก อีกกิจกรรมที่สนุกไม่แพ้กันคือการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ที่จะเปิดประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ มัดลายย้อมผ้าได้ตามจินตนาการ สีของผ้าได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติที่หาได้ในชุมชนบางกอบัว เช่น ลูกจาก ขมิ้น ดาวเรือง ให้สีเหลือง, ไม้ฝาง ให้สีแดงหรือชมพู, กาบมะพร้าว ตะบูน ให้สีน้ำตาล หรือจะใช้น้ำปูนขาวหรือเกลือเติมลงไปในน้ำเพื่อให้สีเข้มขึ้นก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้เลือกทำอีก เช่น กิจกรรม CSR เก็บขยะ/ปลูกจาก, สอนการทำพวงมะโหตร, นวดแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร, เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ, ปั่นจักรยาน และลองกินอาหารชุมชนจาก “กรุบมะพร้าว” หรือจะอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ชาวบางกอบัวนำมาจำหน่ายก็ได้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเที่ยว ชุมชนบางกอบัว ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ง่าย ๆ โดยใช้รถไฟฟ้า bts มาลงที่สถานีบางนา จากนั้นนั่งรถสองแถวมาที่ท่าเรือวัดบางนานอกแล้วข้ามเรือมาที่ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก จากนั้นติดต่อชุมชนเพื่อให้มารับ และสำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเที่ยว ชุมชนบางกอบัว ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. 09 0986 7987 (พี่เอนก), 0 3851 4009 ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา (รับผิดชอบพื้นที่ฉะเชิงเทรา,สมุทรปราการ)https://maps.app.goo.gl/KhPSAdbe6J1DKjzq9

เที่ยวชุมชนบางกอบัว จ.สมุทรปราการ อ่านเพิ่มเติม

อุโมงค์ยูคาลิปตัส ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม

ช่วงนี้ใครที่เดินทางมาเที่ยวที่ ม.เกษตรศาสตร์ กําแพงแสน เพื่อถ่ายรูปกับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ แล้วรู้สึกว่าคนเยอะ ไม่ได้รูปที่ต้องการ หรือบางคนอาจจะตั้งใจมา แต่พลาดโอกาส เนื่องจากปีนี้อากาศร้อนกว่าปกติ ทำให้ดอกไม้ร่วงไวกว่ากำหนด ไม่ต้องเสียใจไป เพราะที่นี่เค้ายังมี “อุโมงค์ต้นยูคาลิปตัส” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของ ม.เกษตรศาสตร์ กําแพงแสน ให้เราได้ถ่ายรูปเช็กอินกัน บอกเลยว่าสวยมาก ๆ โดยช่วงเย็น ๆ บริเวณถนนเส้นนี้จะมีคนมาเดินเล่น วิ่งจ็อกกิง หรือปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกายกันด้วยนะ ม.เกษตรศาสตร์ กําแพงแสน พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PLUfssMsCVtjej1y8

อุโมงค์ยูคาลิปตัส ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม อ่านเพิ่มเติม

ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ #เที่ยวแล้วยัง x #1672เพื่อนร่วมทาง

