เพื่อนร่วมทาง

 Low Carbon Tourism ล่องแพไม้ไผ่คลองศก จังหวัดสุราษฎร์ธ

จุดหมายปลายทางที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเมื่อเดินทางมาเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกเหนือจากการไปเที่ยวทะเลตามเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า รองลงมาก็น่าจะเป็นการไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) และป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด นั่นเอง แต่รีวิวนี้จะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบ Low Carbon และใกล้ชิดธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมากในสุราษฎร์ธานีตอนนี้ นั่นก็คือ “กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก” ในพื้นที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก สามารถจัดสรรเวลาเป็นทริปท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) หรือจะเป็นทริปท่องเที่ยวแบบครึ่งวัน (Half Day Trip) ก็ยังได้สบาย ๆ เพราะนักท่องเที่ยวมักใช้เวลาในการเล่นกิจกรรมนี้ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกล่องไปในคลองศกด้วยเรือแคนูหรือห่วงยางได้ด้วย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ระยะที่คลองศกมีทัศนียภาพและบรรยากาศสวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุด คือช่วงที่สายน้ำไหลผ่านท้องที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม ทำให้บริเวณนี้มีบริการกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง และพายเรือแคนูในคลองศกมากที่สุด งบประมาณสำหรับกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง และพายเรือแคนู ณ คลองศก เฉลี่ยเริ่มต้นที่คนละ 250 บาท เท่านั้น ที่คลองศก แพไม้ไผ่ 1 แพ สามารถนั่งได้ 2 คน ไม่รวมคนถ่อแพ ซึ่งคนถ่อแพจะทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นชี้ชวนให้ดูสัตว์น้อยใหญ่และพรรณไม้ต่าง ๆ ที่มักพบเจอระหว่างล่องแพ เช่น นก ลิง ต้นหวาย ต้นมะเดื่อ เป็นต้น โดยปกติการล่องแพคลองศกจะมีระยะทางล่องประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที-1.30 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่ามีการแวะส่องสัตว์ป่า เล่นน้ำ หรือถ่ายรูปกันนานแค่ไหน ช่วงเวลาที่แนะนำในการล่องแพ คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อนจนเกินไปและแสงกำลังสวย ที่พักแนะนำ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลองศก และให้บริการกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ล่องห่วงยาง พายเรือแคนู ณ คลองศก เช่น 1. Our Jungle Campwww.khaosokecoresort.comโทร. 09 8695 8928, 08 8577 6838 2. Bridge Hill Caféhttps://www.facebook.com/bridgehiicafeโทร. 06 2228 9689 3. Anurak Community Lodgewww.anuraklodge.comโทร. 08 1898 9271 4. เขาสก มังกี้ & ริเวอร์ แคมป์ (Khaosok Monkeys & River Campsite)https://maps.app.goo.gl/d1KpwrzeTbqs2q6q9โทร. 06 3742 0070 5. อุทยานแห่งชาติคลองพนมที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองศก อำเภอพนมโทร. 0 7727 0905, 08 3388 1129อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทอุทยานฯ มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และร้านอาหารสวัสดิการไว้บริการนักท่องเที่ยว 6. อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนมโทร. 0 7739 5139, 0 7739 5154-5อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อุทยานฯ มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดในการล่องแพคลองศกมีด้วยกันหลายจุด ขึ้นอยู่กับการนัดหมายกับผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ตำบลคลอกศกนั่นเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานีโทร. 0 7742 0504, 0 7742 0720-2

