อุทัยธานี เป็นจังหวัดที่สงบ ธรรมชาติสวย ผู้คนน่ารักและมีวัดดัง ๆ สวย ๆ อยู่หลายแห่ง วันนี้บัดดี้เลยถือโอกาสมาแนะนำวัดจากเมืองอู่ไทที่บัดดี้ได้ไปสำรวจในช่วงที่ผ่านมาให้ทุกคนได้รู้จัก ลองตามมาอ่านกัน
วัดอุโปสถาราม เดิมชื่อ “วัดโบสถ์มโนรมย์” ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดโบสถ์” เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ที่อยู่คู่เมืองอุทัยธานีมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด มีทั้งอุโบสถและวิหาร ที่เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยฝีมือช่างหลวงสมัยรัชกาลที่ 3 ที่สวยงามมาก มีมณฑปแปดเหลี่ยม ที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมผสมกับทางตะวันตก และเจดีย์สามสมัยด้านหลังวิหาร ตั้งเรียงรายอยู่ในแนวระนาบเดียวกันริมแม่น้ำสะแกกรัง
วัดถ้ำเขาประทุน วัดสวยที่มีประติมากรรมจากไม้ตั้งอยู่หลายจุดในวัด เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2534 บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ มีรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา
ไฮไลต์ของวัดนี้ คือพระอุโบสถรากไม้ ที่เกิดจากการนำรากไม้กันเกรามาทำเป็นฝาผนัง ดูสวยแปลกตา แถมยังมีลมพัดผ่านเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้อากาศถ่ายเท เย็นสบาย พระประธานและท้าวเวสสุวรรณคู่หน้าพระอุโบสถทำจากไม้ตะเคียนทอง สวยงามอลังการไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ยังมี “ต้นตะเคียนยักษ์” ที่มีผู้ศรัทธาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ด้านพระบาทมีชื่อเจ้าแม่ตะเคียนทอง “ศรีประภาไพร” ที่เชื่อกันว่าให้โชคให้ลาภแก่คนที่มาขอพรมานักต่อนักแล้ว
วัดผาทั่ง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นช่วงไหน เป็นวัดยอดนิยมที่ชาวบ้านมักจะมากราบไหว้และชมความงามของหลวงพ่อโต ซึ่งตั้งประดิษฐานกลางแจ้งภายในบริเวณวัด
หลวงพ่อโตวัดผาทั่ง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2532-2540 โดยคณะศิษยานุศิษย์ของสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังษี) และชาวบ้านผู้ศรัทธา มีหน้าตักกว้าง 23 เมตร สูง 52 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางประธานพรองค์ใหญ่ที่สุดใน จ.อุทัยธานี
วัดสังกัสรัตนคีรี เป็นวัดสวยบนเขาที่มีชื่อเสียงทั้งจากความสวยงาม ความศักดิ์สิทธิ์และจากประเพณีตักบาตรเทโวในช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่จะมีพระสงฆ์กว่า 500 รูป เดินลงมาจากยอดเขาสะแกกรังเพื่อมาบิณฑบาต
เชื่อกันว่า หากได้มากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด ทั้งพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธบาท รวมไปถึงเทพต่าง ๆ ในวัด จะได้รับอานิสงส์ความเป็นสิริมงคล ความสำเร็จสมหวัง ชีวิตจะพบเจอแต่ความสุขและรุ่งเรือง
วัดถ้ำเขาวง หนึ่งในวัดสวยในไทย ที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมคล้ายกับเรือนไทยประยุกต์ที่มี 4 ชั้น ด้านหน้าเป็นสระน้ำ ด้านหลังเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีสวนดอกไม้ที่ตกแต่งสวยงาม สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนทุกคน
ด้านหลังเรือนไทย จะมีทางเดินขึ้นไปชมถ้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม โดยจะแบ่งเป็นถ้ำสำหรับเจริญภาวนาของพุทธศาสนิกชนและถ้ำสำหรับการนั่งวิปัสสนาของพระภิกษุ หากใครมาบริเวณนี้ ต้องสำรวมวาจา กริยาและรักษาความสงบกันด้วย
วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม สร้างช่วงปี พ.ศ.1863 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น โดยชื่อ “วัดจันทาราม” ตั้งตามชื่ออดีตเจ้าอาวาสชื่อ “จันท์” ส่วนชื่อ “วัดท่าซุง” ในปัจจุบัน มาจากในอดีตที่นี่มีป่าเยอะ มีการขนส่งท่อนซุงมาลงท่าน้ำ เพื่อผูกเป็นแพล่องไปตามแม่น้ำสะแกกรังผ่านบริเวณวัดแห่งนี้นั่นเอง
ภายในวัดท่าซุง มีสถานที่สวยงามและสำคัญหลายจุด ทั้ง
– พระมหาวิหารแก้ว 100 เมตร สถานที่ไว้สรีระสังขารของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
– หอพระไตรปิฏก-พระยืน 30 ศอก (หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา) สถานที่ที่สร้างไว้ให้กราบไหว้บูชา ขอพรและใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฏก มีพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร เดิมเรียกว่า “หลวงพ่อโต” ประดิษฐานอยู่
– ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) สร้างขึ้นถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวโรกาสที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ 50 และทางสำนักพระราชวังได้ให้ชื่อปราสาททองคำใหม่ว่า “ปราสาททองคำกาญจนาภิเษก”
วัดป่าแดนนาบุญ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ยังสร้างไม่เสร็จดี จุดเด่นคือ อาคารลักษณะเหมือนเจดีย์สีทอง มี 9 ชั้น สามารถใช้บันไดเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด แต่ละชั้นมีทั้งพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพให้กราบไหว้หลายองค์ โดยชั้นบนสุดเป็นสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกอกข้างซ้ายของพระพุทธเจ้า
https://maps.app.goo.gl/bddEGdfA14FSZyzU