ย้อนบุญผลาเด้เนาะพาเฮามาพบพ้อ  ชวนไปรับพลังบวกจากธรรมชาติ #ถ้ำนาคา กับ ความเชื่อความศรัทธา ในแดนดินถิ่นอีสาน อันศักดิ์สิทธิ์ สวยงาม มีมนต์ขลัง มหัศจรรย์ เพจ เที่ยวแล้วยัง และ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง จะพาไปเดินเที่ยวศึกษาธรรมชาติสุดอันซีนแห่งแดนอีสาน ตามรอยเส้นทางพญานาค ที่ ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ก่อเกิดหินคล้ายเกล็ดพญานาค ที่เรียกว่า ซันแครก เกิดจากรอยแตกหน้าผิวของหิน ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิที่แตกต่างกันไป คล้ายเกล็ดของพญานาค ได้ศึกษาเที่ยวชมธรรมชาติ พร้อมกับความเชื่อ ความมหัศจรรย์ของหินที่คล้ายเศียรพญานาค ถ้ำนาคา เปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 06:00 – 14:00 น. ต้องลงมาถึงพื้นล่างภายในเวลา 18:00 นะคะ มีช่วงที่ปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม ของทุกปี ก่อนไป เที่ยวถ้ำนาคา ก็เตรียมตัวกันก่อน ▪ จองคิวเข้าไปเที่ยวได้ที่แอพ QueQ หรือจะ Walk in ก็ได้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยว 1,000 คน/วัน แบ่งเป็น จองคิวผ่านแอพ QueQ 300 คน และ Walk in 700 คน▪ ถ้ำนาคา เปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 06:00 – 14:00 น. และจะต้องลงมาถึงพื้นล่างภายในเวลา 18:00 น. มีมัคคุเทศก์นำทางตลอดเส้นทาง ▪ ร่างกายก็ต้องพร้อมห้ามป่วยมานะคะ เพราะทางเดินขึ้นค่อนข้างชัน อาจจะเหนื่อยหอบ ทางเดินมีบันไดเหล็กสลับกับทางธรรมชาติ พักบ่อย ๆ จิบน้ำเรื่อย ๆ▪ พกน้ำดื่ม น้ำหวาน ลูกอม ขนม ของกินที่ให้พลังงาน ระหว่างทางเดินและข้างบนนี้ไม่มีขาย แต่ม้คคุเทศก์ก็จะมีน้ำดื่มไปเผื่อด้วย ถ้าไม่พอก็ขอซื้อกับมัคคุเทศก์ได้ ▪ ยาดม ยาลม ยาหม่อง สเปรย์กันยุง พัดลมพกพา หรือ พัดไว้ทำความเย็น พกไปด้วย ▪ รองเท้าเดินป่า ต้องกระชับ และกันลื่นด้วยนะคะ จะได้เดินสบาย อย่างมีความสุข ▪ กระเป๋าเป้สะพายใส่ของใช้ของกินจัดมาให้เหมาะ ใส่ให้พอ เน้นเบาและแข็งแรง ▪ หมวก เสื้อกันแดด เสื้อกันฝน แว่นตากันแดด ที่สำคัญมาก !!! ให้เก็บขยะลงมาทิ้งข้างล่างทั้งหมด ห้ามทิ้งข้างบนเด็ดขาด !!! เราต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีและน่ารัก ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้อยู่คงนานอย่างยั่งยืนนะคะ ไปค่ะ ออกเดินทางไปพร้อมกับเราได้เลย ขนาดคัลแลนพี่จองยังไปมาแล้ว เราจะพลาดได้ยังไง ยิ่งช่วงฤดูฝน สวยจึ้ง สวยฉ่ำ สวยโฮ่ง เลยนะคะ … เที่ยวให้สนุก อย่างปลอดภัย มีสติในทุกก้าวที่เดิน บ่น่าเซื่อเนาะว่าเฮาสิมาพ้อกัน #เที่ยวไหนก็สบายใจ เพราะมี 𝐓𝐀𝐓 𝐂𝐨𝐧𝐭𝐚𝐜𝐭 𝐂𝐞𝐧𝐭𝐞𝐫 : 𝟏𝟔𝟕𝟐 #เพื่อนร่วมทาง อีกหนึ่งช่องทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตัวช่วยค้นหาข้อมูลวันเปิด-ปิดอุทยาน สอบถามและติดตามข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไทยแบบจัดเต็ม มีหลายช่องทางเลย Facebook, Instagram หรือจะแอด Line Official Account สอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชม. เดินทางครั้งต่อไป อย่าลืมให้เราเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ไปกับคุณนะคะ

ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ #เที่ยวแล้วยัง x #1672เพื่อนร่วมทาง อ่านเพิ่มเติม