 Low Carbon Tourism ล่องแพไม้ไผ่คลองศก จังหวัดสุราษฎร์ธ อ่านเพิ่มเติม

One Day Trip ภูเก็ต

ภูเก็ตไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายที่รอเพื่อน ๆ ไปสำรวจกันนะ และวันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชิล ๆ กันที่ภูเก็ตแบบ One Day ตามไปอ่านกันเลยยย มา ดู บัว คาเฟคาเฟชื่อดังในภูเก็ตที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและสระบัวที่สวยงาม ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย เป็นคาเฟที่มีบัววิคตอเรียหรือบัวกระด้งที่แรกและที่เดียวในภูเก็ตซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปบนใบบัวได้ ทางร้านมีบริการถ่ายภาพ วีดีโอมุมสูงด้วยกล้องโดรน และถ่ายวีดีโอ 360° ตั้งแต่เวลา 10.00-17.30 น. สามารถ walk in เข้ามาได้เลยโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า **การให้บริการขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ระดับน้ำ และความแข็งแรงของใบบัว เปิดบริการทุกวัน 09.00-21.00 น. สอบถามข้อมูล : 095-936-6539Facebook : Ma Doo Bua Cafe’ l มา ดู บัว ภูเก็ตพิกัด https://maps.app.goo.gl/LhhkEZqSK7TN5Vbz5 พิพิธภัณฑ์ เพอรานากัน ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวและอุทยานการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต“เพอรานากัน” เป็นคำที่มาจากภาษามลายู มีความหมายว่า “เกิดที่นี่” ใช้เรียกชาวจีนที่มีเชื้อสายผสม เมื่อชายต่างถิ่นแต่งงานกับหญิงชาวท้องถิ่น ลูกหลานพวกเขาก็คือบรรพบุรุษของชาวเพอรานากัน เช่น ชุมชนยาวีเพอรานากันเป็นลูกหลานของชาวอินเดีย ชุมชนบาบ๋าเป็นลูกหลานของกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยน เป็นต้น ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ มีการจำลองบรรยากาศบ้านสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต มีการจัดแสดงชุดเครื่องแต่งกายบาบ๋า-ย่าหยา เครื่องประดับเพอรานากัน ด้วยเทคโนโลยีการนำเสนอที่ทันสมัยและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และบริการถ่ายภาพชุดแต่งกายพื้นเมืองด้วย เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท | ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท สอบถามข้อมูล : 076-313556, 076-313031พิกัด https://maps.app.goo.gl/L9udY8q3Gb172Z1A8 ร้านกู๊ด กู๊ดส์ (good goods)ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ในโซน Hug Thai (ฮักไทย) ชั้น G มีพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 370 ตารางเมตร ถูกออกแบบตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Pearl of Andaman” สินค้าไฮไลต์– คอลเลกชันผ้าปาเต๊ะ งานฝีมือจากวิสาหกิจชุมชนซาโลมา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส– คอลเลกชันปะการัง ที่ยกลวดลายความสวยงามของปะการังธรรมชาติมาไว้บนเสื้อผ้า– กระเป๋าสานเตยปาหนัน จากวิสาหกิจชุมชนเตยปาหนัน บ้านดุหุน จ.ตรัง– good goods x ISSUE Special Collaboration Collection เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” ลายผ้าพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และโลโก้ช้างของ good goods– กระเป๋าแห ที่ทำจากแหตกปลา ตาข่าย และเชือก งานคราฟต์ฝีมือชาวเชียงใหม่– โซนคาเฟ ซึ่งมีเมนูยอดนิยมอย่าง “ชาไทย” และ ”ไอศกรีมชาไทย” ที่ทำจากชาซีลอนรสชาติเข้มข้น และ “หมากพร้าว” ที่ทำจากกาแฟรักษาป่า ภูชี้เดือน ปลูกโดยชุมชนใน จ.เชียงราย ภายในร้านยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ การตกแต่งกระเป๋าผ้า customized ด้วยตัวอักษรที่ออกแบบโดยศิลปินกลุ่มบุคคลพิเศษจากออทิสติกไทย วิสาหกิจเพื่อสังคม และกิจกรรม ชง ชิม ชาไทย และลาเต้อาร์ต เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.พิกัด : https://maps.app.goo.gl/k5xHah4JLYerBdAn8 อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณงามความดี ความกล้าหาญ ความเสียสละของวีรสตรีไทยผู้มีหัวใจรักชาติอย่างเต็มเปี่ยม ในเหตุการณ์สงคราม 9 ทัพ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องยศให้วีรสตรีทั้งสองเป็นท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร เป็นที่น่าภาคภูมิใจแก่ชาวภูเก็ตตลอดมา และเป็นสัญลักษณ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ตที่ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลพิกัด https://maps.app.goo.gl/vSLQXizGzqQL2cVR7

One Day Trip ภูเก็ต อ่านเพิ่มเติม

เขื่อนรัชชประภา ฉบับ Backpacker

ภูเขาสูงชันและหน้าผาหินปูนรูปทรงแปลกตา ตั้งตระหง่านและโอบล้อมผืนน้ำสีเขียวใส ยามเช้าและหลังฝนตกมักปรากฎสายหมอกลอยละล่องผ่านทิวเขา ให้ความสดชื่น เย็นตา สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ที่กล่าวมานี้คือคำจำกัดความส่วนหนึ่งของ “เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” จุดท่องเที่ยวและถ่ายรูปเช็กอินเขื่อนรัชชประภามีมากมายหลายจุด เช่น จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ประตูกุ้ยหลิน เขาสามเกลอ ทะเลใน 500 ไร่ ถ้ำปะการัง จุดชมวิวไกรสร ถ้ำประกายเพชร ถ้ำน้ำทะลุ จุดส่องสัตว์ป่า (ช้างป่า กระทิง กวาง หมูป่า ชะนี นกเงือก) เป็นต้น เขื่อนรัชชประภาเป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียว มีความสูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร ความกว้างสันเขื่อน 12 เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร สามารถเก็บกักน้ำได้สูงสุด 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่บริเวณสันเขื่อนและช่องทางระบายน้ำอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อนอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก น้ำในเขื่อนนอกจากใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม การประมง การท่องเที่ยว และบรรเทาอุทกภัย การเดินทางมายังเขื่อนรัชชประภา จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-พังงา) จนถึงสามแยกไฟแดงในตัวอำเภอบ้านตาขุน จะพบป้ายทางเข้าเขื่อนรัชชประภาอยู่บริเวณแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบท สฎ.3062 ตรงไป 13 กิโลเมตร ถึงเขื่อนรัชชประภา ระยะทางรวมจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 78 กิโลเมตร การนั่งเรือท่องเที่ยวในเขื่อนรัชชประภาสามารถลงเรือได้ที่ ท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลาน สอบถามข้อมูล โทร. 0 7791 8036, 08 3300 1730 ซึ่งท่าเรือห่างจากจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน 2 กิโลเมตร หากจองที่พักกับแพพักที่ตั้งอยู่ในเขื่อนไว้แล้ว แพพักส่วนใหญ่จะมีบริการเรือรับส่งระหว่างท่าเรือกับที่พักด้วย บริเวณท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลานมีจุดรับฝากรถแบบทั้งวันและแบบค้างคืน หากเป็นรถยนต์สี่ล้อ อัตราค่ารับฝากรถแบบทั้งวันคันละ 40 บาท และแบบค้างคืนคันละ 80 บาท อัตราค่าบริการเรือนำเที่ยวทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชชประภา มีการกำหนดเกณฑ์ราคาเป็นมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น เรือยนต์เหมาลำขนาดเล็ก (ไม่เกิน 10 คน) และเรือยนต์เหมาลำขนาดใหญ่ (ไม่เกิน 20 คน) ทั้งยังมีอัตราค่าบริการแบบเช้าไปเย็นกลับในวันเดียว และแบบค้างคืนคือไปส่งแพพักวันนี้และไปรับกลับขึ้นฝั่งวันถัดไป นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมใช้บริการท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลเขื่อนรัชชประภาก่อนลงเรือด้วยอัตราค่าธรรมเนียม– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทพิกัดท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเชี่ยวหลานhttps://maps.app.goo.gl/aANwaLLJgSrJcBSo6 เนื่องด้วยพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชชประภา อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก นักท่องเที่ยวที่เดินทางล่องเรือเที่ยวทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและแบบค้างคืนในเขื่อน จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน อัตราค่าธรรมเนียม– นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท แนะนำให้นักท่องเที่ยวพกบัตรค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ติดตัวไว้เสมอ เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ อาจเรียกตรวจได้ทุกเมื่อ ทะเลสาบเหนือเขื่อนมีที่พักให้บริการหลายแห่ง ทั้งที่ดำเนินการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสกและผู้ประกอบการเอกชนแพพักของอุทยานฯ มี 4 แห่ง ได้แก่1. แพนางไพร (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.3 อ่าวสมเด็จ)2. แพคลองคะ (ศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวคลองคะ อุทยานแห่งชาติเขาสก)3. แพโตนเตย (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.4 คลองแปะ)4. แพไกรสร (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ ขส.7 ไกรสร) จองแพพักอุทยานฯ ได้ที่https://nps.dnp.go.th/reservation.php?option=home สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขาสก ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84250 โทร. 0 7739 5139, 0 7739 5154-5, 09 6329 6583 แหล่งท่องเที่ยวและจุดไม่ควรพลาดไปเช็กอินของเขื่อนรัชชประภา มีอยู่ด้วยกันหลายจุด เช่น จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ประตูกุ้ยหลิน เขาสามเกลอ ทะเลใน 500 ไร่ ถ้ำปะการัง จุดชมวิวไกรสร ถ้ำประกายเพชร ถ้ำน้ำทะลุ จุดส่องสัตว์ป่า (ช้างป่า กระทิง กวาง หมูป่า ชะนี นกเงือก) เป็นต้น “จุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน”สามารถชมทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนและสันเขื่อน พื้นที่บริเวณนี้กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ศูนย์อาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ ห้องละหมาด ห้องน้ำ และลานจอดรถกว้างขวางให้บริการ พิกัดจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อนรัชชประภาhttps://maps.app.goo.gl/jqTWQQqTSeihZwPH8 “พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)”พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บนเนินสูง บริเวณจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน นักท่องเที่ยวที่มาเขื่อนรัชชประภา นิยมเดินขึ้นมาสักการะขอพรก่อนลงเรือไปเที่ยวและเดินทางกลับภูมิลำเนา ศูนย์อาหารและร้านกาแฟคุณสายชล จะตั้งอยู่บริเวณจุดชมทิวทัศน์เหนือสันเขื่อน ปกตินักท่องเที่ยวที่จะนั่งเรือท่องเที่ยวในทะเลสาบเหนือเขื่อน มักลงเรือกันในช่วงสายประมาณ 09.00 น. ไปแล้ว และนักท่องเที่ยวที่จองแพพักค้างคืนในเขื่อน มักเดินทางมาถึงท่าเรือและลงเรือในช่วง 13.00 น. ไปแล้ว เมื่อเรือแล่นออกจากท่าเรือมาได้ไม่นาน จะมองเห็นจุดชมทิวทัศน์บริเวณเหนือสันเขื่อนในมุมมองจากบนเรือ เมื่อแล่นเรือต่อจนเข้ามาในพื้นที่ทะเลสาบเหนือเขื่อน จะเริ่มเห็นภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาและน้ำสีเขียวใส “ประตูกุ้ยหลิน”ลักษณะเป็นเขาหินปูนสองลูกตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ คล้ายบานประตูขนาดใหญ่นำทางให้เรือแล่นเข้าไปสู่พื้นที่ตอนในของทะเลสาบ เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่ง “เขาสามเกลอ”ลักษณะเป็นเขาหินปูนสามหน่อตั้งเรียงกันอยู่กลางน้ำในทะเลสาบเหนือเขื่อน ภูมิประเทศโดยรอบโอบล้อมด้วยกำแพงภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน มีแมกไม้เขียวชอุ่มปกคลุมภูเขา ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวมรกต จุดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภา ใครที่นั่งเรือมาเที่ยวทะเลสาบเหนื่อเขื่อน จะต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปจุดนี้ “ทะเลใน 500 ไร่”ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขื่อน