18 วัด พระนครศรีอยุธยา … ที่ห้ามพลาดไปเช็กอิน

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตราชธานีกรุงเก่าของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรืองถึง 417 ปี ซึ่งในเวลานั้น นับเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ความเจริญสูงสุดของชนชาติไทย อารยธรรมเหล่านั้นปัจจุบันยังคงสัมผัสได้ผ่านศิลปวัฒนธรรม โบราณสถานต่าง ๆ และวิถีชีวิตของชาวกรุงเก่า หากเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของพระนครศรีอยุธยา คงไม่พ้นวัดวาอารามและโบราณสถานเก่าแก่ จนบางพื้นที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในบัญชีมรดกโลก รีวิวนี้นำเสนอข้อมูลการเดินทางไปยังกรุงเก่า รวมทั้งแนะนำ 18 วัด ที่ห้ามพลาดไปท่องเที่ยวและไหว้พระทำบุญ การเดินทางไปอยุธยาสามารถเดินทางไปได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟ บริเวณใกล้ท่ารถตู้อยุธยาและด้านหน้าสถานีรถไฟอยุธยา มีรถตุ๊กตุ๊กหัวกบจอดรอให้บริการ แนะนำให้สอบถามและตกลงราคาให้แน่ชัดก่อนใช้บริการ 1. วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เทียบได้กับวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/yxAWWAcRzGGBbRMF9 2. วิหารพระมงคลบพิตร พระอารามหลวงตั้งทางทิศใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดเก่าแก่ในเขตกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะอย่างดี ภายในวิหารประดิษฐาน “พระมงคลบพิตร” พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร สูง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/tYixxDXVU8Kj65xr6 3. วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัด เมื่อปี พ.ศ. 1927 เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/UACpZ1SZ5fvkqqK28 4. วัดพระราม ตั้งอยู่นอกเขตพระราชวังไปทางทิศตะวันออก ตรงข้ามกับวิหารพระมงคลบพิตร มีพื้นที่ใหญ่โตกว้างขวาง สมเด็จพระราเมศวรทรงสร้างขึ้นตรงบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง พระราชบิดา) เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/dw5b6t6ky4L2ytPN6 5. วัดราชบูรณะ อยู่ตรงเชิงสะพานป่าถ่าน ตรงข้ามวัดมหาธาตุ พระปรางค์ประธานเป็นศิลปะอยุธยาสมัยแรก สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมขอม เมื่อคราวเสียกรุงวัดราชบูรณะถูกไฟไหม้เสียหายมาก แต่ยังคงเหลือเสาพระวิหารและฐานชุกชีพระประธานปรากฏให้เห็นอยู่ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/XHTvASRqfmBgJmnRA 6. วัดไชยวัฒนาราม อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก บริเวณนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นโบราณสถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของอยุธยา สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ราวปี พ.ศ. 2173 และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2478 กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะเรื่อยมา จึงยังคงความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตาเสมือนในอดีต เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/i3bcoMAzWvBuXFgj7 7. วัดมเหยงคณ์ ตั้งอยู่นอกเขตเมืองไปทางทิศตะวันออก เดิมเป็นพระอารามหลวง แต่กลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อปี พ.ศ. 2310 ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้วัดมเหยงคณ์เป็นโบราณสถานของชาติ ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2484 ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/Wcu5koKo3YAG1NYa7 8. วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามกับเกาะเมือง วัดนี้สร้างขึ้นในบริเวณตำหนักที่ประทับเดิมของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง หลังจากนั้นพระองค์ทรงสร้างพระราชวังใหม่ที่ตำบลหนองโสน (บึงพระราม) จึงทรงสถาปนาสถานที่นี้เป็นวัดพุทไธศวรรย์ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ที่ตั้ง : ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/qjXX4vJzQxYmTEcf6 9. วัดพระงาม ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานทางเอกสารว่าสร้างขึ้นเมื่อใด จากหลักฐานการขุดแต่งทางโบราณคดีพบว่า วัดพระงามมีแผนผังเป็นแบบที่นิยมในสมัยอยุธยาตอนต้น คือหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ขอบเขตของวัดกำหนดจากคูน้ำล้อมรอบทุกด้าน สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้ คือ ประตูแห่งกาลเวลา ซุ้มประตูวัดที่ปรากฏรากของต้นโพใหญ่ซึ่งเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาพุทธ อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เลื้อยพันปกคลุมอยู่โดยรอบซุ้มประตู เปิดทุกวัน เวลา