เขื่อนรัชชประภา ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

เต้าหู้ดำ ของดีของเด็ดประจำ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

วันนี้บัดดี้จะมานำเสนอ เต้าหู้ดำ ของดีของเด็ดประจำ อ.โพธาราม ที่จะแตกต่างจากเต้าหู้ธรรมดาตรงที่การนำเต้าหู้ถั่วเหลืองไปต้มในน้ำพะโล้ประมาณ 3 วันจนได้เต้าหู้ที่มีผิวสีน้ำตาลสวย มีกลิ่นหอมและรสหวานอ่อน ๆ ซึ่งนอกจากจะกินแบบเปล่า ๆ ได้แล้ว เต้าหู้ดำ ยังสามารถนำไปทำเมนูอื่น ๆ ได้อีกมากมายเช่น กะเพราเต้าหู้ดำ ยำเต้าหู้ดำ เต้าหู้ดำผัดถั่วงอก เต้าหู้ดำทอดพริกเกลือ เต้าหู้ดำทอด หรือจะนำไปนาบกระทะกินก็อร่อย ร้านที่บัดดี้ไป เป็นร้านเล็ก ๆ มีชื่อว่าร้านเต้าหู้ดำแม่เล็ก เปิดมานานกว่า 50 ปี มีขั้นตอนการทำที่พิถีพิถัน โดยทางร้านจะเลือกใช้เต้าหู้ถั่วเหลืองล้วน  นำไปต้มในน้ำพะโล้และซีอิ๊วดำนานกว่า 3 วัน ทำให้เนื้อเต้าหู้เนียนนุ่ม รสชาติกลมกล่อม นอกจากนี้ที่ร้านยังจำหน่ายหมูแท่ง หมูแผ่น กานาฉ่าย ผักดองอีกด้วย เพื่อน ๆ สามารถชิมก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย 17 ถนนราษฎร์อุทิศ ซอยจับกัง ต.โพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี (เยื้องสถานีรถไฟโพธาราม) เปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 18.00 น. 0 3223 1429, 08 6758 5490 https://maps.app.goo.gl/AP2s1s6sdyjSbpGe6

เต้าหู้ดำ ของดีของเด็ดประจำ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี อ่านเพิ่มเติม

ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ฝั่งธนบุรี

วันนี้บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ ไปตะลุยกินของอร่อยกันที่ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ของชาวฝั่งธนบุรี แหล่งรวมความอร่อยทั้งคาวหวานให้เพื่อน ๆ ได้กินกันตลอดทั้งวัน ประเดิมร้านแรกกันที่ “ร้านเต็กเฮง (หมี่กรอบจีนหลี)” หรือที่ชาวฝั่งธนฯ เรียกกันว่า หมี่กรอบ ร.5 เมนูหมี่กรอบขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครผสมผสานของรสชาติหวาน มัน เค็ม พร้อมเครื่องโรย อย่างพริกสด บีบมะนาวนิดหน่อย และกลิ่นของผิวส้มซ่าที่ขูดมาบาง ๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งเป็นเมนูโปรดของรัชกาลที่ 5 สมัยครั้งที่ท่านเสด็จประพาสต้นผ่านมาที่คลองบางหลวงและได้กลิ่นหอมของหมี่กรอบโชยไปทั่วคลองจึงมีรับสั่งให้มหาดเล็กไปซื้อมาตั้งเครื่องเสวย พระองค์ทรงโปรดจนพระราชทานนามให้ว่า “หมี่กรอบเสวยสวรรค์” ร้านเต็กเฮง (หมี่กรอบจีนหลี) 26-330 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-14.00 น. / 16.00-21.00 น.เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. 08 9488 1538https://maps.app.goo.gl/g1GfCU61djK6at158 ต่อด้วย “ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ตลาดพลู” ร้านเก่าแก่อีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำให้แวะมาลองกินกัน อร่อยยืนหนึ่งเรื่องของลูกชิ้นหมู เนื้อแน่นหนึบ เนื้อหมูเน้น ๆ ทำเองสดใหม่ทุกวัน ใส่ในน้ำซุปรสหวานที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้รสที่กลมกล่อมจะกินกับเส้นอะไรก็อร่อย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ตลาดพลู 911 ริมทางรถไฟ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวัน เวลา 11.00-17.00 น. 0 2465 0732https://maps.app.goo.gl/FhKPz8hGdAQE6aFY9 อิ่มอร่อยกับของคาวกันไปแล้ว บัดดี้ขอพาไปเปลี่ยนบรรยากาศกินของหวานกันต่อที่ “ร้านประชา” คาเฟ่ลับ ที่ได้รีโนเวทโรงพิมพ์เก่าอย่างโรงพิมพ์แสงประชามาเป็นพื้นที่คาเฟ่สไตล์วินเทจ นอกจากนี้เมนูของที่นี่จะเน้นขายขนมแบบจีน ๆ สมัยก่อนทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศสมัยเด็ก ๆ  อย่างขนมสามสหายที่มี 3 อย่าง ได้แก่ ขนมเปี๊ยะ ดอกจอก และตุ๊บตั๊บ หรือจะเป็นขนมข้าวแต๋น สั่งมาทานคู่กับเครื่อมดื่มเย็น ๆ อย่างน้ำแอปเปิ้ลโซดาก็ถือได้ว่าลงตัวเข้ากันเป็นอย่างดี ร้านประชา ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อพระเพลิง 103 ซอยเทอดไท 20 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 เปิดทุกวันพุธ – จันทร์ เวลา 10.30-19.30 น. 06 2290 2582https://maps.app.goo.gl/SA685AcGiWLzdf4W9 แต่เดี๋ยวก่อน หากเพื่อน ๆ รู้สึกยังกินไม่จุใจ บัดดี้แนะนำให้แวะซื้อของกินเล่นอย่าง “กุยช่ายตลาดพลู” ของขึ้นชื่อที่นี่ หรือจะเป็น “เปาะเปี๊ยะสด” เจ้าอร่อยร้านดังใต้สะพานตลาดพลู ถือติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้ และจบทริปด้วยการเดินเล่นชมบรรยากาศวิถีชีวิตชุมชนเก่าย่านตลาดพลูริมทางรถไฟ และอย่าลืมแวะไปถ่ายภาพบริเวณสถานีรถไฟตลาดพลูเป็นที่ระลึกตามรอยภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” กันด้วยนะคะ

ตลาดพลู ย่านเก่าแก่ฝั่งธนบุรี อ่านเพิ่มเติม

E-book กลุ่มภาคีนักสร้างสรรค์เมืองสตูล

วันนี้บัดดี้มาแนะนำ E-book โดยกลุ่มภาคีนักสร้างสรรค์เมืองสตูล 2 เรื่อง 1. เมืองเก่า…สตูลในใจคู่มือและแผนที่ท่องเที่ยวแสดงตําแหน่ง มรดกวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นหลักฐานการตั้งถิ่นฐานและเมือง ที่ยังคงมีชีวิต เช่น คฤหาสน์กูเด็น กุโบร์อัลมัร-ฮูม วัดชนาธิปเฉลิม มัสยิดมําบัง ศาลเจ้าโปเจ้เก้ง อาคารเก่าถนนบุรีวานิช สมาคมจงหัว บ้านพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ เรือนมลายูอานะติกาฮ์ บ้านอับดุลล่าห์ หลังปูเต๊ะ บ้านบินตํามะหงง รวมทั้งอาคารสําคัญต่าง ๆ https://heyzine.com/flip-book/00a591e742.html 2. สำรับความสุข…สตูลในใจ Satun Food Diaryกล่าวถึงมรดกวัฒนธรรมอาหารสตูล ที่ผสมผสานกันระหว่าง ไทย มลายู และจีน เล่าเรื่องราวอาหารพื้นถิ่นสตูล มรดกอาหารแห่งความสุข ให้เข้าใจง่าย มีขั้นตอนและความรู้ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น อ่านสนุก ตื่นตาตื่นใจกับรูปภาพ ทำให้อยากลิ้มลองอาหารเมนูต่าง ๆ อาทิ จะหลูผัดไข่ หยวกเป้งต้มกะทิ แกงคั่วหอยโข่งทะเล ถั่วเมือกผัดกะปิ ฯลฯ ผ่านภาพวาดลงสีด้วยสีน้ำ ประกอบการเล่าเรื่องที่น่าสนใจอย่างละเอียด https://heyzine.com/flip-book/8ff1c3baa1.html

E-book กลุ่มภาคีนักสร้างสรรค์เมืองสตูล อ่านเพิ่มเติม

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ New Unseen สุราษฎร์ธานี

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอ่างน้ำธรรมชาติที่มีตาน้ำผุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน ผ่านชั้นทราย ผุดขึ้นมาเป็นฟองอากาศจำนวนมาก น้ำในอ่างเป็นน้ำจืดที่มีความใสจนมองเห็นพื้นน้ำเบื้องล่าง บางจุดมีสาหร่ายใต้น้ำสีเขียวและปลาตัวเล็ก ๆ แหวกว่ายดูเพลินตา จากจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม เดินเข้ามาจะพบสะพานคอนกรีตเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้บริเวณนี้ หากเดินลึกเข้าไปจนสุดทางเดินสะพานคอนกรีต จะเป็นจุดเช่าคายักสำหรับพายชมธรรมชาติอันร่มรื่น และพายไปดูตาน้ำผุดบริเวณป่าพรุด้านในลำคลอง ซึ่งมีระยะทางพายคายักประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าทางเข้าอ่างน้ำผุด มีห้องอาบน้ำและร้านอาหารให้บริการด้วย บ้านอ่างน้ำผุด หมู่ที่ 13 ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานีhttps://maps.app.goo.gl/ZutgWZhkcQPma4qdA เปิดให้ท่องเที่ยวทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก 50 บาท เช่าคายัก ลำละ 120 บาท (นั่งได้ 2 คน) หากต้องการให้เจ้าหน้าพายให้ มีค่าบริการบวกเพิ่มอีกลำละ 80 บาท สอบถามข้อมูล สำนักงานเทศบาลตำบลบางสวรรค์ โทร. 0 7796 1851 การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 44 (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) จนถึงอำเภอเคียนซา ให้แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4219 ต่อด้วยทางหลวงชนบท สฎ. 3118 และเข้าสู่ถนนในชุมชน ซึ่งจะมีป้ายบอกทางไปอ่างน้ำผุดบางสวรรค์เป็นระยะ รถทุกชนิดเดินทางไปได้ ระยะทางรวมจากตัวเมืองประมาณ 79 กิโลเมตร