18 วัด พระนครศรีอยุธยา … ที่ห้ามพลาดไปเช็กอิน อ่านเพิ่มเติม

ป่าสนวัดจันทร์ เชียงใหม่

โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เป็นป่าสนที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอสะเมิง และบางส่วนของอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่กว่า 150,000 ไร่ สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะที่สุดคือ เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ที่นี่มีบ้านพักกว่า 30 หลัง และมีหลายแบบ พักได้ตั้งแต่ 2-10 คน ราคาหลังละ 800-2,000 บาท ค่าบริการเสริม– ค่าเช่าที่นอนเสริม (ราคา 200 บาท)– ค่าเช่าจักรยาน (ราคา 100 บาท/วัน/คัน)– ค่าอาหารเช้า (ราคา 100 บาท/คน)– ค่าอาหารกลางวัน (ราคา 120 บาท/คน)– ค่าอาหารเย็น (ราคา 150 บาท/คน) มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 300 หลัง แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง โดยมีค่าธรรมเนียม 50 บาท/คน/คืน และต้องนำอาหารมาเอง แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ก็สามารถแจ้งทางศูนย์ฯ ให้เตรียมอาหารให้ได้ค่ะ ไฮไลท์ของโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์คงจะหนีไม่พ้นป่าสนที่สวยงาม และบรรยากาศชิล ๆ ริมอ่างเก็บน้ำ หากไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว จะได้เห็นวิวอ่างเก็บน้ำและหมอกสวย ๆ ถ้าท้องฟ้าปลอดโปร่ง ในตอนกลางคืน เพื่อน ๆ จะได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้า บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ เหมาะกับการพาแฟนไปนั่งดูดาว แต่คนโสดก็ไม่ต้องกลัวเหงา พาแก๊งเพื่อนมาถ่ายรูปดาว รับรองได้รูปสวย ๆ กลับไปแน่นอน และที่นี่ยังมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากชาวบ้าน โมบายที่ทำจากไม้แกะสลัก ผ้าทอของชาวปกาเกอะญอ โปสการ์ด เสื้อยืด ฯลฯ อยู่กลางป่ากลางเขาก็ไม่ต้องกลัวหิว เพราะที่นี่เลี้ยงเราดีมากๆ อาหารแม้จะเป็นเมนูทั่วไป แต่รสชาติอร่อยจนต้องขอเติมรอบสอง กระซิบไว้หน่อยว่า ห้ามพลาดน้ำพริกกะปิ เพราะรสชาติจัดจ้าน เข้มขัน ทานกับผักสดและแคบหมูยิ่งอร่อย ที่ตั้ง : ต.บ้านจันทร์ กม.40 หมู่บ้านห้วยอ้อ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ พิกัด : https://goo.gl/maps/Mgf8gxcX67f9DWGMA เปิดทำการทุกวัน : 08.00 – 22.00 น. เบอร์โทรศัพท์จองที่พัก : 053 249 349 เบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ : 086 181 3388 Facebook : FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป.