อ่างน้ำผุดบางสวรรค์ New Unseen สุราษฎร์ธานี อ่านเพิ่มเติม

เที่ยว FEEL GOOD @ นครนายก-ปราจีนบุรี

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยว 2 จังหวัดใกล้กรุงเทพ ที่เดินทางง่าย มีธรรมชาติที่สวยและมีแหล่งรวมโบราณวัตถุที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ลองตามมาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง วัดป่ากระทุ่ม จังหวัดนครนายกวัดเก่าที่มีโบสถ์อายุราว 200 ปี ตั้งอยู่กลางบ่อน้ำและทุ่งนา ดูสวยงามและมีมนต์ขลัง ถือเป็นโบราณสถานที่น่าสนใจอีกแห่งของนครนายก ตัวโบสถ์จะถูกโอบล้อมด้วยต้นโพธิ์เก่าต้นใหญ่ มีรากของต้นโพธ์เลื้อยไปรอบ ๆ และยึดเกาะตัวโบสถ์เอา ไว้ไม่ให้พังทลายไปตามกาลเวลา ดูสวยงามและเข้มขลัง มีสะพานไม้ที่สามารถเดินชมได้โดยรอบ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป สามารถเข้ามากราบไหว้ได้ สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื่องจากมีเจดีย์แบบย่อมุมไม้สิบสอง ลักษณะบัวกลุ่ม ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมสร้างในสมัยนั้น ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. 08 6835 8667https://maps.app.goo.gl/AtcBZWk9YRGDzxXH8 วัดเลขธรรมกิตติ์ (วัด-เล-ขะ-ธัม-มะ-กิด) จังหวัดนครนายกอีกวัดเก่าแก่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเดิมว่า “วัดบางอ้อนอก” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ. 2170-2199) ก่อนหน้านี้วัดถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาล และได้รับการบูรณะปฏิสังขรโบสถ์วิหารจนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ. 2413 ที่นี่มีโบสถ์เก่าอายุกว่าร้อยปี ปัจจุบันเหลือเพียงผนังบางส่วนและซุ้มประตูวัดที่ถูกปกคลุมด้วยรากโพธิ์กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ธรรมชาติช่วยเติมแต่งอย่างสวยงาม จนมีชื่อว่า “ประตูปรกโพธิ์” เชื่อกันว่าเป็นประตูกาลเวลาที่หากใครได้ลอดประตูไปจะพบแต่อะไรดี ๆ มีโชค ประสบความสำเร็จในอนาคต จนกลายมาเป็นแหล่งห้ามพลาดลับ ๆ อีกแห่งหนึ่งของนครนายก กลางโบสถ์ มีศาลาขนาดเล็กเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของโบสถ์เก่า ใกล้ ๆ กันมีผนังที่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ม.14 ต.บางอ้อ อ.บ้านนา จ.นครนายก เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. 08 0201 0107https://maps.app.goo.gl/RQRKVMXnBtE22bXYA ร้านอาหารแดงแกงป่า จังหวัดนครนายกร้านอาหารบ้าน ๆ ในซอยแคบริมน้ำของตลาดที่เปิดมานานกว่า 50 ปี ที่หลายคนบอกบัดดี้ว่า หากมานครนายกอย่าลืมมาฝากท้องที่ร้านนี้สักมื้อ ภายในมีหลายโต๊ะให้นั่ง อากาศถ่ายเทบวกกับทั้งเจ้าของและพนักงานในร้านน่ารักและใจดี แนะนำอาหารหลายอย่างให้บัดดี้ ซึ่งบัดดี้ก็สั่งแบบจัดเต็มเลยทีเดียว อาหารแต่ละเมนูดูธรรมดา แต่รสชาติถึงใจมาก ยิ่งหากใครไม่กินหวานและชอบรสจัดรับรองเลยว่าต้องถูกใจ แต่สามารถขอแบบเผ็ดน้อยได้นะสำหรับคนไม่กินเผ็ด ที่แนะนำเลยว่าต้องสั่งคือแกงป่าปลากราย หอม อร่อยน้ำซดได้คล่องคอ เมนูต่อมาก็คือ เห่าดง ที่มีให้เลือกทั้งหมู ไก่ เนื้อ หอมและได้รสชาติของสมุนไพรชัดมาก คลุกข้าวอร่อยมาก อีกเมนูเด็ดก็คือ ปลาทับทิมทอด ที่ทอดมาได้แห้งและกรอบ น้ำจิ้มรสจัดอร่อยมาก ๆ ตลาดเก่า ซอย 3 อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. 08 9073 4516https://maps.app.goo.gl/au5kXz5VGtUenJo58 ไอติมป้าปุ๊ จังหวัดนครนายกร้านไอศกรีมที่อยู่ไม่ไกลจากร้านแดงแกงป่า ที่คุณป้าทำเองทุกขั้นตอน เปิดมานานกว่า 40 ปี ซึ่งมีไอศกรีมให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือแบบทรงเครื่องและกะทิสด สำหรับเครื่องก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ข้าวโพด เผือกกวน ข้าวเหนียว ลูกชิด ราคาจะเริ่มที่ 10 บาท ซอยพาณิชย์เจริญ 3 อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 17.00 น. 0 3731 2881https://maps.app.goo.gl/eCmx4fvXc2kDuRh96 วัดมณีวงศ์ จังหวัดนครนายกวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ที่สายมูหลายคนต่างมากราบไหว้ขอพรที่ วังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช (วังพญานาค) วังบาดาลที่มีพญานาค 4 ตระกูล ได้แก่ ตระกูลวิรูปักข์ (สีทอง) ตระกูลเอราปถะ (สีเขียว) ตระกูลฉัพพยาปุตะ (สีรุ้ง) และตระกูลกันหาโคตะมะ (สีดำ) อยู่ภายใน ใกล้ ๆ ประตูทางเข้าจะมีงูเจ้าที่สีขาวและดำ ภายในถ้ำประดับตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสี มีองค์พญานาคจำลองหลากหลาย มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง มีหุ่นขี้ผึ้งจำลองของพระเกจิอาจารย์ เช่น พระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านพุทธทาสภิกขุ หลวงปู่มั่น ครูบาศรีวิชัย มีคลังมหาสมบัติที่เต็มไปด้วย ทอง เพชร พลอยและมุก ตามความเชื่อแล้ว หากใครได้ไหว้ขอพรจากองค์พญานาคจะประสบความสำเร็จและมีโชคลาภ นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมี รูปเคารพของสมเด็จพระนเรศวรฯ และรัชกาลที่ 5 บริเวณโถงอาคารด้านนอกถ้ำ พระพุทธรูป เทวรูปเทพต่าง ๆ ให้ได้สักการะขอพร เพื่อน ๆ ยังสามารถถวายสังฆทานแก่พระภิกษุสงฆ์ได้อีกด้วย หากใครหิว ก็สามารถแวะมาซื้ออาหาร ผลไม้และของฝากได้ที่ตลาดนัดภายในวัดที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายด้วย สามารถซื้อได้ทั้งของฝากและของกินได้อย่างจุใจเลยล่ะ 75 ม.2 ต.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.00-18.00 น. 09 7164 8453https://maps.app.goo.gl/gsMMQJKow2ej4T9YA พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีเป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดีประจำภูมิภาคตะวันออก ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ได้จากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ของภูมิภาคตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงการจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ ตั้งแต่มีการเข้าตั้งรกรากถิ่นฐานตั้งแต่หมื่นกว่าปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ภายในมีการจัดแสดงออกเป็นหลายส่วนดังนี้1. ห้องประวัติศาสตร์และโบราณคดีภาคตะวันออก นำเสนอหลักฐานทางโบราณคดีตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยประวัติศาสตร์ พร้อมชมวีดิโอ “ร่องรอยวัฒนธรรมลุ่มน้ำบางปะกงและภูมิภาคตะวันออก” 2. ห้องชุมชนโบราณในภาคตะวันออก จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออก เช่น ชุมชนโคกพนมดี อายุ 3,500–4,000 ปี และชุมชนหนองโน มีอายุ 2,700–4,500 ปี มีการจัดแสดงหลุมศพจำลองเจ้าแม่โคกพนมดีและโบราณวัตถุที่ค้นพบในสมัยนั้นด้วย 3. ห้องพัฒนาการของชุมชนและเมืองโบราณในภาคตะวันออก นำเสนอพัฒนาการของชุมชนและเมืองโบราณ รวมไปถึงความสัมพันธ์กับดินแดนโพ้นทะเล ไปจนถึงช่วงรับวัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเขมรโบราณในภาคตะวันออก

เที่ยว FEEL GOOD @ นครนายก-ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

 4 สวนในกรุง ใกล้รถไฟฟ้า

วันนี้บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาสวนสาธารณะใกล้รถไฟฟ้า ที่เดินทางง่ายแสนง่าย จะไปเที่ยว ไปเดินเล่น ไปสูดอากาศหรือออกกำลังกายก็สามารถทำได้แล้วแต่ใจอยาก…เอาล่ะ ตามมาดูกันว่าบัดดี้จะมีสวนไหนมานำเสนอบ้าง 1. สวนเบญจกิติสวนเบญจกิติ เปรียบเสมือนป่าใหญ่ใจกลางกรุง ที่มีการสร้างส่วนขยายและออกแบบปรับภูมิทัศน์เพื่อรองรับผู้คนทุกกลุ่ม ทั้งผู้พิการทางสายตา ผู้ที่ใช้บริการรถเข็น (Wheelchair) ผู้สูงอายุ ไปจนถึงกลุ่มคนรักสัตว์ ที่นี่แบ่งเป็น 2 โซน คือ สวนน้ำและสวนป่า บริเวณรอบสวนน้ำ เป็นจุดที่หลาย ๆ คนมักจะมาวิ่งออกกำลังกาย หากใครชอบปั่นจักรยานก็มีเส้นทาง Bike Lane สำหรับปั่นจักรยานด้วยนะ โซนสวนป่า ประกอบไปด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์ อาคารแสดงศิลปะ หอสมุด ลานกิจกรรมกลางแจ้ง เส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางวิ่ง รวมไปถึงสกายวอล์ก ที่มีการเชื่อมกับสกายวอล์กเดิมที่มาจากสวนลุมพินี (สะพานเขียว) นอกจากนี้ยังมีการจำลองระบบนิเวศ ที่สร้างเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wet Land) มีการปลูกพันธุ์ไม้หายากเพื่อการอนุรักษ์ การเดินทางMRT : สถานีสุขุมวิท ทางออก 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น. 0 2254 1263, 08 6337 2741https://goo.gl/maps/rRQDNYDSDjtD2rza6 2. สวนลุมพินีสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า สวนลุม เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 ภายในมีต้นไม้ขนาดใหญ่ สวนปาล์ม สระน้ำขนาดใหญ่ ถือเป็นจุดนัดพบของคนรักสุขภาพ ยอดฮิตของทั้งชาวกรุงเทพฯ และชาวต่างชาติ การเดินทางMRT : สถานีสีลม ทางออก 1 และ สถานีลุมพินี ทางออก 3BTS : สถานีศาลาแดง ทางออก 5 ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 04.30-21.00 น.https://goo.gl/maps/GYSQJeuGvLoBZkwMA 3. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า สวนรถไฟ เป็นสวนสาธารณะใจที่ในอดีตเคยเป็นสนามกอล์ฟรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต่อมามีการสร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป ภายในมีสวนป่าใหญ่ในเมือง ที่รวบรวมพันธุ์ไม้หลายชนิด มีการจำลองระบบนิเวศของป่าเพื่อการเรียนรู้ มีเลนจักรยานที่มีความยาว 3 กิโลเมตร มีศูนย์กีฬาที่มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ฟิตเนส สนามเด็กเล่น ให้คนที่มาได้เลือกกิจกรรมที่สนใจได้ตามสะดวก การเดินทางMRT : สถานีจตุจักร ทางออก 1 และ 2BTS : สถานีหมอชิต ทางออก 1 และ 3 ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น. 0 2537 9221https://goo.gl/maps/GRBRfcp2PJs6Ax2e9 4. สวนจตุจักรสร้างขึ้นโดย พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ซึ่งเกิดจากการรถไฟแห่งประเทศไทยได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน 100 ไร่ เพื่อสร้างสวนสาธารณะตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 4 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2518 เมื่อสร้างสวนเสร็จ สวนแห่งนี้ได้รับพระราชทานนามว่า “สวนจตุจักร” และต่อมาถูกใช้เป็นชื่อของเขต และชื่อของแขวงที่เป็นที่ตั้งของสวน ภายในสวนจตุจักร มีหอนาฬิกาสูงเด่น นาฬิกาดอกไม้ สระน้ำ และลู่วิ่งออกกำลังกายเบา ๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณริมถนนพหลโยธินด้านข้างของสวนจตุจักร แถมยังใกล้แหล่งชอปปิงสุดฮิต “ตลาดนัดจตุจักร” อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสวนที่น่าสนใจไม่น้อย การเดินทางMRT : สถานีจตุจักร ทางออก 1 และ 2BTS : สถานีหมอชิต ทางออก 1 และ 3 ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน เวลา 04.30-21.00 น.https://goo.gl/maps/CFJPxGFAhzw