ป่าสนวัดจันทร์ เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

เกาะคอเขา … เปิดมุมมองใหม่ทะเลพังงา

เกาะคอเขา เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง บริเวณชุมชนบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า บนเกาะมีสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ มีความเงียบสงบและยังคงความเป็นธรรมชาติ ทางทิศเหนือของเกาะ มีท่าเรือที่สามารถข้ามไปเกาะพระทอง ทางทิศตะวันออกของเกาะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มของชาวบ้าน ปลายแหลมทางทิศใต้คือท่าเรือหลักของเกาะ ที่ใช้ข้ามไปมาระหว่างเกาะคอเขา-บ้านน้ำเค็ม ทางทิศตะวันตกของเกาะเป็นแนวชายหาด เป็นที่ตั้งของที่พักและร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยว ร่มรื่นด้วยแนวต้นสนทะเลและต้นมะพร้าว หาดทรายยาวขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ และยังสามารถมองเห็น “เกาะผ้า” ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลและไม่ไกลจากเกาะคอเขามากนัก การคมนาคมบนเกาะสำหรับนักท่องเที่ยว แนะนำให้นำรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถยนต์หรือจักรยานยนต์จากบนฝั่งลงแพขนานยนต์เพื่อขับเที่ยวเองบนเกาะ หรือประสานที่พักที่จองไว้บนเกาะให้ช่วยจัดหารถรับส่งพาเที่ยวบนเกาะ การเดินทาง : ลงเรือข้ามไปเกาะคอเขาได้ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 12 กิโลเมตร มีเรือยนต์รับจ้างและแพขนานยนต์ให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. ค่าบริการนำรถยนต์ลงแพขนานยนต์ คันละ 200 บาท จักรยานยนต์ คันละ 50 บาท ผู้โดยสารคนละ 20 บาท ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที พิกัด (ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม) https://maps.app.goo.gl/Mrf784nEcx7e8d2K8พิกัด (ท่าเรือเกาะคอเขา) https://maps.app.goo.gl/LfRhc1znNs7LutB6A สอบถามรอบแพขนานยนต์ข้ามฟากและเรือข้ามฟากได้ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม โทร. 08 4841 2367

เกาะคอเขา … เปิดมุมมองใหม่ทะเลพังงา อ่านเพิ่มเติม

 ดอยเสมอดาว น่าน

ดอยเสมอดาว สวยในทุกฤดู…ประโยคนี้ไม่เกินจริงค่ะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาหลาย ๆ ครั้งเพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ดอยเสมอดาวถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่มองเห็นดาว ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทยเลย ความสุขในทริปนี้ ไม่ใช่แค่การได้เดินทาง แต่อยู่ที่ว่าเราไปกับใคร จะเป็นกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ไปกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน ชมทะเลหมอกยามเช้า บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย ใครสายถ่ายรูป ต้องชอบแน่นอนเพราะอาจจะได้เห็นทางช้างเผือกด้วยนะ ในบริเวณเดียวกันยังมี “ผาหัวสิงห์” หน้าผามีรูปร่างหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศาเลยค่ะ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เพื่อน ๆ ยืนชมอยู่ไกล ๆ กันนะคะ ดอยเสมอดาวเป็นดอยที่มีการเดินทางสะดวก ไม่ต้องปีนป่าย นักท่องเที่ยวสามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณที่ลาดจอดใกล้กับจุดกางเต็นท์ดอยเสมอดาวได้เลย ใครไปมาแล้ว เอารูปสวย ๆ มาอวดบัดดี้กันได้นะคะ อัตราค่าบริการ – ลานกางเต็นท์: คนละ 30 บาท คน/คืน (ดอยเสมอดาว, ผาชู้)– ค่าเช่าเต็นท์อุทยาน/เต็นท์โดม: เริ่มต้นที่ 270 บาท นอนได้สูงสุด 3 คน– บ้านพัก อยู่ที่ดอยผาชู้: เริ่มต้นที่ 1,000 บาท วันธรรมดาลด 30% บ้านสำหรับ 6 คนนอน และ 2 คนนอน สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้โดยตรง หรือหากเพื่อน ๆ มีเต็นท์อยู่แล้ว สามารถจองพื้นที่กางเต็นท์ได้ในระบบจองบ้านพักออนไลน์ และ Walk in ได้เลยค่ะ เว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่านตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน09 3242 2914 https://web.facebook.com/profile.php?id=100093421155533 https://goo.gl/maps/Ya3oE6tULZ42

 ดอยเสมอดาว น่าน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top