 4 สวนในกรุง ใกล้รถไฟฟ้า อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งดอกหญ้าคา หอดูสัตว์หนองผักชี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เตรียมชุด เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วไปถ่ายรูปกับทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่กัน!! เรียกได้ว่าเป็นจุดถ่ายรูปที่มาแรงแซงทุกแห่งเลย สำหรับทุ่งหญ้าคา ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ปีนี้หลาย ๆ คนต่างเดินทางไปเที่ยวและถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียลกันเพียบ จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกันก็คือบริเวณหอดูสัตว์หนองผักชี โดยบริเวณนี้เป็นลานโล่งกว้าง สุดลูกหูลูกตา มีร่มไม้ใหญ่ให้คอยหลบร้อน บางมุมมีเนินเขาเตี้ย ๆ ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูมีมิติ สวยสุด ๆ ไปเลย ช่วงเวลาที่แนะนำคือ ช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30-10.00 น. และช่วงเย็นประมาณ 16.00-18.00 น. แสงกำลังสวยและอากาศกำลังดีเลย ปกติแล้วหญ้าคาบริเวณนี้จะออกดอกเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเกือบ ๆ ปลายเดือนกรกฎาคม แต่จะมีดอกเยอะหรือดอกน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละปีนะ ข้อสำคัญที่ต้องทำตามและตระหนักถึงเลยก็คือ ห้ามเดินไปบริเวณโป่งดินโดยเด็ดขาด เพราะโป่งดินเป็นแหล่งอาหาร แหล่งแร่ธาตุที่สำคัญของสัตว์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและสัตว์มีพิษต่าง ๆ อีกด้วย ฉะนั้น ควรเที่ยวและถ่ายรูปเฉพาะบริเวณที่ทางอุทยานฯ กำหนดไว้ให้เท่านั้นนะ ค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวไทยเด็ก 20 บาท | ผู้ใหญ่ 40 บาทผู้สูงอายุและผู้พิการ ไม่เสียค่าบริการเข้าอุทยานฯ ค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเด็ก 100 บาท | ผู้ใหญ่ 200 บาท (รวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ) ค่าบริการประเภทยานพาหนะรถจักรยานยนต์ คันละ 20 บาทรถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาทรถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาทรถยนต์ มากกว่า 6 ล้อ แต่ไม่เกิน 10 ล้อ คันละ 200 บาท หมายเหตุ– บัตรที่ซื้อ 1 ใบ สามารถใช้แสดงการเข้า – ออกอุทยานแห่งชาติฯ ภายในวันเดียวกันเท่านั้น– เด็ก คือ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี– ผู้ใหญ่ คือ บุคคลที่มีอายุ 14 – 60 ปี– ผู้สูงอายุ คือ บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป– ผู้พิการ คือ บุคคลที่มีบัตรผู้พิการหรือผู้ที่ประจักษ์โดยสายตาว่ามีสภาพพิการ โดยให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมบัตรประจำตัว คนพิการเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันตน หอดูสัตว์หนองผักชีhttps://maps.app.goo.gl/4jKMbgmoZT5tN3GL8 เวลาเปิดอุทยาน: 06:00 – 18:00 น. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร : 08 6092 6529 (08.30-16.30 น.)

ทุ่งดอกหญ้าคา หอดูสัตว์หนองผักชี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top